แชร์

บทที่ 165

ผู้แต่ง: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“เอ่อ เอ่อ...ท่านปู่ของข้ามาเข้าฝัน”

หากยอมรับว่าตนพูดจาเหลวไหล เช่นนั้นผู้เฒ่าหลี่ก็ไม่ถูกเรียกว่าจอมปากเสียแล้ว

“ปู่ของท่านยังเข้าฝันข้า บอกให้ข้าสั่งสองท่าน!”

เฉียนลิ่วยกไม้เท้าขึ้น เคาะศีรษะผู้เฒ่าหลี่

ผู้เฒ่าหลี่เอามือป้องศีรษะพูดแก้ตัว

“ข้าไม่ได้พูดเกินจริง ข้าพูดความจริงทุกอย่าง ท่านปู่มาเข้าฝันข้าจริงๆ”

“ท่านปู่บ้าบออะไร โลกใบนี้มีเทพเซียนผีสางเสียที่ไหน หากมี เหตุใดข้าจึงไม่เคยพบเจอมาก่อน?”

“เจ้าไม่เคยเห็น ไม่ได้แปลว่าคนอื่นไม่เคยเห็น”

“อ่อ!” เฉียนลิ่วพยักหน้าถามผู้เฒ่าหลี่ “เช่นนั้นท่านเคยเห็นหรือ เล่าให้ข้าฟังสิ พวกเขาหน้าตาอย่างไร?”

“ข้า...” ผู้เฒ่าหลี่กลอกตาไปมา “ข้าไม่เคยเห็น แต่ข้าไม่เคยเห็น ไม่ได้แปลว่าคนอื่นไม่เคยเห็น”

“อื้ม! ท่านไม่เคยเห็น ข้าไม่เคยเห็น เช่นนั้น...” เฉียนลิ่วหันไปมองชาวบ้าน “ไม่ทราบว่าพวกท่านเคยเห็นหรือไม่?”

ทุกคนเงียบไปชั่วขณะแล้วค่อยมีคนส่ายหน้า

มีคนแรก ก็มีคนที่สอง ทุกคนต่างบอกว่าไม่เคยเห็น

“ทุกคนล้วนไม่เคยเห็น ข้าว่าเรื่องนี้...”

เฉียนลิ่วเงียบครู่หนึ่ง แล้วค่อยพูด

“มีคนริษยาเฉินฝาน อิจฉาพี่น้องตระกูลฉินที่ตอนนี้มีชีวิตที่ดี หลังจาก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 166

    “เฮ้อ!” ผู้เฒ่าหลี่ส่ายหน้าแล้วพูด “ปัญญาชนแตกต่างกับชาวบ้านทั่วไปจริงๆ แม้แต่ภรรยาของปัญญาชนก็ยังพูดเก่งเช่นนี้”“แน่นอน อนาคตพี่เจียงจะได้เป็นถึงขุนนาง พี่เหลียนฮวาก็จะได้เป็นฮูหยินของท่านใต้เท้า สิ่งที่พวกเขาพบเจอย่อมแตกต่างจากพวกเจ้า”“ก็จริง พอเหลียนฮวาพูดแล้วก็แตกต่างออกไป พวกเราไม่อาจลบหลู่เทพเซียน”“ใช่ๆ โชคดีที่เหลียนฮวาเตือน มิเช่นนั้นวันนี้พวกเราทำผิดต่อเทพเซียนโดยไม่รู้ตัว”ภายใต้คำชื่นชม แววตาของจางเหลียนฮวาฉายความผยองความเป็นจริงถ้อยคำนี้ นางไม่ได้เป็นคนคิด เหนือศีรษะสามฟุตมีเทพเทวา ปัญญาชนกราบไว้หลี่ฟูจื่อทุกวัน ฮ่องเต้ก็ทำพิธีเซ่นไหว้ทุกฤดูวสันต์ ทั้งหมดนี้เป็นเนื้อหาในหนังสือที่เฉินเจียงงอ่านให้นางฟังตลอดหลายวันที่ผ่านมา“แม้ปกติผู้เฒ่าหลี่พูดจาเหลวไหล แต่เขาเคารพบรรพบุรุษของตนเองมาก”“อื้ม เหลียนฮวาพูดถูก นอกจากกราบไหว้บรรพบุรุษช่วงเทศกาลแล้ว ทุกวันที่หนึ่งและสิบห้าของเดือนผู้เฒ่าหลี่ก็จุดธูปกราบไหว้บรรพบุรุษเช่นเดียวกัน”“เช่นนี้ การที่บรรพบุรุษของเขามาเข้าฝัน ข้ารู้สึกว่าเป็นไปได้”คำพูดเพียงไม่กี่ถ้อยคำของจางเหลียนฮวา ทำให้ทุกคนคล้อยตามอีกครั้ง“ถูกต้อ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 167

