Share

บทที่ 346

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
ราวก้อนหินตกกระทบสร้างคลื่นนับพัน

คำพูดของเจ้าหน้าที่ว่าการ ทำให้ทุกคนศาลาว่าการตกตะลึง

“เจ้าพูดอะไรผิดหรือเปล่า สินค้าของข้าจะขายไม่ออกสักชิ้นได้อย่างไร สินค้าของเขาขายไม่ออกสักชิ้นกระมัง”

ใบหน้าของติงลั่วแดงก่ำ โมโหอย่างมาก

สินค้างานแต่งงานของตระกูลติง เป็นงานฝีมือที่มีความประณีต ทั้งยังสวยงาม ไม่เพียงในอำเภอตูอัน ทั่วทั้งหรงตู ล้วนถือว่ามีชื่อเสียง

หลังจากข่าวลือลดราคาเก้าส่วนสิบแพร่สะพัดออกไป ผู้คนมาเข้าแถวตั้งแต่กลางดึก แล้วจะขายไม่ออกสักชิ้นได้อย่างไร

“เจ้าหน้าที่ท่านนี้ ท่านกำลังล้อเล่นหรือเปล่า? น่าจะบอกว่าสินค้าตระกูลติงถูกแย่งกันซื้อจนไม่เหลือแม้แต่หนึ่งชิ้นกระมัง?”

พ่อค้าอำเภอตูอันคนหนึ่งพูดขึ้น

“ถูกต้อง!” เจี่ยงหงเหวินก็พูดเช่นเดียวกัน “ต้องแย่งกันซื้อจนไม่เหลือสักชิ้นอย่างแน่นอน เจ้าหน้าที่ท่านนี้อยากสร้างความสนุก เพียงแต่ เวลาแบบนี้ไม่เหมาะสมเท่าใดนัก”

“เจ้าพูดดีๆ!” ลวี่เหลียงเจ๋อถลึงตามองเจ้าหน้าที่ว่าการที่มารายงานด้วยความโมโห

“ใต้เท้า เป็นความจริงขอรับ สินค้าขายไม่ได้สักชิ้นจริงๆ ขอรับ!” เสียงของเจ้าหน้าที่ว่าการคนนั้น แปรเปลี่ยนเป็นทั้งเบาและไม่มีความมั่นใจ

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 347

    หืม?” เฉินฝานเหลือบมอง พูดด้วยน้ำเสียงเกียจคร้าน “ใช้แผนการชั่วร้าย? ข้าทำอย่างไรหรือ? ข้าหยุดการเปิดร้านของท่าน หรือข้าค้าขายโดยผิดกฎของต้าชิ่ง”“เจ้าไร้คุณธรรม ต่ำช้า!” ติงลั่วโมโหจนหน้าแดงก่ำได้ยินคำพูดของติงลั่ว เฉินฝานหัวเราะ “หากกล่าวถึงไร้คุณธรรมและต่ำช้า ข้าจะเทียบพวกท่านได้อย่างไร พวกท่านอาศัยความมั่งคั่งของอำเภอตูอัน อาศัยที่นายอำเภอเป็นคนโปรดของท่านเจ้าเมือง เจตนาวางแผนชั่ว อยากกลืนกินการค้าขายทั้งหมดของอำเภอผิงอัน”“เสี่ยวฝานพูดถูก!”คนที่ช่วยพูดคือชางเฟยอวี่ แม้เขาจะยังคงดูแคลนเฉินฝาน แต่เขาก็เป็นส่วนหนึ่งของอำเภอผิงอันภายใน พวกเขาสู้กันให้ตายไปข้างหนึ่งได้ภายนอก พวกเขาต้องช่วยกันชางเฟยอวี่พูดต่อ “ไม่ว่าทั้งสองฝ่ายค้าขายสิ่งใด ขอเพียงไม่ทำผิดกฎหมายด้านการค้าขายของต้าชิ่ง เงื่อนไขนี้เฉินฝานไม่ได้เป็นคนเสนอ ใต้เท้าหลูของพวกเราก็ไม่ได้เป็นคนเสนอ แต่ใต้เท้าลวี่ของพวกท่านเป็นคนเสนอ”“อื้ม ขอบคุณคุณชายชางที่ช่วยข้าอ่านกฎ” สายตาของเฉินฝานมองไปทางติงลั่ว “ไม่ทราบว่า หอดับจิตของข้าผิดกฎหมายข้อใดของต้าชิ่ง? แล้วกฎหมายข้อใดระบุว่า ข้าไม่อาจเปิดหอดับจิตที่นั่น?”“เจ้า เจ้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 348

