Share

บทที่ 671

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update Last Updated: 2024-11-13 18:00:03
“อย่างเห็นได้ชัดว่าข้าเป็นคนเสนอเก้าสิบเก้าหลี่ เหตุใดจึงกลับกลายเป็นเจ้า”

“เจ้ามาแล้ว!”

เมื่อเห็นเฉินฝาน ฉินเย่ว์เหมยโล่งอกเล็กน้อย นางไม่รู้จะปลอบลู่ชุนเยี่ยนอย่างไรแล้ว

“ใต้เท้า!” เมื่อเห็นเฉินฝาน ลู่ชุนเยี่ยนยิ่งรู้สึกผิด “ท่านไม่จำเป็นต้องอธิบายแก้ต่างให้ข้า”

หนึ่งเวินแตกต่างกับเก้าสิบเก้าหลี่อย่างไร

ตอนแรกที่คิดกลยุทธ์​นี้ได้ นางภาคภูมิใจในตัวเองอยู่หลายวัน คิดว่าตนจะกลายเป็นผู้ช่วยที่เก่งที่สุดของเฉินฝาน

ทว่าคิดไม่ถึง เพราะความคิดของนาง ดึงเฉินฝานให้ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ทำให้เสิ่นหยวนเลี่ยงเอาชนะไปก่อน

นางได้ยินขุนนางมากมายหัวเราะเยาะเฉินฝาน หัวเราะเยาะเขาว่าไร้ความสามารถ ทำได้เพียงพึ่งพิงสตรี ตอนนี้เจอปัญหาเข้าแล้ว

“ข้าช่วยท่านแก้ต่างอะไร ข้าเป็นคนเห็นด้วยกับความคิดนี้ เหลือเวลาอีกเก้าวันกว่าจะครบหนึ่งเดือน ท่านเริ่มร้องไห้แล้ว อยากให้ข้ารีบแพ้เช่นนั้นหรือ?” เฉินฝานพูดด้วยน้ำเสียงตำหนิ

เฉินฝานโมโห ลู่ชุนเยี่ยนไม่รู้สึกกลัว แต่กลับรู้สึกประทับใจ

นางรู้ดี เฉินฝานโมโหก็เพื่อให้นางรู้สึกผิดน้อยลง

ในช่วงเวลาคับขันเช่นนี้ เขายังคิดถึงความรู้สึกของนาง บุรุษเช่นนี้ หายาก
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 672

    ขันทีและนางกำนัลที่อยู่ในพระตำหนักไท่เหอพากันหันหลัง ไม่กล้ามองใบหน้าเย็นชาของฉินเย่ว์เหมย ฉายความประหม่าเล็กน้อยพวงแก้มของลู่ชุนเยี่ยนก็แดงระเรื่อ ขณะเดียวกันก็รู้สึกอิจฉายิ่งนัก มีเพียงสามีที่ยามปกติให้เกียรติและรักใคร่ภรรยาเท่านั้น ภรรยาจึงกล้าทำเช่นนี้“จุ๊บ จุ๊บ!”ณ พระตำหนักไท่เหอ ยังคงเต็มไปด้วยเสียงหอมแก้มของฉินเย่ว์เจียว“พอได้แล้ว อยากหอมอยากจูบพวกเจ้ากลับไปทำที่จวนเฉินนู้น!” ฉินเย่ว์เหมยทนไม่ไหว จำต้องเอ่ยปากร้องปรามฉินเย่ว์เจียวปล่อยเฉินฝาน ทั้งยังแลบลิ้น แสดงท่าทีปฏิเสธฉินเย่ว์เหมยถลึงตามองนางครู่หนึ่ง กว่านางจะก้มหน้าลงอย่างว่าง่ายตั้งแต่เล็กจนโต ฉินเย่ว์เจียวกลัวฉินเย่ว์เหมยมาโดยตลอด“ของที่ใต้เท้าเฉินสั่งให้เจ้านำกลับมา เจ้านำกลับมาแล้วหรือยัง?” ฉินเย่ว์เหมยถามด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ“นำกลับมาหมดแล้ว!”“ไม่มีใครสะกดรอยตามเจ้ากระมัง”“แน่นอนว่าไม่มีเจ้าค่ะ คิดอยากสะกดรอยตามข้าฉินเย่ว์เจียว ไม่รักชีวิตแล้วกระมัง?” ใบหน้างดงามของฉินเย่ว์เจียว เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจนางไม่ได้คุยโว แต่นางมีความสามารถนี้จริงๆวิชาธนูของนางแม่นยำ ทั้งยังพกระเบิดมือที่เฉินฝานทำไว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 673

