แชร์

บทที่ 184

ผู้แต่ง: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“อย่านะ! จูต้าอันปล่อยพี่สี่ของข้าเดี๋ยวนี้! ”

“จูต้าอัน ข้าขอเตือนเจ้า...อย่าวู่วาม!”

ฉินเย่ว์เจียวและเฉียนลิ่วตะโกนพร้อมกัน

“พวกเจ้าต้องไปเรียกเฉินฝานให้พาพี่หรงน้อยกลับมาเดี๋ยวนี้!”

“ข้าอยู่นี่!”

น้ำเสียงทุ้มต่ำแต่แฝงไปด้วยความหนักแน่นดังขึ้นด้านหลังของฉินเย่ว์เจียวและเฉียนลิ่ว

เฉินฝานยืนห่างจากหลังของฉินเย่ว์เจียวและเฉียนลิ่วไม่ไกล พี่หรงน้อยที่เดิมทีถูกเขาอุ้มพาดบ่าเวลานี้กลับถูกอุ้มอยู่ในอ้อมกอดของเฉินฝาน

ห่างจากหลังของเขาไปห้าสิบกว่าเมตรเป็นกลุ่มชาวบ้านที่ไล่ตามเขาจนเหนื่อยหอบ

“จะเอาแบบนี้ใช่ไหม”

มีดทำครัวในมือของจูต้าอันจี้คอของฉินเย่ว์โหรวไม่ห่าง “คืนพี่หรงน้อยมาให้ข้า แล้วข้าจะปล่อยฉินเย่ว์โหรว ไม่อย่างนั้น....”

มีดในมือของเขาถูกกดลงบนคอของฉิเย่ว์โหรวเล็กน้อย ทำให้เลือดสดซึมออกมาจากคอที่ขาวเนียนของฉินเย่ว์โหรวอีกครั้ง

หัวคิ้วของฉินเย่ว์โหรวเริ่มขมวดเข้าหากัน นางกำมือและปล่อย ปล่อยและกำอยู่อย่างนั้น

นางเจ็บปวดมาก แต่นางกลับอดทนไม่ส่งเสียงร้องออกมา

“เร็วสิ!” จูต้าอันตะโกนใส่เฉินฝาน

แววตาของเฉินฝานฉายแววเคร่งขรึม เขาอุ้มพี่หรงน้อยเดินมาหาจูต้าอันอย่างรวดเร็ว

เมื่อ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 185

    เขาเป็นทหารที่ผ่านสงครามมาก่อน เหตุการณ์คนโดนระเบิดจนเนื้อกระจายเขาก็เคยเห็นมาแล้ว นับประสาอะไรกับภาพเหตุการณ์ในตอนนี้ในขณะที่เฉินฝานกำลังช่วยผายปอดให้กับพี่หรงน้อยนั้น เสียงกรีดร้องแหลมเล็กของมั่วอวิ๋นอิงก็ดังเข้ามาทางหน้าต่าง“เขา! สวรรค์ อ๊าก.....”มั่วอวิ๋นอิงตื่นตกใจกับภาพตรงหน้า นางกรีดร้องจนเป็นลมไปในที่สุดหลังจากที่มั่วอวิ๋นอิงเป็นลมไปแล้ว คนกลุ่มหนึ่งก็เริ่มเบียดเข้ามาตรงหน้าต่างพวกเขาเห็นภาพเฉินฝานกำลังจูบปากของพี่หรงน้อย และภาพที่เขากำลังใช้มือกดหน้าอกของอีกฝ่าย“ไอหยา น่ารังเกียจจริง ๆ เขาอยากให้พี่หรงน้อยตายเร็วกว่าเดิมสินะ!”“เกิดเรื่องใหญ่แล้ว ๆ” สีหน้าของผู้เฒ่าหลี่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว“ข้ารู้แล้ว เฉินฝานที่พวกเจ้าเห็นในตอนนี้ไม่ใช่เฉินฝานคนเดิม เขาถูกปีศาจร้ายครอบงำ ตอนนี้ปีศาจร้ายกำลังดูดพลังของพี่หรงน้อยอยู่”คำบอกกล่าวของผู้เฒ่าหลี่สร้างความตกใจให้ทุกคนไปชั่วขณะชาวบ้านที่เดิมทีกำลังพังประตูอยู่ก็พากันถอยออกไปอยู่ในลานกว้าง“เจ้าพูดเหลวไหล เขาเป็นนายท่านของพวกเรา ไม่ใช่ปีศาจร้ายอะไรนั้น”พี่น้องตระกูลฉินร้อนใจ“นายท่านของพวกเจ้า เช่นนั้นพวกเจ้าดูสิ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 186

