มหาวิทยาลัยEE
"อีลัย"
เป็นภาษาที่เพื่อนเรียก ( ซึ่งเอามาจากคำว่า บรรลัย ) เพราะไม่ว่าจะทำอะไรต้องมีเรื่องให้วุ่นวายตลอด แต่มันก็เป็นเพียงการเรียกในกลุ่มเพื่อนสนิทเท่านั้น
"ว่า?"
"มึงได้งานแล้วจริงดิ?"
"เออ ได้แล้ว"
"งานอะไรวะ?"
"ยังไม่รู้"
"อีบ้า สมัครงานยังไงไม่รู้ว่างานอะไรวะ!" เพื่อนสนิทด่าเข้าให้
"....." หญิงสาวนั่งเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไร แต่มันก็สมควรแล้วแหละที่เพื่อนสนิทจะด่า เพราะเธอดันเป็นคนที่สะเพร่าเหมือนกัน ยิ่งอะไรที่ได้เงินแบบง่ายๆ เธอยิ่งไม่ทันได้คิดเลย หน้ามืดตามัวยอมรับแบบส่งๆ ก็มี
ก็ชีวิตของเธอมันเป็นแบบนี้นี่นา งานไหนที่ได้เงินง่ายเธอก็รับไว้หมดแหละ ยิ่งสถานการณ์ของเธอในตอนนี้อีก เธอรับงานนี้อย่างไม่ลังเลเลย งานพาร์ทไทม์ที่เคยทำเงินเดือนก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่ ยิ่งเจอผู้จัดการเผด็จการเอาเปรียบลูกน้องอีก ถ้าไม่รับงานนี้เธอถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัยแน่ๆ เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมทั้งเก่าและใหม่
"แล้วมึงไม่รู้เลยเหรอ ว่างานคร่าวๆ มันคืออะไร?"
"ขอแค่ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ต้องขายตัว แค่นั้นก็พอแล้วไม่ใช่หรือไง" เห็นแรงๆ ดูร้ายๆ แบบนี้ เธอก็ยังเก็บซิงของเธอเอาไว้อยู่นะ ไม่ได้หวงตัวขนาดนั้นหรอก แต่ก็ไม่รู้จะเอาไว้ให้ใคร ชีวิตนี้ทั้งชีวิตจะมีแฟนกับเขาหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย
"อีลัย! แล้วถ้างาน มันอันตรายล่ะ?"
"ชีวิตกู มีอะไรปลอดภัยอีกวะ?" หันไปถามกลับด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย
นี่ถ้าไม่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย และต้องย้ายมาอยู่ที่หอพัก ก็คงต้องอยู่ที่บ้าน ที่ถูกแม่เลี้ยงทำเป็นบ่อนพนัน ซึ่งหาความปลอดภัยไม่ได้เลย กลางค่ำกลางคืนก็ต้องคอยนอนระแวง กลัวว่าจะมีไอ้หื่นที่เข้ามาเล่นไพ่และเมาขึ้นมาทำอะไรไม่ดี เธอต้องอยู่กับความรู้สึกแบบนั้น อยู่หลายปี จนกระทั่งได้เข้ามหาวิทยาลัย
"งั้นเดี๋ยวกูไปส่ง กูจะได้รู้ว่ามึงทำงานอยู่ที่ไหน เจ้านายมึงหน้าตาเป็นยังไง ถ้าเกิดอะไรขึ้น กูจะได้ช่วยเป็นพยานให้"
"มึงนี่ก็เวอร์เกินนะอีเฟิร์น"
ถึงอย่างนั้น เธอก็ห้ามเพื่อนสนิทไม่ได้ หลังเลิกเรียนเพื่อนสนิทก็ขับรถมอเตอร์ไซค์ไปส่งที่บริษัท ที่เธอเพิ่งจะไปสมัครงานอยู่เมื่อวานหมาดๆ
พอลงจากรถ เฟิร์น ก็เงยหน้ามองตึกที่อยู่ด้านหน้า จะว่ายังไงดีล่ะ มันก็ไม่ได้เก่าจะน่ากลัว แต่มันให้ความรู้สึกเย็น รู้สึกขนลุกยังไงก็ไม่รู้ แทนที่จะมีพนักงานเดินเข้าออกพลุกพล่านในช่วงนี้ กลับไม่มีใครเลย
"มึงแน่ใจนะ ว่านี่คือบริษัท?"
"อืม ภายนอกก็เป็นอย่างนี้แหละ แต่ภายในโคตรหรูเลยนะเว้ย"
"กูนึกว่าเรามายืนอยู่หน้าตึกที่เขาทำภาพยนตร์สยองขวัญกัน"
"คนกลัวผีแบบมึงเนี่ย เจออะไรแปลกตาเข้าหน่อย ก็คิดเป็นตุเป็นตะจริงๆ เลยนะ"
"อีลัย..."
"ว่า? รีบพูดมา กูจะได้รีบเข้าไป ใกล้จะถึงเวลางานแล้ว เขาไม่ให้กูสาย"
"กูว่า...."
