"นั่นถูกต้องใช่ไหม?" ฉู่เฉินเงยหน้าขึ้นมองและพูดออกไปอย่างไร้อารมณ์ “ถ้าแกบอกฉันถึงทุกคนที่อยู่เบื้องหลังแก ฉันจะไว้ชีวิตตระกูลฉีให้ก็ได้”“แกจินตนาการไม่ออกหรอก!”ฉีเทียนเหอรีบปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด "ถ้าอยากจะฆ่านักก็ฆ่าเลยสิ อย่างไรก็ตาม คนแก่อย่างฉันก็มีชีวิตอยู่มานานมากพอแล้ว แต่แกจะไม่มีวันพบศัตรูที่แท้จริงของแก แกจะใช้ชีวิตทั้งชีวิตด้วยความรู้สึกผิดและฝันร้าย”“สุดท้ายแกก็น่าสมเพชไปกว่าฉันซะอีก ฮาฮ่าฮ่า”เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง หัวเราะอย่างภาคภูมิใจ“ไม่พูดใช่ไหม?”สายตาของฉู่เฉินเปลี่ยนกลายเป็นเย็นชา และเขาก็คว้าฉีหงเทาเอาไว้“ไม่ คุณพ่อครับ ช่วยผมด้วย ผมไม่อยากตาย...”ฉีหงเทาพยายามดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว"หยุดเดี๋ยวนี้นะ!"ใบหน้าของฉีเทียนเหอเปลี่ยนไปอย่างมากฉู่เฉินออกแรงไปที่แขน และหักคอของชีหงเทาในทันที“เทาเอ๋อร์!”ฉีเทียนเหอ ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด“ยังไม่พูดอีกใช่มั้ย?”ฉู่เฉินจับชายวัยกลางคนมาอีกคน และหักคอของเขาเช่นกันเขาก็คือฉีหงเฟยลูกชายคนที่สามของฉีเทียนเหอ และเป็นคนที่มีส่วนร่วมในการเผาสถานรับเลี้ยงเด็ก ชิงซานในตอนนั้น
ทันทีที่เขาเห็นใบหน้าของฉู่เฉินสีหน้าของฉีเฟิงก็แข็งค้างในทันที ไม่คาดคิด ตกตะลึง และไม่น่าเชื่อ"อ๊ากกกกกก!"เขาส่งเสียงร้องราวกับเห็นผี สายตาของเขาขุ่นเคือง: "เป็นแก เป็นแกนี่เอง!"“แม้ว่าฉันจะกลายเป็นผี ฉันก็จะไม่ปล่อยแกไป”“งั้นก็รอจนกว่าแกจะกลายเป็นผีซะเถอะ”ฉู่เฉินยิ้มอย่างไม่แยแส และหักคอเขาอย่างรุนแรงห้องใต้ดิน ชั้นสองหนิงชิงเสว่ได้มองไปที่ชายร่างยักษ์สองคนที่กำลังค่อยๆ เดินเข้ามาหา และใบหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและพูดว่า "พวกแก... จะทำอะไร?""จะทำอะไร?"ชายร่างยักษ์เหลือบตามองเธอและพูดว่า "คุณหนูหนิง ใครๆก็บอกว่าคุณเป็นหนึ่งในสี่หญิงงามในหนานเจียง วันนี้ได้มีโอกาสเจอตัวเป็นๆซักที งามสมคำร่ำลือจริงๆ "“แม้ว่าเธอจะถูกจองไว้ให้เป็นผู้หญิงของนายน้อยเฟิง แต่กี่วันที่ผ่านมาพวกพี่ชายก็คอยปกป้องเธออยู่ไม่ห่างเลยนะจ้ะ”“เธอควรต้องตอบแทนให้แก่พวกพี่ชายบ้างถูกไหมล่ะ?”เขาจงใจเน้นคำว่า "ตอบแทน" อย่างชัดเจน ด้วยความโลภในแววตา“แก... แกกล้าดียังไง!”ใบหน้าที่งดงามของหนิงชิงเสว่เปลี่ยนเป็นสีขาวซีด และพยายามดิ้นรนอย่างสุดชีวิต"เพี๊ยะ!""เชื่อฟังกับฉันหน่อยสิ"ชา
