บริษัทแห่งหนึ่ง
หญิงสาวในชุดนักศึกษา อายุราวๆ 20 ปีต้นๆ ได้ กำลังเดินเข้าไปในออฟฟิศ ซึ่งติดป้ายประกาศรับสมัครพนักงานช่วยงานหนึ่งตำแหน่ง ไม่รู้หรอกว่าตำแหน่งอะไร แต่สำหรับงานพาร์ทไทม์ที่ได้เงินเดือนดีขนาดนี้ มันก็ควรจะคว้าไว้ไม่ใช่เหรอ
แค่งานพาร์ทไทม์ แต่เงินเดือนกลับมากกว่างานประจำของพนักงานบางคนอีก
ใครจะว่าเธอหน้าเงินก็ช่าง จะว่ายังไงก็แล้วแต่ เพราะสิ่งที่ขับเคลื่อนชีวิตของเธอได้ก็คือเงินเท่านั้น มีเงินก็เท่ากับไม่อดตาย
ร่างบางเดินตามผู้จัดการเข้าไปด้านใน ซึ่งเขาบอกว่าเธอต้องเข้าไปดีลกับเจ้านายของเขาอีกที นั่นมันก็น่าแปลกอยู่นะ ทำอย่างกับว่าเธอมาสมัครเป็นเด็กเสี่ยงั้นแหละ
"รออยู่นี่ก่อน เดี๋ยวพี่ไปบอกเจ้านาย ถ้าเขาอนุญาตแล้วค่อยเข้าไป"
"ค่ะ" หญิงสาวพยักหน้าตอบรับหงึกๆ มองดูคนที่พาเธอเดินมาทิ้งไว้หน้าห้องห้องนึง สักพักเขาก็เดินออกมา
"เข้าไปได้เลยนะ"
"เดี๋ยวสิคะ แล้วพี่ล่ะ?" เธอรีบทัดทาน จู่ๆ ก็บอกให้เธอเข้าไป แต่ตัวเองจะเดินออกไปเนี่ยนะ เขาต้องเป็นคนพาเธอไปไม่ใช่เหรอ
"หมดหน้าที่แล้ว จะอยู่ทำไม?"
"อ่าว...ก็นึกว่าพี่จะเป็นคนนำหนูเข้าไป..." เธอพูดเสียงแผ่ว เพราะคิดแบบนั้นจริงๆ ถึงตอนนี้ก็เริ่มลังเลแล้วสิ จะถอดใจกลับไปตอนนี้ได้ไหมนะ เธอรู้สึกแปลกๆ เหมือนไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่เลย สมัครงานแต่ไม่ใช้เอกสารอะไรสักอย่างเนี่ยนะ
"เข้าไปสิ"
"พี่...คือว่าหนูขอ..."
แกร๊ก~
ประตูทางด้านหลังของหญิงสาวถูกเปิดออก และชายหนุ่มที่กำลังยืนคุยอยู่กับเธอนั้นก็รีบก้มหน้าลงทันที ราวกับว่าเขาคนนั้นน่ากลัวเอามากๆ และด้วยความาสงสัย เธอก็หันกลับไปมองทันที
"เอ่อ..." จะตกใจดีไหมล่ะ คนที่เปิดประตูออกมาแล้วทำหน้าบูดอยู่นั้น เขาหล่อมาก หล่อแบบเหี้ยๆ หล่อวัวตายควายล้ม หล่อแบบสัสๆ หล่ออะไรขนาดนั้นพ่อคุณ นี่ยืนมองจนตาค้างแล้วนะ
"มองหาลำแสงอะไร จะเข้ามามั้ย? ไม่เข้าก็ไสหัวไป!"
