แชร์

บทที่ 706

ผู้เขียน: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“อ๋องเจิ้นหนานก่อกบฏเช่นนั้นหรือ?” ฉินเย่ว์เหมยตกใจจนแทบลุกจากบัลลังก์มังกร

ภายในตำหนัก มีเสียงสูดลมหายใจดังขึ้นเป็นพักๆ

ทหารเตียนตูของอ๋องเจิ้นหนาน ความสามารถเป็นรองเพียงกองทัพหมาป่าของเพ่ยจี้ อ๋องเจิ้นหนานก่อกบฏ เช่นนั้นต้าชิ่งวุ่นวายทั้งภายในและภายนอก ตกอยู่ในความเสี่ยง

เพ่ยจี้อยู่แดนเหนือต้านทานชาวหู ไม่อาจแยกตัวไปรบกับอ๋องเจิ้นหนานเมืองเตียนตูได้

“ฝ่าบาท ตอนนี้อ๋องเจิ้นหนานยึดเมืองฝูตูได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ กำลังมุ่งหน้าไปเมืองหรงตู!”

“ยึดเมืองฝูตูได้แล้ว! เตรียมบุกหรงตู?” เสิ่นหมิงหยวนร้องตะโกนเสียงดัง กอดหยกสมปรารถนาโค้งตัวลงกล่าว “ฝ่าบาท สถานการณ์สงครามในเวลานี้ไม่อาจประมาทได้ ต้องรีบส่งทหารฝ่ายหน้าไปตั้งรับพ่ะย่ะค่ะ”

“ขุนนางที่รับ!”

สายตาของฉินเย่ว์เหมยมองไปยังขุนนางฝ่ายบู๊ในตำหนัก “มีผู้ใดยินดีต่อสู้กับอ๋องเจิ้นหนานหรือไม่?”

“...” ภายในตำหนักเงียบสงัด ไม่มีเสียงตอบรับ

เวลานี้ในแคว้นต้าชิ่งชายมากหญิงน้อย นอกจากเพ่ยจี้แล้ว ทหารที่เหลือไม่มีผู้ใดมีความสามารถมากพอในการต้านทานอ๋องเจิ้นหนาน

“ฝ่าบาท!”

เสิ่นหมิงหยวนส่งเสียงอีกครั้ง “กระหม่อมขอเสนอเหอกังเจอ เหอจื่อหลินทหารสองนายน
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Prachin Pramakum
สนุกมากๆครับ แต่อัพเดทตอน น้อยไปหน่อย
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 707

    “พวกท่านสองพ่อลูกไม่ต้องแย่งกัน เสิ่นหมิงหยวนเสนอชื่อพวกท่านทั้งสองในท้องพระโรง ไม่ว่าพวกท่านคนใดอยากอยู่ในเมืองหลวงก็ไม่อาจเป็นไปได้” เฉินฝานพูด“เสิ่นหมิงหยวนอยากโค่นล้างตระกูลเหอของพวกข้า!” เหอกังกำหมัดแน่น สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความแค้น“กล่าวอย่างถูกต้องคือ เสิ่นหมิงหยวนอยากฆ่าพวกเราทั้งหมด ตราบใดที่พวกเราไม่แปรพักตร์ไปอยู่กับพวกเขา พวกเขาก็ไม่มีทางปล่อยพวกเรา ดังนั้น...”เฉินฝานพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “พวกเราไม่อาจโอดครวญ พวกเราต้องรักษาชีวิตของตนเอง และต้องกำจัดอ๋องเจิ้นหนานทิ้ง”“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์เหมยยังคงมีสีหน้ากังวล “กำจัดอ๋องเจิ้นหนานเป็นเรื่องยาก ค่ายลาดตระเวนนั่น...”แม้ปฐมจักรพรรดิจะลดจำนวนทหารเตียนตูไปมากแล้ว ทว่ายังมีมากถึงห้าหมื่นนายอ๋องเจิ้นหนานเป็นคนโหดเหี้ยม ยามเขาฝึกทหาร เทียนไม่เห็นทหารเป็นคนภายใต้การฝึกหนักของอ๋องเจิ้นหนาน ทหารเตียนตูแต่ละคนราวกับพยัคฆ์ร้าย โหดเหี้ยมอย่างมากค่ายลาดตระเวนของเหอจื่อหลิน แม้จะมีห้าหมื่นคนเช่นเดียวกัน แต่โดยมากล้วนเป็นบุรุษที่มาจากตระกูลใหญ่ บวกกับเสิ่นหยวนฮวาไม่รู้วิธีฝึกทหาร เวลานี้ทหารห้าหมื่นนายในค่ายลาดตระเวน นอกจากรังแ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 708

