Share

บทที่ 929

Penulis: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
ครั้งนี้ บรรดาขุนนางต้าชิ่งในท้องพระโรงต่างเงียบกริบอย่างผิดปกติ

ไม่มีการคัดค้านเสียงดัง ยิ่งไม่มีการดุด่าเสียงดัง ทุกคนล้วนก้มหน้า ถอนหายใจด้วยความโศกเศร้า

ฝ่าบาททรงปล่อยให้เฉินฝานทำตามอำเภอใจ เสิ่นหมิงหยวนก็คอยชมเรื่องสนุกอยู่ด้านข้าง พวกเขาโกรธไปคัดค้านไปจะมีประโยชน์อันใด

ขุนนางอาวุโสบางคนถึงกับแอบเช็ดน้ำตา

รากฐานสองร้อยกว่าปีของต้าชิ่งเกรงว่าจะจบสิ้นแล้ว

โอวหยางน่าหลันแค่นเสียงเบา ๆ “การซื้อขายไม่ใช่แค่ลมปากก็ได้นะ”

“องค์หญิงตรัสถูกต้อง การทำการค้าไม่ใช่เรื่องแค่ลมปากก็ได้ ต้องให้ความสำคัญกับความจริงใจด้วย” เฉินฝานหันไปพูดกับเสิ่นหยวนเลี่ยงว่า “เสิ่นหยวนเลี่ยง!”

“เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ?” เสิ่นหยวนเลี่ยงทำหน้าบูดบึ้งมาก เฉินฝานเรียกชื่อเขาตรง ๆ แถมยังต่อหน้าขุนนางนับร้อยด้วย

เสิ่นหยวนเลี่ยงยังคงไม่ชินกับการเปลี่ยนสถานะของเฉินฝาน ยังคงมองว่าเฉินฝานเป็นเพียงคนบ้านนอกคนหนึ่ง

“เสิ่นหยวนเลี่ยงไง? มีอะไร?” เฉินฝานหัวเราะหยันเบา ๆ “เจ้าเปลี่ยนชื่อแล้วหรือ?”

“ข้าเปลี่ยนชื่อที่ไหนกัน? แต่เป็นเจ้าต่างหากที่...”

“บังอาจ!”

“เพียะ!”

ตบหน้าเสิ่นหยวนเลี่ยงไปหนึ่งฉาด

“หา!”

คนทั้งท้อง
Bab Terkunci
Lanjutkan Membaca di GoodNovel
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 930

    โอวหยางน่าหลันเลิกผมของตัวเอง บิดสะโพกเดินเข้ามาอย่างอ่อนช้อย ร่างอวบอิ่มของเธอแทบจะแนบชิดกับร่างของเฉินฝานแล้วยอดอกคู่นั้นกระเพื่อมเป็นระลอกหลังจากเฉินฝานเอาชนะชายผมหยิกมาได้ ความตั้งใจที่ชิงตัวเฉินฝานของโอวหยางน่าหลันก็ยิ่งแน่วแน่มากขึ้นมือเรียวงามของโอวหยางน่าหลันลูบผ่านหน้าอกของเฉินฝาน ก่อนจะยื่นไปหาภูเขาเงินเบื้องหน้า นางหยิบแท่งเงินขึ้นมาจ่อที่ริมฝีปากแล้วเป่าลมเบา ๆเมื่อโอวหยางน่าหลันวางเงินลงและชักมือกลับมา นางยังไม่ระวังสัมผัสโดนหน้าของเฉินฝานนางไม่ได้ขอโทษ เธอคลี่ยิ้มงดงาม“ท่านอัครเสนาบดีซ้ายตรงไปตรงมาขนาดนี้ ข้าชอบ!”“ได้!” โอวหยางน่าหลันยกมือเรียวสวยขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะเอานิ้วชี้จิ้มหน้าอกเฉินฝานเบา ๆ ริมฝีปากแดงเผยอเล็กน้อย “ภายในสามเดือน จะส่งอาวุธหกล้านชิ้น และวัวหนึ่งหมื่นห้าพันตัวให้แก่ต้าชิ่ง!”เวลานี้ ความรู้สึกของโอวหยางน่าหลันเหมือนกับเสิ่นหมิงหยวนไม่มีผิดต้องรีบทำการค้านี้โดยเร็ว สูบเงินออกจากท้องพระคลังของต้าชิ่งโดยเร็ว จากนั้นเฉินฝานก็จะกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาของต้าชิ่งนางแย่งเฉินฝานมาก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้ว“แต่...” โอวหยางน่าหลันกล่าวอีกว่า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 931

