แชร์

บทที่ 937

ผู้เขียน: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
เฉินฝานเดินเข้ามาในพระราชวังก็ได้กลิ่นสาบเนื้อวัวที่รุนแรงทันที

ขุนนางในราชสำนักส่วนใหญ่เป็นขุนนางขั้นสามขั้นสี่ มิมีที่นาและร้านค้า โดยเฉพาะนักว่าการที่มิคดโกงเหล่านั้น ปกติก็สามารถใช้เบี้ยหวัดรายเดือนใช้ชีวิตได้อย่างมิต้องกังวล เมื่อมิได้เบี้ยหวัดรายเดือนจึงมีปัญหาเรื่องปากท้องทันที

เพื่อที่จะแก้ปัญหานี้ ฉินเย่ว์เหมยจึงจำใจซื้อเนื้อวัวจากแคว้นหลู่มาแจกจ่ายให้เหล่าขุนนาง

หากอยากปรุงเนื้อวัวให้เลิศรส ต้องอาศัยฝีมือในการปรุงรสอย่างมาก

โดยปกติคนต้าชิ่งมิชอบรับประทานเนื้อวัวเท่าใดนัก คนส่วนใหญ่มิได้ชำนาญในการปรุงรส ผนวกกับที่เนื้อวัวแคว้นหลู่กลิ่นสาบรุนแรงอย่างมาก

กลิ่นสาบเนื้อวัวนี้ตลบอบอวลไปทั้งพระราชวังจนทำให้เฉินฝานสำลักจนแทบอยากอาเจียนออกมา เขาใช้มือปิดจมูกตามสัญชาตญาณ

ท่าทางของเขาทำให้เหล่าขุนนางทุกคนจ้องมองด้วยความเดือดดาล

ตอนนี้เฉินฝานเป็นอัครเสนาบดีเบื้องซ้าย พวกเขาจึงทำได้เพียงเก็บความเดือดดาลไว้ในใจ

ปิดจมูกงั้นรึ เจ้ายังมีหน้ามาปิดจมูกอีกหรือ ที่ต้องเป็นเช่นนี้ล้วนเป็นความผิดของเจ้ามิใช่รึ?

หากสายตาสามารถฆ่าคนได้ เกรงว่าตอนนี้เฉินฝานคงถูกแทงเป็นรูพรุนไปนานแล้ว

ฉินเย่
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 938

    เฉินฝานหอบกองสาสน์กราบทูลเดินมานั่งข้างฉินเย่ว์เหมย “เรื่องอันใดรึ?”“จักรพรรดินีอีจี๋แคว้นเหมี่ยน จะมาถึงเมืองหลวงในอีกสองวัน”“อีจี๋จะมาถึงแล้วงั้นรึ?”เฉินฝานยินดียิ่ง ก่อนหน้าที่เขาเรียกหลี่ซานมาเพื่อที่จะให้เขาไปแคว้นเหมี่ยนคิดมิถึงว่าฉินเย่ว์เหมยจะรู้เรื่องที่ว่าอีจี๋จะมาก่อนเขาเสียอีก“แต่...” เฉินฝานขมวดคิ้ว “ไฉนนางเดินทางมาด้วยตนเองล่ะ? ตอนนี้ตั้งครรภ์จวนจะเก้าเดือนใกล้คลอดแล้ว มิควรเดินทางไกล!”“เจ้า...” ฉินเย่ว์เหมยกล่าวถามเฉินฝานด้วยเสียงเยือกเย็น “ไยเจ้าจึงรู้ว่าจักพรรดินีอีจี๋ตั้งครรภ์และใกล้จะถึงกำหนดคลอดด้วย...เจ้า!”ฉินเย่ว์เหมยหน้านิ่วคิ้วขมวด “หรือว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเจ้ารึ?”มิต้องรอให้เฉินฝานกล่าวตอบ ฉินเย่ว์เหมยใช้สาสน์กราบทูลฉบับหนึ่งฟาดไปที่ศีรษะเฉินฝานทันที “ช่างเป็นชายเสเพลมักมากเสียจริง!”ฉินเย่ว์เหมยโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจนลุกขึ้นเดินเข้าไปในตำหนักด้านในเฉินฝานคิดว่าฉินเย่ว์เหมยคงเข้าไปประเดี๋ยวเดียวก็ออกมาเหมือนเคย ปรากฎว่าผ่านไปนานแล้วก็ยังมิออกมาเฮ้อเฉินฝานยักไหล่ สตรีช่างเอาแต่ใจเสียจริง“ฝ่าบาท!” เฉินฝานเดินเข้าไปตำหนักในเพื่อแสดงความเคา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 939

