แชร์

บทที่ 200

ผู้เขียน: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
อยากจะเลียนแบบเฉินเซวี่ยจื่อที่อยู่อำเภอตูอันหรือ? คิดว่าตนเป็นนักเรียนที่เรียนไม่เก่ง แต่ก็สอบผ่านระดับต้นๆ?”

“ตลก เขาคงไม่คิดว่าตนแซ่เฉินแล้ว จะเป็นเหมือนเฉินเซวี่ยจื่อกระมัง”

“เป็นได้แค่ของเลียนแบบที่ทำได้ไม่ดี”

หลังจากสตรีพวกนั้นว่าเฉินฝานเสียๆ หายๆ จบ ก็เริ่มด่าทอฉินเย่ว์เจียวกับฉินเย่ว์ฉู่

“เห็นหญิงไร้ยางอายสองคนนั้นไหม? คนโตแบกธนู ทำตัวเป็นสตรีร้ายกาจ ส่วนคนเล็ก ผอมแห้ง สายตาที่มองคนอื่นดุร้ายยิ่งนัก มองแล้วก็เป็นสตรีร้ายกาจเหมือนกัน ไม่มีภาพลักษณ์ภรรยาของปัญญาชนแม้แต่น้อย”

“ฮ่าๆ คนหนึ่งไม่เอาไหนและขี้โกง อีกสองคนเป็นสตรีร้ายกาจ ผีเน่ากับโลงผุชัดๆ เหมาะสมกันยิ่งนัก!”

ฉินเย่ว์เจียวอายุมากกว่า สำหรับคำดูถูกและเย้ยหยันเหล่านั้น นางยังพอที่จะไม่แสดงออกทางสีหน้า

ฉินเย่ว์ฉู่อายุน้อย ความอดทนต่ำ โมโหจนร้องไห้

หลังจากเฉินฝานบอกลาเฉียนหย่งเหนียน เขาก็เดินไปหาพวกฉินเย่ว์เจียว

“เสี่ยวฉู่ เจ้าเป็นอะไร?”

เฉินฝานที่เดินถึงตรงหน้าสองพี่น้อง มองเพียงปราดหนึ่งก็เห็นฉินเย่ว์ฉู่ที่ขอบตาร้อนผ่าว

“เย่ว์เจียว เจ้ารังแกน้องสาวอีกแล้วหรือ?”

“นายท่าน ข้าเปล่า ข้าขอเอาคันธนูรับประกัน ข้าไม่ได
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
ตระกูลพันธุ์ สุขเถื่อน
เนื้อหาน้อยและสั้นไป ของแต่ละบท ต้องยาวกว่านร้ครับ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 201

    “แต่ข้าไม่สามารถเอาชนะพวกนางเพียงลำพังได้ ข้าไม่ได้เก่งเหมือนพี่สาม”ฉินเย่ว์ฉู่คอตกและท้อแท้เล็กน้อย“ข้าไม่ได้ให้เจ้าสู้ซึ่งหน้ากับพวกเขาสักหน่อย เจ้าสามารถ……”เฉินฝานยกนิ้วขึ้นแล้วหมุนวนอยู่บนศีรษะ “ลองหาวิธีอื่นดู”ฉินเย่ว์ฉู่ชะงักเล็กน้อยจากนั้นก็ยิ้มทันที“ข้าคิดออกแล้ว” นางยกกระโปรงขึ้นแล้ววิ่งออกไปทันที“อย่าทำเกินไปเชียวล่ะ” เฉินฝานเตือนร่างเล็ก ๆ ที่วิ่งอย่างรวดเร็ว“ข้ารู้แล้ว”หลังจากนั้นไม่นาน เฉินฝานก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังขึ้นเป็นพัก ๆและหลังจากนั้นไม่นาน ฉินเย่ว์ฉู่ก็ยกกระโปรงและวิ่งกลับมาพร้อมกับรอยยิ้ม“เจ้าใช้วิธีไหนหรือ ถึงทำให้พวกนางแต่ละคนกรีดร้องอย่างเจ็บปวดเช่นนั้น” เฉินฝานถามผู้หญิงตัวเล็กที่อยู่ข้างเขาอย่างสงสัยใบหน้าเล็ก ๆ ของฉินเย่ว์ฉู่เต็มไปด้วยความสุข “ข้าซ่อนตัวอยู่ในที่ที่พวกนางมองไม่เห็นและขว้างก้อนหินใส่พวกนาง”“พวกนางไม่ได้รับบาดเจ็บใช่หรือไม่?”“นายท่าน เรื่องนี้ท่านไม่ต้องกังวลเลยเจ้าค่ะ!”ฉินเย่ว์ฉู่เอียงศีรษะเล็ก ๆ ของนางแล้วกล่าวอย่างภาคภูมิใจ “เสียวฉู่รู้ดีว่าถ้าทำร้ายพวกนาง พวกนางจะตามหาข้าจนเจอ จากนั้นนายท่านก็ต้องจ่ายค่าชดเชย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 202

