@ร้านอาหารแห่งหนึ่ง"สวัสดีค่ะท่านประธาน เชิญทางนี้เลยค่ะ" ผู้จัดการร้านอาหารออกมาต้อนรับแม็กซ์เวลล์และณิชาด้วยตัวเอง เอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร ก่อนจะเดินนำทั้งสองคนมายังโต๊ะอาหารณิชายื่นเมนูอาหารคืนให้พนักงาน มองแม็กซ์เวลล์อย่างพิจารณา เคยได้ยินข่าวว่าเขากำลังเรียนมหาลัยอยู่ปีสุดท้าย แต่ทำไมถึงกลับกลายเป็นนักธุรกิจไปได้ "อยากถามอะไร" เขาดึงสายตามามองณิชา ที่เอาแต่นั่งจ้องมองเขามาสองนาน"นายไม่ได้เรียนมหาลัยแล้วเหรอ""ลาออกมานานแล้ว" เขาประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะไม่อยากทำสองอย่างพร้อมกันเลยเลือกออกมาดูแลธุรกิจตัวเอง ทางครอบครัวไม่ได้ว่า แต่กลับสนับสนุนและคอยซัพพอร์ต ได้ยินมาว่านายประสบความสำเร็จตั้งแต่เรียนไฮสคูลที่ต่างประเทศ จริงเหรอ?""อืม""แล้วนายเคยมีแฟนมาก่อนรึเปล่า" "มีแต่เมีย" แม็กซ์เวลล์ตอบกลับเสียงเรียบ ทำใบหน้าร้อนสวยหวานของณิชาร้อนฉ่าขึ้นมา ทว่ากลับต้องรีบดึงสติตัวเองกลับคืน เพราะคนที่แม็กซ์เวลล์หมายถึงคือพี่สาวเธอ"ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ"เขาพยักหน้าให้เธอ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาอ่านแชตกลุ่มไลน์ของตัวเองและเพื่อนสนิท ช่วงนี้ค่อนข้างยุ่งเลยไม่ค่อยมีเวล
วันต่อมาณิชาเดินถือถาดอาหารเช้ามายังมุมสระว่ายน้ำของบ้านตามคำสั่งแม็กซ์เวลล์ เธอวางถาดอาหารลงโต๊ะแล้วมองไปยังเขาซึ่งกำลังว่ายน้ำอยู่ ไม่นานนักร่างหนาก็โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ สองมือเสยผมเปียกปอนไปข้างหลัง ก่อนจะเบือนใบหน้ามาทางเธอในเวลาต่อมาท่อนบนเปลือยเปล่า แน่นขนัดไปด้วยมัดกล้ามเนื้อไร้ไขมันส่วนเกิน หยาดน้ำเกาะแพรวพราวช่วยเพิ่มเสน่ห์และดึงดูดเพศตรงข้ามได้ดีไม่น้อย เธอเผลอชื่นชมหุ่นอันเพอร์เฟกต์ของแม็กซ์เวลล์ในใจ ก่อนจะดึงสติตัวเองกลับคืน"มากินข้าวสิ"มาเฟียหนุ่มเดินขึ้นจากสระว่ายน้ำ หยิบเสื้อคลุมสีขาวมาสวมใส่แล้วหย่อนสะโพกลงนั่ง สิ่งแรกที่เขาหยิบไปก็คือ...กาแฟดำ "แล้วของเธอล่ะ""ฉันยังไม่ค่อยหิว...อ๊ะ!" เธอร้องอุทานเสียงหลง เมื่อถูกเขารั้งเอวบางให้ลงมานั่งบนตัก "นะ...นายคิดจะทำอะไร""กินข้าว""บอกแล้วไงว่าไม่ค่อยหิว" โครก~ทันทีที่พูดจบ ท้องเจ้ากรรมก็ดันร้องโครกครากขึ้นมาอย่างรู้งาน "กินข้าว""ก็บอกว่า...""หรือจะให้ป้อนเอง?" ณิชาหันขวับมองแม็กซ์เวลล์อย่างไม่พอใจเท่าไร เขาเลื่อนมือไปจับส้อมจิ้มไส้กรอกรมควัน ก่อนจะจ่อมายังปากเธอ"ฉันกินเอง" เธอแย่งส้อมที่จิ้มไส้กรอกรมควันจากแม็กซ์เ
