Share

บทที่ 858

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“นายท่าน...”

ฉินเย่ว์เจียวมองเฉินฝานด้วยความปวดใจ “ข้าไปขอร้องเมี่ยวอวี่ดีกว่าเจ้าค่ะ”

อาการสติฟั่นเฟือนของนายท่านคล้ายจะไม่ธรรมดา ต้องรีบกลับไป ทำอาหารให้นายท่านกิน

“เย่ว์เจียว!” สีหน้าของเฉินฝานฉายความไม่สบอารมณ์ “เจ้ารู้สึกว่าข้ากำลังล้อเล่นเช่นนั้นหรือ? รีบตัดหนึ่งต้นแล้วกลับไปกับข้า!”

“นายท่าน ข้าผิดไปแล้วเจ้าค่ะ”

ฉินเย่ว์เจียวทำตามทันที นางยังคงไม่เชื่อว่าต้นไผ่สามารถทำเป็นกระทำได้ นางครุ่นคิดในใจ รีบพาเฉินฝานกลับไป ให้เซียนเจี้ยนหวงดูอาการ

เฉินฝานเพียงมองเงียบๆ ฉินเย่ว์เจียวคิดสิ่งใด เขาจะไม่รู้ได้อย่างไร

พูดพล่ามไปก็ไร้ประโยชน์ กลับไปทำให้นางเห็น นางก็จะเข้าใจเอง

เวลาเพียงไม่นาน ฉินเย่ว์เจียวก็ตัดต้นไผ่เสร็จ

“พวกเรารีบกลับไปกันเถอะ ข้าจะทำข้าวหลามให้เจ้าค่ะ!”

เพียงนึกถึงกลิ่นหอมของข้าวหลาม เฉินฝานก็รู้สึกท้องกำลังร้องจ๊อกจ๊อก เขาเดินเร็วขึ้นโดยไม่อาจควบคุม

บางครั้งความโชคดีของมนุษย์ก็เป็นเช่นนี้

เรื่องดีๆ เกิดขึ้นติดต่อกัน

ระหว่างทางกลับไป เฉินฝานบังเอิญเตะโดนก้อนหินแเกรนิตขนาดใหญ่ ประมาณสามสิบเซนติเมตรและค่อนข้างบาง

น่าจะตกลงมาตอนภูเขาหิมะถล่ม

“เฮ้อ!” เฉินฝานเก็
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 859

    “ตอนนี้ใครพูดก็คือคนนั้นแหละ” เฉินฝานพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ“ช่างเถอะๆ!”สหายของสุนัขบ้าปรามเขา “เหตุใดต้องถือสาคนโง่ด้วย? พวกเราคอยดูมันขายหน้าไม่ดีหรือ?”สุนัขบ้าคนนั้นมองเซียนเจี้ยนหวงที่นั่งพักผ่อนสายตาใต้หลังคาซึ่งห่างจากพวกเขาประมาณหนึ่ง สุดท้ายไม่กล้าไปหาเรื่องเฉินฝาน“อย่าให้ข้าเจอเจ้าตามลำพัง มิเช่นนั้นข้าจะตบให้ฟันร่วงหมดปาก!”“หึ!”ฉินเย่ว์เจียวส่ายหน้า คนโง่ที่น่าสงสารอีกคนหนึ่งแล้วเพราะภาพลักษณ์ของเฉินฝานดูเรียบร้อย ดังนั้นเรื่องประมาณนี้ จึงไม่เคยเกิดขึ้นลอบไปหาเฉินฝานตามลำพังสุดท้ายล้วนพิการ พิการก็ไม่กล้าพูด เพราะถูกปัญญาชนอ่อนแอคนหนึ่ง ทำร้ายจนพิการ นั่นเป็นเรื่องที่ขายหน้ายิ่งนัก“ได้ ข้ารอเจ้า”ไม่ได้ขยับเขยื้อนมือและเท้ามานานแล้ว รอให้แผลที่คอหายดี ต้องขยับเขยื้อนบ้างแล้ว“ว้าว! เขาท้าทายเจ้า”สหายของสุนัขบ้าร้องตะโกน ต่างกระชุ่มกระชวยขึ้นมา“ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริงๆ ถึงเวลาอย่าฉี่รดกางเกงล่ะ!” สุนัขบ้าพูดเสียงเหี้ยมเฉินฝานไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะเวลานี้เย่ว์หนูเริ่มยกก้อนหินเข้ามาในกระท่อมหิมะแล้วกำลังหิว ไม่มีความจำเป็นใดที่จะต้องมาเสียเวลากับ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 860

