แชร์

บทที่ 159

ผู้แต่ง: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ฉินฉายจินกุมนิ้วมือที่หักของเขา ใบหน้าบิดเบี้ยวดุร้ายน่ากลัวด้วยความเจ็บปวด “เจ้านี่ เจ้าแน่นักรึ เจ้าคงจะคิดว่ามีเงินนิดหน่อยก็สามารถจัดการทุกอย่างได้สินะ!”

เฉินฝานยิ้มอย่างเยือกเย็น “ถูกต้อง วันนี้ข้าจะใช้เงินจัดการเจ้าจนตาย!”

“เช่นนั้นเราจะได้เห็นดีกัน ไป!”

ฉินฉายจินเอนตัวไปทางนางเย่ “พยุงข้าไปที่ทำการ!”

เพิ่งจะเดินถึงประตู ฉินฉายจินก็หันหลังกลับมา เขามองเฉินฝานที่ยังคงนั่งอยู่ข้างกระถางไฟ “ไอหนุ่ม ทำไมยังไม่ไปอีก?ปอดแหกแล้วหรือไร? ไม่ใช่ว่าจะใช้เงินจัดการกับข้าหรอกรึ? มาสิ ข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะจัดการอย่างไร?”

“ไม่เป็นไร!” เฉินฝานตบไหล่ฉินเย่ว์โหรวที่กระวนกระวายใจเบาๆ “ข้าไปข้างนอกครู่เดียว ถ้าเจ้าหนาว ก็นั่งผิงไฟรอข้าก็พอแล้ว”

เฉินฝานลุกขึ้นเดินออกไป เขาทำมือคำนับให้กับชาวบ้านที่เฝ้าดูอยู่ด้านนอก

“ข้าน้อยเฉินฝานผู้ร่วมอาศัยหมู่บ้านซานเหอ อยากจะขอให้พี่น้องสามคนไปเป็นพยาน หากว่ายินยอมจะเป็นพยานให้ข้า ข้าจะจ่ายให้พวกเจ้าคนละสองร้อยเหวิน”

เป็นพยาน?

คนละสองร้อยเหวิน?

ชาวบ้านที่เฝ้าดู ต่างพาจ้องหน้ากันและกัน

เฉินฝานทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไร ให้พวกเขาไปเป็นพยานเรื่องอะไร ถ้าใ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 160

    “กฎหมายต้าชิ่ง คำกล่าวหน้าที่หก ผู้ที่บุกรุกเข้าไปที่อยู่อาศัย ขึ้นรถขึ้นเรือโดยไม่มีเหตุผลจะถือว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย การต่อสู้ป้องกันตัวถือว่าไม่มีความผิด”“อารอง เป็นท่านที่บุกรุกเข้าบ้านท่านปู่มาตบตีพวกเราก่อน เมื่อครู่นายท่านเพียงแค่ปกป้องพวกเรา ถึงลงมือทำร้ายร่างกายท่าน ตามกฎหมายต้าชิ่งของพวกเรา นายท่านของข้าไม่มีความผิด”ฉินเย่ว์ฉู่เชิดหน้าสูง ใบหน้ามีทั้งความทะนงและความภาคภูมิใจ น้ำเสียงก็ใสแจ๋วและดังกังวานเป็นพิเศษนับถือเฉินฝานที่มองการณ์ไกลในขณะเดียวก็รู้สึกขอบคุณแม่ที่จากไปของตนเองอย่างสุดซึ้งแม่ของพี่น้องตระกูลฉินไม่เหมือนกับสาวชาวบ้านคนอื่น นางรู้หนังสือ สอนให้พวกพี่สาวรู้หนังสือ ก่อนที่ตนเองจะจากโลกนี้ไป ก็ยังสั่งเสียให้พวกพี่สาวสอนนางให้รู้หนังสือ“ตีพวกเจ้า ข้าไปตีพวกเจ้าเมื่อใด?”ถึงแม้น้ำเสียงของฉินฉายจินจะดุดัน ทว่าฟังแล้วดูขี้ขลาดเล็กน้อยนี่ก็เป็นจุดที่ฉินฉายจินไม่ชอบพี่น้องตระกูลฉินเป็นพิเศษ ช่วงก่อนที่พวกนางพี่น้องยังไม่ได้ออกเรือน ก็เป็นเพราะว่ารู้หนังสือ มักจะทำให้เขาแค้นเคืองจนน้ำท่วมปากเขาเป็นอาของพวกนางนะ จะเถียงไม่ชนะพวกนางได้อย่างไรกัน?น่าอับอ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 161

