Share

บทที่ 125

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
ท่านปู่กับป่านย่าชรามากแล้ว ท่านอาก็ไม่ยอมเลี้ยงดูฉินเย่ว์ฉู่ หากฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์โหรวไม่พานางกลับมาอยู่ที่บ้านด้วย นางต้องถูกท่านอาขับไล่ออกไปเร่รอนอยู่ข้างนอกเป็นแน่

เมื่อฟังถึงตรงนี้ เฉินฝานก็พยักหน้า

“พวกเจ้าพานางมาที่นี่ถูกแล้ว”

“แต่เพิ่งจะมาถึงหมู่บ้านซานเหอไม่นาน ท่านก็ถือโอกาสตอนที่ข้าน้อยและพี่สามไม่อยู่พาน้องห้าออกไปขาย ไม่ว่าพวกข้าจะขอร้องอย่างไร ท่านก็ไม่ยอมดึงดันจะพาน้องห้าไปขายให้ใครไม่รู้”

ฉินเย่ว์โหรวกัดฟันเอ่ยถึงเรื่องในตอนนั้นด้วยสายตาโกรธเคือง

แม้ว่าเรื่องนี้จะผ่านไปแล้วครึ่งปี แต่ในใจของนางก็ยังเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน

ฉินเย่ว์เจียวเห็นแววตาของเฉินฝานแล้วรู้สึกเย็นเยือกขึ้นมา

แววตาของเฉินฝานเย็นเยือกมาก

ฉินเย่ว์เจียวกอดฉินเย่ว์ฉู่ไว้แน่น พร้อมกับจ้องมองเฉินฝานอย่างระแวดระวัง

“ให้ตายเถอะ!” จู่ ๆ เฉินฝานก็สบถออกมา

เจ้าของร่างเดิมเป็นคนแบบไหนกัน ไม่สิ เขาไม่ใช่คน เขามันคือสัตว์เดรัจฉาน!

“ปัง!”

กำปั้นกระแทกเข้ากับจอกน้ำชาที่วางอยู่บนโต๊ะ

สามพี่น้องต่างมองหน้ากันอย่างตกตะลึงอยู่ที่เดิม

เสียง ‘ซวบ’ ดังขึ้น

เงาดำกลุ่มหนึ่งพลันปรากฎขึ้นตรงหน้าของเฉินฝ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
FoxVillain
ด่าเฉินฝานคนเดิมไม่ใช่คน มึงที่ลืมทั้งที่ทำเหมือนรักเมียก็พอกันนั่นละ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 126

    เฉินเย่ว์ฉู่นอนหลับใหลบนเตียงหนึ่งชั่วยามเต็ม ยังไม่ได้สติภายใต้สายตาที่ฉงนสงสัยของฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์โหรว เฉินฝานคิดว่าเป็นเพราะตนเองลงมือหนักเกินไป ลุกลี้ลุกลนให้คนงานของเรือนแขกเปี่ยมสุขช่วยตามหมอมา“ท่านหมอ น้องสาวข้านางเป็นอะไรงั้นรึ?”หมอเพิ่งจะหยุดจับชีพจร ก็ตอบฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์โหรวทันที“ไม่เป็นอะไรมาก”“ไม่เป็นอะไรมาก? เช่นนั้นทำไมนางถึงสลบไปนานขนาดนี้?””แม่นางผู้นี้ไม่ได้สติ... ”หมอพูดพร้อมกับรอยยิ้ม คงเป็นเพราะเตียงนี้มันสบายเกินไป นางหลับสนิท คงไม่ได้นอนหลับเต็มอิ่มบนเตียงมานานแล้ว”“….”คำพูดของหมอประโยคนั้น ทำให้สองพี่น้องร้องไห้โฮออกมาทั้งสองคนยืนอยู่ข้างๆเตียง แอบปาดน้ำตาถึงแม้ว่าเมื่อก่อนเฉินฝานจะน่ารังเกียจมาก ทว่าอย่างน้อยช่วงกลางคืนพวกนางก็สามารถนอนหลับได้อย่างเต็มอิ่มฉินเย่ว์ฉู่ที่นอนอยู่บนเตียงพลิกตัว ถีบผ้าห่ม ฉินเย่ว์โหรวก้มตัวไปห่มผ้าให้นาง“อ่ะ!”จู่ๆฉินเย่ว์โหรวก็ส่งเสียงอุทานขึ้นมา“น้องสี่ เป็นอะไรไป?” ฉินเย่ว์เจียวรีบร้อนเข้าไปถาม“แผล มีแต่บาดแผลเต็มไปหมด!” ฉินเย่ว์โหรวดึงเสื้อผ้าของฉินเย่ว์ฉู่ขึ้น เผยให้เห็นแผ่นหลังคราบ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 127