    “อืม! หย่งเหนียนเขียนได้ไม่เลว” แม้ว่าอาจารย์เฉียนพยักหน้า แต่เขาไม่ถูกใจเล็กน้อยด้วยความสามารถของเฉียนหย่งเหนียน เขาควรเขียนได้ดีกว่านี้ท่าทางไม่พอใจของอาจารย์เฉียน นักเรียนต่างก็ดูออก แม้ภายนอกไม่แสดงสิ่งใด แต่แอบดีใจอยู่ภายในใจเฉียนหย่งเหนียนที่สอบผ่านระดับถงเซิง มีความสามารถเพียงเท่านี้ เช่นนั้นแล้วพวกเขาก็ไม่มีความกดดันอีก“คนต่อไป!”“ข้า!”สวีจื้อหมิงจากหมู่บ้านหลิงเป็นคนที่สองที่เดินขึ้นไปหาอาจารย์“บทที่หนึ่ง: สุขในดินแดนอันล้ำค่าและเจริญรุ่งเรืองนับพันปี บทที่สอง: พรส่องแสงมาสู่ครอบครัวและทุกสิ่งเจริญรุ่งเรือง แนวขวาง: ต้อนรับปีใหม่อย่างปรีดา”“ไม่เลว ๆ!”อาจารย์เฉียนพยักหน้าอย่างพอใจ “จื้อหมิง ปีนี้เจ้าก้าวหน้ามาก ลายมือก็ดีขึ้นกว่าปีก่อน!”“ขอบคุณครับอาจารย์!”สวีจื้อหมิงเดินกลับที่นั่งของตนเองอย่างมีความสุขปีนี้เขาเขียนได้ดีกว่าเฉียนหย่งเหนียนปีหน้าคงมีความหวังในการสอบระดับถงเซิง“คนต่อไป!”จากนั้นก็เดินขึ้นไปอ่านอีกหลายคนบ้างก็เขียนได้ดี บ้างก็เขียนได้ไม่ดีเท่าไหร่คนที่เขียนดี อาจารย์ชื่นชมคนที่เขียนได้ธรรมดา อาจารย์เฉียนไม่ได้ตำหนิ แต่ให้กำลังใจ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 203