ยังไม่ทันที่เพื่อนสนิทจะได้พูดจบ ก็มีรถหรูขับเข้ามาจอดที่ด้านหน้าบริษัท ซึ่งทั้งสองที่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ข้างๆ ไม่ได้เป็นจุดเด่น ก็พากันมองด้วยความสนใจ จนกระทั่งเจ้าของรถลงมา
"เชี่ย!~"
ทั้งสองพากันร้องอุทานออกมาเบาๆ ด้วยความตกใจ เมื่อเห็นคนที่ลงมาจากรถ
เขาคือรุ่นพี่ ที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน เขาเป็นคนค่อนข้างดัง ซึ่งทั้งสองเองก็รู้จัก เธอชื่อว่า จ๊ะจ๋า ดาวมหาวิทยาลัยสุดฮอต แค่พูดชื่อทุกคนก็รู้จักแล้ว
"นั่นมันพี่จ๋า ดาวมหาวิทยาลัย ที่เราเรียนอยู่นี่หว่า เขามาทำอะไรที่นี่วะ?" เฟิร์นร้องถาม เพราะยังตกใจกับสิ่งที่เห็นอยู่ แต่ในขณะนี้ไลลาต้องรีบเข้าไปแล้ว เพราะอีกไม่กี่นาทีก็จะถึงเวลางาน เจ้านายยิ่งผีเข้าผีออกแบบนั้นอยู่ด้วย ถ้าเธอมาทำงานสายวันแรกคงได้ถูกตำหนิชัวร์
"ใครจะทำอะไรก็ช่าง กูต้องรีบไปทำงานก่อน ไว้ถ้ารู้อะไรจะเอามาบอกก็แล้วกัน"
"เออๆ โชคดีอีลัย"
ไลลารีบเดินเข้าไปด้านใน แต่เดินเข้าไปได้ไม่เท่าไหร่เธอก็ต้องหยุดชะงัก เพราะดันไปเห็นภาพที่ไม่ควรเห็น แต่จะถอยกลับตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วด้วย
เธอเห็นเจ้านายของเธอ กำลังยืนกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับรุ่นพี่ที่คณะ ซึ่งเป็นดาวมหาลัย ชุดนักศึกษา เสื้อผ้าของเขา ผมเผ้าก็เริ่มกระเซอะกระเซิง ซึ่งดูเหมือนว่าทั้งสองจะทำแบบนี้กันมาสักพักนึงแล้ว
"เอ่อ...ตะ ตามสบาย ทำต่อเลยค่ะ ดะ เดี๋ยวหนูไปทางอื่น" ไลลาพูดเสียงตะกุกตะกัก มันทั้งเขิน ทั้งทำตัวไม่ถูก เพราะดันไปเห็นคนสองคนกำลังทำแบบนั้นกัน ซึ่งถ้ามาช้ากว่านี้อีกนิด คงได้เห็นช็อตเด็ดกว่านี้แน่นอน
ร่างบางรีบหันหลังกลับและเดินย้อนออกมา ก่อนจะเดินออกไปอีกทาง และพบกับผู้จัดการเมื่อวานพอดี
"สวัสดีค่ะผู้จัดการ"
"ทำไมไม่เดินเข้าไปล่ะ เดินออกมาทำไม ทางนั้นทางเข้านะ" ผู้จัดการกำลังจะบอกว่า ทางเข้าบริษัทมีอยู่ทางเดียว ซึ่งถ้าจะเข้าไป ก็ต้องเดินเข้าไปทางเดิม
"มะ ไม่เข้าไปดีกว่าค่ะ ตอนนี้คงไม่เหมาะ"
"หืม?"
ผู้จัดการทำหน้างง แต่ยังไม่ทันที่ไลลาจะได้พูดอะไรต่อ ก็มีผู้หญิงเดินออกมา เธอเดินพร้อมกับจัดทรงชุดนักศึกษา และผมยาวที่กระเซอะกระเซิงไปด้วย พอผู้จัดการเห็นก็พอจะเข้าใจว่าทำไมไลลาถึงได้เดินหนีออกมาแบบนี้
"เจอของดีเข้าให้แล้วสินะ"
"หนูไม่ได้ตั้งใจนะ ก็กำลังจะเดินเข้าไปทำงาน แต่ดัน.." เธอรีบแก้ตัวให้กับตัวเอง เธอไม่ได้ผิดสักหน่อย เธอก็แค่เดินเข้าไปตามปกติ ใครจะไปรู้ล่ะ ว่ามีผู้หญิงกับผู้ชายกำลังยืนทำแบบนั้นกันแบบไม่อายฟ้าอายดิน
"อีกหน่อยเดี๋ยวก็ชิน ผู้หญิงของเจ้านายน่ะ เราได้ทำงานใกล้ชิดกับเจ้านายแล้ว ยังไงก็ต้องเจอเรื่องแบบนี้บ่อยๆ ทำใจให้ชินไว้ตั้งแต่ตอนนี้แหละดีแล้ว"
"อะไรนะ! นะ-หนูต้องดูเจ้านาย ทำอะไรกับผู้หญิงเหรอ!?" จะให้ผู้หญิงโสดซิงแบบเธอ มายืนดูผู้หญิงกับผู้ชายทำแบบนั้นด้วยกัน มันก็กระไรอยู่นะ ไม่คิดจะอายกันบ้างเลยหรือไง หรือคิดว่าทุกที่มันเป็นเตียง
"ก็ไม่เชิงถึงขั้นนั้นหรอก เดี๋ยวอยู่ไปก็รู้เอง เข้าไปเถอะ"
"......"