    ลวี่ซิงฟายังพูดจาสถุนใส่ฉินเย่ว์ฉู่อย่างต่อเนื่อง “รู้ว่าต้องทำอย่างไรก็ลงมาเสียดีๆ ตอนนี้ข้ายังอารมณ์ดีอยู่ ถ้าหากช้ากว่านี้ละก็...”“ถ้าเจ้ายังไสหัวไปจากข้าช้ามากกว่านี้ เช่นนั้นก็อย่ามาหาว่าข้าไม่เกรงใจ!” เฉินฝานขัดคำพูดของลวี่ซิงฟาอย่างเลือดเย็น“ข้าไปให้พ้นจากเจ้าก็ได้ ทว่าหลังจากข้าหายไปไม่นาน คนที่มาปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าก็คงจะเป็นตำรวจของที่ทำการ“เจ้ามาข่มขู่ใครกัน? ให้น้องห้าข้าไป ... ”“เย่ว์เจียว!”เฉินฝานพูดเสียงดังขัดฉินเย่ว์เจียวต่อให้ฉินเย่ว์ฉู่ถูกบีบบังคับ ทว่าการเป็นโจรก็มักจะเป็นเรื่องไร้ศักดิ์ศรีเสมอที่นี้เป็นทางเข้าบ้าน รอบๆนี้คงจะมีคนแอบฟังเป็นแน่ ให้คนเหล่านั้นได้ยิน หลังจากนี้ฉินเย่ว์ฉู่ที่อยู่ในหมู่บ้านนี้ต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนาๆ“ลวี่ซิงฟา ที่นี้เป็นหมู่บ้านซานเหอของพวกข้า!”ร่างใหญ่กำยำของเฉียนลิ่ว ยืนประจันหน้ากับลวี่ซิงฟา “ข้าขอเตือนเจ้าว่าอยู่ที่นี้ทำตัวกร่างให้มันน้อยๆหน่อย มาทางไหนกลับไปทางนั้น”ลวี่ซิงฟามือสองข้างกอดอก เสียงไม่ดังทว่ากำเริบเสิบสานยิ่งนัก “ข้าก็บอกไปแล้วไม่ใช่รึ ข้าไปแน่นอน ก็แค่คนที่จะมาหาเฉินฝานจะเป็นตำรวจของที่ทำการ”

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 128

    หาปลาให้เรือนแขกสำราญสุข ถึงแม้จะร่วมกันทำโรงงานปลากับหลี่ซานจะทำเงินได้นิดหน่อย ทว่าเงินที่มีอยู่ในมือ มันห่างจากพันตำลึงมากโข“ไม่ๆ!” ลวี่ซิงกวาดมือชี้พลางพูด “ตอนนี้นายท่านของเจ้ามีความสามารถเช่นนี้ หาปลาให้หลี่ซานเป็นจำนวนมากทุกวัน โรงงานปลาก็จัดส่งสินค้าทุกวัน เขาจะไม่มีเงินได้อย่างไรกัน?”“เจ้าคิดว่าเงินมันหาง่ายขนาดนั้นรึไร!” ฉินเย่ว์เจียวจ้องเขม็งด้วยความโกรธระยะเวลาที่พวกเขาหาปลาให้เรือนแขกสำราญสุขก็นับว่ายังไม่นานนัก และกำไรก็ไม่ได้สูงมากนักสำหรับโรงงานปลา เปรียบเทียบกันแล้วได้กำไรสูงกว่านิดหน่อยก็จริง ทว่าโรงงานเพิ่งจะเปิดได้สองสามวัน ยังไม่พอกับทุนที่ลงไปในช่วงก่อน“พวกข้าไม่มีเงินให้เจ้า ถ้าจะไปทางการแจ้งความพวกข้า ก็ทำไปเถอะ ถึงตอนนั้นอย่างมากก็ติดคุกด้วยกัน ตอนนี้เจ้าก็มีมลทิน”“ปากจัดดีนี่ นายท่านของเจ้าไม่สั่งสอนหรือว่าผู้ชายคุยกันอย่าพูดแทรก?”ฉินเย่ว์เจียวอยู่ในท่าทีสู้กันให้ตายไปข้างหนึ่ง ผนวกกับเฉินฝานไม่เปล่งเสียงแม้แต่น้อย ลวี่ซิงฟารู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย“เฉินฝาน ข้าได้ยินคนพูดมาตลอดเลยว่าเจ้าไม่เหมือนกับเมื่อก่อนแล้ว ข้าดูแล้วก็ไม่ต่างจากเดิมจริงๆ ให้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 129

