แชร์

บทที่ 668

ผู้เขียน: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
ในที่สุดเปลวไฟบนร่างของหลิวเกาจัวก็ถูกดับลง ทว่าโดนเผาอย่างสาหัส หากไม่พักสามถึงห้าเดือนก็ไม่มีทางเข้าท้องพระโรงได้

“เลี่ยงเอ๋อร์ เจ้าคิดวิธีอันใดออก”

เสิ่นหมิงหยวนไม่ได้ใส่ใจหลิวเกาจัวที่เผาจนบาดเจ็บแม้แต่น้อย เขากล่าวถามอย่างอดใจรอไม่ไหว

เสิ่นหยวนเลี่ยงชี้ไปที่ตะเกียงไฟ

เสิ่นหมิงหยวนมึนงงทันที “ตะเกียงไฟ?”

“โอ้!” เสิ่นหยวนฮวาวิ่งออกมาจากมุม กล่าวราวกับได้ความดีความชอบ “น้องรอง เจ้าคิดจะเผาร้านสิ่งทอตระกูลฉินให้วอดวาย เช่นนั้นเจ้าวางใจ...”

เสิ่นหยวนฮวาตบหน้าอกตนเองเบาๆ กล่าวด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม “ส่งต่อให้พี่เถอะ รับรองว่าจะเผาไม่ให้เหลือเสื้อผ้าแม้ตัวเดียว”

เพื่อที่จะปล้นสาวงาม เขาทำเรื่องเช่นนี้เป็นนิจ

เสิ่นหยวนเลี่ยงส่ายหน้า “ท่านพี่ วิธีที่พี่พูดนี้ จะมีผลเสียต่อพวกเรา และเฉินฝานต้องใช้เหตุผลนี้ ให้ฝ่าบาทออกคำสั่งตรวจสอบก่อน จึงประลอง หากฉุกละหุกตรวจสอบอันใดเจอขึ้นมา ก็ทำให้พวกเราเจอผลเสียมากมาย”

“เจ้าคนสมองกลวง ยังไม่ถอยกลับไปอีก!” เสิ่นหยวนฮวากำลังจะพูด ทว่าถูกเสิ่นหมิงหยวนใช้นำเสียงดุดันห้ามปรามไว้

ไม่ได้สนใจความรู้สึกเสิ่นหยวนฮวาแม้แต่น้อย เสิ่นหมิงหยวนถามเสิ่นห
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 669

    “ซื้อ และต้องการซื้อจำนวนมาก”“ใต้เท้า ซื้อไม่ได้นะเพคะ หากซื้อพวกเราก็ติดกับดักแล้ว เงินที่หามาด้วยความยากลำบาก ในท้ายที่สุดก็ตกไปอยู่กระเป๋าของพวกเขา” ลู่ชุนเยี่ยนขมวดคิ้ว หลักเหตุผลตื้นเขินเช่นนี้ เฉินฝานไม่เข้าใจงั้นหรือ“ไม่ให้เจ้าไปซื้อจากเสิ่นหยวนเลี่ยงเสียหน่อย ร้านน้ำมันในต้าชิ่งไม่กล้าขายให้พวกเรา แล้วแคว้นฉู่แคว้นเยี่ยนล่ะ ถึงแม้นำเข้าแคว้นเราต้องผ่านมือตระกูลหลี่ ทว่าขอเพียงแค่พวกเราให้ราคาสูง เหล่าพ่อค้าแคว้นฉู่แคว้นเยี่ยนนั้นต้องยอมกล้าเสี่ยงแน่นอน”พูดจบ เฉินฝานออกคำสั่งกับหลี่ซาน และส่งเหอจื่อหลินไปด้วยกัน“ใต้เท้า ท่านให้หลี่ซานไปก็ใช้ได้แล้ว ไยต้องให้ผู้บัญชาการเหอไปอีก เช่นนี้เป้าหมายเยอะเกินไปแล้ว พวกเขาทั้งสองจะต้องถูกเสิ่นหยวนฮวาทราบแน่นอน” ลู่ชุนเยี่ยนกล่าว“ก็ต้องให้เป้าหมายใหญ่ ไม่เช่นนั้นเสิ่นหยวนฮวาจะเจอพวกเราได้อย่างไร”หากไม่ใช่เพราะว่าต้องเข้าวังไปช่วยฉินเย่ว์เหมยโปรดปรานฮองเฮาทุกวัน เฉินฝานยังอยากจะไปด้วยตนเองเลยเมื่อได้ยินดังนั้นลู่ชุนเยี่ยนร้อนใจกว่าเดิม นางไม่เข้าใจจริงๆว่าเฉินฝานคิดอันใดอยู่กันแน่ “ใต้เท้า ท่าน...”“พระนาง!” เฉินฝานแตะมือลู