    “บอกเจ้าแล้ว เจ้าจะแสดงได้สมจริงเช่นนั้นหรือ?” เฉินฝานพูดด้วยรอยยิ้ม“ใช่เจ้าค่ะ!” ฉินเย่ว์เจียวก็ยิ้มตอบเช่นเดียวกัน “หากไม่สมจริง พวกเสิ่นหยวนเลี่ยงจะเชื่อหรือเจ้าคะ?”“พวกเขาเชื่อแล้ว แต่พวกท่านรู้หรือไม่ตลอดหลายวันที่ผ่านมาข้าใช้ชีวิตอย่างไร?” หลี่ซานโมโหจนเป่าหนวดถลึงตาเขาเตรียมที่จะนำไหสุราและระเบิดมือทำมือ แขวนติดตัวแล้วตายไปพร้อมกับเสิ่นหยวนเลี่ยงแล้ว“น้องหลี่ ข้าเองก็ถูกพวกเขาปิดเรื่องเช่นนี้เหมือนกันไม่ใช่หรือ? ใจเย็นๆ โมโหไม่ดีต่อสุขภาพร่างกาย” ลู่ชุนเยี่ยนปลอบหลี่ซาน“แม้ท่านจะถูกพวกเขาปิดเรื่องนี้เช่นเดียวกัน แต่อย่างน้อยก็รู้ก่อนข้า คิดไม่ถึงว่าข้าจะเป็นคนสุดท้ายที่รู้เรื่องนี้”หลี่ซานเศร้าใจมากจริงๆ เขาและเฉินฝานนับถือเป็นพี่เป็นน้องกันมาตั้งแต่แรกๆ แล้ว ตอนนี้แม้ไม่ใช่ญาติมิตรแต่ก็สนิทกันเหมือนญาติมิตร แต่เขากลับเพิ่งรู้ความจริงตอนนี้ ช่างน่าปวดใจยิ่งนัก”“เพราะท่านเป็นคนสุดท้ายที่ทราบเรื่อง จึงทำให้พวกเสิ่นหยวนเลี่ยงทำตัวไม่ถ๔ก”เมื่อได้ยินลู่ชุนเยี่ยนวิเคราะห์เช่นนี้ หลี่ซานสบายใจขึ้นมากแล้ว เขาหยุดโมโห หยิบขวดเล็กๆ บนโต๊ะขึ้นมา“เขามองจักรเย็บผ้าที่ทำงานต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 674

    “ไม่ไปแย่งกันซื้อเสื้อผ้าสกุลฉินของเรา แล้วจะทำอะไรได้เจ้าคะ?” ฉินเย่ว์เจียวไม่เข้าใจ“เจ้าดูสิ!” เฉินฝานชี้ไปยังผู้คนบนท้องถนน “ในมือและหัวไหล่ของพวกเขามีถุงกระสอบ แย่งกันซื้อเสื้อผ้าไม่จำเป็นต้องนำถุงกระสอบไปกระมัง อีกอย่าง ตอนนี้เสื้อผ้าร้านสิ่งทอก็ล้วนต้องสั่งจองล่วงหน้า ไม่มีเสื้อผ้าให้พวกเขาสวมใส่”“ที่นายท่านพูดก็ถูกเจ้าค่ะ”ฉินเย่ว์เจียวพูดจบ วิ่งไปบนท้องถนน ขวางสตรีวัยกลางคนคนหนึ่งแล้วถาม “พี่สาว พวกท่านจะไปแย่งอะไรกันหรือ?”“แย่งข้าวสาร ข้าวสารร้านค้าข้าวสกุลหลี่ลดราคากระหน่ำ เพียงเก้าสิบเก้าหลี่เท่านั้น เฮ้อ น้องสาว เจ้าเป็นฮูหยินที่อยู่ในเรือนหลังใหญ่ ไม่เข้าใจความลำบากของชาวบ้านตาดำๆ อย่างพวกเรา เจ้าอย่าขวางทางข้า ขืนไปสายข้าก็ไม่ได้แล้ว”หญิงวัยกลางคนวิ่งไปไกล กว่าฉินเย่ว์เจียวจะดึงสติกลับมา“นายท่าน ข้าวสารหนึ่งจินเพียงเก้าสิบเก้าหลี่ เสิ่นหยวนเลี่ยงเล่นใหญ่เกินไปแล้วกระมังเจ้าคะ!”“จริง!” เฉินฝานพยักหน้า “เพื่อรักษาอำนาจในการควบคุมท้องพระคลัง ตระกูลเสิ่นยอมทำทุกอย่างจริงๆ”เสื้อผ้าชำรุดเล็กน้อย เย็บปะแล้วยังสวมใส่ใหม่ได้ แต่ข้าวไม่อาจอดแม้เพียงหนึ่งวันหลังจากข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 675