    ลวี่ซิงฟารู้สึกว่าพระเจ้าลิขิตประทานลาภลอยมาให้เขาเริ่มแรกตอนที่ซื้อฉินเย่ว์ฉู่ เพราะสะเพร่าลืมให้เฉินฝานเอาสูติบัตรของฉินเย่ว์ฉู่ให้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงรู้สึกหงุดหงิดมากไม่คิดเลยว่า...ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่เสมอตั้งแต่วันนั้นที่กลับมาถึงอำเภอผิงอัน ลวี่ซิงฟาก็ให้ฉินเย่ว์ฉู่ไปขโมยข้าวที่เรือนแขกสำราญสุขฉินเย่ว์ฉู่ฝีมือว่องไว และไม่ใช่ครั้งแรกที่นางเข้าไปในฉางข้าวเรือนแขกสำราญสุข ครั้งนี้หนีไม่รอด ก็เพราะลวี่ซิงฟาขวางทางออกที่นางหลบหนีทำไมถึงเลือกสถานที่ของเรือนแขกสำราญสุข เป็นเพราะว่าในกรณีที่ฉินเย่ว์ฉู่ถูกจับ ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีพยานบุคคลคนเห็นเยอะแยะขนาดนั้น พวกเฉินฝานอยากอำพรางความผิดให้ฉินเย่ว์ฉู่ก็ทำไม่ได้“เจ้านี่!”เห็นว่าเฉินฝานไม่พูดอะไร “ลวี่ซิงฟารู้สึกหมดความอดทน อย่าแกล้งทำเงียบเป็นเป่าสาก สองสามวันมานี้เจ้าก็คิดเมนูสองสามอย่างถ่ายทอดให้เรือนแขกสำราญสุข? เจ้าจะไม่มีเงินงั้นรึ?”“ดูเหมือนเจ้าจะสืบเรื่องข้าเป็นอย่างดี สองสามวันมานี้สะกดรอยตามข้าตลอดสินะ” เฉินฝานกล่าว“รู้เขารู้เราต่างหาก! ทำเรื่องยิ่งใหญ่ก็ต้องเข้าใจสถานการณ์ก่อนเสมอ” ลวี่ซิงฟาเร

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 130

    ด้านนอกบ้านของเฉินฝาน จูต้าอันหลบอยู่ในมุมหนึ่งมาโดยตลอด เห็นลวี่ซิงฟาออกมา รีบวิ่งไปหาทันที“ซิงฟาเป็นอย่างไรบ้าง?”ลวี่ซิงฟาตบไหล่จูต้าอัน “ต่อจากนี้ พวกเราสามารถไปหอนางโลมอี๋ชุนยวนได้ทุกวันแล้ว สาวๆที่นั่นอยากสั่งอะไรก็สั่ง อยากเล่นอะไรในบ่อนก็เล่นได้ตามอำเภอใจทุกวัน!”“นี่เจ้าทำสำเร็จแล้วรึ?” จูต้าอันคึกคักอย่างสุดขีด ช่วงก่อนลวี่ซิงฟารับปากเขาว่าถ้าสำเร็จจะแบ่งให้เขาสามส่วนสามส่วนที่ว่าคือสามร้อยตำลึงถ้ามีสามร้อยตำลึง เขาก็ทำกิจการ ไม่เชื่อว่าเขาจะโง่กว่าเฉินฝาน......“พาเสียวฉู่ไปพักเถอะ!” เฉินฝานออกคำสั่ง พลางย้ายกายาเข้าครัวไปทำอาหารทั่วทั้งร่างกายของฉินเย่ว์ฉู่มีแต่บาดแผล ถ้าต้องจัดการให้รวดเร็วเขาก็ไม่สะดวกใจที่จะดูอีกอย่าง พี่น้องไม่ได้เจอกันนาน คงต้องพูดคุยเรื่องส่วนตัวกันบ้างเขาอยู่ พวกนางคงจะอายที่จะพูดเป็นแน่“น้องห้า...”ตอนนี้เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉินเย่ว์ฉู่ มองดูร่างกายที่บอบช้ำของนาง ฉินเย่ว์โหรวทนไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมานัยน์ตาของฉินเย่ว์เจียวลุกเป็นไฟ กัดฟันแน่น โกรธแค้นจนอยากยิงลวี่ซิงฟาให้ตายด้วยธนูดอกเดียว“พี่สามพี่สี่ ข้าไม่เป็นอะไร ชินแล้วล่ะ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 131

