Share

บทที่ 344

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
เขาจะเปิดร้านบนที่ดินหลุมกว้างข้างหอนางโลมบุปผาสีชาด หากไม่ใช่หลุมกว้างเขาก็ไม่มีทางเปิด

เพราะว่า...

นั่นเป็น ‘ฮวงจุ้ยเรียกทรัพย์’ ของการเปิดร้านค้า!

“ข้ารู้สึกว่าใต้เท้าหลูและใต้เท้าจางพูดถูก เหตุใดนายท่านจึงดื้อรั้นเช่นนี้เจ้าคะ? ขายร้านของน้าหลิวทิ้ง! ทั้งยังซื้อที่ดินข้างหอนางโลมบุปผาสีชาดมาเปิดร้านค้า”

หลังจากพวกหลูเฉิงกวงออกไป ฉินเย่ว์เจียวเริ่มบ่น

เฉินฝานนั่งพิงเก้าอี้ข้างหน้าต่าง วางตำราในมือลง ก้มหน้ามองข้างเท้าของตนเอง ฉินเย่ว์โหรวที่กำลังทุบขาให้เขา

“เย่ว์โหรว”

“เจ้าค่ะนายท่าน น้ำหนักมือไม่ดีหรือเจ้าคะ?” ฉินเย่ว์โหรวเงยหน้าขึ้น ถามเฉินฝานด้วยความอ่อนโยน

“เปล่า น้ำหนักกำลังดี”

“เช่นนั้น...” ดวงตากลมโตราวกับดวงดาของฉินเย่ว์โหรว อ่อนโยนดุจสายน้ำ “มีอะไรจะรับสั่งหรือเจ้าคะ?”

“เปล่า ข้าเพียงอยากถาม เหตุใดเจ้าจึงไม่บ่นขา?”

ในยามปกติเขาเพียงซื้อผ้า ซื้อเนื้อมากเกินความเจ็บเป็นเล็กน้อย ฉินเย่ว์โหรวบ่นครึ่งค่อนวัน เหตุใดวันนี้จึงเงียบเช่นนี้

ตอนเขาบอกว่าจะขายร้าน นางเพียงมองเขาด้วยสายตาตกใจปราดหนึ่งเท่านั้น แค่เท่านั้นจริงๆ

“หากข้าน้อยพร่ำบ่น นายท่านจะไม่ขายร้านและไม่ซื้
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 345

    “น่าจะไม่เร็วขนาดนั้น” พูดตามจริง เฉินฝานไม่อยากให้ฉินเย่ว์โหรวตั้งครรภ์เร็วขนาดนี้ นางยังเด็กเกินไป“เพราะเหตุใดเจ้าคะ? สุขภาพร่างกายของน้องสี่ไม่ดีหรือเจ้าคะ? เช่นนั้นข้าจะรีบพานางไปหาหมอ”“ไม่ใช่” เฉินฝานมองสองคนที่กำลังวิ่งไล่กันในลานบ้าน “เย่ว์โหรวยังเด็ก คลอดลูกตอนโตกว่านี้หน่อยจะดีกว่า”“ไม่ได้เจ้าค่ะ ไม่อาจสายกว่านี้แล้ว มิเช่นนั้นคนพวกนั้นก็จะ...”หืม? เฉินฝานขมวดคิ้วเล็กน้อย เหตุใดจึงไม่พูดต่อเฉินฝานเงยหน้าขึ้น สีหน้าโมโหปนน้อยอกน้อยใจของฉินเย่ว์เจียว อยู่ในระดับสายตาของเขาหญิงสาวโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ ทั้งยังน้อยอกน้อยใจ จะมีชายสักกี่คนที่ทนภาพนี้ได้หัวใจของเฉินฝานค่อยๆ เต้นแรง“จะอะไร?” เสียงของเฉินฝานแหบพร่าเล็กน้อย กดเสียงลงต่ำอย่างไม่อาจหักห้ามได้เสียงของเฉินฝานไพเราะเป็นทุนเดิม โดยเฉพาะตอนที่เสียงของเขาทุ้มต่ำเสียงทุ้มต่ำ อ่อนโยนดังก้องในหูของฉินเย่ว์เจียว ทำให้นางอ่อนยวบไปทั้งตัว“คนพวกนั้นบอกว่าพวกข้าแต่งงานกับนายท่านมานานแล้ว ไม่ตั้งครรภ์สักคน ดังนั้นพวกเขา พวกเขาบอกว่านายท่านไม่ได้เรื่องเจ้าค่ะ!“อื้ม ที่เจ้าพูดก็เป็นปัญหาจริงๆ...” เฉินฝานยื่นมือไปโอบเอว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 346

