Share

บทที่ 598

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
“ทหารยิงธนูเตรียมพร้อม!”

ทหารยิงธนูสามร้อยคนชักคันธนูพร้อมกันพรึบ ๆ พร้อมเผชิญหน้ากับฝูงชนท่ามกลางฝุ่นควันตรงหน้า

หลีชิ่งชูธงสีแดงเล็กในมือ…...

“ช้าก่อน!”

เฉินฝานยกม่านรถขึ้นแล้วพูดอย่างรีบร้อน “อย่ายิงธนู พวกเขาคือ…...”

“ผู้มีพระคุณอยู่ที่นั่น!”

เสียงตะโกนข้างหน้ากลบเสียงของเฉินฝาน

ทันใดนั้น หน้ารถม้าของเฉินฝานมีคนคุกเข่าเต็มไปหมด

ปรากฎว่าพวกเขาเป็นชาวบ้านจากอำเภอหลี สิ่งที่อยู่ในมือคืออาหารและเสื้อผ้าแต่ละอย่าง

“ท่านนายอำเภอ นี่มันอะไรกันหรือ ทำฝ่าบาทตื่นตระหนก เจ้ารู้ว่ามีความผิดหรือไม่?” เสิ่นหมิงหยวนถามนายอำเภอของอำเภอหลีด้วยเสียงแข็งทื่อ

“ท่านอัครเสนาบดี ชาวบ้านในอำเภอหลีต่างก็พูดผู้ตรวจการเฉินเป็นพ่อแม่ที่เกิดใหม่ของพวกเขา เมื่อพวกเขาได้ยินว่าเขากำลังจะจากไป พวกเขาก็ยืนกรานที่จะส่งผู้ตรวจการเฉิน ไม่ว่าข้าน้อยพยายามหยุดยั้งอย่างไรก็หยุดพวกเขาไว้ไม่ได้ขอรับ”

นายอำเภอของอำเภอหลีทำหน้าลำบากใจ แต่ในใจไม่ได้ลำบากใจแม้แต่น้อย เขาไม่ได้ห้ามไม่ให้ชาวบ้านมาส่งเฉินฝาน แต่ยังให้สนับสนุนพวกเขา

“ใต้เท้า ความตั้งใจของชาวบ้านไม่ควรขัดขืนนะขอรับ!”

ประโยคสุดท้าย หากพูดตรง ๆ ก็คือการต
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 599

    ในคืนนั้น เสิ่นหมิงหยวนเพิ่งกลับมาถึงจวนอัครเสนาบดีของเขา นั่งเก้าอี้ยังไม่ทันอุ่น หลินชางก็เข้ามาพูดอย่างเร่งรีบ“ใต้เท้า ฝ่าบาทมีรับสั่งให้เฉินฝานที่ดูแลยุ้งฉางรับตำแหน่งเสนาบดีท้องพระคลังต่อจากหวังเคอ!”มือที่ถือถ้วยน้ำชาของเสิ่นหมิงหยวนชะงักน้อย ๆ จากนั้นตอบกลับเสียงเรียบ: ข้ารู้แล้วแล้วเขาก็ดื่มชาต่อ“ใต้เท้า เฉินฝานคือขุนนางที่ฝ่าบาททรงโปรดปรานมากที่สุดในเวลานี้ เขาไม่ใช่คนของเรา”นึกว่าตนเองพูดไม่ชัดเจน หลินชางจึงพูดซ้ำ“ข้ารู้ว่าเฉินฝานคือใคร เจ้าไม่ต้องเน้นย้ำ”“ในเมื่อใต้เท้ารู้ เหตุใดท่านถึงยังนิ่งได้อีก?”“หืม?” เสิ่นหมิงหยวนเงยหน้าขึ้นพร้อมกับเก็บสายตา “ทำไมข้าถึงนั่งนิ่งไม่ได้ ข้าในฐานะอัครเสนาบดีต้องกลัวเสนาบดีท้องพระคลังงั้นรึ?”“ขะ ข้าน้อยรู้ว่าเสนาบดีท้องพระคลังคนเดียวไม่สามารถทำอันตรายใดต่ออัครเสนาบดีอย่างใต้เท้าได้” หลินชางพูดตะกุกตะกักด้วยความตกใจ “ตะ แต่จากนี้ไปเวลาเราจะใช้เงิน ย่อมเกิดความไม่สะดวก ตะ ใต้เท้าควรขอให้ฝ่าพระบาทถอนคำสั่งและให้คนของเรารับตำแหน่งแทน”หลังจากหลินชางพูดจบ ภายในห้องก็เงียบสงบมากจนสามารถได้ยินเข็มหมุดที่ตกลงพื้นเวลาผ่านไปครู่ใ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 600