"ไปกันเถอะ จะได้รู้ว่าตัวเองต้องทำงานอะไรบ้าง"
ไลลาได้รับมอบหมายไปให้รับคน ซึ่งน่าจะเป็นผู้หญิง ที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง พร้อมกับคนของเจย์เลอร์ พอมาถึงเธอก็เดินเข้าไปข้างใน ทุกคนที่ยืนอยู่หน้าประตูต่างพากันจับจ้องมองราวกับว่าเธอมันน่ากินอะไรอย่างนั้นแต่พอเห็นว่าเธอมากับใคร ก็ไม่มีใครกล้ายุ่ง แม้กระทั่งจะพูดแซวก็ยังไม่กล้า"สวัสดีค่ะคุณหยีใช่ไหมคะ?" เธอเดินเข้าไปทักทายหญิงสาวคนนึง ที่ดูเหมือนว่าจะยืนรอใครอยู่"เธอเป็นใคร?" หญิงสาวเอ่ยถาม พร้อมกับไล่สายตามองเหมือนดูถูก ก็แหงล่ะเธอมาที่นี่ทั้งที่ยังใส่ชุดนักศึกษานี่นาและสิ่งที่เธอทำก็ไม่ต่างอะไรจากแม้เล้าเลยสักนิด"ฉันเป็นคนของคุณเจย์ค่ะ ฉันมารับคุณ" ไลลารีบแสดงตัว"อะไรกัน นี่ให้เด็กเหลือขอมารับฉันงั้นเหรอ?" สายตาที่มองเหมือนดูถูกมันก็น่าโกรธแล้วนะ นี่ยังใช้คำพูดแบบนี้อีก โกรธแหละแต่ข่มอารมณ์ไว้อยู่ เธอเป็นคนนิสัยแบบนี้อยู่แล้ว ไม่ได้ยอมคนขนาดนั้นสักหน่อย"....." ไลลาไม่ได้ตอบ เธอได้แต่ท่องไว้ว่านี่คืองาน ข่มอารมณ์ และกัดฟันพูดประโยคต่อไป "เชิญขึ้นรถค่ะ""ฉันไม่ไป ให้เด็กแบบนี้เนี่ยนะมารับฉัน?""แล้วคุณหยีจะให้ทำยังไงคะ?""ให้เจย์มารับฉันเอง""เรื่องนี้คุณคงต้องไปคุยกับเจย์เองนะครั
วันถัดมาไลลาลากร่างกายที่หนักอึ้งลุกออกจากเตียงกว้าง ก่อนจะมองไปที่ชายหนุ่มที่กำลังหลับอยู่ เมื่อคืนไม่รู้ว่าเสร็จกันไปกี่ยก เธอจำไม่ได้เลย รู้แต่ว่าเขาค่อนข้างหนักหน่วง เธอเจ็บและแสบตรงนั้นไปหมด แต่พอสมองนึกภาพของแก่นกายเท่าแขนแล้วไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแสบขนาดนี้"โอย ฉีกไปหมดแล้วมั้ง หอยเนี่ย!" หญิงสาวพึมพำขณะที่กำลังประคองสังขารของตนเองลงจากเตียงเธอรีบก้มหยิบเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นขึ้นมาใส่ แต่พอออกมาก็เห็นอีกฝ่ายนั้นตื่นแล้วเขากำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่บนเตียง พอเธอเดินออกมาก็ได้สบตากันพอดี สายตานั้นเย็นชา ไร้ความรู้สึก และก็เป็นครั้งแรก ที่ได้เห็นรอยสักของเขา แขนทั้งสองข้างและคอ ยกเว้นก็แต่หน้าอกที่ไม่เห็นมี แถมหุ่นดีใช่ย่อยเลยด้วยนะ"นะ หนูจะกลับแล้ว""เงินวางอยู่นั่น""....." ไลลามองไปที่โต๊ะ เธอเห็นเงินปึกนึงวางอยู่ ซึ่งก็เป็นปึกเงินแสนนั่นแหละ เขาให้เธอเป็นแสนเลยจริงๆ เหรอเนี่ย ใจป้ำสุดๆ เลยผู้ชายคนนี้"ฉันจะไปส่ง นั่งรอก่อน""แต่ว่า...""นั่งรอ" ชายหนุ่มพูดย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว มันเป็นการออกคำสั่งที่ไม่ต้องการให้เธอปฏิเสธหรือขัดใจไลลาจำเป็นต้องนั่งรอ จนกระท
พอกลับมาถึงห้องไลลาก็ถูกเพื่อนซักถามอยู่ยาวนานเหมือนกัน ซึ่งเธอก็ไม่สามารถบอกได้ ว่าเมื่อคืนเธอไปเจออะไรมาบ้าง เธอไม่อยากให้เพื่อนต้องเป็นห่วง และก็ไม่ได้อยากโกหกอะไรเลย แต่สถานการณ์ของเธอในตอนนี้มันยังไม่พร้อมจริงๆ"เมื่อคืนรู้ไหมว่ากูพยายามส่งข้อความพยายามติดต่อหามึง ดีแค่ไหนแล้วที่กูไม่บุกไปที่บริษัทที่เอามึงไปส่งไว้""ก็ดีแล้วที่ไม่ไป"".....""ที่บริษัทนั้นตกกลางคืนแล้วเวรยามมันแน่นหนา เดี๋ยวจะเป็นปัญหากันเปล่าๆ ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะ""อืมๆ รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงหมดแล้วมึงเนี่ย"ไลลาทำตามที่เพื่อนของเธอบอก เธอรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะรู้สึกเหนียวตัวจนบอกไม่ถูก และตรงส่วนนั้นก็มีน้ำไหลเยิ้มออกมาจนเปื้อนกางเกงในไปหมดอีกด้วยจากนั้นก็ขึ้นไปนอนบนเตียงและหลับปุ๋ยไป รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ตอนที่เพื่อนมาปลุก วันนี้เธอมีเรียนตอนบ่าย ปกติเธอไม่ได้มานอนหลับจนไม่รู้เวลาอย่างนี้เลยเวลาผ่านไปจนกระทั่งเย็นก๊อกๆๆ ~หญิงสาวเคาะประตูห้อง ถึงแม้จะเป็นห้องทำงานของเขา แต่เธอก็ไม่อยากเข้าไปเห็นภาพที่มันไม่ควรจะเห็น ถ้าหากเธอพรวดพราดเข้าไป แล้วเจอเขากำลังบรร
