Share

บทที่ 182

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“พี่หรงน้อย พี่หรงน้อย เจ้ารีบตื่นขึ้นมาสิ!”

“พี่หรงน้อย เจ้าอย่าทำแม่กลัวเช่นนี้สิ?”

“พี่หรงน้อย เจ้าไม่ลืมตาอย่างน้อยหายใจก็ยังดี ขอเพียงเจ้าดีขึ้นต่อให้ข้าต้องอายุสั้นลงสิบปีข้าก็ยอม”

ภายในห้องนางหูและมั่วอวิ๋นอิงร้องไห้เสียงดัง นางยิ่งเจ็บปวดใจ

เฉินฝานเขย่งปลายเท้าชะเง้อมองผ่านหน้าต่างที่เปิดไว้เพียงครึ่งเดียว กระทั่งเห็นเข็มที่หมอถือยู่ในมือ และเห็นหมอคนนั้นปักเข็มลงบนร่างกายของพี่หรงน้อยด้วยความร้อนใจ

ให้ตายเถอะ!

เฉินฝานขมวดคิ้วแน่นอย่างเป็นกังวล

การจมน้ำไม่ใช่อาการป่วย ฝังเข็มแล้วจะรอดอย่างนั้นเหรอ?

“ผู้ใหญ่บ้าน เรารอไม่ได้อีกแล้ว เปิดทางให้ข้าเข้าไปเดี๋ยวนี้ หมอคนนั้นช่วยชีวิตพี่หรงน้อยไม่ได้”

เฉินฝานไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เขาผลักผู้ใหญ่บ้านและพุ่งเข้าไปในบ้าน

“อย่าให้เขาเข้าไป!” ผู้เฒ่าหลี่รีบตะโกนเสียงดัง “ตอนนี้วิญญาณของพี่หรงน้อยยังไม่หลุดออกจากร่าง ขอเพียงแค่เฉินฝานดูดวิญญาณไปไม่ได้ ความโกรธแค้นของปีศาจร้ายก็จะกลับเข้าหาตัวของเขา เรายังช่วยชีวิตของพี่หรงน้อยได้”

“ขวางเขาไว้!”

“ผู้ใหญ่บ้าน ข้าเอง!”

ชายหนุ่มจากตระกูลเฉียนยังไม่ทันล้อมเข้ามา จูต้าอันก็ได้พุ่งตัวไปต
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 183

    “จับเขาไว้!”เฉียนหย่งเหนียนกุมท้องหลังงอวิ่งออกมาอย่างโซซัดโซเซ เขาเป็นนักปราชญ์ที่อ่อนแอมากคนหนึ่ง เฉินฝานถีบเขาแค่ครั้งเดียว เขาเจ็บปวดจนเหงื่อแตกพลั่กมีกลุ่มคนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้ามาขวางเฉินฝาน แต่ก็ยังไม่มีใครขัดขวางเขาได้ กระทั่งไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าเฉินฝานวิ่งฝ่าพวกเขาออกไปได้อย่างไรเขารวดเร็วกว่าที่ใคร ๆ คาดคิดไว้เพียงพริบตาเดียว เฉินฝานก็แบกพี่หรงน้อยวิ่งออกมาจากบ้านของผู้ใหญ่บ้านได้แล้ว โชคดีที่ออกมาเจอกับฉินเย่ว์โหรวและฉินเย่ว์ฉู่ที่ออกมาจากบ้านพอดี “นายท่าน?”“เย่ว์โหรว รีบกลับไปจุดไฟทำให้เตียงให้อุ่นเร็วเข้า”เฉินฝานยังวิ่งไม่หยุด หลังจากสั่งงานแล้ว เขาก็แบกพี่หรงน้อยวิ่งต่อกไปไม่หยุด“อื้อ เจ้าค่ะ!”ฉินเย่ว์โหรวไม่รู้ว่าเฉินฝานจะทำอะไร นางไม่ถาม เพราะนางเชื่อใจเขาช่วงนี้เฉินฝานมักจะทำในสิ่งที่นางเห็นแล้วก็คาดไม่ถึงแต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นล้วนออกมาดีทั้งนั้นเฉินฝานยังคงวิ่งไปตามถนนของหมู่บ้าน เดี๋ยววิ่งเดี๋ยวกระโดด“ไอหยา ๆ!” ผู้เฒ่าหลี่ร้องด้วยความตกใจ “ไม่ได้การล่ะ เขาไม่ได้จะมาดูดวิญญาณ แต่กำลังนำทาง โดยการใช้พี่หรงน้อยนำทางปีศาจร้าย ปีศาจร้ายกำลังจะเข้า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 184