    “หลานเขย หลานเขยที่แสนดีของข้า!” นางเย่อ้อนวอนกอดขาของเฉินฝาน “อารองของเจ้าเจ็บมือ จึงหน้ามืดชั่วขณะ อาสะใภ้ขอร้องเจ้าล่ะ ปล่อยพวกข้าไปเถอะ!”“ข้ามีอาสะใภ้ในหมู่บ้านนี้ตั้งแต่เมื่อใด!” เฉินฝานสะบัดขา“เฉินฝาน!” นางเย่กอดแน่นกว่าเดิม “ข้าขอโทษ พวกข้าผิดไปแล้ว เจ้าอย่าแจ้งทางการเลย อย่าแจ้งทางการเลย!”อากาศนับวันก็ยิ่งหนาวขึ้นเรื่อยๆ มือของฉินฉายจินหักแล้ว หากติดคุกเวลานี้ ตอนออกมาไม่ตายก็พิการแล้ว“ขอโทษ คำขอโทษของท่านมีค่าอย่างไร?”“พวกข้าผิดไปแล้ว หากสามีของข้าเข้าคุกแล้วพวกข้าจะทำอย่างไร? ลูกข้ายังเล็ก”“ท่านรู้ว่าลูกของท่านยังเล็ก หากไม่มีพ่อชีวิตก็จะลำบาก แล้วพวกภรรยาของข้าเมื่อก่อนเล่า? เวลานั้นพวกนางไม่ใช่เด็กหรือ?”นึกถึงคำว่านังชั่วที่เมื่อครู่ฉินฉายจินพูด รวมถึงการปฏิบัติด้วยความใจร้ายในอดีตที่ชาวบ้านบอก เฉินฝานไม่อาจให้อภัยสามีภรรยาคู่นี้จริงๆ“ข้า...”นางเย่คิดไม่ถึงว่า เมื่อก่อนพวกตนทุบตีพวกฉินเย่ว์เจียวด้วยความสะใจนั้น วันหนึ่งสามีของพวกนางจะกลับมาแก้แค้นแม้หลับฝันนางก็คิดไม่ถึงจริงๆ ว่า พวกฉินเย่ว์เจียวจะได้สามีที่มากความสามารถเช่นนี้เฉินฝานสะบัดอย่างแรง จนนา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 162

    นางลวี่พูดจบ กระทุ้งสามีของตนเองหนึ่งครั้ง แม้ฉินฉายหัวจะไม่อยากทำแม้แต่น้อย แต่สุดท้ายก็ยอมทำ“ท่านพ่อ ท่านแม่”“หลานๆ อาและอาสะใภ้ขอโทษพวกเจ้าด้วย!”นางเย่เห็นเช่นนั้นก็บอกให้ฉินฉายจินและฉินเต๋อโห่วขอโทษพวกฉินเย่ว์เจียว ทั้งยังคำนับเขกหัวเสียงดังเฉินฝานเงียบ ไม่มีใครกล้ายกโทษให้ฉินฉายจินกับฉินฉายหัวยิ่งเวลาผ่านไปนาน สีหน้าของฉินฉายจินก็ยิ่งกระอักกระอ่วน สุดท้ายล้มลงบนพื้น“นายท่าน นายท่าน ท่านเป็นอะไรไป ท่านเป็นอะไร?” นางเย่กอดฉินฉายจินที่ล้มลงบนพื้นด้วยความกระวนกระวาย“ท่านพ่อ ท่านแม่ หลานรัก” นางเย่อ้อนวอน “ฉายจินเป็นถึงขั้นนี้แล้ว พวกท่านยกโทษให้พวกเราเถอะ”“เย่ว์เจียว เย่ว์โหรว” สีหน้านางไป๋ฉายความกังวล “พวกเจ้ายกโทษให้อาของพวกเจ้าเถอะ”“ควรจบลงได้แล้ว คนในหมู่บ้านหัวเราะเยาะนานแล้ว” ฉินเต๋อโห่วก็พูดด้วยอีกคนไม่ว่าในอดีตพวกฉินฉายจินทำสิ่งใด แต่ก็เป็นลูกชายของพวกเขา หากกล่าวว่าฉินเต๋อโห่วกับนางไป๋ไม่ปวดใจเลยสักนิดก็เป็นเรื่องโกหก“นายท่าน...”ฉินเย่ว์โหรวมองเฉินฝาน ดวงตาอ่อนโยนร้องขอความเมตตาเฉินฝานเดินไปหาพวกภรรยา ตอนเดินผ่านฉินฉายจินกับนางเย่ โยนเศษเงินทิ้งสองก้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 163