    “ฝ่าบาท เมื่อครู่ใต้เท้าบอกว่า อาหารเป็นดั่งสวรรค์ของไพร่ฟ้า การค้าขายอาหารและน้ำมันของแคว้นเรา ล้วนอยู่ในกำมือของตระกูลหลี่ซึ่งเป็นครอบครัวของภรรยาเสิ่นหมิงหยวน อยู่ในมือตระกูลหลี่ เช่นนั้นก็เท่ากับอยู่ในมือของเสิ่นหมิงหยวน”“เพราะครอบครองเสบียงอาหารของทุกคนในต้าชิ่ง เสิ่นหมิงหยวนจึงกล้าเหิมเกริมไม่กลัวเกรงสิ่งใดเช่นนี้”“การแข่งขันครั้งนี้ ทุกรายการแข่งขัน สุดท้ายล้วนตกอยู่ภายใต้การดูแลของท้องพระคลัง อนาคตเสบียงอาหารของแคว้นโดยส่วนมาก ก็จะอยู่ในการดูแลของทางการเพคะ”“อีกทั้งการบริหารรายการต่างๆ ที่นำมาใช้จะต้องให้ท้องพระคลังคอยดูแล ข้อนี้เสิ่นหมิงหยวนเป็นผู้เสนอ จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ชรานั่น อยากรวบกิจการร้านสิ่งทอสกุลฉินของใต้เท้าเฉิน ทว่าคิดไม่ถึงความฉลาดของเขากลับใช้ในทางที่ผิด โยนก้อนหินใส่เท้าตนเอง”“ฮ่าๆ สาแก่ใจจริงๆ ช่างสาแก่ใจจริงๆ!”พูดถึงตอนท้ายๆ ลู่ชุนเยี่ยนดีใจจนน้ำตาไหล“เช่นนั้นก็หมายความว่า คนชนะคือพวกเรา!”“น้องฝาน ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าทำได้ หากทำไม่ได้เจ้าคงไม่กล่าวออกมา”เหอจื่อหลินและหลี่ซานก็ดีใจจนกระโดดโลดเต้นเช่นเดียวกัน“นายท่านของข้าจะแพ้ได้อย่างไร?” ฉินเย่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 676

    “เจ้าค่ะ!” ลู่ชุนเยี่ยนลุกขึ้นยืนจากจักรเย็บผ้า ตอบกลับเสียงอ่อนหวาน“...” เฉินฝานบ่นในใจ เหตุใดลู่ชุนเยี่ยนจึงต่างจากเมื่อครู่นางในตอนนี้...อ่อนโยนดั่งน้ำ เคล้าไปด้วยความเขินอาย แววตาที่มองเขา เปี่ยมไปด้วยความลุ่มหลง เคล้าไปด้วยเสน่หาเฉินฝานชะงักเขาคล้ายจะเข้าใจสิ่งที่ฉินเย่ว์เหมยพูดก่อนกลับแล้วคืนนี้ ถึงคราเปิดป้ายสนมลู่คอเกร็งเล็กน้อย ไม่อาจมองลู่ชุนเยี่ยนด้วยความสงบเหมือนเมื่อครู่อีกแล้ววไม่รู้ว่าเป็นเพราะตื่นเต้นหรือดีใจ ตอนลู่ชุนเยี่ยนเดินมาหาเฉินฝาน นางสะดุดล้ม“ระวัง!”ลู่ชุนเยี่ยนล้มลงในอ้อมกอดอบอุ่นเวลานี้ มือข้างหนึ่งของเฉินฝานประคองนาง มืออีกข้างอยู่บนจักรเย็บผ้า พยุงเอาไว้ไม่ให้ล้มลงสายตาของลู่ชุนเยี่ยนมองไปทางจักรเย็บผ้าไม่ถึงหนึ่งวินาทีตอนถอนสายตากลับมา ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมานางไม่อยากรอคืนนี้แล้วในเมื่อวาสนาของนางกับเฉินฝาน มาจากจักรเย็บผ้า เช่นนั้น...“ใต้เท้า!” จู่ๆ ลู่ชุนเยี่ยนก็ยื่นมือไปกอดคอเฉินฝานเฉินฝานไม่ทันสังเกตว่าลู่ชุนเยี่ยนจะมีการกระทำเช่นนี้ เขาจึงไม่ได้ระวังตัว ถูกลู่ชุนเยี่ยนกอดเอาไว้ลู่ชุนเยี่ยนล้มลงบนจักรเย็บผ้า ร่างกายขอ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 677