    “ถูกต้องเป็นอย่างยิ่ง!”ฉินเย่ว์เจียวกลัวว่ามั่วอวิ๋นอิงจะไม่เชื่อนาง ยืนยันความมั่นใจอย่างต่อเนื่อง “นายท่านข้าไม่โกหกเจ้าหรอก อีกอย่าง เขาโกหกเจ้าไปจะได้ผลประประโยชน์อะไรกัน? เจ้าคิดดูเถอะ ถ้าเขาทำร้ายพี่หรงน้อยจนตายต่อหน้าผู้คนมากมาย เขาจะไม่กลัวถูกสังเวยชีวิตหรือไร?”ร่างกายที่ขึงตึงของมั่วอวิ๋นอิงผ่อนคลายลงเล็กน้อยฉินเย่ว์เจียวได้ทีขี่แพะไล่ “เมื่อครู่อยู่บ้านท่าน หมอก็บอกว่าไม่มีวิธีรักษาแล้ว ไม่ใช่หรือ? ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เหตุใดไม่ลองให้นายท่านลองทำดู ยังไงก็มีคนมากมายมุงกันอยู่ที่นี้ ครอบครัวข้าอยากหนีก็คงทำไม่ได้”มั่วอวิ๋นอิงมองทางไปเฉียนหย่งเหนียน เฉียนหย่งเหนียนมองไปทางผู้ใหญ่บ้านผู้ใหญ่ไม่ได้พูดอะไร เพราะที่ฉินเย่ว์เจียวพูดสมเหตุสมผล เฉินฝานไม่เหตุมีผลที่ทำแบบนั้นคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย ก็ไม่ได้งมงายขนาดนั้น ปีศาจร้ายที่เกี่ยวข้อง เขาเพียงแค่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง“เหอะ!” ผู้เฒ่าหลี่เยาะเย้ยออกมาเบาๆ “ช่วยคน จะเป็นไปได้อย่างไรกัน ข้าว่าเป็นการถ่วงเวลาเถอะ”จูต้าอันเสริมคำพูดของผู้เฒ่าหลี่ทันทีไม่ง่ายเลยที่จะได้โอกาสนี้มา เฉินฝานจวนจะจบเห่แล้ว เขาจะไม่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 187

    “เจ้าได้ยินหรือไม่?”“เสียงร้องไห้ของเด็ก เจ้าก็ได้ยินเหมือนกันสินะ”“ใช่ เป็นเด็กบ้านไหนถูกทำให้ตกใจกลัวละมั้ง ปีศาจร้ายก็อยู่ที่นี้ ผู้ใหญ่ครอบครัวไหนสะเพร่าแบบนี้กัน ให้ลูกบ้านตัวเองมาที่นี่ ไม่กลัวว่าปีศาจจะจับลูกเขาไปด้วยหรือไร?”“ไม่ใช่ เสียงร้องไห้นี้เหมือนว่ามาจาก...” มีคนชี้ไปในบ้านเฉินฝาน “ดังมาจากในนั้น”“เป็นไปได้อย่างไร ตอนนี้พี่หรงน้อยก็...”“อุแว้!”เสียงร้องไห้ของเด็กเล็กดังขึ้นอีกครั้ง“พี่หรงน้อย!” จากเดิมที่ร่างกายของมั่วอวิ๋นอิงอ่อนระโหยโรยแรง ครู่เดียวก็ยืนตรงตระหง่านขึ้น นางเอนตัวไปด้านหน้าเงี่ยหูฟัง“อ่า เป็นพี่หรงน้อย!” มั่วอวิ๋นอิงพุ่งตัวไปที่หน้าอย่างรุนแรงและรวดเร็วในบ้าน เฉินฝานเพิ่งจะอุ้มพี่หรงน้อยที่ได้สติขึ้นมา“อุแว้ อุแว้ อุแว้!”พี่หรงน้อยร้องไห้ดังกว่าเดิม อุ้งมือน้อยแกว่งไปมาอย่างสะเปะสะปะนี่เป็นปฏิกิริยาหลังจากที่ตกใจกลัว“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรแล้วนะ! พี่จะอุ้มไปหาแม่แท้ๆของเจ้าเอง” เฉินฝานแตะแผ่นหลังเบาๆปลอบโยนเขาไปพลาง เดินไปด้านนอกไปพลางผลคือเขายิ่งเดินออกไปข้างนอก เจ้าตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมอกยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิมตอนแรกเฉินฝานนึกว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 188