"อะ อ่าว..." สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปทันที หล่อขนาดนี้ แต่ทำไมการพูดถึงได้เป็นแบบนี้ล่ะ เสียดายความหล่อเหลานั้นจริงๆ เลย
"รีบเข้าไปสิ"
"ค-ค่ะ"
หญิงสาวถูกกดดัน เธอเลยต้องเดินตามผู้ชายคนนั้นเข้าไป เธอรู้สึกเกร็งไม่น้อยเพราะภายใต้ห้องโทนหม่นมืด มันเย็นเยียบจนเธอเกร็งจนขนลุกซู่ ความเงียบและความเย็นชาที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวของชายหนุ่มคนนั้น เล่นเอาเธอแอบกลัวอยู่ไม่น้อยเลยเหมือนกัน
"ชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ ทำไมถึงคิดมาทำงานนี้"
"เอ่อ..."
"อย่าลีลา มันน่ารำคาญ" เขาพูดอย่างไม่สบอารมณ์ ชักสีหน้าไม่พอใจใส่เธอ ราวกับว่าเธอทำอะไรผิดกับเขามาตั้งแต่ชาติปางก่อน
"ชื่อไลลาค่ะ อายุยี่สิบสองเป็นนักศึกษาค่ะ คิดว่างานนี้ได้เงินดี เลยมาทำค่ะ"
"ไม่กลัวบ้างรึไง?"
"คะ? กลัวอะไร?"
"ไม่สงสัยบ้างรึไง ว่าเธอต้องทำงานอะไร ทำไมเงินเดือนดีขนาดนี้"
"....." หญิงสาวเงียบ จากที่ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร ตอนนี้ก็เริ่มสงสัยแล้วสิ งานอะไรกันนะทำไมเงินเดือนถึงได้ดีขนาดนี้ แต่สำหรับเธอแล้ว งานอะไรก็ได้ขอแค่มันไม่ผิดกฎหมายและไม่ต้องขายตัวก็พอ "แล้วหนูทำงานได้ไหม?"
"ที่นี่ไม่รับคนแคระ" เจ้าของประโยคชำเลืองตาขึ้นมองเล็กน้อย ก่อนจะไล่สายตามองคนตรงหน้าแปลกๆ ตั้งแต่หัวจรดเท้า
"....." แคระบ้านป้าลุงดิ // คิดในใจ
"ที่นี่รับสมัครพนักงาน สูงยาวขาว หุ่นดี ไม่อ้วนตันเหมือนหมูแคระ"
"บะ บ้า! รับสมัครพนักงานเขาดูที่หน้าตาด้วยเหรอ"
"ที่อื่นไม่รู้ แต่ที่นี่เป็นแบบนี้ หน้าตาเธอใช้ได้นะ แต่หุ่นไม่ผ่าน" ว่าแล้วก็มองเหยียดเธออีกรอบ ผู้ชายอะไรมีดีแค่หน้าตาจริงๆ เลย แต่เหยียดหุ่นของผู้หญิงเนี่ยนะ
"....." หญิงสาวหันหลังเดินกลับออกไป เพราะแค่นี้ก็รู้แล้วว่าเธอกำลังถูกปฏิเสธการรับเข้าทำงาน
ร่างบางเดินออกไปด้วยอารมณ์ที่ค่อนข้างหงุดหงิด เจอแบบนี้แล้วใครบ้างจะอารมณ์ดี ครั้งแรกเลยที่เธอเจอผู้ชายแบบนี้ ปกติเธอไม่ใช่คนหุ่นดีสูงเพรียวอะไรหรอก ส่วนสูงเธอก็เท่านี้ น้ำหนักก็ประมาณนี้ แต่ใครๆ ก็บอกว่าเธอหุ่นสวยนะ เจ้าเนื้อมากเลยแหละ
"จิ๊! หล่อซะเปล่า มีดีแค่หน้าตาจริงๆ"
"น้อง!"
เธอสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ เมื่อกี้เขาได้ยินคำสบถของเธอหรือเปล่านะ ซวยแล้วสิไลลา
"ค-คะ?"
