“ไม่ได้!” เฉินฝานส่ายหน้า ท่าทางเด็ดเดี่ยวแน่วแน่“เพราะเหตุใดเล่า?”“เพราะว่าสิ่งที่แคว้นหลู่มอบให้ในตอนนี้ยังน้อยเกินไป”“ยะ ยังน้อยเกินไป?”อ๋องตวนเปลี่ยนเป็นพูดติดอ่างในพริบตาขุนนางมากมายในท้องพระโรงล้วนมีสีหน้าแบบเดียวกับอ๋องตวน ตกใจจนกรามแทบหลุดนี่ก็เจ็ดส่วนแล้ว แต่ยังน้อยอยู่ แถมยังน้อยเกินไปอีก!“ใจคนเราที่ไม่รู้จักพอ มัวเมาดั่งงูที่หมายจะกลืนกินช้าง ความปรารถนาอันไร้ที่สิ้นสุดจนแม้แต่ผีก็ยังขยาด ใต้เท้าเฉิน จงระวังไว้ว่าหากใช้ตะกร้าตักน้ำ จักไม่ได้อะไรเลย”“จงรู้จักเอาแต่พอดี เจ็ดส่วน นั่นก็เป็นเงินที่ราษฎรต้าชิ่งเราเหน็ดเหนื่อยตรากตรำกว่าจะได้มา ใต้เท้า อย่าเอาเงินที่ได้มาจากความเหนื่อยยากของราษฎรมาเป็นเบี้ยเดิมพันของท่านเลย!” เสิ่นหมิงหยวนใช้ท่าทางสั่งสอนเหมือนกับเป็นผู้อาวุโสคำพูดของเขาได้รับการเห็นชอบจากขุนนางมากมาย โดยเฉพาะเหล่าขุนนางอายุมากเหล่านั้น“โอ้!” เฉินฝานหัวเราะเบา ๆ “ใต้เท้าเสิ่นเปลี่ยนกลวิธีแล้วหรือ ไม่วางแผนสังหารข้าโดยตรง แต่ทำตัวเป็นผู้อาวุโสใจดีมีเมตตาแทน?”“อย่าทำเช่นนี้เลย ข้ายังคงชินกับท่าทางพูดจาเย็นชาใส่ข้า แล้วเข่นฆ่าข้าโดยตรงมากกว่
“บางที บางที เจ้าก็แค่คาดเดาสินะ? แต่ละคนช่างไร้ประโยชน์!” เสิ่นหมิงหยวนถลึงตาใส่เสิ่นหยวนเลี่ยงอย่างดุดันขณะเดียวกันก็ลอบบ่นในใจเหตุใดสวรรค์ไม่ส่งบุตรชายอย่างเฉินฝานมาให้เขาสักคนหรือจะบอกอีกว่าเหตุใดคนที่เจอเฉินฝานก่อน ไม่ใช่เขา แต่เป็นซูซิวฉี.....สามวันต่อมาวันนี้เฉินฝานเพิ่งก้าวเข้ามาในท้องพระโรง ก็ได้ยินบรรดาขุนนางต้าชิ่งจับกลุ่มคุยกันสองสามคน ทุกคนต่างทำสีหน้าตื่นเต้น“ใต้เท้า ท่านอัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายมาแล้ว!”เมื่อเห็นเฉินฝาน ก็มีขุนนางหลายคนเข้ามาต้อนรับแม้แต่ไป่เผยหรานที่ค่อนข้างสุขุม ไม่ชอบแสดงอารมณ์ของตนเอง ก็เดินมาหาเฉินฝานอย่างสุขใจ“โอ้ว!” ร่างใหญ่โตของอ๋องตวนเบียดคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาออก แล้วสาวเท้ายาว ๆ เดินไปหาเฉิน “ท่านอัครเสนาบดีฝ่ายซ้าย บุตรเขยคนดีของข้า มีข่าวดี ข่าวดีใหญ่มาก”“หืม? ข่าวดีใหญ่มากเพียงใด!” เฉินฝานเอียงศีรษะเล็กน้อยสามวันก่อน เขาให้เย่ว์เจียวไปแจ้งหลี่ซานให้หยุดงานเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมดนับตั้งแต่เริ่มสงครามการค้ากับแคว้นหลู่ หลี่ซานก็ลำบากตรากตรำมากที่สุด ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องให้เขาวิ่งเต้นแล้ว เฉินฝานจึงปล่อยให้เขาลาหยุดชั่ว