    “เมื่อครู่ใครจะพังประตูข้า?”สายตาของเฉินฝานเรียบเฉย น้ำเสียงก็เรียบนิ่ง ทว่าคนในเหตุการณ์ไม่มีใครกล้าตอบสักคน“พี่หรงน้อย!”มั่วอวิ๋นอิงวิ่งไปทางเฉินฝานด้วยความตื่นเต้นดีใจ“พี่สะใภ้!” ฉินเย่ว์เจียวดึงมั่วอวิ๋นอิงกลับมา “จัดการหน้าให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า เจ้าไปหาแบบนี้ ระวังจะทำให้พี่หรงน้อยตกใจ”“โอ้ โอ้!” มั่วอวิ๋นอิงพยักหน้าต่อเนื่อง “เย่ว์เจียวเจ้าพูดถูก พูดถูกเผง”“พี่หรงน้อย!”ผู้ใหญ่บ้าน ภรรยาผู้ใหญ่บ้านนางหู เฉียนหย่งเหนียนวิ่งอย่างสุดกำลังมาด้านหน้าของเฉินฝานตอนที่ระยะห่างไม่ถึงหนึ่งเมตรกลับหยุดฝีเท้าไว้ ไม่กล้ารุดหน้า ไม่อยากจะเชื่อ นี่เป็นเรื่องในจินตนาการของพวกเขา“พี่หรงน้อย” เฉินฝานแกว่งไกวเจ้าตัวน้อยในอ้อมอก เอาร่างกายตัวเล็กตัวน้อยหันไปทางพวกผู้ใหญ่บ้าน “ดูสิใครเอ่ย?”“ยา ยา ย่า.. ”พี่หรงน้อยที่ยังไม่สามารถเชื่อมต่อคำ ปากอมลูกอมเรียกนางหูอย่างไม่ชัดเจน“ฮึก!” นางหูปลื้มปิติอย่างสุดขีดจนน้ำตาไหล “ย่านี่ย่าเอง”“ไหน!” นางหูเดินเข้าไปด้วยตื่นเต้น “ให้ย่าอุ้มหน่อย”พี่หรงน้อยอ้าแขนไปทางนางหู ทว่านางหูเพิ่งจะแตะมือของเขา เขาก็มุดกลับมาในอ้อมอกเฉินฝาน“ลูก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 189

    เมื่อนึกถึงฉากที่เฉินฝานรักษาพี่หรงน้อย สีหน้าของหมอผู้มีอายุก็ยังกระอักกระอ่วนใจ“หมอเหอ!” ผู้ใหญ่บ้านยังไม่วางใจ “หลานชายข้าเขา... ”ดีมาก สภาพชีพจรเต้นปกติ และกำลังวังชาของเด็กเต็มเปี่ยม ยอดเยี่ยม!”“ฟู่ว”ผู้ใหญ่บ้านถอนหายใจยาวออกมามีการยืนยันจากหมอ เขาก็วางใจได้อย่างสมบูรณ์แล้ว“ขอบคุณหมอเหอ รบกวนท่านแล้ว”“นี่! พี่หรงน้อยข้าไม่ได้เป็นคนช่วยเสียหน่อย” หมอเหอโบกมืออย่างต่อเนื่อง เขามองไปทางเฉินฝาน “นี่เป็นความดีความชอบของน้องชายคนนี้เพียงผู้เดียว”“แม่หย่งเหนียน หย่งเหนียน อวิ๋นอิง พวกเจ้ามา”ผู้ใหญ่บ้านพาภรรยา ลูกชายลูกสะใภ้มาด้านหน้าเฉินฝาน ไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว เสียงดังตึ้ง คุกเข่าต่อหน้าเฉินฝานทันที“ไม่ได้ ผู้ใหญ่บ้านท่านเป็นผู้อาวุโสของข้า พี่หย่งเหนียนก็อายุเยอะกว่า พวกท่านลุกขึ้นเถอะ” เฉินฝานรีบโน้มตัวไปพยุงผู้ใหญ่บ้านราวกับว่าผู้ใหญ่บ้านเตรียมตัวไว้ก่อนแล้ว ตอนที่เฉินฝานพยุงเขา เขาออกแรงไม่ให้เฉินฝานพยุงเขาลุกขึ้น“เสี่ยวฝาน!”ผู้ใหญ่บ้านสีหน้าจริงจัง “ตอนนี้ต่อหน้าเจ้า ไม่มีผู้อาวุโสพีชายอะไรทั้งนั้น เจ้าเป็นผู้มีพระคุณกับครอบครัวพวกข้า ได้โปรดรับการทำค

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 190

    “ผู้ใหญ่บ้าน!”เมื่อฟังถึงตรงนี้ จูต้าอันกระสับกระส่าย “ข้าไม่ได้สร้างความเท็จ ความเท็จเป็นผู้เฒ่าหลี่ทั้งหมด ข้าแค่ถูกเขาต้มตุ๋น!”“ถูกเขาต้มตุ๋น?” สายตาของผู้ใหญ่แผ่รังสีจ้องเขม็งไปที่จูต้าอัน “เกรงว่าเจ้าอยากใช้โอกาสนี้กำจัดเฉินฝานล่ะสิ!”“ข้าเปล่า ข้าเปล่า”“เจ้าทำ ความโกรธแค้นที่มีต่อเฉินฝานมันอยู่ในใจเจ้า อยากจะแก้แค้นมานานแล้ว”“ใช่ เมื่อครู่เรื่องมันจะสงบลงตั้งหลายครั้งแล้ว เขาอาศัยจังหวะทันที”ชาวบ้านทยอยกันออกมาเป็นพยาน“น้องฝาน” คนมาอยู่ด้านหน้าเฉินฝานนามว่าจูฉวนอัน เขาเป็นลูกพี่ของจูต้าอัน “เมื่อครู่ลูกพี่ลูกน้องข้าถูกหลอกลวง พลอยกระแทกประตูกับเขาไปด้วยขออภัยอย่างยิ่ง!”“น้องฝาน น้องฝาน!”เฉินฝานไม่ได้พูดอะไร จูต้าอันคลานไปที่ด้านหน้าเขา เกาะแกะกับเท้าของเขา “ข้าโดนผู้เฒ่าหลี่หลอกลวง พลั้งพลาดไปครั้งหนึ่งน้องฝาน ได้โปรดให้อภัยข้าเถอะ”จูต้าอันไม่ได้มีความสามารถอะไร ทว่าเขารู้กฎหมู่บ้านดีเรื่องวันนี้ ตามกฎหมู่บ้านอย่างเบาที่สุดคือเขาจะถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้านซานเหอเฉินฝานมองจูต้าอันที่เกาะแกะอยู่ตรงเท้าเขาอย่างเยือกเย็น ยกเท้าขึ้น“ไสหัวไป!”เขาก็ไม่ได้เป็น

