Share

บทที่ 947

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“จางผิงเล่า ไปตามตัวจางผิงมาให้ข้าเดี๋ยวนี้!”

เสียงตะคอกด้วยความโมโหของโอวหยางน่าหลัน ดังก้องในตำหนักองค์หญิงแคว้นหลู่

ผ่านไปห้าวันแล้ว สำนักห้องเครื่องหลวงยังไม่มีข้าวสารจากเมืองน้ำแคว้นจ้าว และแป้งจากดินแดนข้าวสารลีแคว้นเยี่ยนก็หมดแล้ว

“เคร้ง!”

โอวหยางน่าหลันโยนกระบี่เล่มหนึ่งไปตรงหน้าจางผิง

“ลำพังข้าวสารและแป้งยังไม่อาจจัดซื้อได้ ตำแหน่งเลขาธิการของเจ้ามีประโยชน์ใด? ปลิดชีพตนเองซะ!”

จางผิงถือมีดด้วยสองมือที่สั่นเทา

“องค์หญิง ไม่ใช่ว่ากระหม่อมไม่อยากซื้อ แต่ว่าข้าวสารจากเมืองน้ำและแป้งจากเมืองข้าวสาลีไม่มีแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ก่อนตาย จางผิงอยากแก้ตัวให้ตนเองก่อน

“ไม่มีแล้ว? ไม่มีแล้วได้อย่างไร? นี่เป็นเพียงวาจาของพ่อค้าเจ้าเล่ห์เท่านั้น ข้าบอกให้เจ้าเสนอราคาเพิ่ม เจ้าเพิ่มแล้วหรือไม่?”

“เพิ่มแล้วพ่ะย่ะค่ะ ข้าวสารหนึ่งจิน กระหม่อมเพิ่มราคาให้เป็นสิบตำลึงเงินแล้ว แต่พวกพ่อค้ายังคงบอกว่าไม่มี”

ข้าวสารจินหนึ่งสิบตำลึงเงิน แม้จะเป็นข้าวสารคุณภาพดีอันดับหนึ่ง ราคานี้ก็สูงลิ่วมากแล้ว

โอวหยางน่าหลันขมวดคิ้วเป็นปม “เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? บวกราคาเพิ่มขนาดนี้แล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ขายหนิ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 948

    “คิดไม่ถึงว่าจะมีคนเหี้ยมโหดเช่นนี้ สืบมา ไปสืบมาให้ดี ต้องเอาตัวคนลึกลับคนนั้นออกมาให้ข้า!”โอวหยางน่าหลันนั่งบนบัลลังก์มังกร ตะโกนเสียงดังด้วยความโมโหแคว้นหลู่ใช้ทรัพยากรคนและสิ่งของไปมาก สืบมานานกว่าครึ่งเดือน ยังไม่เจอเบาะแสใดๆ ที่มีประโยชน์วิกฤตขาดแคลนอาหารของแคว้นหลู่รุนแรงขึ้นเรื่อยชาวบ้านหลายคนเริ่มหิวตายบนท้องถนน ชาวบ้านที่หิวตายเหล่านั้น ตอนตาย ในมือยังกำเงินจำนวนมากเอาไว้ผู้คนสิ้นหวังเป็นที่สุด นับตั้งแต่โบราณ ได้ยินเพียงว่าไร้เงินจะหิวตาย ทว่ามีเงินแล้วยังหิวตาย เพิ่งเคยเกิดขึ้นครั้งแรกในใต้หล้า“เฮ้อ! สวรรค์จะทำลายแคว้นหลู่ของข้าแล้ว!”คนมากมายที่ไม่หิวตาย ทว่าสิ้นหวังเริ่มปลิดชีพตนแล้วเวลาเพียงสี่วันท้องฟ้าแคว้นหลู่ปกคลุมไปด้วยเมฆครึ้มในทุกวันมีคนจำนวนมากหิวตายและฆ่าตัวตายแคว้นใกล้เคียงเห็นภาพนี้ ล้วนเศร้าสลดเมื่อเดือนสองเดือนก่อน ชีวิตของชาวแคว้นหลู่ ทำให้แคว้นใกล้เคียงอิจฉายิ่งนักคนที่มีญาติอยู่แคว้นใกล้เคียง ล้วนหนีจากแคว้นหลู่ไปหาญาติแคว้นอื่นแล้ว ทว่าคนที่ไม่มีญาติอยู่แคว้นใกล้เคียง ทำได้เพียงรอคอยความตายในแคว้นหลู่ทั่วทั้งแคว้นหลู่ ยังคงพยาย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 949