    “เฮ้อ!” เฉินต้ายาถอนหายใจแล้วส่ายหน้า“เมื่อก่อนข้ามักได้ยินท่านแม่บอกว่า ตั้งครรภ์ครั้งหนึ่งโง่เขลาสามปี ก่อนหน้านี้ข้าไม่เชื่อ ตอนนี้ข้าได้ยินสิ่งที่น้าสะใภ้พูด ข้าเชื่อแล้วจริงๆ น้าสะใภ้ อาการของท่านต้องรีบหาหมอรับยามาทาน มิเช่นนั้นวันข้างหน้าจะยิ่งอยู่ยิ่งโง่เขลาเจ้าค่ะ”“พี่สะใภ้เหลียนฮวา!” นางหลี่พูดกระซิบข้างหูจางเหลียนฮวา “คล้ายนางบอกว่าท่านโง่เขลา ทั้งยังป่วยต้องรีบรักษา”นางหลี่คิดว่าตนพูดเบา แต่ความเป็นจริงชาวบ้านได้ยินอย่างชัดเจน“ฮ่าๆ!”มีคนกลั้นหัวเราะไม่อยู่จางเหลียนฮวาอับอายจนโมโห “เฉินต้ายา เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”ในตอนนั้นทำให้เฉินเจียงหย่ากับจ้าวเสี่ยวหง เฉินต้ายาจะตกใจง่ายๆ เพราะจางเหลียนฮวาได้อย่างไร นางทั้งน้อยเนื้อต่ำใจทั้งเป็นผู้บริสุทธิ์“อาสะใภ้ ท่านโมโหทำไมเจ้าคะ หลานเป็นห่วงท่านจากใจจริง รีบหาหมอ รีบรักษา อย่าปล่อยทิ้งไว้เจ้าค่ะ”ในตอนนั้นจางเหลียนฮวาก็เป็นคนที่เอาชนะจ้าวเสี่ยวหงได้ เพียงไม่นานก็ใจเย็นลง ยิ้มบางๆ มองเฉินต้ายาแล้วเอ่ยถาม“เช่นนั้นเจ้าพูดมาสิ อาสะใภ้คนนี้ของเจ้าโง่เขลาอย่างไร?”เฉินต้ายาเองก็ยิ้มเช่นเดียวกัน ก่อนหน้านี้นางปูทางไว้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 168

    กระเบื้องและคานไม้ที่สั่งเมื่อหลายวันก่อนส่งมาถึงหมู่บ้านทั้งหมดแล้ว หลังจากมอบหมายเรื่องส่งปลาในทุกวันให้เฉินผิงและเฉียนลิ่วรับผิดชอบ เฉินฝานก็ง่วนอยู่กับการซ่อมบำรุงบ้านนอกจากบ้านของเขาแล้ว ยังมีบ้านของฉินเต๋อโห่ว ฉินเต๋อโห่วกลับเข้าไปอยู่บ้านหลังเดิมแล้วโชคดีที่มีแค่คนชราสองคน ปลูกบ้านสองหลังก็พออยู่อาศัยแล้ว มิเช่นนั้น ไม่พอทั้งเงินและเวลาเฉินฝานไปกลับระหว่างหมู่บ้านซานเหอและหมู่บ้านตระกูลฉินประมาณสิบกว่าวัน ในที่สุดก็ซ่อมบ้านเสร็จ ก่อนที่พายุหิมะใหญ่ปิดถนนจะเกิดขึ้นช่วงระยะเวลาที่ซ่อมบ้าน เฉินฝานและครอบครัวพักที่บ้านของเฉินผิง ในที่สุดวันนี้ก็ย้ายกลับไปแล้วหลังจากล้างหน้าแปรงฟันเสร็จเฉินเย่ว์ฉู่ขึ้นไปนอนบนแตกเป็นคนแรก นางกลิ้งตัวไปมาบนเตียงหลังใหม่ด้วยความดีใจช่วงเวลานี้ ท่ามกลางความรักของเฉินฝาน ฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์โหรวรวมถึงการมีเอ้อร์ยามาอยู่เคียงข้าง ทำให้ฉินเย่ว์ฉู่สดใสขึ้นมาก ในที่สุดนางก็ไม่มีอะไรแตกต่างจากเด็กสาววัยสิบขวบฉินเย่ว์โหรวขึ้นเตียงเป็นคนที่สอง นางนอนอยู่บนเตียง อ้าแขนทั้งสองข้างขึ้นพร้อมเงยหน้ามองเพดาน พูดด้วยความผ่อนคลาย “ในที่สุดก็กลับมาแล้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 169