    “ชิ้ง!”เฉินฝานเพิ่งมาถึงตำหนักไท่เหอมินาน ก็มีมีดเล่มหนึ่งมาจ่อที่คอไว้ เดิมทีคิดว่าฝ่ายตรงข้ามต้องการเพียงขู่ขวัญเขาเท่านั้น มิคิดว่า...“ชิ้ง ๆ ๆ ๆ!”มีเงาดาบเงินที่จ้องจะเอาชีวิตพุ่งมาใส่เขาอย่างรวดเร็วโชคดีที่เฉินฝานมีทักษะพื้นฐานที่ดี มิเช่นนั้นวิญญาณคงจะหลุดออกจากร่างไปนานแล้ว“ว้าว เจ้าจริงจังหรือ!” เฉินฝานเบี่ยงตัวหลบดาบที่พุ่งมาหาตนไปมา “หากยังมิยั้งมือ ข้าจะถูกเจ้าแทงตายจริงเข้าแล้ว เจ้าคิดจะสังหารสามีตนเองงั้นหรือ!”“ตายก็ช่างเจ้าสิ!”ดาบอ่อนในมือของฉินเย่ว์เหมยกวัดแกว่งอย่างมิหยุดหย่อนทว่าตอนที่ดาบสัมผัสกับเฉินฝาน ก็หันคมดาบออกทันทีเฉินฝานอาศัยจังหวะนี้จับข้อมือของฉินเย่ว์เหมยดึงนางเข้ามากอด“เจ้าหึงข้างั้นรึ?”เฉินฝานยิ้มพลางจ้องใบหน้างดงามเยือกเย็นนั้น“ใครหึงเจ้ากัน? ชายมักมาก!”ฉินเย่ว์เหมยปั้นสีหน้าเคร่งขรึม ผลักเฉินฝานออกไปทันทีหลังจากที่ผลักเฉินฝานออกไปแล้ว ฉินเย่ว์เหมยก็เดินตรงเข้าไปในตำหนัก เดินออกมาพร้อมกับชุดลำลองหนึ่งชุดกล่าวเป็นชุดลำลองก็มิเชิง คล้ายกับชุดอยู่เรือนเสียมากกว่า“ท่านจะไปอาบน้ำงั้นหรือ จะพาข้าน้อยไปอาบด้วยสินะ?” เฉินฝานยิ้มหน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 932

    “กล่าวหากันชัด ๆ”“โอ้โห!” เฉินฝานตกใจอย่างมาก “นี่เป็นการกล่าวหาข้าชัด ๆ!”เมื่อก่อนเคยเห็นแต่ในโทรทัศน์ ตอนนี้ได้มาเจอของจริง เฉินฝานรู้สึกแปลกใหม่อย่างมาก “ไหนข้าดูสิมีใครกล่าวหาข้าบ้าง?”เฉินฝานกวาดสายตาอ่านต่อ“หลิวเกาจัว!” เฉินฝานชี้ชื่อของหลิวเกาจัว “เจ้าคนที่พูดจาเหน็บแนมข้า คอยดูเถอะ”“มิได้มีเพียงหลิวเกาจัวเสียหน่อย” ฉินเย่ว์เหมยชี้นิ้วไปทางโต๊ะ “กองเหล่านี้ล้วนใช่ทั้งหมด!”เฉินฝานผินสายตาขึ้นจากสาสน์กราบทูลของหลิวเกาจัว มองไปทางฉินเย่ว์เหมยสามกองพะเนิน“โอ้โห เยอะเพียงนั้นเชียวรึ!”“มาถึงเพียงนี้แล้วไฉนเจ้ายังทำตัวเป็นทองมิรู้ร้อนได้อีก? คนมหาศาลกำลังใส่ความเจ้าอยู่ หากท้ายที่สุดเจ้าผลาญเงินท้องพระคลังจนหมดสิ้นจริง ๆ ต่อให้ข้ายอมสละบัลลังก์ ก็ปกป้องเจ้าไว้มิได้”ใบหน้าเย็นชาของฉินเย่ว์เหมยพลันหม่นหมองนางรู้สึกผิดหวังในท่าทีของเฉินฝานเฉินฝานเป็นคนที่ได้รับความสำเร็จเพียงเล็กน้อย ก็ลำพองใจ มิรู้จักแยกแยะความสำคัญอย่างที่พวกหลิวเกาจัวพูดงั้นหรือ?เฉินฝานสังเกตเห็นความหม่นหมองและความผิดหวังของฉินเย่ว์เหมยได้ทั้งหมด เขาวางสาสน์กล่าวหาของหลิวเกาจัวลง เดินมาด้าน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 933