    “อย่านะ! จูต้าอันปล่อยพี่สี่ของข้าเดี๋ยวนี้! ”“จูต้าอัน ข้าขอเตือนเจ้า...อย่าวู่วาม!”ฉินเย่ว์เจียวและเฉียนลิ่วตะโกนพร้อมกัน“พวกเจ้าต้องไปเรียกเฉินฝานให้พาพี่หรงน้อยกลับมาเดี๋ยวนี้!”“ข้าอยู่นี่!”น้ำเสียงทุ้มต่ำแต่แฝงไปด้วยความหนักแน่นดังขึ้นด้านหลังของฉินเย่ว์เจียวและเฉียนลิ่วเฉินฝานยืนห่างจากหลังของฉินเย่ว์เจียวและเฉียนลิ่วไม่ไกล พี่หรงน้อยที่เดิมทีถูกเขาอุ้มพาดบ่าเวลานี้กลับถูกอุ้มอยู่ในอ้อมกอดของเฉินฝานห่างจากหลังของเขาไปห้าสิบกว่าเมตรเป็นกลุ่มชาวบ้านที่ไล่ตามเขาจนเหนื่อยหอบ“จะเอาแบบนี้ใช่ไหม”มีดทำครัวในมือของจูต้าอันจี้คอของฉินเย่ว์โหรวไม่ห่าง “คืนพี่หรงน้อยมาให้ข้า แล้วข้าจะปล่อยฉินเย่ว์โหรว ไม่อย่างนั้น....”มีดในมือของเขาถูกกดลงบนคอของฉิเย่ว์โหรวเล็กน้อย ทำให้เลือดสดซึมออกมาจากคอที่ขาวเนียนของฉินเย่ว์โหรวอีกครั้งหัวคิ้วของฉินเย่ว์โหรวเริ่มขมวดเข้าหากัน นางกำมือและปล่อย ปล่อยและกำอยู่อย่างนั้นนางเจ็บปวดมาก แต่นางกลับอดทนไม่ส่งเสียงร้องออกมา“เร็วสิ!” จูต้าอันตะโกนใส่เฉินฝานแววตาของเฉินฝานฉายแววเคร่งขรึม เขาอุ้มพี่หรงน้อยเดินมาหาจูต้าอันอย่างรวดเร็วเมื่อ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 185

    เขาเป็นทหารที่ผ่านสงครามมาก่อน เหตุการณ์คนโดนระเบิดจนเนื้อกระจายเขาก็เคยเห็นมาแล้ว นับประสาอะไรกับภาพเหตุการณ์ในตอนนี้ในขณะที่เฉินฝานกำลังช่วยผายปอดให้กับพี่หรงน้อยนั้น เสียงกรีดร้องแหลมเล็กของมั่วอวิ๋นอิงก็ดังเข้ามาทางหน้าต่าง“เขา! สวรรค์ อ๊าก.....”มั่วอวิ๋นอิงตื่นตกใจกับภาพตรงหน้า นางกรีดร้องจนเป็นลมไปในที่สุดหลังจากที่มั่วอวิ๋นอิงเป็นลมไปแล้ว คนกลุ่มหนึ่งก็เริ่มเบียดเข้ามาตรงหน้าต่างพวกเขาเห็นภาพเฉินฝานกำลังจูบปากของพี่หรงน้อย และภาพที่เขากำลังใช้มือกดหน้าอกของอีกฝ่าย“ไอหยา น่ารังเกียจจริง ๆ เขาอยากให้พี่หรงน้อยตายเร็วกว่าเดิมสินะ!”“เกิดเรื่องใหญ่แล้ว ๆ” สีหน้าของผู้เฒ่าหลี่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว“ข้ารู้แล้ว เฉินฝานที่พวกเจ้าเห็นในตอนนี้ไม่ใช่เฉินฝานคนเดิม เขาถูกปีศาจร้ายครอบงำ ตอนนี้ปีศาจร้ายกำลังดูดพลังของพี่หรงน้อยอยู่”คำบอกกล่าวของผู้เฒ่าหลี่สร้างความตกใจให้ทุกคนไปชั่วขณะชาวบ้านที่เดิมทีกำลังพังประตูอยู่ก็พากันถอยออกไปอยู่ในลานกว้าง“เจ้าพูดเหลวไหล เขาเป็นนายท่านของพวกเรา ไม่ใช่ปีศาจร้ายอะไรนั้น”พี่น้องตระกูลฉินร้อนใจ“นายท่านของพวกเจ้า เช่นนั้นพวกเจ้าดูสิ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 186