    “ตนรอใต้เท้าอยู่ก็พูดตามตรง เหตุใดต้องอ้างฮองเฮาด้วย!”หงอิงวิ่งออกไป เพราะว่า...“ปึ้ง!”แท่นบดหมึก ถูกโยนไปตำแหน่งที่หงอิงยืนเมื่อครู่ห่างจากเข้าวังหลวงรอบก่อน ประมาณสิบวันแล้วไม่เจอกันสิบวัน เสิ่นไต้มั่นราวกับหญ้าแห้งในไร่ เมื่อเฉินฝานมา ก็ระดมจูบกอดทางด้านฉินเย่ว์เหมยและขันทีผู้ดูแลกลับไม่สนใจ ปล่อยให้เสิ่นไต้มั่นอยู่กับเฉินฝานจนถึงเช้าตรู่ กว่าเฉินฝานจะได้ออกมาจากตำหนักฮองเฮา“ล่วงเลยยามจื่อแล้ว ไม่สะดวกออกจากวังหลวงแล้ว วันนี้เจ้าอยู่พระตำหนักไท่เหอแล้วกัน!”กลับถึงพระตำหนักไท่เหอ ฉินเย่ว์เหมยพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา แล้วเดินเข้าไปในตำหนักถอดชุดนางกำนัลออกนี่มันเรื่องอะไรเฉินฝานยืนฉงนอยู่ที่เดิม ไม่ให้เขาออกจากวังหลวงเช่นนั้นหรือ?หลายครั้งก่อนตอนเข้าเฝ้าเหอเสียนเฟย ก็อยู่จนถึงดึก แต่ฉินเย่ว์เหมยยังคงหาวิธีออกจากวังหลวงให้เขาได้ตอนออกมา เห็นเฉินฝานยืนอยู่ที่เดิม จึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เหตุใดจึงยืนอยู่ข้างนอก ไม่เข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้า”“เฮ้อ เข้าใจแล้ว!” เฉินฝานเบ้ปาก รีบวิ่งเข้าไปในตำหนักตำหนักด้านใน ฉินเย่ว์เหมยไม่ให้เข้ามานานแล้วเมื่อเข้ามาด้านในตำหนัก เฉิ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 709

    “นี่คือจานบินโลหิต นี่คือเกาทัณฑ์แขนเสื้อดอกเหมย นี่คือขนนกยูงมรกต...”กลัวเฉินฝานใช้ไม่เป็น ฉินเย่ว์เหมยจึงเริ่มสอนรอบที่สอง“พอได้แล้ว!” เฉินฝานคว้าข้อมือของฉินเย่ว์เหมย ดึงตัวนางมาข้างกาย “หยุดพูดได้แล้ว ดึกมากแล้ว รีบพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ฝ่าบาทยังต้องเข้าท้องพระโรงแต่เช้า”เฉินฝานอยากอุ้มฉินเย่ว์เหมยไปที่เตียงเดินทางทะลุมิติมาตั้งนาน เขายังไม่เคยนอนกอดภรรยาหลวงคนนี้มาก่อนผลสุดท้ายเฉินฝานเพิ่งอุ้มฉินเย่ว์เหมยเข้าไปในผ้าห่มไม่นาน นางก็ดึงสติกลับมา“คนบ้า!”ฉินเย่ว์เหมยจ้องไปที่แผงอกกว้างของเฉินฝาน แล้วเตะหนึ่งที“อั๊ยโย๊ว!”เฉินฝานเอามือป้องหน้าอก แกล้งทำเป็นเจ็บปวด “ท่านคิดอยากจะลอบสังหารสามีตนเองจริงๆ หรือ เจ็บยิ่งนัก!”“ระมัดระวังคำพูด สามีอะไร ข้าบอกอีกรอบ ข้าไม่มีวันแต่งงานกับใคร!”“ว้าว ท่านแต่งเข้าตระกูลเฉิน คิดไม่ถึงว่าหลังจากได้กันแล้วก็จะไม่รับผิดชอบ ผู้หญิงใจร้าย!”เฉินฝานบิดพลิ้ว คำพูดของเขาทำให้ฉินเย่ว์เหมยเขินอายยิ่งนัก “ข้าไม่รับผิดชอบตอนไหน ตอนนั้นข้าแต่งเข้าตระกูลเจ้า ทว่าพวกเราไม่ได้ ไม่ได้ร่วมหอกันเสียหน่อย!”“แม้ไม่ได้ร่วมหอท่านก็เป็นคนของข้า แต่ตอนน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 710