    หลังจากจัดการเรื่องของหวังเคอเสร็จ ท้องฟ้าก็มืดแล้ว ฉินเย่ว์เหมยให้เฉินฝานอยู่ต่อเฉินฝานคือบุรุษให้สตรียั่วเย้าของฉินเย่ว์เหมยมาก่อน ดังนั้นจึงไม่มีใครคิดว่าการที่ฉินเย่ว์เหมยให้เขาอยู่พระราชวังต่อเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม“ฝ่าบาท!”หลังกินอาหารเย็นเสร็จ เสียงเย้ายวนเนิบ ๆ ก็ดังมาจากข้างนอกตำหนักเสิ่นไต้มั่นเดินบิดก้นปรากฏตัวต่อหน้าฉินเย่ว์เหมยและเฉินฝานฝีเท้าของนางเบา ส่วนเว้าสง่างาม กระโปรงผ้าตาข่ายบนตัวแนบสนิทบนร่างกายจนแสดงสัดส่วนของนางได้อย่างชัดเจนเมื่อนางเข้าใกล้มากขึ้น เลือดกำเดาไหลของเฉินฝานแทบไหลออกมาให้ตายเถอะเฉินไต้มั่นผู้หญิงคนนี้ช่าง…...ยั่วยวนจริง ๆภายใต้ผ้าตาข่ายสีแดงไม่มีชุดชั้นใน สิ่งที่ควรเปิดเผยก็ถูกเปิดเผย สิ่งที่ไม่ควรเปิดเผยก็ถูกเปิดเผยเช่นกัน“ฝ่าบาทเพคะ!”เสิ่นไต้มั่นนั่งลงข้างฉินเย่ว์เหมย ริมฝีปากสีแดงฟันสีขาว ปากน้อย ๆ ขยับเป็นพัก ๆ ตั้งแต่นิ้วเท้าถึงปลายผมไม่มีส่วนไหนไม่แสดงความยั่วยวน“ฝ่าบาทเสด็จไปครั้งนี้ ไปตั้งครึ่งเดือน ทำเอาหม่อมฉันคิดถึงฝ่าบาทยิ่งนักเพคะ”“พรวด!”เฉินฝานอดหัวเราะไม่ได้ ถ้าฉินเย่ว์เหมยไม่ใช่จักรพรรดิ เกรงว่าตอนนี้น

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 601

    “วางใจเถอะ สามีไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น ต่อให้มีเสิ่นไต้มั่นอีกห้าคน ก็ไม่เหนื่อยตายหรอก!” เฉินฝานพูดพลางยิ้มฉินเย่ว์เหมยจ้องเขม็งด้วยความโกรธ “ระวังคำพูดของเจ้าด้วย สามี ในนี้ใครเป็นภรรยาของเจ้ากัน”เฉินฝานไม่ได้ปริปากพูด ทำเพียงแค่จ้องมองฉินเย่ว์เหมย“ผู้ชายมักมาก เจ้าฝันไปเถอะ ชาตินี้ข้าจะไม่อภิเษกสมรสหรอกนะ”ฉินเย่ว์เหมยลุกขึ้นยืนเดินออกไป ตอนที่กลับมาอีกรอบก็เป็นลักษณะของสาวใช้แล้วเฉินฝานจำใจต้องกินเร็วขึ้นหน่อย คนที่ควบคุมดูแลก็มาแล้ว เขาต้องรีบไปเข้า ‘งานกะดึก’พระตำหนักเฟิ่งหมิงของฮองเฮาแสงเทียนถูกจัดให้มืดที่สุด และวางไว้ในสถานที่ใกล้เตียงจักรพรรดิที่สุดด้านในเตียงจักรพรรดิเงาตะคุ่ม ขมุกขมัว ปรากฏวับวาบ“ฝ่าบาท!”เสิ่นไต้มั่นนวยนาดออดอ้อนฉอเลาะเข้ามาฉินเย่ว์เหมยเพิ่งจะผลักเฉินฝานไปบนเตียง เขาก็ถูกเสิ่นไต้มั่นดึงเข้าไปในผ้าห่มทันทีตอนที่ผิวสัมผัสกันนั้น............เฉินฝานเลือดสูบฉีดพลุกพล่านทันทีนางตัวดีสตรีในผ้าห่มไม่ได้ใส่อะไรแม้แต่ชิ้นเดียว“ฝ่าบาท!”เสิ่นไต้มั่นโยกย้ายบั้นท้ายกดลงมา“แปะ!”เฉินฝานตบบั้นท้ายเสิ่นไต้มั่นไปหนึ่งที“อื้อ~”น้ำเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 602