"พรุ่งนี้มาเริ่มงานได้เลย"
"ห๊ะ? เริ่มงาน? เมื่อกี้เจ้านายของพี่เขายัง.."
"เจ้านายรับน้องเข้าทำงานแล้ว พรุ่งนี้มาเริ่มงาน อย่าสายล่ะเข้าใจไหม"
"....." เธอไม่ได้ตอบกลับอะไร ยังยืนงงๆ อยู่ ก่อนหน้านี้ยังทำท่าทีเหมือนไม่รับเธอเข้าทำงานอยู่เลยนี่นา
สุดท้ายเธอก็ต้องรับงานนี้ เพราะจำเป็นต้องใช้เงินจ่ายค่าเทอมของตัวเองที่ค้างมานาน
เวลาต่อมา
ไลลากลับมาที่บ้าน ซึ่งเธอไม่ค่อยอยากจะกลับมาสักเท่าไหร่นัก ส่วนใหญ่เธอจะอยู่ที่หอของมหาวิทยาลัยมากกว่า เพราะอะไรน่ะเหรอ
แกร๊ก~
ทันทีที่ประตูถูกเปิดเข้าไป ทุกคนที่นั่งอยู่ ต่างหันมามองเธอเป็นตาเดียว ราวกับว่าเธอเป็นตัวประหลาดในสายตาของทุกคน
"กลับบ้านถูกด้วยเหรอ" มีเสียงหนึ่งทักทายขึ้น ไม่ต้องเดาเลยว่าเป็นเสียงของใคร เป็นเสียงของแม่เลี้ยงเธอนั่นเอง ซึ่งบ้านหลังนี้ก็เป็นบ้านที่พ่อแม่ของเธอซื้อเอาไว้ แต่หลังจากที่แม่ของเธอจากไป พ่อของเธอก็มีภรรยาใหม่ สุดท้ายบ้านหลังนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากบ่อนพนันเลย เธอเกลียดการพนันเอามากๆ เพราะแบบนี้แหละ
"บอกแล้วไม่ใช่เหรอคะ ว่าอย่าตั้งวงเล่นพนันในบ้านอีก"
"เธอจะมาสนใจทำไม ในเมื่อเธอก็ไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้สักหน่อย"
"......" เธอถอนหายใจออกมาอย่างแรง จากนั้นก็ก้าวขาข้ามวงการพนัน ที่ตั้งอยู่กลางบ้าน โดยไม่สนใจว่าจะเป็นผู้ใหญ่ หัวหงอกหัวดำ อยากจะมองว่าเธอไร้มารยาทก็แล้วแต่
"อีเด็กนี่!"
พอกลับไปถึงห้องนอนของตัวเอง เธอก็ถอนหายใจออกมาอย่างแรง ตกลงนี่เป็นบ้านของเธอ หรือมันกลายเป็นบ่อนแล้วกันแน่ ถ้าเธอมีตังค์สักหน่อย เธอคงจะไปซื้อบ้านหลังใหม่อยู่คนเดียว ย้ายข้าวของสำคัญ ที่บ้านหลังนี้ไปให้หมดเลย
ทุกวันนี้เธอทำงานเองส่งตัวเองเรียน เพราะอยากเรียนให้จบ ทำตามความฝัน ที่เคยบอกกับแม่ของเธอเอาไว้ ก่อนที่ท่านจะจากไป เธออยากทำมันให้สำเร็จ เพราะแบบนี้เธอถึงได้ขวนขวายในการทำงาน หาเงินส่งตัวเองเรียน ถึงแม้มันจะลำบากมากก็ตาม
ในเมื่อพ่อที่ควรจะเป็นหัวหน้าครอบครัว กลับกลายเป็นคนขี้เมา พึ่งพาไม่ได้แบบนี้เธอก็เลยต้องพึ่งพาตัวเอง พึ่งพาความสามารถของตัวเอง