    “ก็ได้ ข้าจะเชื่อใจเจ้า!”ถึงแม้น้ำเสียงของฉินเย่ว์เหมยจะแผ่วเบา ทว่าความตั้งใจหนักแน่นอย่างมากนางเชื่อมั่นเฉินฝานอย่างแท้จริงนางมิรู้ว่าสงครามการค้าที่เฉินฝานกล่าวถึงคือสิ่งใดกันแน่ รู้เพียงว่าแค่มีเฉินฝานอยู่ นางก็สบายใจแล้วจันทราด้านนอกหน้าต่าง ปรากฏอยู่บนท้องนภาแล้วในค่ำคืนที่สิบห้าจันทราเต็มดวงเป็นพิเศษ แสงจันทร์เย็นยะเยือกส่องมาที่ใบหน้าเย็นยะเยือกแบบเดียวกันของฉินเย่ว์เหมยทว่ามิทำให้ผู้คนรู้สึกหนาวเหน็บหัวใจ กลับขับความเย็นชาชวนหลงใหลของฉินเย่ว์เหมยให้เด่นชัดขึ้นปอยผมที่ปลิดปลิว ใบหน้าอันยลโฉม ทำให้นางดูเป็นความงดงามของชนชั้นสูงลมพัดลอดผ่านทางหน้าต่างมาทำให้ผมตรงหน้าผากของฉินเย่ว์เหมยยุ่งเหยิงเฉินฝานเอื้อมมือไปจัดผมให้ฉินเย่ว์เหมยอย่างแผ่วเบาหาได้ยากที่ฉินเย่ว์เหมยจะมิผลักเฉินฝานออกไปความรู้สึกลึกซึ้งในใจของทั้งสองคนหยั่งรากลึกขึ้นเรื่อย ๆในตอนที่สติหลุดลอย ริมฝีปากของเฉินฝานก็ไปอยู่ใกล้ริมฝีปากของฉินเย่ว์เหมยแล้ว...“ฝ่าบาท!”หงอิงเดินมาที่ทางเข้าตำหนักหย่งเหอด้วยท่าทางรีบร้อน“ข้า ข้าน้อยมิเห็นอันใดทั้งสิ้น!”หงอิงมิอยากรบกวนพวกเฉินฝาน จึงรีบหันหน้า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 934

    ปรากฏว่าหมอหลวงสวีกลับเข้ามาอย่างกะทันหัน หากหมอหลวงสวีอยู่ การที่เสิ่นหมิงหยวนคิดที่จะให้เสิ่นไต้มั่นแสร้งตั้งครรภ์ก็แทบจะเป็นไปมิได้แล้วตอนนี้ต่อให้เขาจะหาสตรีที่ตั้งครรภ์มาได้แล้ว ก็ต้องให้เสิ่นไต้มั่นตั้งครรภ์ให้ได้เสียก่อนหลังจากที่เฉินฝานออกไปปราบก่อกบฏแล้ว ฉินเย่ว์เหมยก็อ้างว่ารู้สึกกระวนกระวายใจอย่างมากจึงปฏิเสธมิเข้าวังหลังกองกองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งแสนสามหมื่นนายบุกเข้าโจมตีเมืองหลวง ฉินเย่ว์เหมยมิเข้าวังหลัง เสิ่นหมิงหยวนก็พูดอะไรมากมิได้ตอนนี้กำจัดกองกำลังกบฏได้แล้ว เสิ่นหมิงหยวนจึงให้แม่ของเสิ่นไต้มั่นเข้าวัง เพื่อที่ให้นางทำทุกวิถีทางพยายามเอาอกเอาใจฉินเย่ว์เหมย และตั้งครรภ์รัชทายาทก่อนปีใหม่ให้จงได้หลังจากที่ขึ้นปีใหม่ ท้องพระคลังก็จะถูกเฉินฝานผลาญจนหมดสิ้นถึงตอนนั้น เฉินฝานก็ถูกตราหน้าว่าเป็นคนขายชาติกิน อย่าว่าแต่ตำแหน่งอัครเสนาบดี แม้แต่ชีวิตเขาก็คงจะรักษาไว้มิได้!เมื่อเฉินฝานตายแล้ว เสิ่นหมิงหยวนก็จะเนรเทศฉินเย่ว์เหมยออกไปทันที ถึงตอนนั้น เขาจะมิรีรอ ผลักดันให้เสิ่นไต้มั่นที่กำลังตั้งครรภ์ขึ้นบัลลังก์ทันทีความปรารถนาที่โค่นล้มบัลลังก์ของเสิ่นหมิงหยว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 935

    “ตอนนี้แคว้นต้าชิ่งของพวกเจ้าเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของพวกเราแล้ว ข้าต้องมาส่งสินค้าด้วยตนเองอยู่แล้ว”ตอนที่โอวหยางน่าหลันกล่าว ก็ยื่นมือออกมาคิดจะฉวยโอกาสแตะตัวเฉินฝาน ทว่าเฉินฝานก็สามารถเบี่ยงตัวหลบได้ทันท่วงทีอีกครั้งโองหยางน่าหลันใช้มือจับคางพลางหรี่ตามองเฉินฝานหลบได้ก็หลบไปเถอะ ดูสิว่าเจ้าจะหลบได้สักกี่น้ำตอนที่มาส่งสินค้าครั้งหน้า ข้าจักต้องทำให้เจ้ายอมขึ้นเตียงปล่อยตัวให้ข้าเล่นสนุกตามใจให้จงได้เมื่อเดินไปส่งโอวหยางน่าหลันเรียบร้อยแล้ว เฉินฝานที่เพิ่งเดินมาถึงจวนอัครเสนาบดีของตน ก็เห็นว่ามีคนผู้หนึ่งเดินออกมาต้อนรับ“สามัญชนหลี่ซานทำความเคารพท่านอัครเสนาบดี!”คนที่เดินออกมารับคือหลี่ซานการปรากฏตัวของหลี่ซานมิใช่เรื่องบังเอิญ เป็นเพราะเฉินฝานเรียกเขามาต่างหาก“พี่หลี่ ระหว่างพวกเรามิจำเป็นต้องพูดจาตามมารยาทเพียงนั้นหรอก เจ้ารีบตามข้ามาเถิด”เฉินฝานและหลี่ซานพูดคุยกันอยู่ในห้องหนังสือตั้งแต่หัววันจนดึกดื่น-เรื่องที่ต้าชิ่งกว้านซื้ออาวุธจากแคว้นหลู่เพียงในพริบตาเดียว ทำให้แคว้นโดยรอบแตกตื่นทันทีล้วนพากันคาดเดาว่าต้าชิ่งกำลังเตรียมทำสงคราม จ้องที่จะโจมตีแคว้นใด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 936