    “ขอบคุณเขยฝาน”คำขอบคุณมากมายหลั่งไหลเข้ามาเฉินฝานรีบโบกมือ “เกรงใจแล้ว เมื่อครู่พวกท่านช่วยข้า นี่คือสิ่งที่ข้าพึงกระทำ!”“พวกข้าเพียงช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ ก็แค่พูดเท่านั้น ต้องขอบคุณความใจกว้างของเจ้า”“เช่นนั้น...ในเมื่อพวกท่านเรียกข้าว่าลูกเขยแล้ว พวกท่านควรขอบคุณบรรดาภรรยาของข้า รวมถึงท่านปู่ท่านย่าที่เลี้ยงดูพวกนางจนเติบใหญ่!”“เขยฝานพูดถูก”ชาวบ้านหันไปขอบคุณพวกฉินเต๋อโห่ว“ข้าและพวกเย่ว์เจียวคงไม่อาจกลับมาทุกวันได้ หลังจากนี้คงต้องรบกวนทุกคนช่วยดูแลคนแก่ทั้งสองด้วย”“แน่นอน แน่นอน”“ไอ้แก่!” นางไป๋น้ำตาคลอเบ้านานแล้ว “ได้หลานเขยอย่างเสี่ยวฝาน เป็นวาสนาของพวกเราจริงๆ”การกระทำนี้ของเฉินฝาน มองผิวเผินคล้ายทำเพียงสิ่งเดียว แต่ความจริงทำสองสิ่ง ทั้งยังเป็นสองสิ่งที่ทำให้พวกเขาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขประการแรก ท่ามกลางสายตามากมายของชาวบ้าน อนาคตพวกฉินฉายจินและฉินหายหัวไม่กล้ารังแกพวกเขาพร่ำเพรื่อแน่นอนประการที่สอง เดิมทีไม่มีใครเป็นห่วงและดูแลพวกเขา แต่นับจากนี้ พวกเขาจะได้รับการดูแลจากคนทั้งหมู่บ้าน“ใช่! วาสนาของพวกเราน่าจะเริ่มตั้งแต่รับซูอิงมา นางเป็นมารดาของหลานสาว”

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 164

    ภาพตอนกลับถึงหมู่บ้านซานเหอกับตอนอยู่หมู่บ้านตระกูลฉินแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงตอนอยู่หมู่บ้านตระกูลฉิน พี่น้องตระกูลฉินได้รับคำชื่นชมจากคนทั้งหมู่บ้าน ตรงกันข้ามกับตอนอยู่หมู่บ้านซานเหอตอนผ่านต้นไหวใหญ่หน้าหมู่บ้าน เริ่มได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์เช่นไร้ยางอาย ใช้เงินของครอบครัวสามีจนหมด ส่งของกลับบ้านก็ไม่แบ่งให้ญาติผู้ใหญ่ของครอบครัวสามีทำให้บุรุษหลงเสน่ห์ ให้สามีมีภรรยาแล้วลืมแม่ของตนเป็นต้นแม้เสียงวิพากษ์วิจารณ์นั้นไม่ได้พูดชื่อ แต่ทุกคนฟังออกว่ากำลังพูดถึงสามพี่น้องตระกูลฉินเฉินฝานลากของเต็มคันรถไปถึงหมู่บ้านตระกูลฉิน เรื่องนี้แพร่สะพัดไปทั้งหมู่บ้านตั้งนานแล้ว มีคนอิจฉาแต่มีคนริษยามากกว่าโดยเฉพาะตอนเรื่องนี้ไปถึงตระกูลฉินและตระกูลเจียง เฉินฟู่และนางโจวรู้สึกแย่ยิ่งนักพวกเขาในฐานะปู่กับย่าของเฉินฝาน หลานชายหาเงินได้ก้อนใหญ่ พวกเขาควรเป็นคนแรกที่ได้เสพสุข แต่เวลานี้กลับเป็นพี่น้องตระกูลที่ได้รับมองรถม้าของเฉินฝานขับออกไป จางเหลียนฮวาที่อุ้มลูกอยู่นั้นพูดขึ้นช้าๆ“แม้เมื่อก่อนเสี่ยวฝานจะทำตัวแย่ไปหน่อย แต่เขาดีกับปู่และย่าของเขามาก ยามมีของอร่อยต้องให้ปู่กับย่าก่อน แ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 165

    “เอ่อ เอ่อ...ท่านปู่ของข้ามาเข้าฝัน”หากยอมรับว่าตนพูดจาเหลวไหล เช่นนั้นผู้เฒ่าหลี่ก็ไม่ถูกเรียกว่าจอมปากเสียแล้ว“ปู่ของท่านยังเข้าฝันข้า บอกให้ข้าสั่งสองท่าน!”เฉียนลิ่วยกไม้เท้าขึ้น เคาะศีรษะผู้เฒ่าหลี่ผู้เฒ่าหลี่เอามือป้องศีรษะพูดแก้ตัว“ข้าไม่ได้พูดเกินจริง ข้าพูดความจริงทุกอย่าง ท่านปู่มาเข้าฝันข้าจริงๆ”“ท่านปู่บ้าบออะไร โลกใบนี้มีเทพเซียนผีสางเสียที่ไหน หากมี เหตุใดข้าจึงไม่เคยพบเจอมาก่อน?”“เจ้าไม่เคยเห็น ไม่ได้แปลว่าคนอื่นไม่เคยเห็น”“อ่อ!” เฉียนลิ่วพยักหน้าถามผู้เฒ่าหลี่ “เช่นนั้นท่านเคยเห็นหรือ เล่าให้ข้าฟังสิ พวกเขาหน้าตาอย่างไร?”“ข้า...” ผู้เฒ่าหลี่กลอกตาไปมา “ข้าไม่เคยเห็น แต่ข้าไม่เคยเห็น ไม่ได้แปลว่าคนอื่นไม่เคยเห็น”“อื้ม! ท่านไม่เคยเห็น ข้าไม่เคยเห็น เช่นนั้น...” เฉียนลิ่วหันไปมองชาวบ้าน “ไม่ทราบว่าพวกท่านเคยเห็นหรือไม่?”ทุกคนเงียบไปชั่วขณะแล้วค่อยมีคนส่ายหน้ามีคนแรก ก็มีคนที่สอง ทุกคนต่างบอกว่าไม่เคยเห็น“ทุกคนล้วนไม่เคยเห็น ข้าว่าเรื่องนี้...”เฉียนลิ่วเงียบครู่หนึ่ง แล้วค่อยพูด“มีคนริษยาเฉินฝาน อิจฉาพี่น้องตระกูลฉินที่ตอนนี้มีชีวิตที่ดี หลังจาก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 166

