Share

บทที่ 853

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“ท่านแม่ ท่านรอข้าที่นี่ ข้าไปหาฟืน”

สีหน้าของจางเซิงเปลี่ยนจากเชื่อฟังในตอนแรก เป็นเคร่งขรึม

เดิมทีนางจางยังอยากจะพูด ทว่าตกใจกับสีหน้าของลูกชาย อดีตนายท่านของนาง ยามจริงจังก็มีสีหน้าเช่นนี้

“เซิงเอ๋อร์...” นางจางน้ำตาคลอ

“เฮ้อ!” เซียนเจี้ยนหวงที่เงียบมาโดยตลอดพูด “ช่างเรื่องมากจริงๆ ถึงอย่างไรเพิ่มพวกเจ้าสองคนขึ้นมาก็ไม่มากเท่าใด ติดตามพวกข้าก็แล้วกัน”

“เจ้าดูเขาเล่า สภาพอ่อนแอเช่นนี้ ออกไปหาฟืน ไม่รู้ว่ากลับมาได้หรือไม่ ถึงเวลาไม่อาจกลับมา ก็จะมีคนร้องไห้อีก ข้ารำคาญเวลามีคนร้องไห้ที่สุด”

อาจจะเป็นเพราะกลัวเฉินฝานไม่เห็นด้วย เซียนเจี้วนหวงจึงพูดเสริมด้วยประโยคร่ายยาว

“ในเมื่อเป็นข้อเสนอของเซียนเจี้ยนหวง นั่นย่อมเป็นเรื่องที่ดี!” เฉินฝานยิ้มบางๆ แล้วพูด

ความเป็นจริง ตั้งแต่เขาให้ฉินเย่ว์เจียวไปหามนางจางกลับมา เฉินฝานก็มีเจตนาเช่นนี้

อากาศหนาวเย็น อยู่ข้างนอกไม่มีสิ่งใดปกคลุม สองแม่ลูกคู่นี้มีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงสามวัน

ขณะที่จางเซิงกำลังตกตะลึงอยู่นั้น แม่นางดึงตัวเขาคุกเข่าตรงหน้าเฉินฝาน

“ขอบคุณ ขอบคุณคุณชาย คุณชาย ท่านคือผู้มีพระคุณของพวกเราแม่ลูก!”

ลางสังหรณ์ของสตรีบอกกับน
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 854

    จางเซิงปรายตามองอาหารที่พวกเขาได้รับการแบ่งมาข้าวสาร บะหมี่ ผักกาดขาว ผักกาดดองและเนื้อ ทว่าไม่ใช่เนื้อหมู แต่เป็นเนื้อเป็ดไก่ซึ่งไม่ค่อยนิยมรับประทานอาหารเหล่านี้ ล้วนต้องปรุงสุกก่อนจึงจะกินได้แม้กระทั่งผักกาดดองก็ต้องปรุงสุกก่อน เพราะนำผักกาดดองออกมาจากห้องใต้ดินระยะหนึ่งแล้ว ผักกาดดองเกาะตัวเป็นน้ำแข็งแล้วไม่มีหม้อ มีเพียงอาหารก็ไร้ประโยชน์“ข้าก็ว่า เหตุใดวันนี้เขาจึงใจดี ถึงได้แบ่งอาหารมาให้พวกเรา แท้จริงแล้วเขาก็ยังโหดเหี้ยมเหมือนเดิม” นางจางพูดด้วยความโมโห“เป็นเช่นนี้จริงๆ หรือ?” ฉินเย่ว์เจียวถามเย่ว์หนูเย่ว์หนูพยักหน้า “กล่าวโดยสรุปก็คือทุกสิ่งที่นำมาทำอาหารได้ เขายึดเอาไว้หมดเจ้าค่ะ”“ทำเช่นนี้ได้อย่างไร!” ฉินเย่ว์เจียวกัดฟันแน่น มองค้อนไปยังห้องที่เหลยหย่งอันอยู่ “ในเมื่อพวกเขาไร้คุณธรรม เช่นนั้นเราก็ไม่จำเป็นต้องมีจริยธรรม พวกเราไปกันเถอะ!”ฉินเย่ว์เจียวคว้าระเบิดมือ ร้องเรียกเย่ว์หนู แล้วเดินออกไป“กลับมา!”เฉินฝานที่เงียบมาโดยตลอดร้องปราม“นายท่าน พวกเขายึดหม้อและกระทะทั้งหมดเอาไว้ ข้าเพียงไปขอก็เท่านั้น” เป็นครั้งแรกที่ฉินเย่ว์เจียวไม่เชื่อฟังคำพูดของเฉิ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 855