    สีหน้าของลู่ชุนเยี่ยนฉายความอิ่มเอม หลังจากจัดเสื้อผ้าอาภรณ์เรียบร้อย นางก็เปิดม่าน“ซืออี๋ ลูกมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”ลู่ซืออี๋ในเวลานี้ พวงแก้มแดงก่ำ เนื้อตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อ ล้มตัวลงนอนบนเก้าอี้“ท่านแม่ ใต้เท้า”เสียงของลู่ซืออี๋ อ่อนแรงยิ่งกว่า ลู่ชุนเยี่ยนที่ถึงจุดหฤหรรษ์เมื่อครู่เสียอีกเฉินฝานและลู่ชุนเยี่ยนมองหน้ากันครู่หนึ่งไม่ต้องเอ่ยปาก ก็เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเฉินฝานคว้าเสื้อตัวหนึ่ง เดินไปทางลู่ซืออี๋เสื้อผ้าของนางเปียกชุ่มไปหมดแล้ว หากไม่เปลี่ยนต้องเป็นหวัดแน่ๆ“ใต้เท้า ข้าจัดการเองเจ้าค่ะ!”ลู่ชุนเยี่ยนรับเสื้อผ้ามาจากมือเฉินฝาน“ข้าบอกท่านแล้ว เมื่อครู่ไม่ควรใจร้อนเช่นนั้น ตอนนี้สร้างปัญหาแล้ว” เฉินฝานพูด“จะเป็นการสร้างปัญหาได้อย่างไรเจ้าคะ ให้นางลิ้มรสความรู้สึกนั้นก่อนก็ดีเหมือนกัน ถึงเวลาตอนปรนนิบัติรับใช้นายท่าน กระวนกระวายทำตัวไม่ถูก รบกวนความสุขของนายท่านหมดเจ้าค่ะ” ลู่ชุนเยี่ยนตอบอย่างไม่ใส่ใจ“...”เช่นนี้ก็ได้ด้วยหรือ?เฉินฝานหมดคำจะโต้เถียง...ระยะเวลาแข่งขันหนึ่งเดือนมาถึงแล้วเพิ่งเริ่มต้นท้องพระโรงเช้า ฉินเย่ว์เหมยก็ป่าวประกาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 678

    หลิวเกาจัวอยากใช้คำพูดประชดประชันเฉินฝาน แต่กลับถูกเสิ่นหยวนเลี่ยงพูดแทรก “กำลังบาดเจ็บ ก็กลับไปนอนพัก มาเข้าท้องพระโรงเช้าอะไรกัน!”“ขอบคุณ ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วงของใต้เท้าเสี่ยวเสิ่น!” หลิวเกาจัวฟังออกว่าเสิ่นหยวนเลี่ยงไม่พอใจ แต่เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดเสิ่นหยวนเลี่ยงจึงไม่พอใจเสิ่นหยวนเลี่ยงได้ขึ้นเป็นหัวหน้าเลขากรมการ ตามหลักปฏิบัติในอดีตที่ผ่านมา ตระกูลเสิ่นควรจัดงานเลี้ยงฉลองพวกพ้องของเสิ่นหมิงหยวน เตรียมของขวัญแล้ว รอเทียบเชิญจากตระกูลเสิ่นแต่พวกเขารออยู่นาน ยังคงไม่ได้รับเทียบเชิญบุคคลเฉกเช่นหลิวเกาจัว นึกว่าตนถูกลืม จึงวิ่งแจ้นไปจวนเสิ่น ตั้งใจแสดงความจงรักภักดี แต่กลับพบว่านอกจวนเสิ่นเงียบสงัดขณะที่พวกเขาฉงนสงสัย ไม่อาจนิ่งเฉยอยู่นั้นภายในจวนเสิ่น...สามพ่อลูกตระกูลเสิ่น นั่งอยู่ในห้องหนังสือ คนหนึ่งสีหน้าเคร่งเครียดกว่าอีกคนหนึ่งสาวใช้และบ่าวรับใช้ที่ปรนนิบัติรับใช้อยู่ข้างๆ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง กลัวจะทำให้หนึ่งในสามพ่อลูกตระกูลเสิ่นไม่พอใจ แล้วถูกประหาร“ตึ้ง!”ดวงตาทั้งสองข้างของเสิ่นหมิงหยวน เขาปล่อยหมัดลงบนโต๊ะอย่างแรง “ช่างเป็นแผนการที่ร้ายกาจจ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 679

    “ไปรับเสี่ยวฉู่ เสี่ยวฉู่ไม่อยู่ในเรือนหรือ?” สีหน้าของเฉินฝานฉายความฉงน“เสี่ยวฉู่ไปร่ำเรียนในโรงเย็บปักแล้วเจ้าค่ะ ช่วงที่ผ่านมานี้นายท่านงานยุ่ง ข้าจึงไม่ได้บอกท่านเจ้าค่ะ!”โรงเย็บปัก สถานที่ร่ำเรียนของคุณหนูตระกูลใหญ่ในอดีตไม่เพียงวิชาเย็บปักถักร้อย ศิลปวิทยาทั้งสี่ก็เช่นเดียวกัน รวมถึงมารยาทในพิธีการต่างๆ“นายท่าน ข้าบอกท่านแล้วไม่ใช่หรือ เวลานี้เสี่ยวฉู่น่าจะเลิกเรียนแล้ว ข้าต้องรีบไปเจ้าค่ะ”“ให้ข้าไปเถอะ!”เฉินฝานดึงตัวฉินเย่ว์โหรวกลับมาตั้งแต่มาถึงเมืองหลวง ต้องเผชิญหน้าต่อสู้กับพ่อลูกตระกูลเสิ่นมาโดยตลอด ชีวิตในทุกวันงานยุ่งยิ่งนัก ไม่ได้สร้างความสัมพันธ์กับฉินเย่ว์ฉู่มานานแล้วเจ้าเด็กนั่นต้องโกรธเขามากแน่นอน...โรงเย็บปักตวนหย่าโรงเย็บปักที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง โรงเย็บปักที่ดีที่สุดในเมืองหลวง มัวมัวที่สอนเย็บปักถักร้อยในนี้ ล้วนเป็นซางกงที่เกษียณอายุออกมาจากวังหลวงซางกงเหล่านี้ ในอดีตพวกเขาคอยสอนมารยาทและพิธีการต่างๆ ให้กับสนมและองค์หญิงทั้งหลายแม้จะรีบเพียงใด สุดท้ายเฉินฝานก็มาสายเห็นรถม้าจวนเฉินจากที่ไกลๆ เสาเย่ารีบวิ่งมาทันที เมื่อเห็นว่าคนที่ลงจา