    “ถูกต้องเป็นอย่างยิ่ง!”ฉินเย่ว์เจียวกลัวว่ามั่วอวิ๋นอิงจะไม่เชื่อนาง ยืนยันความมั่นใจอย่างต่อเนื่อง “นายท่านข้าไม่โกหกเจ้าหรอก อีกอย่าง เขาโกหกเจ้าไปจะได้ผลประประโยชน์อะไรกัน? เจ้าคิดดูเถอะ ถ้าเขาทำร้ายพี่หรงน้อยจนตายต่อหน้าผู้คนมากมาย เขาจะไม่กลัวถูกสังเวยชีวิตหรือไร?”ร่างกายที่ขึงตึงของมั่วอวิ๋นอิงผ่อนคลายลงเล็กน้อยฉินเย่ว์เจียวได้ทีขี่แพะไล่ “เมื่อครู่อยู่บ้านท่าน หมอก็บอกว่าไม่มีวิธีรักษาแล้ว ไม่ใช่หรือ? ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เหตุใดไม่ลองให้นายท่านลองทำดู ยังไงก็มีคนมากมายมุงกันอยู่ที่นี้ ครอบครัวข้าอยากหนีก็คงทำไม่ได้”มั่วอวิ๋นอิงมองทางไปเฉียนหย่งเหนียน เฉียนหย่งเหนียนมองไปทางผู้ใหญ่บ้านผู้ใหญ่ไม่ได้พูดอะไร เพราะที่ฉินเย่ว์เจียวพูดสมเหตุสมผล เฉินฝานไม่เหตุมีผลที่ทำแบบนั้นคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย ก็ไม่ได้งมงายขนาดนั้น ปีศาจร้ายที่เกี่ยวข้อง เขาเพียงแค่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง“เหอะ!” ผู้เฒ่าหลี่เยาะเย้ยออกมาเบาๆ “ช่วยคน จะเป็นไปได้อย่างไรกัน ข้าว่าเป็นการถ่วงเวลาเถอะ”จูต้าอันเสริมคำพูดของผู้เฒ่าหลี่ทันทีไม่ง่ายเลยที่จะได้โอกาสนี้มา เฉินฝานจวนจะจบเห่แล้ว เขาจะไม่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 187

    “เจ้าได้ยินหรือไม่?”“เสียงร้องไห้ของเด็ก เจ้าก็ได้ยินเหมือนกันสินะ”“ใช่ เป็นเด็กบ้านไหนถูกทำให้ตกใจกลัวละมั้ง ปีศาจร้ายก็อยู่ที่นี้ ผู้ใหญ่ครอบครัวไหนสะเพร่าแบบนี้กัน ให้ลูกบ้านตัวเองมาที่นี่ ไม่กลัวว่าปีศาจจะจับลูกเขาไปด้วยหรือไร?”“ไม่ใช่ เสียงร้องไห้นี้เหมือนว่ามาจาก...” มีคนชี้ไปในบ้านเฉินฝาน “ดังมาจากในนั้น”“เป็นไปได้อย่างไร ตอนนี้พี่หรงน้อยก็...”“อุแว้!”เสียงร้องไห้ของเด็กเล็กดังขึ้นอีกครั้ง“พี่หรงน้อย!” จากเดิมที่ร่างกายของมั่วอวิ๋นอิงอ่อนระโหยโรยแรง ครู่เดียวก็ยืนตรงตระหง่านขึ้น นางเอนตัวไปด้านหน้าเงี่ยหูฟัง“อ่า เป็นพี่หรงน้อย!” มั่วอวิ๋นอิงพุ่งตัวไปที่หน้าอย่างรุนแรงและรวดเร็วในบ้าน เฉินฝานเพิ่งจะอุ้มพี่หรงน้อยที่ได้สติขึ้นมา“อุแว้ อุแว้ อุแว้!”พี่หรงน้อยร้องไห้ดังกว่าเดิม อุ้งมือน้อยแกว่งไปมาอย่างสะเปะสะปะนี่เป็นปฏิกิริยาหลังจากที่ตกใจกลัว“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรแล้วนะ! พี่จะอุ้มไปหาแม่แท้ๆของเจ้าเอง” เฉินฝานแตะแผ่นหลังเบาๆปลอบโยนเขาไปพลาง เดินไปด้านนอกไปพลางผลคือเขายิ่งเดินออกไปข้างนอก เจ้าตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมอกยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิมตอนแรกเฉินฝานนึกว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 188

    “เมื่อครู่ใครจะพังประตูข้า?”สายตาของเฉินฝานเรียบเฉย น้ำเสียงก็เรียบนิ่ง ทว่าคนในเหตุการณ์ไม่มีใครกล้าตอบสักคน“พี่หรงน้อย!”มั่วอวิ๋นอิงวิ่งไปทางเฉินฝานด้วยความตื่นเต้นดีใจ“พี่สะใภ้!” ฉินเย่ว์เจียวดึงมั่วอวิ๋นอิงกลับมา “จัดการหน้าให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า เจ้าไปหาแบบนี้ ระวังจะทำให้พี่หรงน้อยตกใจ”“โอ้ โอ้!” มั่วอวิ๋นอิงพยักหน้าต่อเนื่อง “เย่ว์เจียวเจ้าพูดถูก พูดถูกเผง”“พี่หรงน้อย!”ผู้ใหญ่บ้าน ภรรยาผู้ใหญ่บ้านนางหู เฉียนหย่งเหนียนวิ่งอย่างสุดกำลังมาด้านหน้าของเฉินฝานตอนที่ระยะห่างไม่ถึงหนึ่งเมตรกลับหยุดฝีเท้าไว้ ไม่กล้ารุดหน้า ไม่อยากจะเชื่อ นี่เป็นเรื่องในจินตนาการของพวกเขา“พี่หรงน้อย” เฉินฝานแกว่งไกวเจ้าตัวน้อยในอ้อมอก เอาร่างกายตัวเล็กตัวน้อยหันไปทางพวกผู้ใหญ่บ้าน “ดูสิใครเอ่ย?”“ยา ยา ย่า.. ”พี่หรงน้อยที่ยังไม่สามารถเชื่อมต่อคำ ปากอมลูกอมเรียกนางหูอย่างไม่ชัดเจน“ฮึก!” นางหูปลื้มปิติอย่างสุดขีดจนน้ำตาไหล “ย่านี่ย่าเอง”“ไหน!” นางหูเดินเข้าไปด้วยตื่นเต้น “ให้ย่าอุ้มหน่อย”พี่หรงน้อยอ้าแขนไปทางนางหู ทว่านางหูเพิ่งจะแตะมือของเขา เขาก็มุดกลับมาในอ้อมอกเฉินฝาน“ลูก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 189