เฉินฝานชูหยกสมปรารถนาในมือขึ้นสูงแล้วกล่าวว่า “ฝ่าบาท กระหม่อมอยากทูลขอสิ่งหนึ่งก่อนได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“ของสิ่งใด? ขุนนางเฉินรีบกล่าวมาเร็วเข้า!”ขุนนางทั้งหมดต่างก็เหมือนกับฉินเย่ว์เหมย แทบอดทนรอไม่ไหวอยากรู้ว่าสิ่งที่เฉินฝานจะขอคือสิ่งใดเสิ่นหมิงหยวนกระวนกระวายใจเป็นพิเศษ เลื่อนตำแหน่งหรือ?แต่ตอนนี้เฉินฝานเป็นถึงอัครเสนาบดีแล้ว ยังจะเลื่อนขึ้นสูงได้อีกอย่างไร?หรือว่า...หัวใจของเสิ่นหมิงหยวนเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆมีตำแหน่งหนึ่งที่อยู่เหนือกว่าอัครเสนาบดี ตำแหน่งนั้นได้รับการสถาปนาโดยปฐมฮ่องเต้ที่ก่อตั้งแคว้น ทว่าผ่านไปสองร้อยปีตั้งแต่ที่ต้าชิ่งก่อตั้งแคว้น ยังไม่มีผู้ใดไปถึงตำแหน่งนั้นเลย หากตอนนี้เฉินฝานยื่นคำขอละก็...“หลี่กงกง!” เฉินฝานเดินไปหาหลี่เต๋อฉวน “รบกวนท่านช่วยหาของสิ่งหนึ่งจากวังหลังให้ข้าที”“โอ้ว!” หลี่เต๋อฉวนรีบคารวะเฉินฝาน “ใต้เท้าสั่งการข้าน้อยก็พอ ไยต้องใช้คำว่า ‘ช่วย’ ด้วยเล่า!”หลี่เต๋อฉวนเป็นคนเฉลียวฉลาด สมัยที่เสิ่นหมิงหยวนกุมอำนาจในราชสำนัก เขาก็เชื่อฟังเสิ่นหมิงหยวนอย่างยิ่ง แต่ไม่ได้เข้าข้างเสิ่นหมิงหยวนโดยสิ้นเชิง มักจะรักษาระยะห่างในระดับหนึ
ฉินเย่ว์เหมยกวาดมองท้องพระโรงรอบหนึ่งด้วยสายตาเย็นเยียบ“ก็จงถอดหมวกขุนนางบนศีรษะลงมาเอง!”“...”ภายในท้องพระโรงเงียบเป็นเป่าสากทันทีขุนนางเหล่านั้นย่อมรู้ว่าสาเหตุที่เฉินฝานทำเช่นนั้นย่อมต้องเป็นเพราะว่ายังไม่บรรลุตามความคาดหวังของเฉินฝานอย่างแน่นอนแต่ก็คืนเงินให้เก้าส่วนแล้ว เฉินฝานยังต้องการอะไรเพิ่มอีก?หรือว่าต้องการแคว้นหลู่?บางคนคิดว่าเฉินฝานเย่อหยิ่งจองหอง ไม่สนใจผลประโยชน์ของราษฎรชาวต้าชิ่ง เพียงแต่อยากสนองจิตใจที่ชอบชิงดีชิงเด่นของตนเท่านั้นบางคนก็ตั้งตารออย่างเต็มหัวใจเฝ้ารอว่าท้ายที่สุดเฉินฝานจะทำให้แคว้นหลู่กลายเป็นเช่นไร ต้าชิ่งจะได้รับผลประโยชน์อย่างไรบ้างจากทางแคว้นหลู่.....แคว้นหลู่หลังจากที่ยืนยันได้ว่าต้าชิ่งได้รับข่าวแล้ว โอวหยางน่าหลันก็รีบออกเดินทางไปยังต้าชิ่งทันทีครั้งนี้ ไม่ว่าจะอย่างไรนางจะเอาเสบียงจากต้าชิ่งมาให้ได้แคว้นหลู่และต้าชิ่งมีพรมแดนติดกันยังไม่ถึงเที่ยงวัน รถม้าของโอวหยางน่าหลันก็ใกล้จะถึงเมืองลู่ตูแล้ว โอวหยางน่าหลันเลิกม่านของรถม้าขึ้นมา มองไปยังเมืองลู่ตูที่เห็นได้อย่างเลือนรางจากที่ไกล ๆ แล้ว ดวงตาสองข้างแฝงไปด้วยความ