    “เฮ้อ!” ผู้เฒ่าหลี่ส่ายหน้าแล้วพูด “ปัญญาชนแตกต่างกับชาวบ้านทั่วไปจริงๆ แม้แต่ภรรยาของปัญญาชนก็ยังพูดเก่งเช่นนี้”“แน่นอน อนาคตพี่เจียงจะได้เป็นถึงขุนนาง พี่เหลียนฮวาก็จะได้เป็นฮูหยินของท่านใต้เท้า สิ่งที่พวกเขาพบเจอย่อมแตกต่างจากพวกเจ้า”“ก็จริง พอเหลียนฮวาพูดแล้วก็แตกต่างออกไป พวกเราไม่อาจลบหลู่เทพเซียน”“ใช่ๆ โชคดีที่เหลียนฮวาเตือน มิเช่นนั้นวันนี้พวกเราทำผิดต่อเทพเซียนโดยไม่รู้ตัว”ภายใต้คำชื่นชม แววตาของจางเหลียนฮวาฉายความผยองความเป็นจริงถ้อยคำนี้ นางไม่ได้เป็นคนคิด เหนือศีรษะสามฟุตมีเทพเทวา ปัญญาชนกราบไว้หลี่ฟูจื่อทุกวัน ฮ่องเต้ก็ทำพิธีเซ่นไหว้ทุกฤดูวสันต์ ทั้งหมดนี้เป็นเนื้อหาในหนังสือที่เฉินเจียงงอ่านให้นางฟังตลอดหลายวันที่ผ่านมา“แม้ปกติผู้เฒ่าหลี่พูดจาเหลวไหล แต่เขาเคารพบรรพบุรุษของตนเองมาก”“อื้ม เหลียนฮวาพูดถูก นอกจากกราบไหว้บรรพบุรุษช่วงเทศกาลแล้ว ทุกวันที่หนึ่งและสิบห้าของเดือนผู้เฒ่าหลี่ก็จุดธูปกราบไหว้บรรพบุรุษเช่นเดียวกัน”“เช่นนี้ การที่บรรพบุรุษของเขามาเข้าฝัน ข้ารู้สึกว่าเป็นไปได้”คำพูดเพียงไม่กี่ถ้อยคำของจางเหลียนฮวา ทำให้ทุกคนคล้อยตามอีกครั้ง“ถูกต้อ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 167

    “เฮ้อ!” เฉินต้ายาถอนหายใจแล้วส่ายหน้า“เมื่อก่อนข้ามักได้ยินท่านแม่บอกว่า ตั้งครรภ์ครั้งหนึ่งโง่เขลาสามปี ก่อนหน้านี้ข้าไม่เชื่อ ตอนนี้ข้าได้ยินสิ่งที่น้าสะใภ้พูด ข้าเชื่อแล้วจริงๆ น้าสะใภ้ อาการของท่านต้องรีบหาหมอรับยามาทาน มิเช่นนั้นวันข้างหน้าจะยิ่งอยู่ยิ่งโง่เขลาเจ้าค่ะ”“พี่สะใภ้เหลียนฮวา!” นางหลี่พูดกระซิบข้างหูจางเหลียนฮวา “คล้ายนางบอกว่าท่านโง่เขลา ทั้งยังป่วยต้องรีบรักษา”นางหลี่คิดว่าตนพูดเบา แต่ความเป็นจริงชาวบ้านได้ยินอย่างชัดเจน“ฮ่าๆ!”มีคนกลั้นหัวเราะไม่อยู่จางเหลียนฮวาอับอายจนโมโห “เฉินต้ายา เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”ในตอนนั้นทำให้เฉินเจียงหย่ากับจ้าวเสี่ยวหง เฉินต้ายาจะตกใจง่ายๆ เพราะจางเหลียนฮวาได้อย่างไร นางทั้งน้อยเนื้อต่ำใจทั้งเป็นผู้บริสุทธิ์“อาสะใภ้ ท่านโมโหทำไมเจ้าคะ หลานเป็นห่วงท่านจากใจจริง รีบหาหมอ รีบรักษา อย่าปล่อยทิ้งไว้เจ้าค่ะ”ในตอนนั้นจางเหลียนฮวาก็เป็นคนที่เอาชนะจ้าวเสี่ยวหงได้ เพียงไม่นานก็ใจเย็นลง ยิ้มบางๆ มองเฉินต้ายาแล้วเอ่ยถาม“เช่นนั้นเจ้าพูดมาสิ อาสะใภ้คนนี้ของเจ้าโง่เขลาอย่างไร?”เฉินต้ายาเองก็ยิ้มเช่นเดียวกัน ก่อนหน้านี้นางปูทางไว้