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 730

    เหอกังนิ่งเงียบไปเพียงหนึ่งวินาที“ทหารทั้งหมดจงฟังคำสั่ง!” เหอกังยกป้ายสั่งการทหารขึ้นสูง “ถอยทัพกลับลำไปทางเดิม!”ระหว่างที่ถอยกลับทางเดิม เฉินฝานยังให้เหอกังออกคำสั่งอีกสองเรื่องคำสั่งแรก นายทหารทุกคนถอดชุดเกราะเครื่องหัวออก ก็คือให้ทุกคนถอดหมวกเหล็กบนหัวออก นำเสื้อผ้าห่อไว้ มัดไว้ที่เอวกองกำลังยุคโบราณ เพื่อที่แยกมิตรและศัตรู ชุดเกราะเครื่องหัวจะมีสัญลักษณ์สัญลักษณ์บนชุดเกราะเครื่องหัวของกองกำลังลาดตระเวนคือพู่ระย้าสีแดงสีแดงสะดุดตาเกินไป ไม่สะดวกในการหลบหลีกคำสั่งที่สอง ทุกคนต้องเก็บกิ่งที่มีใบไม้มาสองสามชิ้น มัดรวมให้เป็นวงกลม สวมไว้บนศีรษะตอนที่ออกคำสั่งทั้งสองนี้ เหอกังก็ตัดหัวนายทหารไปอีกหนึ่งคนเพราะสองคำสั่งนี้ ก็ไม่ต่างอันใดกับการล่าถอยกลับทางเดิม เหลวไหลสิ้นดีไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือลูกน้องในกองกำลังลาดตระเวนทั้งหมด คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจที่คาดหัวใบไม้หนึ่งชิ้น จะสามารถรักษาชีวิตได้กว่าชุดเกราะเครื่องหัวที่ทำจากเหล็กงั้นหรือ?เฉินฝานไม่ได้ผิดปกติจริงๆใช่หรือไม่?กลับไปถึงสถานที่กวาดล้างพลทหารม้าสามพันคนของเหยียนอิง เฉินฝานออกคำสั่งให้หยุดเคลื่อนทัพในขณ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 729

    เฉินฝานอมยิ้มพลางพยักหน้า “ถูกต้อง หากไม่ยั่วโมโหอ๋องเจิ้งหนาน หลี่เทียนจะออกมาได้อย่างไร”“ทว่า ทำเช่นนี้เป็นการทำให้พวกเราเข้าสู่สภาวะจนตรอกมิใช่หรือ?”“ท่านแม่ทัพ ทำเช่นนี้ สามารถทำให้พวกเรามีชีวิตต่อไปได้!”“เช่นนี้พวกเราจึงสามารถมีชีวิตต่อไปได้งั้นหรือ? ใต้เท้าเฉิน...”เหอกังที่อยู่ด้านข้างหยุดพูดไปครู่หนึ่ง “เจ้าต้องการล่อกองกำลังเมืองเตียนที่เมืองฝูตูให้ออกมา หลังจากนั้นพวกเราก็กลับลำไปยึดโจมตีเมืองฝูตูงั้นหรือ?”“ปิดบังท่านแม่ทัพไม่ได้จริงๆ ข้าน้อยก็มีความประสงค์เช่นนี้ มีเพียงการทำเช่นนี้ เมืองหรงตูและพวกเราจึงยังมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่”“น้องฝาน วิธีนี้น่าอัศจรรย์ก็จริง ทว่า...” สีหน้าของเหอจื่อหลินเปลี่ยนจากสดใสเป็นหม่นหมอง “กองกำลังสามหมื่นคนของหลี่เทียนนั้น ห่างจากพวกเราไม่ถึงห้าสิบลี้แล้ว อิงจากความเร็วของกองกำลังเตียนตู ต้านทานไว้ครึ่งชั่วยาม ก็จะไล่ตามพวกเราทัน พวกเราต้องการโจมตีโต้กลับเมืองฝูตู ก็ต้องหลบหลีกพวกเขาก่อน”“กองกำลังลาดตระเวนมีสองหมื่นเจ็ดพันกว่าคน และมีม้าสงครามที่ไปยึดครองมาเมื่อครู่สามพันตัว เป้าหมายยิ่งใหญ่เช่นนี้ ความยากในหลบหลีกหลี่เทียนยากยิ่งนั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 728