    ในที่สุดเฉินฝานก็มองได้ชัดเจนว่าคนร่างใหญ่ผู้นี้เป็นใคร“นี่พี่ใหญ่ชุย เจ้าจะคิดถึงก็คิดถึงไปเถอะ เหตุใดอยากทับข้าให้ตายด้วยเล่า”ชุยต๋าหลุนไม่เพียงรูปร่างสูง แขนขาก็ยังกำยำอีก ราวกับกอริลลาใหญ่ตัวหนึ่งไม่มีผิด โถมน้ำหนักร่างกดลงมา ทำให้อึดอัดจนหายใจไม่ออกจริงๆ“น้องฝาน ขอโทษด้วย!”ชุยต๋าหลุนปล่อยเฉินฝานแล้วหัวเราะคิกคักขึ้นมา เขาเหลือบมองด้านหลังของเฉินฝาน สีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย “เจ้าได้ตำแหน่งขุนนางทางการมาแล้ว ฝ่าบาทยังให้เจ้าเข้าวังหลังอีก นางช่าง......จริงๆ”“พี่ใหญ่ชุย เหตุใดพี่มาอยู่ที่นี้ คนนอกด่านทางเหนือถูกโจมตีจนหนีไปหมดแล้ว”เฉินฝานรีบร้อนขัดคำพูดของชุยต๋าหลุน เขารู้ว่าชุยต๋าหลุนเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเขา ทว่าในวังมีคนที่เป็นหูเป็นตาให้เสิ่นหมิงหยวนอยู่ทุกที่เขาอยากให้ขุนพลซื่อสัตย์เปี่ยมคุณธรรมที่ปกป้องรักษาบ้านเมือง ถูกลูกน้องเสิ่นหมิงหยวนกลุ่มนั้นใส่ความทำให้เขาถึงตาย“นั้นมันก็แน่อยู่แล้ว!” ชุยต๋าหลุนสีหน้าชื่นมื่นพลางพูด “เสี่ยวฝาน นับตั้งแต่เหล่าพลทหารกินเป็ดย่างที่เจ้าคิดค้นขึ้นมา ทุกคนล้วนเหมือนกับกินน้ำอมฤตกำลังมากของไท่ซ่างเหล่าจวิน กวัดแกว่งดาบโช้งเช้ง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 603

    เพราะว่าเคยชินก็หมายความว่าเกิดขึ้นบ่อยครั้งยิ่งทำความเข้าใจ เฉินฝานยิ่งรู้สึกว่าชีวิตฉินเย่ว์เหมยไม่ง่ายเลยจริงๆ“วางใจเถอะ มีข้าอยู่ หลังจากนี้ความเคยชินแบบนี้ก็จะหมดไปแล้วล่ะ”เสียงและน้ำเสียงเฉินฝานนุ่มนวล ทว่ามีเพียงเขาที่รู้อยู่แก่ใจดีว่านี่เป็นการให้คำมั่นสัญญาที่หนักแน่นที่สุดในการเกิดใหม่ของเขา“หืม? เหตุใดเจ้ายังอยู่ที่นี่? เมื่อวานเจ้าไม่ได้โวยวายจะกลับบ้านหรอกหรือ? ยังไม่รีบกลับไปอีก? อย่าลืมกลับวังมาในเวลาโหย่ว เรื่องของคืนก็อย่าลืมเสียล่ะ”ฉินเย่ว์เหมยก็กลับมาอยู่ในลักษณะเย็นชาดังเดิมเฉินฝานยักไหล่ “คืนนี้มี ‘งานกะดึก’ ไม่ต้องให้ฝ่าบาทเตือน ข้าก็จำได้ เช่นนั้นข้าขอตัวกลับก่อน”มีตำแหน่งขุนนางที่เป็นทางการ นอกจากจะมีจวนพำนักของตัวเองสามารถพบหน้าลูกเมียได้แล้ว สิ่งที่ทำให้เฉินฝานดีใจที่สุดคือฉินเย่ว์เจียวก็สามารถอยู่ข้างกายเขาได้ตลอดเวลาอีกครั้งถึงแม้เขาจะสามารถปกป้องตัวเองได้ ทว่าข้างกายมีคนติดตามย่อมจะสะดวกกว่าเยอะเลยเดิมทีฉินเย่ว์เหมยอยากจะจัดสรรทหารรักษาพระองค์สองสามคนไปเป็นทหารประจำกายเฉินฝาน ทว่าเฉินฝานปฎิเสธจะใช้ทหารรักษาพระองค์อย่างสะดวกสบายได้แบบฉินเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 604