    ราวก้อนหินตกกระทบสร้างคลื่นนับพันคำพูดของเจ้าหน้าที่ว่าการ ทำให้ทุกคนศาลาว่าการตกตะลึง“เจ้าพูดอะไรผิดหรือเปล่า สินค้าของข้าจะขายไม่ออกสักชิ้นได้อย่างไร สินค้าของเขาขายไม่ออกสักชิ้นกระมัง”ใบหน้าของติงลั่วแดงก่ำ โมโหอย่างมากสินค้างานแต่งงานของตระกูลติง เป็นงานฝีมือที่มีความประณีต ทั้งยังสวยงาม ไม่เพียงในอำเภอตูอัน ทั่วทั้งหรงตู ล้วนถือว่ามีชื่อเสียงหลังจากข่าวลือลดราคาเก้าส่วนสิบแพร่สะพัดออกไป ผู้คนมาเข้าแถวตั้งแต่กลางดึก แล้วจะขายไม่ออกสักชิ้นได้อย่างไร“เจ้าหน้าที่ท่านนี้ ท่านกำลังล้อเล่นหรือเปล่า? น่าจะบอกว่าสินค้าตระกูลติงถูกแย่งกันซื้อจนไม่เหลือแม้แต่หนึ่งชิ้นกระมัง?”พ่อค้าอำเภอตูอันคนหนึ่งพูดขึ้น“ถูกต้อง!” เจี่ยงหงเหวินก็พูดเช่นเดียวกัน “ต้องแย่งกันซื้อจนไม่เหลือสักชิ้นอย่างแน่นอน เจ้าหน้าที่ท่านนี้อยากสร้างความสนุก เพียงแต่ เวลาแบบนี้ไม่เหมาะสมเท่าใดนัก”“เจ้าพูดดีๆ!” ลวี่เหลียงเจ๋อถลึงตามองเจ้าหน้าที่ว่าการที่มารายงานด้วยความโมโห“ใต้เท้า เป็นความจริงขอรับ สินค้าขายไม่ได้สักชิ้นจริงๆ ขอรับ!” เสียงของเจ้าหน้าที่ว่าการคนนั้น แปรเปลี่ยนเป็นทั้งเบาและไม่มีความมั่นใจ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 347

    หืม?” เฉินฝานเหลือบมอง พูดด้วยน้ำเสียงเกียจคร้าน “ใช้แผนการชั่วร้าย? ข้าทำอย่างไรหรือ? ข้าหยุดการเปิดร้านของท่าน หรือข้าค้าขายโดยผิดกฎของต้าชิ่ง”“เจ้าไร้คุณธรรม ต่ำช้า!” ติงลั่วโมโหจนหน้าแดงก่ำได้ยินคำพูดของติงลั่ว เฉินฝานหัวเราะ “หากกล่าวถึงไร้คุณธรรมและต่ำช้า ข้าจะเทียบพวกท่านได้อย่างไร พวกท่านอาศัยความมั่งคั่งของอำเภอตูอัน อาศัยที่นายอำเภอเป็นคนโปรดของท่านเจ้าเมือง เจตนาวางแผนชั่ว อยากกลืนกินการค้าขายทั้งหมดของอำเภอผิงอัน”“เสี่ยวฝานพูดถูก!”คนที่ช่วยพูดคือชางเฟยอวี่ แม้เขาจะยังคงดูแคลนเฉินฝาน แต่เขาก็เป็นส่วนหนึ่งของอำเภอผิงอันภายใน พวกเขาสู้กันให้ตายไปข้างหนึ่งได้ภายนอก พวกเขาต้องช่วยกันชางเฟยอวี่พูดต่อ “ไม่ว่าทั้งสองฝ่ายค้าขายสิ่งใด ขอเพียงไม่ทำผิดกฎหมายด้านการค้าขายของต้าชิ่ง เงื่อนไขนี้เฉินฝานไม่ได้เป็นคนเสนอ ใต้เท้าหลูของพวกเราก็ไม่ได้เป็นคนเสนอ แต่ใต้เท้าลวี่ของพวกท่านเป็นคนเสนอ”“อื้ม ขอบคุณคุณชายชางที่ช่วยข้าอ่านกฎ” สายตาของเฉินฝานมองไปทางติงลั่ว “ไม่ทราบว่า หอดับจิตของข้าผิดกฎหมายข้อใดของต้าชิ่ง? แล้วกฎหมายข้อใดระบุว่า ข้าไม่อาจเปิดหอดับจิตที่นั่น?”“เจ้า เจ้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 348