มหาวิทยาลัยEE"อีลัย"เป็นภาษาที่เพื่อนเรียก ( ซึ่งเอามาจากคำว่า บรรลัย ) เพราะไม่ว่าจะทำอะไรต้องมีเรื่องให้วุ่นวายตลอด แต่มันก็เป็นเพียงการเรียกในกลุ่มเพื่อนสนิทเท่านั้น"ว่า?""มึงได้งานแล้วจริงดิ?""เออ ได้แล้ว""งานอะไรวะ?""ยังไม่รู้""อีบ้า สมัครงานยังไงไม่รู้ว่างานอะไรวะ!" เพื่อนสนิทด่าเข้าให้"....." หญิงสาวนั่งเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไร แต่มันก็สมควรแล้วแหละที่เพื่อนสนิทจะด่า เพราะเธอดันเป็นคนที่สะเพร่าเหมือนกัน ยิ่งอะไรที่ได้เงินแบบง่ายๆ เธอยิ่งไม่ทันได้คิดเลย หน้ามืดตามัวยอมรับแบบส่งๆ ก็มีก็ชีวิตของเธอมันเป็นแบบนี้นี่นา งานไหนที่ได้เงินง่ายเธอก็รับไว้หมดแหละ ยิ่งสถานการณ์ของเธอในตอนนี้อีก เธอรับงานนี้อย่างไม่ลังเลเลย งานพาร์ทไทม์ที่เคยทำเงินเดือนก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่ ยิ่งเจอผู้จัดการเผด็จการเอาเปรียบลูกน้องอีก ถ้าไม่รับงานนี้เธอถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัยแน่ๆ เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมทั้งเก่าและใหม่"แล้วมึงไม่รู้เลยเหรอ ว่างานคร่าวๆ มันคืออะไร?""ขอแค่ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ต้องขายตัว แค่นั้นก็พอแล้วไม่ใช่หรือไง" เห็นแรงๆ ดูร้ายๆ แบบนี้ เธอก็ยังเก็บซิงของเธอเอาไว้อยู่นะ ไม่ได้หวงตัวขนาดนั้น
ไลลาได้รับมอบหมายไปให้รับคน ซึ่งน่าจะเป็นผู้หญิง ที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง พร้อมกับคนของเจย์เลอร์ พอมาถึงเธอก็เดินเข้าไปข้างใน ทุกคนที่ยืนอยู่หน้าประตูต่างพากันจับจ้องมองราวกับว่าเธอมันน่ากินอะไรอย่างนั้นแต่พอเห็นว่าเธอมากับใคร ก็ไม่มีใครกล้ายุ่ง แม้กระทั่งจะพูดแซวก็ยังไม่กล้า"สวัสดีค่ะคุณหยีใช่ไหมคะ?" เธอเดินเข้าไปทักทายหญิงสาวคนนึง ที่ดูเหมือนว่าจะยืนรอใครอยู่"เธอเป็นใคร?" หญิงสาวเอ่ยถาม พร้อมกับไล่สายตามองเหมือนดูถูก ก็แหงล่ะเธอมาที่นี่ทั้งที่ยังใส่ชุดนักศึกษานี่นาและสิ่งที่เธอทำก็ไม่ต่างอะไรจากแม้เล้าเลยสักนิด"ฉันเป็นคนของคุณเจย์ค่ะ ฉันมารับคุณ" ไลลารีบแสดงตัว"อะไรกัน นี่ให้เด็กเหลือขอมารับฉันงั้นเหรอ?" สายตาที่มองเหมือนดูถูกมันก็น่าโกรธแล้วนะ นี่ยังใช้คำพูดแบบนี้อีก โกรธแหละแต่ข่มอารมณ์ไว้อยู่ เธอเป็นคนนิสัยแบบนี้อยู่แล้ว ไม่ได้ยอมคนขนาดนั้นสักหน่อย"....." ไลลาไม่ได้ตอบ เธอได้แต่ท่องไว้ว่านี่คืองาน ข่มอารมณ์ และกัดฟันพูดประโยคต่อไป "เชิญขึ้นรถค่ะ""ฉันไม่ไป ให้เด็กแบบนี้เนี่ยนะมารับฉัน?""แล้วคุณหยีจะให้ทำยังไงคะ?""ให้เจย์มารับฉันเอง""เรื่องนี้คุณคงต้องไปคุยกับเจย์เองนะครั