    “ใช่ น้องห้ารีบกินก่อนเถอะ ประเดี๋ยวอาหารเย็นแล้วไม่อร่อย”ฉินเย่ว์โหรวเร่งฉินเย่ว์ฉู่ให้รีบรับประทาน“กินนี่!” ฉินเย่ว์เจียวตักปลาใส่เข้าไปในถ้วยของฉินเย่ว์ฉู่หนึ่งถ้วย “น้องห้า เจ้าลองชิมดู ปลาผักกาดดองที่นายท่านทำอร่อยมาก”ฉินเย่ว์ฉู่มองพี่สาวทั้งสองคนของตน และเฉินฝานที่กำลังก้มหน้ารับประทานอาหารด้วยความตะลึงงันเขา...มองดูแล้วไม่มีอะไรเปลี่ยนไป หน้าตาเหมือนเดิม สีหน้าก็ดุร้ายยิ่งนักทว่ากลับไม่เหมือนเดิมแม้แต่น้อยเขาในอดีตทำงานหาเงินไม่เป็น ทั้งยังไม่ทำงานบ้านตอนนี้ไม่เพียงทำงานบ้าน ทั้งยังทำด้วยความชำนาญ“อร่อยจริงๆ!”อาหารเอร็ดอร่อย ทำให้ฉินเย่ว์ฉู่เปิดใจขึ้นมาก ในที่สุดใบหน้าของนางก็มีรอยยิ้มที่เด็กน้อยควรมีนางลอบมองเฉินฝาน เสียงแผ่วเบาราวกับลูกแมวน้อย พูดด้วยความรวดเร็ว“ขอบคุณเจ้าค่ะ”เฉินฝานรู้สึกว่าตนไม่เอาไหนจริงๆคิดไม่ถึงว่าเพราะคำขอบคุณของเด็กคนหนึ่ง จะทำให้เขามีความสุขราวกับคนบ้าได้หลังจากทานอาหารเสร็จ ฉินเย่ว์ฉู่นั่งบนเตียงมองไปรอบๆ เรือนเครื่องนอนใหม่ โต๊ะตัวใหม่ หน้าต่างอันใหม่ ตู้เสื้อผ้าหลังใหม่ กะละมังล้างหน้าใบใหม่แม้กระทั่งเสื้อผ้าที่นางส

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 132

    หลังจากหยุดจอด ลวี่ซิงฟาจะย้ายพวกข้าเข้าไปอยู่ในถังไม้ ถังไม้นั้นเล็กมาก พวกข้าห้าคนนั่งแออัดกันอยู่ข้างใน ข้ารู้สึกว่าถังไม้ดิ่งลงตลอดเวลา สุดท้ายถังไม้หยุดลง พวกข้านอนอัดกันในถังไม้ข้ามคืนเจ้าค่ะ”“ถึงว่าเมื่อครู่เจ้าหลับลึกยิ่งนัก พื้นที่เล็กๆ แบบนั้น แล้วยังมีตั้งห้าคนจะนอนได้อย่างไร?”ฉินเย่ว์โหรวหัวใจบีบรัดด้วยความเจ็บปวด“ลวี่ซิงฟาอำมหิตยิ่งนัก”ฉินเย่ว์เจียวเงียบ เดินไปที่มุม คว้าคันธนูที่อยู่บนกำแพงขึ้นมา แล้วพุ่งตรงออกไป“หยุดก่อน! แขวนคันธนูกลับไปที่เดิมเดี๋ยวนี้!”“นายท่าน ท่านทนได้แต่ข้าไม่อาจทน ข้าจะยิงเขาให้ตายในดอกเดียว”ไม่จำเป็นต้องมอง ฉินเย่ว์เจียวในเวลานี้ต้องโมโหจนหน้าดำหน้าแดงแน่นอน“เจ้าไปสิ ไปยิงเขาให้ตาย จากนั้นเจ้าจะถูกลากตัวไปประหารกลางตลาดต่อหน้าทุกคน น้องสาวทั้งสองคนของเจ้า ต้องถูกเนรเทศไปทำงานตรากตรำที่ชายแดน และข้า...”“เวลานี้บุรุษน้อยสตรีมาก อย่างมากสุดข้าก็เพียงถูกโบยยี่สิบทีก็ปล่อยตัวกลับมาแล้ว ปีหน้า ทางการจะคัดสรรสตรีมาให้ข้าคนถึงสองคน ข้ายังคงใช้ชีวิตอย่างมีอิสระ”“เจ้าไปสิ!”ภายในห้องเงียบไปครู่หนึ่ง ค่อยกลับมามีเสียงอีกครั้งเป็นเสียง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 133