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 191

    “เจียงเอ๋อร์ เจ้ากำลังพูดอะไร?” เฉินฟู่กระตุกเฉินเจียงเบาๆทว่าเฉินเจียงกลับทำเหมือนไม่มีเรื่องอะไรอย่างไรอย่างนั้น “หลังจากเสี่ยวฝานตกหน้าผา มีโชคจากเคราะห์ร้ายกลายเป็นคนเฉลียวฉลาด หากไม่ร่ำเรียนในสำนักศึกษาคงจะน่าเสียดาย”“เฉินเจียงเสนอเรื่องนี้ได้อย่างไร ถึงเวลาเฉินฝานไปสำนักศึกษาแล้วเขาจะฟังรู้เรื่องหรือ? การร่ำเรียนไม่ใช่การขายปลา จะเป็นเรื่องง่ายๆ ได้อย่างไร?”“ใช่ สิ่งที่ยากที่สุดบนโลกใบนี้คือการร่ำเรียน พี่หย่งเหนียนสอบตั้งหลายปีแล้ว เมื่อปีกลายเพิ่งสอบได้อันดับรองสุดท้ายในการสอบระดับท้องถิ่น สอบติดถงเซิงอย่างเฉียดชิว“นั่นน่ะสิ? พี่เหนียนสอบผ่านแล้ว ข้ายังสอบไม่ผ่าน”เสียงกระซิบกระซาบของปัญญาชนโต๊ะนั้นในห้องโถง ล้วนปฏิเสธความคิดของเฉินเจียงที่จะให้เฉินฝานมาร่ำเรียนในสำนักศึกษาอีกทั้ง ปัญญาชนเหล่านี้ แม้ไม่ได้แสดงออกมา แต่ส่วนลึกในใจของพวกเขามีความรู้สึกเหนือกว่าเฉินฝานเป็นแค่คนขายปลา ไม่คู่ควรที่จะมาร่ำเรียนกับพวกเขา“เจียงเอ๋อร์!”เฉินฟู่กระตุกเฉินเจียงอีกครั้ง เฉินเจียงหันไปถามเฉินฟู่ “ท่านพ่อ ท่านเป็นอะไร?”“เสี่ยวฝาน อ่านออกเขียนได้เพียงไม่กี่คำเท่านั้น เขาจะเร

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 192

    “ได้!” อาจารย์เฉียนพยักหน้า “เสี่ยวฝาน เจ้าอยากมาเรียนก็มาได้เลย”อาจารย์เฉียนไม่หยิ่งผยองเหมือนปัญญาชนพวกนั้น เขาสอนมาหลายปี มองคนแตกต่างจากคนทั่วไปแม้เ​ฉินฝานจะเป็นคนขายปลา อาจจะอ่านออกเขียนได้เพียงไม่กี่คำ แต่แววตาของเขาเอ่อล้นไปด้วยความฉลาดแค่ได้ยินผ่านกำแพงที่ขวางกั้น ก็เข้าใจความหมายของคำว่าอ๋องโหวแม่ทัพขุนนางชั้นสูงมีชื่อเรียกต่างกันพวกปัญญาชนบนโต๊ะ เมื่อครั้นตอนที่เขาสอนสุภาษิตนี้ ท่ามกลางพวกเขามีหลายคนที่ตนต้องอธิบายหลายรอบกว่าจะเข้าใจอาจารย์เฉียนเอ่ยปากรับเฉินฝานเป็นศิษย์แล้ว ทุกคนไม่อาจปฏิเสธไปโดยปริยายคนที่เข้าข้างเฉินฝาน เป็นห่วงเขากลัวว่าวันข้างหน้าเฉินฝานจะถูกหัวเราะเยาะยามอยู่ในสำนักศึกษาปัญญาชนที่อยู่ที่นี่เวลานี้ เป็นคนในหมู่บ้าน ยามพูดจายังพอรักษาน้ำใจกันไว้บ้างแต่ปัญญาชนนอกหมู่บ้านเหล่านั้น อาจจะพูดจาหยาบคายก็เป็นได้นักปราชญ์ดูแคลนกันเอง ยามปัญญาชนด่าทอ บางครั้งเจ็บแสบยิ่งกว่าสู้กันเสียอีก“ขอบคุณสำหรับข้อเสนอของอาเจียง ขอบคุณคำอนุญาตของอาจารย์ขอรับ” เฉินฝานคารวะเฉินเจียงกับอาจารย์เฉียน“เสี่ยวฝานไม่ต้องขอบคุณ แม้พวกเราจะเป็นอาหลานกัน แต่เราอายุ