    แม้พี่สาวทั้งสองไม่ได้พูดอะไร แต่จากการพูดคุยกับเอ้อร์ยาตลอดระเวลาที่ผ่านมานี้ ทำให้นางรู้ว่าพี่สาวทั้งสองคนที่นางเคยโกรธพวกนางที่ไม่มาช่วยตน แท้จริงแล้วก็ไม่มีชีวิตที่สุขสบายเท้าของพี่สี่ถูกทุบตีจนหัก ทั้งยังเกือบถูกขายให้หอนางโลมอี๋ชุนย่วนแม้พี่สามจะมีฝีมือด้านการต่อสู้ แต่ก็ไม่กล้าตอบโต้ ทำได้เพียงถูกทุบตีไปพร้อมกับพี่สี่ นางมักจะปกป้องพี่สี่ตอนโดนทุบตี ทำให้บาดแผลบนตัวนางมีมากกว่าพี่สี่แค่ว่านางแข็งแกร่งเท่านั้น จึงไม่พิการ“พวกพี่ๆ เมื่อก่อนข้าไม่ควรโกรธเคืองพวกท่าน เมื่อก่อนพวกท่านก็ไม่ได้มีชีวิตที่ดี”เมื่อฉินเย่ว์ฉู่พูด ฉินเย่ว์โหรวก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป น้ำตารินไหล ร้องไห้สะอึกสะอื้นเมื่อนางร้องไห้ ฉินเย่ว์ฉู่ก็ร้องไห้ตามขอบตาของฉินเย่ว์เจียวแดงก่ำ แต่นางดึงสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว“วันนี้พวกเราเท่ากับอยู่บ้านหลังใหม่ วันมงคลเช่นนี้ พวกเจ้ากลับร้องไห้เสียใจ ประเดี๋ยวนายท่านเห็นเข้า ต้องไม่พอใจแน่ๆ”ฉินเย่ว์เจียวอ้างชื่อเฉินฝาน ฉินเย่ว์โหรวและฉินเย่ว์ฉู่รีบเช็ดน้ำตาความเป็นจริงบทสนทนาของพวกเขา น้ำตาของพวกเขา เฉินฝานได้ยินและเห็นแล้วเขาล้างหน้าแปรงฟันเป็นคนสุดท้าย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 170

    “ถ้วยชามและตะเกียบในเรือนมีไม่มาก ทั้งยังเก่าควรซื้อชุดใหม่หนึ่งชุดเจ้าค่ะ”“ได้!”“แล้วก็ถังข้าวสารด้วยเจ้าค่ะ ก็ต้อง...”“เหตุใดพี่สี่เป็นคนพูดตลอดเลย ทางข้าก็มีสิ่งที่ต้องซื้อเหมือนกัน” ฉินเย่ว์ฉู่เบ้ปากด้วยความไม่สบอารมณ์“ได้ๆ เย่ว์โหรวเจ้าหยุดก่อน ถึงคราวของเสียวฉู่พูดแล้ว”เฉินฝานส่ายหน้าด้วยความจนปัญญา เด็กจริงๆ“นายท่าน ข้าจะซื้อตู้เสื้อผ้าเจ้าค่ะ ตอนนี้ในเรือนมีแค่อันเดียว ทั้งยังเก่าและเล็ก ใส่เสื้อผ้าได้ไม่กี่ตัวเท่านั้น”ฉินเย่ว์โหรวและฉินเย่ว์ฉู่เป็นคนซักผ้า แต่ตากผ้า เก็บผ้าและพับผ้างานสบายเช่นนี้ เป็นหน้าที่ของฉินเย่ว์ฉู่“อื้ม เสียวฉู่พูดถูก ต้องซื้อตู้เสื้อผ้าจริงๆ แต่ว่า...” เฉินฝานมองสามพี่น้อง “อันหนึ่งไม่พอ น้อยสุดต้องซื้อห้าอัน”“ห้าอัน?” สีหน้าของสามพี่น้องฉายความตกใจ “เยอะเกินไปแล้วกระมังเจ้าคะ”“นายท่าน แม้คุณภาพชีวิตของพวกเราตอนนี้จะดีขึ้น มีเงินเยอะขึ้นด้วย แต่ก็ไม่อาจใช้จ่ายเช่นนี้”ฉินเย่ว์โหรวจอมรักเงินเริ่มบ่น“ไม่มาก ตู้เสื้อผ้าห้าอัน อันหนึ่งเก็บพวกผ้าห่ม อีกสี่อัน พวกเราคนละหนึ่งอัน”“คนละหนึ่งอันหรือเจ้าคะ? พวกเราจะเอาเสื้อผ้ามากมายจากไห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 171