    “จักรพรรดินีแคว้นเหมี่ยนมีความเกี่ยวข้องอันใดกับสงครามการค้าระหว่างพวกเราต้าชิ่งและแคว้นหลู่?”ฉินเย่ว์เหมยงุนงงอย่างมาก“แคว้นเหมี่ยนมีพื้นที่น้อยกว่าแคว้นหลู่เสียอีก จำนวนผู้ชายก็มิได้มากมาย หากจักรพรรดินีแคว้นเหมี่ยนจะประกาศสงครามกับแคว้นหลู่เพื่อพวกเราต้าชิ่ง ข้าคิดว่า...”ฉินเย่ว์เหมยจ้องแววตาของเฉินฝานอย่างจริงจัง น้ำเสียงหนักแน่น “ราษฎรแคว้นเหมี่ยนจะต้องมิยินยอมเป็นแน่ หรือเจ้าคิดที่ให้จักรพรรดินีแตกหักกับราษฎรแคว้นเหมี่ยนเพียงเพราะเจ้าคนเดียวรึ?”อย่างไรก็ตามตอนนี้ฉินเย่ว์เหมยก็ยอมแตกหักกับทุกคนในต้าชิ่งเพื่อเฉินฝานแล้วความกดดันที่จับต้องมิได้เช่นนั้น นางเข้าใจเป็นอย่างดีเฉินฝานส่ายหน้า กล่าวอย่างจริงจัง “จะมิเป็นเช่นนั้นอย่างแน่นอน แคว้นเหมี่ยนเป็นของอีจี๋ ถึงแม้ตอนนี้ข้าจะเป็นสามีของนาง ทว่าข้ามิเคยคิดอยากได้ของของนาง”ฉินเย่ว์เหมย: “หากมิมี ไฉนเจ้าต้องเรียกให้จักรพรรดินีมาตอนหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้?”“เพราะอีจี๋ร่ำรวยไงเล่า!”เฉินฝานกลับมีท่าทียิ้มแย้มแจ่มใสมิเคร่งขรึมมากนักดังเดิมแล้ว“มิได้จ่ายเบี้ยหวัดรายเดือนนานแล้ว ครอบครัวข้าแร้นแค้นแทบจะมิมีอันจะกินแล้ว”“อ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 940

    “ตอนนี้ร้านสิ่งทอขาดแคลนผ้า ร้านฟืนก็มิมีฟืนแล้ว ถึงแม้ร้านข้าวจะยังพอมีข้าวอยู่บ้าง ทว่าข้าวที่คุณภาพแย่ก็ยังราคาแพง เมื่อสอบถามพบว่าตอนนี้ทางการเก็บภาษีสูงลิ่ว เหล่าเจ้าของร้านมิมีเงินซื้อสินค้ามาขายแล้ว”“โอ้ เมื่อก่อนข้ายกย่องใต้เท้าเฉินอย่างมาก เขาสามารถฝึกกองกำลังลาดตระเวนห้าหมื่นคนให้เป็นผู้กล้าได้ และยังสามารถกำจัดกองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งแสนสามหมื่นคนให้ราบเป็นหน้ากลองได้อีก อายุยังมิเยอะก็สามารถเป็นอัครเสนาบดีเบื้องซ้ายได้แล้ว มิคิดเลยว่าเขาจะกลายเป็นแบบนี้ ข้ามิเข้าใจว่าเหตุใดเขาต้องซื้ออาวุธมากมายเพียงนั้น”“ข้าว่าเขาหลงระเริงแล้วกระมัง คิดว่ากองกำลังลาดตระเวนห้าหมื่นคนของตนสามารถเอาชนะกองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งแสนสามหมื่นคนได้ คงจะคิดแผนจะไปโจมตีแคว้นใดแคว้นหนึ่งอยู่กระมัง”“นี่เป็นความอันตรายของคนที่อายุน้อยแต่ได้รับตำแหน่งสูง อายุน้อยเกินไปก็ทำให้โอหังและหลงระเริงได้ง่าย!”“หลงระเริงเกินไปแล้วกระมัง มิเห็นค่าชะตาชีวิตของพวกเราชาวบ้านเลยงั้นรึ?”“ข้าว่าตอนนี้เขาก็คงมิได้ใส่ใจพวกเราอยู่แล้ว!”“เหอะ ขุนนางจัญไร!”เสียงด่าประณามเฉินฝานของฝูงชนเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 941