วันถัดมาไลลาลากร่างกายที่หนักอึ้งลุกออกจากเตียงกว้าง ก่อนจะมองไปที่ชายหนุ่มที่กำลังหลับอยู่ เมื่อคืนไม่รู้ว่าเสร็จกันไปกี่ยก เธอจำไม่ได้เลย รู้แต่ว่าเขาค่อนข้างหนักหน่วง เธอเจ็บและแสบตรงนั้นไปหมด แต่พอสมองนึกภาพของแก่นกายเท่าแขนแล้วไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแสบขนาดนี้"โอย ฉีกไปหมดแล้วมั้ง หอยเนี่ย!" หญิงสาวพึมพำขณะที่กำลังประคองสังขารของตนเองลงจากเตียงเธอรีบก้มหยิบเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นขึ้นมาใส่ แต่พอออกมาก็เห็นอีกฝ่ายนั้นตื่นแล้วเขากำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่บนเตียง พอเธอเดินออกมาก็ได้สบตากันพอดี สายตานั้นเย็นชา ไร้ความรู้สึก และก็เป็นครั้งแรก ที่ได้เห็นรอยสักของเขา แขนทั้งสองข้างและคอ ยกเว้นก็แต่หน้าอกที่ไม่เห็นมี แถมหุ่นดีใช่ย่อยเลยด้วยนะ"นะ หนูจะกลับแล้ว""เงินวางอยู่นั่น""....." ไลลามองไปที่โต๊ะ เธอเห็นเงินปึกนึงวางอยู่ ซึ่งก็เป็นปึกเงินแสนนั่นแหละ เขาให้เธอเป็นแสนเลยจริงๆ เหรอเนี่ย ใจป้ำสุดๆ เลยผู้ชายคนนี้"ฉันจะไปส่ง นั่งรอก่อน""แต่ว่า...""นั่งรอ" ชายหนุ่มพูดย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว มันเป็นการออกคำสั่งที่ไม่ต้องการให้เธอปฏิเสธหรือขัดใจไลลาจำเป็นต้องนั่งรอ จนกระท
พอกลับมาถึงห้องไลลาก็ถูกเพื่อนซักถามอยู่ยาวนานเหมือนกัน ซึ่งเธอก็ไม่สามารถบอกได้ ว่าเมื่อคืนเธอไปเจออะไรมาบ้าง เธอไม่อยากให้เพื่อนต้องเป็นห่วง และก็ไม่ได้อยากโกหกอะไรเลย แต่สถานการณ์ของเธอในตอนนี้มันยังไม่พร้อมจริงๆ"เมื่อคืนรู้ไหมว่ากูพยายามส่งข้อความพยายามติดต่อหามึง ดีแค่ไหนแล้วที่กูไม่บุกไปที่บริษัทที่เอามึงไปส่งไว้""ก็ดีแล้วที่ไม่ไป"".....""ที่บริษัทนั้นตกกลางคืนแล้วเวรยามมันแน่นหนา เดี๋ยวจะเป็นปัญหากันเปล่าๆ ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะ""อืมๆ รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงหมดแล้วมึงเนี่ย"ไลลาทำตามที่เพื่อนของเธอบอก เธอรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะรู้สึกเหนียวตัวจนบอกไม่ถูก