    “เจ้าจะเปลี่ยนธนูคันใหม่หรือไม่?”ฉินเย่ว์เจียวหันกลับมาขวับและจ้องเฉินฝานอยู่นานกว่าจะพูด“ข้า……ไม่อยากเปลี่ยน!”เมื่อก่อน เฉินฝานเตือนนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นผู้หญิงใช้ธนูอะไรกันเขาไม่อนุญาตให้นางสัมผัสธนูมาระยะหนึ่งแล้ว นางกังวลว่าเฉินฝานเพียงต้องการทดสอบนาง“ไม่เปลี่ยนจริงหรือ? เช่นนั้นก็ช่าง…...”“จริงหรือเจ้าคะ?” ฉินเย่ว์เจียวเกือบจะตะครุบเฉินฝานเฉินฝานก้มศีรษะลงเล็กน้อยและเห็นใบหน้าที่สวยงามของฉินเย่ว์เจียว ดวงตาที่เหมือนหยดน้ำของนางเต็มไปด้วยความคาดหวัง โหนกแก้มสองข้างแดงก่ำ รอบตัวเต็มไปด้วยลมหายใจที่มีชีวิตชีวาเฉินฝานอดไม่ได้จึงแตะปลายจมูกของฉินเย่ว์เจียวแผ่วเบา “จริงสิ”เขาไม่ใช่คนโบราณ ความคิดของเขาก็ไม่ได้ล้าหลังขนาดนั้น ผู้หญิงไม่สามารถร่ำเรียนหรือรู้ศิลปะการต่อสู้ได้ล้วนแต่เป็นสิ่งเพ้อเจ้อเมื่อก่อนเขาไม่อนุญาตให้นางใช้ เพราะนางระวังเขามากเกินไป ที่สำคัญก็มีนิสัยหุนหันพลันแล่น เขากลัวว่านางจะก่อปัญหาจึงไม่ให้นางใช้ตอนนี้ไม่ต้องกังวลแล้วสมัยโบราณแตกต่างจากสมัยปัจจุบัน บางทีก็มีสัตว์ป่าปรากฏตัว ประกบอกับสถานการณ์ในปัจจุบันไม่ดีและการรักษาความปลอดภัยก็ยุ่งเหยิ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 172

    “เช่นนั้นข้าขอปิ่นปักยาวดอกไม้มุกหนึ่งอันก็พอแล้ว”ใบหน้าที่อ่อนโยนและเรียบนิ่งของฉินเย่ว์โหรว แสดงไว้ด้วยรอยยิ้มอันแสนหวานคำว่า “ดอกไม้มุก” สามคำ เผยให้เห็นถึงความชอบในความงามของนาง“แค่ปิ่นยาวดอกไม้มุกหนึ่งอันได้อย่างไร? ข้าบอกแล้วว่าห้าอย่างก็ต้องมีห้าอย่างสิ”“นายท่านพูดถูก” ฉินเย่ว์ฉู่เอียงหัว ดวงตาไข่มุกสีดำจ้องไปที่ฉินเย่ว์ฉู่“พี่สี่ พี่เกิดมาสวยขนาดนี้ มีแค่ปิ่นยาวอย่างเดียวไม่พอจริง ๆ พี่ควรมีปิ่นระย้า ปิ่นสับ[footnoteRef:1] ปลอกแขนและสายคาดเอวพวกนี้ด้วย” [1: ปิ่นสับ คือ ส่วนหัวของปิ่นทำเป็นแผ่นทรงเหลี่ยมหรือทรงกลม] “ไม่ได้ ๆ ของเหล่านี้มีแต่บุตรีคนโตกับคุณหนูตระกูลร่ำรวยเท่านั้นถึงจะใช้ได้ ถ้าข้าใส่มันคงจะดูโอ่อ่าเกินไป”“อะไรที่ไม่เหมาะสม เรายังไม่ซื้อตอนนี้ อันไหนที่เหมาะสม พวกเจ้าค่อยซื้อพรุ่งนี้ วันหลังเมื่อพวกเรากลายเป็นตระกูลใหญ่ สิ่งที่เย่ว์ฉู่กล่าวถึงเหล่านั้นข้าจะชดเชยให้ทั้งหมด”คำพูดประโยคหลังของเฉินฝาน ไม่เพียงแต่พูดกับภรรยาของเขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงตัวเขาด้วย“ซื้อสร้อยหยกและพลอยที่สวมใส่ตรงคอแบบเรียบง่ายให้กับเสียวฉู่เถอะเจ้าค่ะ” ฉินเย่ว์โหรวกล่า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 173

    “อืม”เสียงงึมงำที่เกียจคร้านและละเอียดอ่อนดังมาจากอ้อมแขนของเฉินฝาน และมีสิ่งนุ่มนวลและอบอุ่นกำลังดิ้นเล็กน้อยอยู่ในอ้อมแขนของเขาทันทีที่เฉินฝานเคลื่อนไหว เสียงงึมงำดังขึ้นต่อเนื่องพร้อมกับขยับตัวเข้าไปในอ้อมแขนและทิ้งศีรษะลงบนแขนของเขาตามมาด้วยกลิ่นหอมสดชื่นแตะที่ปลายจมูกนี่คือ......“หนาว~” เป็นเสียงพึมพำที่แผ่วเบาและอ่อนโยนเป็นเสียงของฉินเย่ว์โหรวหืม?ทำไมนางถึงนอนในอ้อมแขนของเขา?เฉินฝานถอยตัวออกเล็กน้อยตามสัญชาตญาณ พยายามคิดว่าเกิดสิ่งใดขึ้นปรากฏว่า เมื่อเขาเพิ่งถอยตัว…...เท้าเล็ก ๆ ข้างหนึ่งก็พาดจากอีกข้างขึ้นมาอยู่บนท้องของเขาเฉินฝานหันกลับมาก็พบว่ามีหัวเล็กปุกปุยอยู่ตรงหน้าเด็กอายุสิบขวบจะมีท่านอนที่ดีได้อย่างไร ขาข้างหนึ่งพาดอยู่บนท้องของเฉินฝาน จากนั้นขาอีกข้างหนึ่งก็พาดขึ้นไปอีกทั้งตัวอยู่ในแนวนอนอย่างสมบูรณ์ ท่านอนนั้นเผด็จการยิ่งนัก“เสียวฉู่ อย่าขยับสิ!”ฉินเย่ว์เจียวที่อยู่ริมสุดตีฉินเย่ว์ฉู่หนึ่งทีแล้วหันหลังกลับไปนอนต่อ“นายท่าน!”ฉินเย่ว์เจียวที่เพิ่งหันกลับไปพลันลุกขึ้นนั่งเมื่อพบว่าน้องสาวนอนหลับในสภาพระเกะระกะบนตัวเฉินฝาน นางก็แสดงสีห