“ต้าชิ่งตัดความสัมพันธ์กับพวกเรา?”โอวหยางน่าหลันที่ไม่เชื่อ ยังคงตั้งใจวิ่งไปยังประตูเมืองลู่ตู แต่ก็ถูกทหารที่เฝ้าประตูเมืองขับไล่จึงต้องยอมแพ้ไปหากกลับไป ภายในแคว้นเต็มไปด้วยราษฎรที่หิวโหยทุกหย่อมหญ้าหากเดินหน้า ประตูเมืองลู่ตูก็ถูกปิดอีกครั้งโอวหยางน่าหลันรู้สึกจนปัญญาและโกรธเกรี้ยว “ฉินหย่งคัง! เจ้าเห็นคนตายแล้วไม่ยอมช่วยเหลือใช่หรือไม่? เจ้าจะต้องได้รับกรรมตามสนองแน่!”“องค์หญิง! จากข้อมูลที่กระหม่อมรู้มา” เหมียวปิงกล่าว “คนที่ริเริ่มให้ตัดความสัมพันธ์กับแคว้นหลู่ของเราไม่ใช่ฮ่องเต้ของต้าชิ่ง แต่เป็นอัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายที่ชื่อเฉินฝานผู้นั้นพ่ะย่ะค่ะ”โอวหยางน่าหลันเลิกคิ้วขึ้น “เฉินฝาน?”“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ! แคว้นหลู่ของเราโดนเฉินฝานผู้นั้นหลอกเข้าเต็มเปาแล้ว”เหมียวปิงอยากจะบอกว่าโอวหยางน่าหลันหลงกลเฉินฝาน แต่เขาไม่กล้าพูดเช่นนี้ตรง ๆ ก่อนที่เขาจะกล่าวต่อว่า “ตั้งแต่ที่เขาซื้ออาวุธจำนวนมากจากแคว้นหลู่ของเรา ก็ได้ขุดหลุมพรางใหญ่ให้แคว้นหลู่ของเราแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“เจ้าพูดอะไรน่ะ? อย่าหาข้ออ้างเพราะว่าเจ้าทำงานล้มเหลวสิ! การที่ต้าชิ่งซื้ออาวุธของเรา เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะห
แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ห่างไกลออกไปในเมืองหลวงของต้าชิ่งก็รู้สึกว่าเงื่อนไขนี้ของเฉินฝานเกินไปหน่อย“เกินไป!”ความเย็นยะเยือกฉายขึ้นมาในแววตาของเฉินฝาน“ไม่เกินไปเลยสักนิด ข้าน้อยเพียงแค่ปรับแก้ไม่กี่คำจากข้อเรียกร้องที่โอวหยางน่าหลานเคยเสนอให้พวกเราก่อนหน้านี้เท่านั้น”เงื่อนไขที่เฉินฝานตกลงว่าจะขายเสบียงอาหารให้แคว้นหลู่คือแคว้นหลู่จะต้องยกเมืองที่ใหญ่ที่สุดในแคว้นให้ต้าชิ่งโดยไม่มีเงื่อนไข แคว้นหลู่ทำได้เพียงซื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่มจากต้าชิ่งเท่านั้น โดยที่ราคาของผ้าและเครื่องนุ่งห่มจะถูกกำหนดโดยต้าชิ่ง แคว้นหลู่ต้องส่งแรงงานชายจำนวนนหนึ่งแสนคนมาให้ต้าชิ่งทุกปีโดยไม่มีค่าตอบแทน“เพล้ง!”โอวหยางน่าหลันปัดผลไม้ที่สาวใช้ยกเข้ามาอย่างแรงจนหล่นลงพื้น“ต่อให้อูฐผอมตายก็ยังใหญ่กว่าม้า! จะต้องสั่งสอนบทเรียนให้ต้าชิ่งที่แสนจองหองให้ดี!” นัยน์ตาของโอวหยางน่าหลันเคร่งขรึมขึ้นมา“ยกทัพ!”“ยึดดินแดนของต้าชิ่ง! ตัดหัวฉินหย่งคังมา!”ชิงตัวเฉินฝาน ครอบครองเป็นของตัวเองคำสุดท้ายประโยคสุดท้ายนี้ โอวหยางน่าหลันไม่ได้กล่าวออกมาการชิงตัวเฉินฝานถึงจะเป็นเป้าหมายสำคัญที่สุดที่โอวหยางน่าห