    ราชทูตต่างแคว้นที่มาแย่งซื้ออาวุธของแคว้นหลู่ยังคงทยอยมาที่เมืองหลวงแคว้นหลู่อย่างมิขาดสายเข้าสู่วันที่เจ็ด“องค์หญิง!”“เลขาธิการฝ่ายพิธีการ!” โอวหยางน่าหลันที่นั่งอยู่รถเข็นโบกมืออย่างเหนื่อยหน่าย “ราชทูตแคว้นใดมามาก็มิต้องกราบทูลแล้ว พวกเจ้าฝ่ายพิธีการจัดการตามสะดวกเถิด!”“องค์หญิง กระหม่อมมิใช่เลขาธิการกรมพิธีการ เป็นเลขาธิการกรมคลังขอรับ!”“โอ้ กรมคลังนี้เอง!” โอวหยางน่าหลันเพิ่งจะรู้ตัวว่าแท้จริงแล้วคนที่เข้ามามิใช่เลขาธิการฝ่ายพิธีการ รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที“เจ้ามีเรื่องอันใด? รีบกราบทูลมา!”โอวหยางน่าหลันร้อนรนใจนางอยากจะรีบจัดการราชกิจในสำนักให้เสร็จโดยเร็ว จากนั้นจะรีบมุ่งหน้าไปโรงทำอาวุธเร่งเร้าให้เหล่าช่างตีเหล็กทำอาวุธให้เสร็จโดยเร็วนางมิอยากรอจนถึงหนึ่งเดือน อยากจะรีบทำอาวุธชุดแรกของต้าชิ่งให้เสร็จสิ้นโดยเร็วนางอดใจรอที่จะพบเฉินฝานอีกครั้งมิไหวแล้วเรือนร่างและใบหน้าของเฉินฝานติดตรึงอยู่ในใจของนางแล้วเฉินฝานเป็นดาวนำโชคของนางจริง ๆ นางไปต้าชิ่งเพียงครั้งเดียว มิเพียงแต่มีโอกาสที่จะได้ครอบครองเขตแดนของต้าชิ่ง และยังทำเงินได้จำนวนมหาศาลอีกด้วย“อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 937

    เฉินฝานเดินเข้ามาในพระราชวังก็ได้กลิ่นสาบเนื้อวัวที่รุนแรงทันทีขุนนางในราชสำนักส่วนใหญ่เป็นขุนนางขั้นสามขั้นสี่ มิมีที่นาและร้านค้า โดยเฉพาะนักว่าการที่มิคดโกงเหล่านั้น ปกติก็สามารถใช้เบี้ยหวัดรายเดือนใช้ชีวิตได้อย่างมิต้องกังวล เมื่อมิได้เบี้ยหวัดรายเดือนจึงมีปัญหาเรื่องปากท้องทันทีเพื่อที่จะแก้ปัญหานี้ ฉินเย่ว์เหมยจึงจำใจซื้อเนื้อวัวจากแคว้นหลู่มาแจกจ่ายให้เหล่าขุนนางหากอยากปรุงเนื้อวัวให้เลิศรส ต้องอาศัยฝีมือในการปรุงรสอย่างมากโดยปกติคนต้าชิ่งมิชอบรับประทานเนื้อวัวเท่าใดนัก คนส่วนใหญ่มิได้ชำนาญในการปรุงรส ผนวกกับที่เนื้อวัวแคว้นหลู่กลิ่นสาบรุนแรงอย่างมากกลิ่นสาบเนื้อวัวนี้ตลบอบอวลไปทั้งพระราชวังจนทำให้เฉินฝานสำลักจนแทบอยากอาเจียนออกมา เขาใช้มือปิดจมูกตามสัญชาตญาณท่าทางของเขาทำให้เหล่าขุนนางทุกคนจ้องมองด้วยความเดือดดาลตอนนี้เฉินฝานเป็นอัครเสนาบดีเบื้องซ้าย พวกเขาจึงทำได้เพียงเก็บความเดือดดาลไว้ในใจปิดจมูกงั้นรึ เจ้ายังมีหน้ามาปิดจมูกอีกหรือ ที่ต้องเป็นเช่นนี้ล้วนเป็นความผิดของเจ้ามิใช่รึ?หากสายตาสามารถฆ่าคนได้ เกรงว่าตอนนี้เฉินฝานคงถูกแทงเป็นรูพรุนไปนานแล้วฉินเย่

