Share

บทที่ 342

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
คนที่ตามหาเฉินฝานไม่ได้มีแค่ชาวอำเภอตูอัน ชาวอำเภอผิงอันก็ตามหาเขาเช่นเดียวกัน

“เขาคงไม่ได้หนีไปแล้วกระมัง?”

“ต้องหนีไปแล้วแน่ๆ เฮ้อ ใต้เท้าหลูไม่น่าให้ปลัดอำเภอไปตามตัวเฉินฝานที่หมู่บ้านซานเหอตั้งแต่แรก”

พ่อค้าอำเภอผิงอันกระซิบกระซาบคุยกัน แม้หลูเฉิงกวงได้ฟังแล้วจะโมโหมาก แต่ก็ไม่อาจพูดอะไรได้

หากรู้ว่าเฉินฝานไม่ยอมไปเอาป้ายห้อยเอว เขาไม่ยอมให้จางเจิ้งห้าวไปตามตัวเฉินฝานอย่างแน่นอน

“อะไรนะ? เจ้าแน่ใจว่าไม่ได้หูฝาด? เฉินฝานขายร้านนั้นไปแล้ว หลังจากนั้นซื้อที่ว่างทางทิศตะวันตกของหอนางโลมบุปผาสีชาด?” ติงลั่วถามบ่าวรับใช้ของตนเองด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ

พลบค่ำ ในที่สุดก็มีข่าวคราวของเฉินฝานแล้ว

ไม่รู้ว่าเจตนาหรือไม่เจตนา ผู้ที่ทราบข่าวเฉินฝานเป็นคนแรกคือติงลั่ว

ไม่รอบ่าวรับใช้ตอบคำถาม ติงลั่วรีบถามคำถามถัดไป “เขาได้บอกหรือไม่ว่าซื้อเพราะเหตุใด?”

“คนของเราแอบได้ยินว่า เขาบอกกับภรรยา จะเปิดร้านที่นั่นขอรับ”

หลังจากได้ยินรายงานของบ่าวรับใช้ เจี่ยงหงเหวินหัวเราะก่อนเป็นอันดับแรก เสียงหัวเราะของเขาดังก้องไปที่จุดพักม้า

“ฮ่าๆ ที่ดินว่างทางทิศตะวันตกของหอนางโลมบุปผาสีชาด! พี่ติง เหตุใดท่า
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 343

    “ดื่มบ้าดื่มบออะไรล่ะ!” หลูเฉิงกวงโมโหถึงขั้นสบถหยาบ “เจ้าดูสภาพข้าตอนนี้มีอารมณ์ดื่มน้ำชาหรือ? สามร้อยตำลึง! เจ้าขายร้านไปหนึ่งร้าน แล้วหันไปซื้อที่ดินเปล่านอกเมืองข้างหอนางโลมบุปผาสีชาดเนี่ยนะ? เจ้าบอกว่าใช้ร้านค้าหนึ่งร้านเอาชนะติงลั่วได้ แท้จริงแล้วเอาชนะเช่นนี้หรือ!”หลูเฉิงกวงพูดจบ มือเท้าเอว โมโหจนหน้าแดงก่ำ“ใต้เท้า ท่านอย่าโมโห โมโหแล้วเสียสุขภาพจะแย่เอา นั่งลงจิบน้ำชาก่อนขอรับ”เฉินฝานยังคงพูดอย่างยิ้มแย้มแต่ไม่ว่าเขาจะพูดอย่างไร หลูเฉิงกวงก็ไม่สนใจเขา พ่อค้าที่อยู่ด้านหลังหลูเฉิงกวงก็มองเขาด้วยแววตาเย็นชาเช่นเดียวกัน“เสี่ยวฝาน!” สุดท้ายปลัดอำเภอจางเจิ้งห้าวเป็นคนทำลายความตึงเครียด “ไม่พูดเรื่องแข่งขัน เจ้าขายร้านค้าในราคาสามร้อยตำลึงถูกเกินไปแล้ว”“ร้านนั้นอยู่ใกล้หอนางโลมอี๋ชุน สามร้อยตำลึงไม่ใช่แค่ถูกเกินไป แม้หนึ่งพันตำลึงก็ไม่สมควรขาย!”“เฮ้อ หนอนหนังสือคนหนึ่ง ทั้งยังเป็นหนอนหนังสือยากจน จะเข้าใจอะไร ในสายตาของเขาเงินสามร้อยตำลึงมีค่ามากกระมัง”พวกพ่อค้าต่างพากันตำหนิเฉินฝาน“ใต้เท้าหลู ใต้เท้าจาง!” เฉินฝานยกน้ำชาให้ทั้งสองอีกครั้ง พูดด้วยรอยยิ้ม “ดื่มน้ำชาก่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 344