    “ข้าเดาว่าหนึ่งวัน!”“หนึ่งวัน เยอะเกินไปแล้วกระมัง ข้าว่ามากสุดก็ครึ่งวัน”“ครึ่งวันก็มากไป ข้าว่าไม่เกินสองชั่วยาม”ฉินเย่ว์เจียวและเย่ว์หนูโมโหจนแทบอยากฉีกปากคนพวกนั้นเมื่อโมโห ฉินเย่ว์เจียวก็ยิ่งรู้สึกหิวเสียงท้องร้องของนางดังไปถึงหูของเฉินฝาน“นายท่าน ข้าเพียงท้องไส้ปั่นป่วน ไม่ได้หิวเจ้าค่ะ!” กลัวเฉินฝานกังวล ฉินเย่ว์เจียวรีบอธิบาย“ข้าไม่ได้โง่เขลา เจ้าหิวหรือว่าท้องไส้ปั่นป่วน? ข้าแยกได้อย่างชัดเจน” เฉินฝานวางมือของตนทับมือของฉินเย่ว์เจียว “พยุงข้าลุกขึ้น!”“เจ้าค่ะ!”ฉินเย่ว์เจียวที่เพิ่งย่อตัวลง ชะงักทันที “นายท่าน พยุงท่านขึ้น ท่านจะไปที่ใดเจ้าคะ?”“แน่นอนว่าแก้ปัญหาเรื่องอาหารการกิน พวกเราไม่ใช่เทพเซียน หากไม่กินข้าวจะหิวตาย”“เฮ้อ! พยุงข้าลุกขึ้นสิ ทำไมนึกเสียใจทีหลังเช่นนั้นหรือ?”ยิ่งเฉินฝานพูดเช่นนี้ ฉินเย่ว์เจียวยิ่งถอยหลังไปเร็วขึ้น “นายท่าน ข้าไม่ต้องการให้ท่านไปขอร้องเหลยหย่งอันอะไรนั่น”หากเฉินฝานไปขอร้องเหลยหย่งอัน นางจึงจะมีข้าวกิน เช่นนั้นนางยอมหิวตายสามีของตาย ไม่มีทางคุกเข่าขอร้องใครพี่สาวคนโตผู้ส่งศักดิ์ของนาง เวลานี้เป็นถึงฮ่องเต้ต้าชิ่ง ย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 856

    “ภายใต้สายตามากมาย เหลยหย่งอันล้มลงเมื่อครู่เฉินฝานอยากเลื่อนเท้าหนี ดังนั้น...ปากของเหลยหย่งอัน โดนฝ่าเท้าของเฉินฝานพอดี“...”ทุกคนในเหตุการณ์เงียบไปนานกว่าสิบวินาที“คุณชาย คุณชาย!”เสียงร้องไห้โอดครวญดังขึ้น สถานการณ์ชุลมุนวุ่นวายในทันที“ไสหัวไป ไสหัวไป!”เหลยหย่งอันที่อับอายและโมโห ผลักบ่าวรับใช้ ร้องตะโกนเสียงดัง “มีด มีด!”บ่าวรับใช้คนหนึ่งแทบจะกลิ้งเข้าไปในห้อง จากนั้นก็แทบจะกลิ้งออกมาตอนออกมา มือของเขามีมีดหั่นผักหนึ่งเล่มติดมาด้วยเหลยหย่งอันยิ่งมือไปคว้าไว้ในทันที“...อ๊าก!”เสียงหมูถูกเชือดดังขึ้นอีกครั้ง เหลยหย่งอันชี้เท้าข้างขวาของตนด้วยสีหน้าเจ็บปวดไม่เอนไม่เอียงแม้แต่น้อย ปลายมีด ทิ่มเท้าของเหลยหย่งอันอย่างพอดิบพอดีมือขวาของเหลยหย่งอัน ตอนที่เขาคิดอยากจะล่วงเกินเมี่ยวอวี่ ถูกนักฆ่าหญิงหักเส้นเอ็นที่มือไปแล้วเขาลืมตัวไปชั่วขณะ ใช้มือขวาไปคว้ามีด สุดท้ายจึงกลายเป็นเช่นนี้“ฮ่าๆๆ บาปกรรมตามสนอง บาปกรรมตามสนองจริงๆ สัตว์เดรัจฉานเหลยหย่งอัน เจ้าเองก็มีวันนี้!” นางจางหัวเราะเสียงดังท่ามกลางผู้รอดชีวิต มีคนแอบหัวเราะเช่นเดียวกันพวกเขาหลายคนต่างเคยถู