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 670

    หลี่ซานกับอาของเสิ่นหยวนเลี่ยง สู้รบราคารับซื้อน้ำมันมาครึ่งเดือน ในท้ายที่สุดหลี่ซานก็จากลาด้วยความพ่ายแพ้ถึงแม้ว่าจะสู้รบมาครึ่งเดือนนานเพียงนั้น ทว่าหลี่ซานซื้อน้ำมันกลับมาไม่ได้แม้แต่น้อย เพราะไม่ว่าเขาเสนอราคาเท่าใด ฝ่ายตรงข้ามก็จะให้สูงกว่าเขาหนึ่งเท่าเสมอ“ไม่เลว!” เฉินฝานนับธนบัตรบนร่างหลี่ซาน พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ“ดีอะไรกันเล่า!” หลี่ซานก้มหน้าสีหน้าเปี่ยมด้วยความหดหู่“จะไม่ดีได้อย่างไร พี่ดูสิ!” เฉินฝานสะบัดธนบัตรปึกใหญ่นี้ไปมา “เงินธนบัตรเยอะกว่าตอนออกไปตั้งหนึ่งหมื่นตำลึง”พ่อค้าน้ำมันแคว้นฉู่คนหนึ่งรับปากหลี่ซานว่าจะให้น้ำมันสนหมื่นเหลียงกับเขา หลังจากที่ฝั่งเสิ่นหยวนเลี่ยงขึ้นราคา พ่อค้าคนนั้นก็เอาเงินธนบัตรคืนให้เขา และคืนให้สองเท่า“น้องฝาน มาถึงตอนนี้แล้ว เจ้าอย่าทำเป็นเล่น รีบคิดหาวิธีอื่นเถอะ” หลี่ซานร้อนใจจะตายแล้ว ก่อนที่จะมาพบเฉินฝาน เขาไปทำความเข้าใจกับลู่ชุนเยี่ยนมาแล้ว น้ำมันสนที่ซื้อมาก่อนหน้านี้เหลือใช้เพียงแค่หนึ่งวันแล้ว“ข้าจะทำอย่างไรได้ ตอนนี้มีเพียงร้านค้าตระกูลมารดาเสิ่นหยวนฮวาที่ขายให้พวกเราแล้ว” เฉินฝานนำเงินธนบัตรในมือส่งให้หลี่ซาน “พี่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 671

    “อย่างเห็นได้ชัดว่าข้าเป็นคนเสนอเก้าสิบเก้าหลี่ เหตุใดจึงกลับกลายเป็นเจ้า”“เจ้ามาแล้ว!”เมื่อเห็นเฉินฝาน ฉินเย่ว์เหมยโล่งอกเล็กน้อย นางไม่รู้จะปลอบลู่ชุนเยี่ยนอย่างไรแล้ว“ใต้เท้า!” เมื่อเห็นเฉินฝาน ลู่ชุนเยี่ยนยิ่งรู้สึกผิด “ท่านไม่จำเป็นต้องอธิบายแก้ต่างให้ข้า”หนึ่งเวินแตกต่างกับเก้าสิบเก้าหลี่อย่างไรตอนแรกที่คิดกลยุทธ์​นี้ได้ นางภาคภูมิใจในตัวเองอยู่หลายวัน คิดว่าตนจะกลายเป็นผู้ช่วยที่เก่งที่สุดของเฉินฝานทว่าคิดไม่ถึง เพราะความคิดของนาง ดึงเฉินฝานให้ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ทำให้เสิ่นหยวนเลี่ยงเอาชนะไปก่อนนางได้ยินขุนนางมากมายหัวเราะเยาะเฉินฝาน หัวเราะเยาะเขาว่าไร้ความสามารถ ทำได้เพียงพึ่งพิงสตรี ตอนนี้เจอปัญหาเข้าแล้ว“ข้าช่วยท่านแก้ต่างอะไร ข้าเป็นคนเห็นด้วยกับความคิดนี้ เหลือเวลาอีกเก้าวันกว่าจะครบหนึ่งเดือน ท่านเริ่มร้องไห้แล้ว อยากให้ข้ารีบแพ้เช่นนั้นหรือ?” เฉินฝานพูดด้วยน้ำเสียงตำหนิเฉินฝานโมโห ลู่ชุนเยี่ยนไม่รู้สึกกลัว แต่กลับรู้สึกประทับใจนางรู้ดี เฉินฝานโมโหก็เพื่อให้นางรู้สึกผิดน้อยลงในช่วงเวลาคับขันเช่นนี้ เขายังคิดถึงความรู้สึกของนาง บุรุษเช่นนี้ หายาก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 672