Bab terbaru

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 990

    หลิวเกาจัวที่ระมัดระวังตัวสังเกตสีหน้าของแคว้นอื่นมานาน ชินกับโดนกดขี่โดนรังแกมาตั้งนานแล้ว ดังนั้นเมื่อครู่นี้แคว้นจ้าวบอกว่าจะคืนเมืองเฟิ่งหวงให้แลกกับเงินสิบล้านตำลึง หลิวเกาจัวจึงดีใจมากจริง ๆ“ใช่! ค่ายึดครองสิบล้านตำลึง ต้องไม่ขาดแม้แต่แดงเดียว!” เสียงของเฉินฝานเด็ดเดี่ยวมั่นคง“ขอรับ ใต้เท้า ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้”หลิวเกาจัวเดินไปที่โถงด้านข้างด้วยความรู้สึกกระวนกระวายใจสุดขีดเพื่อเจรจากับทูตของแคว้นจ้าวต่อ ไม่นานนัก หลิวเกาจัวกลับมาพร้อมกับสีหน้าที่ดูย่ำแย่มาก“ใต้เท้า ฝ่าบาท แคว้นจ้าวไม่ยอมตกลง ยืนกรานว่าจะเอาสิบล้านตำลึงให้ได้ มิเช่นนั้นทหารของแคว้นจ้าวจะไม่ยอมถอนตัว นอกจากนี้...”หลิวเกาจัวมองเฉินฝานแวบหนึ่ง “แคว้นจ้าวพูดอีกว่าเงินสิบล้านตำลึงนี้จะขาดแม้แต่แดงเดียวไม่ได้” เมื่อฟังคำพูดของหลิวเกาจัวจบ เสิ่นหมิงหยวนที่เงียบมาตลอดก็ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยเป็นอัครเสนาบดีเบื้องซ้ายได้ไม่กี่วัน โชคดีเอาชนะศึกกับแคว้นหลู่มาได้ก็คิดว่าตนเองยิ่งใหญ่เสียแล้ว“นี่แคว้นจ้าวรังแกกันเกินไปแล้วจริง ๆ หลิวเกาจัว ท่าทีรับปากลูกเดียวของเจ้าเช่นนี้จะไปเจรจาได้อย่างไร?”เสิ่นหมิงหยวนตำ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 989

    “เงื่อนไขอะไรกัน? ท่านจงรีบกล่าวมา ฝ่าบาทย่อมทรงตัดสินพระทัยได้” เสิ่นหมิงหยวนกล่าว“ทูตจากแคว้นจ้าวกล่าวว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมาเมืองเฟิ่งหวงตกอยู่ในความวุ่นวาย โจรผู้ร้ายชุกชุม ประชาชนอยู่กันอย่างทุกข์ยากลำบาก มีชาวเมืองเฟิ่งหวงไปขอร้องฮ่องเต้จ้าวที่แคว้นจ้าว ฮ่องเต้จ้าวทรงมีเมตตา เมื่อเห็นว่าต้าชิ่งกับแคว้นหลู่กำลังทำสงครามกัน ไม่มีเวลาว่างมาดูแล จึงดูแลแทนให้ชั่วคราว”“หลังจากแคว้นจ้าวเข้ามาดูแลเมืองเฟิ่งหวงก็ได้ทุ่มกำลังทหารและทรัพย์สิน แก้ไขสถานการณ์ความวุ่นวายและความเป็นอยู่ที่ยากลำเค็ญของประชาชนเมืองเฟิ่งหวง”“ตอนนี้ขอเพียงต้าชิ่งของเรายินดีมอบเงินสิบล้านตำลึงเงินให้แก่แคว้นจ้าว จ้าวป๋อก็จะคืนเมืองเฟิ่งหวงให้แก่ต้าชิ่งของเรา ทูตกล่าวว่าฮ่องเต้จ้าวทรงเน้นย้ำว่าเงินสิบล้านตำลึงนี้ มิใช่เป็นการเรียกร้องจากต้าชิ่งของเรา แต่เป็นเพียงการขอเงินคืนจากการที่แคว้นจ้าวได้ลงทุนให้กับเมืองเฟิ่งหวงในช่วงหลายเดือนมานี้”“ฮ่องเต้จ้าวยังตรัสอีกว่า ปีที่แล้วแคว้นจ้าวประสบภัยน้ำท่วม ปัจจุบันก็ยังลำบากมาก หวังว่าฝ่าบาทจะทรงเข้าใจ”หลิวเกาจัวเพิ่งจะกล่าวจบ ก็มีขุนนางพยักหน้าติดต่อกันเมืองเฟิ่งห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 988