    “ข่าวที่ข้าได้รับมาเมื่อครู่ กองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งแสนคนที่เหยียนเชียงนำทัพไม่ได้ข้ามฝั่งมา”“ไม่ได้ข้ามฝั่งรึ?” เหอกังตกใจอย่างมาก กล่าวด้วยความโมโหทันที “เวลาครึ่งก้านธูปที่แล้วพลส่งข่าวมารายงานว่ากองกำลังหนึ่งแสนคนนั้นของเหยียนเชียงเริ่มข้ามฝั่งแล้วมิใช่หรือ? พลส่งข่าวของเจ้าเป็นอันใดไป จึงรายงานไม่แม่นยำเช่นนี้!”“ท่านพ่อ เมื่อครู่กองกำลังเมืองเตียนข้ามฝั่งจริงๆ ทว่าผ่านไปไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็กลับลำ ตอนนี้เดินทางมุ่งสู่เมืองหรงตูแล้ว”“กล่าวเช่นนี้...” สีหน้าของเหอกังเปลี่ยนเป็นเข้มงวด “กองกำลังเตียนตูไม่คิดที่จะสนใจพวกเรา ทว่ามุ่งตรงไปบุกโจมตีเมืองหรงตู หากสูญเสียเมืองหรงตูไป เช่นนั้นพวกเรา...”เช่นนั้นกองกำลังลาดตระเวนก็เหมือนกับเด็กกำพร้าไร้บ้านหากไปเยือนหรงตูมิได้ พวกเขาก็เป็นทหารเร่ร่อนกลุ่มหนึ่งที่ไม่กำลังสนับสนุนใดๆจากแนวหลัง“เร็วเข้า พวกเราต้องเร่งฝีเท้าในการเคลื่อนทัพ” เหอกังกล่าวเสียงดัง “แผนการเดียวในตอนนี้ พวกเราทำได้เพียงแข่งความเร็วกับเหยียนเชียง”“ข้าว่าวิธีนี้ก็ไร้ผล” เย่ว์หนูที่อยู่ด้านข้างเฉินฝานส่ายหน้ากล่าวเสียงเบา “พละกำลังของกองกำลังเมืองเตียนตูมีม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 727

    เฉินฝานเดินอยู่ด้านหน้า ฉินเย่ว์เจียวลากศพของเหยียนอิง สองคนเรียงรายเดินออกจากกระโจมไปสถานการณ์รบด้านนอกจวนจะเข้าใกล้จุดสิ้นสุดแล้วห่าธนูในคราเดียว กองกำลังเมืองเตียนตูสามพันกว่าคนนี้ ทุกคนล้วนถูกลูกธนูของกองกำลังลาดตระเวนปักราวกับเม่นเหอจื่อหลินพาคนไปตรวจสอบว่ามีกองกำลังเมืองเตียนตูที่ยังตายไม่สนิทหรือไม่ ดังนั้นจึงเกิดเสียงการแทงซ้ำและเสียงโอดครวญเป็นครั้งคราว“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”เมื่อเห็นเฉินฝานแล้ว เหล่านายทหารพากันคุกเข่าเฉินฝานลนลานรีบทำท่าขอให้ลุกขึ้น “ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้นเถอะ”นายทหารเหล่านั้นโน้มศีรษะติดกับพื้นจึงยอมลุกขึ้นยืนนับตั้งแต่ที่เข้ากระโจมจนมาถึงตอนที่ออกจากกระโจมมา ห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เหล่ากองกำลังลาดตระเวนด้านหน้าเฉินฝาน ทุกคนล้วนมีชีวิตชีวาพวกเขาทหารผู้ดีทหารไร้ประโยชน์ที่ถูกฝูงชนหัวเราะเยาะ ในเวลาสั้นๆครึ่งชั่วโมง สามารถกำจัดพลทหารม้าของกองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งกลุ่มได้ทั้งหมดต่อจากนี้ จะคอยดูว่าผู้ใดจะกล้ากล่าวว่าพวกเขาไร้ประโยชน์ได้อีก!เหล่าทหารเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เหอกังรีบรุดหน้าเข้ามาทันที สีหน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 726