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 730

    เหอกังนิ่งเงียบไปเพียงหนึ่งวินาที“ทหารทั้งหมดจงฟังคำสั่ง!” เหอกังยกป้ายสั่งการทหารขึ้นสูง “ถอยทัพกลับลำไปทางเดิม!”ระหว่างที่ถอยกลับทางเดิม เฉินฝานยังให้เหอกังออกคำสั่งอีกสองเรื่องคำสั่งแรก นายทหารทุกคนถอดชุดเกราะเครื่องหัวออก ก็คือให้ทุกคนถอดหมวกเหล็กบนหัวออก นำเสื้อผ้าห่อไว้ มัดไว้ที่เอวกองกำลังยุคโบราณ เพื่อที่แยกมิตรและศัตรู ชุดเกราะเครื่องหัวจะมีสัญลักษณ์สัญลักษณ์บนชุดเกราะเครื่องหัวของกองกำลังลาดตระเวนคือพู่ระย้าสีแดงสีแดงสะดุดตาเกินไป ไม่สะดวกในการหลบหลีกคำสั่งที่สอง ทุกคนต้องเก็บกิ่งที่มีใบไม้มาสองสามชิ้น มัดรวมให้เป็นวงกลม สวมไว้บนศีรษะตอนที่ออกคำสั่งทั้งสองนี้ เหอกังก็ตัดหัวนายทหารไปอีกหนึ่งคนเพราะสองคำสั่งนี้ ก็ไม่ต่างอันใดกับการล่าถอยกลับทางเดิม เหลวไหลสิ้นดีไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือลูกน้องในกองกำลังลาดตระเวนทั้งหมด คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจที่คาดหัวใบไม้หนึ่งชิ้น จะสามารถรักษาชีวิตได้กว่าชุดเกราะเครื่องหัวที่ทำจากเหล็กงั้นหรือ?เฉินฝานไม่ได้ผิดปกติจริงๆใช่หรือไม่?กลับไปถึงสถานที่กวาดล้างพลทหารม้าสามพันคนของเหยียนอิง เฉินฝานออกคำสั่งให้หยุดเคลื่อนทัพในขณ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 729

    เฉินฝานอมยิ้มพลางพยักหน้า “ถูกต้อง หากไม่ยั่วโมโหอ๋องเจิ้งหนาน หลี่เทียนจะออกมาได้อย่างไร”“ทว่า ทำเช่นนี้เป็นการทำให้พวกเราเข้าสู่สภาวะจนตรอกมิใช่หรือ?”“ท่านแม่ทัพ ทำเช่นนี้ สามารถทำให้พวกเรามีชีวิตต่อไปได้!”“เช่นนี้พวกเราจึงสามารถมีชีวิตต่อไปได้งั้นหรือ? ใต้เท้าเฉิน...”เหอกังที่อยู่ด้านข้างหยุดพูดไปครู่หนึ่ง “เจ้าต้องการล่อกองกำลังเมืองเตียนที่เมืองฝูตูให้ออกมา หลังจากนั้นพวกเราก็กลับลำไปยึดโจมตีเมืองฝูตูงั้นหรือ?”“ปิดบังท่านแม่ทัพไม่ได้จริงๆ ข้าน้อยก็มีความประสงค์เช่นนี้ มีเพียงการทำเช่นนี้ เมืองหรงตูและพวกเราจึงยังมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่”“น้องฝาน วิธีนี้น่าอัศจรรย์ก็จริง ทว่า...” สีหน้าของเหอจื่อหลินเปลี่ยนจากสดใสเป็นหม่นหมอง “กองกำลังสามหมื่นคนของหลี่เทียนนั้น ห่างจากพวกเราไม่ถึงห้าสิบลี้แล้ว อิงจากความเร็วของกองกำลังเตียนตู ต้านทานไว้ครึ่งชั่วยาม ก็จะไล่ตามพวกเราทัน พวกเราต้องการโจมตีโต้กลับเมืองฝูตู ก็ต้องหลบหลีกพวกเขาก่อน”“กองกำลังลาดตระเวนมีสองหมื่นเจ็ดพันกว่าคน และมีม้าสงครามที่ไปยึดครองมาเมื่อครู่สามพันตัว เป้าหมายยิ่งใหญ่เช่นนี้ ความยากในหลบหลีกหลี่เทียนยากยิ่งนั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 728