    พ่อลูกตระกูลเหออกรบ สยบกบฏ ฉินเย่ว์เหมยนำขบวนขุนนางนับร้อยออกไปส่งนอกวังหลวง“เจ้าต้องมีชีวิตรอดกลับมา!”ตอนเฉินฝานขึ้นรถม้า จู่ๆ ก็ถูกฉินเย่ว์เหมยดึงตัวลงมา“ฝ่าบาท ท่านวางใจเถอะ ข้ายังไม่ได้ดื่มด่ำกับน้ำมังกรมากพอ”" เฉินฝานพูดด้วยรอยยิ้มความเสน่หาระหว่างเฉินฝานและฉินเย่ว์เหมย บรรดาขุนนางเพียงเบือนหน้าหนี ไม่ได้ตกใจแต่อย่างใดเพราะถึงอย่างไร เฉินฝานก็เป็นขุนนางคนโปรดของฉินเย่ว์เหมย ทางด้านฉินเย่ว์เหมยก็ชื่นชอบไม้ป่าเดียวกัน“คน...”“โอ๊ย ฝ่าบาท ท่านช่วยเปลี่ยนคำได้หรือไม่ ข้าฟังคำนี้จนเบื่อแล้ว”เฉินฝานอาศัยโอกาสนี้กระโดดขึ้นรถม้าต้องรีบหนี มิเช่นนั้นฉินเย่ว์เหมยเปลี่ยนใจกะทันหันไม่ปล่อยเขาไปทหารสยบกบฏ เดินทางไกลออกไปเรื่อยๆ“ท่านพ่อ กองทัพทหารหญิงร้อยกว่าคนของเฉินฝานตามไปแล้ว” เสิ่นหยวนฮวาเดินไปหาเสิ่นหมิงหยวนแล้วพูดกระซิบเสียงเบา“คิดว่าทหารเตียนตูเป็นโจรภูเขาจริงๆ หรือ?”“ช่างโง่เขลา น่าขันจริงๆ!”หลี่ชิ่งที่ไม่ค่อยพูดจาเพียงส่ายหน้า แววตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความดูแคลน“เฮ้อ ไม่อาจพูดเช่นนี้ บางทีซื่อหลางกรมพระคลังของพวกเรา อาจจะมีวิธีกลยุทธ์แปลกๆ ก็ได้?” รอยยิ้มบนใ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 711