    “ไม่สิ!” เสิ่นหยวนฮวาคิดดูแล้วรู้สึกยังไม่วางใจ เขาออกคำสั่งให้องครักษ์คนนั้น “เจ้าพาสองสามคนไป แต่งกายเป็นคนของจวนซุ่นเทียน รออีกประเดี๋ยวพวกเจ้าลงมือด้วยตัวเอง”-“ผู้ว่าการจวนซุ่นเทียนมาแล้ว!”คนที่ปิดล้อมเฉินฝานแต่เดิม ทำเพียงยืนนิ่งล้อมไว้เท่านั้น ได้ยินว่าผู้ว่าการจวนซุ่นเทียนมาแล้ว กลับก่อจราจลขึ้น“เฉินฝานจะหนี รีบจับตัวเขาไว้เร็ว!”ไม่รู้ว่าใครตะโกนขึ้นมา ญาติของคนที่ถูกทำให้บาดเจ็บ เมื่อได้ยินว่าเฉินฝานคิดจะหนี รีบรุดหน้ามาหาเฉินฝานทันควันไม่รู้ว่าเพราะตนเองไปสะดุดล้มหรือถูกคนผลัก ตอนที่พวกเขารุดหน้าขึ้นมา ทุกคนล้วนหกล้มหน้าคะมำกันหมดตอนที่พวกเขาล้มลง ก็พาให้คนด้านข้างล้มลงตามไปด้วยเจ้าพนักงานที่มาจับกุมเฉินฝานผนวกกับฝูงชนที่หกคะเมนเสียงกรีดร้องเสียงร้องไห้ตะโกนผสมปนเปรวมกัน สถานที่เกิดเหตุวุ่นวายอลหม่าน“เร็วเข้า เย่ว์โหรวกับเสี่ยวฉู่พวกเจ้ารีบเข้าไปในจวน ปิดประตูให้เรียบร้อย ไม่อนุญาตให้ออกมา!”ออกคำสั่งกับเย่ว์เจียวและเย่ว์ฉู่ เฉินฝานก็ดึงฉินเย่ว์เจียวมาข้างกายตนเองความวุ่นวายนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเด็ดขาดเมืองหลวงไม่ใช่อำเภอผิงอัน ที่นี่ผู้มากฝีมือมีมา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 605

    “แค่ก!”คนนั้นอาเจียนออกมาเป็นเลือด“เจ็บ เจ็บ!” หลังได้สติกลับมา คนนั้นคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดตลอดเวลาหงอิงปัดฝุ่นบนแขนเสื้อ พูดอย่างเย็นชาว่า “คนยังไม่ตาย”“ถึงแม้คนยังไม่ตาย ทว่าผู้บัญชาการเฉินก็ไม่ควรทำร้ายคนในที่สาธารณะ!”ญาติของคนที่ได้รับบาดเจ็บไม่ยอม“ใช่แล้ว มีสิทธิ์อะไรที่พอเป็นขุนนางแล้วก็ทำร้ายคนในที่สาธารณะ?”“ไม่มีกฎหมายบ้านเมืองหรือกระไร?”ฝูงชนที่ไม่พอใจพากันลุกขึ้นยืนใบหน้างดงามของหงอิงพลันปรากฏยิ้มบางๆ รอยยิ้มของนางไม่ได้ทำให้ดูสวย ทว่าเป็นการทวีคูณความไร้ปรานีขึ้นไปอีกทุกที่ที่สายตานางตกกระทบ ฝูงชนจำนวนมากล้วนถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว“กฎหมายบ้านเมือง ที่แท้พวกเจ้าเข้าใจในกฎหมายบ้านเมืองด้วย?” เสียงของหงอิงสูงขึ้นทันควัน “ผู้ว่าการจวนซุ่นเทียน!”“ข้า ข้าน้อยอยู่นี้ขอรับ!” ร่างกายของผู้ว่าการจวนซุ่นเทียนสั่นเทาอย่างเห็นได้ชัดถึงแม้หงอิงจะเป็นสตรี ทว่าวิธีการในการฆ่าคนของนางโหดเหี้ยมกว่าบุรุษเพศอย่างมาก“เจ้าบอกพวกเขาไปสิ ทำให้ขุนนางราชสำนักขั้นสี่ระดับสูงอับอายต่อหน้าสาธารณชน มีโทษอย่างไร!”“ตาม ตามกฎหมายรัชสมัยข้า ต้องถูกโบยต่อหน้าสาธารณชน เนรเทศออกไ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 606

    “เจ้าไม่เข้าไปหรือ?” เฉินฝานถามด้วยสัญชาตญาณฉินเย่ว์เหมยเลิกคิ้วขึ้น พูดอย่างเยือกเย็น “ตอนที่เจ้ากับเสิ่นไต้มั่นนั้น ตาข้าก็โดนกุ้งยิงไปแล้ว เจ้าไม่กลัวว่าของอันนั้นของเจ้าจะถูกตากุ้งยิงของข้ายิงไปจนตั้งตรงไม่ขึ้น!”“......”เด็กนี้ปากร้ายหรืออารมณ์ขันกันแน่?“ข้าบอกเจ้าเลยนะว่าเจ้าดุแบบนี้ ต้องขายไม่ออกเป็นแน่”พูดจบ เฉินฝานก็รีบเข้าในตำหนัก ไม่เร็วไม่ได้ บนตัวของเด็กนี้ซ่อนมีดพับไว้ ถ้าทำให้นางโมโหขึ้นมาจริงๆ นางจะตัดหัวอย่างเอาจริงเอาจัง“คุณท่าน!”เฉินฝานเพิ่งจะก้าวเข้ามาในตำหนัก ด้านหน้าก็มีเสียงที่นุ่มนวลไพเราะเสนาะหูลอยมาผินสายตาขึ้นมองก็เห็นเหออวี่ถงที่แต่งกายเต็มยศก้าวเท้าเล็กๆเดินเข้ามา“ถวายความเคารพคุณท่าน!”“เสียนเฟยไม่จำเป็นต้องพิธีรีตองให้มากมายเช่นนี้หรอก”เฉินฝานรีบร้อนพยุงเหออวี่ถงที่อยู่ด้านหน้าเขาขึ้น ตอนที่มือกำลังจะสัมผัสกับเหออวี่ถง ตัวแข็งทื่อทันควันถึงแม้จะเคยแตะเนื้อต้องตัวกับเหออวี่ถงมาแล้ว ทว่าในที่สุดเขาก็ไม่ใช่โอรสสวรรค์อยู่ดี ไม่ใช่สามีของนางอย่างถูกต้องเหออวี่ถงกลับใจกว้าง นางเอามือของตัวเองวางไว้บนมือเฉินฝาน ใช้แรงลุกขึ้นยืนบรรยากาศแ

