เหอหลานอุทานออกมาอย่างตื่นเต้น "เอาล่ะ เอาล่ะ เสี่ยวหวัง ตราบใดที่คุณสามารถเป็นคนหนุ่มที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงจากตระกูลฉินได้ พวกเราจะจัดงานแต่งงานสำหรับเธอกับรั่วเวยทันที"เมื่อเห็นว่าเรื่องนี้มาถึงจุดนี้ ถังไห่ซานก็ทำได้เพียงทำใจยอมรับมันอย่างเงียบ ๆหลังจากออกจากบ้านตระกูลถังแล้ว ฉู่เฉิน ก็ได้โทรหาซู่จื่อเหยียน และขอให้เธอยอมเซ็นสัญญากับหวังซวี่เขาเพียงแต่พยายามที่จะมีจิตสำนึกที่ชัดเจนเมื่อเขาทำสิ่งต่างๆ เมื่อเขามาถึงเจียงหนานครั้งแรก ถังไห่ซานปกป้องเขามาก็หลายครั้ง และตอนนี้เขาควรจะตอบแทนความมีน้ำใจของเขากลับคืนบ้างขณะที่เขาวางแผนที่จะกลับไปที่คฤหาสต์อวี้หลงวานหมายเลข 1 โทรศัพท์ก็ได้ดังขึ้นน่าแปลกที่เป็นหนิงชิงเสว่ที่โทรมา: "ฉู่เฉิน คุณอยู่ไหนคะ?"“คุณเอาเบอร์โทรศัพท์ของผมมาได้ยังไง?”ฉู่เฉินพูดออกมาอย่างไม่ทันได้คิด“อย่าไปสนใจเลย แค่บอกฉันมาว่าคุณอยู่ที่ไหน?”หนิงชิงเสว่พูดอย่างหงุดหงิดทางโทรศัพท์ว่า "คุณปู่ของฉันตื่นแล้ว แต่เขา... ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ไหวแล้ว ฉันอยากจะใช้โอกาสตอนนี้ เพื่อยุติการหมั้นกับคุณ"“ตกลง เดี๋ยวผมส่งที่อยู่ให้ครับ”ฉู่เฉินวางสายโทรศัพท์แล้
“อาการคุณปู่ของคุณแย่มาก ผมต้องรักษาเขาในตอนนี้”ฉู่เฉิน แทงเข็มเงินเข้าไปในลำคอของหนิงฉางเจิ้ง และถ่ายพลังชี่ที่แท้จริงเข้าไปในร่างกายของเขา "คุณบ้าไปแล้วรึไง!"หนิงชิงเสว่ก้าวไปข้างหน้าและผลักเขาออกไป ตวาดด้วยความโกรธ "นายไม่รู้วิธีรักษาอะไรเลยด้วยซ้ำ นายจะรักษาแบบไหนกันแน่? ถ้าคุณปู่เป็นอะไรไป ฉันจะไม่ปล่อยนายไว้แน่"“ไสหัวออกไป ออกไปจากที่นี่ซะ ฉันไม่อยากเจอนายอีกแล้ว”ฉู่เฉินยิ้มและไม่พูดอะไรอีก จากนั้นเขาก็หันหลังกลับและเดินออกจากคฤหาสต์ตระกูลหนิง“คุณปู่ เป็นยังไงบ้างคะ? อย่าทำให้หนูกลัวเลยนะคะ…”หนิงชิงเสว่ฟุบลงอยู่ข้างเตียง มองดูหนิงฉางเจิ้งซึ่งตกอยู่ในอาการโคม่าอีกครั้งและรู้สึกใจสลายในขณะนี้ แพทย์ส่วนตัวของหนิงฉางเจิ้ง ก็มาถึงพร้อมกับบุคคลหนึ่งหลังจากตรวจสอบสภาพร่างกายของหนิงฉางเจิ้งแล้ว ชายสูงอายุที่รับผิดชอบผู้ป่วยก็มีอาการประหลาดใจและพูดว่า "ฮึ่ม มันแปลกมากนะ อวัยวะต่างๆ ของคุณหนิงได้ล้มเหลวไปแล้ว ทำไมถึงมีพลังชีวิตในร่างกายของเขาที่ยื้อชีวิตของเขาไว้กันล่ะ?"“หมอจง ปู่ของฉันจะยังรอดอยู่ใช่ไหมคะ?”หนิงชิงเสว่อดไม่ได้ที่จะกังวลหมอจงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้ว