    “ข่าวที่ข้าได้รับมาเมื่อครู่ กองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งแสนคนที่เหยียนเชียงนำทัพไม่ได้ข้ามฝั่งมา”“ไม่ได้ข้ามฝั่งรึ?” เหอกังตกใจอย่างมาก กล่าวด้วยความโมโหทันที “เวลาครึ่งก้านธูปที่แล้วพลส่งข่าวมารายงานว่ากองกำลังหนึ่งแสนคนนั้นของเหยียนเชียงเริ่มข้ามฝั่งแล้วมิใช่หรือ? พลส่งข่าวของเจ้าเป็นอันใดไป จึงรายงานไม่แม่นยำเช่นนี้!”“ท่านพ่อ เมื่อครู่กองกำลังเมืองเตียนข้ามฝั่งจริงๆ ทว่าผ่านไปไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็กลับลำ ตอนนี้เดินทางมุ่งสู่เมืองหรงตูแล้ว”“กล่าวเช่นนี้...” สีหน้าของเหอกังเปลี่ยนเป็นเข้มงวด “กองกำลังเตียนตูไม่คิดที่จะสนใจพวกเรา ทว่ามุ่งตรงไปบุกโจมตีเมืองหรงตู หากสูญเสียเมืองหรงตูไป เช่นนั้นพวกเรา...”เช่นนั้นกองกำลังลาดตระเวนก็เหมือนกับเด็กกำพร้าไร้บ้านหากไปเยือนหรงตูมิได้ พวกเขาก็เป็นทหารเร่ร่อนกลุ่มหนึ่งที่ไม่กำลังสนับสนุนใดๆจากแนวหลัง“เร็วเข้า พวกเราต้องเร่งฝีเท้าในการเคลื่อนทัพ” เหอกังกล่าวเสียงดัง “แผนการเดียวในตอนนี้ พวกเราทำได้เพียงแข่งความเร็วกับเหยียนเชียง”“ข้าว่าวิธีนี้ก็ไร้ผล” เย่ว์หนูที่อยู่ด้านข้างเฉินฝานส่ายหน้ากล่าวเสียงเบา “พละกำลังของกองกำลังเมืองเตียนตูมีม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 727

    เฉินฝานเดินอยู่ด้านหน้า ฉินเย่ว์เจียวลากศพของเหยียนอิง สองคนเรียงรายเดินออกจากกระโจมไปสถานการณ์รบด้านนอกจวนจะเข้าใกล้จุดสิ้นสุดแล้วห่าธนูในคราเดียว กองกำลังเมืองเตียนตูสามพันกว่าคนนี้ ทุกคนล้วนถูกลูกธนูของกองกำลังลาดตระเวนปักราวกับเม่นเหอจื่อหลินพาคนไปตรวจสอบว่ามีกองกำลังเมืองเตียนตูที่ยังตายไม่สนิทหรือไม่ ดังนั้นจึงเกิดเสียงการแทงซ้ำและเสียงโอดครวญเป็นครั้งคราว“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”เมื่อเห็นเฉินฝานแล้ว เหล่านายทหารพากันคุกเข่าเฉินฝานลนลานรีบทำท่าขอให้ลุกขึ้น “ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้นเถอะ”นายทหารเหล่านั้นโน้มศีรษะติดกับพื้นจึงยอมลุกขึ้นยืนนับตั้งแต่ที่เข้ากระโจมจนมาถึงตอนที่ออกจากกระโจมมา ห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เหล่ากองกำลังลาดตระเวนด้านหน้าเฉินฝาน ทุกคนล้วนมีชีวิตชีวาพวกเขาทหารผู้ดีทหารไร้ประโยชน์ที่ถูกฝูงชนหัวเราะเยาะ ในเวลาสั้นๆครึ่งชั่วโมง สามารถกำจัดพลทหารม้าของกองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งกลุ่มได้ทั้งหมดต่อจากนี้ จะคอยดูว่าผู้ใดจะกล้ากล่าวว่าพวกเขาไร้ประโยชน์ได้อีก!เหล่าทหารเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เหอกังรีบรุดหน้าเข้ามาทันที สีหน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 726