    เขาจะเปิดร้านบนที่ดินหลุมกว้างข้างหอนางโลมบุปผาสีชาด หากไม่ใช่หลุมกว้างเขาก็ไม่มีทางเปิดเพราะว่า...นั่นเป็น ‘ฮวงจุ้ยเรียกทรัพย์’ ของการเปิดร้านค้า!“ข้ารู้สึกว่าใต้เท้าหลูและใต้เท้าจางพูดถูก เหตุใดนายท่านจึงดื้อรั้นเช่นนี้เจ้าคะ? ขายร้านของน้าหลิวทิ้ง! ทั้งยังซื้อที่ดินข้างหอนางโลมบุปผาสีชาดมาเปิดร้านค้า”หลังจากพวกหลูเฉิงกวงออกไป ฉินเย่ว์เจียวเริ่มบ่นเฉินฝานนั่งพิงเก้าอี้ข้างหน้าต่าง วางตำราในมือลง ก้มหน้ามองข้างเท้าของตนเอง ฉินเย่ว์โหรวที่กำลังทุบขาให้เขา“เย่ว์โหรว”“เจ้าค่ะนายท่าน น้ำหนักมือไม่ดีหรือเจ้าคะ?” ฉินเย่ว์โหรวเงยหน้าขึ้น ถามเฉินฝานด้วยความอ่อนโยน“เปล่า น้ำหนักกำลังดี”“เช่นนั้น...” ดวงตากลมโตราวกับดวงดาของฉินเย่ว์โหรว อ่อนโยนดุจสายน้ำ “มีอะไรจะรับสั่งหรือเจ้าคะ?”“เปล่า ข้าเพียงอยากถาม เหตุใดเจ้าจึงไม่บ่นขา?”ในยามปกติเขาเพียงซื้อผ้า ซื้อเนื้อมากเกินความเจ็บเป็นเล็กน้อย ฉินเย่ว์โหรวบ่นครึ่งค่อนวัน เหตุใดวันนี้จึงเงียบเช่นนี้ตอนเขาบอกว่าจะขายร้าน นางเพียงมองเขาด้วยสายตาตกใจปราดหนึ่งเท่านั้น แค่เท่านั้นจริงๆ“หากข้าน้อยพร่ำบ่น นายท่านจะไม่ขายร้านและไม่ซื้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 345

    “น่าจะไม่เร็วขนาดนั้น” พูดตามจริง เฉินฝานไม่อยากให้ฉินเย่ว์โหรวตั้งครรภ์เร็วขนาดนี้ นางยังเด็กเกินไป“เพราะเหตุใดเจ้าคะ? สุขภาพร่างกายของน้องสี่ไม่ดีหรือเจ้าคะ? เช่นนั้นข้าจะรีบพานางไปหาหมอ”“ไม่ใช่” เฉินฝานมองสองคนที่กำลังวิ่งไล่กันในลานบ้าน “เย่ว์โหรวยังเด็ก คลอดลูกตอนโตกว่านี้หน่อยจะดีกว่า”“ไม่ได้เจ้าค่ะ ไม่อาจสายกว่านี้แล้ว มิเช่นนั้นคนพวกนั้นก็จะ...”หืม? เฉินฝานขมวดคิ้วเล็กน้อย เหตุใดจึงไม่พูดต่อเฉินฝานเงยหน้าขึ้น สีหน้าโมโหปนน้อยอกน้อยใจของฉินเย่ว์เจียว อยู่ในระดับสายตาของเขาหญิงสาวโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ ทั้งยังน้อยอกน้อยใจ จะมีชายสักกี่คนที่ทนภาพนี้ได้หัวใจของเฉินฝานค่อยๆ เต้นแรง“จะอะไร?” เสียงของเฉินฝานแหบพร่าเล็กน้อย กดเสียงลงต่ำอย่างไม่อาจหักห้ามได้เสียงของเฉินฝานไพเราะเป็นทุนเดิม โดยเฉพาะตอนที่เสียงของเขาทุ้มต่ำเสียงทุ้มต่ำ อ่อนโยนดังก้องในหูของฉินเย่ว์เจียว ทำให้นางอ่อนยวบไปทั้งตัว“คนพวกนั้นบอกว่าพวกข้าแต่งงานกับนายท่านมานานแล้ว ไม่ตั้งครรภ์สักคน ดังนั้นพวกเขา พวกเขาบอกว่านายท่านไม่ได้เรื่องเจ้าค่ะ!“อื้ม ที่เจ้าพูดก็เป็นปัญหาจริงๆ...” เฉินฝานยื่นมือไปโอบเอว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 346