    “ซ่า!” กลิ่นเหม็นมาพร้อมกับเสียงที่สาดมาตรงหน้า“นายท่าน!”ฉินเย่ว์เจียวกระโจนมาตรงหน้าเฉินฝาน เอาร่างบางบังให้เฉินฝานเฉินฝานที่เพิ่งกลับมาถึงเรือน ถูกคนสาดมูลวัวใส่“ใจกล้ายิ่งนัก!” ฉินเย่ว์เจียวตะคอกคนที่สาดมูลวัวใส่เฉินฝาน “พวกเจ้ากล้าทำร้ายท่านอัครเสนาบดีเบื้องซ้าย”“ถุย อัครเสนาบดีเบื้องซ้ายงั้นหรือ? ขุนนางชั่ว พวกข้าสาดใส่ขุนนางชั่วแล้วจะทำไม!”“ซ่า ซ่า ซ่า!”คนพวกนั้นไม่เพียงไม่กลัว แล้วยังสาดมูลวัวใส่เฉินฝานต่อ ทั้งยังสาดมากขึ้นเรื่อยๆ“ขุนนางชั่วคนนี้แหละ เอาเงินทั้งท้องพระคลังไปซื้ออาวุธของแคว้นหลู ทำให้ตอนนี้ชีวิตของพวกเราลำบาก!”“ขุนนางชั่วต้องถูกปลด ขุนนางชั่วต้องถูกปลด!”เย่ว์หนูนำเหล่าองครักษ์หญิงไปช่วยกันขับไล่ แต่สุดท้ายไม่เพียงไรประโยชน์ ในทางตรงกันข้ามมีคนมามากขึ้นเศษผัก มูลไก่ มูลวัว มีแม้กระทั่งอุจจาระคนสิ่งปฏิกูลมาจากทั่วทุกสารทิศ พุ่งไปทางเฉินฝาน“นายท่าน!”ฉินเย่ว์โหรวที่ได้ยินเสียงดังจึงวิ่งออกมา“อย่าเข้ามา!”เฉินฝานเพียงกระโดด อุ้มฉินเย่ว์โหรวหลบไปอีกทางอย่างรวดเร็ว“ตึ้ง!”หินก้อนหนึ่งถูกเขวี้ยงไปที่ประตู ตำแหน่งนั้น คือจุดที่เมื่อครู่ฉิ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 942