    นอกจากหวาดกลัวมากแล้ว ฉินเย่ว์ฉู่เกลียดเฉินฝานมากกว่าเพราะเขาขายนาง จึงทำให้ชีวิตของนางอนาถเช่นนี้ใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนมนุษย์มานานกว่าครึ่งปี ไม่อาจลบล้างด้วยอาหารหนึ่งมื้อหรือคำพูดดีๆ ไม่กี่ถ้อยคำได้เฉินฝานที่พักผ่อนสายตาอยู่ เบิกกว้างขึ้นมา เพราะไม่ทันตั้งตัว ฉินเย่ว์ฉู่จึงไม่อาจเบือนสายตาของตนเองได้ทันท่ามกลางความกระวนกระวาย นางรีบพูดขึ้น “นาย... นายท่าน!”เฉินฝานจับจ้องฉินเย่ว์ฉู่อยู่นานครู่หนึ่ง กว่าจะตอบอื้มสั้นๆเจ้าเด็กคนนี้ผิวขาวมากขาว?!ความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในหัวของเฉินฝานตอนที่เขาหันหน้าไปอีกทางไม่ได้มองฉินเย่ว์ฉู่เฉินฝานหันหลัง ฉินเย่ว์ฉู่ลอบยกกำปั้นขึ้นทำทีจะต่อยเขา เฉินฝานรู้ดี แต่เขาแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นร่างเดิมทำเรื่องชั่วช้าเช่นนี้ ต้องให้เจ้าเด็กน้อยคลายความคับแค้นใจบ้างยามค่ำคืนอีกด้านหนึ่งของเตียง ใครคนหนึ่งกำลังพลิกตัวไปมา ศีรษะน้อยๆ เงยขึ้นเป็นครั้งคราว มองอีกฟากหนึ่งด้วยความระมัดระวัง“เด็กน้อย แม้กระทั่งพวกพี่สาวของเจ้าข้ายังไม่แตะต้อง ข้าจะแตะต้องเจ้าหรือ?”เสียงเรียบเฉยของเฉินฝานดังขึ้นกะทันหันร่างบางแข็งทื่อ หลังจากนั้นก็ล้มตัวลงแ

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 990

    หลิวเกาจัวที่ระมัดระวังตัวสังเกตสีหน้าของแคว้นอื่นมานาน ชินกับโดนกดขี่โดนรังแกมาตั้งนานแล้ว ดังนั้นเมื่อครู่นี้แคว้นจ้าวบอกว่าจะคืนเมืองเฟิ่งหวงให้แลกกับเงินสิบล้านตำลึง หลิวเกาจัวจึงดีใจมากจริง ๆ“ใช่! ค่ายึดครองสิบล้านตำลึง ต้องไม่ขาดแม้แต่แดงเดียว!” เสียงของเฉินฝานเด็ดเดี่ยวมั่นคง“ขอรับ ใต้เท้า ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้”หลิวเกาจัวเดินไปที่โถงด้านข้างด้วยความรู้สึกกระวนกระวายใจสุดขีดเพื่อเจรจากับทูตของแคว้นจ้าวต่อ ไม่นานนัก หลิวเกาจัวกลับมาพร้อมกับสีหน้าที่ดูย่ำแย่มาก“ใต้เท้า ฝ่าบาท แคว้นจ้าวไม่ยอมตกลง ยืนกรานว่าจะเอาสิบล้านตำลึงให้ได้ มิเช่นนั้นทหารของแคว้นจ้าวจะไม่ยอมถอนตัว นอกจากนี้...”หลิวเกาจัวมองเฉินฝานแวบหนึ่ง “แคว้นจ้าวพูดอีกว่าเงินสิบล้านตำลึงนี้จะขาดแม้แต่แดงเดียวไม่ได้” เมื่อฟังคำพูดของหลิวเกาจัวจบ เสิ่นหมิงหยวนที่เงียบมาตลอดก็ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยเป็นอัครเสนาบดีเบื้องซ้ายได้ไม่กี่วัน โชคดีเอาชนะศึกกับแคว้นหลู่มาได้ก็คิดว่าตนเองยิ่งใหญ่เสียแล้ว“นี่แคว้นจ้าวรังแกกันเกินไปแล้วจริง ๆ หลิวเกาจัว ท่าทีรับปากลูกเดียวของเจ้าเช่นนี้จะไปเจรจาได้อย่างไร?”เสิ่นหมิงหยวนตำ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 989