"อื้อ! จะไปไหน~" แม็กซ์เวลล์วางณิชาลงเตียงนอน แต่ทว่าเธอกลับคว้าแขนเขาเอาไว้ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหย่อนยาน"อาบน้ำ""ไม่ให้ไป" ณิชาดึงเขาลงมานั่ง "เมาแล้วก็นอน""ใครเมา? ฉันไม่ได้เมาสักหน่อย" พูดจบก็ผลุนผลันลุกขึ้น นั่งมองแม็กซ์เวลล์ด้วยใบหน้าหงิกงอ ก่อนจะฟาดกำปั้นลงแผงอกแกร่งของมาเฟียหนุ่มหนึ่งที "คนนิสัยไม่ดี ให้อยู่สนุกต่อกับเพื่อนอีกนิดนึงก็ไม่ได้""เธอเมามากแล้ว""ก็บอกว่าไม่ได้เมาไง" "สภาพตอนนี้ยืนได้โดยไม่เซก็ดีเท่าไรแล้ว""งั้นนายคอยดูนะว่าฉันเมาหรือไม่เมา" เธอเหวี่ยงขาทั้งสองลงจากเตียงนอน ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นยืนให้แม็กซ์เวลล์ดู เมื่อตัวเองยืนได้โดยไม่เซ ก็เริ่มพูดอวดอีกฝ่ายทันที "เห็นไหมว่าฉันยืนตรง เชื่อรึยังว่าไม่ได้...อ๊ะ!"จังหวะที่ณิชาเดินเข้ามาหาแม็กซ์เวลล์ หมายจะใช้มือจับหน้าเขา แต่ดันขาอ่อนเซล้มใส่เขาเสียอย่างนั้น ทำให้ริมฝีปากสีระเรื่อสัมผัสลงปากมาเฟียหนุ่ม ณิชารีบผลุนผลันออกจากตัวสามี ทว่ากลับถูกเขาล็อกเอวบางเอาไว้"เมาขนาดนี้ยังบอกว่าตัวเองไม่ได้เมาอีก""ปล่อยฉันนะ""เธอล้มมาใส่ฉันเอง""มันเป็นอุบัติเหตุ""เมาก็ยอมรับหน่อย" "ตัวนายนุ่มจัง คืนนี้ขอนอนบนตัวนายแทนที่น
"นายควรไปหาหมอนะแม็กซ์เวลล์" "อาการแบบนี้ฉันเป็นมาก่อน มันจะหายไปเอง""นายเคยเป็นแบบนี้มาก่อนอย่างนั้นเหรอ?" "อืม อาการแบบนี้มักเกิดขึ้นเมื่อฉันพยายามคิดอะไรบางอย่างหรือเห็นสิ่งที่คุ้นเคย พอฉันเริ่มคิดอาการพวกนี้มันก็กำเริบขึ้นมา" อาการแบบนี้หายไปราวสองปีกว่าๆ ตอนแรกคิดว่าจะหายขาด แต่วันนี้มันกลับทำให้รู้ว่าอาการพวกนี้ไม่เคยหายไป มันยังคงอยู่กับเขา เคยพยายามรักษาแต่ไม่เคยทำสำเร็จ ซ้ำอาการที่กำเริบวันนี้ เขารู้สึกว่ามันรุนแรงกว่าครั้งไหนๆ "นายหายปวดหัวรึยัง เอายาแก้ปวดไหม""ไม่""ถ้าไม่ไหวก็แค่พูดออกมา นายเป็นคนนะไม่ใช่หุ่นยนต์ รู้สึกบ้างก็ได้" เธอเดินไปหยิบยาแก้ปวดมาให้แม็กซ์เวลล์ ทั้งที่ตัวเองกำลังไม่สบายแท้ๆ แต่กลับเลือกทำเหมือนไม่เป็นอะไร "กินซะ แล้วก็นอนพัก""ฉันมีงานต้องทำ""งานมันสำคัญมากกว่าสุขภาพนายเหรอ?""....""กิน ยา" เธอย้ำเสียงเข้มเมื่อเห็นแม็กซ์เวลล์เอาแต่นั่งนิ่ง ไม่ยอมหยิบยาจากเธอไปกิน เขาตวัดสายตาไม่พอใจใส่ แต่เธอไม่ได้สนใจ "เด็กอนุบาลยังพูดง่ายกว่านายอีกรู้ไหม""ก็บอกว่าไม่...อื้อ!" เธออาศัยจังหวะที่เขาขยับปากพูด ยัดเม็ดยาเข้าไปในปากเขาอย่างรวดเร็ว "กินน้ำตามสิ