    จางเจิ้งห้าวโต้เถียงเช่นนี้ ตรงตามเจตนาของลวี่เหลียงเจ๋อพอดีขุนนางชั้นผู้น้อยโต้เถียงชั้นผู้ใหญ่ เป็นความผิดร้ายแรง ลวี่เหลียงเจ๋อรายงานไปถึงเจ้าเมืองได้ แล้วค่อยร้องขอให้ลงโทษจางเจิ้งห้าวหากไม่มีจางเจิ้งห้าว หลูเฉิงกวงก็เหมือนเสียแขนขาไปหนึ่งข้างปลัดอำเภอที่ถูกส่งตัวมาอีกครั้ง ย่อมไม่มีทางเป็นพวกพ้องเดียวกับหลูเฉิงกวงแน่นอนเพราะลวี่เหลียงเจ๋อย่อมยื่นมือเข้าไป แม้ไม่ใช่คนของเขา แต่ก็ต้องเป็นคนที่ไม่ชอบหลูเฉิงกวง“ทำไม?” ลวี่เหลียงเจ๋อกระตุ้นจางเจิ้งห้าวอีกครั้ง “คล้ายเจ้าไม่พอใจข้า ได้ เช่นนั้นเราไปคุยกันต่อหน้าเจ้าเมือง ข้าจะได้ไม่ถูกหาว่าใช้อำนาจบาตรใหญ่กดขี่เจ้า”“ข้าน้อยพอใจขอรับ พอใจขอรับ จะไม่พอใจได้อย่างไรขอรับ?” หลูเฉิงกวงจับแขนจางเจิ้งห้าว ยิ้มประจบลวี่เหลียงเจ๋อลวี่เหลียงเจ๋อระดับเดียวกับเขา แต่เขาไม่อาจโต้เถียง หลูเฉิงกวงไม่รู้สึกถูกหยามเกียรติหรือ?แน่นอนว่าความจริงไม่ใช่แบบนี้เป็นการหยามเกียรติ เป็นการหยามเกียรติอย่างร้ายแรงแต่ เขาไม่อาจแสดงออกมา ยิ่งไม่อาจใช้อารมณ์เหมือนจางเจิ้งห้าวลวี่เหลียงเจ๋อรอเขาผิดพลาด“เช่นนั้นสามการแข่งขันชนะสองครั้ง!”“ใต้เท้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 349