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 730

    เหอกังนิ่งเงียบไปเพียงหนึ่งวินาที“ทหารทั้งหมดจงฟังคำสั่ง!” เหอกังยกป้ายสั่งการทหารขึ้นสูง “ถอยทัพกลับลำไปทางเดิม!”ระหว่างที่ถอยกลับทางเดิม เฉินฝานยังให้เหอกังออกคำสั่งอีกสองเรื่องคำสั่งแรก นายทหารทุกคนถอดชุดเกราะเครื่องหัวออก ก็คือให้ทุกคนถอดหมวกเหล็กบนหัวออก นำเสื้อผ้าห่อไว้ มัดไว้ที่เอวกองกำลังยุคโบราณ เพื่อที่แยกมิตรและศัตรู ชุดเกราะเครื่องหัวจะมีสัญลักษณ์สัญลักษณ์บนชุดเกราะเครื่องหัวของกองกำลังลาดตระเวนคือพู่ระย้าสีแดงสีแดงสะดุดตาเกินไป ไม่สะดวกในการหลบหลีกคำสั่งที่สอง ทุกคนต้องเก็บกิ่งที่มีใบไม้มาสองสามชิ้น มัดรวมให้เป็นวงกลม สวมไว้บนศีรษะตอนที่ออกคำสั่งทั้งสองนี้ เหอกังก็ตัดหัวนายทหารไปอีกหนึ่งคนเพราะสองคำสั่งนี้ ก็ไม่ต่างอันใดกับการล่าถอยกลับทางเดิม เหลวไหลสิ้นดีไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือลูกน้องในกองกำลังลาดตระเวนทั้งหมด คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจที่คาดหัวใบไม้หนึ่งชิ้น จะสามารถรักษาชีวิตได้กว่าชุดเกราะเครื่องหัวที่ทำจากเหล็กงั้นหรือ?เฉินฝานไม่ได้ผิดปกติจริงๆใช่หรือไม่?กลับไปถึงสถานที่กวาดล้างพลทหารม้าสามพันคนของเหยียนอิง เฉินฝานออกคำสั่งให้หยุดเคลื่อนทัพในขณ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 729

    เฉินฝานอมยิ้มพลางพยักหน้า “ถูกต้อง หากไม่ยั่วโมโหอ๋องเจิ้งหนาน หลี่เทียนจะออกมาได้อย่างไร”“ทว่า ทำเช่นนี้เป็นการทำให้พวกเราเข้าสู่สภาวะจนตรอกมิใช่หรือ?”“ท่านแม่ทัพ ทำเช่นนี้ สามารถทำให้พวกเรามีชีวิตต่อไปได้!”“เช่นนี้พวกเราจึงสามารถมีชีวิตต่อไปได้งั้นหรือ? ใต้เท้าเฉิน...”เหอกังที่อยู่ด้านข้างหยุดพูดไปครู่หนึ่ง “เจ้าต้องการล่อกองกำลังเมืองเตียนที่เมืองฝูตูให้ออกมา หลังจากนั้นพวกเราก็กลับลำไปยึดโจมตีเมืองฝูตูงั้นหรือ?”“ปิดบังท่านแม่ทัพไม่ได้จริงๆ ข้าน้อยก็มีความประสงค์เช่นนี้ มีเพียงการทำเช่นนี้ เมืองหรงตูและพวกเราจึงยังมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่”“น้องฝาน วิธีนี้น่าอัศจรรย์ก็จริง ทว่า...” สีหน้าของเหอจื่อหลินเปลี่ยนจากสดใสเป็นหม่นหมอง “กองกำลังสามหมื่นคนของหลี่เทียนนั้น ห่างจากพวกเราไม่ถึงห้าสิบลี้แล้ว อิงจากความเร็วของกองกำลังเตียนตู ต้านทานไว้ครึ่งชั่วยาม ก็จะไล่ตามพวกเราทัน พวกเราต้องการโจมตีโต้กลับเมืองฝูตู ก็ต้องหลบหลีกพวกเขาก่อน”“กองกำลังลาดตระเวนมีสองหมื่นเจ็ดพันกว่าคน และมีม้าสงครามที่ไปยึดครองมาเมื่อครู่สามพันตัว เป้าหมายยิ่งใหญ่เช่นนี้ ความยากในหลบหลีกหลี่เทียนยากยิ่งนั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 728