ตกดึกวันเดียวกันเจย์เลอร์อยู่ที่ห้องของตัวเอง เขาเหมือนจะรอใครบางคนอยู่ สีหน้าเริ่มบูดบึ้ง คอยทอดสายตามองไปที่หน้าประตูอยู่ตลอด แต่พอไม่ได้ยินเสียง ไม่มีคนเปิดประตูเข้ามาก็เริ่มหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ไลลาเธอหายไปไหน ทั้งที่ให้มาอยู่ด้วยกันแล้วแท้ๆ แต่กลับไม่เห็นตัวอีกเลยหลังจากที่กินข้าวอิ่ม ครั้งสุดท้ายที่ได้เจอหน้าเธอคือตอนที่ไลลาไปล้างจานชายหนุ่มรออยู่แบบนั้นสักพักใหญ่ๆ ก่อนจะทนไม่ได้และเป็นฝ่ายออกไปเดินตามหาเธอแทนเจย์เลอร์เดินออกมาโดยที่ใส่เพียงบ็อกเซอร์ตัวเดียวเท่านั้นทำไมต้องอายด้วยล่ะ ที่นี่ไม่มีใครอยู่นอกจากเขาและเธอนี่นา ปกติเขาก็ใส่แบบนี้อยู่แล้วด้วย"ไลลา!""อุ้ยคุณเจย์ ตกใจหมดเลยค่ะ""เธอมาทำอะไรอยู่ตรงนี้?""ก็พักผ่อนไงคะ พี่ทอลบอกว่าให้หนูเลือกห้องนอนได้เลย หนูก็เลยนอนข้างล่าง จะได้ไม่ไปรบกวนคุณเจย์ข้างบน""เก็บของแล้วขึ้นไปบนห้องนอนของฉัน!" ออกคำสั่งเด็ดขาด"อ่าว..""ห้านาที รีบขึ้นมา""คุณเจย์คะ คุณเจย์!" เธอเรียกตามหลัง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ฟังซะแล้วและด้วยความที่เป็นคำสั่งของเขา เธอเลยต้องเดินตามหลังขึ้นไป ไลลาเปิดประตูและเดินเข้าไป ซึ่งตอนนี้เจย์เลอร์กำลังนอนรออยู
มหาวิทยาลัยตั้งแต่ที่ได้อยู่กับเจย์เลอร์ชีวิตของไลลาก็ดีขึ้นกว่าที่คิดเยอะเลย เพราะเธอไม่ต้องไปทำงานที่มันเสี่ยงอันตราย ถึงแม้การอยู่กับเขาจะไม่ปลอดภัยขนาดนั้นแต่เขาก็ไม่เคยทำอะไรรุนแรงกับเธอนอกจากเรื่องบนเตียง ที่สำคัญเธอมีเงินใช้จ่ายแบบไม่ขาดมือ ถึงขั้นได้ถือบัตรเครดิตที่ไม่จำกัดวงเงิน มันเป็นสิ่งที่เธอไม่คิดไม่ฝันเอาซะเลย"อีลัย สรุปมึงทำงานกับเขาคนนั้นแค่งานเดียวเหรอวะ?""อื้ม...""งาน...อะไร" เพื่อนสนิทถาม เพราะถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยว่าไลลาเพื่อนสนิททำงานอะไร"ก็คล้ายๆ แม่บ้านของเขา แต่ต้องทำมากกว่านั้น ต้องติดตามเขา คอยจัดการเรื่องต่างๆ ให้เขา""แต่มึงก็ไม่ได้ติดตามเขานี่""อื้ม เขาแค่ให้กูไปอยู่ด้วย แล้วก็จัดการงานบ้านแล้วก็เรื่องส่วนตัวให้เขา""มึง...ยังไม่มีอะไรกับเขาใช่ไหมวะ""มึงจะห่วงอะไรกับเรื่องแบบนี้เนี่ย มึงก็รู้ว่ากูเป็นคนแบบไหนอีเฟิร์น" ไลลาพูดติดตลก"เออกูรู้""กูโสดมาจนถึงทุกวันนี้ โดนจิ้มบ้างมันจะเป็นอะไรไปวะ กูไม่ได้เป็นเด็กแล้วนะ เรื่องแบบนี้มันก็ต้องมีประสบการณ์บ้างไม่ใช่หรือไง""เออกูรู้ แต่กูก็แค่เป็นห่วง กลัวมึงโดนหลอก แค่มีอะไรกันเฉยๆ แบบไม่คิดอะไรกูก็ไม่
มหาวิทยาลัย"ไลลาๆ""ห๊ะ? ว่าไง?" หญิงสาวหันไปตอบกลับเพื่อน ซึ่งเป็นเพื่อนที่เรียนอยู่คณะเดียวกัน พอจะรู้ชื่อและรู้จักกันแต่ก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น"มีคนมาหาอ่ะ เขารออยู่ที่หน้ามหาลัย""ใครเหรอ?""เขาไม่ได้บอกอ่ะ เขาแค่ให้มาบอกเธอว่าให้ออกไปหา เดี๋ยวนี้เลย""ผู้หญิงหรือผู้ชาย?" เฟิร์นถาม"ผู้ชาย""โอเค ขอบใจมากนะที่มาบอก""จ้ะ"สิ่งที่ไลลาคิดตอนนี้ก็คือ ไม่พ่อของเธอก็คงจะเป็นทอลคนสนิทของเจย์เลอร์ แต่เธอกำลังคิดว่าน่าจะเป็นพ่อของเธอมากกว่า ซึ่งจะมีบ่อยครั้งที่พ่อของเธอมายุ่งกับเธอหลังจากที่หมดเงินใช้แล้วเพราะแบบนี้แหละไลลาถึงได้ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมสักที พอจะมีเงินเข้าหน่อยก็ถูกพ่อเค้นเอาไปจนได้"อีลัยมึงจะไปจริงเหรอ?""