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 730

    เหอกังนิ่งเงียบไปเพียงหนึ่งวินาที“ทหารทั้งหมดจงฟังคำสั่ง!” เหอกังยกป้ายสั่งการทหารขึ้นสูง “ถอยทัพกลับลำไปทางเดิม!”ระหว่างที่ถอยกลับทางเดิม เฉินฝานยังให้เหอกังออกคำสั่งอีกสองเรื่องคำสั่งแรก นายทหารทุกคนถอดชุดเกราะเครื่องหัวออก ก็คือให้ทุกคนถอดหมวกเหล็กบนหัวออก นำเสื้อผ้าห่อไว้ มัดไว้ที่เอวกองกำลังยุคโบราณ เพื่อที่แยกมิตรและศัตรู ชุดเกราะเครื่องหัวจะมีสัญลักษณ์สัญลักษณ์บนชุดเกราะเครื่องหัวของกองกำลังลาดตระเวนคือพู่ระย้าสีแดงสีแดงสะดุดตาเกินไป ไม่สะดวกในการหลบหลีกคำสั่งที่สอง ทุกคนต้องเก็บกิ่งที่มีใบไม้มาสองสามชิ้น มัดรวมให้เป็นวงกลม สวมไว้บนศีรษะตอนที่ออกคำสั่งทั้งสองนี้ เหอกังก็ตัดหัวนายทหารไปอีกหนึ่งคนเพราะสองคำสั่งนี้ ก็ไม่ต่างอันใดกับการล่าถอยกลับทางเดิม เหลวไหลสิ้นดีไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือลูกน้องในกองกำลังลาดตระเวนทั้งหมด คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจที่คาดหัวใบไม้หนึ่งชิ้น จะสามารถรักษาชีวิตได้กว่าชุดเกราะเครื่องหัวที่ทำจากเหล็กงั้นหรือ?เฉินฝานไม่ได้ผิดปกติจริงๆใช่หรือไม่?กลับไปถึงสถานที่กวาดล้างพลทหารม้าสามพันคนของเหยียนอิง เฉินฝานออกคำสั่งให้หยุดเคลื่อนทัพในขณ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 729

    เฉินฝานอมยิ้มพลางพยักหน้า “ถูกต้อง หากไม่ยั่วโมโหอ๋องเจิ้งหนาน หลี่เทียนจะออกมาได้อย่างไร”“ทว่า ทำเช่นนี้เป็นการทำให้พวกเราเข้าสู่สภาวะจนตรอกมิใช่หรือ?”“ท่านแม่ทัพ ทำเช่นนี้ สามารถทำให้พวกเรามีชีวิตต่อไปได้!”“เช่นนี้พวกเราจึงสามารถมีชีวิตต่อไปได้งั้นหรือ? ใต้เท้าเฉิน...”เหอกังที่อยู่ด้านข้างหยุดพูดไปครู่หนึ่ง “เจ้าต้องการล่อกองกำลังเมืองเตียนที่เมืองฝูตูให้ออกมา หลังจากนั้นพวกเราก็กลับลำไปยึดโจมตีเมืองฝูตูงั้นหรือ?”“ปิดบังท่านแม่ทัพไม่ได้จริงๆ ข้าน้อยก็มีความประสงค์เช่นนี้ มีเพียงการทำเช่นนี้ เมืองหรงตูและพวกเราจึงยังมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่”“น้องฝาน วิธีนี้น่าอัศจรรย์ก็จริง ทว่า...” สีหน้าของเหอจื่อหลินเปลี่ยนจากสดใสเป็นหม่นหมอง “กองกำลังสามหมื่นคนของหลี่เทียนนั้น ห่างจากพวกเราไม่ถึงห้าสิบลี้แล้ว อิงจากความเร็วของกองกำลังเตียนตู ต้านทานไว้ครึ่งชั่วยาม ก็จะไล่ตามพวกเราทัน พวกเราต้องการโจมตีโต้กลับเมืองฝูตู ก็ต้องหลบหลีกพวกเขาก่อน”“กองกำลังลาดตระเวนมีสองหมื่นเจ็ดพันกว่าคน และมีม้าสงครามที่ไปยึดครองมาเมื่อครู่สามพันตัว เป้าหมายยิ่งใหญ่เช่นนี้ ความยากในหลบหลีกหลี่เทียนยากยิ่งนั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 728