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 730

    เหอกังนิ่งเงียบไปเพียงหนึ่งวินาที“ทหารทั้งหมดจงฟังคำสั่ง!” เหอกังยกป้ายสั่งการทหารขึ้นสูง “ถอยทัพกลับลำไปทางเดิม!”ระหว่างที่ถอยกลับทางเดิม เฉินฝานยังให้เหอกังออกคำสั่งอีกสองเรื่องคำสั่งแรก นายทหารทุกคนถอดชุดเกราะเครื่องหัวออก ก็คือให้ทุกคนถอดหมวกเหล็กบนหัวออก นำเสื้อผ้าห่อไว้ มัดไว้ที่เอวกองกำลังยุคโบราณ เพื่อที่แยกมิตรและศัตรู ชุดเกราะเครื่องหัวจะมีสัญลักษณ์สัญลักษณ์บนชุดเกราะเครื่องหัวของกองกำลังลาดตระเวนคือพู่ระย้าสีแดงสีแดงสะดุดตาเกินไป ไม่สะดวกในการหลบหลีกคำสั่งที่สอง ทุกคนต้องเก็บกิ่งที่มีใบไม้มาสองสามชิ้น มัดรวมให้เป็นวงกลม สวมไว้บนศีรษะตอนที่ออกคำสั่งทั้งสองนี้ เหอกังก็ตัดหัวนายทหารไปอีกหนึ่งคนเพราะสองคำสั่งนี้ ก็ไม่ต่างอันใดกับการล่าถอยกลับทางเดิม เหลวไหลสิ้นดีไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือลูกน้องในกองกำลังลาดตระเวนทั้งหมด คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจที่คาดหัวใบไม้หนึ่งชิ้น จะสามารถรักษาชีวิตได้กว่าชุดเกราะเครื่องหัวที่ทำจากเหล็กงั้นหรือ?เฉินฝานไม่ได้ผิดปกติจริงๆใช่หรือไม่?กลับไปถึงสถานที่กวาดล้างพลทหารม้าสามพันคนของเหยียนอิง เฉินฝานออกคำสั่งให้หยุดเคลื่อนทัพในขณ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 729

    เฉินฝานอมยิ้มพลางพยักหน้า “ถูกต้อง หากไม่ยั่วโมโหอ๋องเจิ้งหนาน หลี่เทียนจะออกมาได้อย่างไร”“ทว่า ทำเช่นนี้เป็นการทำให้พวกเราเข้าสู่สภาวะจนตรอกมิใช่หรือ?”“ท่านแม่ทัพ ทำเช่นนี้ สามารถทำให้พวกเรามีชีวิตต่อไปได้!”“เช่นนี้พวกเราจึงสามารถมีชีวิตต่อไปได้งั้นหรือ? ใต้เท้าเฉิน...”เหอกังที่อยู่ด้านข้างหยุดพูดไปครู่หนึ่ง “เจ้าต้องการล่อกองกำลังเมืองเตียนที่เมืองฝูตูให้ออกมา หลังจากนั้นพวกเราก็กลับลำไปยึดโจมตีเมืองฝูตูงั้นหรือ?”“ปิดบังท่านแม่ทัพไม่ได้จริงๆ ข้าน้อยก็มีความประสงค์เช่นนี้ มีเพียงการทำเช่นนี้ เมืองหรงตูและพวกเราจึงยังมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่”“น้องฝาน วิธีนี้น่าอัศจรรย์ก็จริง ทว่า...” สีหน้าของเหอจื่อหลินเปลี่ยนจากสดใสเป็นหม่นหมอง “กองกำลังสามหมื่นคนของหลี่เทียนนั้น ห่างจากพวกเราไม่ถึงห้าสิบลี้แล้ว อิงจากความเร็วของกองกำลังเตียนตู ต้านทานไว้ครึ่งชั่วยาม ก็จะไล่ตามพวกเราทัน พวกเราต้องการโจมตีโต้กลับเมืองฝูตู ก็ต้องหลบหลีกพวกเขาก่อน”“กองกำลังลาดตระเวนมีสองหมื่นเจ็ดพันกว่าคน และมีม้าสงครามที่ไปยึดครองมาเมื่อครู่สามพันตัว เป้าหมายยิ่งใหญ่เช่นนี้ ความยากในหลบหลีกหลี่เทียนยากยิ่งนั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 728