    “กลั่นแกล้งกันอย่างเห็นได้ชัด!”“พวกเจ้าไม่ต้องพูดแล้ว แม้จะรู้ว่าพวกเขาตั้งใจรังแกพวกเรา พวกเราก็ทำได้เพียงยอมรับ”“เฮ้อ สุดท้ายแล้วก็เพราะพวกเรายากจนเกินไป”พ่อค้าชาวอำเภอผิงอันส่ายหน้าและถอนหายใจ“ทางเราส่งคนเข้าร่วมการแข่งขันครั้งที่สองแล้ว พี่หลู” ลวี่เหลียงเจ๋อผายมือเชิญ “ถึงคราวของท่านแล้ว”หลูเฉิงกวงหันไปมอง เขาไม่ได้เอ่ยถาม พ่อค้าที่ด้านหลังเปิดเรือนแขก ก้มหน้าต่ำ กลัวว่าหากตนก้มหน้าไม่ต่ำพอ จะถูกหลูเฉิงกวงเลือกไปแข่งขัน“ทุกการแข่งขันมีรางวัล การแข่งขันครั้งที่สองก็เช่นเดียวกัน หากพวกเจ้าชนะ เรือนแขกสำราญสุขจะเป็นของพวกเจ้า! หากพวกเจ้าแพ้ ต้องยอมให้เรือนแขกถงฝูของตระกูลฟางเข้าอำเภอผิงอัน”ฟังถ้อยคำนี้ของลวี่เหลียงเจ๋อ ชาวอำเภอผิงอันทุกคนยิ่งโมโหลวี่เหลียงเจ๋อหน้าไม่อายจริงๆ เรือนแขกสำราญสุขเป็นของอำเภอผิงอันอยู่แล้ว กลับเอามาเดิมพัน แม้พวกเขาแพ้ อำเภอตูอันก็ไม่ขาดทุนคนทั่วไปเพียงโมโหในความไร้ยางอายของลวี่เหลียงเจ๋อ ทว่าพ่อค้าที่ทำธุรกิจเรือนแขกในอำเภอผิงอันกลับถอนหายใจ“เรือนแขกถงฝูเข้ามาเปิดในอำเภอผิงอันเนี่ยนะ? ใต้เท้า ไม่ได้เด็ดขาดขอรับ!”“มีเรือนแขกสำราญสุขร้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 350

    เฉินฝานลุกขึ้นแล้วประสานมือคารวะหลูเฉิงกวงก่อน จากนั้นยิ้มแล้วหันไปพูดกับคนที่หัวเราะเยาะเขา “ขอบคุณคำชมของพี่ๆ ทุกคนขอรับ!”“ขอบคุณ? พวกเราบอกว่าเขาเลี้ยงภรรยาจนมีน้ำมีนวล เขาคิดว่าพวกเราชมเขาจริงๆ เช่นนั้นหรือ”“มองท่าทีทึ่มๆ ของเขา อาจจะคิดแบบนั้นจริงๆ ก็ได้”“หนอนหนังสือจริงๆ”“ใต้เท้า อาหารที่ข้าน้อยทำ ได้รับคำชื่นชมจากภรรยาบ่อยครั้ง และคิดว่าตนทำได้อร่อย ยินดีแข่งขันกับว่าที่พ่อครัวหลวงฟางท่านนี้ขอรับ”เฉินฝานหันไปมองฟางทิง ฟางทิงกลับมองเขาด้วยแววตาเย้ยหยัน สีหน้าของเขาฉายความหงุดหงิดเล็กน้อยหากรู้ว่าอำเภอผิงอันส่งเฉินฝานมา เขาไม่ลงแข่งแน่นอนเฉินฝานไม่คู่ควรให้เขาแข่งขันด้วยได้รับคำชมจากภรรยาบ่อยครั้งเช่นนั้นหรือ? คำชมเพียงไม่กี่คำของสตรีชั้นต่ำเหล่านั้น คิดว่าตนทำอาหารอร่อยเช่นนั้นหรือ?ช่างโง่เขลาจริงๆเมื่อก่อนเขามักจะได้ยินผู้คนบอกว่า หนอนหนังสืออ่านหนังสือมากไป ก็จะคิดไปเองดูเหมือนคำพูดนี้จะเป็นจริง ตอนนี้เฉินฝานทั้งหลงตัวเองและโง่เขลา“เสี่ยวทิง อย่าประมาท เฉินฝานร้ายมาก ข้าได้ยินว่าปลาย่างที่ขายดีที่สุดในเรือนแขกสำราญสุข เฉินฝานเป็นคนทำ”เห็นท่าทีไม่ยี่หร่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 351