ภายในท้องพระโรง ทุกคนต่างรอคอยคำตอบของเฉินฝานเขาเป็นคนก่อปัญหานี้ขึ้นมา เวลานี้เฉินฝานจะยุติเรื่องราวอย่างไรเฉินฝานก้าวออกมาข้างหน้าภายใต้สายตาของผู้คนจับจ้องเข้ามาร่างกายที่ยืดตรงราวกับกระบี่ของเฉินฝานแผ่พลังอันน่าเกรงขามราวกับรุ้งออกมาจากในกาย ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างในใต้หล้าอยู่ใต้เท้าของเขาแล้ว พลังอันน่าเกรงขามที่ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ ทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะถอยหลังไปหนึ่งก้าว“ผู้ที่รุกรานต้าชิ่งของข้าจะต้องถูกกำจัด!”.....กองทัพที่ไปรับศึกในเมืองลู่ตูครั้งนี้ยังคงเป็นกองทัพลาดตระเวนหลังจากที่ผ่านศึกกับกองทัพเมืองเตียนตู ชื่อเสียงของกองทัพลาดตระเวนก็เป็นที่เลื่องลือ ทั่วทั้งแคว้นต้าชิ่ง ทุก ๆ ที่ล้วนเกณฑ์ทหารได้ยาก มีเพียงกองทัพลาดตระเวนเท่านั้นที่เกณฑ์ทหารได้ไม่ยากเลย มีคุณชายตระกูลเศรษฐีมากมายมาสมัครท่ามกลางคนเหล่านั้น ทหารกองทัพลาดตระเวนกว่าสองหมื่นนายที่ได้รับชัยชนะกลับมากับเฉินฝาน หลังจากกลับมาถึงเมืองหลวงแล้วก็ได้รับการต้อนรับด้วยเกียรติสูงสุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในหมู่พวกเขา มีหลายคนเคยเป็นพวกลูกผู้ดีมีเงินที่ผู้คนพากันขยาด แต่ตอนนี้พวกเขาเป็นวีรบุรุษผู
เฉินฝานเอนตัวพิงรถม้า มองดูฉากนี้แล้วรู้สึกว่าน่าสนใจมากอย่างไรก็ตาม ปกติเด็กเวรพวกนี้อยู่ในค่ายทหาร เวลาพักจากการฝึกซ้อม มีคนไหนบ้างไม่พูดถึงเรื่องผู้หญิง มีคนไหนบ้างไม่เล่นมุกทะลึ่ง?ตอนนี้สตรีอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่ละคนกลับหน้าแดงก่ำเขินอายทำตัวไม่ถูก“อะไรกัน? เป็นใบ้กันหมดแล้วหรือไร?” เฉินฝานตวาดเหอจื่อหลินเข้าใจทันที เขาเตะทหารที่อยู่ใกล้ตัวเองที่สุดหนึ่งที “หูหนวกกันแล้วหรือ? ผู้หญิงเขาตะโกนนำก่อนแล้ว พวกเราจะตอบกลับสักประโยคให้เหมือนกับพวกชายชาตรีไม่ได้หรือไร?”“แม่นาง ข้าจะแต่งงานกับเจ้า!”เมื่อตะโกนคำพูดประโยคนี้ออกมา ใบหน้าของทหารผู้นั้นก็เต็มไปด้วยความสะใจเขาอยากตะโกนมาตั้งนานแล้ว แต่รู้สึกขัดเขินนิดหน่อยสตรีนางนั้นดูจ้ำม่ำ น่ารักมาก หากได้แต่งงานสตรีเช่นนี้คงจะดีมาก“พี่น้องในกองทัพลาดตระเวน ข้าคือแม่นางสกุลหลี่จากฝั่งตะวันตกของเมือง ปีนี้ก็อายุสิบหกเช่นกัน มีใครจะแต่งงานกับข้าบ้างหรือไม่?”“พี่น้องในกองทัพลาดตระเวน ข้าคือแม่นางสกุลเฉินจากฝั่งใต้ของเมือง ปีนี้อายุสิบเจ็ด แต่งงานกับข้าได้ด้วยหรือไม่?”“พี่น้องในกองทัพลาดตระเวน ข้าคือแม่นางสกุลเหอจากฝั่งเหนือข
“ได้เลย หมูน้ำแดง ซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน จัดให้เลยพรุ่งนี้” เฉินฝานตอบเสียงดัง“หมูน้ำแดง ซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน!”ทหารทุกคนล้วนเข้าใจจุดประสงค์ที่เฉินฝานให้พวกเขากินดื่มกันยกใหญ่บนภูเขา ดังนั้นจึงพร้อมใจกันทวนชื่ออาหารเสียงดัง“ใต้เท้า!”