ปัง! ปัง! ปัง!เสียงปืนดังสนั่นไปทั่วบริเวณโกดังเก็บสินค้าของแม็กซ์เวลล์ ร่างสูงที่ยืนหลบอยู่มุมหนึ่งเพื่อรอจังหวะยิงสวนกลับ โดยแขนข้างถูกยิงแล้วที่เรียบร้อย เขายกปืนยิงสวนกลับชายฉกรรจ์สามคนจนล้มนอนแน่นิ่ง สายตาเหลือบมองเลือดที่ซึมผ่านเสื้อเชิ้ตสีขาวด้วยความหงุดหงิด ปัง!เขาหันขวับไปข้างหลัง เห็นอังเดรยืนยกปืนลั่นไกใส่ลูกน้องวิคเตอร์ที่กำลังเล็งเป้ามายังเขา"มึงมาได้ยังไง""ไม่ใช่แค่กู แต่มีไอ้ออสตินและไอ้มังกรด้วย" เขาไม่ถามซักไซ้ไล่เลียงเพื่อนสนิท เดินหน้าจัดการลูกน้องวิคเตอร์ต่อ พวกนั้นมีตาลอบตัวเหมือนสับปะรดเลยแปลกใจที่เห็นแก๊งเพื่อนเขามาโผล่ที่นี่"มึงโดนยิงเหรอวะ""อืม แต่ไหวอยู่ แล้วออสตินกับมังกรล่ะ""ไม่รู้ พอมาถึงพวกกูก็แยกย้ายกันเลย"เขายกปืนยิงลูกน้องวิคเตอร์ที่หลบอยู่มุมหนึ่งของโกดัง กระสุนโดนแขน ทำให้มันเตรียมวิ่งหนี แต่ทว่ากลับถูกเขายิงใส่กลางหลังจนร่วงลงพื้นเสียก่อนแม็กซ์เวลล์ไล่จัดการลูกน้องวิคเตอร์จนกระทั่งพวกมันยอมถอนกำลังเพราะคนเริ่มเหลือน้อย บวกกับอีกฝั่งแข็งแกร่งกว่า ออสตินและมังกรวิ่งเข้ามาหาเพื่อนอีกสองคน"โดนยิงเหรอวะแม็กซ์" ออสตินถาม"อือ""ไปโรงพยาบาลไหม"
"นายควรพักสักสองสามวันก่อนนะ แผลนายยังไม่หายดีเลย" เธอเอ่ยพูดในขณะที่กำลังยืนเช็ดผมให้แม็กซ์เวลล์ เขาดึงดันจะไปบริษัททั้งที่ร่างกายไม่เอื้ออำนวย บ่อยครั้งเขาชอบบอกว่าเธอดื้อ ทว่ากลับกลายเป็นเขาที่ดื้อกว่าเธอ"วันนี้ฉันมีประชุมเรื่องสำคัญ คงพักไม่ได้""งานสำคัญกว่าสุขภาพนายรึไง""ถ้าเธอเป็นห่วงก็ตามไปดูแลฉันสิ""ฉันมีนัดกับคุณพ่อคุณแม่แล้ว"แม็กซ์เวลล์คว้าโทรศัพท์ตรงหน้ามาต่อสายหาบางคน ตอนแรกเธอไม่ได้สนใจอะไร ทว่าพอได้ยินบทสนทนาเท่านั้นแหละ ถึงรู้ว่าเขาโทรหาแม่ของเธอ"คุณแม่ครับ ได้ยินว่าวันนี้ณัชชามีนัดกับครอบครัวเหรอครับ"(ใช่จ้ะ พอดีจะพาณัชชาไปดูทำเลที่ดิน)"จะเป็นอะไรไหมครับ ถ้าผมขอยืมตัวณัชชาสักหนึ่งวัน ส่วนเรื่องนั้นเดี๋ยวผมจัดการให้เอง"(ได้สิจ๊ะ ทำไมจะไม่ได้) ปลายสายตอบด้วยรอยยิ้ม แอบรู้สึกดีใจที่ความสัมพันธ์ระหว่างแม็กซ์เวลล์และลูกสาวกำลังไปได้ด้วยดี"ไปดูที่ดินทำไม" เขาเอ่ยถามณิชา หลังจากวางสายของวนิดาลง "ฉันอยากเปิดร้านกาแฟ" ความฝันอีกอย่างหนึ่งคือการมีร้านกาแฟเป็นของตัวเอง เธอคุยปรึกษากับแม่เรื่องนี้มาหลายเดือน แอบให้สถาปนิกออกแบบร้านให้เงียบๆ เพราะครอบครัวเธอเป็นนักธุรกิ
ณิชานั่งหลับติดกับประตูฝั่งตัวเองของรถหรูที่กำลังเคลื่อนตัวบนถนน แรงสะเทือนเวลารถวิ่งพานทำให้ศีรษะเธอกระแทกใส่กับกระจกรถ เพราะความเพลียบวกกับเมื่อคืนได้นอนไม่กี่ชั่วโมงเลยทำให้เธอเผลอหลับแม็กซ์เวลล์หันมามองณิชา สังเกตเห็นศีรษะเธอกระแทกกับกระจกรถ ตอนแรกเขาว่าจะไม่สนใจ ทว่าสุดท้ายกลับทำไม่ได้ เขารั้งตัวณิชาลงมานอนบนตัก เอื้อมมือปัดผมที่ปรกใบหน้าออกให้ ก่อนจะถูกเธอจับมือเขาเอาไว้"อื้อ~" พอเริ่มดึงมือออกเธอก็ส่งเสียงประท้วงในลำคอ ไม่ยอมปล่อยซ้ำยังจับแน่นกว่าเดิม ทำให้เขายอมแพ้ ปล่อยให้เธอทำตามใจตัวเองครืด ครืด~เขาล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง มองเบอร์บนหน้าจอเพื่อดูว่าใครโทรมา ก่อนจะกดรับสาย(คุณแม็กซ์เวลล์หายไปเลยนะคะ ไม่มาหามินนี่บ้างเลย)"...."