อืม ไม่ไปก็ไม่ได้ดิ ถ้าเขาอาละวาดในมหาลัยขึ้นมาจะทำไง กูไม่อยากมีปัญหา" ไลลาตอบกลับ ก่อนจะคว้ากระเป๋าสะพายและลุกเดินออกไป ซึ่งเพื่อนสนิทก็เดินตามมาติดๆ เพราะเป็นห่วง กลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีเข้า และถ้ามีอะไรขึ้นมาก็จะได้ช่วยเพื่อนสนิทได้ทันและเป็นพยานให้ได้ไลลาเดินออกมาตามที่เพื่อนคนนั้นมาบอก เธอเห็นคนที่มารอเจอเธอจริงๆ และเธอก็คิดไม่ผิดเลย"พ่อ...""มาแล้วเหรอ ขอตังค์
"ใครเป็นคนทำ!""คุณเจย์ หนูไม่เป็นอะไรจริงๆ ค่ะ" ไลลาไม่รู้จะบอกยังไงดีเหมือนกัน เธอจะกล้าบอกเขาได้ยังไงว่าคนที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้เป็นฝีมือของคนเป็นพ่อปัญหาเรื่องครอบครัวมันก็ยากที่จะให้คนนอกเข้าใจ และเธอก็ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้ด้วยคนตัวโตขยับเข้ามาใกล้เธออีก มือหนาจับที่คางมนประคองให้เธอเงยหน้าขึ้นไป เขาออกแรงบีบเล็กน้อยแต่เธอก็รู้สึกได้ว่าเขากำลังโกรธสายตาของเจย์เลอร์มันน่ากลัว เขาน่ากลัวเอามากๆ จนเธอไม่อยากจะสบตาเลย แต่ตอนนี้เหมือนถูกล็อคทุกทาง"ตัดมือมันทิ้งเลยดีไหม ไลลา" น้ำเสียงเย็นยะเยือกนั้นเปล่งออกมา ทำเอาเธอขนลุกวาบไปทั้งตัว เพราะรู้ว่าเขาเอาจริงแน่ๆ ล่ะ ไม่ได้พูดเล่น"อยะ อย่านะคะ คุณเจย์อย่าทำ""ทำไม จะห่วงมันทำไม มันทำให้เธอต้องเจ็บนะ จะปล่อยไว้ให้มันกลับมาทำเธออีกหรือไง?" เขาถามกลับด้วยน้ำเสียงห้วนๆ"เปล่าค่ะ ที่ห้ามเพราะเขาเป็น...พ่อของหนูเอง""ว่าไงนะ" น้ำเสียงของเขาแผ่วลง ก่อนจะปล่อยมือที่จับคางของไลลาอยู่ออก มองหน้าของเธอเหมือนกำลังเค้นเอาคำตอบอีก เขารู้ว่าเธอยังพูดไม่หมด"พ่อของไลลาเป็นคนทำเองค่ะ"".....""ขอโทษนะคะ หนูไม่รู้จะบอกยังไงเหมือนกัน""เกิดอะไรขึ้น
วันต่อมาครืด ครืด ครืดเสียงโทรศัพท์ของไลลาดังเข้ามาไม่หยุด ขณะที่เธอนั้นกำลังรีบเดินเข้าไปเรียนแข่งกับเวลา ตอนแรกก็กะว่าจะไม่รับ เพราะคิดว่าเป็นเบอร์แปลกๆ โทรมา น้อยนักที่จะมีคนรู้จักเบอร์ของเธอ"อีลัย มึงรับดิ๊ กูรำคาญ!""จิ๊! ใครวะโทรมาเอาป่านนี้" หญิงสาวล้วงหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายออกมาอย่างหงุดหงิด มันเป็นเบอร์แปลกก็จริง แต่เป็นเบอร์แปลกที่โทรเข้ามาหลายสายแล้ว"ฮัลโหล เบอร์ใครเนี่ย โทรมาอยู่ได้ ถ้าไม่มีเรื่องสำคัญนะ จะด่าแม่งให้!!" พอรับสายเธอก็กร่นด่าสาดใส่โดยที่ยังไม่รู้เลยว่าปลายสายนั้นเป็นใครแต่เล่นโทรเข้ามาถี่ๆ ในเวลาแบบนี้มันก็น่าหงุดหงิดแหละนะ( เธอกล้าด่าฉันหรือไง ยัยหมูแคระ! )"....." ร่างเล็กหยุดชะงัก จู่ๆ ขามันก็แข็ง ก้าวเดินต่อไม่ไหวเลย และนั่นก็ทำให้เพื่อนสนิทที่กำลังเดินตีคู่กันมาหยุดเดินไปด้วย"เป็นห่าอะไรอีลัย อีกห้านาทีจะได้เวลาเข้าเรียนแล้ว รีบเดินเหอะ!" เพื่อนสนิทรีบเร่ง( ออกไปไม่ยอมปลุกฉันเลยนะ )"ไว้ค่อยคุยกันนะคะ หนูรีบมาเรียน"( ตอนเย็นจะไปรับ )"ไม่เอา! หนูไปรถประจำทางดีกว่า" ไลลาคุยโทรศัพท์ไปด้วยและคุยกับคนปลายสายไปด้วย เธอเถียงกับเขา เพราะไม่อยากให้