    “หลังจากวันนี้ ก็จะประชุมราชสำนักแล้ว ยาแรงต้องฉีดหลังจากประชุมราชสำนัก”เสิ่นหมิงหยวนลูบหนวดเครา ยิ้มด้วยความร้ายกาจหลังจากฟังยาแรงที่เสิ่นหมิงหยวนกล่าว เสิ่นหยวนเลี่ยงกังวลเล็กน้อย “ท่านพ่อ ยาแรงที่ท่านบอกรุนแรงจริงๆ แต่ยานี้จะได้ผลหรือไม่ได้ผลขอรับ?”แววตาของเสิ่นหมิงหยวนหม่นหมอง นัยน์ตาเปี่ยมไปด้วยความคับแค้นใจ “เช่นนั้นก็เพิ่มยาแรงอีก!”นี่คือโอกาสหายาก เขาไม่อาจพลาดโอกาสนี้ได้คนที่ดีใจเช่นเดียวกับเสิ่นหมิงหยวน เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ คือโอวหยางน่าหลันที่อยู่ไกลถึงแคว้นหลู่นางเริ่มนับมือรอแล้ว นับวันที่เฉินฝานมาแคว้นหลู่ มายังตำหนักองค์หญิงของนางเพียงนึกถึงใบหน้าเกลี้ยงเกลาขาวสะอาดนั่น ทว่าร่างกายกลับเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของเฉินฝาน โอวหยางน่าหลันตื่นเต้นยิ่งนัก ยากไปเยือนแคว้นต้าชิ่งในทันทีทันใด เอาตัวเฉินฝานมายังแคว้นหลู่นางกำนัลคนสนิทของโอวหยางน่าหลัน เคยถามโอวหยางน่าหลันด้วยความระมัดระวัง องค์หญิงรู้ได้อย่างไรว่าร่างกายของเฉินฝานเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อโอวหยางน่ากลับตอบด้วยความลำพองใจนางล่วงเกินเฉินฝานนับครั้งไม่ถ้วน เฉินฝานมีกล้ามหรือไม่ นางจะไม่รู้ได้อย่างไร?นางเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 943

    หากจะกล่าวว่าทุกคนที่สนับสนุนเฉินฝาน ล้วนถูกปิดล้อมโจมตี ล้วนบาดเจ็บ ก็ไม่ค่อยถูกนักเพราะว่า ยังมีอีกคนหนึ่ง ที่ไม่ถูกโจมตี ไม่บาดเจ็บ ซึ่งคนคนนี้ก็คือ...“คนพวกนี้ช่างไม่เจียมตน ตอนนั้นหากไม่ใช่ลูกเขยของเขาทำลายทหารเตียนตูหนึ่งแสนสามหมื่นนาย เจ้าพวกโง่เหล่านี้ยังจะเดินบนท้องถนนด้วยความสบายใจได้หรือ?”“ลูกเขยของข้าซื้ออาวุธจากแคว้นหลู่ ก็เพื่อเลี่ยงไม่ให้เกิดสงคราม เวลานี้ต้าชิ่งจะทำสงครามอีกครั้งได้อย่างไร!”เสียงด่าทอของตวนชินอ๋องดังมาจากประตูวังหลวงราวกับระฆัง ตวนชินอ๋องปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าทุกคนวันนี้เขาไม่ได้อยู่ในสภาพมึนเมาแล้ว เขากลายเป็นเทพผู้ดุร้ายด้วยท่าทีของเขาในตอนนี้ ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าใกล้ผู้ที่กล้าทำร้ายเขา เขาก็กล้าลงไม้ลงมือใช้ความรุนแรงโต้กลับ เขาไม่สนใจชื่อเสียงอยู่แล้ว“โธ่ ลูกเขยที่แสนดี!”เมื่อเห็นเฉินฝาน สีหน้าของตวนชินอ๋องเปลี่ยนไปในทันที เขายิ้มแล้ววิ่งไปทางเฉินฝาน“ในที่สุดข้าก็เจอเจ้าแล้ว สิบห้าวัน สิบห้าวันที่ข้าไม่ได้เจอเจ้า ข้าคิดถึงเจ้ายิ่งนัก”สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความรักของตวนชินอ๋อง หากคนไม่รู้ คงคิดว่าเฉินฝานเป็นยอดหญิงงามทว่าผู้อื่นไม่รู้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 944