    “ข่าวที่ข้าได้รับมาเมื่อครู่ กองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งแสนคนที่เหยียนเชียงนำทัพไม่ได้ข้ามฝั่งมา”“ไม่ได้ข้ามฝั่งรึ?” เหอกังตกใจอย่างมาก กล่าวด้วยความโมโหทันที “เวลาครึ่งก้านธูปที่แล้วพลส่งข่าวมารายงานว่ากองกำลังหนึ่งแสนคนนั้นของเหยียนเชียงเริ่มข้ามฝั่งแล้วมิใช่หรือ? พลส่งข่าวของเจ้าเป็นอันใดไป จึงรายงานไม่แม่นยำเช่นนี้!”“ท่านพ่อ เมื่อครู่กองกำลังเมืองเตียนข้ามฝั่งจริงๆ ทว่าผ่านไปไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็กลับลำ ตอนนี้เดินทางมุ่งสู่เมืองหรงตูแล้ว”“กล่าวเช่นนี้...” สีหน้าของเหอกังเปลี่ยนเป็นเข้มงวด “กองกำลังเตียนตูไม่คิดที่จะสนใจพวกเรา ทว่ามุ่งตรงไปบุกโจมตีเมืองหรงตู หากสูญเสียเมืองหรงตูไป เช่นนั้นพวกเรา...”เช่นนั้นกองกำลังลาดตระเวนก็เหมือนกับเด็กกำพร้าไร้บ้านหากไปเยือนหรงตูมิได้ พวกเขาก็เป็นทหารเร่ร่อนกลุ่มหนึ่งที่ไม่กำลังสนับสนุนใดๆจากแนวหลัง“เร็วเข้า พวกเราต้องเร่งฝีเท้าในการเคลื่อนทัพ” เหอกังกล่าวเสียงดัง “แผนการเดียวในตอนนี้ พวกเราทำได้เพียงแข่งความเร็วกับเหยียนเชียง”“ข้าว่าวิธีนี้ก็ไร้ผล” เย่ว์หนูที่อยู่ด้านข้างเฉินฝานส่ายหน้ากล่าวเสียงเบา “พละกำลังของกองกำลังเมืองเตียนตูมีม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 727

    เฉินฝานเดินอยู่ด้านหน้า ฉินเย่ว์เจียวลากศพของเหยียนอิง สองคนเรียงรายเดินออกจากกระโจมไปสถานการณ์รบด้านนอกจวนจะเข้าใกล้จุดสิ้นสุดแล้วห่าธนูในคราเดียว กองกำลังเมืองเตียนตูสามพันกว่าคนนี้ ทุกคนล้วนถูกลูกธนูของกองกำลังลาดตระเวนปักราวกับเม่นเหอจื่อหลินพาคนไปตรวจสอบว่ามีกองกำลังเมืองเตียนตูที่ยังตายไม่สนิทหรือไม่ ดังนั้นจึงเกิดเสียงการแทงซ้ำและเสียงโอดครวญเป็นครั้งคราว“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”เมื่อเห็นเฉินฝานแล้ว เหล่านายทหารพากันคุกเข่าเฉินฝานลนลานรีบทำท่าขอให้ลุกขึ้น “ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้นเถอะ”นายทหารเหล่านั้นโน้มศีรษะติดกับพื้นจึงยอมลุกขึ้นยืนนับตั้งแต่ที่เข้ากระโจมจนมาถึงตอนที่ออกจากกระโจมมา ห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เหล่ากองกำลังลาดตระเวนด้านหน้าเฉินฝาน ทุกคนล้วนมีชีวิตชีวาพวกเขาทหารผู้ดีทหารไร้ประโยชน์ที่ถูกฝูงชนหัวเราะเยาะ ในเวลาสั้นๆครึ่งชั่วโมง สามารถกำจัดพลทหารม้าของกองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งกลุ่มได้ทั้งหมดต่อจากนี้ จะคอยดูว่าผู้ใดจะกล้ากล่าวว่าพวกเขาไร้ประโยชน์ได้อีก!เหล่าทหารเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เหอกังรีบรุดหน้าเข้ามาทันที สีหน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 726

