Share

บทที่ 321

Penulis: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“ปกป้องนายท่าน!”

หลี่ชางถอยกลับเพื่อป้องกันอย่างเร่งรีบ

กลุ่มทหารที่ยืนล้อมเฉินฝานถอยกลับไปพรวดพราดต่อหน้าเฉินฝาน โดยล้อมรถม้าไว้ข้างในสามชั้นข้างนอกสามชั้น

เฉินฝานมองกลุ่มทหารพวกนั้นแล้วส่ายหัวอีกครั้ง

ทหารแบบนี้ ถ้าลงสนามรบ ยอมจำนนโดยตรงเถอะ

ทักษะไม่ดี จิตสำนึกก็ไม่ดี

สมองของพวกเขาอยู่ในรถม้าคันนั่น แต่กลับล้อมเขาโดยไม่สนใจสิ่งอื่นใด

หากว่า......

ของชิ้นนั้นไม่ใช่หิน แต่เป็นลูกธนูคันหนึ่ง คนในรถม้ายังสามารถมีชีวิตรอดได้?

ปกป้องสมองไม่ได้ ยังคิดไปสู้รบกับผีอะไร!

เฉินฝานทำได้เพียงปลอบใจตนเองเงียบ ๆ ในใจ ทหารที่ต่อสู้จริงๆ ไม่เป็นแบบนี้

“ใคร?”

หลี่ชางมองดูรอบ ๆ มองหาเสียงที่ดังเมื่อครู่นี้

“เป็นไปได้อย่างไร......”

คนบนรถม้าทำหน้าตกใจและรีบเปิดม่านรถม้า

ชายชราสวมชุดสีดำ มีผมสีเงินปรากฏตัวต่อหน้าสายตาทุกคน

“เขาเป็นใคร? ใช่ใต้เท้าเจ้าเมืองหรือไม่?”

ผู้คนมองชายชราด้วยความสงสัย คนส่วนใหญ่ที่นี่เป็นชาวบ้านที่อยู่รอบ ๆ ต่อให้เป็นตระกูลที่ร่ำรวยในอำเภอผิงอันก็มีเพียงไม่กี่ตระกูลเคยพบท่านเจ้าเมือง

“ไม่ได้สวมเครื่องแบบราชการ อาจไม่ใช่ท่านเจ้าเมือง”

วินาทีที่ชายชราเปิดม่านรถม้า
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 322

    “เมื่อดูปฏิกิริยาของบัณฑิตเริ่นที่มีต่ออาจารย์เฉียน ข้ารู้สึกว่าอาจารย์เฉียนก็คือบัณฑิตเฉียน!”“ดังนั้น......นี่เป็นพิสูจน์ทางอ้อมได้ว่าเฉินฝานไม่ได้ขโมยข้อสอบ อาจารย์ของเขาเป็นถึงบัณฑิตเฉียนเลยนะ”“เอ่อ จะพูดแบบนี้ไม่ได้กระมัง ถึงแม้บัณฑิตเฉียนเยี่ยมยอดมาก ก็ไม่สามารถทำให้คนที่เพิ่งเรียนคัมภีร์สามอักษรจบสอบได้คะแนนเต็มนี่”“หรือไม่ นี่คือความเก่งกาจของบัณฑิตล่ะ?”“โอ้แม่ข้า ถ้าเป็นเช่นนี้จริง ข้าจะย้ายไปสถานศึกษาของหมู่บ้านซานเหอทันที”“อย่าเพ้อฝันเลยน่า ข้าได้ยินมาว่า บัณฑิตเฉียนไม่รับนักเรียนง่าย ๆ หรือไม่เจ้าก็ดูสิ ในบรรดานักเรียนของหมู่บ้านซานเหอ หลายปีมานี้เหตุใดถึงมีเพียงเฉียนหย่งเหนียนคนเดียวที่สอบผ่านถงเซิงอย่างยากลำบาก”“แล้วเฉินฝานคนนี้มีอะไร? เมื่อก่อนเขาเป็นแค่อันธพาลไม่มีอนาคต แต่โชคกลับมาตกที่เขาจริง ๆ!”เช่นเดียวกับเหตุการณ์ประกาศรายชื่อในเวลานั้น ปัญญาชนเหล่านั้นแสดงความอิจฉาต่อเฉินฝานอีกครั้งพวกเขาพยายามอย่างหนัก ตั้งใจเรียนนานถึงเพียงนั้น แต่เหตุใดถึงไม่มีความโชคดีเลย?สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย“ข้าว่าพวกเจ้าด่วนสรุปเร็วเกินไป” มีปัญญาชนบางคนเห็นต่าง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 323