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 857

    “ดวงตากลมโตเหนือผ้าคลุมหน้า ฉายความตกตะลึง ทว่ากลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว หลังจากขนตางอนยาวสั่นเล็กน้อย เมี่ยวอวี่พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ“ข้าเคยให้ท่าน ท่านไม่รับไว้ เช่นนั้นเราก็ไม่มีสิ่งใดติดค้างกัน”พูดจบ เมี่ยวอวี่หันหลังเดินจากไป โดยไร้ซึ่งความลังเลท่ามกลางหิมะ เมี่ยวอวี่ในชุดเสื้อคลุมขนสัตว์สีแดง งามสะพรั่ง ช่างงดงามจริงๆเฉินฝานอดไม่ได้ที่จะอุทานความงามของเมี่ยวอวี่ เป็นความงามเอกลักษณ์มีเพียงหนึ่งเดียวในใต้หล้าแม้ต้องทิ้งชีวิต ก็จะสังหารเขา เสิ่นหมิงหยวนคือคนที่อยู่เบื้องหลังนางหรือไม่หากว่า...สีหน้าของเฉินฝานหม่นหมอง ดวงตาลุ่มลึกเปี่ยมไปด้วยไอสังหารหากเสิ่นหมิงหยวนคือคนที่อยู่เบื้องหลังเมี่ยวอวี่ เช่นนั้นจี้หยกในมือเมี่ยวอวี่ เสิ่นหมิงหยวนต้องเป็นคนให้มาแน่นอนไม่ว่าจะเป็นผู้ใด จับตัวภรรยาของเขาจุดจบคือความตายเท่านั้นอีกทั้งตายไม่ครบสามสิบสองประการ“นายท่าน นายท่าน”ฉินเย่ว์เจียวร้องเรียกเฉินฝานสองครั้งติดต่อกัน กว่าเฉินฝานจะดึงสติกลับมา“นายท่าน ท่านกำลังคิดอะไรอยู่เจ้าคะ?”“ไม่มีอะไร พวกเราไปกันเถอะ” เฉินฝานดึงตัวฉินเย่ว์เจียว แต่กลับพบว่านางยืนนิ่ง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 858