    ขันทีและนางกำนัลที่อยู่ในพระตำหนักไท่เหอพากันหันหลัง ไม่กล้ามองใบหน้าเย็นชาของฉินเย่ว์เหมย ฉายความประหม่าเล็กน้อยพวงแก้มของลู่ชุนเยี่ยนก็แดงระเรื่อ ขณะเดียวกันก็รู้สึกอิจฉายิ่งนัก มีเพียงสามีที่ยามปกติให้เกียรติและรักใคร่ภรรยาเท่านั้น ภรรยาจึงกล้าทำเช่นนี้“จุ๊บ จุ๊บ!”ณ พระตำหนักไท่เหอ ยังคงเต็มไปด้วยเสียงหอมแก้มของฉินเย่ว์เจียว“พอได้แล้ว อยากหอมอยากจูบพวกเจ้ากลับไปทำที่จวนเฉินนู้น!” ฉินเย่ว์เหมยทนไม่ไหว จำต้องเอ่ยปากร้องปรามฉินเย่ว์เจียวปล่อยเฉินฝาน ทั้งยังแลบลิ้น แสดงท่าทีปฏิเสธฉินเย่ว์เหมยถลึงตามองนางครู่หนึ่ง กว่านางจะก้มหน้าลงอย่างว่าง่ายตั้งแต่เล็กจนโต ฉินเย่ว์เจียวกลัวฉินเย่ว์เหมยมาโดยตลอด“ของที่ใต้เท้าเฉินสั่งให้เจ้านำกลับมา เจ้านำกลับมาแล้วหรือยัง?” ฉินเย่ว์เหมยถามด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ“นำกลับมาหมดแล้ว!”“ไม่มีใครสะกดรอยตามเจ้ากระมัง”“แน่นอนว่าไม่มีเจ้าค่ะ คิดอยากสะกดรอยตามข้าฉินเย่ว์เจียว ไม่รักชีวิตแล้วกระมัง?” ใบหน้างดงามของฉินเย่ว์เจียว เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจนางไม่ได้คุยโว แต่นางมีความสามารถนี้จริงๆวิชาธนูของนางแม่นยำ ทั้งยังพกระเบิดมือที่เฉินฝานทำไว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 673