แม้แต่ ฉินปิงเยว่ก็มองไปที่ฉู่เฉิน ดวงตาที่งดงามของเธอมีแต่ความลุ่มหลง และรู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาเธอพูดว่าได้เห็นคนมาก็นับไม่ถ้วน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นชายหนุ่มรูปงามอย่างฉู่เฉิน“ว้าว คุณผู้หญิง แฟนของคุณหล่อจริงๆเลยนะคะเนี่ย”พนักงานขายหญิงที่อยู่ข้างๆ เธอมองดูฉู่เฉินด้วยความคลั่งไคล้คำว่า "แฟน" ทำให้ใบหน้าสวยของฉินปิงเยว่ ร้อนฉ่าขึ้นมา และเธอก็พูดพร้อมด้วยความรู้สึกหวานฉ่ำในใจว่า "ขอชุดแบบนี้อีกชุดค่ะ แล้วก็แพ็คมาด้วยนะคะ"“โอเคค่ะ รบกวนคุณช่วยมาชำระเงินตรงนี้ทีนะคะ”ผู้ช่วยขายยิ้มอย่างเคารพฉู่เฉินไม่ได้คิดถึงเสื้อผ้าของเขามากนัก เพราะเขาให้ความสำคัญกับความสะอาดและความสะดวกสบาย เมื่อตอนสวมใส่เท่านั้นระหว่างที่ฉินปิงเยว่ ชำระเงิน มีหญิงสาวหลายคนเดินเข้าไปในร้าน เมื่อพวกเขาเห็นฉู่เฉิน พวกเขาต่างก็ประหลาดใจกับรูปร่างหน้าตาของเขาพวกเธอสองคนเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ และขอเพิ่มเพื่อนฉู่เฉินบน Line แต่ทั้งคู่กลับถูกฉู่เฉิน ปฏิเสธไปหญิงสาวที่ถูกปฏิเสธก็ไม่โกรธเช่นกัน ได้แต่หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วส่งข้อความใน Line ถึงเพื่อนสนิทของเธอ:“ย่าย่า ม
ท่ามกลางสายตาของทุกคน ฉินปิงเยว่ก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเย็นชาบนใบหน้าของเธอทันทีที่เห็นเธอ เฉินย่าและถังรั่วเวยก็รู้สึกละอายใจขึ้นมาทันทีผู้หญิงตรงหน้าเธอสวยมากจริงๆ เมื่ออยู่ต่อหน้า เธอทั้งสองคนก็เหมือนกับปลาบู่ทันทีหลังจากนั้น ผู้หญิงทั้งสองก็เบิกตากว้างพร้อมกันพวกเธอได้ยินถูกใช่ไหม? ฉู่เฉินเป็นแฟนของผู้หญิงคนนี้งั้นเหรอ?เฉินย่าตกตะลึง เมื่อฉินปิงเยว่ตบหน้าเธออย่างเย็นชาแล้วพูดว่า "เธอไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอ?""เพี๊ยะ!"เสียงนั้นชัดเจนและรุนแรงการตบนี้ผลักเฉินย่าถอยหลังออกไปสองสามก้าว จนแทบจะล้มลงกับพื้นเฉินย่าตกตะลึงกับการถูกตบ และเธอกุมใบหน้าเอาไว้พร้อมความไม่เชื่อ และพูดว่า "คุณ... คุณกล้าตบฉันเหรอ?"ฉินปิงเยว่ เมินเธอและหันไปมองที่ฉู่เฉิน ด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและพูดว่า "คุณฉู่คะ ไปยุ่งกับอีตัวแบบนี้ทำไมกันคะ ทำไมคุณถึงต้องไปคุยกับเธอด้วย?""ฉันกำลังพูดกับแกอยู่นะ"เฉินย่าโกรธมากจนแทบจะอาเจียนเป็นเลือด เธอคำรามและกำลังจะพุ่งเข้าไปหาฉินปิงเยว่ถังรั่วเวยรีบหยุดเธอและมองไปที่ฉินปิงเยว่ ด้วยใบหน้าที่ไม่พอใจและพูดว่า "ทำไมคุณถึงเป็นคนแบบนี้? แค่คุณไม่เห็นด้วย คุณก็จะเ