    เมื่อใดที่ชาวบ้านเคืองขุ่นเหล่านั้นบุกเข้ามา ก็คือวันตายของเฉินฝานเฉินฝานมองเสิ่นหมิงหยวนด้วยสีหน้านิ่งสงบ ตอบไม่ตรงคำถาม “จำนวนตัวเลขของหลี่ชิงไม่ถูกต้อง แคว้นต้าชิ่งของเราไม่ได้มีเสบียงแค่นี้!”“ใต้เท้า เวลานี้แคว้นของเรามีเสบียงเพียงเท่านี้จริงๆ ขอรับ ทุกเมืองจะส่งตัวเลขเสบียงอาหารมาที่เมืองหลวงทุกเดือน ทุกหนึ่งเดือน ข้าก็ออกนอกเมืองหลวงเพื่อตรวจตรา ไม่มีทางผิดพลาดแน่นอนขอรับ”แม้หลี่ชิงจะทำงานภายใต้บัญชาของเสิ่นหยวนเลี่ยง แต่เขาแตกต่างจากหลิวเกาจัว เขาตั้งใจทำงานและรอบคอบ ระมัดระวังอย่างมากข้อนี้ฉินเย่ว์เหมยยอมรับท่ามกลางพวกพ้องของเสิ่นหมิงหยวน หลี่ชิงเป็นขุนนางเพียงคนเดียวที่ฉินเย่ว์เหมยเกลียด“เฉินฝาน หากเจ้าไม่สบาย ข้าอนุญาตให้หมอหลวงมาดูอาการ” ฉินเย่ว์เหมยพูดด้วยสีหน้าเย็นชา“ฝ่าบาท ตอนนี้พวกเรามีเสบียงอาหารจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้เสบียงอาหารเหล่านั้นอยู่ในคลังเก็บอาวุธ”เฉินฝานไม่อยากอ้อมค้อมแล้ว เขาจึงพูดออกไปตรงๆ“คลังเก็บอาวุธมีเสบียงอาหารเช่นนั้นหรือ?”สายตาของทุกคนในท้องพระโรง มองไปทางฟางซินฮุ่ย“...” ฟางซินฮุ่ยลำบากใจทว่าไม่อาจพูดออกมาได้นับตั้งแต่เกณฑ์ทหาร

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 950

    “ทุกคลังเก็บอาวุธ มีเสบียงอาหารบรรจุอย่างน้องครึ่งหนึ่งมองข้าวสารกองโต นอกจากพวกเสิ่นหมิงหยวนแล้ว ขุนนางคนอื่นๆ ล้วนน้ำตาคลอเบ้าเสบียงอาหารแคว้นต้าชิ่งมีเสบียงอาหารมีเสบียงอาหารในใจ จิตใจไม่กระวนกระวายครั้งนี้ ทุกคนเข้าใจถ้อยคำนี้อย่างชัดเจนจิตใจที่คอยกังวล ในที่สุดก็ปล่อยวางลงได้ฉินเย่ว์เหมยพูดด้วยความดีใจ “เปิด เปิดคลังเสบียง อีกทั้งต้องเปิดเดี๋ยวนี้!”หิวโหยมานานหลายเดือนต้องให้ราษฎรต้าชิ่งอิ่มท้องเสียทีชาวบ้านที่รวมตัวกันด้านนอกคลังเก็บอาวุธ มีมากกว่านอกวังหลวงเพิ่งออกมาจากวังหลวง เสิ่นหมิงหยวนก็ให้คนไปแพร่ข่าว บอกว่าตอนนี้เฉินฝานอยู่ที่คลังเก็บอาวุธ“สังหารเฉินฝาน!”“ไม่สังหารเฉินฝาน ชาวบ้านยากจะสงบ!”“สังหารเฉินฝาน!”“ไม่สังหารเฉินฝาน ชาวบ้านยากจะสงบ!”นอกคลังเกบอาวุธ เสียงร้องบอกให้สังหารเฉินฝาน ราวกับฟ้าผ่าลงมาจากสวรรค์ ดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ว่า ไม่นาน...“ขอบคุณใต้เท้า!”“ช่างเป็นอัครเสนาบดีแสนดีของต้าชิ่งจริงๆ! ให้ความสำคัญกับราษฎร!”“นับตั้งแต่วันนี้ ผู้ใดกล้าบอกว่าจะสังหารใต้เท้าเฉิน ข้าจะไปสังหารเขาคนนั้นก่อน!”เสียงร้องบอกให้สังหารในต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 951

