Share

บทที่ 941

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“ซ่า!” กลิ่นเหม็นมาพร้อมกับเสียงที่สาดมาตรงหน้า

“นายท่าน!”

ฉินเย่ว์เจียวกระโจนมาตรงหน้าเฉินฝาน เอาร่างบางบังให้เฉินฝาน

เฉินฝานที่เพิ่งกลับมาถึงเรือน ถูกคนสาดมูลวัวใส่

“ใจกล้ายิ่งนัก!” ฉินเย่ว์เจียวตะคอกคนที่สาดมูลวัวใส่เฉินฝาน “พวกเจ้ากล้าทำร้ายท่านอัครเสนาบดีเบื้องซ้าย”

“ถุย อัครเสนาบดีเบื้องซ้ายงั้นหรือ? ขุนนางชั่ว พวกข้าสาดใส่ขุนนางชั่วแล้วจะทำไม!”

“ซ่า ซ่า ซ่า!”

คนพวกนั้นไม่เพียงไม่กลัว แล้วยังสาดมูลวัวใส่เฉินฝานต่อ ทั้งยังสาดมากขึ้นเรื่อยๆ

“ขุนนางชั่วคนนี้แหละ เอาเงินทั้งท้องพระคลังไปซื้ออาวุธของแคว้นหลู ทำให้ตอนนี้ชีวิตของพวกเราลำบาก!”

“ขุนนางชั่วต้องถูกปลด ขุนนางชั่วต้องถูกปลด!”

เย่ว์หนูนำเหล่าองครักษ์หญิงไปช่วยกันขับไล่ แต่สุดท้ายไม่เพียงไรประโยชน์ ในทางตรงกันข้ามมีคนมามากขึ้น

เศษผัก มูลไก่ มูลวัว มีแม้กระทั่งอุจจาระคน

สิ่งปฏิกูลมาจากทั่วทุกสารทิศ พุ่งไปทางเฉินฝาน

“นายท่าน!”

ฉินเย่ว์โหรวที่ได้ยินเสียงดังจึงวิ่งออกมา

“อย่าเข้ามา!”

เฉินฝานเพียงกระโดด อุ้มฉินเย่ว์โหรวหลบไปอีกทางอย่างรวดเร็ว

“ตึ้ง!”

หินก้อนหนึ่งถูกเขวี้ยงไปที่ประตู ตำแหน่งนั้น คือจุดที่เมื่อครู่ฉิ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 942

    “หลังจากวันนี้ ก็จะประชุมราชสำนักแล้ว ยาแรงต้องฉีดหลังจากประชุมราชสำนัก”เสิ่นหมิงหยวนลูบหนวดเครา ยิ้มด้วยความร้ายกาจหลังจากฟังยาแรงที่เสิ่นหมิงหยวนกล่าว เสิ่นหยวนเลี่ยงกังวลเล็กน้อย “ท่านพ่อ ยาแรงที่ท่านบอกรุนแรงจริงๆ แต่ยานี้จะได้ผลหรือไม่ได้ผลขอรับ?”แววตาของเสิ่นหมิงหยวนหม่นหมอง นัยน์ตาเปี่ยมไปด้วยความคับแค้นใจ “เช่นนั้นก็เพิ่มยาแรงอีก!”นี่คือโอกาสหายาก เขาไม่อาจพลาดโอกาสนี้ได้คนที่ดีใจเช่นเดียวกับเสิ่นหมิงหยวน เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ คือโอวหยางน่าหลันที่อยู่ไกลถึงแคว้นหลู่นางเริ่มนับมือรอแล้ว นับวันที่เฉินฝานมาแคว้นหลู่ มายังตำหนักองค์หญิงของนางเพียงนึกถึงใบหน้าเกลี้ยงเกลาขาวสะอาดนั่น ทว่าร่างกายกลับเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของเฉินฝาน โอวหยางน่าหลันตื่นเต้นยิ่งนัก ยากไปเยือนแคว้นต้าชิ่งในทันทีทันใด เอาตัวเฉินฝานมายังแคว้นหลู่นางกำนัลคนสนิทของโอวหยางน่าหลัน เคยถามโอวหยางน่าหลันด้วยความระมัดระวัง องค์หญิงรู้ได้อย่างไรว่าร่างกายของเฉินฝานเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อโอวหยางน่ากลับตอบด้วยความลำพองใจนางล่วงเกินเฉินฝานนับครั้งไม่ถ้วน เฉินฝานมีกล้ามหรือไม่ นางจะไม่รู้ได้อย่างไร?นางเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 943