ขณะที่เฉินฝานกำลังเตรียมตัวจะกลับไปพักผ่อน ทันใดนั้นเหอจื่อหลินก็พาสตรีนางหนึ่งมาหาเขาสตรีผู้นั้นเป็นคนที่มาจากด้านล่างหุบเขา นางคือสาวใช้คนสนิทของโอวหยางหน่าหลัน“ข้าขอพบใต้เท้าเฉิน อัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายของพวกท่าน!” สาวใช้ผู้นั้นเอาแต่กล่าวเช่นนี้ซ้ำ ๆ “ข้านี่แหละ” เฉินฝานกล่าวสาวใช้ผู้นั้นมองเฉินฝานอย่างพิจารณาพลางเอ่ยพึมพำในปากว่า “ใบหน้าขาวสะอาด รูปร่างกำยำ เสียงทุ้มนุ่มลึก”“เช่นนั้นข้าตรงกับเงื่อนไขหรือไม่?” เฉินฝานเอ่ยด้วยรอยยิ้ม“ยิ้มแล้วดูซื่อ ๆ” สาวใช้มองเฉินฝานแล้วเอ่ยพึมพำกับตนเองอีกครั้ง“อ้อ!” เฉินฝานยิ้มพลางพยักหน้า “ที่แท้ในสายตาองค์หญิงของพวกเจ้าข้ามีภาพลักษณ์เช่นนี้เอง!”“องค์หญิงของเราตรัสว่าพวกเรายอมจำนนก็ได้!” สาวใช้ผู้นั้นกล่าว“นี่เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องยิ่งนัก องค์หญิงของพวกเจ้าควรทำเช่นนี้ตั้งนานแล้ว”“แต่ว่าพระ
เฉินฝานกล่าวจบไปได้พักใหญ่แล้ว เหอจื่อหลินยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม“พี่จื่อหลิน มิใช่ว่าอยากรีบจบเรื่องนี้โดยเร็วหรอกหรือ? เหตุใดพี่ยังมัวอึ้งอยู่ที่นี่เล่า? รีบลงมือสิ!” เฉินฝานเร่งเหอจื่อหลิน “ทราบดีว่าท่านมีคำถามอยู่เต็มสมอง ตอนนี้ไม่อาจอธิบายให้ท่านฟังโดยละเอียด ท่านไปจัดการก่อน อีกไม่นานข้าจะมา”หลังจากที่เหอจื่อหลินจากไปแล้ว เฉินฝานก็พาฉินเย่ว์เจียวเข้าเมืองลู่ตูทันทีไม่นาน เขาก็พาคนออกมาจากเมืองลู่ตู มุ่งหน้าสู่เนินเขากงจียามที่เฉินฝานไปถึง พ่อครัวทหารของกองทัพต่าง ๆ กำลังขนย้ายเครื่องครัวมาถึงพอดี ขณะเดียวกันเจ้าเมืองลู่ตูก็นำไก่หนึ่งพันตัวมาส่งให้เช่นกันเฉินฝานให้พ่อครัวทหารของกองทัพต่าง ๆ ตั้งเตาหลายสิบเตาของแต่ละกองทัพตรงสถานที่ที่มีลมโกรก ต้มน้ำเดือด หั่นไก่ที่เชือดเรียบร้อยแล้วเป็นชิ้น ๆ แล้วเคี่ยวลงในหม้อผ่านไปไม่นานนัก น้ำแกงไก่ในหม้อเหล็กใบใหญ่ก็เดือดปุด ๆ กลิ่นหอมของน้ำแกงไก่เข้มข้นอบอวลไปทั่วหุบเขาอย่าว่าแต่ทหารหลู่ที่หิวจนท้องร้องโครกครากเลย ต่อให้เป็นกองทัพลาดตระเวนที่เพิ่งกินข้าวอิ่มเมื่อครู่นี้ต่างก็น้ำลายไหลถึงพื้นแล้ว เฉินฝานกล่าวเสียงดังว่า “เหล
มองทหารที่อยู่ในหลุมหลบภัย ถูกไฟคลอกทั้งตัว เกลือกกลิ้งไปมาด้วยความเจ็บปวด รวมถึงน้ำมันสนที่ยังคงไหลไม่หยุด ทหารหลู่ที่ยังไม่กระโดดลงไปในหลุมหลบภัย ไม่กล้ากระโดดลงไปแล้วทหารหลู่ที่เดิมทีจะฝ่าวงล้อมออกไปได้แล้วนั้น ถูกขังด้วยเพลิงไฟ“เหี้ยมโหดยิ่งนัก!”