    ราวก้อนหินตกกระทบสร้างคลื่นนับพันคำพูดของเจ้าหน้าที่ว่าการ ทำให้ทุกคนศาลาว่าการตกตะลึง“เจ้าพูดอะไรผิดหรือเปล่า สินค้าของข้าจะขายไม่ออกสักชิ้นได้อย่างไร สินค้าของเขาขายไม่ออกสักชิ้นกระมัง”ใบหน้าของติงลั่วแดงก่ำ โมโหอย่างมากสินค้างานแต่งงานของตระกูลติง เป็นงานฝีมือที่มีความประณีต ทั้งยังสวยงาม ไม่เพียงในอำเภอตูอัน ทั่วทั้งหรงตู ล้วนถือว่ามีชื่อเสียงหลังจากข่าวลือลดราคาเก้าส่วนสิบแพร่สะพัดออกไป ผู้คนมาเข้าแถวตั้งแต่กลางดึก แล้วจะขายไม่ออกสักชิ้นได้อย่างไร“เจ้าหน้าที่ท่านนี้ ท่านกำลังล้อเล่นหรือเปล่า? น่าจะบอกว่าสินค้าตระกูลติงถูกแย่งกันซื้อจนไม่เหลือแม้แต่หนึ่งชิ้นกระมัง?”พ่อค้าอำเภอตูอันคนหนึ่งพูดขึ้น“ถูกต้อง!” เจี่ยงหงเหวินก็พูดเช่นเดียวกัน “ต้องแย่งกันซื้อจนไม่เหลือสักชิ้นอย่างแน่นอน เจ้าหน้าที่ท่านนี้อยากสร้างความสนุก เพียงแต่ เวลาแบบนี้ไม่เหมาะสมเท่าใดนัก”“เจ้าพูดดีๆ!” ลวี่เหลียงเจ๋อถลึงตามองเจ้าหน้าที่ว่าการที่มารายงานด้วยความโมโห“ใต้เท้า เป็นความจริงขอรับ สินค้าขายไม่ได้สักชิ้นจริงๆ ขอรับ!” เสียงของเจ้าหน้าที่ว่าการคนนั้น แปรเปลี่ยนเป็นทั้งเบาและไม่มีความมั่นใจ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 347