    หากจะกล่าวว่าทุกคนที่สนับสนุนเฉินฝาน ล้วนถูกปิดล้อมโจมตี ล้วนบาดเจ็บ ก็ไม่ค่อยถูกนักเพราะว่า ยังมีอีกคนหนึ่ง ที่ไม่ถูกโจมตี ไม่บาดเจ็บ ซึ่งคนคนนี้ก็คือ...“คนพวกนี้ช่างไม่เจียมตน ตอนนั้นหากไม่ใช่ลูกเขยของเขาทำลายทหารเตียนตูหนึ่งแสนสามหมื่นนาย เจ้าพวกโง่เหล่านี้ยังจะเดินบนท้องถนนด้วยความสบายใจได้หรือ?”“ลูกเขยของข้าซื้ออาวุธจากแคว้นหลู่ ก็เพื่อเลี่ยงไม่ให้เกิดสงคราม เวลานี้ต้าชิ่งจะทำสงครามอีกครั้งได้อย่างไร!”เสียงด่าทอของตวนชินอ๋องดังมาจากประตูวังหลวงราวกับระฆัง ตวนชินอ๋องปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าทุกคนวันนี้เขาไม่ได้อยู่ในสภาพมึนเมาแล้ว เขากลายเป็นเทพผู้ดุร้ายด้วยท่าทีของเขาในตอนนี้ ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าใกล้ผู้ที่กล้าทำร้ายเขา เขาก็กล้าลงไม้ลงมือใช้ความรุนแรงโต้กลับ เขาไม่สนใจชื่อเสียงอยู่แล้ว“โธ่ ลูกเขยที่แสนดี!”เมื่อเห็นเฉินฝาน สีหน้าของตวนชินอ๋องเปลี่ยนไปในทันที เขายิ้มแล้ววิ่งไปทางเฉินฝาน“ในที่สุดข้าก็เจอเจ้าแล้ว สิบห้าวัน สิบห้าวันที่ข้าไม่ได้เจอเจ้า ข้าคิดถึงเจ้ายิ่งนัก”สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความรักของตวนชินอ๋อง หากคนไม่รู้ คงคิดว่าเฉินฝานเป็นยอดหญิงงามทว่าผู้อื่นไม่รู้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 944

    “ขุนนางที่รักลุกขึ้น!”ฉินเย่ว์เหมยคิดว่าตนพูดไม่กระจ่างชัด จึงพูดซ้ำอีกรอบทว่าขุนนางพวกนั้น ยังคงเหมือนเดิม คุกเข่าไม่ยอมลุกขึ้น“พวกเจ้าทำอะไรกัน?” ฉินเย่ว์เหมยตะโกนเสียงดังด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ฝ่าบาท!”คนพูดคือเลขาธิการกรมพิธีการหลิวเกาจัว“ท่านอัครเสนาบดีเบื้องซ้ายเฉินฝานดื้อดึงไม่ฟังผู้ใด กระทำตามเจตนาตนเอง ผลาญเงินในท้องพระคลังจนหมด ทำให้ราษฎรต้าชิ่งตกอยู่ในความยากลำบาก กระหม่อมคิดว่าใต้เท้าเฉิน มิควรดำรงตำแหน่งอัครเสนาบดีเบื้องซ้ายพ่ะย่ะค่ะ!”“ด้วยที่ว่า กระหม่อมใคร่ปลดท่านอัครเสนาบีเบื้องซ้ายเฉินฝาน กระหม่อมอยากขอให้ฝ่าบาทปลดท่านอัครเสนาบดีเบื้องซ้ายจากตำแหน่ง ลงโทษให้เป็นสามัญชน ส่งตัวเขาไปเผชิญหน้ากับราษฎร ให้ชาวบ้านลงโทษพ่ะย่ะค่ะ!”“คำนับ!”พูดจบ หลิวเกาจัวเอาหน้าผากคำนับพื้นอย่างแรงหนึ่งครั้ง“ฝ่าบาท กระหม่อมใคร่ปลดท่านอัครเสนาบีเบื้องซ้ายเฉินฝาน!”เหล่าขุนนางที่อยู่ด้านหลังหลิวเกาจัว พูดขึ้นพร้อมกันเสียงดังฟังชัดคาดว่า พวกเขาหารือกันล่วงหน้าแล้วเฉินฝานมองทุกอย่างที่เกิดขึ้นด้วยแววตาเย็นชาเสิ่นหมิงหยวนขี้ขลาดตาขาว ตนไม่กล้าเผชิญหน้ากับคนตรงๆ ให้หลิวเกาจัว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 945