    “ข่าวที่ข้าได้รับมาเมื่อครู่ กองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งแสนคนที่เหยียนเชียงนำทัพไม่ได้ข้ามฝั่งมา”“ไม่ได้ข้ามฝั่งรึ?” เหอกังตกใจอย่างมาก กล่าวด้วยความโมโหทันที “เวลาครึ่งก้านธูปที่แล้วพลส่งข่าวมารายงานว่ากองกำลังหนึ่งแสนคนนั้นของเหยียนเชียงเริ่มข้ามฝั่งแล้วมิใช่หรือ? พลส่งข่าวของเจ้าเป็นอันใดไป จึงรายงานไม่แม่นยำเช่นนี้!”“ท่านพ่อ เมื่อครู่กองกำลังเมืองเตียนข้ามฝั่งจริงๆ ทว่าผ่านไปไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็กลับลำ ตอนนี้เดินทางมุ่งสู่เมืองหรงตูแล้ว”“กล่าวเช่นนี้...” สีหน้าของเหอกังเปลี่ยนเป็นเข้มงวด “กองกำลังเตียนตูไม่คิดที่จะสนใจพวกเรา ทว่ามุ่งตรงไปบุกโจมตีเมืองหรงตู หากสูญเสียเมืองหรงตูไป เช่นนั้นพวกเรา...”เช่นนั้นกองกำลังลาดตระเวนก็เหมือนกับเด็กกำพร้าไร้บ้านหากไปเยือนหรงตูมิได้ พวกเขาก็เป็นทหารเร่ร่อนกลุ่มหนึ่งที่ไม่กำลังสนับสนุนใดๆจากแนวหลัง“เร็วเข้า พวกเราต้องเร่งฝีเท้าในการเคลื่อนทัพ” เหอกังกล่าวเสียงดัง “แผนการเดียวในตอนนี้ พวกเราทำได้เพียงแข่งความเร็วกับเหยียนเชียง”“ข้าว่าวิธีนี้ก็ไร้ผล” เย่ว์หนูที่อยู่ด้านข้างเฉินฝานส่ายหน้ากล่าวเสียงเบา “พละกำลังของกองกำลังเมืองเตียนตูมีม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 727

    เฉินฝานเดินอยู่ด้านหน้า ฉินเย่ว์เจียวลากศพของเหยียนอิง สองคนเรียงรายเดินออกจากกระโจมไปสถานการณ์รบด้านนอกจวนจะเข้าใกล้จุดสิ้นสุดแล้วห่าธนูในคราเดียว กองกำลังเมืองเตียนตูสามพันกว่าคนนี้ ทุกคนล้วนถูกลูกธนูของกองกำลังลาดตระเวนปักราวกับเม่นเหอจื่อหลินพาคนไปตรวจสอบว่ามีกองกำลังเมืองเตียนตูที่ยังตายไม่สนิทหรือไม่ ดังนั้นจึงเกิดเสียงการแทงซ้ำและเสียงโอดครวญเป็นครั้งคราว“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”เมื่อเห็นเฉินฝานแล้ว เหล่านายทหารพากันคุกเข่าเฉินฝานลนลานรีบทำท่าขอให้ลุกขึ้น “ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้นเถอะ”นายทหารเหล่านั้นโน้มศีรษะติดกับพื้นจึงยอมลุกขึ้นยืนนับตั้งแต่ที่เข้ากระโจมจนมาถึงตอนที่ออกจากกระโจมมา ห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เหล่ากองกำลังลาดตระเวนด้านหน้าเฉินฝาน ทุกคนล้วนมีชีวิตชีวาพวกเขาทหารผู้ดีทหารไร้ประโยชน์ที่ถูกฝูงชนหัวเราะเยาะ ในเวลาสั้นๆครึ่งชั่วโมง สามารถกำจัดพลทหารม้าของกองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งกลุ่มได้ทั้งหมดต่อจากนี้ จะคอยดูว่าผู้ใดจะกล้ากล่าวว่าพวกเขาไร้ประโยชน์ได้อีก!เหล่าทหารเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เหอกังรีบรุดหน้าเข้ามาทันที สีหน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 726