    เหยียนอิงถูกฉินเย่ว์เจียวนำน้ำเย็นหนึ่งถังราดใส่จนตื่น“อ้าก!”“ใครกัน? ชาติชั่วผู้ใดรนหาที่ตาย บังอาจใช้น้ำราดใส่ข้า!”เหยียนอิงที่ถูกปลุกให้ตื่นด้วยความตกใจเด้งตัวกระโดดลงจากเตียง คว้าดาบใหญ่ข้างกายขึ้นมา ต้องการจะฟันออกไปตอนที่เขาเห็นชัดเจนว่าคนที่ยืนข้างเตียงเขาคือฉินแย่ว์เจียว วางดาบลงทันที พลันปรากฏรอยยิ้มสัปดน“เจ้าหนุ่มหน้าปลาเก๋านั้น สามารถจัดการเรื่องต่างๆ เพราะถวิลหาสาวน้อยที่งดงามเช่นนี้ ข้าก็แปลกใจหรอก”“แม่สาวน้อย เจ้าจะมาด้วยตนเองหรือต้องการให้ข้าช่วย!”“ข้าว่าข้าช่วยเจ้าดีกว่า เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”เหยียนอิงหัวเราะร่าลุกขึ้นยืน กำลังจะโถมตัวใส่ร่างของฉินเย่ว์เจียว“ปึก!”จอกสุราหนึ่ง ลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียว ชนเข้ากับใบหน้าของเหยียนอิงอย่างรุนแรง“อ้าก!”เหยียนอิงที่ได้รับบาดเจ็บตะโกนลั่น ยื่นมือออกไปคิดที่จะคว้าดาบใหญ่ของเขาอีกครั้ง“ปึก!”มีวัตถุหนึ่งชิ้นลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียวอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่จอกสุรา ทว่าเป็นเกาทัณฑ์ดอกเหมยหนึ่งลูกนี่เป็นหนึ่งในอาวุธลับมากมายที่ฉินเย่ว์เหมยมอบให้เฉินฝาน เกาทัณฑ์ดอกเหมยใช้งานง่ายที่สุด วันที่สองข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 725

    ฉกฉวยโอกาสยามราตรี กองกำลังลาดตระเวนสองหมื่นนาย สามารถข้ามแม่น้ำลวี่สุ่ยครั้งที่สองได้แล้วคนมากมายเพียงนี้ กล่าวไม่มีลาดเลาอันใดแม้แต่น้อย นั้นเป็นเรื่องโกหกตอนที่กองกำลังลาดตระเวนข้ามฝั่ง ทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูที่ลาดตระเวนผู้หนึ่งพบเห็น“คน มีคนจำนวนมากกำลังข้ามฝั่ง” กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นกล่าวกับสหายร่วมรบของตนคำพูดของกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้น ไม่เพียงไม่ได้รับความใส่ใจจากสหายร่วมรบเท่านั้น ยังถูกสหายร่วมเขกกะโหลกหนึ่งที“เป็นเพราะไม่นอน ตาพร่ามัวไปแล้วหรือ ข้ามฝั่งอันใดกัน?” สหายร่วมรบชี้ไปที่แม่น้ำ “ดูสิ ด้านบนมีเรือหรือไม่? ไม่มีเรือจะข้ามฝั่งมาได้เยี่ยงไร”“ทว่า...”กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นหันกลับไปชำเลืองมองอีกครั้ง “ข้าเห็นจริงๆ เหมือนว่าพวกเขาไม่ได้นั่งเรือข้ามมา ทว่าเดินบนผิวน้ำมา”สะพานลอยไม่โผล่ขึ้นมาผิวน้ำทั้งหมด ดูแล้วก็เหมือนกับคนกำลังเดินผิวน้ำจริงๆกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นถูกสหายร่วมรบของตนเขกกะโหลกอีกครั้ง “เดินบนผิวน้ำ? นับถือที่เจ้าพูดเช่นนี้ออกมาได้ ที่เจ้าเห็นมิใช่คน แต่เจ้าเห็นผีแล้วต่างหาก!”“ที่ข้าเห็นเป็นผีงั้นรึ?”“จะไม่ใช่ได้อย่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 724

    “สร้างสะพานลอยเช่นนี้ กองกำลังเมืองเตียนตูฝั่งตรงข้ามคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆหรอกกระมัง”“พวกเจ้าพูดถูก” เฉินฝานกล่าว “กองกำลังเมืองเตียนตูคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆ ดังนั้นที่พวกเราสามารถสร้างได้เป็นสะพานลอยใต้น้ำ”เฉินฝานนำแผนที่ออกมา มือวางไว้ที่แม่น้ำลวี่สุ่ย “ตรงส่วนนี้ พื้นที่แม่น้ำค่อนข้างแคบ สายน้ำก็ค่อนข้างไหลเชี่ยวเช่นกัน กองกำลังเมืองเตียนตูจะต้องคาดไม่ถึงว่าพวกเราจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวเป็นแน่ ดังนั้นช่วงนี้การลาดตระเวนของกองกำลังเตียนตูต้องไม่เข้มงวดเพียงนั้นเป็นแน่ ความสามารถทางน้ำของกองกำลังหญิงยอดเยี่ยม พวกนางสามารถฉกฉวยโอกาสยามราตรี ดำน้ำลงไปในแม่น้ำสร้างสะพาน”ในตอนแรกที่ฝึกกองกำลังหญิง ตามปกติแล้วก็ฝึกตามที่หน่วยรบพิเศษฝึกฝน ดังนั้นการดำน้ำสร้างสะพานประเภทนี้ชำนาญเป็นธรรมดาอยู่แล้ว“สหายกองกำลังลาดตระเวน เพียงแค่ตระเตรียมเถาวัลย์และกิ่งไม้ให้พร้อมก็ใช้ได้แล้ว”ขั้นตอนในการสร้างสะพาน เป็นดังที่เฉินฝานคาดการณ์ไว้ กองกำลังเมืองเตียนตูคาดไม่ถึงว่าพวกเฉินฝานจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว และสิ่งที่คาดไม่ถึง คิดเหนือชั้นไปอีก คือพวกเฉินฝ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 723