(มินนี่คิดถึงคุณแม็กซ์เวลล์จังเลยค่ะ เราหาเวลามาเจอกันหน่อยไหมคะ)"ไม่ว่าง"(ถ้าคุณแม็กซ์เวลล์ไม่ว่าง ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวมินนี่ไปหาเอง ตกลงไหมคะ)"เลิกยุ่งกับฉัน"(คะ?)"ฉันมีเมียแล้ว ต่อไปนี้เลิกโทรมาหาฉัน"เขาตัดสายจากมินนี่ จัดการบล็อกเบอร์โทรศัพท์เรียบร้อยเพื่อตัดขาดจากอีกฝ่ายถาวร หลายนาทีต่อมารถหรูเลี้ยวเข้ามายังคฤหาสน์หลังงามของคร
วันต่อมาณิชานั่งเช็ดตัวให้แม็กซ์เวลล์หลังจากทำแผลให้เขาเสร็จ โดยมีสายตาคมเข้มคอยจับจ้องไปละไปไหน พานทำให้คนตัวเล็กรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง ถึงอย่างนั้นเธอก็ฝืนเช็ดตัวให้เขาจนเสร็จ "รู้สึกดีขึ้นกว่าเมื่อคืนไหม""เหมือนเดิม""เหมือนเดิมนี่คือ?""ไม่ได้เป็นอะไร" เขาตอบด้วยใบหน้านิ่งเรียบ เธออยากใช้ผ้าที่เพิ่งเช็ดตัวให้เขาหมาดๆ อุดปากอุดจมูกให้ขาดอากาศหายใจเสียจริง ตัวเองไม่สบายแท้ๆ แต่กลับบอกว่าไม่ได้เป็นอะไร"อาหารเช้าน่าจะเสร็จแล้ว ลงไปกินกันเถอะ""อืม""เดินไหวไหม""ฉันไม่ได้เป็นอะไร" เธอไม่ต่อล้อต่อเถียงด้วย เดินนำเขาลงมาข้างล่างแล้วตรงยังห้องอาหาร"ทำไมไม่กินข้าว" ณิชาเห็นว่าแม็กซ์เวลล์เอาแต่นั่งมองอาหารเช้า ไม่ยอมตักทานจึงเอ่ยถาม"ไม่หิว""ถ้านายไม่กินข้าวแล้วจะกินยาได้ยังไง""เอากาแฟดำมาให้ฉันแก้วนึง" แม็กซ์เวลล์หันไปออกคำสั่งกับสาวใช้ ทว่าณิชากลับห้ามเอาไว้"ไม่ต้อง ให้เขากินข้าวก่อนแล้วค่อยเอากาแฟดำมาให้เขา""ได้ค่ะนายหญิง" สาวใช้คนนั้นตอบรับอย่างเลี่ยงไม่ได้ "ถ้านายไม่กินข้าว นายก็ห้ามกินกาแฟ""เป็นแค่เมียไม่ใช่แม่""ได้ดีเพราะเมียมีเยอะแยะไป ไม่อยากเป็นหนึ่งในคนโชคดีรึไง"
หลายวันต่อมา"อื้อ...ทำอะไรของพี่เนี่ย" ชายหนุ่มที่กำลังนอนหลับอยู่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย เมื่อโดนคนตัวเล็กเข้ามาปลุกโดยวิธีการจุ๊บแก้มซ้ำหลายๆ รอบ เธอมักเข้ามาปลุกเขาแบบนี้ทุกเช้า"ตื่นเร็วเช้าแล้ว" "ขอนอนต่ออีกห้านาทีนะ ผมเพลียมากเลย" คนฟังทำหน้านิ่ว ทุกครั้งที่เข้ามาปลุก เจเลอร์มักพูดแบบนี้เสมอและห้านาทีสำหรับเขาก็ไม่เคยมีอยู่จริง "ถ้านายไม่ตื่นฉันจะแอบหนีกลับไปกินข้าวที่คอนโดฉันนะ" ในเมื่อปลุกดีๆ ไม่ยอมตื่น ก็ต้องงัดไม้นี้ออกมาใช้ เจเลอร์เริ่มปรือตาขึ้นมาอย่างยากลำบากเมื่อคนรักขู่ตัวเองด้วยวิธีแบบนี้เหมือนทุกครั้ง "ทำไมชอบเอาเรื่องนี้มาขู่อยู่เรื่อยเลย""จะสิบโมงแล้ว ขืนให้นายนอนต่อไม่รู้ว่าเที่ยงจะตื่นไหม""ก็คนมันง่วงนิ""เมื่อคืนนายบอกว่าจะทำแค่รอบเดียวแต่นี่ปาไปตีสอง