    คิดว่าเฉินฝานมิใช่คนเช่นนี้ เมื่อโต้เถียงกับผู้อื่น ปรากฏว่าพูดสู้ผู้อื่นมิได้ เขาจึงสะกดกลั้นความโกรธไว้ ก่อนจะเดินมาถึงด้านนอกบ้านเฉินฝานโดยไม่รู้ตัว“นายท่านของเราปฏิบัติกับพี่น้องกองทัพลาดตระเวนเช่นใด พวกเจ้ายังไม่รู้อีกหรือไร? พวกเจ้าพูดเช่นนี้ลับหลัง ทำให้คนผิดหวังมากเหลือเกิน โดยเฉพาะเจ้าเสี่ยวซื่อ นายท่านของข้าปฏิบัติกับเจ้าอย่างไร? ในใจเจ้าไม่รู้อีกหรือ?” ฉินเย่ว์เจียวที่ไม่หายโกรธยังคงตำหนิต่อ เสี่ยวซื่อเก็บงำความรู้สึกไว้จนหน้าแดงก่ำขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายก็คุกเข่าลงต่อหน้าเฉินฝานดังตุบ“ใต้เท้า เป็นความผิดของข้าน้อยเองขอรับ ข้าน้อยไม่ควรเชื่อคำพูดส่งเดชของผู้อื่นจนเข้าใจใต้เท้าผิดไป ข้าน้อยสมควรตายหมื่นครั้ง!”เสี่ยวซื่อกล่าวพลางตบหน้าตนเองดังเพียะ ๆๆ“เสี่ยวซื่อ อย่าทำเช่นนี้เลย!” เฉินฝานโน้มตัวลง จับมือเสี่ยวซื่อไว้ ประคองเขาให้ลุกขึ้นมาการจัดพิธีศพอย่างยิ่งใหญ่ให้แก่พี่น้องกองทัพลาดตระเวนที่เสียสละชีวิต รวมถึงการส่งเงินชดเชยไปยังที่บ้านของพี่น้องเหล่านั้น เขาไม่ได้ไปเนื่องจากงานยุ่งมากเกินไป แต่ได้สั่งการเหอจื่อหลินแล้ว เหอจื่อหลินก็ไปจัดการด้วยตนเองหมดแล้วตอนนี้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 987

    ตอนแรกเสิ่นหมิงหยวนยังคิดจะใช้ข้ออ้างเรื่องขาดแรงงานมาสร้างความลำบากให้เฉินฝาน ผลปรากฏว่าทางฝั่งของโอวหยางน่าหลันกลับจัดการหาแรงงานคนมาให้ทันทีตอนนี้ต้าชิ่งได้แบ่งปันเสบียงอาหารมากมายให้แก่แคว้นหลู่ ชาวแคว้นหลู่หวาดกลัวความอดอยาก ถึงได้อาสามาที่ต้าชิ่ง ช่วยต้าชิ่งขุดคลองส่งน้ำ แม้ว่าไม่มีเงินให้ก็ไม่เป็นไร ดูแลอาหารสามมื้อเป็นหลักก็พอนอกจากนี้ทุกคนต่างรู้ว่าสตรีชาวต้าชิ่งทำอาหารเก่งมากมาทำงาน หากโชคดีอาจได้แต่งภรรยากลับไปที่บ้าน ต่อให้ไม่ได้แต่งงานก็ยังได้กินอาหารเลิศรสไปอีกหลายเดือนวันนี้ เฉินฝานเพิ่งกลับมาจากกรมโยธาช่วงนี้เขาไปที่กรมโยธาทุกวันเพื่อหารือเรื่องการขุดคลองส่งน้ำตอนที่กลับถึงบ้าน ฟ้าก็มืดแล้ว“ปัง!” มีหินก้อนหนึ่งกระแทกใส่รถม้าของเฉินฝานอย่างแรง ห่างจากเฉินฝานไม่ถึงสองเซนติเมตรแม้ว่าหินก้อนนั้นจะไม่ใหญ่ แต่ถ้ากระแทกโดนหัวของเฉินฝานเข้าละก็ เฉินฝานคงหัวแตกเลือดไหลแล้ว“ใครน่ะ!”เย่ว์หนูพุ่งตัวออกไปไม่นานก็ลากตัวคนผู้หนึ่งออกมาจากความมืด“ท่านแม่ทัพเย่ว์หนู ท่านเบามือหน่อยเถิด ข้าเอง ข้าคือเสี่ยวซื่อ!”“เย่ว์หนู! รีบปล่อยคนเสีย!” เวลานี้เฉินฝานก็ฟังออกเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 986