    “ข้าไม่อยากเสียเวลากับคนอย่างพวกเจ้า ข้าหิวจะตายแล้ว ไปกันเถอะ!”มือใหญ่ของตวนชินอ๋องคว้าจับ เฉินฝานที่อยู่ข้างกายตน “เขยรัก พวกเราออกจากวังหลวง กลับไปดื่มสุราและเป่ายิงฉุบกันเถอะ!”“ไปไม่ได้!”เสิ่นหมิงหยวนลุกขึ้นยืนแล้วพูดทันควันตวนชินอ๋องหันหน้ากลับมา มองค้อนไปที่เสิ่นหมิงหยวน ตะคอกเสียงดังด้วยความโมโห “เจ้าเป็นใคร? มีสิทธิ์ใดมาขวางข้า?”ยามตวนชินอ๋องโมโห เขาเหมือนราชสีห์ในทุ่งหญ้า แม้ส่วนลึกในใจของเสิ่นหมิงหยวนจะรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย แต่เขาควบคุมสีหน้าได้ดียิ่งนัก ผู้อื่นมองไม่ออก“ฝ่าบาทยังไม่มีคำสั่งจบการประชุมราชสำนัก!”“มนุษย์ไม่ใช่เทพเซียน ตอนนี้เที่ยงวันแล้ว ตวนชินอ๋องหิวแล้ว เป็นเรื่องปกติ หากเขาคิดจะไป ข้า...”ฉินเย่ว์เหมยเงียบครู่หนึ่ง ยกมือขึ้นแล้วโบก “อนุญาตให้เขาไป!”“ขอบพระทัยฝ่าบาท ฮ่าๆๆๆ!”เสียงหัวเราะดังก้องของตวนชินอ๋อง ดังขึ้นในท้องพระโรง“เขยรัก พวกเราไปกันเถอะ!”“หยุดเดี๋ยวนี้!” เสิ่นหมิงหยวนลุกขึ้นห้ามอีกครั้ง“ตึ้ง!” ตวนชินอ๋องที่โมโหร้าย ถอดรองเท้าของตน โยนไปที่หน้าของเสิ่นหมิงหยวน“เจ้าหูไม่ดี ก็รีบไปหาหมอ เมื่อครู่เจ้าไม่ได้ยินหรือ ฝ่าบาทบอกว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 946