    “ลายมือนั่น......ฮ่า ๆ ๆ ข้าไม่อยากหัวเราะ แต่ข้าอดไม่ได้จริง ๆ”“ข้าอดไม่ได้เช่นกัน เขาฝึกเขียนได้สิบวันแล้วกระมัง เหตุใดถึงยังเขียนได้พอกับหลานสาววัยห้าขวบของข้าเช่นนี้ล่ะ”“อย่าเพิ่งหัวเราะกัน มาดูกันว่าเขาเขียนอะไร”ครั้งนี้ เฉินฝานได้รับการการปฏิบัติคล้ายกับเฉินเจียง เขาไม่ต้องอ่านกลอนคู่ด้วยตนเอง นักเรียนที่อยู่ด้านล่างช่วยเขาอ่าน“บทที่หนึ่ง: หวนคิดถึงอดีต นักเช่าเรือน โสดไร้คู่ ทุกข์ระทม บทที่สอง: มองปัจจุบัน เรือนกระเบื้องหลังใหญ่ ภรรยางามสง่า สุขสมาน แนวขวาง: ข้ามผ่านได้ถูกที่!”“นี่……มันอะไรกัน?”“บทที่สองยังพอเข้าใจได้ว่าเขียนอะไร แต่แนวขวางเขียนว่า ข้ามผ่านได้ถูกที่? ช่างไม่มีความสอดคล้องและไม่มีระเบียบสักนิด บทที่หนึ่งยิ่งประหลาดกว่า นักเช่าเรือน โสดไร้คู่ เขียนสิ่งใดออกมาเนี่ย?”“มองความหมายดูแล้วเหมือนเขียนว่าตนเองเป็นสุนัข?”ทุกคนมองเฉินฝานพร้อมกันเฉินฝานลูบหัวตนเองและฉีกยิ้มอย่างคนซื่อ “สองเดือนก่อน ข้าเป็นคนไร้คู่จริง ๆ”“พรวด!”“ฮ่า ๆ ๆ”“ฮ่า ๆ ๆ”คำพูดของเฉินฝานทำให้คนทั้งห้องหัวเราะลั่น“สุนัข กล้ายอมรับว่าตนเป็นสุนัขจริง ๆ”“ช่างเป็นคนโง่เสียจริง”

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 204

    หรือว่าทายาทผู้สูงศักดิ์ของตระกูลเฉินที่นักพรตวัดซานชิงกวนกล่าวถึง......คือเฉินฝาน!!!หากเป็นเช่นนั้นจริง…...อาจารย์เฉียนพยักหน้าเงียบ ๆสิ่งที่นักพรตวัดซานชิงกวนพูดอาจเป็นเรื่องจริงเขาเป็นอาจารย์มาหลายปี ได้พบผู้คนนับไม่ถ้วนแม้ว่าเฉินเจียงเป็นคนฉลาด การเรียนก็ดี แต่เขาไม่เห็นด้วย หากกล่าวว่าเขาเป็นทายาทผู้สูงศักดิ์ท้ายที่สุดแล้ว ในตัวของเฉินเจียงยังขาดคุณสมบัติบางอย่าง……ในหมู่บ้านเล็ก ๆ บนภูเขา ไม่มีรายการบันเทิง การนินทาจึงกลายเป็นความบันเทิงเพียงอย่างเดียวในหมู่บ้านกลอนคู่ของเฉินฝานแพร่กระจายจากสถานศึกษาออกไปอย่างรวดเร็ว ภายในหนึ่งชั่วโมง ทุกคนในหมู่บ้านก็รู้เรื่องนี้ยกเว้นครอบครัวของผู้ใหญ่บ้านและกลุ่มของเฉียนลิ่วที่ช่วยเฉินฝานจับปลา ส่วนคนอื่น ๆ ต่างหัวเราะเยาะเขาฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์ฉู่ที่รอเฉินฝานอยู่นอกสถานศึกษา กลายเป็นเป้าหมายของการเยาะเย้ยไปด้วยพวกนางถูกภรรยาของนักเรียนเหล่านั้นชี้และเย้ยหยัน“นายท่าน!”เมื่อเฉินฝานเดินออกจากสถานศึกษา ฉินเย่ว์เจียวก็วิ่งเข้าไปและรับตะกร้าไผ่ในมือของเขาระหว่างทางกลับเรือน ฉินเย่ว์เจียวกับฉินเย่ว์ฉู่ไม่พูดสักคำ พ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 205