    “ขุนนางที่รักลุกขึ้น!”ฉินเย่ว์เหมยคิดว่าตนพูดไม่กระจ่างชัด จึงพูดซ้ำอีกรอบทว่าขุนนางพวกนั้น ยังคงเหมือนเดิม คุกเข่าไม่ยอมลุกขึ้น“พวกเจ้าทำอะไรกัน?” ฉินเย่ว์เหมยตะโกนเสียงดังด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ฝ่าบาท!”คนพูดคือเลขาธิการกรมพิธีการหลิวเกาจัว“ท่านอัครเสนาบดีเบื้องซ้ายเฉินฝานดื้อดึงไม่ฟังผู้ใด กระทำตามเจตนาตนเอง ผลาญเงินในท้องพระคลังจนหมด ทำให้ราษฎรต้าชิ่งตกอยู่ในความยากลำบาก กระหม่อมคิดว่าใต้เท้าเฉิน มิควรดำรงตำแหน่งอัครเสนาบดีเบื้องซ้ายพ่ะย่ะค่ะ!”“ด้วยที่ว่า กระหม่อมใคร่ปลดท่านอัครเสนาบีเบื้องซ้ายเฉินฝาน กระหม่อมอยากขอให้ฝ่าบาทปลดท่านอัครเสนาบดีเบื้องซ้ายจากตำแหน่ง ลงโทษให้เป็นสามัญชน ส่งตัวเขาไปเผชิญหน้ากับราษฎร ให้ชาวบ้านลงโทษพ่ะย่ะค่ะ!”“คำนับ!”พูดจบ หลิวเกาจัวเอาหน้าผากคำนับพื้นอย่างแรงหนึ่งครั้ง“ฝ่าบาท กระหม่อมใคร่ปลดท่านอัครเสนาบีเบื้องซ้ายเฉินฝาน!”เหล่าขุนนางที่อยู่ด้านหลังหลิวเกาจัว พูดขึ้นพร้อมกันเสียงดังฟังชัดคาดว่า พวกเขาหารือกันล่วงหน้าแล้วเฉินฝานมองทุกอย่างที่เกิดขึ้นด้วยแววตาเย็นชาเสิ่นหมิงหยวนขี้ขลาดตาขาว ตนไม่กล้าเผชิญหน้ากับคนตรงๆ ให้หลิวเกาจัว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 945

    “ข้าไม่อยากเสียเวลากับคนอย่างพวกเจ้า ข้าหิวจะตายแล้ว ไปกันเถอะ!”มือใหญ่ของตวนชินอ๋องคว้าจับ เฉินฝานที่อยู่ข้างกายตน “เขยรัก พวกเราออกจากวังหลวง กลับไปดื่มสุราและเป่ายิงฉุบกันเถอะ!”“ไปไม่ได้!”เสิ่นหมิงหยวนลุกขึ้นยืนแล้วพูดทันควันตวนชินอ๋องหันหน้ากลับมา มองค้อนไปที่เสิ่นหมิงหยวน ตะคอกเสียงดังด้วยความโมโห “เจ้าเป็นใคร? มีสิทธิ์ใดมาขวางข้า?”ยามตวนชินอ๋องโมโห เขาเหมือนราชสีห์ในทุ่งหญ้า แม้ส่วนลึกในใจของเสิ่นหมิงหยวนจะรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย แต่เขาควบคุมสีหน้าได้ดียิ่งนัก ผู้อื่นมองไม่ออก“ฝ่าบาทยังไม่มีคำสั่งจบการประชุมราชสำนัก!”“มนุษย์ไม่ใช่เทพเซียน ตอนนี้เที่ยงวันแล้ว ตวนชินอ๋องหิวแล้ว เป็นเรื่องปกติ หากเขาคิดจะไป ข้า...”ฉินเย่ว์เหมยเงียบครู่หนึ่ง ยกมือขึ้นแล้วโบก “อนุญาตให้เขาไป!”“ขอบพระทัยฝ่าบาท ฮ่าๆๆๆ!”เสียงหัวเราะดังก้องของตวนชินอ๋อง ดังขึ้นในท้องพระโรง“เขยรัก พวกเราไปกันเถอะ!”“หยุดเดี๋ยวนี้!” เสิ่นหมิงหยวนลุกขึ้นห้ามอีกครั้ง“ตึ้ง!” ตวนชินอ๋องที่โมโหร้าย ถอดรองเท้าของตน โยนไปที่หน้าของเสิ่นหมิงหยวน“เจ้าหูไม่ดี ก็รีบไปหาหมอ เมื่อครู่เจ้าไม่ได้ยินหรือ ฝ่าบาทบอกว

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status