    “เงื่อนไขอะไรกัน? ท่านจงรีบกล่าวมา ฝ่าบาทย่อมทรงตัดสินพระทัยได้” เสิ่นหมิงหยวนกล่าว“ทูตจากแคว้นจ้าวกล่าวว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมาเมืองเฟิ่งหวงตกอยู่ในความวุ่นวาย โจรผู้ร้ายชุกชุม ประชาชนอยู่กันอย่างทุกข์ยากลำบาก มีชาวเมืองเฟิ่งหวงไปขอร้องฮ่องเต้จ้าวที่แคว้นจ้าว ฮ่องเต้จ้าวทรงมีเมตตา เมื่อเห็นว่าต้าชิ่งกับแคว้นหลู่กำลังทำสงครามกัน ไม่มีเวลาว่างมาดูแล จึงดูแลแทนให้ชั่วคราว”“หลังจากแคว้นจ้าวเข้ามาดูแลเมืองเฟิ่งหวงก็ได้ทุ่มกำลังทหารและทรัพย์สิน แก้ไขสถานการณ์ความวุ่นวายและความเป็นอยู่ที่ยากลำเค็ญของประชาชนเมืองเฟิ่งหวง”“ตอนนี้ขอเพียงต้าชิ่งของเรายินดีมอบเงินสิบล้านตำลึงเงินให้แก่แคว้นจ้าว จ้าวป๋อก็จะคืนเมืองเฟิ่งหวงให้แก่ต้าชิ่งของเรา ทูตกล่าวว่าฮ่องเต้จ้าวทรงเน้นย้ำว่าเงินสิบล้านตำลึงนี้ มิใช่เป็นการเรียกร้องจากต้าชิ่งของเรา แต่เป็นเพียงการขอเงินคืนจากการที่แคว้นจ้าวได้ลงทุนให้กับเมืองเฟิ่งหวงในช่วงหลายเดือนมานี้”“ฮ่องเต้จ้าวยังตรัสอีกว่า ปีที่แล้วแคว้นจ้าวประสบภัยน้ำท่วม ปัจจุบันก็ยังลำบากมาก หวังว่าฝ่าบาทจะทรงเข้าใจ”หลิวเกาจัวเพิ่งจะกล่าวจบ ก็มีขุนนางพยักหน้าติดต่อกันเมืองเฟิ่งห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 988

    คิดว่าเฉินฝานมิใช่คนเช่นนี้ เมื่อโต้เถียงกับผู้อื่น ปรากฏว่าพูดสู้ผู้อื่นมิได้ เขาจึงสะกดกลั้นความโกรธไว้ ก่อนจะเดินมาถึงด้านนอกบ้านเฉินฝานโดยไม่รู้ตัว“นายท่านของเราปฏิบัติกับพี่น้องกองทัพลาดตระเวนเช่นใด พวกเจ้ายังไม่รู้อีกหรือไร? พวกเจ้าพูดเช่นนี้ลับหลัง ทำให้คนผิดหวังมากเหลือเกิน โดยเฉพาะเจ้าเสี่ยวซื่อ นายท่านของข้าปฏิบัติกับเจ้าอย่างไร? ในใจเจ้าไม่รู้อีกหรือ?” ฉินเย่ว์เจียวที่ไม่หายโกรธยังคงตำหนิต่อ เสี่ยวซื่อเก็บงำความรู้สึกไว้จนหน้าแดงก่ำขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายก็คุกเข่าลงต่อหน้าเฉินฝานดังตุบ“ใต้เท้า เป็นความผิดของข้าน้อยเองขอรับ ข้าน้อยไม่ควรเชื่อคำพูดส่งเดชของผู้อื่นจนเข้าใจใต้เท้าผิดไป ข้าน้อยสมควรตายหมื่นครั้ง!”เสี่ยวซื่อกล่าวพลางตบหน้าตนเองดังเพียะ ๆๆ“เสี่ยวซื่อ อย่าทำเช่นนี้เลย!” เฉินฝานโน้มตัวลง จับมือเสี่ยวซื่อไว้ ประคองเขาให้ลุกขึ้นมาการจัดพิธีศพอย่างยิ่งใหญ่ให้แก่พี่น้องกองทัพลาดตระเวนที่เสียสละชีวิต รวมถึงการส่งเงินชดเชยไปยังที่บ้านของพี่น้องเหล่านั้น เขาไม่ได้ไปเนื่องจากงานยุ่งมากเกินไป แต่ได้สั่งการเหอจื่อหลินแล้ว เหอจื่อหลินก็ไปจัดการด้วยตนเองหมดแล้วตอนนี้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 987