โอวหยางหน่าหลันตะโกนด้วยความโมโหหลังจากนั้น เฉินฝานทำเพียงอย่างดีซึ่งก็คือขุดหลุมรอบทหารหลู่ แล้วเทน้ำมันสนลงไปเรื่อยๆตอนทหารหลู่ย้อนกลับไปทางเดิม ไปถึงหุบเขาต้าถัง หลี่จื้อใช้วิธีการเดียวกัน อีกทั้งเขายิ่งสบายกว่าหุบเขาต้าถังมีเพียงทางเดียว เขาสั่งให้คนขุดหลุมยาว เทน้ำมันสนปริมาณมากลงไป เมื่อทหารหลู่มาถึง เปลวไฟในหลุมลุกโชนทหารหลู่อยากฝ่าออกไปโดยใช้เส้นทางบนหุบเขา กองทัพลาดตระเวนประจำการอยู่ที่นั่น ยิ่งง่ายในการต่อสู้ยิ่งไปกว่านั้น ทหารหลู่ไม่มีอะไรตกถึงท้องมาหนึ่งวันแล้ว ต่อสู้ตลอดทั้งวัน พวกเขาแทบจะใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีจนสิ้นแล้วหฃังจากปิดล้อมทหารหลู่ เฉินฝานก็สั่งให้หยุดโจมตีตอนนี้เพียงปิดล้อมไม่ต้องโจมตีแล้ว ไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองอาวุธและชีวิตอันล้ำค่าของกองทัพลาดตระเวนอีกต่อไป“ใต้เท้า ส่งคนเข้าไปสามรอบแล้ว
“สหายทั้งหลาย ลุย! อย่าให้ทหารหลู่ไปถึงหลุมหลบภัยที่สามของทหารหญิงเด็ดขาด”เวลานี้ ทหารกองกำลังที่สามจากหุบเขาเสี่ยวถังมาถึงแล้วเมื่อทหารกองกำลังที่สามถึง ซุนลี่ก็ออกคำสั่งทันที“ทหารทั้งหลาย กองทัพลาดตระเวนต้าชิ่งเริ่มปิดล้อมแล้ว เหลืออีกเพียงหนึ่งแนวป้องกันเท่านั้น ก็จะฝ่าออกไปจากการปิดล้อมได้แล้ว!”ทางด้านทหารหลู่ โอวหยางน่าหลันก็ฉีดยาให้กำลังใจทหารหลู่“อย่ายอมตายอย่างอดอยากเด็ดขาด ฝ่าออกไป!”ทหารหลู่ราวกับเครื่องจักรที่ไร้ความรู้สึก ไม่ว่าข้างกายจะมีคนล้มลงมากน้อยเพียงใด พวกเขาล้วนมองไม่เห็น เป้าหมายของพวกเขามีเพียงหนึ่งเดียว ซึ่งก็คือไปถึงหลุมหลบภัยที่สามของทหารหญิง แล้วฝ่าวงล้อมออกไปเวลานี้ เหอจื่อหลินที่มาจากหุบเขาต้าถังมาถึงแล้วทหารกองกำลังที่ห้าของเหอจื่อเฝ้าหุบเขาต้าถัง เพื่อป้องกันทหารหลู่ถอยกลับไปทางด้านเหอจื่อหลินนำทัพกองกำลังที่สองเร่งเดินทางมา“ใต้เท้า ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ช้าก็เร็วทหารหลู่ต้องฝ่าออกไปได้แน่นอน ข้ารีบเข้าเมืองลู่ตูตอนนี้ นำทหารเฝ้าเมืองห้าหมื่นนาย ไปเมืองลู่ตูเพื่อปิดกั้นเส้นทางการออกไปของทหารหลู่”“นี่ไม่ใช่วิธีการที่ดี!”เฉินฝานขมวดคิ
“ฝ่าออกไป ไม่อาจเป็นผีหิวตายเด็ดขาด!”โอวหยางน่าหลันลากเท้าที่บาดเจ็บ พุ่งตัวไปด้านหน้าหลังจากถูกยิงไปแล้วหนึ่งครั้ง ทหารรักษาพระองค์ล้อมโอวหยางน่าหลังทั้งสองสี่ด้าน คุ้มกันนางอย่างแน่นหนาลูกธนูของฉินเย่ว์เจียวยิงถูกคน ทว่าไม่อาจยิงโดนโอวหยางน่าหลัน“ฝ่าออกไป! ไม่อาจอดตายกลายเป็นผีได้!”คล้ายตอนอยู่นอกประตูเมืองลู่ตู จู่ๆ ทหารหลู่พุ่งตัวไปด้านหน้าอย่างไม่คิดชีวิตครั้งนี้ พวกเขาไม่วิ่งขึ้นหุบเขาอีกแล้ว พุ่งตัวไปหาทหารหญิง“ลุย จัดการพวกมันซะ!” มั่วเซินรีบออกคำสั่งทันทีทหารกองกำลังที่หนึ่ง รวมถึงทหารกองกำลังที่สามซึ่งรีบเดินทางมา ระดมกำลังต่อสู้ ช่วยคลายความกดดันให้ทหารหญิงบนพื้นดิน ทหารหลู่ล้มกองแล้วกองเล่า ศพกองเป็นภูเขาแต่พวกเขากลับไม่สนใจคนข้างกาย ยิงธนูใส่พวกสตรี อย่างบ้าคลั่งพร้อมกับพุ่งตัวไปด้านหน้าลูกธนูด้านหน้าถูกยิงมาราวกับสายฝน พวกทหารหญิงถึงขั้นไม่อาจเงยหน้าขึ้น“พี่น้องทั้งหลาย!” เย่ว์หนูร้องตะโกนเสียงดัง “ลงไปเร็วเข้าๆ ทหารหลู่มาใกล้เกินไปแล้ว สุ่มโยนได้เลย!”