    “ฝ่าบาท ท่านเสด็จมาได้อย่างไร?”เมื่อมองเห็นคนในห้องหนังสือได้อย่างชัดเจน เฉินฝานก็สะดุ้งตกใจเล็กน้อย แม้ว่าจะเป็นพี่สาว แต่เวลานี้ฉินเย่ว์เหมยคือฉินหย่งคัง ฮ่องเต้ของต้าชิ่ง ดังนั้นฉินเย่ว์เหมยจึงไม่เคยมาที่บ้านของเฉินฝานเลย“เจ้าตอบคำถามของข้าก่อน!”ฉินเย่ว์เหมยร้อนอกร้อนใจเดิมทีนางอยากให้หงอิงมาเรียกเฉินฝานเข้าวัง แต่นางรอไม่ไหวแล้วจริง ๆ ถึงได้ออกมาพร้อมกับหงอิง“ซื้อมาพ่ะย่ะค่ะ” เฉินฝานเอ่ยด้วยรอยยิ้ม“ซื้อมา?”“ถ้าไม่อย่างนั้นจะให้แย่งมาหรือ?”“เจ้าจริงจังหน่อยสิ!”“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท เรื่องนี้ต้องขอบคุณ... เข้ามาได้!”เฉินฝานโบกมือไปทางด้านนอกห้องหนังสือ ครู่หนึ่ง ร่างอรชรงดงามก็เข้ามาอย่างช้า ๆแม้ว่าบนร่างของนางจะสวมเสื้อผ้าของต้าชิ่ง แต่ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้นของนาง และหมุดจมูกที่ส่องประกายวาววับบนจมูก ทำให้คนเห็นแวบเดียวก็ดูออกได้ว่านางมิใช่ชาวต้าชิ่ง“อีจี๋ถวายบังคมฝ่าบาท”ฐานะของอีจี๋ไม่ด้อยไปกว่าฉินเย่ว์เหมย นางเพียงแค่ก้มศีรษะลงเล็กน้อย ไม่ได้ทำการคุกเข่า“สวัสดีจักรพรรดินี!”ฉินเย่ว์เหมยพยักหน้าอย่างเร่งรีบ แล้วมองไปทางเฉินฝานด้วยความร้อนใจการมาเยื