    จางเจิ้งห้าวโต้เถียงเช่นนี้ ตรงตามเจตนาของลวี่เหลียงเจ๋อพอดีขุนนางชั้นผู้น้อยโต้เถียงชั้นผู้ใหญ่ เป็นความผิดร้ายแรง ลวี่เหลียงเจ๋อรายงานไปถึงเจ้าเมืองได้ แล้วค่อยร้องขอให้ลงโทษจางเจิ้งห้าวหากไม่มีจางเจิ้งห้าว หลูเฉิงกวงก็เหมือนเสียแขนขาไปหนึ่งข้างปลัดอำเภอที่ถูกส่งตัวมาอีกครั้ง ย่อมไม่มีทางเป็นพวกพ้องเดียวกับหลูเฉิงกวงแน่นอนเพราะลวี่เหลียงเจ๋อย่อมยื่นมือเข้าไป แม้ไม่ใช่คนของเขา แต่ก็ต้องเป็นคนที่ไม่ชอบหลูเฉิงกวง“ทำไม?” ลวี่เหลียงเจ๋อกระตุ้นจางเจิ้งห้าวอีกครั้ง “คล้ายเจ้าไม่พอใจข้า ได้ เช่นนั้นเราไปคุยกันต่อหน้าเจ้าเมือง ข้าจะได้ไม่ถูกหาว่าใช้อำนาจบาตรใหญ่กดขี่เจ้า”“ข้าน้อยพอใจขอรับ พอใจขอรับ จะไม่พอใจได้อย่างไรขอรับ?” หลูเฉิงกวงจับแขนจางเจิ้งห้าว ยิ้มประจบลวี่เหลียงเจ๋อลวี่เหลียงเจ๋อระดับเดียวกับเขา แต่เขาไม่อาจโต้เถียง หลูเฉิงกวงไม่รู้สึกถูกหยามเกียรติหรือ?แน่นอนว่าความจริงไม่ใช่แบบนี้เป็นการหยามเกียรติ เป็นการหยามเกียรติอย่างร้ายแรงแต่ เขาไม่อาจแสดงออกมา ยิ่งไม่อาจใช้อารมณ์เหมือนจางเจิ้งห้าวลวี่เหลียงเจ๋อรอเขาผิดพลาด“เช่นนั้นสามการแข่งขันชนะสองครั้ง!”“ใต้เท้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 349

    “กลั่นแกล้งกันอย่างเห็นได้ชัด!”“พวกเจ้าไม่ต้องพูดแล้ว แม้จะรู้ว่าพวกเขาตั้งใจรังแกพวกเรา พวกเราก็ทำได้เพียงยอมรับ”“เฮ้อ สุดท้ายแล้วก็เพราะพวกเรายากจนเกินไป”พ่อค้าชาวอำเภอผิงอันส่ายหน้าและถอนหายใจ“ทางเราส่งคนเข้าร่วมการแข่งขันครั้งที่สองแล้ว พี่หลู” ลวี่เหลียงเจ๋อผายมือเชิญ “ถึงคราวของท่านแล้ว”หลูเฉิงกวงหันไปมอง เขาไม่ได้เอ่ยถาม พ่อค้าที่ด้านหลังเปิดเรือนแขก ก้มหน้าต่ำ กลัวว่าหากตนก้มหน้าไม่ต่ำพอ จะถูกหลูเฉิงกวงเลือกไปแข่งขัน“ทุกการแข่งขันมีรางวัล การแข่งขันครั้งที่สองก็เช่นเดียวกัน หากพวกเจ้าชนะ เรือนแขกสำราญสุขจะเป็นของพวกเจ้า! หากพวกเจ้าแพ้ ต้องยอมให้เรือนแขกถงฝูของตระกูลฟางเข้าอำเภอผิงอัน”ฟังถ้อยคำนี้ของลวี่เหลียงเจ๋อ ชาวอำเภอผิงอันทุกคนยิ่งโมโหลวี่เหลียงเจ๋อหน้าไม่อายจริงๆ เรือนแขกสำราญสุขเป็นของอำเภอผิงอันอยู่แล้ว กลับเอามาเดิมพัน แม้พวกเขาแพ้ อำเภอตูอันก็ไม่ขาดทุนคนทั่วไปเพียงโมโหในความไร้ยางอายของลวี่เหลียงเจ๋อ ทว่าพ่อค้าที่ทำธุรกิจเรือนแขกในอำเภอผิงอันกลับถอนหายใจ“เรือนแขกถงฝูเข้ามาเปิดในอำเภอผิงอันเนี่ยนะ? ใต้เท้า ไม่ได้เด็ดขาดขอรับ!”“มีเรือนแขกสำราญสุขร้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 350