    เหยียนอิงถูกฉินเย่ว์เจียวนำน้ำเย็นหนึ่งถังราดใส่จนตื่น“อ้าก!”“ใครกัน? ชาติชั่วผู้ใดรนหาที่ตาย บังอาจใช้น้ำราดใส่ข้า!”เหยียนอิงที่ถูกปลุกให้ตื่นด้วยความตกใจเด้งตัวกระโดดลงจากเตียง คว้าดาบใหญ่ข้างกายขึ้นมา ต้องการจะฟันออกไปตอนที่เขาเห็นชัดเจนว่าคนที่ยืนข้างเตียงเขาคือฉินแย่ว์เจียว วางดาบลงทันที พลันปรากฏรอยยิ้มสัปดน“เจ้าหนุ่มหน้าปลาเก๋านั้น สามารถจัดการเรื่องต่างๆ เพราะถวิลหาสาวน้อยที่งดงามเช่นนี้ ข้าก็แปลกใจหรอก”“แม่สาวน้อย เจ้าจะมาด้วยตนเองหรือต้องการให้ข้าช่วย!”“ข้าว่าข้าช่วยเจ้าดีกว่า เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”เหยียนอิงหัวเราะร่าลุกขึ้นยืน กำลังจะโถมตัวใส่ร่างของฉินเย่ว์เจียว“ปึก!”จอกสุราหนึ่ง ลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียว ชนเข้ากับใบหน้าของเหยียนอิงอย่างรุนแรง“อ้าก!”เหยียนอิงที่ได้รับบาดเจ็บตะโกนลั่น ยื่นมือออกไปคิดที่จะคว้าดาบใหญ่ของเขาอีกครั้ง“ปึก!”มีวัตถุหนึ่งชิ้นลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียวอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่จอกสุรา ทว่าเป็นเกาทัณฑ์ดอกเหมยหนึ่งลูกนี่เป็นหนึ่งในอาวุธลับมากมายที่ฉินเย่ว์เหมยมอบให้เฉินฝาน เกาทัณฑ์ดอกเหมยใช้งานง่ายที่สุด วันที่สองข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 725

    ฉกฉวยโอกาสยามราตรี กองกำลังลาดตระเวนสองหมื่นนาย สามารถข้ามแม่น้ำลวี่สุ่ยครั้งที่สองได้แล้วคนมากมายเพียงนี้ กล่าวไม่มีลาดเลาอันใดแม้แต่น้อย นั้นเป็นเรื่องโกหกตอนที่กองกำลังลาดตระเวนข้ามฝั่ง ทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูที่ลาดตระเวนผู้หนึ่งพบเห็น“คน มีคนจำนวนมากกำลังข้ามฝั่ง” กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นกล่าวกับสหายร่วมรบของตนคำพูดของกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้น ไม่เพียงไม่ได้รับความใส่ใจจากสหายร่วมรบเท่านั้น ยังถูกสหายร่วมเขกกะโหลกหนึ่งที“เป็นเพราะไม่นอน ตาพร่ามัวไปแล้วหรือ ข้ามฝั่งอันใดกัน?” สหายร่วมรบชี้ไปที่แม่น้ำ “ดูสิ ด้านบนมีเรือหรือไม่? ไม่มีเรือจะข้ามฝั่งมาได้เยี่ยงไร”“ทว่า...”กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นหันกลับไปชำเลืองมองอีกครั้ง “ข้าเห็นจริงๆ เหมือนว่าพวกเขาไม่ได้นั่งเรือข้ามมา ทว่าเดินบนผิวน้ำมา”สะพานลอยไม่โผล่ขึ้นมาผิวน้ำทั้งหมด ดูแล้วก็เหมือนกับคนกำลังเดินผิวน้ำจริงๆกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นถูกสหายร่วมรบของตนเขกกะโหลกอีกครั้ง “เดินบนผิวน้ำ? นับถือที่เจ้าพูดเช่นนี้ออกมาได้ ที่เจ้าเห็นมิใช่คน แต่เจ้าเห็นผีแล้วต่างหาก!”“ที่ข้าเห็นเป็นผีงั้นรึ?”“จะไม่ใช่ได้อย่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 724

    “สร้างสะพานลอยเช่นนี้ กองกำลังเมืองเตียนตูฝั่งตรงข้ามคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆหรอกกระมัง”“พวกเจ้าพูดถูก” เฉินฝานกล่าว “กองกำลังเมืองเตียนตูคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆ ดังนั้นที่พวกเราสามารถสร้างได้เป็นสะพานลอยใต้น้ำ”เฉินฝานนำแผนที่ออกมา มือวางไว้ที่แม่น้ำลวี่สุ่ย “ตรงส่วนนี้ พื้นที่แม่น้ำค่อนข้างแคบ สายน้ำก็ค่อนข้างไหลเชี่ยวเช่นกัน กองกำลังเมืองเตียนตูจะต้องคาดไม่ถึงว่าพวกเราจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวเป็นแน่ ดังนั้นช่วงนี้การลาดตระเวนของกองกำลังเตียนตูต้องไม่เข้มงวดเพียงนั้นเป็นแน่ ความสามารถทางน้ำของกองกำลังหญิงยอดเยี่ยม พวกนางสามารถฉกฉวยโอกาสยามราตรี ดำน้ำลงไปในแม่น้ำสร้างสะพาน”ในตอนแรกที่ฝึกกองกำลังหญิง ตามปกติแล้วก็ฝึกตามที่หน่วยรบพิเศษฝึกฝน ดังนั้นการดำน้ำสร้างสะพานประเภทนี้ชำนาญเป็นธรรมดาอยู่แล้ว“สหายกองกำลังลาดตระเวน เพียงแค่ตระเตรียมเถาวัลย์และกิ่งไม้ให้พร้อมก็ใช้ได้แล้ว”ขั้นตอนในการสร้างสะพาน เป็นดังที่เฉินฝานคาดการณ์ไว้ กองกำลังเมืองเตียนตูคาดไม่ถึงว่าพวกเฉินฝานจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว และสิ่งที่คาดไม่ถึง คิดเหนือชั้นไปอีก คือพวกเฉินฝ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 723