    “หากกล่าวเช่นนี้ พี่สี่ไม่ได้โกรธนายท่านที่เขียนไปเรื่อยจริง ๆ”“ข้าโกรธทำไม? นายท่านเขียนเช่นนี้ย่อมมีเหตุผลของเขา”“ไม่โกรธจริงนะ? ตามข้อกำหนดของอาจารย์ กลอนคู่บทนั้นต้องติดไว้ที่ประตูเรือนของเรา”“ข้าจะโกรธจริง ๆ ก็เมื่อนายท่านไม่ติดเจ้าค่ะ” ฉินเย่ว์โหรวไม่เพียงแต่เสียงเบา แต่ยังรู้สึกตัวลอยเห็นได้ว่าบทกลอนที่เฉินฝานเขียนทำให้นางมีความสุขมากแม้ว่าฉินเย่ว์โหรวไม่เข้าใจว่า นักเช่าเรือน โสดไร้คู่คือสิ่งใด แต่ตัวอักษรภรรยางามสง่า สุขสมานเหล่านี้ นางเข้าใจ”เฉินฝานแสดงความรู้สึกว่าเขามีความสุขมากที่มีพี่น้องอย่างพวกนาง และนี่เป็นการแสดงความรักของเฉินฝานที่มีต่อพวกนางด้วยเขายืนกรานที่จะติดกลอนนี้ไว้ที่ประตู ก็เพื่อต้องการแสดงความรักของเขาให้ทุกคนได้เห็นนายท่านของตนเองแสดงความรักต่อพวกนางอย่างโอ้อวดเช่นนี้ยังเกือบมีความสุขไม่ทัน แล้วเหตุใดจึงต้องโกรธด้วยเล่า?เฉินฝานที่นั่งอยู่ในห้อง ได้ยินบทสนทนาระหว่างฉินเย่ว์โหรวกับฉินเย่ว์ฉู่เสร็จ หัวอกที่สั่นขวัญแขวนเย็นลงเสียทีนอกจากนี้ยังทำให้เขามองฉินเย่ว์โหรวในมุมมองที่เปลี่ยนไปมีผู้คนอยู่มากมาย แต่มีนางคนเดียวที่เข้าใจกลอนคู่ขอ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 206

    สำนักบัณฑิตหลี่เซียงออกตัวอย่างข้อสอบทุกปี ข้อสอบข้างในมักตรงตามข้อสอบจริงของทุกปี แม้สอบไม่ผ่าน แต่ประเภทคำถามก็ใกล้เคียงกันมากกล่าวได้ว่า ผู้มีตัวอย่างข้อสอบของสำนักบัณฑิตหลี่เซียงนั้นดั่งเสือติดปีก[footnoteRef:1] [1: เสือติดปีก หมายถึง มีอำนาจเก่งกล้าอยู่แล้ว เสริมความสามารถให้มากขึ้น] นักเรียนทั่วทั้งรัชสมัยต้าชิ่งต่างก็แย่งชิงตัวอย่างข้อสอบของสำนักบัณฑิตหลี่เซียง แต่โดยทั่วไปแล้วสำนักบัณฑิตจะมอบให้กับนักเรียนในสำนักบัณฑิตศึกษาของตนเองเท่านั้นในทุก ๆ ปีสถานศึกษารับนักเรียนเพียงยี่สิบคน ที่สำคัญรับเฉพาะผู้มีวาสนาต่อกันเท่านั้นต่อให้มีอำนาจมีกำลัง แต่หากผู้อำนวยการสถานศึกษารู้สึกว่าไร้วาสนาต่อกัน เขาจะปฏิเสธไม่ให้เสียเวลาทันที“ใช่ แต่พี่สาวของเจ้าบอกว่าเป็นสำเนา ไม่ใช่ต้นฉบับ”“สำเนาก็ได้ขอรับท่านพ่อ ให้ท่านพี่รีบส่งกลับมาเถอะ ไม่!” เฉินเจียงส่ายหัวทันที“ท่านพ่อ พรุ่งนี้ให้คนส่งสารบอกพี่สาวว่าข้าต้องการได้รับวันพรุ่งนี้ให้นางกลับมาพรุ่งนี้นะขอรับ”คำพูดของเฉินเจียงไม่ใช่การส่งสาร แต่เป็นคำสั่งตั้งแต่เล็กจนโต เฉินเจียงปฏิบัติต่อพี่สาวของเขาเหมือนคนใช้ที่มาหาเมื่อบอกใ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 207