    เมื่อนึกถึงฉากที่เฉินฝานรักษาพี่หรงน้อย สีหน้าของหมอผู้มีอายุก็ยังกระอักกระอ่วนใจ“หมอเหอ!” ผู้ใหญ่บ้านยังไม่วางใจ “หลานชายข้าเขา... ”ดีมาก สภาพชีพจรเต้นปกติ และกำลังวังชาของเด็กเต็มเปี่ยม ยอดเยี่ยม!”“ฟู่ว”ผู้ใหญ่บ้านถอนหายใจยาวออกมามีการยืนยันจากหมอ เขาก็วางใจได้อย่างสมบูรณ์แล้ว“ขอบคุณหมอเหอ รบกวนท่านแล้ว”“นี่! พี่หรงน้อยข้าไม่ได้เป็นคนช่วยเสียหน่อย” หมอเหอโบกมืออย่างต่อเนื่อง เขามองไปทางเฉินฝาน “นี่เป็นความดีความชอบของน้องชายคนนี้เพียงผู้เดียว”“แม่หย่งเหนียน หย่งเหนียน อวิ๋นอิง พวกเจ้ามา”ผู้ใหญ่บ้านพาภรรยา ลูกชายลูกสะใภ้มาด้านหน้าเฉินฝาน ไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว เสียงดังตึ้ง คุกเข่าต่อหน้าเฉินฝานทันที“ไม่ได้ ผู้ใหญ่บ้านท่านเป็นผู้อาวุโสของข้า พี่หย่งเหนียนก็อายุเยอะกว่า พวกท่านลุกขึ้นเถอะ” เฉินฝานรีบโน้มตัวไปพยุงผู้ใหญ่บ้านราวกับว่าผู้ใหญ่บ้านเตรียมตัวไว้ก่อนแล้ว ตอนที่เฉินฝานพยุงเขา เขาออกแรงไม่ให้เฉินฝานพยุงเขาลุกขึ้น“เสี่ยวฝาน!”ผู้ใหญ่บ้านสีหน้าจริงจัง “ตอนนี้ต่อหน้าเจ้า ไม่มีผู้อาวุโสพีชายอะไรทั้งนั้น เจ้าเป็นผู้มีพระคุณกับครอบครัวพวกข้า ได้โปรดรับการทำค

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 190

    “ผู้ใหญ่บ้าน!”เมื่อฟังถึงตรงนี้ จูต้าอันกระสับกระส่าย “ข้าไม่ได้สร้างความเท็จ ความเท็จเป็นผู้เฒ่าหลี่ทั้งหมด ข้าแค่ถูกเขาต้มตุ๋น!”“ถูกเขาต้มตุ๋น?” สายตาของผู้ใหญ่แผ่รังสีจ้องเขม็งไปที่จูต้าอัน “เกรงว่าเจ้าอยากใช้โอกาสนี้กำจัดเฉินฝานล่ะสิ!”“ข้าเปล่า ข้าเปล่า”“เจ้าทำ ความโกรธแค้นที่มีต่อเฉินฝานมันอยู่ในใจเจ้า อยากจะแก้แค้นมานานแล้ว”“ใช่ เมื่อครู่เรื่องมันจะสงบลงตั้งหลายครั้งแล้ว เขาอาศัยจังหวะทันที”ชาวบ้านทยอยกันออกมาเป็นพยาน“น้องฝาน” คนมาอยู่ด้านหน้าเฉินฝานนามว่าจูฉวนอัน เขาเป็นลูกพี่ของจูต้าอัน “เมื่อครู่ลูกพี่ลูกน้องข้าถูกหลอกลวง พลอยกระแทกประตูกับเขาไปด้วยขออภัยอย่างยิ่ง!”“น้องฝาน น้องฝาน!”เฉินฝานไม่ได้พูดอะไร จูต้าอันคลานไปที่ด้านหน้าเขา เกาะแกะกับเท้าของเขา “ข้าโดนผู้เฒ่าหลี่หลอกลวง พลั้งพลาดไปครั้งหนึ่งน้องฝาน ได้โปรดให้อภัยข้าเถอะ”จูต้าอันไม่ได้มีความสามารถอะไร ทว่าเขารู้กฎหมู่บ้านดีเรื่องวันนี้ ตามกฎหมู่บ้านอย่างเบาที่สุดคือเขาจะถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้านซานเหอเฉินฝานมองจูต้าอันที่เกาะแกะอยู่ตรงเท้าเขาอย่างเยือกเย็น ยกเท้าขึ้น“ไสหัวไป!”เขาก็ไม่ได้เป็น