    เฉินฝานตบบั้นท้ายกลมกลึงของโอวหยางน่าหลันทีหนึ่ง “พอได้แล้ว ไม่ต้องเสแสร้งแล้ว!”“ข้าไม่ได้เสแสร้งนะ จริง ๆ แล้วข้า...”เสียงของโอวหยางน่าหลันขาดหายไป เพราะว่า...“ข้าจากเมืองหลวงของต้าชิ่งมาเกือบครึ่งเดือนแล้ว เป็นห่วงลูกเมียที่บ้าน ไม่อาจไปแคว้นหลู่จัดพิธีแต่งงานกับท่านได้ จัดขึ้นที่เมืองลู่ตูแห่งนี้ละกัน”“จริงหรือ? ช่างดีเหลือเกิน!”โอวหยางน่าหลันโผเข้าหาตัวเฉินฝานทันที“สามี ช่วงเวลาที่งดงามเช่นนี้ เหตุใดเราไม่สู้...”มือของโอวหยางน่าหลันเริ่มอยู่ไม่สุขอีกครั้งเฉินฝานบีบเอวบางของโอวหยางน่าหลัน“ร่านนัก!”เสียงยั่วยวนดังขึ้นอีกครั้ง.....ตอนที่ฉินเย่ว์เหมยส่งโอวหยางน่าหลันกลับไป ก็ถามนางว่าเหตุใดถึงยืนกรานจะแต่งงานกับเฉินฝานให้ได้คำตอบของโอวหยางน่าหลันธรรมดามากเหตุผลแรกคือนางชอบเฉินฝานเหตุผลข้อที่สองคือแคว้นหลู่มีเฉินฝานก็จะดำรงอยู่ได้ตลอดไป“เหตุผลข้อที่สองของท่านมันเกินจริงไปหรือไม่” ฉินเย่ว์เหมยกล่าว“ข้ากล่าวเกินจริงหรือไม่? ท่านรู้ดีกว่าข้ามิใช่หรือ?” โอวหยางน่าหลันฉุนเฉียวเล็กน้อย“ท่านอย่าได้ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีเพียงเพราะว่าเขาใส่ใจท่าน หากท่านไม่ทะนุถนอ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 985

    “หากเงื่อนไขแบบนี้ยังดึงดูดใจไม่ได้ เช่นนั้นความจริงแล้วท่านก็เป็นคนไร้น้ำยา บุตรชายฝาแฝดสี่คนคงอาศัยน้ำเชื้อของผู้อื่น เรื่องเล่านี้คงจะเป็นความจริงสินะ?”โอวหยางน่าหลันพูดข่ม“โอวหยางน่าหลัน ท่านรู้ตัวหรือไม่ว่าพูดอะไรออกมา?”คนที่โมโหก่อนคือฉินเย่ว์เหมย ใบหน้าเย็นชางดงามของนางดูโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ“หรือว่าเราพูดผิดไป? ต้าชิ่งของพวกท่านบุรุษน้อยสตรีมาก เขาเป็นถึงอัครเสนาบดีผู้ทรงเกียรติ แต่ที่บ้านกลับมีภรรยาไม่ถึงสิบคน หากเขาไม่ใช่คนไร้น้ำยา แล้วภรรยาที่บ้านจะน้อยถึงเพียงนั้นได้อย่างไร?”“ภรรยาของเขาไม่ได้น้อย เขา...”“เขาอะไร?” โอวหยางน่าหลันกำเริบเสิบสานมากขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “เขา...” ฉินเย่ว์เหมยหน้าแดงระเรื่อจากความโกรธเกรี้ยวเท่านั้นวังหลังของต้าชิ่งเป็นของเฉินฝานทั้งหมดแต่ฉินเย่ว์เหมยไม่อาจเอ่ยเรื่องนี้ออกมาได้“ฝ่าบาท อย่าทรงกริ้ว ให้กระหม่อมสั่งสอนสักยก นางก็จะเชื่อฟังแล้ว”เสียงพูดยังไม่ทันจบ เฉินฝานก็แบกโอวหยางน่าหลันขึ้นมาแล้วเดินเข้าไปในห้องไม่นานนัก... เสียงร้องตะโกนของสตรีและเสียงคำรามต่ำของบุรุษก็ดังสลับกันขึ้นมา“รู้ความผิดแล้วหรือยัง?”

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 984

    “หลังจากแต่งงานกับองค์หญิงโอวหยางแล้ว เจ้าจะได้เป็นอัครเสนาบดีของทั้งสองแคว้น ระหว่างแคว้นต้าชิ่งกับแคว้นหลู่ เจ้าชอบอาศัยอยู่ฝั่งไหนก็สุดแล้วแต่เจ้าจะปรารถนา” คำพูดของฉินเย่ว์เหมยทำให้ทุกคนตะลึงงันอีกครั้ง“อัครเสนาบดีของทั้งสองแคว้น? นี่ก็ได้ด้วยหรือ?”“เหตุใดจะไม่ได้เล่า หลังจากที่ใต้เท้าเฉินได้เป็นอัครเสนาบดีของแคว้นหลู่แล้ว แคว้นหลู่ย่อมไม่คิดโจมตีแคว้นต้าชิ่งของเราอีกแน่นอน เรื่องดี เรื่องดีมากเลย!”“ใต้เท้า อย่าได้ลังเล รีบตอบตกลงเถิด คืนนี้ก็เข้าห้องหอได้แล้ว!”“ห้องหอ ๆ ในหัวเจ้านอกเรื่องนี้แล้ว ยังคิดเรื่องอื่นได้อีกไหม?” เหอจื่อหลินตบหัวมั่วเซิน“สองเรื่องที่งดงามที่สุดในชีวิตมนุษย์คือตอนที่สอบได้เป็นขุนนางกับคืนส่งตัวเข้าหอ การสอบได้เป็นขุนนางไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับใต้เท้าแล้ว จะเหลือก็แต่คืนส่งตัวเข้าหอไม่ใช่หรือ? ท่านแม่ทัพ หรือว่าท่านไม่คิด?” มั่วเซินหัวเราะคิกคักพลางหลบหลีก“ไอ้หนู เจ้ายังกล้าหลบอีก พวกเจ้าก็ด้วย ยังจะกล้าหัวเราะอีกหรือ ข้าจะทำให้พวกเจ้าหัวเราะ ทำให้พวกเจ้าหัวเราะไปเลย”ขณะที่เหอจื่อหลินฟาดมั่วเซิน เวลาเดียวกันก็ฟาดพวกขุนพลคนอื่น ๆ อีกด้วยต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 983