    หืม?” เฉินฝานเหลือบมอง พูดด้วยน้ำเสียงเกียจคร้าน “ใช้แผนการชั่วร้าย? ข้าทำอย่างไรหรือ? ข้าหยุดการเปิดร้านของท่าน หรือข้าค้าขายโดยผิดกฎของต้าชิ่ง”“เจ้าไร้คุณธรรม ต่ำช้า!” ติงลั่วโมโหจนหน้าแดงก่ำได้ยินคำพูดของติงลั่ว เฉินฝานหัวเราะ “หากกล่าวถึงไร้คุณธรรมและต่ำช้า ข้าจะเทียบพวกท่านได้อย่างไร พวกท่านอาศัยความมั่งคั่งของอำเภอตูอัน อาศัยที่นายอำเภอเป็นคนโปรดของท่านเจ้าเมือง เจตนาวางแผนชั่ว อยากกลืนกินการค้าขายทั้งหมดของอำเภอผิงอัน”“เสี่ยวฝานพูดถูก!”คนที่ช่วยพูดคือชางเฟยอวี่ แม้เขาจะยังคงดูแคลนเฉินฝาน แต่เขาก็เป็นส่วนหนึ่งของอำเภอผิงอันภายใน พวกเขาสู้กันให้ตายไปข้างหนึ่งได้ภายนอก พวกเขาต้องช่วยกันชางเฟยอวี่พูดต่อ “ไม่ว่าทั้งสองฝ่ายค้าขายสิ่งใด ขอเพียงไม่ทำผิดกฎหมายด้านการค้าขายของต้าชิ่ง เงื่อนไขนี้เฉินฝานไม่ได้เป็นคนเสนอ ใต้เท้าหลูของพวกเราก็ไม่ได้เป็นคนเสนอ แต่ใต้เท้าลวี่ของพวกท่านเป็นคนเสนอ”“อื้ม ขอบคุณคุณชายชางที่ช่วยข้าอ่านกฎ” สายตาของเฉินฝานมองไปทางติงลั่ว “ไม่ทราบว่า หอดับจิตของข้าผิดกฎหมายข้อใดของต้าชิ่ง? แล้วกฎหมายข้อใดระบุว่า ข้าไม่อาจเปิดหอดับจิตที่นั่น?”“เจ้า เจ้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 348

    จางเจิ้งห้าวโต้เถียงเช่นนี้ ตรงตามเจตนาของลวี่เหลียงเจ๋อพอดีขุนนางชั้นผู้น้อยโต้เถียงชั้นผู้ใหญ่ เป็นความผิดร้ายแรง ลวี่เหลียงเจ๋อรายงานไปถึงเจ้าเมืองได้ แล้วค่อยร้องขอให้ลงโทษจางเจิ้งห้าวหากไม่มีจางเจิ้งห้าว หลูเฉิงกวงก็เหมือนเสียแขนขาไปหนึ่งข้างปลัดอำเภอที่ถูกส่งตัวมาอีกครั้ง ย่อมไม่มีทางเป็นพวกพ้องเดียวกับหลูเฉิงกวงแน่นอนเพราะลวี่เหลียงเจ๋อย่อมยื่นมือเข้าไป แม้ไม่ใช่คนของเขา แต่ก็ต้องเป็นคนที่ไม่ชอบหลูเฉิงกวง“ทำไม?” ลวี่เหลียงเจ๋อกระตุ้นจางเจิ้งห้าวอีกครั้ง “คล้ายเจ้าไม่พอใจข้า ได้ เช่นนั้นเราไปคุยกันต่อหน้าเจ้าเมือง ข้าจะได้ไม่ถูกหาว่าใช้อำนาจบาตรใหญ่กดขี่เจ้า”“ข้าน้อยพอใจขอรับ พอใจขอรับ จะไม่พอใจได้อย่างไรขอรับ?” หลูเฉิงกวงจับแขนจางเจิ้งห้าว ยิ้มประจบลวี่เหลียงเจ๋อลวี่เหลียงเจ๋อระดับเดียวกับเขา แต่เขาไม่อาจโต้เถียง หลูเฉิงกวงไม่รู้สึกถูกหยามเกียรติหรือ?แน่นอนว่าความจริงไม่ใช่แบบนี้เป็นการหยามเกียรติ เป็นการหยามเกียรติอย่างร้ายแรงแต่ เขาไม่อาจแสดงออกมา ยิ่งไม่อาจใช้อารมณ์เหมือนจางเจิ้งห้าวลวี่เหลียงเจ๋อรอเขาผิดพลาด“เช่นนั้นสามการแข่งขันชนะสองครั้ง!”“ใต้เท้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 349