“คุณปู่ผู้อำนวนการ ทุกคนในตระกูลฉีที่ฆ่าพวกคุณนั้น ตอนนี้พวกเขาได้มาอยู่ต่อหน้าพวกคุณแล้วนะครับ ต่อจากนี้ไปพวกคุณสามารถพักผ่อนอย่างสงบสุขได้สักที”“เสี่ยวสือโถวยังรู้มาอีกว่า ยังมีคนไม่น้อยที่ซ่อนอยู่ในความมืด แต่มันก็ไม่สำคัญ สักวันหนึ่งผมจะกระชากหัวพวกมันทั้งหมดออกมา และส่งพวกมันทั้งหมดลงนรกไปเพื่อสารภาพบาปกับพวกคุณเองครับ!”เขาเปิดไวน์ที่ซื้อมาจากข้างถนน เทลงหน้าหลุมศพ แล้วยืนขึ้นเพื่อจะจากไปภายในโรงพยาบาล.หนิงชิงเสว่เพิ่งฟื้นจากอาการหมดสติ และประโยคแรกที่เธอพูดคือ: "น้องเสี่ยวสือโถว..."แต่หลังจากมองเห็นบริเวณรอบๆ อย่างชัดเจน เธอก็ตระหนักได้ว่า ขณะนี้เธอกำลังนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลด้านข้างคือเย่จิง แต่งกายด้วยชุดตำรวจ ยืนเฝ้าข้างเตียงและพูดว่า "ชิงเสว่ คุณได้สติแล้วหรอ?"เมื่อเห็นหนิงชิงเสว่กำลังจะลุกขึ้นนั่ง เย่จิงก็รีบช่วยเธอลุกขึ้นแล้วพูดว่า "อย่าขยับเขยื้อนร่างกายมากนัก หมอบอกว่าคุณแขนหัก น่าจะเกิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในครั้งนั้น..."“พี่เย่ ฉัน... ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันน่ะ?”หนิงชิงเสว่สำรวจห้องผู้ป่วยอย่างกระวนกระวายใจเย่จิงเล่าให้เธอฟังอย่างละเอียดเกี่ยว
เมื่อเห็นใบหน้าของหนิงชิงเสว่ที่เปลี่ยนเป็นสีหน้าที่เศร้าหมอง เย่จิงก็ยิ่งรู้สึกเศร้าใจ เพราะคิดไม่ถึงว่าเธอจะมีภูมิหลังเป็นแบบนี้เธอส่ายหัวแล้วพูดว่า "เธอไม่ได้ละเมิดกฎหมายหนิ ฉันจะจับเธอได้ยังไง?"“คนที่ทำคือน้องชายของเธอ เราจะไม่จับคนดี และปล่อยคนไม่ดีไปแทน”“ชิงเสว่ ถ้าฉันจับน้องชายของเธอได้ ฉันไม่สามารถลดหย่อนโทษได้นะ หวังว่าเธอจะเข้าใจ”เย่จิงลังเลที่จะพูดออกมา เพราะชิงเสว่เป็นเพื่อนที่ดีของเธอ และเธอก็ไม่อยากให้มิตรภาพของพวกเธอได้รับผลกระทบใบหน้าของหนิงชิงเสว่ซีดลงอย่างมากในทันที เพราะเธอไม่รู้ว่าเย่จิงจะหัวรั้นขนาดนี้เมื่อมาถึงจุดนี้ เธอจึงทำได้เพียงเช็ดน้ำตาแล้วพูดว่า "พี่เย่ มีผู้หญิงอีกคนหนึ่งในห้องใต้ดินของตระกูลฉี เธอสติไม่ดี พี่ได้ช่วยเธอออกมาแล้วหรือยัง?"“ช่วยแล้ว ตอนนี้เธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลไปแล้ว ฉันจะพาเธอไปที่นั่นเดี๋ยวนี้แหละ”เย่จิงพูดก่อนที่จะขึ้นไปบนรถตำรวจสิบกว่านาทีต่อมาที่ภายในโรงพยาบาล.เย่จิงมองดูห้องผู้ป่วยที่ว่างเปล่าด้วยสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "คนไข้อยู่ที่ไหน?"“หัวหน้า ผมเพิ่งไปเข้าห้องน้ำมา พอกลับมาก็พบว่าเธอหายไปแล้ว...”ชายผู้รับผิ