    เหยียนอิงถูกฉินเย่ว์เจียวนำน้ำเย็นหนึ่งถังราดใส่จนตื่น“อ้าก!”“ใครกัน? ชาติชั่วผู้ใดรนหาที่ตาย บังอาจใช้น้ำราดใส่ข้า!”เหยียนอิงที่ถูกปลุกให้ตื่นด้วยความตกใจเด้งตัวกระโดดลงจากเตียง คว้าดาบใหญ่ข้างกายขึ้นมา ต้องการจะฟันออกไปตอนที่เขาเห็นชัดเจนว่าคนที่ยืนข้างเตียงเขาคือฉินแย่ว์เจียว วางดาบลงทันที พลันปรากฏรอยยิ้มสัปดน“เจ้าหนุ่มหน้าปลาเก๋านั้น สามารถจัดการเรื่องต่างๆ เพราะถวิลหาสาวน้อยที่งดงามเช่นนี้ ข้าก็แปลกใจหรอก”“แม่สาวน้อย เจ้าจะมาด้วยตนเองหรือต้องการให้ข้าช่วย!”“ข้าว่าข้าช่วยเจ้าดีกว่า เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”เหยียนอิงหัวเราะร่าลุกขึ้นยืน กำลังจะโถมตัวใส่ร่างของฉินเย่ว์เจียว“ปึก!”จอกสุราหนึ่ง ลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียว ชนเข้ากับใบหน้าของเหยียนอิงอย่างรุนแรง“อ้าก!”เหยียนอิงที่ได้รับบาดเจ็บตะโกนลั่น ยื่นมือออกไปคิดที่จะคว้าดาบใหญ่ของเขาอีกครั้ง“ปึก!”มีวัตถุหนึ่งชิ้นลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียวอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่จอกสุรา ทว่าเป็นเกาทัณฑ์ดอกเหมยหนึ่งลูกนี่เป็นหนึ่งในอาวุธลับมากมายที่ฉินเย่ว์เหมยมอบให้เฉินฝาน เกาทัณฑ์ดอกเหมยใช้งานง่ายที่สุด วันที่สองข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 725

    ฉกฉวยโอกาสยามราตรี กองกำลังลาดตระเวนสองหมื่นนาย สามารถข้ามแม่น้ำลวี่สุ่ยครั้งที่สองได้แล้วคนมากมายเพียงนี้ กล่าวไม่มีลาดเลาอันใดแม้แต่น้อย นั้นเป็นเรื่องโกหกตอนที่กองกำลังลาดตระเวนข้ามฝั่ง ทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูที่ลาดตระเวนผู้หนึ่งพบเห็น“คน มีคนจำนวนมากกำลังข้ามฝั่ง” กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นกล่าวกับสหายร่วมรบของตนคำพูดของกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้น ไม่เพียงไม่ได้รับความใส่ใจจากสหายร่วมรบเท่านั้น ยังถูกสหายร่วมเขกกะโหลกหนึ่งที“เป็นเพราะไม่นอน ตาพร่ามัวไปแล้วหรือ ข้ามฝั่งอันใดกัน?” สหายร่วมรบชี้ไปที่แม่น้ำ “ดูสิ ด้านบนมีเรือหรือไม่? ไม่มีเรือจะข้ามฝั่งมาได้เยี่ยงไร”“ทว่า...”กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นหันกลับไปชำเลืองมองอีกครั้ง “ข้าเห็นจริงๆ เหมือนว่าพวกเขาไม่ได้นั่งเรือข้ามมา ทว่าเดินบนผิวน้ำมา”สะพานลอยไม่โผล่ขึ้นมาผิวน้ำทั้งหมด ดูแล้วก็เหมือนกับคนกำลังเดินผิวน้ำจริงๆกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นถูกสหายร่วมรบของตนเขกกะโหลกอีกครั้ง “เดินบนผิวน้ำ? นับถือที่เจ้าพูดเช่นนี้ออกมาได้ ที่เจ้าเห็นมิใช่คน แต่เจ้าเห็นผีแล้วต่างหาก!”“ที่ข้าเห็นเป็นผีงั้นรึ?”“จะไม่ใช่ได้อย่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 724

    “สร้างสะพานลอยเช่นนี้ กองกำลังเมืองเตียนตูฝั่งตรงข้ามคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆหรอกกระมัง”“พวกเจ้าพูดถูก” เฉินฝานกล่าว “กองกำลังเมืองเตียนตูคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆ ดังนั้นที่พวกเราสามารถสร้างได้เป็นสะพานลอยใต้น้ำ”เฉินฝานนำแผนที่ออกมา มือวางไว้ที่แม่น้ำลวี่สุ่ย “ตรงส่วนนี้ พื้นที่แม่น้ำค่อนข้างแคบ สายน้ำก็ค่อนข้างไหลเชี่ยวเช่นกัน กองกำลังเมืองเตียนตูจะต้องคาดไม่ถึงว่าพวกเราจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวเป็นแน่ ดังนั้นช่วงนี้การลาดตระเวนของกองกำลังเตียนตูต้องไม่เข้มงวดเพียงนั้นเป็นแน่ ความสามารถทางน้ำของกองกำลังหญิงยอดเยี่ยม พวกนางสามารถฉกฉวยโอกาสยามราตรี ดำน้ำลงไปในแม่น้ำสร้างสะพาน”ในตอนแรกที่ฝึกกองกำลังหญิง ตามปกติแล้วก็ฝึกตามที่หน่วยรบพิเศษฝึกฝน ดังนั้นการดำน้ำสร้างสะพานประเภทนี้ชำนาญเป็นธรรมดาอยู่แล้ว“สหายกองกำลังลาดตระเวน เพียงแค่ตระเตรียมเถาวัลย์และกิ่งไม้ให้พร้อมก็ใช้ได้แล้ว”ขั้นตอนในการสร้างสะพาน เป็นดังที่เฉินฝานคาดการณ์ไว้ กองกำลังเมืองเตียนตูคาดไม่ถึงว่าพวกเฉินฝานจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว และสิ่งที่คาดไม่ถึง คิดเหนือชั้นไปอีก คือพวกเฉินฝ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 723