    “อะไรนะ?”คำพูดของเฉินฝานเป็นเหมือนระเบิดลูกใหญ่อีกลูก ทุกคนต่างมองเฉินฝานอ้าปากตาค้างการประลองระหว่างถงเซิงผู้หนึ่งกับบัณฑิตผู้มีคุณธรรมดีเด่น มีชื่อเสียงมีผลงานยิ่งใหญ่และเป็นที่นับถือ?“ข้าไม่ได้ฟังผิดใช่หรือไม่ เฉินฝานบอกว่าจะแข่งกับบัณฑิตเริ่น?”“เจ้าไม่ได้ฟังผิด”“ขโมยคำถามไปสองสามข้อและจำคำตอบได้สองสามข้อ ก็คิดว่าตนเองมีความรู้มากมายแล้วรึ?”“ที่แท้อาการเพ้อเจ้อฝันสูง ฝันลม ๆ แล้ง ๆ ก็เป็นโรคชนิดหนึ่ง ดูท่าทางแล้วป่วยหนักไม่เบา ข้าว่าหมอส่วนใหญ่คงส่ายหัวเมื่อเห็นเขา”“ฮ่า ๆ ๆ ไม่อาจรักษาได้แล้ว!”ผู้คนเริ่มจากอาการตื่นตกใจจนถึงหัวเราะเยาะเยาะเย้ยและดูถูกเฉินฝานยิ้มเบา ๆ และทำเหมือนไม่ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะเหล่านั้น เขาสะบัดแขนเสื้ออย่างไม่สนใจ“เอาสุรามา!”“สุราที่ท่านขอ!”คนที่นำโถสุราให้เฉินฝานคือทหารล้อมรอบเขาและต้องการจับเขา“อืม!”จนกระทั่งจางหย่งชุนส่งเสียงให้สัญญาณ ทหารที่ยื่นโถสุราให้เฉินฝานถึงตรงหน้าถึงมีสติอีกครั้งพูดได้เพียงว่า พลานุภาพของเฉินฝานแข็งแกร่งเกินไป คำว่าเอาสุรามาของเขา เสียงตะโกนนั้นยิ่งใหญ่ น่าเกรงขาม ฟังแล้วสามารถยอมจำนนได้อย่างไม่รู้ต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 324

    “ข้าว่าเจ้ายังเหมือนตอนนั้นไม่เปลี่ยน ไม่มีอะไรในสมอง กลัวสู้ไม่ไหว เลยกลับไปใช้กลอุบายเก่า ๆ วิธีสกปรก ๆ แบบนี้อีก”“ข้าจะบอกอะไรเจ้านะ เจ้ามันคือขยะ”เริ่นรุ่ยฟ่านไม่พูด อาจารย์เฉียนก็ด่าไม่หยุดและไม่ไว้หน้าเริ่นรุ่ยฟ่านแม้แต่เล็กน้อย“ศิษย์พี่ ในฐานะผู้พ่ายแพ้ของข้า ถ้าไม่ยอมรับก็ทนเอา!”เริ่นรุ่ยฟ่านแสดงสีหน้าร้ายกาจ “ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่หัวหน้าสำนัก ข้าก็คง……”“คงทำอะไร? เจ้ามันจอมปลอม ไม่เช่นนั้นเจ้าก็แข่งกับนักเรียนของข้าตอนนี้ ถ้าเจ้าไม่แข่ง เจ้าก็คือไอ้งั่ง!”“แปะ ๆ ๆ!”บางคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตรงนั้นรู้สึกชอบใจในคำพูดอันเกรี้ยวโกรธของอาจารย์เฉียนและอดไม่ได้ที่จะปรบมือให้อาจารย์เฉียนหลังจากปรบมือเสร็จก็พบว่าไม่ควรทำเช่นนั้น พวกเขาจึงหยุดทันทีชาวบ้านที่มาร่วมงานเลี้ยง รวมถึงคนที่หลี่ชางกับหลูเฉิงกวงพามาด้วย ทางเข้าหมู่บ้านซานเหอ มีผู้คนเกือบพันคนยืนอยู่ วินาทีนี้ไม่มีแม้แต่เสียงร้องอีกา ทุกอย่างเงียบราวกับไม่มีคนสายตาของทุกคนจับจ้องไปที่เริ่นรุ่ยฟ่านเมื่อมาถึงขั้นนี้ ทุกคนต่างหวังว่าเริ่นรุ่ยฟ่านจะแข่งกับเฉินฝานแน่นอนว่า คนส่วนใหญ่ต้องการเห็นว่าเริ่นรุ่ยฟ่านสั่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 325