และตรงส่วนนั้นก็มีน้ำไหลเยิ้มออกมาจนเปื้อนกางเกงในไปหมดอีกด้วยจากนั้นก็ขึ้นไปนอนบนเตียงและหลับปุ๋ยไป รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ตอนที่เพื่อนมาปลุก วันนี้เธอมีเรียนตอนบ่าย ปกติเธอไม่ได้มานอนหลับจนไม่รู้เวลาอย่างนี้เลยเวลาผ่านไปจนกระทั่งเย็นก๊อกๆๆ ~หญิงสาวเคาะประตูห้อง ถึงแม้จะเป็นห้องทำงานของเขา แต่เธอก็ไม่อยากเข้าไปเห็นภาพที่มันไม่ควรจะเห็น ถ้าหากเธอพรวดพราดเข้าไป แล้วเจอเขากำลังบรร
พอกลับมาถึงห้องไลลาก็ถูกเพื่อนซักถามอยู่ยาวนานเหมือนกัน ซึ่งเธอก็ไม่สามารถบอกได้ ว่าเมื่อคืนเธอไปเจออะไรมาบ้าง เธอไม่อยากให้เพื่อนต้องเป็นห่วง และก็ไม่ได้อยากโกหกอะไรเลย แต่สถานการณ์ของเธอในตอนนี้มันยังไม่พร้อมจริงๆ"เมื่อคืนรู้ไหมว่ากูพยายามส่งข้อความพยายามติดต่อหามึง ดีแค่ไหนแล้วที่กูไม่บุกไปที่บริษัทที่เอามึงไปส่งไว้""ก็ดีแล้วที่ไม่ไป"".....""ที่บริษัทนั้นตกกลางคืนแล้วเวรยามมันแน่นหนา เดี๋ยวจะเป็นปัญหากันเปล่าๆ ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะ""อืมๆ รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงหมดแล้วมึงเนี่ย"ไลลาทำตามที่เพื่อนของเธอบอก เธอรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะรู้สึกเหนียวตัวจนบอกไม่ถูก และตรงส่วนนั้นก็มีน้ำไหลเยิ้มออกมาจนเปื้อนกางเกงในไปหมดอีกด้วยจากนั้นก็ขึ้นไปนอนบนเตียงและหลับปุ๋ยไป รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ตอนที่เพื่อนมาปลุก วันนี้เธอมีเรียนตอนบ่าย ปกติเธอไม่ได้มานอนหลับจนไม่รู้เวลาอย่างนี้เลยเวลาผ่านไปจนกระทั่งเย็นก๊อกๆๆ ~หญิงสาวเคาะประตูห้อง ถึงแม้จะเป็นห้องทำงานของเขา แต่เธอก็ไม่อยากเข้าไปเห็นภาพที่มันไม่ควรจะเห็น ถ้าหากเธอพรวดพราดเข้าไป แล้วเจอเขากำลังบรร
วันถัดมาไลลาลากร่างกายที่หนักอึ้งลุกออกจากเตียงกว้าง ก่อนจะมองไปที่ชายหนุ่มที่กำลังหลับอยู่ เมื่อคืนไม่รู้ว่าเสร็จกันไปกี่ยก เธอจำไม่ได้เลย รู้แต่ว่าเขาค่อนข้างหนักหน่วง เธอเจ็บและแสบตรงนั้นไปหมด แต่พอสมองนึกภาพของแก่นกายเท่าแขนแล้วไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแสบขนาดนี้"โอย ฉีกไปหมดแล้วมั้ง หอยเนี่ย!" หญิงสาวพึมพำขณะที่กำลังประคองสังขารของตนเองลงจากเตียงเธอรีบก้มหยิบเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นขึ้นมาใส่ แต่พอออกมาก็เห็นอีกฝ่ายนั้นตื่นแล้วเขากำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่บนเตียง พอเธอเดินออกมาก็ได้สบตากันพอดี สายตานั้นเย็นชา ไร้ความรู้สึก และก็เป็นครั้งแรก ที่ได้เห็นรอยสักของเขา แขนทั้งสองข้างและคอ ยกเว้นก็แต่หน้าอกที่ไม่เห็นมี แถมหุ่นดีใช่ย่อยเลยด้วยนะ"นะ หนูจะกลับแล้ว""เงินวางอยู่นั่น""....." ไลลามองไปที่โต๊ะ เธอเห็นเงินปึกนึงวางอยู่ ซึ่งก็เป็นปึกเงินแสนนั่นแหละ เขาให้เธอเป็นแสนเลยจริงๆ เหรอเนี่ย ใจป้ำสุดๆ เลยผู้ชายคนนี้"ฉันจะไปส่ง นั่งรอก่อน""แต่ว่า...""นั่งรอ" ชายหนุ่มพูดย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว มันเป็นการออกคำสั่งที่ไม่ต้องการให้เธอปฏิเสธหรือขัดใจไลลาจำเป็นต้องนั่งรอ จนกระท
ไลลาได้รับมอบหมายไปให้รับคน ซึ่งน่าจะเป็นผู้หญิง ที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง พร้อมกับคนของเจย์เลอร์ พอมาถึงเธอก็เดินเข้าไปข้างใน ทุกคนที่ยืนอยู่หน้าประตูต่างพากันจับจ้องมองราวกับว่าเธอมันน่ากินอะไรอย่างนั้นแต่พอเห็นว่าเธอมากับใคร ก็ไม่มีใครกล้ายุ่ง แม้กระทั่งจะพูดแซวก็ยังไม่กล้า"สวัสดีค่ะคุณหยีใช่ไหมคะ?" เธอเดินเข้าไปทักทายหญิงสาวคนนึง ที่ดูเหมือนว่าจะยืนรอใครอยู่"เธอเป็นใคร?" หญิงสาวเอ่ยถาม พร้อมกับไล่สายตามองเหมือนดูถูก ก็แหงล่ะเธอมาที่นี่ทั้งที่ยังใส่ชุดนักศึกษานี่นาและสิ่งที่เธอทำก็ไม่ต่างอะไรจากแม้เล้าเลยสักนิด"ฉันเป็นคนของคุณเจย์ค่ะ ฉันมารับคุณ" ไลลารีบแสดงตัว"อะไรกัน นี่ให้เด็กเหลือขอมารับฉันงั้นเหรอ?" สายตาที่มองเหมือนดูถูกมันก็น่าโกรธแล้วนะ นี่ยังใช้คำพูดแบบนี้อีก โกรธแหละแต่ข่มอารมณ์ไว้อยู่ เธอเป็นคนนิสัยแบบนี้อยู่แล้ว ไม่ได้ยอมคนขนาดนั้นสักหน่อย"....." ไลลาไม่ได้ตอบ เธอได้แต่ท่องไว้ว่านี่คืองาน ข่มอารมณ์ และกัดฟันพูดประโยคต่อไป "เชิญขึ้นรถค่ะ""ฉันไม่ไป ให้เด็กแบบนี้เนี่ยนะมารับฉัน?""แล้วคุณหยีจะให้ทำยังไงคะ?""ให้เจย์มารับฉันเอง""เรื่องนี้คุณคงต้องไปคุยกับเจย์เองนะครั