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1022

    ลักพาตัวอ๋องแคว้นจ้าวต่อหน้าต่อตาองครักษ์หนึ่งหมื่นกว่าคน และยังสามารถทำให้เขายอมถอยทัพแต่โดยดี จะต้องมิใช่การประเมินศัตรูต่ำไปเพียงอย่างเดียวแน่นอนใต้เท้าด้านนอกผู้นั้นจะต้องมีวรยุทธ์และสติปัญญาเหนือมนุษย์เป็นแน่ได้ยินว่า เขามีสิ่งของที่เป็นเหล็กปลายแหลมสามารถโจมตีได้ น่าหวาดกลัวอย่างมาก สามารถต่อกรกับศัตรูจำนวนมหาศาลได้ด้วยตัวคนเดียวดังนั้น เฉินฝานต้องมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมจึงมาเยือนต่อให้มิมีความมั่นใจว่าจะชนะได้ ทว่าพวกเขาก็ต้องมั่นใจว่าตนเองจะสามารถถอยกลับได้อย่างปลอดภัยแน่นอนหากล่าถอยไปแล้วกลับมาอีกครั้ง คงจะมิได้มีเพียงสองคน แต่เป็นกองกำลังจำนวนมหาศาลพื้นที่ธารน้ำอันคับแคบจะสามารถต่อต้านกองกำลังมหาศาลได้อย่างไร?“เสี่ยวฝาน เจ้าดูสิ!”อ๋องตวนตะโกนด้วยความตื่นตกใจทันที เขาชี้ไปร่างเงาตรงโพรงหญ้า “โจรป่าเหล่านั้นออกมาแล้ว และยังมาจำนวนมหาศาลอีกด้วย ตอนนี้น่าจะประมาณหนึ่งพันคน”“ฮี่ ๆ ๆ!”อ๋องตวนฉีกยิ้ม มองเฉินฝานด้วยความนับถือ“เสี่ยวฝาน เจ้าคาดการณ์ได้ดั่งเทพ เจ้าบอกว่าขอแค่พวกเราสองคนมา โจรป่าจะต้องออกมาแน่นอน”“มิใช่ว่าข้าคาดการณ์ได้ดั่งเทพ นี่คือจิตวิทยา” เฉิน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1021

    ผู้ที่เสนอตัวขอออกรบก่อนคือ หัวหน้าสามกั้วเจียงหลงชื่อที่โหดเหี้ยมปานนี้ มิใช่เพราะเขาเก่งกาจแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะตอนยังเด็กเขาซุกซนจนถูกแม่ไล่ตี ตอนที่หน้าสิ่วหน้าขวาน จึงกระโดดลงแม่น้ำว่ายไปฝั่งตรงข้ามเพื่อหนีแม่ของตนเองจึงเป็นที่มาของชื่อกั้วเจียงหลง“ออกไปรบงั้นรึ? กำจัดพวกเขาให้สิ้นซากรึ?” หัวหน้าใหญ่เหอหรันถีบกั้วเจียงหลงด้วยความโมโหทันที “เจ้าเก่งกว่ากองกำลังรักษาพระองค์แคว้นจ้าวรึ?”“หัวหน้าใหญ่ ข้าคิดว่าเจ้าระแวงเกินไป หัวหน้าสามพูดถูก ควรจะออกไปสู้!”เสียงเคร่งขรึมดูมีอายุดังขึ้น ชายชราผมหงอกทั้งหัวเดินเข้ามาจากด้านนอก“ท่านอาจารย์!”เมื่อเห็นชายชราผู้นั้น เหอหรันรีบทำมือเคารพอย่างลนลาน คนอื่นก็พากันทำตามเมื่อชายชราเห็นด้วย กั้วเจียงหลงจึงเงยหน้าทันที “หัวหน้าใหญ่ ท่านอาจารย์ยังคิดว่าท่านระแวงเกินไป พวกเรามิได้เป็นแบบกองกำลังรักษาพระองค์แคว้นจ้าวเสียหน่อย”กั้วเจียงหลงพูดจบ ชายชรารีบพูดต่อทันที “หัวหน้าใหญ่ หัวหน้าสามพูดถูกแล้ว พวกเรามิใช่กองกำลังรักษาพระองค์แคว้นจ้าว สาเหตุที่พวกเขาพ่ายแพ้เพราะประเมินศัตรูต่ำและอวดดีเกินไป ตอนนี้ผู้ที่อวดดีและประเมินศัตรูต่ำ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1020