    เริ่มแล้ว เริ่มแล้วมีผู้คนนับพันคนในพื้นที่เปิดโล่งตรงทางเข้าหมู่บ้านซานเหอ เงี่ยหูฟังพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายนี่เป็นการแข่งขันระหว่างปัญญาชนทั่วไปกับบัณฑิตครั้งแรกนับตั้งแต่การสถาปนาราชวงศ์ต้าชิ่งผู้คนต่างสงสัยว่าเฉินฝานมีความสามารถแท้จริงหรืออวดดีจากน้ำเมาเวลานี้ พระอาทิตย์ได้ลับขอบฟ้าไปทางทิศตะวันตก ภายใต้การหักเหของแสงตะวัน เห็นฝุ่นที่ฟุ้งกระจายและความสลัวที่ลึกซึ้ง ไม่มีสิ่งไหนไม่ชวนให้นึกถึงสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้นในสนามรบเริ่นรุ่ยฟ่านที่แต่งกายชุดดำ ยืนน้อมรับการประลองท่ามกลางสายลมราวกับท่านนายพลผู้สง่างามเฉินฝานที่อยู่ตรงข้ามเขา พิงโถสุราอย่างสบาย ใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาพร่ามัวจากฤทธิ์สุรา สภาพของเขากล่าวได้ว่าทุลักทุเลไม่เริ่มการแข่งขัน คนส่วนใหญ่มีคำตอบในใจแล้ว“ใช้คำถามของอาจารย์ น่าแข่งขันอย่างไร? ข้าขอเตือนเจ้าไว้ก่อน อย่าคิดถ่วงเวลา!” หลี่ชางอยู่ด้านข้างและกล่าวเสียงโมโห“ไม่มีมารยาท อาจารย์ของเจ้าสอนความรู้แก่เจ้า ให้เจ้ารู้จักท่องแต่จำหนังสือ แต่ไม่สอนเรื่องมารยาทและความละอายใจแก่เจ้ารึ?”ไม่สนใจหรอกว่าเป็นใต้เท้าเจ้าเมืองอะไร เวลาอาจารย์เฉียนเอ่ยปาก เขาไม่เ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 326