    “เสียงกร๊อบแกร๊บดังขึ้น น้ำมันบนหนังไก่ละลายออกมาชั่วขณะหนึ่ง กลิ่นหอมไปทั่วทั้งกระท่อมคนที่รอให้ก้อนหินแตกมาโดยตลอด สิ่งที่พวกเขาได้พบเจอกลับเป็นกลิ่นหอมของน้ำมันไก่แม้เมื่อครู่พวกเขาจะกินข้าวแล้ว ทว่าเป็นเพียงผักกอดดองต้มผสมข้าวเท่านั้น กลิ่นหอมนั้นจะเทียบกับน้ำมันไก่ได้อย่างไร“หื้ม~”หลานคนสูดจมูกอย่างไม่อาจควบคุมตน แม้กระทั่งพวกสุนัขรับใช้ที่หัวเราะเยาะเฉินฝานมาโดยตลอด ก็เงียบปากหลังจากหนังไก่มีน้ำมันละลายออกมา เฉินฝานนำเนื้อไก่ที่หั่นเป็นชิ้นบางๆ โยนลงบนหินหลังจากผัดจนเกือบสุก เฉินฝานหยิบกล่องหนึ่งออกมาภายในกล่อง มีเครื่องปรุงจำพวกเกลือ ยี่หราและงาเป็นต้นนี่คือเครื่องปรุงที่เฉินฝานใช้เป็นประจำในยุคปัจจุบันหลังออกจากกรม เฉินฝานเป็นทหารรับจ้างอยู่ระยะหนึ่งเพราะไม่คุ้นเคยกับอาหารการกิน ดังนั้นเฉินฝานจึงเคยชินที่จะพกกล่องเล็กๆ ซึ่งเก็บพวกเครื่องปรุงห้าหกอย่างติดกระเป๋าตอนโรยเครื่องปรุงลงไปบนไก่ เฉินฝานอดไม่ได้ที่จะเสียดายเสียดายที่ยุคสมัยนี้ไม่มีพริก หากโรยพริกผงลงไป รสชาติของไก่จะอร่อยมากทางด้านเฉินฝานที่กำลังเสียดายว่ารสชาติไม่กลมกล่อมพออีกด้านหนึ่ง บรรด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 861

    “อันที่จริงนำข้าวแช่ในน้ำสักครึ่งชั่วยาม จากนั้นวางบนหินก็ทำให้สุกได้เช่นกัน ใส่เข้าไปในกระบอกไม้ไผ่ ถ้าปิ้งจนไหม้คงเสียดายแย่”มองกระบอกไม้ไผ่ที่ไหม้เกรียม นางจางแสดงสีหน้าเสียดายอีกคนเฉินฝานไม่พูดอะไร เพียงยื่นมีดให้นางจางเล่มหนึ่ง“นายท่าน ท่านอย่าโกรธเลย ท่านแม่ข้าเพียงแค่เสียดายอาหาร” นึกว่าเฉินฝานโกรธ จางเซิงจึงรีบขยับตัวมารดาไปไว้ข้างหลัง“ข้าไม่ได้โกรธ ไม่ว่าเมื่อใดก็ตามการกินทิ้งกินขว้างเป็นเรื่องน่าละอายเสมอ!” เฉินฝานขยับมีดสั้นในมือ “เอามีดให้แม่ของเจ้า ให้นางตัดกระบอกไม้ไผ่ออก แล้วจะรู้เองว่าเป็นอย่างไร”นางจางสับกระบอกไม้ไผ่ขณะที่ยังสงสัยครั้นกระบอกไม้ไผ่เปิดออก…“หอมจัง เหมือนกลิ่นหอมของข้าว”“เหมือนจริงด้วย ข้าไม่เคยสัมผัสกลิ่นหอมของข้าวเช่นนี้มาก่อน ในกลิ่นหอมกรุ่น ยังมีกลิ่นหวานสดชื่นแฝงอยู่ ใครกำลังทำอาหารหรือ? ใช่พวกแม่นางเมี่ยวอวี่หรือไม่?”“แม่นางเมี่ยวอวี่อะไรกัน กลิ่นหอมข้าวนี่ลอยมาจากฝั่งเฉินฝานต่างหาก”หลายคนเช็ดตาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วถึงเชื่อว่าข้าวในกระบอกไม้ไผ่ ไม่เพียงแต่ไม่มีรอยไหม้เกรียม แต่ยังเป็นสีขาวเต็มเม็ดและส่งกลิ่นหอมฟุ้ง“ผีหลอกแล้ว กระ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 862