    “ข่าวที่ข้าได้รับมาเมื่อครู่ กองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งแสนคนที่เหยียนเชียงนำทัพไม่ได้ข้ามฝั่งมา”“ไม่ได้ข้ามฝั่งรึ?” เหอกังตกใจอย่างมาก กล่าวด้วยความโมโหทันที “เวลาครึ่งก้านธูปที่แล้วพลส่งข่าวมารายงานว่ากองกำลังหนึ่งแสนคนนั้นของเหยียนเชียงเริ่มข้ามฝั่งแล้วมิใช่หรือ? พลส่งข่าวของเจ้าเป็นอันใดไป จึงรายงานไม่แม่นยำเช่นนี้!”“ท่านพ่อ เมื่อครู่กองกำลังเมืองเตียนข้ามฝั่งจริงๆ ทว่าผ่านไปไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็กลับลำ ตอนนี้เดินทางมุ่งสู่เมืองหรงตูแล้ว”“กล่าวเช่นนี้...” สีหน้าของเหอกังเปลี่ยนเป็นเข้มงวด “กองกำลังเตียนตูไม่คิดที่จะสนใจพวกเรา ทว่ามุ่งตรงไปบุกโจมตีเมืองหรงตู หากสูญเสียเมืองหรงตูไป เช่นนั้นพวกเรา...”เช่นนั้นกองกำลังลาดตระเวนก็เหมือนกับเด็กกำพร้าไร้บ้านหากไปเยือนหรงตูมิได้ พวกเขาก็เป็นทหารเร่ร่อนกลุ่มหนึ่งที่ไม่กำลังสนับสนุนใดๆจากแนวหลัง“เร็วเข้า พวกเราต้องเร่งฝีเท้าในการเคลื่อนทัพ” เหอกังกล่าวเสียงดัง “แผนการเดียวในตอนนี้ พวกเราทำได้เพียงแข่งความเร็วกับเหยียนเชียง”“ข้าว่าวิธีนี้ก็ไร้ผล” เย่ว์หนูที่อยู่ด้านข้างเฉินฝานส่ายหน้ากล่าวเสียงเบา “พละกำลังของกองกำลังเมืองเตียนตูมีม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 727

    เฉินฝานเดินอยู่ด้านหน้า ฉินเย่ว์เจียวลากศพของเหยียนอิง สองคนเรียงรายเดินออกจากกระโจมไปสถานการณ์รบด้านนอกจวนจะเข้าใกล้จุดสิ้นสุดแล้วห่าธนูในคราเดียว กองกำลังเมืองเตียนตูสามพันกว่าคนนี้ ทุกคนล้วนถูกลูกธนูของกองกำลังลาดตระเวนปักราวกับเม่นเหอจื่อหลินพาคนไปตรวจสอบว่ามีกองกำลังเมืองเตียนตูที่ยังตายไม่สนิทหรือไม่ ดังนั้นจึงเกิดเสียงการแทงซ้ำและเสียงโอดครวญเป็นครั้งคราว“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”เมื่อเห็นเฉินฝานแล้ว เหล่านายทหารพากันคุกเข่าเฉินฝานลนลานรีบทำท่าขอให้ลุกขึ้น “ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้นเถอะ”นายทหารเหล่านั้นโน้มศีรษะติดกับพื้นจึงยอมลุกขึ้นยืนนับตั้งแต่ที่เข้ากระโจมจนมาถึงตอนที่ออกจากกระโจมมา ห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เหล่ากองกำลังลาดตระเวนด้านหน้าเฉินฝาน ทุกคนล้วนมีชีวิตชีวาพวกเขาทหารผู้ดีทหารไร้ประโยชน์ที่ถูกฝูงชนหัวเราะเยาะ ในเวลาสั้นๆครึ่งชั่วโมง สามารถกำจัดพลทหารม้าของกองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งกลุ่มได้ทั้งหมดต่อจากนี้ จะคอยดูว่าผู้ใดจะกล้ากล่าวว่าพวกเขาไร้ประโยชน์ได้อีก!เหล่าทหารเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เหอกังรีบรุดหน้าเข้ามาทันที สีหน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 726