มหาวิทยาลัยEE"อีลัย"เป็นภาษาที่เพื่อนเรียก ( ซึ่งเอามาจากคำว่า บรรลัย ) เพราะไม่ว่าจะทำอะไรต้องมีเรื่องให้วุ่นวายตลอด แต่มันก็เป็นเพียงการเรียกในกลุ่มเพื่อนสนิทเท่านั้น"ว่า?""มึงได้งานแล้วจริงดิ?""เออ ได้แล้ว""งานอะไรวะ?""ยังไม่รู้""อีบ้า สมัครงานยังไงไม่รู้ว่างานอะไรวะ!" เพื่อนสนิทด่าเข้าให้"....." หญิงสาวนั่งเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไร แต่มันก็สมควรแล้วแหละที่เพื่อนสนิทจะด่า เพราะเธอดันเป็นคนที่สะเพร่าเหมือนกัน ยิ่งอะไรที่ได้เงินแบบง่ายๆ เธอยิ่งไม่ทันได้คิดเลย หน้ามืดตามัวยอมรับแบบส่งๆ ก็มีก็ชีวิตของเธอมันเป็นแบบนี้นี่นา งานไหนที่ได้เงินง่ายเธอก็รับไว้หมดแหละ ยิ่งสถานการณ์ของเธอในตอนนี้อีก เธอรับงานนี้อย่างไม่ลังเลเลย งานพาร์ทไทม์ที่เคยทำเงินเดือนก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่ ยิ่งเจอผู้จัดการเผด็จการเอาเปรียบลูกน้องอีก ถ้าไม่รับงานนี้เธอถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัยแน่ๆ เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมทั้งเก่าและใหม่"แล้วมึงไม่รู้เลยเหรอ ว่างานคร่าวๆ มันคืออะไร?""ขอแค่ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ต้องขายตัว แค่นั้นก็พอแล้วไม่ใช่หรือไง" เห็นแรงๆ ดูร้ายๆ แบบนี้ เธอก็ยังเก็บซิงของเธอเอาไว้อยู่นะ ไม่ได้หวงตัวขนาดนั้น
บริษัทแห่งหนึ่งหญิงสาวในชุดนักศึกษา อายุราวๆ 20 ปีต้นๆ ได้ กำลังเดินเข้าไปในออฟฟิศ ซึ่งติดป้ายประกาศรับสมัครพนักงานช่วยงานหนึ่งตำแหน่ง ไม่รู้หรอกว่าตำแหน่งอะไร แต่สำหรับงานพาร์ทไทม์ที่ได้เงินเดือนดีขนาดนี้ มันก็ควรจะคว้าไว้ไม่ใช่เหรอแค่งานพาร์ทไทม์ แต่เงินเดือนกลับมากกว่างานประจำของพนักงานบางคนอีกใครจะว่าเธอหน้าเงินก็ช่าง จะว่ายังไงก็แล้วแต่ เพราะสิ่งที่ขับเคลื่อนชีวิตของเธอได้ก็คือเงินเท่านั้น มีเงินก็เท่ากับไม่อดตายร่างบางเดินตามผู้จัดการเข้าไปด้านใน ซึ่งเขาบอกว่าเธอต้องเข้าไปดีลกับเจ้านายของเขาอีกที นั่นมันก็น่าแปลกอยู่นะ ทำอย่างกับว่าเธอมาสมัครเป็นเด็กเสี่ยงั้นแหละ"รออยู่นี่ก่อน เดี๋ยวพี่ไปบอกเจ้านาย ถ้าเขาอนุญาตแล้วค่อยเข้าไป""ค่ะ" หญิงสาวพยักหน้าตอบรับหงึกๆ มองดูคนที่พาเธอเดินมาทิ้งไว้หน้าห้องห้องนึง สักพักเขาก็เดินออกมา"เข้าไปได้เลยนะ""เดี๋ยวสิคะ แล้วพี่ล่ะ?" เธอรีบทัดทาน จู่ๆ ก็บอกให้เธอเข้าไป แต่ตัวเองจะเดินออกไปเนี่ยนะ เขาต้องเป็นคนพาเธอไปไม่ใช่เหรอ"หมดหน้าที่แล้ว จะอยู่ทำไม?""อ่าว...ก็นึกว่าพี่จะเป็นคนนำหนูเข้าไป..." เธอพูดเสียงแผ่ว เพราะคิดแบบนั้นจริงๆ ถึงตอนนี้ก