    “ใต้เท้าเฉิน ไยเจ้ายังคิดที่จะล้อเล่นอีก!” เหอกังสีหน้าจริงจัง เขาออกคำสั่งกับเหอจื่อหลิน “จื่อหลิน เจ้าปกป้องใต้เท้าเฉินให้ออกจากป่าไปในคืนนี้ มุ่งหน้าสู่หรงตู”“ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้า...”“ใต้เท้าเฉิน ข้ารู้ว่าเจ้าอยากอยู่ ทว่าพวกเราไม่สามารถเสี่ยงอันตรายเรื่องนี้ได้ หากสูญเสียเจ้าไป ต้าชิ่งของพวกเราก็ถึงจุดจบจริงๆแล้ว”เหอกังพูดขัดคำพูดเฉินฝานก่อนที่จะออกเดินทางครั้งนี้ ฉินเย่ว์เหมยลอบนัดพบพ่อลูกตระกูลเหอลับๆ ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้นให้พ่อลูกตระกูลเหอต้องปกป้องชีวิตของเฉินฝานไว้กล่าวว่า หากไร้ซึ่งเฉินฝาน ต้าชิ่งก็สูญสลายเช่นกันคำพูดของฉินเย่ว์เหมย เหอกังเห็นด้วยทั้งหมดตอนนี้ต้าชิ่งมีทั้งศึกภายในและภายนอก ขุนนางทุจริตกุมอำนาจ หากไม่มีเฉินฝาน ก็มิมีใครสามารถต่อกรกับเสิ่นหมิงหยวนได้“ท่านแม่ทัพใหญ่!” เฉินฝานทำมือเคารพให้เหอกัง “ขอบคุณความไว้วางใจของท่านแม่ทัพใหญ่ที่มีต่อข้าน้อย ในเมื่อท่านแม่ทัพคิดว่าข้าน้อยสามารถช่วยต้าชิ่งให้รอดพ้นได้ เช่นนั้นไยไม่เชื่อมั่นให้ข้าน้อยทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูพ่ายแพ้กันล่ะ?”“ใต้เท้าเฉิน ข้าเชื่อมั่นว่าท่านมีความสามารถเช่นนั้นอยู่แล้ว ทว่าการจะหล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 722

    ระเบิดดินที่ฝังไว้ จวนจะได้แผลงฤทธิ์แล้ว ม้าและพลทหารที่ถูกระเบิดจนลอยขึ้นจะบรรเทาการปิดล้อมของกองกำลังเมืองเตียนตูได้ชั่วคราวผ่านไปไม่นานนัก ท้องฟ้าก็มืดสนิทเมื่อท้องฟ้ามืดแล้ว เหล่าทหารลาดตระเวนล้วนถอนหายใจอย่างโล่งอกพวกเขาปลอดภัยชั่วคราวแล้วต่อให้กองกำลังเมืองเตียนตูจะเก่งกาจเพียงใด ก็ไม่สามารถจะหาญกล้าบุกโจมตีเข้ามาในป่าตอนกลางคืนเหยียนเชียงที่เป็นผู้นำกองกำลังหนึ่งแสนคนของเมืองเตียนอันก็ไม่ได้รีบร้อน ตอนที่ฟ้ายังไม่ทันมืด เขาก็ออกคำสั่งให้คนไปตั้งค่ายทหารแล้ว“ท่านเจ้านครฝ่ายขวา เส้นทางที่จะระเบิด จวนจะไม่มีแล้ว กองทัพของข้าสามารถโจมตีตามไปได้ จัดการพวกเขาให้หมด เพื่อขจัดอุปสรรคในการเข้าเมืองหลวงของท่านอ๋อง”แม่ทัพสองสามคนเป็นฝ่ายขอออกทัพกับเหยียนเชียงก่อนปัญญาชนหน้าใสเฉินฝานอยู่ในป่า จับเป็นเขาได้สามารถได้เงินห้าหมื่นตำลึงทองการบุกเข้าป่ายามราตรีเรื่องต้องห้ามเช่นนี้ กองทัพเมืองเตียนตูมิได้หวาดกลัวอย่างไรเสียก็เป็นเงินห้าหมื่นตำลึงทองเชียวนะใครจะไม่อยากได้กันเหยียนเชียงจ้องแม่ทัพที่มาขอออกรบก่อนเหล่านั้น “เรื่องที่ว่าจะขจัดอุปสรรคทางไปเมืองหลวงให้ท่านอ๋องอะไ

DMCA.com Protection Status