    “คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ท่านเป็นผู้ชายคนหนึ่ง แต่กลับทำอาหารเป็นด้วย ที่สำคัญนะ…”จางเซิงเหลือบมองมารดาที่อยู่ด้านข้าง จากนั้นพูดเสียงเบาและเร็วมาก “ทำอร่อยกว่าท่านแม่ของข้าอีก”“เจ้าเด็กคนนี้!” นางจางหยิกหูจางเซิงพร้อมกล่าวเสียงดุ “เจ้าพูดว่าอะไรนะ? วันหลังข้าไม่ทำอะไรให้เจ้ากินแล้ว!”“แม่ เจ็บ ท่านเบาหน่อยเบาหน่อย ลูกผิดไปแล้ว ผิดไปแล้วขอรับ!”เฉินฝานมองดูข้าง ๆ และยิ้มแย้มในปัจจุบัน มารดาของเขาชอบหยิกหูเขาแบบนี้เช่นกันไม่มีมารดาคนใดตีลูกด้วยความตั้งใจ จางเซิงร้องเจ็บ นางจางก็ปล่อยมือทันทีครั้นเห็นเฉินฝานมองพวกเขา นางจางพลางทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย “เวลากินไม่พูด เวลานอนไม่พูด ขออภัยที่ทำให้ท่านเห็นเรื่องน่าขันเช่นนี้ อาหารที่นายท่านทำอร่อยกว่าที่ข้าน้อยทำจริง ๆ ”เฉินฝานส่ายศีรษะ ยิ้มแย้มกล่าว “ท่านป้าถ่อมตัวเกินไป ข้าจะทำอร่อยกว่าที่เจ้าทำได้อย่างไรกัน?”“ข้าน้อยไม่ได้ถ่อมตัว!” นางจางแสดงสีหน้าพูดตามจริง “กับข้าวที่นายท่านนั้นดีจริง วันหลังข้าน้อยสามารถมาเรียนรู้ด้วยได้หรือไม่?”“เรียนจากข้า? ได้สิ!”“ดีทีเดียว จากนี้ไปข้าจะได้กินของอร่อยที่เหมือนกับนายท่านทำแล้ว”“พูดมากอะไร