ทหารหญิงกระโดดลงจากเก้าอี้ ยืนอยู่ในหลุมหลบภัยแล้วสุ่มโยนระยะทางใกล้เช่นนี้ การสุ่มโยนระเบิดทห
“เจ้าค่ะ!”ฉินเย่ว์เจียวขึ้นสายเกาทัณฑ์ทันที “รับประกันว่าเพียงหนึ่งดอกก็คร่าชีวิตนางได้แล้ว”“อย่าสังหารนาง เพียงให้นางตกลงจากก้อนหินก็พอ ให้นางไม่กล้าเสนอหน้าอีกก็พอ” เฉินฝานรีบพูด“นายท่าน ท่านชมชอบนางหรือเจ้าคะ?”นี่เป็นครั้งแรกที่ฉินเย่ว์เจียว กล่าวถึงสตรีอื่นแล้ว เปี่ยมไปด้วยความหึงหวงนางไม่ชอบโอวหยางน่าหลัง สตรีที่คิดอยากจะเป็นผู้หญิงของนายท่าน นางไม่เคยกีดกัน แต่ว่าโอวหยางน่าหลันคนนี้ ไม่เพียงอยากแต่งงานกับนายท่าน ยังอยากแย่งนายท่านไปอีก ทำเกินไปแล้วจริงๆเฉินฝานยิ้ม “โอวหยางน่าหลันมีประทุมอวบอิ่มสะโพกผาย ทั้งยังร่ำรวย ชายใดบ้างที่จะไม่ชอบ?”รับรู้ได้ว่าสตรีข้างกายแทบจะเบิดอารมณ์แล้ว เฉินฝานรีบหุบยิ้ม พูดด้วยความจริงจัง “ข้าล้อเล่น ตอนนี้โอวหยางน่าหลันยังตายไม่ได้!”ต้องไว้ชีวิตนางเพื่อทำการต่อรองดวงหน้างดงามของฉินเย่ว์เจียวเปี่ยมไปด้วยความโมโห “ข้าต้องการให้นางตาย!”แม้จะพูดด้วยความโมโห แต่ตอนมือของฉินเย่ว์เจียวขึ้นสายเกาทัณฑ์ นางเบี่ยงมือเล็กน้อย“โอ๊ย~”สิ้นเสียงโอดครวญ โอวหยางน่าหลันที่ยืนอยู่บนก้อนหินขนาดใหญ่ตกลงไป“องค์หญิง!”“คุ้มกันองค์หญิง!”หลังจากโอวห
“หลุมลึกเช่นนั้น หากไม่มีเก้าอี้ พวกนางปีนป่ายขึ้นมาต้องใช้แรงมหาศาลทหารหลู่ที่วิ่งเร็วที่สุด เข้าสู่วงล้อมโจมตีของเนินเขากงจีแล้ว“ระวัง ด้านหน้ามีทหารต้าชิ่ง!”สายตาเฉียบแหลมของเขาพบว่าเส้นทางด้านหน้า มีโคลนหลายกอง อยู่บนถนน“เอ๊ะ เหตุใดข้าจึงรู้สึกว่านั่นเป็นพวกผู้หญิง?”“ไม่ใช่รู้สึก แต่พวกนางเป็นผู้หญิงจริงๆ”“ข้าได้ยินมาโดยตลอดว่าต้าชิ่งมีทหารหญิง คิดไม่ถึงว่าจะมีจริงๆ!”เมื่อเห็นว่าเป็นสตรี พวกทหารหลู่ผ่อนคลายลงมาก“เฮ้อ พวกเจ้าอย่าประเมินศัตรูต่ำเกินไป ข้าได้ยินว่าทหารหญิงแคว้นต้าชิ่ง ร้ายกาจยิ่งนัก”มีคนเตือน แต่ก็มีคนโต้กลับในทันทีทันใด?”“ใช่ ตอนนี้แข่งเรื่องต่อสู้ ไม่ได้แข่งเย็บปักถักร้อย”หลังจากเห็นทหารหญิงด้านหน้าแล้ว ทหารหลู่ที่หมดอาลัยตายอยากก่อนหน้านี้ กระปรี้กระเปร่าขึ้นมามาก“แม้กระทั่งสตรีก็ถูกสั่งให้มาสู้รบ ต้าชิ่งไม่มีบุรุษแล้วจริงๆ”“สหาย พวกเจ้าเห็นหรือไม่? สตรีต้าชิ่ง งดงามกว่าสตรีแคว้นหลู่ของเรา”“งดงามกว่าสตรีแคว้นหลู่ของเราจริงๆ สหาย ต้าชิ่งเหลือเพียงสตรีแล้ว พวกเรารีบฝ่าออกไป แล้วค่อยโต้กลับทีหลัง”“หลังจากยึดครองต้าชิ่ง สตรีต้าชิ่งทั้งหมดเ