    “ไม่ถึงสามหมื่นคนแล้ว?”คนเกือบครึ่งหนึ่ง!เฉินฝานประหลาดใจเล็กน้อย เขารู้ว่าหนีไปจำนวนมาก แต่คิดไม่ถึงว่าหนีไปมากขนาดนี้“คนที่ไม่หนีเหล่านั้นแต่ละคนวิตกหวาดกลัว ไม่มีกำลังสู้แม้แต่ครึ่งหนึ่ง เผชิญหน้ากับกองทัพเตียนตูขึ้นมาจริงๆ เกรงว่าคงถอดชุดเกราะทันทีเช่นกัน แล้วสงครามนี้จะสู้ต่ออย่างไร”เหอจื่อหลินผ่านศึกร้อยรบเช่นกัน ปีนั้นเขานำทัพทหารพันนายเผชิญหน้ากับทหารและม้าศึกของศัตรูหมื่นนาย ก็ยังไม่เคยเกรงกลัวตอนนี้…ในใจกลับไม่มีความมั่นใจเลยแม้แต่น้อย“เพียะ!”“อ๊าก!”“อ๊าก! หยุดตีเถอะ หยุดตีเถอะ!”ในช่วงเวลานี้ รองแม่ทัพของเหอจื่อหลินกำลังตวัดแส้ฟาดทหารสองสามคนทหารเหล่านั้นที่ถูกแส้ฟาดลงไป โอดร้องอย่างเจ็บปวดไม่หยุดครั้นเหอจื่อหลินเดินหน้าเอ่ยถาม แท้จริงแล้วทหารสองสามคนเหล่านั้นคิดจะหนี แต่รองแม่ทัพจับได้เลยถูกนำตัวกลับมาเหอจื่อหลินถอดใจแล้วเล็กน้อยได้ฟัง ก็ยิ่งโกรธมากกว่าเดิม เขารับแส้จากรองแม่ทัพมาแล้ว ยกขึ้นสูง…“พี่จื่อหลิน!”เฉินฝานกระโดดลงจากรถม้า คว้ามือเหอจื่อหลิน แล้วส่ายหน้าให้สัญญาณกับเขาว่าอย่าตี“น้องฝาน คนพวกนี้คิดจะหนี ไม่ให้บทเรียนแก่พวกเขาได้อย่างไร

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 712

    ทหารทุกนาย รวมถึงพ่อลูกเหอกัง ต่างมองเฉินฝานด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ“ในเรือน มีภรรยาและลูกอันเป็นครอบครัวอบอุ่น ใครพูดไม่ว่าอยากกลับล้วนเป็นคนพูดโกหกทั้งนั้น”“แม่ทัพอาวุโสเหอ แม่ทัพเหอน้อย หยุดเสแสร้งเถอะ พวกท่านก็อยากกลับไปมากเช่นกัน”เฉินฝานกล่าวสองประโยคนี้ ยิ่งทำให้เหล่าทหารตะลึงงันพวกเขาต่างรู้ว่า แม้ว่าเฉินฝานเป็นซื่อหลางกรมพระคลัง แต่สถานะของเขาในเวลานี้เปรียบเสมือนกับกุนซือกุนซือมีความคิดเห็นตรงข้ามอย่างเปิดเผยกับผู้นำกองทัพ เป็นครั้งแรกของการพบเห็นตั้งแต่พวกเขาเป็นทหารนานเพียงนี้“ข้าขอถามอีกครั้ง ไม่อยากสู้รบ อยากกลับแล้วจงยกมือ”ตอนเริ่มต้น มีเพียงไม่กี่คนที่ยกมือขึ้นมาครั้นเห็นมีคนยกมือ คนยกมือก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งสุดท้าย นอกจากพ่อลูกตระกูลเหอ ทหารลาดตระเวนก็ยกมือขึ้นทั้งหมด“ดีมาก!” เฉินฝานพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “คนนอกต่างพูดว่าทหารค่ายลาดตระเวนเป็นทหารคุณชาย ข้าไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น แท้จริงแล้วพวกเจ้าทุกคนล้วนเป็นทหารดีมีเลือดมีเนื้อ”ครั้นเฉินฝานกล่าวชมเช่นนี้ คนส่วนมากกลับเริ่มทำตัวไม่ถูกขึ้นมาถูกคนอื่นกล่าวหาว่าเป็นทหารคุณชาย เป็นคนไร้ประโยชน์มาเป็นเวล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 713