ตกดึกวันเดียวกัน หลังจากที่เจย์เลอร์พาลูกสาวเข้านอน เขาก็รู้สึกว่าวันนี้เหมือนได้ใช้ร่างกายไปทั้งชีวิตแล้วเลย มันเหนื่อยมากๆ กับการเลี้ยงเด็กครืด~ไลลา : ลูกนอนแล้วมาหาไลลาที่ห้องค่ะ ตอนแรกเหนื่อยนะ พอเห็นข้อความของไลลาที่ส่งเข้ามาเขาก็ตาสว่างทันทีเลย ก่อนจะรีบลุกขึ้นแล้วออกไป เพราะตอนนี้เจย์ลินก็นอนหลับไปแล้วแกร๊ก~"ไลลา..""มาแล้วเหรอคะ?""เธอจะให้ฉันทำอะไรเหรอ?""นี่ค่ะ"ไลลายื่นถุงบางอย่างให้กับเขา เป็นถุงที่เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าข้างในมันคืออะไร"คืออะไร?""เปิดดูสิคะเดี๋ยวก็รู้เอง"เจย์เลอร์หยิบของข้างในออกมาดูอย่างงงๆ แล้วก็ต้องตกใจเพราะของข้างในมันคือชุดชั้นในที่แบบ ตัวใหญ่หน่อย แถมมันสีแดงเรื่ออีกด้วย และที่สำคัญมันเป็นลายลูกไม้!"เธออย่าบอกนะว่า...""ใส่มันค่ะ""จะบ้าเหรอ นี่มันชุดผู้หญิงนะ!"ไม่เด็ดขาดให้ตายยังไงเขาก็จะไม่มีวันใส่ชุดนี้เด็ดขาด เขาปฏิเสธเธอด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น เป็นมาเฟียแต่ต้องมาใส่ชุดชั้นในลายลูกไม้สีแดงแบบนี้ รู้ถึงไหนอายถึงนั่นเลยนะ"ใส่มันค่ะ" ไลลาพูดข่ม น้ำเสียงและท่าทางของเธอก็จริงจังหนักแน่นไม่ต่างจากเขาเลยเพราะรู้ว่าถ้าพูดดีๆ เจย์เลอร์จะไม
@บ้านของเจย์เลอร์"เมียจ๋า เมียจ๋า ไลลาฉันขอโทษ""....." ไลลาได้แต่สาวเท้าก้าวเดิน พยายามเดินให้ออกห่างจากเจย์เลอร์ให้ได้มากที่สุด และไม่ให้เขาเดินตามได้ทัน"เมียจ๋า ผัวขอโทษ~" เจย์เลอร์ยังคงพูดเสียงหวาน พร้อมกับพยายามรีบเดินมาหาไลลา ขาสั้นๆ แค่นั้นเองทำไมถึงได้เดินเร็วนักนะก่อนหน้านี้ก็พูดแบบนี้แหละ ด้วยความที่ล้อเมียเรื่องขาสั้น ตัวเล็ก เตี้ย ก็คิดว่าเมียคงจะไม่โกรธอะไรหรอก เพราะก็แกล้งพูดแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่วันนี้เมียโกรธจริงจังมากๆ ไลลาหน้าบึ้งใส่ พร้อมกับเดินหนีไม่สนใจเสียงเรียกอีกเลย"ไลลาเดี๋ยว..."ปึก!!"โอ๊ย!!" เสียงร้องดังเพราะประตูหนีบแขน ใช่! ประตูหนีบแขนเขา หนีบแรงเลยด้วย เพราะเจย์เลอร์ดันเอาแขนเข้ามาขวางไว้ขณะที่ไลลานั้นกำลังจะปิดประตูเธอมองเขาตาแข็ง ในใจก็คิดว่า สมน้ำหน้า สมควรแล้วล่ะ คนอย่างเขามันต้องโดนซะบ้าง"เจ็บนะไลลา""หลีกไปค่ะ ไลลาจะเข้าห้อง""ก็เข้าไปสิ เดี๋ยวฉันปิดให้เอง"เจย์เลอร์ยังคงพยายามจะแทรกตัวเข้ามา แต่ไลลาเองก็ไม่ยอมเช่นกัน เอาล่ะคราวนี้ ต่างคนต่างไม่ยอมกันอะไรมันจะเกิดขึ้นทั้งที่เขาก็มีพละกำลังมากพอที่จะสามารถผลักประตูเข้าไปได้เลย แต่มั
โรงพยาบาลเอกชนHHกลางดึกสงัดไลลาปวดท้องกระทันหัน เจย์เลอร์เลยรีบพามาโรงพยาบาลทันที ตอนนี้ก็อยู่ในห้องคลอด ไลลากำลังรอเตรียมคลอดอยู่ เพราะถึงจะปวดท้องแล้วแต่ร่างกายก็ยังไม่พร้อมที่จะคลอดในทันที และเธอก็เลือกที่จะคลอดแบบธรรมชาติ เพราะไม่อยากเจ็บตัวอีก และอีกอย่างเธอก็เป็นคนที่กลัวแผลผ่าตัดมากๆ"อึก..โอ้ย!""ไลลา!""เจ็บจังเลยค่ะ" ว่ากันว่าคลอดลูกเนี่ยเจ็บทรมานมากเหมือนจะตายให้ได้ ตอนแรกก็คิดว่าคงไม่ได้เจ็บมากมายอะไรหรอก แต่ตอนนี้เชื่อแล้วล่ะว่ามันเจ็บมากจริงๆ"หมอครับ ยังคลอดไม่ได้อีกเหรอครับ ภรรยาผมจะทนไม่ไหวแล้วนะ?""คุณพ่อใจเย็นๆ ก่อนนะครับ การคลอดลูกแบบธรรมชาติ ต้องรอให้ปากมดลูกเปิดมากพอที่จะคลอดเด็กออกมาได้ก่อนครับ ตอนนี้หมอให้ยาเร่งไปแล้ว""....." ถึงอย่างนั้นเจย์เลอร์ก็ยังใจร้อนอยู่ดี ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงร้องโอดโอยของไลลา ใจของเขามันกระสับกระส่ายไปหมดเลย กลัวว่าเธอจะเป็นอะไรไปมือของเธอเย็นเฉียบแถมสั่นเทา หน้าตาก็ซีดเผือกจนน่าสงสารคนรักเมียห่วงเมียแบบเขา จะไปทนได้ยังไง กับการที่เธอเป็นอยู่แบบนี้"ไม่เป็นอะไรนะไลลา ฉันอยู่ตรงนี้ เธอจะต้องไม่เป็นอะไร""ฮึกคุณเจย์ มันปวดมาก ฮือ..