กว่าจะได้นอนจริงๆ ก็เกือบตีสาม ไม่แปลกหรอกที่นายจะง่วง"เธอเริ่มบ่นให้เจเลอร์ เมื่อคืนบทรักของเขาลากยาวมาถึงตีสอง กว่าจะทำความสะอาดร่างกายแล้วนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยระหว่างหลับก็ปาไปเกือบตีสามแล้วพอเช้ามาทำเป็นบ่นว่าง่วงนอน"ไปอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันแล้วมากินข้าว อาหารที่ฉันสั่งไปมาส่งแล้ว""รับทราบครับคุณเม
สามวันต่อมา"รู้สึกยังไงบ้างที่มีผู้ชายโพสต์รูปลงไอจี" ณิชาที่กำลังเดินคล้องแขนดรีมเลือกซื้อของบนห้างสรรพสินค้าเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม "เดี๋ยวเขาก็ลบออกไปเองแหละ""การที่ผู้ชายทำแบบนี้ฉันว่ามันชัดเจนแล้วนะว่าเจเลอร์อะ เขาคิดเหมือนกันกับแก""แต่ว่าเขาไม่เคยพูดว่ารู้สึกยังไงกับฉัน" เธอพูดตัดพ้อออกมา"เมื่อก่อนเฮียแม็กซ์ก็เป็นเหมือนเจเลอร์ เขาไม่เคยพูดว่ารู้สึกยังไงกับฉัน คนรอบข้างฉันบอกว่า เฮียแม็กซ์เป็นประเภทที่การกระทำชัดเจนกว่าคำพูด นานเหมือนกันกว่าเขาจะยอมสารภาพว่าคิดยังไงกับฉัน""ฉันไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองว่าเจเลอร์จะคิดเหมือนกันกับฉัน" แม้การกระทำเขาจะชัดเจน แต่เธอก็ยังอยากได้ยินคำๆ นั้นจากปากของเขาเพื่อยืนยันว่าเขาคิดแบบเดียวกันกับเธอจริงๆแค่การกระทำมันวัดไม่ได้หรอกว่าเขาจะรักเธอ"ตอนแรกฉันก็คิดเหมือนกับเธอ ไม่อยากเข้าข้างตัวเองเหมือนกัน แต่เชื่อเถอะว่าสักวันเธอจะใจอ่อนให้เจเลอร์โดยไม่รู้ตัว" ณิชาพูดแล้วอมยิ้มกริ่ม ตอนแรกที่ดรีมเล่าเรื่องเจเลอร์มาหลอกเธอโกรธมาก แต่พอได้ฟังดรีมเล่าจนจบเธอก็อดคิดไม่ได้ว่าเจเลอร์อาจจะมีใจให้ดรีมจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่ลงทุนโพสต์รูปเพื่อนสนิทเธอลงอินสต
เช้าวันต่อมาแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องนอนสี่เหลี่ยมหรูกระทบเข้ากับเจ้าของใบหน้าสวยหวานที่กำลังนอนหลับปุ๋ยบนเตียง เปลือกตาสีขาวค่อยๆ ปรือขึ้นมาอย่างยากลำบากเพราะมีแสงแดดกำลังแยงตา เธอดึงตัวเองขึ้นจากหมอนใบใหญ่พลางมองไปรอบห้องนอน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านี่คือคอนโดของเจเลอร์ แล้วเธอก็นอนที่นี่ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้าเธอเลิกคิ้วขึ้นสูงเมื่อสายตาสะดุดเข้ากับแขนเสื้อเชิ้ต พอก้มมองสำรวจตัวเองถึงรู้ว่าเธอไม่ได้สวมชุดราตรีที่ใส่ไปร่วมงานการกุศลเมื่อคืน แกร๊ก"ตื่นแล้วเหรอ""อืม" เธอตอบสั้นๆ ในลำคอ"พี่ไปล้างหน้าแปรงฟันแล้วกินข้าวสิ ผมทำข้าวต้มไว้ให้""นายทำกับข้าวเป็นด้วยเหรอ""ทำเป็นบางอย่าง