    เฉินฝานลุกขึ้นแล้วประสานมือคารวะหลูเฉิงกวงก่อน จากนั้นยิ้มแล้วหันไปพูดกับคนที่หัวเราะเยาะเขา “ขอบคุณคำชมของพี่ๆ ทุกคนขอรับ!”“ขอบคุณ? พวกเราบอกว่าเขาเลี้ยงภรรยาจนมีน้ำมีนวล เขาคิดว่าพวกเราชมเขาจริงๆ เช่นนั้นหรือ”“มองท่าทีทึ่มๆ ของเขา อาจจะคิดแบบนั้นจริงๆ ก็ได้”“หนอนหนังสือจริงๆ”“ใต้เท้า อาหารที่ข้าน้อยทำ ได้รับคำชื่นชมจากภรรยาบ่อยครั้ง และคิดว่าตนทำได้อร่อย ยินดีแข่งขันกับว่าที่พ่อครัวหลวงฟางท่านนี้ขอรับ”เฉินฝานหันไปมองฟางทิง ฟางทิงกลับมองเขาด้วยแววตาเย้ยหยัน สีหน้าของเขาฉายความหงุดหงิดเล็กน้อยหากรู้ว่าอำเภอผิงอันส่งเฉินฝานมา เขาไม่ลงแข่งแน่นอนเฉินฝานไม่คู่ควรให้เขาแข่งขันด้วยได้รับคำชมจากภรรยาบ่อยครั้งเช่นนั้นหรือ? คำชมเพียงไม่กี่คำของสตรีชั้นต่ำเหล่านั้น คิดว่าตนทำอาหารอร่อยเช่นนั้นหรือ?ช่างโง่เขลาจริงๆเมื่อก่อนเขามักจะได้ยินผู้คนบอกว่า หนอนหนังสืออ่านหนังสือมากไป ก็จะคิดไปเองดูเหมือนคำพูดนี้จะเป็นจริง ตอนนี้เฉินฝานทั้งหลงตัวเองและโง่เขลา“เสี่ยวทิง อย่าประมาท เฉินฝานร้ายมาก ข้าได้ยินว่าปลาย่างที่ขายดีที่สุดในเรือนแขกสำราญสุข เฉินฝานเป็นคนทำ”เห็นท่าทีไม่ยี่หร่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 351