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 952

    “พระพี่นาง!” อีจี๋ปิดปากหัวเราะเบา ๆ “ท่านอย่าได้เกรงใจข้าเลย ไม่จำเป็นต้องคืนหรอก เสียเงินแค่นี้ไม่ถือว่าเป็นอะไร!”ฉินเย่ว์เหมยไม่รู้จริง ๆ ว่าเศรษฐินีอย่างอีจี๋ร่ำรวยมากเพียงใด“ฝ่าบาท ท่านอย่าได้เกรงใจนางเลย นางบอกว่าไม่ต้องก็ไม่ต้องแล้ว”“หา? นี่มัน...”คำพูดของเฉินฝานทำให้ฉินเย่ว์เหมยตกใจมาก ไม่คืนจริง ๆ จะเหมาะสมได้อย่างไร“พระพี่นาง สามีกล่าวเช่นนั้นแล้ว ท่านก็อย่าได้เกรงใจถึงเพียงนั้นเลย เมื่อหลายปีก่อน ต้าชิ่งมีบุญคุณใหญ่หลวงกับแคว้นของข้า เดิมทีแคว้นของข้าต้องถวายบรรณาการให้ต้าชิ่งทุกปี ขาดมานานหลายปีแล้ว เวลานี้ข้าเพียงชดเชยคืนให้ครบเท่านั้น”นั่นเป็นเพียงข้ออ้างที่อีจี๋ใช้เพื่อปลอบโยนให้ฉินเย่ว์เหมยสบายใจขึ้นเท่านั้น บรรณาการแค่นั้นจะมีสักเท่าไรเชียวการแย่งชิงเสบียงกับโอวหยางน่าหลันในครั้งนี้ อีจี๋ใช้ผลผลิตจากเหมืองทองคำถึงสามสิบปีโชคดีที่นางมีเหมืองทองคำอยู่กว่าสิบแห่ง“ไม่ให้เงินท่าน แต่ท่านยังต้องนำของสิ่งอื่นกลับไป” เฉินฝานกล่าวอาวุธที่ซื้อจากแคว้นหลู่ครานี้ เฉินฝานมอบให้อีจี๋ครึ่งหนึ่งแคว้นที่ร่ำรวยมั่งคั่ง กองทัพย่อมต้องแข็งแกร่ง พลังกายของมนุษย์มีขี

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 953

    “ไม่ได้!” เฉินฝานส่ายหน้า ท่าทางเด็ดเดี่ยวแน่วแน่“เพราะเหตุใดเล่า?”“เพราะว่าสิ่งที่แคว้นหลู่มอบให้ในตอนนี้ยังน้อยเกินไป”“ยะ ยังน้อยเกินไป?”อ๋องตวนเปลี่ยนเป็นพูดติดอ่างในพริบตาขุนนางมากมายในท้องพระโรงล้วนมีสีหน้าแบบเดียวกับอ๋องตวน ตกใจจนกรามแทบหลุดนี่ก็เจ็ดส่วนแล้ว แต่ยังน้อยอยู่ แถมยังน้อยเกินไปอีก!“ใจคนเราที่ไม่รู้จักพอ มัวเมาดั่งงูที่หมายจะกลืนกินช้าง ความปรารถนาอันไร้ที่สิ้นสุดจนแม้แต่ผีก็ยังขยาด ใต้เท้าเฉิน จงระวังไว้ว่าหากใช้ตะกร้าตักน้ำ จักไม่ได้อะไรเลย”“จงรู้จักเอาแต่พอดี เจ็ดส่วน นั่นก็เป็นเงินที่ราษฎรต้าชิ่งเราเหน็ดเหนื่อยตรากตรำกว่าจะได้มา ใต้เท้า อย่าเอาเงินที่ได้มาจากความเหนื่อยยากของราษฎรมาเป็นเบี้ยเดิมพันของท่านเลย!” เสิ่นหมิงหยวนใช้ท่าทางสั่งสอนเหมือนกับเป็นผู้อาวุโสคำพูดของเขาได้รับการเห็นชอบจากขุนนางมากมาย โดยเฉพาะเหล่าขุนนางอายุมากเหล่านั้น“โอ้!” เฉินฝานหัวเราะเบา ๆ “ใต้เท้าเสิ่นเปลี่ยนกลวิธีแล้วหรือ ไม่วางแผนสังหารข้าโดยตรง แต่ทำตัวเป็นผู้อาวุโสใจดีมีเมตตาแทน?”“อย่าทำเช่นนี้เลย ข้ายังคงชินกับท่าทางพูดจาเย็นชาใส่ข้า แล้วเข่นฆ่าข้าโดยตรงมากกว่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 954