    “ย่อมไม่ยอมแน่!”เหล่าทหารตอบสนอง แต่เป็นเสียงหร็อมแหร็มและเสียงก็ไม่ดัง“เสียงเบาไปแล้ว จงพูดอีกครั้ง พวกเราสามารถยอมได้หรือไม่?” เฉินฝานเอ่ยถามเสียงดังอย่างฮึกเหิมอีกครั้ง“ยอมไม่ได้!”“พวกเจ้าแต่ละคนไม่ได้กินข้าวหรือไร เสียงเบาขนาดนั้น พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าคำขวัญของอ๋องเจิ้นหนานคืออะไร?”“คำขวัญของเขาคือ:สู้ให้ถึงเมืองหลวง นอนกับภรรยาของผู้ชายทั้งเมืองหลวง แม่มันเถอะ!” เฉินฝานกล่าวคำหยาบ “ด้วยกำลังของพวกเจ้าเพียงเท่านี้ ก็สมควรแล้วที่ภรรยาถูกผู้อื่นหลับนอนด้วย!”“ยอมไม่ได้!”“ยอมไม่ได้!”คำพูดของเฉินฝาน ปลุกโทสะของเหล่าทหารได้ในที่สุด แต่ละคนต่างคำรามเสียงสูงในที่สุดทหารคุณชายเหล่านี้ก็มีความเป็นผู้ชายขึ้นมาบ้างเฉินฝานยกแขนขึ้นตะโกน “โค่นล้มกองทัพเตียนตู จับตัวอ๋องเจิ้นหนานทั้งเป็น!”“โค่นล้มกองทัพเตียนตู จับตัวอ๋องเจิ้นหนานทั้งเป็น!” “โค่นล้มกองทัพเตียนตู จับตัวอ๋องเจิ้นหนานทั้งเป็น!” เสียงคำรามประหนึ่งขุนเขาและคลื่นทะเลดังก้องไปทั่วหุบเขาเหอจื่อหลินที่ยืนด้านข้าง นัยน์ตาแผดพร้อมน้ำตาร้อนเป็นครั้งแรกได้ยินเสียงมีพลังขนาดนี้ ตั้งแต่รับทหารคุณชายกลุ่มนี้มาอยู่ในมื

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 714

    “เมื่อถูกล้อมแล้ว ตอนนี้ทำได้เพียง…สู้!”เหอกังกล่าวเสียงขรึม “จื่อหลิน!”“ข้าน้อยอยู่ขอรับ!”ข้าน้อยอยู่ขอรับเสียงหนึ่งของเหอจื่อหลิน ทำใบหน้าของเหล่าทหารเริ่มปรากฏสีหน้าต่างๆ นานา สีหน้าของอาการหวาดกลัวเช่นเดิมแสดงบนใบหน้าของพวกเขาอีกครั้งมีคนทำเกินความจริงยิ่งกว่า ขาเริ่มสั่นระริก“แม่ทัพใหญ่เหอ พวกเรายังสู้ตอนนี้ไม่ได้!” เฉินฝานกล่าวเสียงรีบเร่งพวกเขาเดินทางจากเมืองหลวงแดนไกล ถือว่าเป็นทหารที่กำลังเหนื่อยล้าภายใต้สถานะแบบนี้ ต่อให้เป็นกองทัพหมาป่าของเพ่ยจี้ ยังต้องประสบกับความสูญเสียอย่างหนัก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกองทัพลาดตระเวนที่มีกำลังการต่อสู้ธรรมดาด้วยซ้ำหากตอนนี้ตอบรับการรบ พ่ายแพ้ยังพูดได้เพียงนิยาย เพียงไม่ทันระวัง กองทัพอาจถูกกวาดล้างไปทั้งหมดก็เป็นได้เหอกังกล่าวด้วยความกลัดกลุ้มใจ “เสี่ยวฝาน ข้าเองก็ไม่อยากรบ แต่กองทัพเตียนตูล้อมทัพเข้ามาแล้ว ไม่รบคงไม่ได้แล้ว จื่อหลิน เจ้าไปจัดวางกำลังทหารเดี๋ยวนี้”“แม่ทัพใหญ่ โปรดช้าก่อน พวกเราน่าจะไม่ต้องสู้ก็ได้”ขณะที่พูด เฉินฝานได้ดึงแผนที่แผ่นหนึ่งออกมาจากอ้อมอกแผนที่แผ่นนี้คือระหว่างที่เฉินฝานเดินขบวนทหาร เขาวาดตามค

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status