ถ้าวันไหนไม่มีของในตู้เย็นหรือขี้เกียจทำก็ลงไปซื้อข้างล่างมากิน""เมื่อคืนนายเป็นคนเปลี่ยนชุดให้ฉันเหรอ""ใช่ ผมกลัวว่าพี่จะนอนไม่สบายตัวเลยเปลี่ยนให้"พอรู้ว่าเขาเป็นคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ใบหน้าก็เริ่มร้อนเห่อขึ้นมา เธอไม่พูดอะไรต่อจากนั้น เหวี่ยงเท้าทั้งสองลงสัมผัสพื้นเย็นเฉียบก่อนจะเดินไปยังห้องน้ำ หญิงสาวใช้เวลาล้างหน้าและแปรงฟันไม่ถึงสิบนาทีก็เสร็จ ร่างบางเดินออกมาจากห้องนอน สายตาจ้องมองเจเ
เธอปลีกตัวจากเจเลอร์มาเข้าห้องน้ำเพราะไม่ว่าจะเดินไปทางไหนเขาก็เอาแต่เดินตามราวกับกลัวว่าเธอจะหายไปไหน หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จเธอก้าวออกมาล้างมือ ก่อนจะหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดมือแล้วทิ้งลงถังขยะจังหวะกำลังเดินออกไปเป็นต้องชะงัก เมื่อพิตต้า อดีตแฟนเก่าของเจเลอร์ได้เดินเข้ามาในห้องน้ำพอดี เธอและพิตต้ามองหน้ากัน แววตาอีกฝ่ายแสดงออกชัดเจนว่าไม่ชอบเธอ"เดี๋ยวสิ" เสียงของพิตต้าทำให้ดรีมที่กำลังก้าวออกไปชะงักเท้าทั้งสองข้าง "...." เธอหมุนตัวกลับมาหาพิตต้าโดยไม่พูดอะไรกลับอีกฝ่าย"เธอเป็นอะไรกับเจเลอร์" "ไม่ได้เป็นอะไรกัน""ใส่สร้อยประจำตระกูลเขาบนคอขนาดนั้น แน่ใจเหรอว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน" พิตต้าพูดแล้วปรายสายตามองสร้อยประจำตระกูลที่คล้องบนคอของดรีม ขนาดเธอเป็นแฟนคนแรกของเจเลอร์ยังไม่เคยได้แตะต้อง ผิดกับดรีม"เขาให้ฉันใส่เอง""ถอดมันออกซะ" "ทำไมฉันต้องทำตามที่เธอบอกด้วย หรือกำลังใช้สิทธิ์ของอดีตแฟนเก่าสั่งฉัน""แค่เขายอมให้เธอใส่สร้อยนั่น อย่าคิดว่าเขาจะรักเธอ""ต่อให้เขาไม่รักฉัน อีกไม่นานฉันกับเขาก็ต้องแต่งงานกันอยู่ดี ให้ส่งบัตรเชิญไปให้ไหม?""หมายความว่ายังไง" พิตต้าถอดสีหน้าเมื่อได้ยิ
เธอกลับมาคอนโดด้วยสภาพไม่ค่อยสู้ดีเท่าไร ร่างบางทรุดฮวบนั่งลงเตียงนอนราวคนหมดแรง ภาพเหตุการณ์ที่ผ่านมาก่อนหน้านั้นลอยวนในหัวถึงตอนนี้จนพลอยทำให้รู้สึกเจ็บแปลบที่ก้อนเนื้อข้างซ้าย'ตลอดเวลาที่ผ่านมา...นายเคยรักฉันบ้างไหม''ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมคิดอะไรกับพี่'เป็นเธอสินะที่คิดเองมาโดยตลอดว่าเจเลอร์จะมีใจให้ เธอคิดเข้าข้างตัวเองทั้งนั้น ไม่น่าคาดหวังอะไรจากเขาเลย ยิ่งคาดหวังมาก...ยิ่งผิดหวังมากเธอเลื่อนมือขึ้นมาปาดน้ำตาที่ไหลกลิ้งลงมาบนแก้มออก เรื่องที่ทำให้เธอเสียใจมากที่สุดไม่ใช่เรื่องโดนปฏิเสธ แต่เป็นเรื่องที่เขาเข้าหาเธอเพื่อหวังล่าแต้มเก็บคะแนน แล้วเขาก็ทำสำเร็จ ไม่โทษเขาหรอก เพราะเธอมันโง่เองที่ดูเจเลอร์ไม่ออกครืด ครืด~เสียงโทรศัพท์ช่วยฉุดรั้งเธอออกจากภวังค์ความคิด พอเห็นว่าเป็นมีนาโทรมาจึงรีบจัดการกับความรู้สึกแล้วปัดหน้าจอเพื่อรับสาย"ว่าไงมีนา"(แกอยู่ไหน กลับแล้วเหรอ?)"อืม ใช่ ฉันรู้สึกปวดหัวนิดหน่อยเลยกลับมาพัก"(พวกฉันก็นึกว่าแกหายไปไหน)"ขอโทษนะที่ไม่ได้บอกก่อน"(ไม่เป็นไร กินยาแล้วพักผ่อนเถอะ ฉันขอไปสนุกต่อก่อน)เธอวางสายลงจากมีนาแล้วพาตัวเองเดินเข้าไปอาบน้ำเพื่อเตรี