    “ใต้เท้าเฉิน ไยเจ้ายังคิดที่จะล้อเล่นอีก!” เหอกังสีหน้าจริงจัง เขาออกคำสั่งกับเหอจื่อหลิน “จื่อหลิน เจ้าปกป้องใต้เท้าเฉินให้ออกจากป่าไปในคืนนี้ มุ่งหน้าสู่หรงตู”“ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้า...”“ใต้เท้าเฉิน ข้ารู้ว่าเจ้าอยากอยู่ ทว่าพวกเราไม่สามารถเสี่ยงอันตรายเรื่องนี้ได้ หากสูญเสียเจ้าไป ต้าชิ่งของพวกเราก็ถึงจุดจบจริงๆแล้ว”เหอกังพูดขัดคำพูดเฉินฝานก่อนที่จะออกเดินทางครั้งนี้ ฉินเย่ว์เหมยลอบนัดพบพ่อลูกตระกูลเหอลับๆ ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้นให้พ่อลูกตระกูลเหอต้องปกป้องชีวิตของเฉินฝานไว้กล่าวว่า หากไร้ซึ่งเฉินฝาน ต้าชิ่งก็สูญสลายเช่นกันคำพูดของฉินเย่ว์เหมย เหอกังเห็นด้วยทั้งหมดตอนนี้ต้าชิ่งมีทั้งศึกภายในและภายนอก ขุนนางทุจริตกุมอำนาจ หากไม่มีเฉินฝาน ก็มิมีใครสามารถต่อกรกับเสิ่นหมิงหยวนได้“ท่านแม่ทัพใหญ่!” เฉินฝานทำมือเคารพให้เหอกัง “ขอบคุณความไว้วางใจของท่านแม่ทัพใหญ่ที่มีต่อข้าน้อย ในเมื่อท่านแม่ทัพคิดว่าข้าน้อยสามารถช่วยต้าชิ่งให้รอดพ้นได้ เช่นนั้นไยไม่เชื่อมั่นให้ข้าน้อยทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูพ่ายแพ้กันล่ะ?”“ใต้เท้าเฉิน ข้าเชื่อมั่นว่าท่านมีความสามารถเช่นนั้นอยู่แล้ว ทว่าการจะหล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 722

    ระเบิดดินที่ฝังไว้ จวนจะได้แผลงฤทธิ์แล้ว ม้าและพลทหารที่ถูกระเบิดจนลอยขึ้นจะบรรเทาการปิดล้อมของกองกำลังเมืองเตียนตูได้ชั่วคราวผ่านไปไม่นานนัก ท้องฟ้าก็มืดสนิทเมื่อท้องฟ้ามืดแล้ว เหล่าทหารลาดตระเวนล้วนถอนหายใจอย่างโล่งอกพวกเขาปลอดภัยชั่วคราวแล้วต่อให้กองกำลังเมืองเตียนตูจะเก่งกาจเพียงใด ก็ไม่สามารถจะหาญกล้าบุกโจมตีเข้ามาในป่าตอนกลางคืนเหยียนเชียงที่เป็นผู้นำกองกำลังหนึ่งแสนคนของเมืองเตียนอันก็ไม่ได้รีบร้อน ตอนที่ฟ้ายังไม่ทันมืด เขาก็ออกคำสั่งให้คนไปตั้งค่ายทหารแล้ว“ท่านเจ้านครฝ่ายขวา เส้นทางที่จะระเบิด จวนจะไม่มีแล้ว กองทัพของข้าสามารถโจมตีตามไปได้ จัดการพวกเขาให้หมด เพื่อขจัดอุปสรรคในการเข้าเมืองหลวงของท่านอ๋อง”แม่ทัพสองสามคนเป็นฝ่ายขอออกทัพกับเหยียนเชียงก่อนปัญญาชนหน้าใสเฉินฝานอยู่ในป่า จับเป็นเขาได้สามารถได้เงินห้าหมื่นตำลึงทองการบุกเข้าป่ายามราตรีเรื่องต้องห้ามเช่นนี้ กองทัพเมืองเตียนตูมิได้หวาดกลัวอย่างไรเสียก็เป็นเงินห้าหมื่นตำลึงทองเชียวนะใครจะไม่อยากได้กันเหยียนเชียงจ้องแม่ทัพที่มาขอออกรบก่อนเหล่านั้น “เรื่องที่ว่าจะขจัดอุปสรรคทางไปเมืองหลวงให้ท่านอ๋องอะไ

DMCA.com Protection Status