    ทุก ๆ ปีใหม่ บางครอบครัวมีความสุข บางครอบครัวมีความเศร้าเพราะไม่ใช่ทุกครอบครัวจะได้รับผลเก็บเกี่ยวที่ดีหลังทำงานหนักมาทั้งปีนี่ก็คืออะไร คือเมื่อยังเป็นเด็กทุกคนตั้งตารอเทศกาลปีใหม่มาก แต่เมื่ออายุมากขึ้นกลับยิ่งชอบเทศกาลปีใหม่น้อยลงเท่านั้นเพราะการผ่านพ้นปลายปีเป็นเรื่องยากตั้งเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ไว้ต้นปี ปีใหม่นี้ต้องเก็บเงินได้ให้มากเท่าไหร่ ทำสิ่งสำคัญ/ในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิตให้สำเร็จแต่ทว่าคนส่วนใหญ่ประเมินกำลังของตนสูงเกินไปและประเมินความโหดร้ายของเวลาน้อยไปเวลาจะไม่หยุดเพื่อเจ้าเพียงเพราะเจ้ายากจนไม่ว่าตื่นเช้าหรือกลับดึกแค่ไหน มันจะหมุนดั่งลูกข่าง แต่ชีวิตกลับไม่มีการพัฒนาและยังคงดิ้นรนอย่างทุกข์ยากหลังจากทำงานหนักมาทั้งปี เมื่อมองย้อนกลับไปกลับพบว่าไม่มีสิ่งใดเป็นของตนเองสักอย่างอย่างไรก็ตาม สภาพแวดล้อมของหมู่บ้านซานเหอในปีนี้แตกต่างไปจากปีก่อนมากไม่ใช่บางคนมีความสุขและบางคนโศกเศร้า แต่ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความสุขสมยินดีการมาของเฉินฝาน ทำให้หมู่บ้านซานเหอเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สิบกว่าครอบครัวที่ยากจนที่สุด ล้วนได้รับการช่วยเหลือจนขึ้นมาอยู่ระดับ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 208

    วันที่สองหลังจากสถานศึกษาหยุดสอนหลังจากฝึกคัดลายมือครึ่งค่อนวันจนรู้สึกปวดหลัง เฉินฝานจึงวางพู่กันในมือแล้วเดินออกไปยืดกล้ามเนื้อที่ลานเขามาถึงลานไม่นาน เฉินฝานก็ได้ยินเสียงดังมาจากข้างเรือนคงมีคนส่งของไปที่เรือนของเฉินเจียงดั่งเคยกลอนคู่ของเฉินเจียงได้รับการชื่นชมอย่างสูงจากอาจารย์เฉียนถูกแพร่กระจายไปทั่วหมู่บ้านใกล้เคียงหลายแห่งพร้อมกับกลอนคู่ของเฉินฝานในขณะที่ทุกคนหัวเราะเยาะเฉินฝาน พวกเขาก็ยกย่องเฉินเจียงและเชื่อมั่นว่าเฉินเจียงจะสอบผ่านในอนาคตคนที่มอบของขวัญให้กับเฉินเจียง มีจำนวนมากมายไม่สิ้นสุดเช่นเคย“ท่านป้ากลับมาแล้ว ๆ!”เสียงไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมของหยวนเป่าลูกชายคนโตของเฉินเจียงดังขึ้น และดึงดูดความสนใจของเฉินฝานที่กำลังกลับเข้าห้อง จนต้องหยุดฝีเท้าลงได้อย่างสำเร็จท่านป้า?ท่านป้าของหยวนเป่า ก็เป็นป้าของเขาด้วย?หญิงสาวร่างสูงที่สวมเสื้อผ้าอย่างเรียบร้อยและสง่างามท่าทางใจดี ปรากฏขึ้นในความทรงจำของเฉินฝานในความทรงจำอันเลือนรางผู้หญิงที่เรียกว่าท่านป้าคนนั้น ทุกครั้งที่ปรากฏต่อหน้าเจ้าของร่างเดิม แตกต่างสิ้นเชิงกับเฉินฝู เฉินเจียงและคนอื่น ๆ ที่มีแต่ความรังเก

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status