“พูดตามตรงนะคนสวย ผมชื่อหวังซวี่ และหวังฟู่กุ้ยที่เป็นเจ้าของโรงแรมเทียนเซิงก็เป็นพ่อของผมเองครับ”หวังซวี่รีบอวดทันทีเขาคิดว่าอย่างน้อย ฉินปิงเยว่คงจะแปลกใจหลังจากฟัง แต่เธอก็กลับไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆออกมาเลยหวังซวี่ ไม่ยอมแพ้และพูดว่า "ผมสงสัยว่าคุณเคยได้ยินมาว่าตระกูลฉินที่ร่ำรวยในเจียงหนานกำลังจะจัดงานเลี้ยงขอบคุณที่ยิ่งใหญ่?""ฉันได้ยินเรื่องนี้มาบ้างนะ"ฉินปิงเยว่ ตกตะลึงและพูด“คุณได้รับจดหมายเชิญจากตระกูลฉินแล้วหรือยัง?”หวังซวี่ถามอีกครั้ง“เอ่อ ไม่นะ”ฉินปิงเยว่ พูดติดตลกหวังซวี่ ไฟลุกขึ้นมาทันทีและพูดว่า "คนสวย พ่อของผมบังเอิญได้รับเชิญจากตระกูลฉิน เขาสามารถพาคนห้าคนไปงานเลี้ยงขอบคุณของตระกูลฉินได้ คุณต้องการทิ้งข้อมูลการติดต่อไว้ เพื่อให้ผมบอกคุณพ่อให้เชิญคุณไปร่วมงานนี้ด้วยมั้ยครับ?”เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในการพยายามขอข้อมูลติดต่อของฉินปิงเยว่โดยไม่คาดคิด ฉินปิงเยว่พูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ "โรงแรมเทียนเซิงใช่ไหม ฉันจำได้""ไปกันเถอะ."ฉู่เฉินเหลือบมองหวังซวี่ราวกับว่าเขากำลังมองคนที่มีความพิการทางจิตใจ จากนั้นจึงจากไปพร้อมกับฉินปิงเยว่“คนสวย คุณยังไม่ได้ทิ
วันรุ่งขึ้นตอนรุ่งสาง คฤหาสน์ตระกูลฉินได้รับการตกแต่งด้วยแสงไฟและของตกแต่งหลากสีสันทั้งภายในและภายนอก ทำให้ที่นี่ดูมีชีวิตชีวาอย่างไม่น่าเชื่อเพราะวันนี้เป็นวันที่ตระกูลฉินจะจัดงานเลี้ยงขอบคุณ โดยมีรถยนต์หรูหราจอดเรียงรายเหมือนสายฝน และแขกที่เหมือนเมฆหมอกที่แทบจะเต็มถนนทั้งสายของเจียงหนานมีบุคคลสำคัญมากมายในเจียงหนานอยู่ที่นี่ และแม้แต่การกระทืบเท้าก็อาจทำให้เกิดแผ่นดินไหวในเจียงหนานได้นอกจากนี้ ยังมีวีไอพีที่กระจายมากจากทุกพื้นที่ในต้าเซี่ย การมาของพวกเขาทำให้ทางด่วนเป็นอัมพาตทุกคนต้องการเห็นหมอรักษาผู้ศักดิ์สิทธิ์กุ่ยเหมิน ผู้ช่วยชีวิตผู้เฒ่าฉินด้วยตาตัวเองว่าณ คฤหาสต์อวี้หลงวานหมายเลข 1ฉู่เฉินยังคงนั่งสมาธิและฝึกลมหายใจเหมือนอย่างเคย ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนกระทั่ง ฉินปิงเยว่ได้มาเคาะประตู ปลุกเขากลับมา: "คุณฉู่คะ งานเลี้ยงขอบคุณกำลังจะจัดขึ้น และฉันมาที่นี่เพื่อรับคุณไปที่นั่นค่ะ"หลังจากที่ฉู่เฉินเปิดประตู เขาพบว่าวันนี้เธอแต่งตัวเป็นทางการมาก โดยสวมชุดเดรสยาวสีอ่อนที่ดูเรียบๆ แต่ดูสง่างาม เติมเต็มรูปร่างที่มีเสน่ห์ของเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบฉู่เฉิน อดไม่ได้ที่จะม