สามเดือนต่อมาช่วงนี้เป็นช่วงที่เจย์เลอร์นั้นเพิ่งทุเลาจากอาการแพ้ท้อง ด้วยความที่แพ้ท้องและต้องรับศึกหนักอยู่หลายเดือน เขาเลยไม่ได้ออกไปทำงาน ไม่ได้ออกไปเจอใครเลยแม้กระทั่งเพื่อนๆตอนนี้ได้รู้เพศลูกแล้ว เขาได้ลูกผู้หญิง ใครต่อใครต่างแอบแซวว่า เพราะได้ลูกผู้หญิงหรือเปล่าเขาถึงได้แพ้ท้องหนักขนาดนี้ ความเชื่อของแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน บางคนก็ว่าถ้ามีอาการแพ้ท้องหนักๆ ก็เดาได้เลยว่าเป็นลูกผู้หญิง"ไลลา.." เจย์เลอร์เอ่ยเรียกคนบนเตียงด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน ก่อนจะค่อยๆ คลานขึ้นไปบนเตียงเพื่อปลุกเธอ"อื้อ~""สายแล้วนะ ตื่นได้แล้ว""ง่วงอ่ะ นอนต่ออีกนิดได้มั้ย" ไลลาพูดอย่างงัวเงีย ตอนนี้เหมือนจะสลับหน้าที่กันแล้ว ตอนที่เธอท้องช่วงไตรมาสแรก เป็นเธอที่ต้องดูแลเจย์เลอร์เพราะเขาแพ้ท้องหนักมาก ตอนนี้กลายเป็นเขาที่ต้องดูแลเธอเองพฤติกรรมของไลลาเปลี่ยนไป หลังจากที่ท้องของเธอเริ่มโตขึ้น เธอนอนมากขึ้น บางครั้งก็กินเยอะมากด้วย กินเหมือนคนไม่รู้จักอิ่ม ซึ่งหมอเองก็บอกว่ามันเป็นเรื่องปกติ พฤติกรรมของเธอจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะคลอด"ไลลาตื่นเถอะ หมอบอกต้องกินข้าวตอนเช้านะ วันนี้มีกับข้าวที่เธอชอบเยอะเลย"
*****ต่อจากที่เจย์เลอร์ เริ่มมีอาการแพ้ท้อง เป็นช่วงที่เพิ่งจะได้ไปเจอกับ ลูกๆของโอนิกซ์และวานิลมา จากที่ยังบ่นๆกันอยู่เลย ว่าอยากมีลูก และก็ได้แพ้ท้องสมใจ ไลลาเองก็มีอาการเช่นกัน เหมือนว่าจะแพ้ท้องทั้งสองคนเลย แต่คนที่เป็นหนักกว่าก็คือเจย์เลอร์พอแพ้ท้องแล้วอารมณ์ขี้หงุดหงิดก็เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมอีก และก็แน่นอนว่าคนที่รับศึกหนักไปมากที่สุดเลยก็คือลูกน้องของตัวเอง แหงล่ะ ใครจะกล้าไปหงุดหงิดใส่เมียล่ะ เดี๋ยวก็โดนบ้องหูกันพอดี...ตอนสายๆ ของวันหนึ่งฟึ่บ~"คุณเจย์""จ๋า ครับ""ตื่นได้แล้วค่ะ วันนี้เรามีนัดกับคุณหมอนะคะ""อืม...ไม่อยากตื่นเลย อยากนอนต่อ"ปกติต้องเป็นสามีหรือเปล่าที่ต้องมาปลุกภรรยาและเตรียมตัวไปหาหมอกัน แต่กลับเป็นเธอที่ต้องมาปลุกเขา และตื่นเช้ากว่าเขาวันนี้มีนัดกับคุณหมอเกี่ยวกับอาการไม่สบายที่เป็นอยู่ ถึงคนในบ้านจะสงสัยกันว่าท้องจริงๆ แต่ก็ยังไม่ได้ไปตรวจจนมีใบรับรองมายืนยัน ว่าเรื่องที่สงสัยกันนั้นเป็นความจริง"ไม่ได้ค่ะ เรานัดคุณหมอเก้าโมงนะคะ ตอนนี้แปดโมงแล้วค่ะ กว่าจะเตรียมตัวอีก""....." เจย์เลอร์ยังคงอิดออดเหมือนกับเด็กที่ไม่อยากตื่นตอนเช้าไปโรงเรียน แต่แล้วก็ต้
เวลาผ่านไปจากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี จนตอนนี้ไลลากับเจย์เลอร์แต่งงานกันเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างมันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป เพราะทั้งสองยังคงทำเหมือนเดิมตอนก่อนที่จะแต่งงานไลลาได้ทำหน้าที่แม่บ้านอย่างเต็มตัว เพราะเธอไม่ได้ทำงานแล้ว บางครั้งก็ได้ไปร่วมงานกับเจย์เลอร์ เข้าสังคมอยู่บ่อยๆ เขาแค่อยากให้เธอได้เข้าสังคมเรียนรู้เพื่อเอาตัวรอด ประสบการณ์จะสอนให้เราเข้มแข็งเอง เพราะไลลาเป็นคนที่ไม่ชอบเข้าสังคม ไม่ชอบที่ที่มีคนเยอะๆ พลุกพล่าน เป็นไปได้เธอก็จะเลี่ยงมากกว่า แบบนี้เธอเลยไม่ค่อยทันโลกเท่าไหร่แต่พอมีเจย์เลอร์ ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปจริงๆ เขาทำให้เธอมีความสุข ทำให้เธอกล้า หลายๆ อย่างที่เขาทำให้มันดีจนสุดจะบรรยายจริงๆผู้ชายที่ต่อหน้าคนอื่นเข้มขรึม วางมาดนักธุรกิจ เจ้าพ่อมาเฟียแสนดุดัน แต่พอได้อยู่กับเธอที่สามารถเป็นตัวเองได้ ไม่ต่างอะไรจากแมวน้อยเลย เพราะเขาไว้ใจเธอ ไว้ใจมาก ถึงกล้าแสดงจุดอ่อนออกมาให้เห็นแบบนี้บ้านของทอลและเฟิร์น"แฝดอ้วง คิดถึงสุดเลย มาให้น้ากอดหน่อย"เด็กน้อยวัยขวบเศษพากันวิ่งเข้ามาหาด้วยความดีใจ เด็กแฝดลูกของทอลและเฟิร์น ตอนนี้ก็โตขึ้นเยอะแล้ว แต่ก็ยังทำให้เฟิร์น