    ก่อนเริ่มการแข่งขัน เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคล้ายกับที่อี้จวง ลวี่เหลียงเจ๋อกำชับเรื่องกฎระเบียบการแข่งขันรอบสองอีกครั้งแท้จริงแล้ว คือการเตือนเฉินฝานให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดถ้าเป็นการแข่งขันกินอาหารก็ต้องเป็นการทำอาหาร ถ้าเป็นอย่างอื่น แม้ว่าเฉินฝานจะขายได้มากกว่าฟางทิง ก็ถือว่าโมฆะการแข่งขันยังไม่ได้เริ่มอย่างเป็นทางการ แต่ข่าวที่ว่าฟางทิงจะเป็นพ่อครัวหลักที่เรือนแขกสำราญสุขเป็นเวลาสามวันได้แพร่สะพัดไปทั่วอำเภอผิงอันทั้งถนนและตรอกซอกเล็กใหญ่ทั่วอำเภอผิงอันต่างพูดถึงเรื่องนี้“ฟางทิง? ฟางทิงที่เข้าเมืองหลวงไปเป็นพ่อครัวปรุงอาหารให้กับฮ่องเต้หลังจากไว้ทุกข์เสร็จน่ะหรือ?”“ใช่!”“เช่นนั้นก็เป็นพ่อครัวหลวงน่ะสิ? เขาจะมาที่เรือนแขกสำราญสุขได้อย่างไร? พวกเจ้าฟังผิดแล้วหรือไม่?”“ไม่ผิดแน่ มีการประกาศที่เรือนแขกสำราญสุขด้วย”“ถ้าเช่นนั้นพวกเราต้องไปที่นั่น พ่อครัวหลวงเชียวนะ ถึงมีเงินก็ไม่ได้กิน”“จะแพงเกินไปหรือไม่ ถ้าแพงเกินไปก็ช่างมันเถอะ ข้าคงทำไม่ลงหากข้าได้กินแต่เหล่าภรรยาที่เรือนกลับต้องหิวโซ”“ไม่แพง ป้ายประกาศของเรือนแขกสำราญสุขระบุไว้ชัดเจนว่า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 352

    สีหน้าของทุกคนแทบเหมือนกันหมด อ้าปากกว้างและมองอาจารย์ปู่ตาค้าง“ปัง!”ลวี่เหลียงเจ๋อวางแก้วสุราลงบนโต๊ะอย่างเสียงดัง “แม้ว่าวันนี้ข้ามีความสุขมาก แต่ไม่ได้แปลว่าพวกเจ้าสามารถหลอกข้าเช่นนี้ได้”“อาจารย์ปู่ ท่านก็ทำมากไป แม้ว่าเจ้าหนอนหนังสือนี่ดูไร้เดียงสา แต่เขาไม่ใช่คนโง่นะขอรับ!”กลุ่มพ่อค้ารายย่อยก็รู้สึกว่าอาจารย์ปู่ทำมากไปเหมือนกัน“ใต้เท้าขอรับ!” อาจารย์ปู่แสดงสีหน้าน้อยใจ “ข้าน้อยไม่ได้หลอกท่านขอรับ เฉินฝานผู้นั้นกำลังเล่นโคลนกับภรรยาของเขาจริง ๆ”ตอนที่ได้ยินนักการในศาลาว่าการมารายงาน ปฏิกิริยาของอาจารย์ปู่รุนแรงยิ่งกว่าลวี่เหลียงเจ๋อเสียอีก เขาถึงกระทั่งตบหน้าคนใช้ผู้นั้นอย่างแรงอีกด้วยนักการในศาลาว่าการยืนกรานว่าเฉินฝานเล่นโคลนจริง ๆ เขาที่ไม่ยอมเชื่อ ก็ลงไปตรวจสอบด้วยตัวเองและพบว่าเฉินฝานกำลังเล่นโคลนอยู่จริง ๆเขาหัวเราะอยู่กับภรรยาและยังแปะโคลนที่หน้าของพวกนาง เสียงหัวเราะคิกคักดังสะพัดไปทั่วลานเล็กนั่นหลังจากยืนยันครั้งแล้วครั้งเล่าว่าเฉินฝานกำลังเล่นโคลนอยู่จริง ลวี่เหลียงเจ๋อก็ลดเสียงลงและกล่าว “เจ้าหนุ่มนั่นคงไม่ได้วางแผนกลอุบายอะไรใช่หรือไม่?”“เหอะ!” ฟาง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 353