    เหยียนอิงถูกฉินเย่ว์เจียวนำน้ำเย็นหนึ่งถังราดใส่จนตื่น“อ้าก!”“ใครกัน? ชาติชั่วผู้ใดรนหาที่ตาย บังอาจใช้น้ำราดใส่ข้า!”เหยียนอิงที่ถูกปลุกให้ตื่นด้วยความตกใจเด้งตัวกระโดดลงจากเตียง คว้าดาบใหญ่ข้างกายขึ้นมา ต้องการจะฟันออกไปตอนที่เขาเห็นชัดเจนว่าคนที่ยืนข้างเตียงเขาคือฉินแย่ว์เจียว วางดาบลงทันที พลันปรากฏรอยยิ้มสัปดน“เจ้าหนุ่มหน้าปลาเก๋านั้น สามารถจัดการเรื่องต่างๆ เพราะถวิลหาสาวน้อยที่งดงามเช่นนี้ ข้าก็แปลกใจหรอก”“แม่สาวน้อย เจ้าจะมาด้วยตนเองหรือต้องการให้ข้าช่วย!”“ข้าว่าข้าช่วยเจ้าดีกว่า เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”เหยียนอิงหัวเราะร่าลุกขึ้นยืน กำลังจะโถมตัวใส่ร่างของฉินเย่ว์เจียว“ปึก!”จอกสุราหนึ่ง ลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียว ชนเข้ากับใบหน้าของเหยียนอิงอย่างรุนแรง“อ้าก!”เหยียนอิงที่ได้รับบาดเจ็บตะโกนลั่น ยื่นมือออกไปคิดที่จะคว้าดาบใหญ่ของเขาอีกครั้ง“ปึก!”มีวัตถุหนึ่งชิ้นลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียวอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่จอกสุรา ทว่าเป็นเกาทัณฑ์ดอกเหมยหนึ่งลูกนี่เป็นหนึ่งในอาวุธลับมากมายที่ฉินเย่ว์เหมยมอบให้เฉินฝาน เกาทัณฑ์ดอกเหมยใช้งานง่ายที่สุด วันที่สองข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 725

    ฉกฉวยโอกาสยามราตรี กองกำลังลาดตระเวนสองหมื่นนาย สามารถข้ามแม่น้ำลวี่สุ่ยครั้งที่สองได้แล้วคนมากมายเพียงนี้ กล่าวไม่มีลาดเลาอันใดแม้แต่น้อย นั้นเป็นเรื่องโกหกตอนที่กองกำลังลาดตระเวนข้ามฝั่ง ทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูที่ลาดตระเวนผู้หนึ่งพบเห็น“คน มีคนจำนวนมากกำลังข้ามฝั่ง” กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นกล่าวกับสหายร่วมรบของตนคำพูดของกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้น ไม่เพียงไม่ได้รับความใส่ใจจากสหายร่วมรบเท่านั้น ยังถูกสหายร่วมเขกกะโหลกหนึ่งที“เป็นเพราะไม่นอน ตาพร่ามัวไปแล้วหรือ ข้ามฝั่งอันใดกัน?” สหายร่วมรบชี้ไปที่แม่น้ำ “ดูสิ ด้านบนมีเรือหรือไม่? ไม่มีเรือจะข้ามฝั่งมาได้เยี่ยงไร”“ทว่า...”กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นหันกลับไปชำเลืองมองอีกครั้ง “ข้าเห็นจริงๆ เหมือนว่าพวกเขาไม่ได้นั่งเรือข้ามมา ทว่าเดินบนผิวน้ำมา”สะพานลอยไม่โผล่ขึ้นมาผิวน้ำทั้งหมด ดูแล้วก็เหมือนกับคนกำลังเดินผิวน้ำจริงๆกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นถูกสหายร่วมรบของตนเขกกะโหลกอีกครั้ง “เดินบนผิวน้ำ? นับถือที่เจ้าพูดเช่นนี้ออกมาได้ ที่เจ้าเห็นมิใช่คน แต่เจ้าเห็นผีแล้วต่างหาก!”“ที่ข้าเห็นเป็นผีงั้นรึ?”“จะไม่ใช่ได้อย่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 724

    “สร้างสะพานลอยเช่นนี้ กองกำลังเมืองเตียนตูฝั่งตรงข้ามคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆหรอกกระมัง”“พวกเจ้าพูดถูก” เฉินฝานกล่าว “กองกำลังเมืองเตียนตูคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆ ดังนั้นที่พวกเราสามารถสร้างได้เป็นสะพานลอยใต้น้ำ”เฉินฝานนำแผนที่ออกมา มือวางไว้ที่แม่น้ำลวี่สุ่ย “ตรงส่วนนี้ พื้นที่แม่น้ำค่อนข้างแคบ สายน้ำก็ค่อนข้างไหลเชี่ยวเช่นกัน กองกำลังเมืองเตียนตูจะต้องคาดไม่ถึงว่าพวกเราจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวเป็นแน่ ดังนั้นช่วงนี้การลาดตระเวนของกองกำลังเตียนตูต้องไม่เข้มงวดเพียงนั้นเป็นแน่ ความสามารถทางน้ำของกองกำลังหญิงยอดเยี่ยม พวกนางสามารถฉกฉวยโอกาสยามราตรี ดำน้ำลงไปในแม่น้ำสร้างสะพาน”ในตอนแรกที่ฝึกกองกำลังหญิง ตามปกติแล้วก็ฝึกตามที่หน่วยรบพิเศษฝึกฝน ดังนั้นการดำน้ำสร้างสะพานประเภทนี้ชำนาญเป็นธรรมดาอยู่แล้ว“สหายกองกำลังลาดตระเวน เพียงแค่ตระเตรียมเถาวัลย์และกิ่งไม้ให้พร้อมก็ใช้ได้แล้ว”ขั้นตอนในการสร้างสะพาน เป็นดังที่เฉินฝานคาดการณ์ไว้ กองกำลังเมืองเตียนตูคาดไม่ถึงว่าพวกเฉินฝานจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว และสิ่งที่คาดไม่ถึง คิดเหนือชั้นไปอีก คือพวกเฉินฝ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 723