ภายในรถหรูของเจเลอร์ถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบ ดรีมลอบมองคนข้างกายเป็นระยะด้วยความเป็นห่วง เธอเข้าใจเขาดีว่าการเผชิญหน้ากับอดีตที่แสนเจ็บปวดนั้นมันรู้สึกยังไง เธอเลือกที่จะไม่พูดอะไรจนกว่าอารมณ์ของเจเลอร์จะกลับมาคงที่เหมือนเดิมเธอดึงสายตาจากวิวนอกกระจกมามองเจเลอร์ ซึ่งเลื่อนมือมาจับมือเธอไปกุมไว้บนตักเขา เธอมองต่ำมายังมือที่ประสานกันเป็นหนึ่งพร้อมหัวใจที่ไหววูบ"ขอจับมือได้ไหม""อืม นายโอเคขึ้นแล้วใช่ไหม""ทำไมผมต้องไม่โอเคด้วย" เขาถามกลับพร้อมเบือนใบหน้าไปมองดรีม ก่อนจะดึงสายตากลับไปมองถนนแล้วเอ่ยอีกประโยค "พี่เป็นห่วงผมเหรอ""ใครบอกว่าฉันเป็นห่วงนาย""แววตาพี่มันฟ้องผมแบบนั้น""ก็แค่แววตาที่ใช้มอง จะอะไรนักหนา" "หึ เป็นห่วงก็แค่ยอมรับมาตรงๆ ไม่เห็นต้องโกหกเลย" เธอไม่ตอบอะไรเจเลอร์กลับ เอื้อมมือที่เหลืออีกข้างไปเปิดเพลงฟัง อย่างน้อยอาจทำให้คนข้างๆ ผ่อนคลายลงจากเรื่องก่อนหน้านี้"พี่รู้รึยังว่างานแต่งงานของเราถูกเลื่อนเข้ามาแล้วนะ""อะไรนะ?" "ตอนพี่กำลังซื้อของ พ่อผมโทรมาบอกว่าจะเลื่อนงานแต่งเข้ามา""เมื่อไหร่""อีกสองเดือน""ไหนตอนแรกว่าบอกปีหน้าไง""ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน พวกท่านคงคิ
วันต่อมาดรีมปรือดวงตาขึ้นมาอย่างยากลำบากหลังจากนอนหลับมาหลายชั่วโมง เธอมองข้างกายที่ว่างเปล่า ก่อนจะค่อยๆ ดึงตัวเองขึ้นแล้วมองหาเจเลอร์ เวลาบนผนังห้องบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงเช้าแล้ว"หรือจะตื่นแล้ว" เธอพึมพำออกมาคนเดียว จากนั้นเหวี่ยงขาทั้งสองลงสัมผัสพื้นเย็นแล้วเดินตรงไปยังห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัวดวงตากลมโตมองสะท้อนตัวเองผ่านกระจกตรงหน้า เธออยู่ในชุดของเจเลอร์และรอยต่างๆ บนคอก็เป็นฝีมือเขาทั้งนั้น หลังจากทำอะไรเสร็จเรียบร้อยเตรียมเดินออกมา ประตูห้องน้ำก็ได้ถูกเปิดโดยเจเลอร์แกร๊ก"อยู่นี่เองนึกว่าหายไปไหน""มีอะไรเหรอ?"เจเลอร์ยิ้มแล้วเดินเข้ามาหาดรีมที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า เขาใช้สองมือยันขอบเคาน์เตอร์เพื่อขังหญิงสาวไว้ในอ้อมแขน"ผมนึกว่าพี่แอบหนีกลับไปแล้ว""ฉันเพิ่งอาบน้ำเสร็จ" "ถึงว่าทำไมตัวพี่หอมจัง" "ฉันว่านายเริ่มเหมือนโรคจิตเข้าไปทุกวันแล้วนะ""หึ" เจเลอร์ระบายยิ้ม ก่อนจะเลื่อนมือมาเชยคางมนขึ้นให้สบตา จากนั้นค่อยๆ โน้มใบหน้าลงไปหาแล้วใช้ริมฝีปากสัมผัสลงหน้าผากบาง เคลื่อนมาหอมแก้มทั้งสองข้าง และจบลงที่ริมฝีปากสีระเรื่อ "ทำไมพี่น่ารักขนาดนี้""อารมณ์ไหนมาชมก