    “นางต้องการให้เจ้าแต่งงานกับนาง!”“???!!!”ทุกคนตกตะลึงกันหมด เคยคาดเดาข้อเรียกร้องทุกรูปแบบ แต่ไม่มีใครเคยคาดคิดถึงข้อเรียกร้องนี้เลยโอวหยางน่าหลันยืนหยัดมานานหลายวันขนาดนี้ก็เพราะเรื่องนี้หรือ?“หึ ๆ” เสียงหัวเราะของเหอจื่อหลินทำลายความเงียบสงัด “แต่ไหนแต่ไรมีแต่วีรบุรุษโกรธเพื่อหญิงงาม ตอนนี้กลับเป็นหญิงงามที่โกรธเพื่อวีรบุรุษ ใต้เท้า เสน่ห์ของท่านทำให้ข้าน้อยนับถือแล้ว”“ข้าน้อยก็นับถือ ใต้เท้า ท่านยังมัวลังเลอะไรอยู่เล่า? รีบตอบตกลงเถิด”“ตอบตกลงตอนนี้ คืนนี้ก็เข้าห้องหอเลย”“กลางคืนพยายามสักหน่อย ปีหน้าใต้เท้าก็ได้อุ้มบุตรชายแล้ว”“ดูเจ้าพูดสิ ใต้เท้ามีบุตรชายตั้งนานแล้วนะ”“นี่เจ้าไม่เข้าใจใช่หรือไม่ ไฉนเลยจะรังเกียจที่มีบุตรชายมากเกินไป?”ปกติแล้วเฉินฝานไม่ได้ถือตัว ทั้งยังร่วมกินร่วมอยู่ด้วยกัน ดังนั้นขุนพลกองทัพลาดตระเวนเหล่านั้นจึงพากันหยอกล้อ“พวกเจ้าแต่ละคน ไม่มีความสำรวมเลย ฝ่าบาทยังทรงประทับอยู่ตรงนี้นะ!”ขุนพลเหล่านั้นยิ่งพูดยิ่งติดลมขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ควบคุมตัวเองเลย เหอจื่อหลินจึงรีบห้ามปรามแม้เฉินฝานจะไม่ถือสาขุนพลเหล่านี้ที่พูดหยอกล้อต่อหน้า แต่ฝ่าบาทอาจ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 982

    “ได้เลย หมูน้ำแดง ซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน จัดให้เลยพรุ่งนี้” เฉินฝานตอบเสียงดัง“หมูน้ำแดง ซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน!”ทหารทุกคนล้วนเข้าใจจุดประสงค์ที่เฉินฝานให้พวกเขากินดื่มกันยกใหญ่บนภูเขา ดังนั้นจึงพร้อมใจกันทวนชื่ออาหารเสียงดัง“ใต้เท้า!”ขณะที่เฉินฝานกำลังเตรียมตัวจะกลับไปพักผ่อน ทันใดนั้นเหอจื่อหลินก็พาสตรีนางหนึ่งมาหาเขาสตรีผู้นั้นเป็นคนที่มาจากด้านล่างหุบเขา นางคือสาวใช้คนสนิทของโอวหยางหน่าหลัน“ข้าขอพบใต้เท้าเฉิน อัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายของพวกท่าน!” สาวใช้ผู้นั้นเอาแต่กล่าวเช่นนี้ซ้ำ ๆ “ข้านี่แหละ” เฉินฝานกล่าวสาวใช้ผู้นั้นมองเฉินฝานอย่างพิจารณาพลางเอ่ยพึมพำในปากว่า “ใบหน้าขาวสะอาด รูปร่างกำยำ เสียงทุ้มนุ่มลึก”“เช่นนั้นข้าตรงกับเงื่อนไขหรือไม่?” เฉินฝานเอ่ยด้วยรอยยิ้ม“ยิ้มแล้วดูซื่อ ๆ” สาวใช้มองเฉินฝานแล้วเอ่ยพึมพำกับตนเองอีกครั้ง“อ้อ!” เฉินฝานยิ้มพลางพยักหน้า “ที่แท้ในสายตาองค์หญิงของพวกเจ้าข้ามีภาพลักษณ์เช่นนี้เอง!”“องค์หญิงของเราตรัสว่าพวกเรายอมจำนนก็ได้!” สาวใช้ผู้นั้นกล่าว“นี่เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องยิ่งนัก องค์หญิงของพวกเจ้าควรทำเช่นนี้ตั้งนานแล้ว”“แต่ว่าพระ

Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status