โชคหมูหมาอะไรกัน ที่ทำให้ไอ้บ้านนอกฉู่เฉินได้รับความโปรดปราณจากบุคคลชั้นยอดขนาดนี้เมื่อเผชิญหน้ากับการจ้องมองที่คาดหวัง ฉินปิงเยว่ก็ได้หัวเราะออกมาเบาๆ และพูดอย่างดูถูกว่า "หามิตร? คุณสมควรได้รับมันงั้นหรอ?"ไม่ว่าเขาจะอารมณ์ดีแค่ไหน หวังซวี่ก็โกรธขึ้นมาเล็กน้อยและพูดว่า "คนสวย แบบนี้ดูไม่งามเท่าไหร่มั้งครับ?"“ผมหวังซวี่ อย่างน้อยก็เป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทแห่งหนึ่ง และคุณพ่อของผมก็เป็นเจ้าของโรงแรมเทียนเซิงที่มีชื่อเสียงในเจียงหนานอีกด้วย”“ผมอยากรู้จริงๆเลย ว่าผมเทียบไม่ได้กับไอ้สารเลวแซ่ฉู่คนนี้ที่ตรงไหน ถึงทำให้คุณต้องตบหน้าผมต่อหน้าเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่ากันนะ?”หวังซวี่ เอื้อมมือออกไปและชี้ไปที่ฉู่เฉิน โดยไม่ปกปิดความดูถูกบนใบหน้าของเขา“คุณอยากรู้จริงๆเหรอ?”ฉินปิงเยว่ขมวดคิ้ว"แน่นอนสิ"หวังซวี่พยักหน้าฉินปิงเยว่ยิ้มและพูดว่า "ถ้าอย่างนั้นคุณต้องตั้งใจฟังให้ดี ในสายตาของฉัน คุณไม่คู่ควรที่จะยกรองเท้าของคุณฉู่ด้วยซ้ำไป!"“ไม่ต้องพูดถึงนาย แม้ว่าจะเป็นพ่อของนายในสายตาของฉัน ก็ไม่ต่างอะไรไปจากมดหรือปลวก”"เธอ!"หวังซวี่โกรธมากฉินปิงเยว่ ไม่สนใจเขาและพาฉู่เฉินเข้าไ
“แกไม่ต้องทำให้เรากลัวขนาดนั้นหรอก”หวังซวี่เยาะเย้ยและพูดว่า "เธอมันก็แค่ดอกไม้ธรรมดาไม่ใช่เหรอ? เธอจะทำอะไรพวกเราได้บ้าง?"ฉู่เฉินขี้เกียจที่จะจัดการกับคนสองสามคนนี้ เขาหันกลับไปมอง เพียงเพื่อจะพบว่าร่างของฉินปิงเยว่ หายไปนานแล้วเขาตัดสินใจเดินไปในที่ที่ไม่มีใครอยู่และหาที่นั่งลงที่ทางเข้าสวนของตระกูลฉิน มีรถเบนท์ลีย์ขับมาจากระยะไกลและจอดลงอย่างช้าๆเมื่อประตูรถเปิดออกหนิงชิงเสว่ ในชุดเดรสยาวสีขาวเหมือนกับหิมะก็เดินออกไปพร้อมกับ พานอวิ๋น เลขาของเธอฉินปิงเยว่ที่รออยู่แล้ว ทักทายด้วยรอยยิ้มแล้วพูดว่า "ชิงเสว่ เธอมาแล้ว"หนิงชิงเสว่พูดด้วยสีหน้าซีดเซียว “ปิงเยว่ ฉันขอถามอะไรเธอหน่อยได้ไหม?”“บอกฉันมาสิว่าเธอกำลังจะพูดถึงเรื่องอะไร เธอถามฉันมาได้เลยนะ”ฉินปิงเยว่มองค้อนเธอหนิงชิงเสว่พูดทันทีว่า "ตอนนี้ทุกคนกำลังลือกันว่าหมอเทวดาที่รักษาคุณปู่ฉินคือหมอสำนักรักษาผู้ศักดิ์สิทธิ์กุ่ยเหมิน นั่นเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?""ถูกต้อง"ฉินปิงเยว่ พยักหน้าและพูด“เป็นเขาจริงๆ!”ใบหน้าที่งดงามของหนิงชิงเสว่ สว่างไสวไปด้วยความดีใจ ทันใดนั้นเธอก็จับมือของฉินปิงเยว่ไว้แน่นและพูดว่า "ปิง