    เป็นไปได้อย่างไร นักเรียนในสถานศึกษาของหมู่บ้านยิ่งรู้สึกเหลือเชื่อพวกเขารู้จักเฉินฝานตั้งแต่เด็ก ก่อนเข้าเรียนในสถานศึกษา เขารู้จักตัวอักษรไม่กี่ตัวเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร?หรือว่าอาจารย์เฉียนแอบสอนเขาลับหลังจริง ๆ?เฉินฝานเพิกเฉยต่อความประหลาดใจเหล่านั้นและท่องต่อ “《คัมภีร์จงยง》บทที่35 กล่าวว่า: ผู้ปราศจากกังวล เห็นจะมีแต่เหวินหวาง มีหวางจี้เป็นบิดา มีอู่หวางเป็นโอรส บิดาวางรากฐาน บุตรสานปณิธานอู่หวางสืบตำแหน่งจากไท่หวาง หวางจี้และเหวินหวาง รบพุ่งจนครองใต้ฟ้า มิไดเสียนามกระเดื่องในใต้ฟ้า สูงศักดิ์ถึงขั้นโอรสสวรรค์ มั่งคั่งด้วยมีสี่สมุทร มีศาลบูชา อนุชนเซ่นไหว้ต่อมา……”“......《หนังสือแห่งพิธีกรรม》บทที่221: ว่ากันว่าคนโบราณมารยาทในการเข้าพบ หากเป็นครั้งแรก ควรกล่าว: ‘ข้าหวังจะรายงานชื่อให้ท่านทราบผ่านผู้แนะนำ’ ห้ามเข้าพบเจ้านายโดยข้ามผู้แนะนำ หากเข้าพบผู้มีสถานะเท่าเทียม ควรกล่าว: ‘ข้ามาเข้าพบท่านเป็นการเฉพาะ’ หากเข้าพบผู้ยากจะได้เจอ ควรกล่าว: ‘ข้าหวังจะรายงานชื่อให้ท่านทราบ’ หากเข้าพบผู้พบกันบ่อยครั้ง ควรกล่าว: ‘ขอบคุณที่กล่าวแจ้งบ่อยครั้ง’ คนตาบอดขอเข้าพบ ควรกล่าว: ‘ข้าหวังจ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 327

    เฉินฝานยิ้มแห้งและกล่าวขอบคุณอีกครั้ง “ขอบคุณ เพื่อน”เฉินฝานที่รินเหล้าลงถ้วย ส่ายหัวอย่างรังเกียจอีกครั้งไม่เพียงแต่โถเหล้าที่เล็ก ถ้วยเหล้าก็เล็กไม่น่าแปลกใจเลยที่ดื่มมานานขนาดแล้วแต่ไม่รู้สึกอืดท้องหลังจากดื่มไปอีกหนึ่งถ้วย เฉินฝานรู้สึกสมองแจ่มชัดขึ้นกว่าเดิมถ้อยคำในหนังสือโบราณเหล่านั้น เปรียบเสมือนภาพขยายที่วนเวียนอยู่ในหัวของเขาไม่หยุด“《คัมภีร์อี้จิง》บทที่118: ……”เฉินฝานยังท่องต่อไป ที่สำคัญ ยิ่งเวลาผ่านไปนาน การท่องของเขาก็คล่องและเร็วมากขึ้น“《ความคิดเห็นที่มีต่อหนังสือกระจกส่องการปกครอง》บทที่ 600…...”หลังจากท่องจำหน้าสุดท้ายของหนังสือโบราณทั้งห้าเล่มเสร็จ เฉินฝานก็เปิดเปลือกตาอันหนักอึ้ง และกวาดสายตามองเริ่นรุ่ยฟ่านอย่างเย็นชา“ขโมยคำถาม ขโมยคำถามบ้าอะไร ข้าถูกแม่จับท่องจำบทกวีและหนังสือโบราณตั้งแต่สามขวบ หนังสือที่ข้าจำได้มีมากกว่าอาหารที่เจ้ากิน......”“ปัง!”เฉินฝานล้มลงที่โต๊ะข้างหลัง เปลือกตาที่แทบเปิดไม่ได้ปิดลงอีกครั้ง แต่ปากกลับพึมพำด่าไม่หยุด “ขโมยคำถามบ้าอะไร แม่เจ้านั่นแหละขโมยคำถาม บ้าเอ๊ย......”ปากทางเข้าหมู่บ้านซานเหอ ตกอยู่ในความเงียบที่ย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 328