    ตอนแรกเสิ่นหมิงหยวนยังคิดจะใช้ข้ออ้างเรื่องขาดแรงงานมาสร้างความลำบากให้เฉินฝาน ผลปรากฏว่าทางฝั่งของโอวหยางน่าหลันกลับจัดการหาแรงงานคนมาให้ทันทีตอนนี้ต้าชิ่งได้แบ่งปันเสบียงอาหารมากมายให้แก่แคว้นหลู่ ชาวแคว้นหลู่หวาดกลัวความอดอยาก ถึงได้อาสามาที่ต้าชิ่ง ช่วยต้าชิ่งขุดคลองส่งน้ำ แม้ว่าไม่มีเงินให้ก็ไม่เป็นไร ดูแลอาหารสามมื้อเป็นหลักก็พอนอกจากนี้ทุกคนต่างรู้ว่าสตรีชาวต้าชิ่งทำอาหารเก่งมากมาทำงาน หากโชคดีอาจได้แต่งภรรยากลับไปที่บ้าน ต่อให้ไม่ได้แต่งงานก็ยังได้กินอาหารเลิศรสไปอีกหลายเดือนวันนี้ เฉินฝานเพิ่งกลับมาจากกรมโยธาช่วงนี้เขาไปที่กรมโยธาทุกวันเพื่อหารือเรื่องการขุดคลองส่งน้ำตอนที่กลับถึงบ้าน ฟ้าก็มืดแล้ว“ปัง!” มีหินก้อนหนึ่งกระแทกใส่รถม้าของเฉินฝานอย่างแรง ห่างจากเฉินฝานไม่ถึงสองเซนติเมตรแม้ว่าหินก้อนนั้นจะไม่ใหญ่ แต่ถ้ากระแทกโดนหัวของเฉินฝานเข้าละก็ เฉินฝานคงหัวแตกเลือดไหลแล้ว“ใครน่ะ!”เย่ว์หนูพุ่งตัวออกไปไม่นานก็ลากตัวคนผู้หนึ่งออกมาจากความมืด“ท่านแม่ทัพเย่ว์หนู ท่านเบามือหน่อยเถิด ข้าเอง ข้าคือเสี่ยวซื่อ!”“เย่ว์หนู! รีบปล่อยคนเสีย!” เวลานี้เฉินฝานก็ฟังออกเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 986