เจเลอร์เอาแต่นั่งมองหญิงสาวตรงหน้าทานอาหารเงียบๆ โดยไม่พูดจาอะไร ความเงียบของเขาพลอยทำให้ดรีมรู้สึกอึดอัดและเสียความเป็นตัวเองในเวลาเดียวกัน เธอเงยหน้าขึ้นมองเจเลอร์ แล้วเอ่ยถาม"นายมีอะไรรึเปล่า ทำไมถึงเอาแต่มองหน้าฉัน""แค่คิดไม่ถึงว่าคนที่ผมต้องแต่งงานด้วย จะเป็นพี่""ฉันเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน""ผมอิ่มแล้ว เรากลับกันเถอะ""แต่ว่านายยังไม่ได้กินสักคำเลย" "เพราะผมรอกินพี่อยู่ไง" คำตอบของเจเลอร์ทำให้ดรีมชะงัก หัวใจดวงเล็กพันกระตุก เธอสบตากับเขา นัยน์ตาสีดำของเขาไม่ต่างจากเสือร้ายที่กำลังเฝ้ามองเหยื่อเพื่อรอตะครุบชายหนุ่มรุ่นน้องดึงตัวเองขึ้นจากเก้าอี้ เข้ามาดึงตัวหญิงสาวขึ้นแล้วเดินออกจากห้องอาหาร ดรีมพยายามแกะมือเจเลอร์ที่พันธนาการข้อมือตัวเองออก ทว่ากลับไม่เป็นผล"เจเลอร์ ปล่อยฉันนะ""กลับกับผม""ไม่เป็นไร ฉันมีคนขับรถอยู่""บอกเขาว่าผมจะเป็นส่ง" "แต่...""คืนนี้พี่ต้องโดนลงโทษ" เขาพูดโดยไม่สบตากับดรีม สองเท้าตวัดเดินมายังลานจอดรถของโรงแรมแล้วพบเข้ากับคนขับรถของดรีม "เดี๋ยวฉันไปส่งเธอเอง""ได้ครับ" คนขับรถของดรีมตอบรับเจเลอร์ไปอย่างง่ายดาย เจเลอร์พาดรีมมายังรถหรูราคาแพงของตน ท
หลายชั่วโมงต่อมาแก่นกายขนาดใหญ่กระตุกหงึกหงักภายในร่องรักคับแคบ น้ำเชื้อจากชายหนุ่มพุ่งกระจายใส่เครื่องป้องกันทุกหยาดหยดพร้อมเสียงครางหนักแน่น เจเลอร์เลื่อนมือมาถอนแก่นกายออก เนื้อตัวเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อจากการร่วมรักกับหญิงสาวดรีมนอนหายใจหอบเหนื่อย บทรักที่บรรเลงมาหลายชั่วโมงทำให้เธอหมดแรง ผิดกับเจเลอร์ เขายังดูปกติ ราวกับร่างกายทำจากเหล็ก "อ๊ะ! นะ...นายจะพาฉันไปไหน" เอ่ยถามด้วยความตกใจ อยู่ดีๆ เจเลอร์ก็ช้อนร่างเธอในท่าเจ้าสาว"พาไปล้างตัว""ไม่ต้อง เดี๋ยวฉัน...""อย่าดื้อ" เสียงเข้มปรามกลับมา ทำให้ดรีมนิ่งลง ดวงตากลมโตช้อนมองเสี้ยวหน้าหล่อเหลา ไม่อยากเชื่อเลยว่าหลายชั่วโมงที่ผ่านมาเธอจะยอมให้เจเลอร์เป็นผู้ชายคนแรกของเธอ พอยาปลุกเซ็กซ์หมดฤทธิ์ กลับรู้สึกเขินอายและวางตัวกับเขาไม่ถูกเสียอย่างนั้นเจเลอร์วางเธอลงในอ่างอาบน้ำหรู โดยเขาเองก็เข้ามานั่งซ้อนข้างหลัง หัวใจเธอเต้นไม่เป็นส่ำเมื่อก้นตัวเองสัมผัสกับสิ่งนั้นของเขา "อันที่จริงฉันทำเองก็ได้นะ""ผมเห็นพี่เหนื่อย เลยอยากอาบน้ำให้""....""ผมทำแรงไปไหม" คำถามของเจเลอร์ ทำให้ดรีมไปต่อไม่ถูก ใบหน้าขาวเนียนค่อยๆ แดงระเรื่อขึ้นมาด้วย