    เหยียนอิงถูกฉินเย่ว์เจียวนำน้ำเย็นหนึ่งถังราดใส่จนตื่น“อ้าก!”“ใครกัน? ชาติชั่วผู้ใดรนหาที่ตาย บังอาจใช้น้ำราดใส่ข้า!”เหยียนอิงที่ถูกปลุกให้ตื่นด้วยความตกใจเด้งตัวกระโดดลงจากเตียง คว้าดาบใหญ่ข้างกายขึ้นมา ต้องการจะฟันออกไปตอนที่เขาเห็นชัดเจนว่าคนที่ยืนข้างเตียงเขาคือฉินแย่ว์เจียว วางดาบลงทันที พลันปรากฏรอยยิ้มสัปดน“เจ้าหนุ่มหน้าปลาเก๋านั้น สามารถจัดการเรื่องต่างๆ เพราะถวิลหาสาวน้อยที่งดงามเช่นนี้ ข้าก็แปลกใจหรอก”“แม่สาวน้อย เจ้าจะมาด้วยตนเองหรือต้องการให้ข้าช่วย!”“ข้าว่าข้าช่วยเจ้าดีกว่า เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”เหยียนอิงหัวเราะร่าลุกขึ้นยืน กำลังจะโถมตัวใส่ร่างของฉินเย่ว์เจียว“ปึก!”จอกสุราหนึ่ง ลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียว ชนเข้ากับใบหน้าของเหยียนอิงอย่างรุนแรง“อ้าก!”เหยียนอิงที่ได้รับบาดเจ็บตะโกนลั่น ยื่นมือออกไปคิดที่จะคว้าดาบใหญ่ของเขาอีกครั้ง“ปึก!”มีวัตถุหนึ่งชิ้นลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียวอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่จอกสุรา ทว่าเป็นเกาทัณฑ์ดอกเหมยหนึ่งลูกนี่เป็นหนึ่งในอาวุธลับมากมายที่ฉินเย่ว์เหมยมอบให้เฉินฝาน เกาทัณฑ์ดอกเหมยใช้งานง่ายที่สุด วันที่สองข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 725

    ฉกฉวยโอกาสยามราตรี กองกำลังลาดตระเวนสองหมื่นนาย สามารถข้ามแม่น้ำลวี่สุ่ยครั้งที่สองได้แล้วคนมากมายเพียงนี้ กล่าวไม่มีลาดเลาอันใดแม้แต่น้อย นั้นเป็นเรื่องโกหกตอนที่กองกำลังลาดตระเวนข้ามฝั่ง ทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูที่ลาดตระเวนผู้หนึ่งพบเห็น“คน มีคนจำนวนมากกำลังข้ามฝั่ง” กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นกล่าวกับสหายร่วมรบของตนคำพูดของกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้น ไม่เพียงไม่ได้รับความใส่ใจจากสหายร่วมรบเท่านั้น ยังถูกสหายร่วมเขกกะโหลกหนึ่งที“เป็นเพราะไม่นอน ตาพร่ามัวไปแล้วหรือ ข้ามฝั่งอันใดกัน?” สหายร่วมรบชี้ไปที่แม่น้ำ “ดูสิ ด้านบนมีเรือหรือไม่? ไม่มีเรือจะข้ามฝั่งมาได้เยี่ยงไร”“ทว่า...”กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นหันกลับไปชำเลืองมองอีกครั้ง “ข้าเห็นจริงๆ เหมือนว่าพวกเขาไม่ได้นั่งเรือข้ามมา ทว่าเดินบนผิวน้ำมา”สะพานลอยไม่โผล่ขึ้นมาผิวน้ำทั้งหมด ดูแล้วก็เหมือนกับคนกำลังเดินผิวน้ำจริงๆกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นถูกสหายร่วมรบของตนเขกกะโหลกอีกครั้ง “เดินบนผิวน้ำ? นับถือที่เจ้าพูดเช่นนี้ออกมาได้ ที่เจ้าเห็นมิใช่คน แต่เจ้าเห็นผีแล้วต่างหาก!”“ที่ข้าเห็นเป็นผีงั้นรึ?”“จะไม่ใช่ได้อย่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 724

    “สร้างสะพานลอยเช่นนี้ กองกำลังเมืองเตียนตูฝั่งตรงข้ามคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆหรอกกระมัง”“พวกเจ้าพูดถูก” เฉินฝานกล่าว “กองกำลังเมืองเตียนตูคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆ ดังนั้นที่พวกเราสามารถสร้างได้เป็นสะพานลอยใต้น้ำ”เฉินฝานนำแผนที่ออกมา มือวางไว้ที่แม่น้ำลวี่สุ่ย “ตรงส่วนนี้ พื้นที่แม่น้ำค่อนข้างแคบ สายน้ำก็ค่อนข้างไหลเชี่ยวเช่นกัน กองกำลังเมืองเตียนตูจะต้องคาดไม่ถึงว่าพวกเราจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวเป็นแน่ ดังนั้นช่วงนี้การลาดตระเวนของกองกำลังเตียนตูต้องไม่เข้มงวดเพียงนั้นเป็นแน่ ความสามารถทางน้ำของกองกำลังหญิงยอดเยี่ยม พวกนางสามารถฉกฉวยโอกาสยามราตรี ดำน้ำลงไปในแม่น้ำสร้างสะพาน”ในตอนแรกที่ฝึกกองกำลังหญิง ตามปกติแล้วก็ฝึกตามที่หน่วยรบพิเศษฝึกฝน ดังนั้นการดำน้ำสร้างสะพานประเภทนี้ชำนาญเป็นธรรมดาอยู่แล้ว“สหายกองกำลังลาดตระเวน เพียงแค่ตระเตรียมเถาวัลย์และกิ่งไม้ให้พร้อมก็ใช้ได้แล้ว”ขั้นตอนในการสร้างสะพาน เป็นดังที่เฉินฝานคาดการณ์ไว้ กองกำลังเมืองเตียนตูคาดไม่ถึงว่าพวกเฉินฝานจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว และสิ่งที่คาดไม่ถึง คิดเหนือชั้นไปอีก คือพวกเฉินฝ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 723