    ก่อนเริ่มการแข่งขัน เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคล้ายกับที่อี้จวง ลวี่เหลียงเจ๋อกำชับเรื่องกฎระเบียบการแข่งขันรอบสองอีกครั้งแท้จริงแล้ว คือการเตือนเฉินฝานให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดถ้าเป็นการแข่งขันกินอาหารก็ต้องเป็นการทำอาหาร ถ้าเป็นอย่างอื่น แม้ว่าเฉินฝานจะขายได้มากกว่าฟางทิง ก็ถือว่าโมฆะการแข่งขันยังไม่ได้เริ่มอย่างเป็นทางการ แต่ข่าวที่ว่าฟางทิงจะเป็นพ่อครัวหลักที่เรือนแขกสำราญสุขเป็นเวลาสามวันได้แพร่สะพัดไปทั่วอำเภอผิงอันทั้งถนนและตรอกซอกเล็กใหญ่ทั่วอำเภอผิงอันต่างพูดถึงเรื่องนี้“ฟางทิง? ฟางทิงที่เข้าเมืองหลวงไปเป็นพ่อครัวปรุงอาหารให้กับฮ่องเต้หลังจากไว้ทุกข์เสร็จน่ะหรือ?”“ใช่!”“เช่นนั้นก็เป็นพ่อครัวหลวงน่ะสิ? เขาจะมาที่เรือนแขกสำราญสุขได้อย่างไร? พวกเจ้าฟังผิดแล้วหรือไม่?”“ไม่ผิดแน่ มีการประกาศที่เรือนแขกสำราญสุขด้วย”“ถ้าเช่นนั้นพวกเราต้องไปที่นั่น พ่อครัวหลวงเชียวนะ ถึงมีเงินก็ไม่ได้กิน”“จะแพงเกินไปหรือไม่ ถ้าแพงเกินไปก็ช่างมันเถอะ ข้าคงทำไม่ลงหากข้าได้กินแต่เหล่าภรรยาที่เรือนกลับต้องหิวโซ”“ไม่แพง ป้ายประกาศของเรือนแขกสำราญสุขระบุไว้ชัดเจนว่า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 352

    สีหน้าของทุกคนแทบเหมือนกันหมด อ้าปากกว้างและมองอาจารย์ปู่ตาค้าง“ปัง!”ลวี่เหลียงเจ๋อวางแก้วสุราลงบนโต๊ะอย่างเสียงดัง “แม้ว่าวันนี้ข้ามีความสุขมาก แต่ไม่ได้แปลว่าพวกเจ้าสามารถหลอกข้าเช่นนี้ได้”“อาจารย์ปู่ ท่านก็ทำมากไป แม้ว่าเจ้าหนอนหนังสือนี่ดูไร้เดียงสา แต่เขาไม่ใช่คนโง่นะขอรับ!”กลุ่มพ่อค้ารายย่อยก็รู้สึกว่าอาจารย์ปู่ทำมากไปเหมือนกัน“ใต้เท้าขอรับ!” อาจารย์ปู่แสดงสีหน้าน้อยใจ “ข้าน้อยไม่ได้หลอกท่านขอรับ เฉินฝานผู้นั้นกำลังเล่นโคลนกับภรรยาของเขาจริง ๆ”ตอนที่ได้ยินนักการในศาลาว่าการมารายงาน ปฏิกิริยาของอาจารย์ปู่รุนแรงยิ่งกว่าลวี่เหลียงเจ๋อเสียอีก เขาถึงกระทั่งตบหน้าคนใช้ผู้นั้นอย่างแรงอีกด้วยนักการในศาลาว่าการยืนกรานว่าเฉินฝานเล่นโคลนจริง ๆ เขาที่ไม่ยอมเชื่อ ก็ลงไปตรวจสอบด้วยตัวเองและพบว่าเฉินฝานกำลังเล่นโคลนอยู่จริง ๆเขาหัวเราะอยู่กับภรรยาและยังแปะโคลนที่หน้าของพวกนาง เสียงหัวเราะคิกคักดังสะพัดไปทั่วลานเล็กนั่นหลังจากยืนยันครั้งแล้วครั้งเล่าว่าเฉินฝานกำลังเล่นโคลนอยู่จริง ลวี่เหลียงเจ๋อก็ลดเสียงลงและกล่าว “เจ้าหนุ่มนั่นคงไม่ได้วางแผนกลอุบายอะไรใช่หรือไม่?”“เหอะ!” ฟาง

Pinakabagong kabanata

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status