    “ท่านอัครเสนาบดีกับท่านอ๋องออกจากเมืองไปแล้ว พวกเขาไม่ได้กลับเมืองหลวง แต่ว่ามุ่งหน้าไปยังพื้นที่ต้าเฮยแล้วขอรับ!”พื้นที่ต้าเฮยก็คือรังของพวกโจร“เช่นนั้นพวกเราก็รีบตามไป ท่านอัครเสนาบดีกับท่านอ๋องให้หลี่ฉวินไปด้วยหรือไม่”หลี่ฉวินเป็นนายกองพิทักษ์เมืองเฟิ่งหวง เป็นแม่ทัพของกองทัพพิทักษ์เมืองเฟิ่งหวงเมืองเฟิ่งหวงเป็นเพียงเมืองป้อมปราการภายใต้เมืองเหอตู ไม่ควรมีนายกอง แต่เนื่องจากเมืองเฟิ่งหวงอยู่ติดชายแดน ดังนั้นจึงมีกองทัพพิทักษ์เมือง มีนายกองเช่นกันเพียงแต่ว่าต้าชิ่งขาดแคลนชายฉกรรจ์ เมืองป้อมปราการติดชายแดนที่ยากจนข้นแค้นอย่างเมืองเฟิ่งหวงยิ่งมีชายฉกรรจ์น้อยลงไปอีก กอปรกับก่อนหน้านี้ต่อสู้ต้านทานกองทหารของแคว้นจ้าว ตอนนี้กำลังพลในมือหลี่ฉวินจึงมีไม่ถึงสามร้อยนายเหอจื้อเฟยวิ่งกลับไปที่ห้องหยิบรองเท้าของตนขึ้นมา สวมพลางเดินออกไป “พวกเราก็รีบตามไปด้วย!” “ใต้เท้า!” เวลานี้เองหลี่ฉวินก็มาถึงแล้วเช่นกัน“หลี่ฉวิน?” เหอจื้อเฟยมองหลี่ฉวินด้วยความประหลาดใจ “เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? ตอนนี้เจ้าควรไปที่พื้นที่ต้าเฮยกับท่านอัครเสนาบดีมิใช่หรือ?”“ใต้เท้า ท่านอัครเสนาบดีกับท่านอ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1019

    สิ่งปลูกสร้างที่ดีที่สุดในเมืองกลับเป็นราชนิเวศน์ที่ฮ่องเต้จ้าวพำนักก่อนหน้านี้ ราชนิเวศน์นั้นยังเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาหลังจากที่แคว้นจ้าวยึดครองเมืองเฟิ่งหวงอีกด้วยก่อนหน้านี้เฉินฝานรู้สึกว่าการได้เป็นอัครเสนาบดีเบื้องซ้ายนั้นเก่งกาจมากแล้ว มีอำนาจล้นฟ้า แม้แต่เสิ่นหมิงหยวนก็ไม่อาจแตะต้องเขาได้ตามใจชอบตอนนี้เขาถึงค่อยรู้สึกว่ายิ่งมีอำนาจบนตัวมาก ภาระบนบ่าก็ยิ่งหนักมากต้าชิ่งยังคงยากจนข้นแค้นมากเมื่อเห็นเฉินฝานอารมณ์หดหู่มากถึงเพียงนั้น อ๋องตวนก็ไม่กล้าลากเขาไปดื่มเหล้าทายตัวเลขแล้ว เขาอยู่ทางด้านข้าง แม้แต่เสียงดื่มเหล้าก็ยังเบามาก“เฮ้อ นี่มันปัญหาใหญ่จริง ๆ!”อ๋องตวนที่ดื่มจนเมากรึ่มแล้ววางไหเหล้าลงข้าง ๆ พิงกำแพงเมืองอย่างเอียงเอน“เสี่ยวฝาน เจ้าคิดว่าโจรพวกนี้ยังควรจะปราบหรือไม่?”“โจรย่อมต้องถูกปราบอยู่แล้ว!” เฉินฝานเอ่ยอย่างหนักแน่น“แล้วบุตรชายของเหอจื้อเฟยจะจัดการอย่างไร? เขาถูกเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้เป็นหัวหน้าโจรที่ดื้อรั้นเสียแล้ว”“เหอจื้อเฟยฆ่าบุตรชายกับมือไปแล้วหนึ่งคน หากสังหารอีกคน ดูเหมือนว่า...”อ๋องตวนยกไหเหล้าจากทางด้านข้างขึ้นมากรอกอีกคำแล้วค่อ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1018

    ใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าเหอเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความสิ้นหวัง“ความเมตตาของสวรรค์ก็ไม่อาจทนต่อความโหดร้ายในโลกนี้ได้ ตอนที่ลูกชายของข้าออกไปปราบโจรครั้งที่ห้า โจรพวกนั้นฉวยโอกาสบุกเข้ามาในเมือง และเอาหลานชายฝาแฝดที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่นานของข้า...”เมื่อพูดถึงตรงนี้ ฮูหยินผู้เฒ่าเหอก็สะอื้นไม่หยุด ริมฝีปากอ้าอยู่หลายครั้งแต่ก็พูดไม่ออก“หลานชายฝาแฝดของเจ้าถูกโจรพวกนั้นฆ่าไปแล้วหรือ?”อ๋องตวนถามขึ้น ความจริงไม่ต้องให้ฮูหยินผู้เฒ่าตอบ อ๋องตวนก็นึกคำตอบได้แล้ว เขากำหมัดแน่นจนข้อนิ้วส่งเสียงดังกร๊อบ“เจ้าวางใจเถิด ข้าจะต้องสังหารหัวหน้าโจรเหล่านั้นให้หมดอย่างแน่นอน!”“ท่านอ๋อง!”ฮูหยินผู้เฒ่าเหอคุกเข่าลงอีกครั้ง “ทหารแคว้นจ้าวถูกขับไล่ไปแล้ว ขอร้องท่านกลับไปยังเมืองหลวงเสียเถิด”“หญิงชราผู้นี้เป็นอะไรไป?” อ๋องตวนโกรธจัดจนเต้นเร่า ๆ แล้ว“พวกเจ้าบอกว่าโจรส่วนมากล้วนเป็นลูกชายของชาวบ้านเหล่านี้ ข้าจะไม่ฆ่าโจรทั่วไป จะฆ่าแค่หัวหน้าของพวกมันก็ไม่ได้หรือ?”“ท่านอ๋อง!” เฉินฝานดึงอ๋องตวนไว้"ผู้อาวุโส" เฉินฝานก้มตัวประคองนางเหอให้ลุกขึ้นมา“โจรให้หลานชายฝาแฝดของพวกท่านเป็นหัวหน้าแล้วใช่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1017

    “พวกสตรีชั่วช้าอยากจะฆ่าอัครเสนาบดีก็เหมือนก่อกบฏอย่างไม่ต้องสงสัย เจ้ายังจะขอร้องแทนพวกนางอีกหรือ?”อ๋องตวนเตะเหอจื้อเฟยด้วยความเดือดดาลเหอจื้อเฟยคลานขึ้นมาคุกเข่าต่อหน้าเฉินฝานต่อเพื่อขอร้องแทนสตรีเหล่านั้น “พวกนางก็ไม่มีทางเลือกเช่นกัน ลูกชายของพวกนางล้วนอยู่ในกำมือของโจรพวกนั้น หลายคนถูกจับตัวไปตั้งแต่ที่ยังเด็กมาก ๆ พวกเขากลายเป็นโจรก็เพราะถูกบีบบังคับ”“เพราะว่าหากพวกเขาไม่ยอมเข้าร่วมฝึกฝนกลายเป็นโจร หัวหน้าโจรเหล่านั้นก็จะสังหารมารดาของพวกเขาแทน”เหอจื้อเฟยเอ่ยคำพูดสองประโยคนี้ก็มีเสียงร้องไห้ดังขึ้นทั่วบริเวณแม้ว่าเฉินฝานจะคาดเดาคำตอบได้แล้ว แต่เมื่อได้ยินเองกับหูถึงสิ่งที่เหอจื้อเฟยพูดออกมา เขาก็ยังรู้สึกสะเทือนใจมาก แม่กลัวลูกต้องตาย จึงห้ามไม่ให้ทางการส่งทหารออกไปปราบโจรลูกกลัวแม่ต้องตาย จึงฝึกฝนสุดชีวิตเพื่อเป็นโจรที่มีคุณสมบัติเหมาะสมต้องยอมรับว่าหัวหน้าโจรพวกนั้นเฉลียวฉลาดมาก“นั่นเป็นเพราะเจ้าบกพร่องต่อหน้าที่!” อ๋องตวนเตะเหอจื้อเฟยอีกครั้ง “หากเจ้าส่งคนไปกำจัดโจรพวกนี้ตั้งแต่แรก จะมีผลที่ตามมาเยอะถึงเพียงนี้หรือ?”ทันทีที่อ๋องตวนพูดจบก็มีสตรีผู้หนึ่งออก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1016

    “เมื่อครู่ข้าได้ยินชัดเจนว่าเจ้าแค่สั่งให้เหอจื้อเฟยไปปราบโจรเท่านั้น เหตุใดถึงไปทำร้ายลูกของพวกเขา...”อ๋องตวนพลันหยุดชะงัก“โจร?!” อ๋องตวนร้องอุทานขึ้นมา “หรือว่าโจรพวกนั้นก็คือลูกชายของพวกนาง?”“ข้าคิดว่ามีความเป็นไปได้แปดเก้าส่วน” เฉินฝานพยักหน้าเช่นกัน“พวกเขาไม่ใช่โจรร้าย ขุนนางใหญ่สูงส่งอย่างพวกท่านจะไปเข้าใจอะไร?” บทสนทนาระหว่างอ๋องตวนกับเฉินฝานทำให้สตรีเหล่านั้นอารมณ์ร้อนมาก แต่ละคนเหมือนกับไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วก็ไม่ปาน ผลักดันเบียดเสียดกันห้อมล้อมนักการในศาลาว่าการข้างกายเฉินฝานกับอ๋องตวนไว้ เมื่อเห็นว่าผลักไม่ได้แล้ว ก็ใช้มีดหั่นผักในมือฟันใส่ทันที“เพล้ง!”อ๋องตวนโยนไหเหล้าในมือลงกับพื้น“พวกสตรีชั่วช้า พอพยัคฆ์ไม่แสดงบารมี พวกเจ้าก็เห็นว่าเป็นแมวป่วยใช่หรือไม่?” พวกนางคิดว่าข้าเป็นแมวป่วยหรืออย่างไร? ถ้าเสือไม่คำราม พวกเจ้าไม่เห็นรัศมีหรืออย่างไร?”อ๋องตวนก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เตะสตรีหลายคนจนกระเด็นไปทันทีอย่างไรก็ตามแม้สตรีหลายคนจะถูกถีบกระเด็น แต่ก็ไม่เกิดผลให้หวาดกลัวใด ๆ เลย สตรีเหล่านั้นกลับฮึกเหิมมากยิ่งขึ้น ปากตะโกนว่าจะให้พวกเฉินฝานตายไปพร้อมกั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1015