    “นายท่าน...”ฉินเย่ว์เจียวมองเฉินฝานด้วยความปวดใจ “ข้าไปขอร้องเมี่ยวอวี่ดีกว่าเจ้าค่ะ”อาการสติฟั่นเฟือนของนายท่านคล้ายจะไม่ธรรมดา ต้องรีบกลับไป ทำอาหารให้นายท่านกิน“เย่ว์เจียว!” สีหน้าของเฉินฝานฉายความไม่สบอารมณ์ “เจ้ารู้สึกว่าข้ากำลังล้อเล่นเช่นนั้นหรือ? รีบตัดหนึ่งต้นแล้วกลับไปกับข้า!”“นายท่าน ข้าผิดไปแล้วเจ้าค่ะ”ฉินเย่ว์เจียวทำตามทันที นางยังคงไม่เชื่อว่าต้นไผ่สามารถทำเป็นกระทำได้ นางครุ่นคิดในใจ รีบพาเฉินฝานกลับไป ให้เซียนเจี้ยนหวงดูอาการเฉินฝานเพียงมองเงียบๆ ฉินเย่ว์เจียวคิดสิ่งใด เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรพูดพล่ามไปก็ไร้ประโยชน์ กลับไปทำให้นางเห็น นางก็จะเข้าใจเองเวลาเพียงไม่นาน ฉินเย่ว์เจียวก็ตัดต้นไผ่เสร็จ“พวกเรารีบกลับไปกันเถอะ ข้าจะทำข้าวหลามให้เจ้าค่ะ!”เพียงนึกถึงกลิ่นหอมของข้าวหลาม เฉินฝานก็รู้สึกท้องกำลังร้องจ๊อกจ๊อก เขาเดินเร็วขึ้นโดยไม่อาจควบคุมบางครั้งความโชคดีของมนุษย์ก็เป็นเช่นนี้เรื่องดีๆ เกิดขึ้นติดต่อกันระหว่างทางกลับไป เฉินฝานบังเอิญเตะโดนก้อนหินแเกรนิตขนาดใหญ่ ประมาณสามสิบเซนติเมตรและค่อนข้างบางน่าจะตกลงมาตอนภูเขาหิมะถล่ม“เฮ้อ!” เฉินฝานเก็

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 859

    “ตอนนี้ใครพูดก็คือคนนั้นแหละ” เฉินฝานพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ“ช่างเถอะๆ!”สหายของสุนัขบ้าปรามเขา “เหตุใดต้องถือสาคนโง่ด้วย? พวกเราคอยดูมันขายหน้าไม่ดีหรือ?”สุนัขบ้าคนนั้นมองเซียนเจี้ยนหวงที่นั่งพักผ่อนสายตาใต้หลังคาซึ่งห่างจากพวกเขาประมาณหนึ่ง สุดท้ายไม่กล้าไปหาเรื่องเฉินฝาน“อย่าให้ข้าเจอเจ้าตามลำพัง มิเช่นนั้นข้าจะตบให้ฟันร่วงหมดปาก!”“หึ!”ฉินเย่ว์เจียวส่ายหน้า คนโง่ที่น่าสงสารอีกคนหนึ่งแล้วเพราะภาพลักษณ์ของเฉินฝานดูเรียบร้อย ดังนั้นเรื่องประมาณนี้ จึงไม่เคยเกิดขึ้นลอบไปหาเฉินฝานตามลำพังสุดท้ายล้วนพิการ พิการก็ไม่กล้าพูด เพราะถูกปัญญาชนอ่อนแอคนหนึ่ง ทำร้ายจนพิการ นั่นเป็นเรื่องที่ขายหน้ายิ่งนัก“ได้ ข้ารอเจ้า”ไม่ได้ขยับเขยื้อนมือและเท้ามานานแล้ว รอให้แผลที่คอหายดี ต้องขยับเขยื้อนบ้างแล้ว“ว้าว! เขาท้าทายเจ้า”สหายของสุนัขบ้าร้องตะโกน ต่างกระชุ่มกระชวยขึ้นมา“ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริงๆ ถึงเวลาอย่าฉี่รดกางเกงล่ะ!” สุนัขบ้าพูดเสียงเหี้ยมเฉินฝานไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะเวลานี้เย่ว์หนูเริ่มยกก้อนหินเข้ามาในกระท่อมหิมะแล้วกำลังหิว ไม่มีความจำเป็นใดที่จะต้องมาเสียเวลากับ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 860