    “ใต้เท้าเฉิน ไยเจ้ายังคิดที่จะล้อเล่นอีก!” เหอกังสีหน้าจริงจัง เขาออกคำสั่งกับเหอจื่อหลิน “จื่อหลิน เจ้าปกป้องใต้เท้าเฉินให้ออกจากป่าไปในคืนนี้ มุ่งหน้าสู่หรงตู”“ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้า...”“ใต้เท้าเฉิน ข้ารู้ว่าเจ้าอยากอยู่ ทว่าพวกเราไม่สามารถเสี่ยงอันตรายเรื่องนี้ได้ หากสูญเสียเจ้าไป ต้าชิ่งของพวกเราก็ถึงจุดจบจริงๆแล้ว”เหอกังพูดขัดคำพูดเฉินฝานก่อนที่จะออกเดินทางครั้งนี้ ฉินเย่ว์เหมยลอบนัดพบพ่อลูกตระกูลเหอลับๆ ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้นให้พ่อลูกตระกูลเหอต้องปกป้องชีวิตของเฉินฝานไว้กล่าวว่า หากไร้ซึ่งเฉินฝาน ต้าชิ่งก็สูญสลายเช่นกันคำพูดของฉินเย่ว์เหมย เหอกังเห็นด้วยทั้งหมดตอนนี้ต้าชิ่งมีทั้งศึกภายในและภายนอก ขุนนางทุจริตกุมอำนาจ หากไม่มีเฉินฝาน ก็มิมีใครสามารถต่อกรกับเสิ่นหมิงหยวนได้“ท่านแม่ทัพใหญ่!” เฉินฝานทำมือเคารพให้เหอกัง “ขอบคุณความไว้วางใจของท่านแม่ทัพใหญ่ที่มีต่อข้าน้อย ในเมื่อท่านแม่ทัพคิดว่าข้าน้อยสามารถช่วยต้าชิ่งให้รอดพ้นได้ เช่นนั้นไยไม่เชื่อมั่นให้ข้าน้อยทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูพ่ายแพ้กันล่ะ?”“ใต้เท้าเฉิน ข้าเชื่อมั่นว่าท่านมีความสามารถเช่นนั้นอยู่แล้ว ทว่าการจะหล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 722

    ระเบิดดินที่ฝังไว้ จวนจะได้แผลงฤทธิ์แล้ว ม้าและพลทหารที่ถูกระเบิดจนลอยขึ้นจะบรรเทาการปิดล้อมของกองกำลังเมืองเตียนตูได้ชั่วคราวผ่านไปไม่นานนัก ท้องฟ้าก็มืดสนิทเมื่อท้องฟ้ามืดแล้ว เหล่าทหารลาดตระเวนล้วนถอนหายใจอย่างโล่งอกพวกเขาปลอดภัยชั่วคราวแล้วต่อให้กองกำลังเมืองเตียนตูจะเก่งกาจเพียงใด ก็ไม่สามารถจะหาญกล้าบุกโจมตีเข้ามาในป่าตอนกลางคืนเหยียนเชียงที่เป็นผู้นำกองกำลังหนึ่งแสนคนของเมืองเตียนอันก็ไม่ได้รีบร้อน ตอนที่ฟ้ายังไม่ทันมืด เขาก็ออกคำสั่งให้คนไปตั้งค่ายทหารแล้ว“ท่านเจ้านครฝ่ายขวา เส้นทางที่จะระเบิด จวนจะไม่มีแล้ว กองทัพของข้าสามารถโจมตีตามไปได้ จัดการพวกเขาให้หมด เพื่อขจัดอุปสรรคในการเข้าเมืองหลวงของท่านอ๋อง”แม่ทัพสองสามคนเป็นฝ่ายขอออกทัพกับเหยียนเชียงก่อนปัญญาชนหน้าใสเฉินฝานอยู่ในป่า จับเป็นเขาได้สามารถได้เงินห้าหมื่นตำลึงทองการบุกเข้าป่ายามราตรีเรื่องต้องห้ามเช่นนี้ กองทัพเมืองเตียนตูมิได้หวาดกลัวอย่างไรเสียก็เป็นเงินห้าหมื่นตำลึงทองเชียวนะใครจะไม่อยากได้กันเหยียนเชียงจ้องแม่ทัพที่มาขอออกรบก่อนเหล่านั้น “เรื่องที่ว่าจะขจัดอุปสรรคทางไปเมืองหลวงให้ท่านอ๋องอะไ

DMCA.com Protection Status