    “กลั่นแกล้งกันอย่างเห็นได้ชัด!”“พวกเจ้าไม่ต้องพูดแล้ว แม้จะรู้ว่าพวกเขาตั้งใจรังแกพวกเรา พวกเราก็ทำได้เพียงยอมรับ”“เฮ้อ สุดท้ายแล้วก็เพราะพวกเรายากจนเกินไป”พ่อค้าชาวอำเภอผิงอันส่ายหน้าและถอนหายใจ“ทางเราส่งคนเข้าร่วมการแข่งขันครั้งที่สองแล้ว พี่หลู” ลวี่เหลียงเจ๋อผายมือเชิญ “ถึงคราวของท่านแล้ว”หลูเฉิงกวงหันไปมอง เขาไม่ได้เอ่ยถาม พ่อค้าที่ด้านหลังเปิดเรือนแขก ก้มหน้าต่ำ กลัวว่าหากตนก้มหน้าไม่ต่ำพอ จะถูกหลูเฉิงกวงเลือกไปแข่งขัน“ทุกการแข่งขันมีรางวัล การแข่งขันครั้งที่สองก็เช่นเดียวกัน หากพวกเจ้าชนะ เรือนแขกสำราญสุขจะเป็นของพวกเจ้า! หากพวกเจ้าแพ้ ต้องยอมให้เรือนแขกถงฝูของตระกูลฟางเข้าอำเภอผิงอัน”ฟังถ้อยคำนี้ของลวี่เหลียงเจ๋อ ชาวอำเภอผิงอันทุกคนยิ่งโมโหลวี่เหลียงเจ๋อหน้าไม่อายจริงๆ เรือนแขกสำราญสุขเป็นของอำเภอผิงอันอยู่แล้ว กลับเอามาเดิมพัน แม้พวกเขาแพ้ อำเภอตูอันก็ไม่ขาดทุนคนทั่วไปเพียงโมโหในความไร้ยางอายของลวี่เหลียงเจ๋อ ทว่าพ่อค้าที่ทำธุรกิจเรือนแขกในอำเภอผิงอันกลับถอนหายใจ“เรือนแขกถงฝูเข้ามาเปิดในอำเภอผิงอันเนี่ยนะ? ใต้เท้า ไม่ได้เด็ดขาดขอรับ!”“มีเรือนแขกสำราญสุขร้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 350

    เฉินฝานลุกขึ้นแล้วประสานมือคารวะหลูเฉิงกวงก่อน จากนั้นยิ้มแล้วหันไปพูดกับคนที่หัวเราะเยาะเขา “ขอบคุณคำชมของพี่ๆ ทุกคนขอรับ!”“ขอบคุณ? พวกเราบอกว่าเขาเลี้ยงภรรยาจนมีน้ำมีนวล เขาคิดว่าพวกเราชมเขาจริงๆ เช่นนั้นหรือ”“มองท่าทีทึ่มๆ ของเขา อาจจะคิดแบบนั้นจริงๆ ก็ได้”“หนอนหนังสือจริงๆ”“ใต้เท้า อาหารที่ข้าน้อยทำ ได้รับคำชื่นชมจากภรรยาบ่อยครั้ง และคิดว่าตนทำได้อร่อย ยินดีแข่งขันกับว่าที่พ่อครัวหลวงฟางท่านนี้ขอรับ”เฉินฝานหันไปมองฟางทิง ฟางทิงกลับมองเขาด้วยแววตาเย้ยหยัน สีหน้าของเขาฉายความหงุดหงิดเล็กน้อยหากรู้ว่าอำเภอผิงอันส่งเฉินฝานมา เขาไม่ลงแข่งแน่นอนเฉินฝานไม่คู่ควรให้เขาแข่งขันด้วยได้รับคำชมจากภรรยาบ่อยครั้งเช่นนั้นหรือ? คำชมเพียงไม่กี่คำของสตรีชั้นต่ำเหล่านั้น คิดว่าตนทำอาหารอร่อยเช่นนั้นหรือ?ช่างโง่เขลาจริงๆเมื่อก่อนเขามักจะได้ยินผู้คนบอกว่า หนอนหนังสืออ่านหนังสือมากไป ก็จะคิดไปเองดูเหมือนคำพูดนี้จะเป็นจริง ตอนนี้เฉินฝานทั้งหลงตัวเองและโง่เขลา“เสี่ยวทิง อย่าประมาท เฉินฝานร้ายมาก ข้าได้ยินว่าปลาย่างที่ขายดีที่สุดในเรือนแขกสำราญสุข เฉินฝานเป็นคนทำ”เห็นท่าทีไม่ยี่หร่

Pinakabagong kabanata

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status