    “เสียงกร๊อบแกร๊บดังขึ้น น้ำมันบนหนังไก่ละลายออกมาชั่วขณะหนึ่ง กลิ่นหอมไปทั่วทั้งกระท่อมคนที่รอให้ก้อนหินแตกมาโดยตลอด สิ่งที่พวกเขาได้พบเจอกลับเป็นกลิ่นหอมของน้ำมันไก่แม้เมื่อครู่พวกเขาจะกินข้าวแล้ว ทว่าเป็นเพียงผักกอดดองต้มผสมข้าวเท่านั้น กลิ่นหอมนั้นจะเทียบกับน้ำมันไก่ได้อย่างไร“หื้ม~”หลานคนสูดจมูกอย่างไม่อาจควบคุมตน แม้กระทั่งพวกสุนัขรับใช้ที่หัวเราะเยาะเฉินฝานมาโดยตลอด ก็เงียบปากหลังจากหนังไก่มีน้ำมันละลายออกมา เฉินฝานนำเนื้อไก่ที่หั่นเป็นชิ้นบางๆ โยนลงบนหินหลังจากผัดจนเกือบสุก เฉินฝานหยิบกล่องหนึ่งออกมาภายในกล่อง มีเครื่องปรุงจำพวกเกลือ ยี่หราและงาเป็นต้นนี่คือเครื่องปรุงที่เฉินฝานใช้เป็นประจำในยุคปัจจุบันหลังออกจากกรม เฉินฝานเป็นทหารรับจ้างอยู่ระยะหนึ่งเพราะไม่คุ้นเคยกับอาหารการกิน ดังนั้นเฉินฝานจึงเคยชินที่จะพกกล่องเล็กๆ ซึ่งเก็บพวกเครื่องปรุงห้าหกอย่างติดกระเป๋าตอนโรยเครื่องปรุงลงไปบนไก่ เฉินฝานอดไม่ได้ที่จะเสียดายเสียดายที่ยุคสมัยนี้ไม่มีพริก หากโรยพริกผงลงไป รสชาติของไก่จะอร่อยมากทางด้านเฉินฝานที่กำลังเสียดายว่ารสชาติไม่กลมกล่อมพออีกด้านหนึ่ง บรรด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 861

    “อันที่จริงนำข้าวแช่ในน้ำสักครึ่งชั่วยาม จากนั้นวางบนหินก็ทำให้สุกได้เช่นกัน ใส่เข้าไปในกระบอกไม้ไผ่ ถ้าปิ้งจนไหม้คงเสียดายแย่”มองกระบอกไม้ไผ่ที่ไหม้เกรียม นางจางแสดงสีหน้าเสียดายอีกคนเฉินฝานไม่พูดอะไร เพียงยื่นมีดให้นางจางเล่มหนึ่ง“นายท่าน ท่านอย่าโกรธเลย ท่านแม่ข้าเพียงแค่เสียดายอาหาร” นึกว่าเฉินฝานโกรธ จางเซิงจึงรีบขยับตัวมารดาไปไว้ข้างหลัง“ข้าไม่ได้โกรธ ไม่ว่าเมื่อใดก็ตามการกินทิ้งกินขว้างเป็นเรื่องน่าละอายเสมอ!” เฉินฝานขยับมีดสั้นในมือ “เอามีดให้แม่ของเจ้า ให้นางตัดกระบอกไม้ไผ่ออก แล้วจะรู้เองว่าเป็นอย่างไร”นางจางสับกระบอกไม้ไผ่ขณะที่ยังสงสัยครั้นกระบอกไม้ไผ่เปิดออก…“หอมจัง เหมือนกลิ่นหอมของข้าว”“เหมือนจริงด้วย ข้าไม่เคยสัมผัสกลิ่นหอมของข้าวเช่นนี้มาก่อน ในกลิ่นหอมกรุ่น ยังมีกลิ่นหวานสดชื่นแฝงอยู่ ใครกำลังทำอาหารหรือ? ใช่พวกแม่นางเมี่ยวอวี่หรือไม่?”“แม่นางเมี่ยวอวี่อะไรกัน กลิ่นหอมข้าวนี่ลอยมาจากฝั่งเฉินฝานต่างหาก”หลายคนเช็ดตาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วถึงเชื่อว่าข้าวในกระบอกไม้ไผ่ ไม่เพียงแต่ไม่มีรอยไหม้เกรียม แต่ยังเป็นสีขาวเต็มเม็ดและส่งกลิ่นหอมฟุ้ง“ผีหลอกแล้ว กระ

Pinakabagong kabanata

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status