    “ใต้เท้าเฉิน ไยเจ้ายังคิดที่จะล้อเล่นอีก!” เหอกังสีหน้าจริงจัง เขาออกคำสั่งกับเหอจื่อหลิน “จื่อหลิน เจ้าปกป้องใต้เท้าเฉินให้ออกจากป่าไปในคืนนี้ มุ่งหน้าสู่หรงตู”“ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้า...”“ใต้เท้าเฉิน ข้ารู้ว่าเจ้าอยากอยู่ ทว่าพวกเราไม่สามารถเสี่ยงอันตรายเรื่องนี้ได้ หากสูญเสียเจ้าไป ต้าชิ่งของพวกเราก็ถึงจุดจบจริงๆแล้ว”เหอกังพูดขัดคำพูดเฉินฝานก่อนที่จะออกเดินทางครั้งนี้ ฉินเย่ว์เหมยลอบนัดพบพ่อลูกตระกูลเหอลับๆ ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้นให้พ่อลูกตระกูลเหอต้องปกป้องชีวิตของเฉินฝานไว้กล่าวว่า หากไร้ซึ่งเฉินฝาน ต้าชิ่งก็สูญสลายเช่นกันคำพูดของฉินเย่ว์เหมย เหอกังเห็นด้วยทั้งหมดตอนนี้ต้าชิ่งมีทั้งศึกภายในและภายนอก ขุนนางทุจริตกุมอำนาจ หากไม่มีเฉินฝาน ก็มิมีใครสามารถต่อกรกับเสิ่นหมิงหยวนได้“ท่านแม่ทัพใหญ่!” เฉินฝานทำมือเคารพให้เหอกัง “ขอบคุณความไว้วางใจของท่านแม่ทัพใหญ่ที่มีต่อข้าน้อย ในเมื่อท่านแม่ทัพคิดว่าข้าน้อยสามารถช่วยต้าชิ่งให้รอดพ้นได้ เช่นนั้นไยไม่เชื่อมั่นให้ข้าน้อยทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูพ่ายแพ้กันล่ะ?”“ใต้เท้าเฉิน ข้าเชื่อมั่นว่าท่านมีความสามารถเช่นนั้นอยู่แล้ว ทว่าการจะหล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 722

    ระเบิดดินที่ฝังไว้ จวนจะได้แผลงฤทธิ์แล้ว ม้าและพลทหารที่ถูกระเบิดจนลอยขึ้นจะบรรเทาการปิดล้อมของกองกำลังเมืองเตียนตูได้ชั่วคราวผ่านไปไม่นานนัก ท้องฟ้าก็มืดสนิทเมื่อท้องฟ้ามืดแล้ว เหล่าทหารลาดตระเวนล้วนถอนหายใจอย่างโล่งอกพวกเขาปลอดภัยชั่วคราวแล้วต่อให้กองกำลังเมืองเตียนตูจะเก่งกาจเพียงใด ก็ไม่สามารถจะหาญกล้าบุกโจมตีเข้ามาในป่าตอนกลางคืนเหยียนเชียงที่เป็นผู้นำกองกำลังหนึ่งแสนคนของเมืองเตียนอันก็ไม่ได้รีบร้อน ตอนที่ฟ้ายังไม่ทันมืด เขาก็ออกคำสั่งให้คนไปตั้งค่ายทหารแล้ว“ท่านเจ้านครฝ่ายขวา เส้นทางที่จะระเบิด จวนจะไม่มีแล้ว กองทัพของข้าสามารถโจมตีตามไปได้ จัดการพวกเขาให้หมด เพื่อขจัดอุปสรรคในการเข้าเมืองหลวงของท่านอ๋อง”แม่ทัพสองสามคนเป็นฝ่ายขอออกทัพกับเหยียนเชียงก่อนปัญญาชนหน้าใสเฉินฝานอยู่ในป่า จับเป็นเขาได้สามารถได้เงินห้าหมื่นตำลึงทองการบุกเข้าป่ายามราตรีเรื่องต้องห้ามเช่นนี้ กองทัพเมืองเตียนตูมิได้หวาดกลัวอย่างไรเสียก็เป็นเงินห้าหมื่นตำลึงทองเชียวนะใครจะไม่อยากได้กันเหยียนเชียงจ้องแม่ทัพที่มาขอออกรบก่อนเหล่านั้น “เรื่องที่ว่าจะขจัดอุปสรรคทางไปเมืองหลวงให้ท่านอ๋องอะไ

DMCA.com Protection Status