    “บอกเจ้าแล้ว เจ้าจะแสดงได้สมจริงเช่นนั้นหรือ?” เฉินฝานพูดด้วยรอยยิ้ม“ใช่เจ้าค่ะ!” ฉินเย่ว์เจียวก็ยิ้มตอบเช่นเดียวกัน “หากไม่สมจริง พวกเสิ่นหยวนเลี่ยงจะเชื่อหรือเจ้าคะ?”“พวกเขาเชื่อแล้ว แต่พวกท่านรู้หรือไม่ตลอดหลายวันที่ผ่านมาข้าใช้ชีวิตอย่างไร?” หลี่ซานโมโหจนเป่าหนวดถลึงตาเขาเตรียมที่จะนำไหสุราและระเบิดมือทำมือ แขวนติดตัวแล้วตายไปพร้อมกับเสิ่นหยวนเลี่ยงแล้ว“น้องหลี่ ข้าเองก็ถูกพวกเขาปิดเรื่องเช่นนี้เหมือนกันไม่ใช่หรือ? ใจเย็นๆ โมโหไม่ดีต่อสุขภาพร่างกาย” ลู่ชุนเยี่ยนปลอบหลี่ซาน“แม้ท่านจะถูกพวกเขาปิดเรื่องนี้เช่นเดียวกัน แต่อย่างน้อยก็รู้ก่อนข้า คิดไม่ถึงว่าข้าจะเป็นคนสุดท้ายที่รู้เรื่องนี้”หลี่ซานเศร้าใจมากจริงๆ เขาและเฉินฝานนับถือเป็นพี่เป็นน้องกันมาตั้งแต่แรกๆ แล้ว ตอนนี้แม้ไม่ใช่ญาติมิตรแต่ก็สนิทกันเหมือนญาติมิตร แต่เขากลับเพิ่งรู้ความจริงตอนนี้ ช่างน่าปวดใจยิ่งนัก”“เพราะท่านเป็นคนสุดท้ายที่ทราบเรื่อง จึงทำให้พวกเสิ่นหยวนเลี่ยงทำตัวไม่ถ๔ก”เมื่อได้ยินลู่ชุนเยี่ยนวิเคราะห์เช่นนี้ หลี่ซานสบายใจขึ้นมากแล้ว เขาหยุดโมโห หยิบขวดเล็กๆ บนโต๊ะขึ้นมา“เขามองจักรเย็บผ้าที่ทำงานต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 674

    “ไม่ไปแย่งกันซื้อเสื้อผ้าสกุลฉินของเรา แล้วจะทำอะไรได้เจ้าคะ?” ฉินเย่ว์เจียวไม่เข้าใจ“เจ้าดูสิ!” เฉินฝานชี้ไปยังผู้คนบนท้องถนน “ในมือและหัวไหล่ของพวกเขามีถุงกระสอบ แย่งกันซื้อเสื้อผ้าไม่จำเป็นต้องนำถุงกระสอบไปกระมัง อีกอย่าง ตอนนี้เสื้อผ้าร้านสิ่งทอก็ล้วนต้องสั่งจองล่วงหน้า ไม่มีเสื้อผ้าให้พวกเขาสวมใส่”“ที่นายท่านพูดก็ถูกเจ้าค่ะ”ฉินเย่ว์เจียวพูดจบ วิ่งไปบนท้องถนน ขวางสตรีวัยกลางคนคนหนึ่งแล้วถาม “พี่สาว พวกท่านจะไปแย่งอะไรกันหรือ?”“แย่งข้าวสาร ข้าวสารร้านค้าข้าวสกุลหลี่ลดราคากระหน่ำ เพียงเก้าสิบเก้าหลี่เท่านั้น เฮ้อ น้องสาว เจ้าเป็นฮูหยินที่อยู่ในเรือนหลังใหญ่ ไม่เข้าใจความลำบากของชาวบ้านตาดำๆ อย่างพวกเรา เจ้าอย่าขวางทางข้า ขืนไปสายข้าก็ไม่ได้แล้ว”หญิงวัยกลางคนวิ่งไปไกล กว่าฉินเย่ว์เจียวจะดึงสติกลับมา“นายท่าน ข้าวสารหนึ่งจินเพียงเก้าสิบเก้าหลี่ เสิ่นหยวนเลี่ยงเล่นใหญ่เกินไปแล้วกระมังเจ้าคะ!”“จริง!” เฉินฝานพยักหน้า “เพื่อรักษาอำนาจในการควบคุมท้องพระคลัง ตระกูลเสิ่นยอมทำทุกอย่างจริงๆ”เสื้อผ้าชำรุดเล็กน้อย เย็บปะแล้วยังสวมใส่ใหม่ได้ แต่ข้าวไม่อาจอดแม้เพียงหนึ่งวันหลังจากข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 675