    หญิงชราวัยประมาณหกสิบปีผู้หนึ่งขวางหน้าเหอจื้อเฟยไว้“ท่านแม่ ลูกต้องไปทำงาน ท่านอย่าขัดขวางลูกเลย” เหอจื้อเฟยเอ่ยด้วยความเจ็บปวดใจคนที่ยืนขวางเหอจื้อเฟยไม่ให้เหอจื้อเฟยไปทำร้ายโจร ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นมารดาของเขาเองนางเหอเหลือบมองดาบในมือของเหอจื้อเฟยแล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “งานของเจ้าอยู่ในที่ว่าการไม่ใช่หรือ? เจ้าเป็นขุนนาง ไม่อยู่ในที่ว่าการ ถือดาบวิ่งออกมา นี่จะไปทำสิ่งใด? เจ้าเป็นเพชฌฆาตหรือไร? เจ้าเป็นคนฆ่าสัตว์หรือไร?”“ท่านแม่ ลูกมีงานราชการเร่งด่วนจริง ๆ ใครก็ได้!”เหอจื้อเฟยพูดพลางหันหน้าไปสั่งนักการในศาลาว่าการที่อยู่ข้างหลังเสียงดัง “พาฮูหยินผู้เฒ่ากลับจวน!” “ใครกล้าแตะต้องข้า!”นางเหอหยิบกรรไกรออกมาทันที แล้วชี้ไปยังนักการในศาลาว่าการที่เดินมาหานางหลังจากที่นักการในศาลาว่าการหยุดเดินไม่กล้าเดินข้างหน้า นางเหอก็ใช้กรรไกรจ่อคอตัวเองทันที“เหอจื้อเฟย เจ้าอย่าคิดว่าแม่แก่แล้วหูตาฟ้าฟาง ไม่รู้ว่าเจ้าจะไปที่ใด หากเจ้าไปสังหารโจรก็สังหารแม่ก่อน หลังจากนั้นค่อยข้ามศพของแม่ไป”“ท่านแม่ นี่ท่านทำอะไร?” ใบหน้าของเหอจื้อเฟยเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและอับจนปัญญาอ๋องตวนถ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1014

    โจรเข้ามาในเมืองกันหมดแล้ว แต่เหอจื้อเฟยกลับทำเป็นไม่มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นเมื่อครู่สตรีวัยกลางคนยังบอกว่าเหอจื้อเฟยเป็นขุนนางที่ดี หรือว่าจะไม่กล้าพูดความจริงเฉินฝานบอกลาครอบครัวของสตรีวัยกลางคน แล้วรีบรุดไปยังที่ว่าการเมืองเฟิ่งหวงด้านนอกศาลาว่าการ เฉินฝานยังจงใจมองรอบหนึ่ง มีชายหลายคนเดินป้วนเปี้ยนอยู่ด้านนอกศาลาว่าการจริง ๆ ดวงตาชำเลืองมองศาลาว่าการของเมืองเฟิ่งหวงเป็นครั้งคราวสายตาของชายเหล่านั้นดูอำมหิตดุดัน มองแวบเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาพวกเขาน่าจะเป็นโจรที่สตรีวัยกลางคนพูดถึงโจรป่าคอยนั่งเฝ้าอยู่หน้าประตูที่ว่าการช่างอุกอาจนัก!เฉินฝานสาวเท้ายาว ๆ เข้าไปในที่ว่าการ“ท่านอัครเสนาบดีฝ่ายซ้าย!”เมื่อเห็นเฉินฝาน เหอจื้อเฟยก็วิ่งเข้ามาหาทันทีเฉินฝานเองก็ก้าวเท้ายาว ๆ เดินเข้าไปหาเช่นกัน เมื่ออยู่ห่างจากเหอจื้อเฟยไม่ถึงห้าเมตร...“เคร้ง!”เฉินฝานชักดาบคู่กายของนักการในศาลาว่าการคนหนึ่งออกมาอย่างฉับไว“ตะ ใต้...”ขณะที่นักการในศาลาว่าการพูดติดอ่าง เฉินฟานก็ถือดาบชี้ไปที่เหอจื้อเฟยแล้วเหอจื้อเฟยมองเฉินฟานอย่างตกตะลึง สุดท้ายก็คุกเข่าลงอย่างเงียบงัน

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status