    “《หนังสือรวมบทกวีพื้นบ้าน》”“ตุบ!” เมื่อได้ยินเฉินฝานพูดชื่อหนังสือเล่มนี้ มือของหลี่ชางก็สั่นอย่างควบคุมไม่ได้ 《หนังสือรวมบทกวีพื้นบ้าน》ในมือพลางตกลงพื้น“ใช่!” เฉินฝานลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วชี้ไปที่หนังสือบนพื้นด้วยร่างที่สั่นเทา “เล่มนี้เนี่ยล่ะ ที่มีชื่อว่า 《หนังสือรวมบทกวีพื้นบ้าน》การสอบระดับอำเภอและระดับมณฑลของปีนี้ไม่มีคำถามจากหนังสือเล่มนี้ บทที่ 77: ……”เช่นเดียวกับเมื่อครู่นี้ เฉินฝานท่องร้อยแก้วโบราณท่อนใหญ่แล้วหยุดชั่วคราวทันทีที่เฉินฝานหยุดชั่วคราว หลี่ชางพบว่ามีดวงตานับไม่ถ้วนหันมาหาเขาร่างกายของหลี่ชางสั่นระริกอย่างควบคุมไม่ได้ คนเหล่านี้ด้วยเขาเช่นนี้ทำไม“ใต้เท้า!” ในที่สุดหลูเฉิงกวงเป็นผู้กล่าวเตือนหลี่ชาง “ทำไมท่านไม่เปิดหนังสือแล้วล่ะ? รีบเปิดเร็ว สิ่งที่เฉินฝานท่องนั้นถูกต้องหรือไม่?”“อ่อ ๆ!” หลี่ชางก้มศีรษะลงโดยสัญชาตญาณและเปิด 《หนังสือรวมบทกวีพื้นบ้าน》ไปยังบทที่ 77“......ถูกต้องทั้งหมด”แม้ว่าเสียงของหลี่ชางไม่ดังมาก แต่ทุกคนได้ยินชัดแจ้ง“บทที่ 91: ......”เฉินฝานท่องจำต่อไป ไม่เพียงแต่ท่องจำ《หนังสือรวมบทกวีพื้นบ้าน》เท่านั้น แต่ยังท่องจำอีกสามเล่มติดต่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 329

    ในสภาพสะลึมสะลือ เฉินฝานพลิกตัวผ้านวมผืนนี้......นุ่มมากและยืดหยุ่นมาก เมื่อโน้มตัวลงไปพิง กลิ่นหอมหวานอันสดชื่นแตะเข้าที่ปลายจมูกคงเป็นกลิ่นจากน้ำยาซักผ้าใหม่มั้งดูเหมือนว่าครั้งนี้เลือกถูกยี่ห้อแล้วเฉินฝานที่คิดว่าอยู่ในยุคปัจจุบัน กอดผ้าห่มไว้ในอ้อมแขนอย่างมีความสุข......แต่ผ้าห่มกลิ่นหอมจริง แต่ทำไมกลับรู้สึกหนาว อุณหภูมิลดลงเหรอ?เฉินฝานถอยห่างตามสัญชาตญาณ แล้วผ้าห่มผืนนั้นก็ตามเขามาและอยู่ใกล้เขาอย่างใกล้ชิด ที่สำคัญดูเหมือนเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ“หืม?”เฉินฝานขมวดคิ้วมุ่น กำลังจะลืมตา จู่ ๆ เสียงอันแผ่วเบาและเขินอายก็ดังขึ้นข้างหู“โอ๊ย พี่สาม! ไม่เอา ดูสิ นายท่านตื่นเพราะพวกเราแล้ว”“ถ้าอย่างนั้นเราต้องเร่งความเร็ว......”“พี่สาม พี่สาม ทำแบบนี้ไม่ดีกระมัง?”“ไม่ดีตรงไหน ปีนี้เจ้าต้องให้นายท่านมี……”เฉินฝานทนไม่ไหวต่อไปจึงลืมตาขึ้นมา......ภาพตรงหน้า ช่างก้าว/ร้าวเสียจริงฉินเย่ว์เจียวพยายามถอดเสื้อผ้าของฉินเย่ว์โหรว จากนั้นผลักฉินเย่ว์โหรวที่เปลือยเปล่าเข้ามาในอ้อมแขนของเขาหลังจากถอดเสื้อผ้าของฉินเย่ว์โหรวหมดแล้ว ฉินเย่ว์เจียวเริ่มถอดเสื้อผ้าของเฉินฝ

Bab terbaru

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status