    “ใต้เท้าเฉิน ไยเจ้ายังคิดที่จะล้อเล่นอีก!” เหอกังสีหน้าจริงจัง เขาออกคำสั่งกับเหอจื่อหลิน “จื่อหลิน เจ้าปกป้องใต้เท้าเฉินให้ออกจากป่าไปในคืนนี้ มุ่งหน้าสู่หรงตู”“ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้า...”“ใต้เท้าเฉิน ข้ารู้ว่าเจ้าอยากอยู่ ทว่าพวกเราไม่สามารถเสี่ยงอันตรายเรื่องนี้ได้ หากสูญเสียเจ้าไป ต้าชิ่งของพวกเราก็ถึงจุดจบจริงๆแล้ว”เหอกังพูดขัดคำพูดเฉินฝานก่อนที่จะออกเดินทางครั้งนี้ ฉินเย่ว์เหมยลอบนัดพบพ่อลูกตระกูลเหอลับๆ ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้นให้พ่อลูกตระกูลเหอต้องปกป้องชีวิตของเฉินฝานไว้กล่าวว่า หากไร้ซึ่งเฉินฝาน ต้าชิ่งก็สูญสลายเช่นกันคำพูดของฉินเย่ว์เหมย เหอกังเห็นด้วยทั้งหมดตอนนี้ต้าชิ่งมีทั้งศึกภายในและภายนอก ขุนนางทุจริตกุมอำนาจ หากไม่มีเฉินฝาน ก็มิมีใครสามารถต่อกรกับเสิ่นหมิงหยวนได้“ท่านแม่ทัพใหญ่!” เฉินฝานทำมือเคารพให้เหอกัง “ขอบคุณความไว้วางใจของท่านแม่ทัพใหญ่ที่มีต่อข้าน้อย ในเมื่อท่านแม่ทัพคิดว่าข้าน้อยสามารถช่วยต้าชิ่งให้รอดพ้นได้ เช่นนั้นไยไม่เชื่อมั่นให้ข้าน้อยทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูพ่ายแพ้กันล่ะ?”“ใต้เท้าเฉิน ข้าเชื่อมั่นว่าท่านมีความสามารถเช่นนั้นอยู่แล้ว ทว่าการจะหล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 722

    ระเบิดดินที่ฝังไว้ จวนจะได้แผลงฤทธิ์แล้ว ม้าและพลทหารที่ถูกระเบิดจนลอยขึ้นจะบรรเทาการปิดล้อมของกองกำลังเมืองเตียนตูได้ชั่วคราวผ่านไปไม่นานนัก ท้องฟ้าก็มืดสนิทเมื่อท้องฟ้ามืดแล้ว เหล่าทหารลาดตระเวนล้วนถอนหายใจอย่างโล่งอกพวกเขาปลอดภัยชั่วคราวแล้วต่อให้กองกำลังเมืองเตียนตูจะเก่งกาจเพียงใด ก็ไม่สามารถจะหาญกล้าบุกโจมตีเข้ามาในป่าตอนกลางคืนเหยียนเชียงที่เป็นผู้นำกองกำลังหนึ่งแสนคนของเมืองเตียนอันก็ไม่ได้รีบร้อน ตอนที่ฟ้ายังไม่ทันมืด เขาก็ออกคำสั่งให้คนไปตั้งค่ายทหารแล้ว“ท่านเจ้านครฝ่ายขวา เส้นทางที่จะระเบิด จวนจะไม่มีแล้ว กองทัพของข้าสามารถโจมตีตามไปได้ จัดการพวกเขาให้หมด เพื่อขจัดอุปสรรคในการเข้าเมืองหลวงของท่านอ๋อง”แม่ทัพสองสามคนเป็นฝ่ายขอออกทัพกับเหยียนเชียงก่อนปัญญาชนหน้าใสเฉินฝานอยู่ในป่า จับเป็นเขาได้สามารถได้เงินห้าหมื่นตำลึงทองการบุกเข้าป่ายามราตรีเรื่องต้องห้ามเช่นนี้ กองทัพเมืองเตียนตูมิได้หวาดกลัวอย่างไรเสียก็เป็นเงินห้าหมื่นตำลึงทองเชียวนะใครจะไม่อยากได้กันเหยียนเชียงจ้องแม่ทัพที่มาขอออกรบก่อนเหล่านั้น “เรื่องที่ว่าจะขจัดอุปสรรคทางไปเมืองหลวงให้ท่านอ๋องอะไ

DMCA.com Protection Status