    เดือนสี่ของแคว้นหลู่ ร่ำรวยยิ่งนักทั่วทั้งแคว้น ล้วนไม่ต้องทำไร่ทำนา ทุกบ้านเรือนกินดีอยู่ดีก่อนหน้านี้เพียงกินอิ่ม ก็พอใจแล้ว ตอนนี้ไม่เพียงกินอิ่ม แต่ยังต้องกินดีอีกด้วยข้อนี้ ภายในวังหลวงของแคว้นหลู่ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนโอวหยางน่าหลันเรื่องมากด้านการกินยิ่งนัก อาหารจำพวกแป้งต้องซื้อมาจากเมืองข้าวสาลีอย่างแคว้นเยี่ยน ข้าวสารต้องเป็นข้าวที่ปลูกในเมืองอย่างแคว้นจ้าว“ถุย!”โอวหยางน่าหลันที่กำลังกินอาหาร จู่ๆ ก็คายข้าวในปากออกมา“นี่คืออะไร ไม่อร่อยเลยสักนิด? เกาลี่!”โอวหยางน่าหลันร้องเรียกขุนนางคนสนิทเสียงดัง“องค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ!” เกาลี่รีบวิ่งมาจากนอกตำหนัก“ไปถามห้องเครื่อง วันนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น เหตุใดข้าวนี้จึงไม่อร่อยเลยสักนิด”ไม่นาน เกาลี่ก็นำตัวพ่อครัวหลวงประจำวันนี้มาตรงหน้าโอวหยางน่าหลัน“องค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ!” เมื่อเข้ามาในตำหนัก พ่อครัวหลวงตอบตามความจริง “ข้าววันนี้ ไม่ใช่ข้าวสารจากเมืองน้ำอย่างแคว้นจ้าวพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินถ้อยคำนี้ของพ่อครัว โอวหยางน่าหลันโมโหกว่าเดิม “เหตุใดจึงไม่ใช่ข้าวสารจากเมืองน้ำอย่างแคว้นจ้าวเล่า ข้ากินได้แค่ข้าวสารของที่นี่ เจ้า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 947

    “จางผิงเล่า ไปตามตัวจางผิงมาให้ข้าเดี๋ยวนี้!”เสียงตะคอกด้วยความโมโหของโอวหยางน่าหลัน ดังก้องในตำหนักองค์หญิงแคว้นหลู่ผ่านไปห้าวันแล้ว สำนักห้องเครื่องหลวงยังไม่มีข้าวสารจากเมืองน้ำแคว้นจ้าว และแป้งจากดินแดนข้าวสารลีแคว้นเยี่ยนก็หมดแล้ว“เคร้ง!”โอวหยางน่าหลันโยนกระบี่เล่มหนึ่งไปตรงหน้าจางผิง“ลำพังข้าวสารและแป้งยังไม่อาจจัดซื้อได้ ตำแหน่งเลขาธิการของเจ้ามีประโยชน์ใด? ปลิดชีพตนเองซะ!”จางผิงถือมีดด้วยสองมือที่สั่นเทา“องค์หญิง ไม่ใช่ว่ากระหม่อมไม่อยากซื้อ แต่ว่าข้าวสารจากเมืองน้ำและแป้งจากเมืองข้าวสาลีไม่มีแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ก่อนตาย จางผิงอยากแก้ตัวให้ตนเองก่อน“ไม่มีแล้ว? ไม่มีแล้วได้อย่างไร? นี่เป็นเพียงวาจาของพ่อค้าเจ้าเล่ห์เท่านั้น ข้าบอกให้เจ้าเสนอราคาเพิ่ม เจ้าเพิ่มแล้วหรือไม่?”“เพิ่มแล้วพ่ะย่ะค่ะ ข้าวสารหนึ่งจิน กระหม่อมเพิ่มราคาให้เป็นสิบตำลึงเงินแล้ว แต่พวกพ่อค้ายังคงบอกว่าไม่มี”ข้าวสารจินหนึ่งสิบตำลึงเงิน แม้จะเป็นข้าวสารคุณภาพดีอันดับหนึ่ง ราคานี้ก็สูงลิ่วมากแล้วโอวหยางน่าหลันขมวดคิ้วเป็นปม “เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? บวกราคาเพิ่มขนาดนี้แล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ขายหนิ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 948