    “ทำได้อร่อยมากจริง ๆ สมกับผู้ที่จะได้เป็นพ่อครัวหลวง”เฉินฝานกินเนื้อคำใหญ่พร้อมกล่าวชื่นชม“อร่อยขนาดนั้นเลยหรือ?” จางเจิ้งห้าวกังวลและไม่ขยับตะเกียบ“ใช่!” เฉินฝานคีบหมูสามชั้นตุ๋นอีกชิ้น “อร่อยจริง ๆ!”เขาไม่ได้กล่าวเยินยอใด ๆ ฟางทิงทำได้อร่อยจริง ๆ ไม่ต้องพูดถึงว่าอยู่ในสมัยโบราณ ต่อให้อยู่ในยุคปัจจุบัน ฟางทิงก็ถือว่าเป็นพ่อครัวชั้นหนึ่ง“แล้วทำไมเจ้ายัง…...” จางเจิ้งห้าวลังเลครู่หนึ่ง แล้วพูดอีกครั้ง “ยังกินลงได้อีก?”มือที่คีบอาหารของเฉินฝานชะงักเล็กน้อย หลังจากชั่วขณะผ่านไปเขาก็คีบอาหารต่อ “ทำได้อร่อยขนาดนี้ ทำไมต้องไม่กินด้วยล่ะ? ใต้เท้าจาง ท่านก็รีบกินเถอะ เย็นแล้วไม่อร่อยนะขอรับ”ภายใต้การกระตุ้นของเฉินฝาน ในที่สุดจางเจิ้งห้าวก็ขยับตะเกียบยิ่งกินมากเท่าไร ใบหน้าของจางเจิ้งห้าวก็ยิ่งมีความกังวลมากขึ้นเท่านั้นอาหารในปาก ทำได้อร่อยมากจริง ๆเฉินฝานที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขา ยังคงกินอย่างเอร็ดอร่อยจนข้าวหมดไปสองชามในคราวเดียวหลังจากกินข้าวไปสองชาม เฉินฝานยังรู้สึกไม่พอใจอยู่เล็กน้อย ถ้าไม่ใช่เพราะข้าวไม่พอ ให้กินอีกสองถ้วยก็คงไม่มีปัญหา“เสี่ยวฝาน เจ้าแอบความสามารถเอาไว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 354

    “ขนมที่ข้าทำเมื่อคืนนี้อร่อยไหม?” เฉินฝานถามในสิ่งที่รู้คำตอบอยู่แล้ว“อร่อยเจ้าค่ะ!”เสียงคมชัดดังมาจากด้านหลังเฉินฝาน ใบหน้าเล็กตุ้ยนุ้ยของฉินเย่ว์ฉู่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเฉินฝาน“หวาน ๆ หอม ๆ ข้าไม่เคยได้กินของที่อร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย”เวลาฉินเย่ว์ฉู่ยิ้ม ดวงตาของนางจะเหมือนพระจันทร์เสี้ยวและมีลักยิ้มคู่หนึ่งบนใบหน้า ประกอบกับท่าทางละโมบดุจแมวตัวน้อยช่างน่ารักจนสามารถทำให้หัวใจละลายได้“อืม!” เฉินฝานหยิกหน้าตุ้ยนุ้ยของฉินเย่ว์ฉู่เบา ๆตอนที่เพิ่งพานางกลับมา นางซูบผอมราวกับลูกแมว ตอนนี้อ้วนตุ้ยนุ้ยมาก รู้สึกถึงการประสบความสำเร็จไม่น้อย“แล้วเพื่อนสาวเหล่านั้นของเจ้าชอบหรือไม่?” เฉินฝานหมายถึงกลุ่มเด็กผู้หญิงที่เคยถูกคุมขังอยู่กับฉินเย่ว์ฉู่และถูกส่งเข้าไปฝึกฝนในหอนางโลมอี๋ชุนย่วนหลังจากได้รับการช่วยเหลือ“พวกนางชอบเหมือนกันเจ้าค่ะ ไม่เพียงแต่พวกนางที่ชอบเท่านั้น ยังมีพี่สาวของพวกนางก็ชอบด้วยเจ้าค่ะ”เสียงชัดแจ๋วของฉินเย่ว์ฉู่ดังขึ้นอีกครั้ง พี่สาวที่นางพูดถึงคือหญิงโสเภณีที่อยู่ในหอนางโลมอี๋ชุนย่วนเหล่านั้น“อืม” หลังจากเฉินฝานพยักหน้าพึงพอใจ เขาก็หันไปหาฉินเย่ว์เจียว “เย่ว์

Pinakabagong kabanata

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status