“ป้าหลาน ไม่ต้องห่วง ผมจะต้องรักษาคุณให้หายได้อย่างแน่นอน”ฉู่เฉินมองไปที่ป้าหลานที่หลับสนิทและร้องไห้สะอึกสะอื้น "เมื่อถึงตอนนั้น พวกเราจะไปพบพี่สาวทั้งเจ็ดคนด้วยกัน แล้วหลังจากนั้นพวกเราจะดูแลป้าเองครับ"คืนนั้น โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นที่ตระกูลฉีสร้างความฮือฮาไปทั่วทั้งเจียงหนาน และทุกคนต่างหวาดกลัวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ทุกคนต่างคาดเดากันไปว่า ชายสวมหน้ากากทองสัมฤทธิ์คือใครเย่จิงยังได้รับคำสั่งว่า เธอต้องจับคนร้ายตัวจริงให้ได้ภายในหนึ่งเดือน เพื่อทำให้ความคิดเห็นของประชาชนสงบลงขณะเดียวกันในป่าทึบที่ต่างประเทศเห็นเพียงหน้าผากสีขาวของเสือที่มีขนาดตัวมากกว่า 500 กิโลกรัม กำลังจ้องมองชายชุดดําที่อยู่ข้างหน้าที่ห่างไปสิบเมตรเสือขาวดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงอันตรายจากชายชุดดำ มันทำท่าทางพร้อมที่จะต่อสู้ และเปล่งเสียงคำรามอันน่าสะพรึงกลัวออกมาจากปากของมันชายชุดดำยืนเอามือไพล่หลังไว้ และยิ้ม: "เจ้าสัตว์ร้าย โชคร้ายที่แกได้มาพบฉัน ลู่ทง คนนี้นะ"บางทีมันอาจจะเข้าใจคำพูดของเขา และเสือขาวก็โกรธจัด และคำรามเสียงลากยาว ร่างขนาดใหญ่โตของมันก็พุ่งเข้ามาหาเขา โดยการกระโดดครั้งเดียวนั
สีหน้าขอ ถังรั่วเวยเปลี่ยนไปและเธอก็พูดว่า "คุณพ่อ หนูไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะคะ ทำไมหนูต้องขอโทษเขาด้วย?""ลูกกำลังพูดอะไรอยู่น่ะ?"ถังไห่ซานพูดด้วยความโกรธ "ลูกกับเสี่ยวหวังร่วมมือกันรังแกเสี่ยวฉู่ที่บริษัท แต่ลูกกลับบอกว่าลูกไม่ได้ทำผิดอะไรเลยเนี่ยนะ?"“ขอโทษเสี่ยวฉู่เดี๋ยวนี้ ไม่งั้นพ่อจะไม่เห็นด้วยที่ลูกคบกับเสี่ยวหวัง”ทันทีที่เขาพูดแบบนั้น ใบหน้าของหวังซวี่ก็เปลี่ยนไปเช่นกันท่าทางของถังรั่วเวยก็เปลี่ยนไป เธอกัดริมฝีปากแน่น มองไปที่ฉู่เฉินด้วยความโกรธและพูดว่า "ฉัน... ฉันขอโทษ..."เธอกลั้นน้ำตาแห่งความน้อยใจไว้ไม่ได้อีกต่อไป เธอหันหลังกลับและรีบขึ้นไปบนชั้นสองและขังตัวเองไว้ในห้องเมื่อไหร่กันที่เธอร่วมมือกับหวังซวี่และคนอื่น ๆ เพื่อรังแก ฉู่เฉิน? เห็นได้ชัดว่า ฉู่เฉินเข้ากับใครไม่ได้ และตกเป็นเป้าหมายเองด้วยซ้ำ"รั่วเวย..."หวังซวี่ต้องการตามไปถังไห่ซาน หยุดเขาไว้และพูดกับฉู่เฉิน "เสี่ยวฉู่ ที่ฉันโทรหาเธอในวันนี้ ฉันก็มีอีกอย่างที่จะบอกให้เธอได้รู้"“เรื่องนั้นคือ ฉันกำลังวางแผนที่จะหมั้นรั่วเวยกับเสี่ยวหวัง แต่ฉันไม่รู้ว่าเธอจะคิดเห็นอย่างไร?”"ผมขอให้พวกเขามีความสุขค