    “คิดไม่ถึงว่าจะมีคนเหี้ยมโหดเช่นนี้ สืบมา ไปสืบมาให้ดี ต้องเอาตัวคนลึกลับคนนั้นออกมาให้ข้า!”โอวหยางน่าหลันนั่งบนบัลลังก์มังกร ตะโกนเสียงดังด้วยความโมโหแคว้นหลู่ใช้ทรัพยากรคนและสิ่งของไปมาก สืบมานานกว่าครึ่งเดือน ยังไม่เจอเบาะแสใดๆ ที่มีประโยชน์วิกฤตขาดแคลนอาหารของแคว้นหลู่รุนแรงขึ้นเรื่อยชาวบ้านหลายคนเริ่มหิวตายบนท้องถนน ชาวบ้านที่หิวตายเหล่านั้น ตอนตาย ในมือยังกำเงินจำนวนมากเอาไว้ผู้คนสิ้นหวังเป็นที่สุด นับตั้งแต่โบราณ ได้ยินเพียงว่าไร้เงินจะหิวตาย ทว่ามีเงินแล้วยังหิวตาย เพิ่งเคยเกิดขึ้นครั้งแรกในใต้หล้า“เฮ้อ! สวรรค์จะทำลายแคว้นหลู่ของข้าแล้ว!”คนมากมายที่ไม่หิวตาย ทว่าสิ้นหวังเริ่มปลิดชีพตนแล้วเวลาเพียงสี่วันท้องฟ้าแคว้นหลู่ปกคลุมไปด้วยเมฆครึ้มในทุกวันมีคนจำนวนมากหิวตายและฆ่าตัวตายแคว้นใกล้เคียงเห็นภาพนี้ ล้วนเศร้าสลดเมื่อเดือนสองเดือนก่อน ชีวิตของชาวแคว้นหลู่ ทำให้แคว้นใกล้เคียงอิจฉายิ่งนักคนที่มีญาติอยู่แคว้นใกล้เคียง ล้วนหนีจากแคว้นหลู่ไปหาญาติแคว้นอื่นแล้ว ทว่าคนที่ไม่มีญาติอยู่แคว้นใกล้เคียง ทำได้เพียงรอคอยความตายในแคว้นหลู่ทั่วทั้งแคว้นหลู่ ยังคงพยาย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 949

    เมื่อใดที่ชาวบ้านเคืองขุ่นเหล่านั้นบุกเข้ามา ก็คือวันตายของเฉินฝานเฉินฝานมองเสิ่นหมิงหยวนด้วยสีหน้านิ่งสงบ ตอบไม่ตรงคำถาม “จำนวนตัวเลขของหลี่ชิงไม่ถูกต้อง แคว้นต้าชิ่งของเราไม่ได้มีเสบียงแค่นี้!”“ใต้เท้า เวลานี้แคว้นของเรามีเสบียงเพียงเท่านี้จริงๆ ขอรับ ทุกเมืองจะส่งตัวเลขเสบียงอาหารมาที่เมืองหลวงทุกเดือน ทุกหนึ่งเดือน ข้าก็ออกนอกเมืองหลวงเพื่อตรวจตรา ไม่มีทางผิดพลาดแน่นอนขอรับ”แม้หลี่ชิงจะทำงานภายใต้บัญชาของเสิ่นหยวนเลี่ยง แต่เขาแตกต่างจากหลิวเกาจัว เขาตั้งใจทำงานและรอบคอบ ระมัดระวังอย่างมากข้อนี้ฉินเย่ว์เหมยยอมรับท่ามกลางพวกพ้องของเสิ่นหมิงหยวน หลี่ชิงเป็นขุนนางเพียงคนเดียวที่ฉินเย่ว์เหมยเกลียด“เฉินฝาน หากเจ้าไม่สบาย ข้าอนุญาตให้หมอหลวงมาดูอาการ” ฉินเย่ว์เหมยพูดด้วยสีหน้าเย็นชา“ฝ่าบาท ตอนนี้พวกเรามีเสบียงอาหารจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้เสบียงอาหารเหล่านั้นอยู่ในคลังเก็บอาวุธ”เฉินฝานไม่อยากอ้อมค้อมแล้ว เขาจึงพูดออกไปตรงๆ“คลังเก็บอาวุธมีเสบียงอาหารเช่นนั้นหรือ?”สายตาของทุกคนในท้องพระโรง มองไปทางฟางซินฮุ่ย“...” ฟางซินฮุ่ยลำบากใจทว่าไม่อาจพูดออกมาได้นับตั้งแต่เกณฑ์ทหาร

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status