    “บางที บางที เจ้าก็แค่คาดเดาสินะ? แต่ละคนช่างไร้ประโยชน์!” เสิ่นหมิงหยวนถลึงตาใส่เสิ่นหยวนเลี่ยงอย่างดุดันขณะเดียวกันก็ลอบบ่นในใจเหตุใดสวรรค์ไม่ส่งบุตรชายอย่างเฉินฝานมาให้เขาสักคนหรือจะบอกอีกว่าเหตุใดคนที่เจอเฉินฝานก่อน ไม่ใช่เขา แต่เป็นซูซิวฉี.....สามวันต่อมาวันนี้เฉินฝานเพิ่งก้าวเข้ามาในท้องพระโรง ก็ได้ยินบรรดาขุนนางต้าชิ่งจับกลุ่มคุยกันสองสามคน ทุกคนต่างทำสีหน้าตื่นเต้น“ใต้เท้า ท่านอัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายมาแล้ว!”เมื่อเห็นเฉินฝาน ก็มีขุนนางหลายคนเข้ามาต้อนรับแม้แต่ไป่เผยหรานที่ค่อนข้างสุขุม ไม่ชอบแสดงอารมณ์ของตนเอง ก็เดินมาหาเฉินฝานอย่างสุขใจ“โอ้ว!” ร่างใหญ่โตของอ๋องตวนเบียดคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาออก แล้วสาวเท้ายาว ๆ เดินไปหาเฉิน “ท่านอัครเสนาบดีฝ่ายซ้าย บุตรเขยคนดีของข้า มีข่าวดี ข่าวดีใหญ่มาก”“หืม? ข่าวดีใหญ่มากเพียงใด!” เฉินฝานเอียงศีรษะเล็กน้อยสามวันก่อน เขาให้เย่ว์เจียวไปแจ้งหลี่ซานให้หยุดงานเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมดนับตั้งแต่เริ่มสงครามการค้ากับแคว้นหลู่ หลี่ซานก็ลำบากตรากตรำมากที่สุด ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องให้เขาวิ่งเต้นแล้ว เฉินฝานจึงปล่อยให้เขาลาหยุดชั่ว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 955

    เฉินฝานชูหยกสมปรารถนาในมือขึ้นสูงแล้วกล่าวว่า “ฝ่าบาท กระหม่อมอยากทูลขอสิ่งหนึ่งก่อนได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“ของสิ่งใด? ขุนนางเฉินรีบกล่าวมาเร็วเข้า!”ขุนนางทั้งหมดต่างก็เหมือนกับฉินเย่ว์เหมย แทบอดทนรอไม่ไหวอยากรู้ว่าสิ่งที่เฉินฝานจะขอคือสิ่งใดเสิ่นหมิงหยวนกระวนกระวายใจเป็นพิเศษ เลื่อนตำแหน่งหรือ?แต่ตอนนี้เฉินฝานเป็นถึงอัครเสนาบดีแล้ว ยังจะเลื่อนขึ้นสูงได้อีกอย่างไร?หรือว่า...หัวใจของเสิ่นหมิงหยวนเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆมีตำแหน่งหนึ่งที่อยู่เหนือกว่าอัครเสนาบดี ตำแหน่งนั้นได้รับการสถาปนาโดยปฐมฮ่องเต้ที่ก่อตั้งแคว้น ทว่าผ่านไปสองร้อยปีตั้งแต่ที่ต้าชิ่งก่อตั้งแคว้น ยังไม่มีผู้ใดไปถึงตำแหน่งนั้นเลย หากตอนนี้เฉินฝานยื่นคำขอละก็...“หลี่กงกง!” เฉินฝานเดินไปหาหลี่เต๋อฉวน “รบกวนท่านช่วยหาของสิ่งหนึ่งจากวังหลังให้ข้าที”“โอ้ว!” หลี่เต๋อฉวนรีบคารวะเฉินฝาน “ใต้เท้าสั่งการข้าน้อยก็พอ ไยต้องใช้คำว่า ‘ช่วย’ ด้วยเล่า!”หลี่เต๋อฉวนเป็นคนเฉลียวฉลาด สมัยที่เสิ่นหมิงหยวนกุมอำนาจในราชสำนัก เขาก็เชื่อฟังเสิ่นหมิงหยวนอย่างยิ่ง แต่ไม่ได้เข้าข้างเสิ่นหมิงหยวนโดยสิ้นเชิง มักจะรักษาระยะห่างในระดับหนึ

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status