    “ฝ่าบาท เมื่อครู่ใต้เท้าบอกว่า อาหารเป็นดั่งสวรรค์ของไพร่ฟ้า การค้าขายอาหารและน้ำมันของแคว้นเรา ล้วนอยู่ในกำมือของตระกูลหลี่ซึ่งเป็นครอบครัวของภรรยาเสิ่นหมิงหยวน อยู่ในมือตระกูลหลี่ เช่นนั้นก็เท่ากับอยู่ในมือของเสิ่นหมิงหยวน”“เพราะครอบครองเสบียงอาหารของทุกคนในต้าชิ่ง เสิ่นหมิงหยวนจึงกล้าเหิมเกริมไม่กลัวเกรงสิ่งใดเช่นนี้”“การแข่งขันครั้งนี้ ทุกรายการแข่งขัน สุดท้ายล้วนตกอยู่ภายใต้การดูแลของท้องพระคลัง อนาคตเสบียงอาหารของแคว้นโดยส่วนมาก ก็จะอยู่ในการดูแลของทางการเพคะ”“อีกทั้งการบริหารรายการต่างๆ ที่นำมาใช้จะต้องให้ท้องพระคลังคอยดูแล ข้อนี้เสิ่นหมิงหยวนเป็นผู้เสนอ จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ชรานั่น อยากรวบกิจการร้านสิ่งทอสกุลฉินของใต้เท้าเฉิน ทว่าคิดไม่ถึงความฉลาดของเขากลับใช้ในทางที่ผิด โยนก้อนหินใส่เท้าตนเอง”“ฮ่าๆ สาแก่ใจจริงๆ ช่างสาแก่ใจจริงๆ!”พูดถึงตอนท้ายๆ ลู่ชุนเยี่ยนดีใจจนน้ำตาไหล“เช่นนั้นก็หมายความว่า คนชนะคือพวกเรา!”“น้องฝาน ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าทำได้ หากทำไม่ได้เจ้าคงไม่กล่าวออกมา”เหอจื่อหลินและหลี่ซานก็ดีใจจนกระโดดโลดเต้นเช่นเดียวกัน“นายท่านของข้าจะแพ้ได้อย่างไร?” ฉินเย่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 676

    “เจ้าค่ะ!” ลู่ชุนเยี่ยนลุกขึ้นยืนจากจักรเย็บผ้า ตอบกลับเสียงอ่อนหวาน“...” เฉินฝานบ่นในใจ เหตุใดลู่ชุนเยี่ยนจึงต่างจากเมื่อครู่นางในตอนนี้...อ่อนโยนดั่งน้ำ เคล้าไปด้วยความเขินอาย แววตาที่มองเขา เปี่ยมไปด้วยความลุ่มหลง เคล้าไปด้วยเสน่หาเฉินฝานชะงักเขาคล้ายจะเข้าใจสิ่งที่ฉินเย่ว์เหมยพูดก่อนกลับแล้วคืนนี้ ถึงคราเปิดป้ายสนมลู่คอเกร็งเล็กน้อย ไม่อาจมองลู่ชุนเยี่ยนด้วยความสงบเหมือนเมื่อครู่อีกแล้ววไม่รู้ว่าเป็นเพราะตื่นเต้นหรือดีใจ ตอนลู่ชุนเยี่ยนเดินมาหาเฉินฝาน นางสะดุดล้ม“ระวัง!”ลู่ชุนเยี่ยนล้มลงในอ้อมกอดอบอุ่นเวลานี้ มือข้างหนึ่งของเฉินฝานประคองนาง มืออีกข้างอยู่บนจักรเย็บผ้า พยุงเอาไว้ไม่ให้ล้มลงสายตาของลู่ชุนเยี่ยนมองไปทางจักรเย็บผ้าไม่ถึงหนึ่งวินาทีตอนถอนสายตากลับมา ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมานางไม่อยากรอคืนนี้แล้วในเมื่อวาสนาของนางกับเฉินฝาน มาจากจักรเย็บผ้า เช่นนั้น...“ใต้เท้า!” จู่ๆ ลู่ชุนเยี่ยนก็ยื่นมือไปกอดคอเฉินฝานเฉินฝานไม่ทันสังเกตว่าลู่ชุนเยี่ยนจะมีการกระทำเช่นนี้ เขาจึงไม่ได้ระวังตัว ถูกลู่ชุนเยี่ยนกอดเอาไว้ลู่ชุนเยี่ยนล้มลงบนจักรเย็บผ้า ร่างกายขอ

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status