บ้านพักริมทะเล"ไลลาเสร็จหรือยัง ทำไมอาบน้ำนานขนาดนั้น" เจย์เลอร์ตะโกนถาม เพราะเห็นไลลาเข้าห้องน้ำไปนานแล้ว ปกติเธอไม่ใช่คนเข้าห้องน้ำนานสักหน่อยแกร๊ก~"โอ้ย เสร็จแล้วค่า" เธอเดินออกมาจากห้องน้ำ เพราะถูกเรียกอยู่หลายครั้งเธอเลยต้องรีบเดินออกมา ถ้าขืนช้ามีหวังถูกเจย์เลอร์พังประตูเข้าไปแหงๆ"ละ ไลลา เธอ..." ถึงกับมองตาค้างเมื่อได้เห็นคนตรงหน้าใส่ชุดอะไรอยู่ ไม่คิดว่าเธอจะใส่แบบนี้ เพราะถ้าไม่ใส่ชุดนอนหมีแขนยาวเธอก็จะใส่เป็นกระโปรงชุดนอนที่ยาวคลุมเข่าลงไป"ไลลาเพิ่งซื้อมาค่ะ เป็นยังไงคะ สวยไหม?""....." เจ้าตัวไม่ตอบ สายตาจดจ้องที่เรือนร่างอวบอั๋นตรงหน้าหุ่นดีเอสหน้าหยวบสุดๆปกติแต่งตัวไม่ได้เซ็กซี่เท่าไหร่เขาก็หลงจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว มาเจอแบบนี้มันตราตรึงจนละสายตาไม่ได้เลย แค่เห็นส่วนล่างมันก็เริ่มขยับขยายออกแล้วมีอารมณ์สุดๆ !!"คุณเจย์คะ""อึก...""....." เธอยิ้มมุมปาก ก่อนจะเดินเข้าไปหาใกล้ๆ จับมือของเขาวางลงบนหน้าอกของตัวเอง "ไลลาไม่ได้ใส่เสื้อในด้วยนะคะ""อืม..." มือหนาเค้นคลึงเต้าอวบอย่างหลงใหล แม้จะสัมผัสผ่านชุดผ้าลาติน แต่เขาก็รับรู้ได้ถึงเนื้อด้านใน ยอดถันที่มันแข็งชูชันขึ้นมาข
เวลาผ่านไปหลังจากที่รู้ข่าวของพ่อและทุกอย่างก็จบลงแล้ว แต่ลึกๆ ไลลาก็ยังรู้สึกแย่อยู่แต่ก็ยังมีเจย์เลอร์ที่คอยอยู่ข้างๆ ดูแลไม่ห่าง เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงได้คิดฟุ้งซ่านอยู่คนเดียว"วันนี้ออกไปไหนกันมั้ย?""ไปไหนคะ?""ไม่รู้สิ อยากไปไหนหรือเปล่า เธอจะได้สบายใจ""....." ไลลาคิดก่อนที่จะนึกบางอย่างบอก เธอหันกลับไปมองหน้าของเจย์เลอร์และให้คำตอบกับเขา "ไลลาอยากไปวัดค่ะ""งั้นก็ไปอาบน้ำแต่งตัว จะได้ออกไปกัน"ไลลาทำตามที่เขาบอก จริงๆ เธอก็ไม่รู้จะไปที่ไหนหรอก แต่พอเจย์เลอร์มาถามแบบนี้แล้วเธอก็นึกขึ้นได้ผ่านไปพักใหญ่นานแล้วนะที่ไม่ได้มาที่นี่ ขณะเดินพาเจย์เลอร์ไปทางหลังวัดเธอก็พูดอยู่ในใจตัวเอง จนกระทั่งมาถึงกำแพงวัด เธอยืนอยู่ตรงข้ามกับกำแพงซึ่งมีรูปหน้าของแม่เธอแปะอยู่"แม่เธอเหรอ?""ค่ะ""ทำไมถึงมาอยู่แบบนี้ล่ะ ทีแรกฉันคิดว่าแม่เธอจะเป็นเจดีย์แบบนั้นซะอีก" เจย์เลอร์ไม่ค่อยเข้าใจอะไรแบบนี้เท่าไหร่ ไม่คิดว่ากระดูกคนตายจะสามารถเอามาไว้ในกำแพงวัดแบบนี้ได้"ไลลาไม่มีเงินซื้อหรอกค่ะ เจดีย์แบบนั้นแพงจะตาย เด็กมัธยมแบบไลลาจะเอาเงินเป็นหมื่นๆ จะมาไหนมาซื้อ หลวงตาบอกว่าเอาไว้แบบนี้ก็ได้ ไม่เป็นอ
ขณะที่กำลังกลับบ้าน ไลลาเอาแต่นั่งก้มหน้า ทั้งที่ปล่อยให้เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของตำรวจจัดการต่อ แต่เธอกลับรู้สึกไม่ดีเอาซะเลย แอบสะอึกเหมือนกันกับคำพูดของพ่อแต่เธอจะไปทำอะไรได้ นั่นมันไม่ใช่แค่คดีทั่วไปที่จะสามารถปล่อยตัวออกมาได้นะ แล้วถ้าเธอให้เจย์เลอร์ช่วยจริงๆ คนอื่นจะมองเธอยังไงยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด เธอไม่อยากให้ตัวเองเป็นแบบนี้เลย เพราะรู้ว่าเป็นแล้วก็ทำให้เจย์เลอร์พลอยเป็นห่วงไปด้วยเอี๊ยด!"อ๊ะ! คุณเจย์ จอดรถทำไมคะ?" ไลลาตกใจ ที่จู่ๆ เจย์เลอร์ก็หักรถเข้าริมทางอย่างกระทันหัน เบรคแรงจนเธอแทบจะหัวทิ่มไปด้านหน้า ดีนะที่คาดเข็มขัดไว้"คิดกันอีกรอบดีไหม ฉันไม่สบายใจเลย ที่เห็นเธอเป็นแบบนี้""เรื่องอะไรคะ?""เธอก็น่าจะรู้ว่าฉันหมายถึงเรื่องอะไร"".....""ฉันช่วยได้ ขอแค่เธอเอ่ยปากขอให้ช่วย""ขอบคุณนะคะสำหรับความหวังดี แต่ปล่อยให้มันเป็นไปแบบนั้นแหละค่ะดีแล้ว""เธอแน่ใจแล้วเหรอ""ไลลารู้ค่ะว่าคุณเจย์ช่วยได้ ทำให้พ่อของไลลาพ้นผิดยังทำได้เลย แต่ไลลาไม่อยากให้คุณเจย์ทำค่ะ คนทำผิดก็ต้องย่อมได้รับผลกรรมจากสิ่งที่ตัวเองทำ"".....""เท่าที่คุณตำรวจบอก พ่อตั้งใจทำแม่เลี้ยง มันไม่ใช่อุบัติเหตุ ถ