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 863

    “โอ๊ย เจ็บ โอ๊ย!”หญิงสาวเจ็บจนร้องเสียงดัง ภายใต้ถูกกระชากลากถูอย่างบุ่มบ่าม บุตรสาวในอ้อมอกของนางถูกผู้ชายกลุ่มนั้นกระชากและโยนลงพื้นอีกคนเด็กเล็กคนนั้นท่าทางสองสามขวบ ยังอยู่ในวัยหัดพูด ครั้นถูกสะบัดลงถึงพื้น นางพลางร้องไห้ลั่น มือและเท้าเล็กๆ เงอะงะพยายามคลานไปหามารดา ในปากยังเปล่งเสียงอ้ำอึ้งที่ฟังไม่ชัด“แม่ แม่ แม่…”“ลูกถวน ลูกถวน!”หญิงสาวผู้ถูกกระชากผมด้วยความรุนแรง ต่อต้านสุดกำลังโดยไม่สนใจความเจ็บปวด อยากกลับไปอุ้มบุตรสาวตนเองกลับมาแต่ได้ผลลัพธ์ในทางตรงกันข้าม ยิ่งนางออกแรงมากเท่าไหร่ หมารับใช้ของเหลยหย่งอันพวกนั้น ก็ยิ่งกระชากผมนางแรงมากขึ้น หญิงสาวรู้สึกเจ็บและร้องอย่างทรมาน“แม่ แม่…”เด็กผู้หญิงคลานมาหาจนถึงข้างกายมารดา มือน้อย ๆ ทุบตีผู้ชายพวกนั้นอย่างสุดชีวิต“ชั่ว ชั่ว!”เมื่อเห็นว่าการตีไม่เกิดผลใด เด็กผู้หญิงจึงอ้าปากน้อย ๆ แล้วกัดผู้ชายที่อยู่ใกล้ตนมากที่สุด“อ๊าก!”คนนั้นรับรู้ถึงความเจ็บจึงร้องออกมาลั่น “เด็กผีไม่รู้จักความเป็นความตาย!”ขณะที่พูด เขายกเด็กผู้หญิงขึ้นสูงและโยนออกไปข้างนอกอย่างโหดเหี้ยม“ลูกถวน!”เสียงร้องแหลมของหญิงสาวดังสนั่นกลา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 864

    เพียงชั่วขณะ นางล้มพวกเขาได้ถึงสองคนสองหมัดตามด้วยหมุนตัวเตะกลับตุบตับสองเสียง อีกสองคนตอบสนองด้วยเสียงทรมานและล้มลงไปเหลยหย่งอันมีหมารับใช้ทั้งหมดห้าคน ฉินเย่ว์เจียวใช้สองหมัดกับสองเตะ เพียงครู่เดียวจัดการแล้วถึงสี่คนบนพื้นหิมะขาว เลือดสด ฟัน สะดุดตามากเป็นพิเศษ“โอ้ย โอ้ย”หมารับใช้สี่คนที่ถูกฉินเย่ว์เจียวฟาดล้มไปกับพื้น เจ็บปวดและเกลือกกลิ้งไปมาส่วนคนที่ไม่ถูกจัดการ มองมาที่ฉินเย่ว์เจียวอย่างหวาดกลัว เขาก้าวถอยหลังไม่หยุด ในไม่ช้าเขาก็ชนเข้ากับร่างกายเจ้านายตนเองเหลยหย่งอัน“ถอยอะไรเล่า!” เหลยหย่งอันแสดงหน้าหงุดหงิด “ผู้หญิงเพียงคนเดียว เจ้าจะกลัวอะไร เมื่อครู่นี้พวกมันไม่ได้เตรียมตัวก่อน ในมือเจ้ามีมีด เข้าไปฟัน ฟันนางนั่นให้ตายซะ!”คำพูดของเหลยหย่งอัน ทำให้คนใช้ได้สติกลับคืนมาเขาเริ่มคิดในใจเช่นเดียวกันว่าเมื่อครู่นี้ไม่ทันเตรียมตัว จึงถูกฉินเย่ว์เจียวโจมตีอย่างรับมือไม่ทันผู้นั้นกำมีดในมือแน่น จากนั้นร้องลั่นมุ่งเข้าหาฉินเย่ว์เจียว “นังผู้หญิงสมควรตาย มารับความตายเสียเถิด!”วินาทีมีดฟันลงมา ร่างกายฉินเย่ว์เจียวหันด้านข้างน้อย ๆ ฝ่าเท้าก้าวนำและตีศอกคราหนึ่งผู