เหอหลานอุทานออกมาอย่างตื่นเต้น "เอาล่ะ เอาล่ะ เสี่ยวหวัง ตราบใดที่คุณสามารถเป็นคนหนุ่มที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงจากตระกูลฉินได้ พวกเราจะจัดงานแต่งงานสำหรับเธอกับรั่วเวยทันที"เมื่อเห็นว่าเรื่องนี้มาถึงจุดนี้ ถังไห่ซานก็ทำได้เพียงทำใจยอมรับมันอย่างเงียบ ๆหลังจากออกจากบ้านตระกูลถังแล้ว ฉู่เฉิน ก็ได้โทรหาซู่จื่อเหยียน และขอให้เธอยอมเซ็นสัญญากับหวังซวี่เขาเพียงแต่พยายามที่จะมีจิตสำนึกที่ชัดเจนเมื่อเขาทำสิ่งต่างๆ เมื่อเขามาถึงเจียงหนานครั้งแรก ถังไห่ซานปกป้องเขามาก็หลายครั้ง และตอนนี้เขาควรจะตอบแทนความมีน้ำใจของเขากลับคืนบ้างขณะที่เขาวางแผนที่จะกลับไปที่คฤหาสต์อวี้หลงวานหมายเลข 1 โทรศัพท์ก็ได้ดังขึ้นน่าแปลกที่เป็นหนิงชิงเสว่ที่โทรมา: "ฉู่เฉิน คุณอยู่ไหนคะ?"“คุณเอาเบอร์โทรศัพท์ของผมมาได้ยังไง?”ฉู่เฉินพูดออกมาอย่างไม่ทันได้คิด“อย่าไปสนใจเลย แค่บอกฉันมาว่าคุณอยู่ที่ไหน?”หนิงชิงเสว่พูดอย่างหงุดหงิดทางโทรศัพท์ว่า "คุณปู่ของฉันตื่นแล้ว แต่เขา... ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ไหวแล้ว ฉันอยากจะใช้โอกาสตอนนี้ เพื่อยุติการหมั้นกับคุณ"“ตกลง เดี๋ยวผมส่งที่อยู่ให้ครับ”ฉู่เฉินวางสายโทรศัพท์แล้
“อาการคุณปู่ของคุณแย่มาก ผมต้องรักษาเขาในตอนนี้”ฉู่เฉิน แทงเข็มเงินเข้าไปในลำคอของหนิงฉางเจิ้ง และถ่ายพลังชี่ที่แท้จริงเข้าไปในร่างกายของเขา "คุณบ้าไปแล้วรึไง!"หนิงชิงเสว่ก้าวไปข้างหน้าและผลักเขาออกไป ตวาดด้วยความโกรธ "นายไม่รู้วิธีรักษาอะไรเลยด้วยซ้ำ นายจะรักษาแบบไหนกันแน่? ถ้าคุณปู่เป็นอะไรไป ฉันจะไม่ปล่อยนายไว้แน่"“ไสหัวออกไป ออกไปจากที่นี่ซะ ฉันไม่อยากเจอนายอีกแล้ว”ฉู่เฉินยิ้มและไม่พูดอะไรอีก จากนั้นเขาก็หันหลังกลับและเดินออกจากคฤหาสต์ตระกูลหนิง“คุณปู่ เป็นยังไงบ้างคะ? อย่าทำให้หนูกลัวเลยนะคะ…”หนิงชิงเสว่ฟุบลงอยู่ข้างเตียง มองดูหนิงฉางเจิ้งซึ่งตกอยู่ในอาการโคม่าอีกครั้งและรู้สึกใจสลายในขณะนี้ แพทย์ส่วนตัวของหนิงฉางเจิ้ง ก็มาถึงพร้อมกับบุคคลหนึ่งหลังจากตรวจสอบสภาพร่างกายของหนิงฉางเจิ้งแล้ว ชายสูงอายุที่รับผิดชอบผู้ป่วยก็มีอาการประหลาดใจและพูดว่า "ฮึ่ม มันแปลกมากนะ อวัยวะต่างๆ ของคุณหนิงได้ล้มเหลวไปแล้ว ทำไมถึงมีพลังชีวิตในร่างกายของเขาที่ยื้อชีวิตของเขาไว้กันล่ะ?"“หมอจง ปู่ของฉันจะยังรอดอยู่ใช่ไหมคะ?”หนิงชิงเสว่อดไม่ได้ที่จะกังวลหมอจงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้ว