“เฉินฝานเทน้ำชาในกา ทิ้งลงในเตาผิง จากนั้นวางกาน้ำชาเปล่าไว้บนโต๊ะ“ไปกันเถอะ!”“ไปไหนเจ้าคะ?” ฉินเย่ว์เจียวรีบตามไป“เนินเขากงจี เวลานี้ทหารหลู่น่าจะถอนกำลังไปถึงเนินเขากงจีแล้ว”ฉินเย่ว์เจียวกำลังคิดอยากจะถามเฉินฝาน เขารู้ได้อย่างไรว่าทหารหลู่จะถอยทัพไปถึงเนินเขากงจีแล้ว ถังหงชางหัวหน้าผู้ส่งสารกเข้ามาเมื่อเห็นเฉินฝาน ถังหงชางรีบวิ่งตามมา “ใต้เท้า น่าจะใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยาม ทหารหลู่ก็จะไปถึงเนินเขากงจีขอรับ”“อื้ม!”เฉินฝานที่พยักหน้า รีบเดินออกไปเขาจะไปเนินเขากงจี การดักโจมตีบนเนินเขากงจี คือสิ่งสำคัญที่สุด การต่อสู้ครั้งนี้ตัดสินแพ้ชนะ ทั้งยังตัดสินชะตาแคว้นหลู่และต้าชิ่งการดักโจมตีบนเนินเขากงจี ไม่เพียงโจมตีบนหุบเขา ภาคพื้นดินมีทหารซุ่มโจมตี อีกทั้งระหว่างทาง ก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุดเฉียนหงที่ประจำเนินเขายาจุ่ยกลับมาพร้อมกับทหารหลู่แล้ว...“ขุดเร็วเข้า ไม่ได้ ขุดลึกอีกหน่อย!”“ที่เจ้าขุดยังไม่ถึงแปดฟุตแปดนิ้ว ขุดอีก!”เฉินฝานยังไปไม่ถึง ก็ได้ยินเสียงเคร่งขรึมของเย่ว์หนูแล้วหลังจากทหารหลู่ผ่านเนินเขากงจี เฉินฝานให้คนไปส่งข่าวบอกเย่ว์หนู สั่งให้นางขุดหลุมตรงกลางถ
“เจ้า...”โอวหยางน่าหลันโมโหจนสั่นเทาไปทั้งตัว“องค์หญิง โปรดรับสั่งให้ถอยทัพในทันทีพ่ะย่ะค่ะ!” อวิ๋นเต๋อพูดซ้ำอีกรอบ อีกทั้งครั้งนี้แววตาของเขาลุ่มลึก“ถอยทัพ!”โอวหยางน่าหลันกัดฟันพูดหลังจบสิ้นสงครามนี้ คนพวกนี้ นางจะจัดการทีละคน“ทหารหลู่ของเรามีแปดแสนกว่านาย กองทัพลาดตระเวนมีหนึ่งแสนนาย เหตุใดต้องถอย?”ระหว่างทางถอยทัพ โอวหยางน่าหลันเจ็บแค้นใจมาโดยตลอด ถามอวิ๋นเต๋อซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่า“องค์หญิง ตอนนี้พวกเรามีกำลังทหารไม่ถึงแปดแสนนายแล้วพ่ะย่ะค่ะ” อวิ๋นเต๋อตอบตอนโจมตีเมือง ทหารหลู่แลกด้วยชีวิต บวกกับโจมตีหุบเขาต้าถังเมื่อครู่ ตอนนี้ไม่มีเวลานับจำนวนคนแล้ว แต่ประสบการณ์ที่เคยนำทัพมาหลายปีของอวิ๋นเต๋อบอกกับเขาว่า ตอนนี้ทหารหลู่เหลือไม่ถึงหกแสนนายแล้ว“แม้จะเป็นเช่นนี้ ฝืนสู้เสียหน่อย ระเบิดไหสุราของพวกเขาก็หมดลงแล้ว”“องค์หญิง องค์หญิงพูดถูกพ่ะย่ะค่ะ หากพวกเรายืนหยัดอีกเสียหน่อย กองทัพลาดตระเวนต้องใช้ระเบิดจนหมดแน่นอน”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงยังถอยทัพ?”“องค์หญิง ด้วยวิธีการขององค์หญิง สามารถคว้าชัยชนะมาได้ แต่ความสูญเสียนั้นมากเกินไป อีกทั้งเห็นชัดว่าเป็นกับดัก เสบียงอาหาร