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 865

    ทุกคนถูกทำให้ติดกับอยู่ในนี้ ไม่มีอาหารติดตัว นั่นคือภาระที่ฆ่าคนตายได้“นี่ พี่สาวท่านนี้ ถ้าพี่ปฏิเสธอีก นั่นคือพี่เรียกร้องความสนใจ ช่วยพี่แล้วไม่พาพี่กลับไป นั่นมีอะไรแตกต่างจากไม่ช่วยพี่?”ฉินเย่ว์เจียวมีนิสัยตรงไปตรงมา เวลาพูดก็พูดจาโผงผาง“ฮูหยินข้าพูดถูก!” เฉินฝานพยักหน้าเห็นด้วยนางอวิ๋นคุกเข่าอีกครั้งนางไม่รู้จะใช้คำศัพท์อะไรมาขอบคุณพวกเฉินฝานกลับเป็นบุตรสาวในอ้อมกอดที่สงบนิ่งมากกว่านางระหว่างทางกลับไปเด็กน้อยเอาแต่กางมือน้อย ๆ อ้วนท้วนคู่นั้นออกมาจะให้เฉินฝานอุ้มจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ ดูออกว่าฐานะทางครอบครัวของนางอวิ๋นไม่ย่ำแย่เด็กน้อยถูกเลี้ยงจนตุ้ยนุ้ยอมชมพู ดวงตาคู่นั้นตาดำแป๋ว เมื่อมองแล้วใจแทบละลาย“อุ้ม อา อุ้มอุ้ม!”เด็กน้อยไม่ยอมแพ้ มือน้อยอ้วน ๆ ชูสูงขึ้นเรื่อย ๆ“ถวนถวน ไม่ได้!” นางอวิ๋นรีบกดมือน้อย ๆ ของบุตรสาวลงมาพร้อมกับกล่าวขอโทษเฉินฝานในเวลาเดียวกัน “นายท่าน ขออภัยด้วย เด็กไม่รู้จักกาลเทศะ”“ไม่เป็นไร!”เฉินฝานยื่นมือออกไปอุ้มเด็กน้อยมาไว้เองเด็กน้อยอ้วนท้วน ประกอบกับชื่อของนาง นับว่าคล้ายกันทีเดียวเฉินฝานถาม “นางชื่อถวนถวน?”“เจ้าค่ะ ถ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 866

    “คุณพระ นางช่างงดงามเสียจริง!”“นางจะต้องเป็นนางฟ้าเดินดินเป็นแน่!”ผู้คนตื่นตกใจในความยลโฉมของเมี่ยวอวี่“ติง!”เมี่ยวอวี่เริ่มบรรเลงพิณ“แม่นาง!”ยายจ้าวข้างกายมองไปที่มือของเมี่ยวอวี่ด้วยความกังวลบนฝ่ามือของนางยังคงพันผ้าสีข้าวเอาไว้นางกลับเพิกเฉยกับคำพูดของยายจ้าว บรรเลงพิณต่อไปจากที่นางขมวดคิ้วเล็กน้อย สามารถเห็นได้ว่านางรู้สึกเจ็บปวดอย่างมากนางดันทุรังบรรเลงต่อผลที่ตามมาจากการฝืนบรรเลง...มือของเมี่ยวอวี่ที่บรรเลงพิณเพิ่มความเร็วมากขึ้นมือจะพิการก็มิเป็นไร ทว่าการที่มิได้บรรเลงพิณ นางคงจะรู้สึกโศกเศร้ายิ่งกว่าพิณเป็นชีวิตจิตใจของนางในฉากสุดท้ายของชีวิต หากนางมิได้บรรเลงพิณ เช่นนั้นนางคงจะตายตามิหลับสายตาของเมี่ยวอวี่เหลือบมองเฉินฝานเล็กน้อย จากนั้นจะหันกลับไปทันทีใช่แล้วนี่เป็นวันสุดท้ายในชีวิตของนางเพราะ...หากมิสามารถออกจากที่นี่ได้ นางก็จะอดตายอยู่กระท่อมหิมะแห่งนี้ที่นางใช้ชีวิตมานานหลายปีหากสามารถออกไปได้ สังหารเฉินฝานมิสำเร็จ นางก็เหลือเพียงความตายสถานเดียวเช่นกัน“ติง~”เมี่ยวอวี่บรรเลงพิณได้อย่างไพเราะราวกับอยู่ในห้วงฝัน ผู้คนฟังแล้วหลง

Pinakabagong kabanata

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status