    เฉินฝานตบบั้นท้ายกลมกลึงของโอวหยางน่าหลันทีหนึ่ง “พอได้แล้ว ไม่ต้องเสแสร้งแล้ว!”“ข้าไม่ได้เสแสร้งนะ จริง ๆ แล้วข้า...”เสียงของโอวหยางน่าหลันขาดหายไป เพราะว่า...“ข้าจากเมืองหลวงของต้าชิ่งมาเกือบครึ่งเดือนแล้ว เป็นห่วงลูกเมียที่บ้าน ไม่อาจไปแคว้นหลู่จัดพิธีแต่งงานกับท่านได้ จัดขึ้นที่เมืองลู่ตูแห่งนี้ละกัน”“จริงหรือ? ช่างดีเหลือเกิน!”โอวหยางน่าหลันโผเข้าหาตัวเฉินฝานทันที“สามี ช่วงเวลาที่งดงามเช่นนี้ เหตุใดเราไม่สู้...”มือของโอวหยางน่าหลันเริ่มอยู่ไม่สุขอีกครั้งเฉินฝานบีบเอวบางของโอวหยางน่าหลัน“ร่านนัก!”เสียงยั่วยวนดังขึ้นอีกครั้ง.....ตอนที่ฉินเย่ว์เหมยส่งโอวหยางน่าหลันกลับไป ก็ถามนางว่าเหตุใดถึงยืนกรานจะแต่งงานกับเฉินฝานให้ได้คำตอบของโอวหยางน่าหลันธรรมดามากเหตุผลแรกคือนางชอบเฉินฝานเหตุผลข้อที่สองคือแคว้นหลู่มีเฉินฝานก็จะดำรงอยู่ได้ตลอดไป“เหตุผลข้อที่สองของท่านมันเกินจริงไปหรือไม่” ฉินเย่ว์เหมยกล่าว“ข้ากล่าวเกินจริงหรือไม่? ท่านรู้ดีกว่าข้ามิใช่หรือ?” โอวหยางน่าหลันฉุนเฉียวเล็กน้อย“ท่านอย่าได้ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีเพียงเพราะว่าเขาใส่ใจท่าน หากท่านไม่ทะนุถนอ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 985

    “หากเงื่อนไขแบบนี้ยังดึงดูดใจไม่ได้ เช่นนั้นความจริงแล้วท่านก็เป็นคนไร้น้ำยา บุตรชายฝาแฝดสี่คนคงอาศัยน้ำเชื้อของผู้อื่น เรื่องเล่านี้คงจะเป็นความจริงสินะ?”โอวหยางน่าหลันพูดข่ม“โอวหยางน่าหลัน ท่านรู้ตัวหรือไม่ว่าพูดอะไรออกมา?”คนที่โมโหก่อนคือฉินเย่ว์เหมย ใบหน้าเย็นชางดงามของนางดูโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ“หรือว่าเราพูดผิดไป? ต้าชิ่งของพวกท่านบุรุษน้อยสตรีมาก เขาเป็นถึงอัครเสนาบดีผู้ทรงเกียรติ แต่ที่บ้านกลับมีภรรยาไม่ถึงสิบคน หากเขาไม่ใช่คนไร้น้ำยา แล้วภรรยาที่บ้านจะน้อยถึงเพียงนั้นได้อย่างไร?”“ภรรยาของเขาไม่ได้น้อย เขา...”“เขาอะไร?” โอวหยางน่าหลันกำเริบเสิบสานมากขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “เขา...” ฉินเย่ว์เหมยหน้าแดงระเรื่อจากความโกรธเกรี้ยวเท่านั้นวังหลังของต้าชิ่งเป็นของเฉินฝานทั้งหมดแต่ฉินเย่ว์เหมยไม่อาจเอ่ยเรื่องนี้ออกมาได้“ฝ่าบาท อย่าทรงกริ้ว ให้กระหม่อมสั่งสอนสักยก นางก็จะเชื่อฟังแล้ว”เสียงพูดยังไม่ทันจบ เฉินฝานก็แบกโอวหยางน่าหลันขึ้นมาแล้วเดินเข้าไปในห้องไม่นานนัก... เสียงร้องตะโกนของสตรีและเสียงคำรามต่ำของบุรุษก็ดังสลับกันขึ้นมา“รู้ความผิดแล้วหรือยัง?”

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 984

    “หลังจากแต่งงานกับองค์หญิงโอวหยางแล้ว เจ้าจะได้เป็นอัครเสนาบดีของทั้งสองแคว้น ระหว่างแคว้นต้าชิ่งกับแคว้นหลู่ เจ้าชอบอาศัยอยู่ฝั่งไหนก็สุดแล้วแต่เจ้าจะปรารถนา” คำพูดของฉินเย่ว์เหมยทำให้ทุกคนตะลึงงันอีกครั้ง“อัครเสนาบดีของทั้งสองแคว้น? นี่ก็ได้ด้วยหรือ?”“เหตุใดจะไม่ได้เล่า หลังจากที่ใต้เท้าเฉินได้เป็นอัครเสนาบดีของแคว้นหลู่แล้ว แคว้นหลู่ย่อมไม่คิดโจมตีแคว้นต้าชิ่งของเราอีกแน่นอน เรื่องดี เรื่องดีมากเลย!”“ใต้เท้า อย่าได้ลังเล รีบตอบตกลงเถิด คืนนี้ก็เข้าห้องหอได้แล้ว!”“ห้องหอ ๆ ในหัวเจ้านอกเรื่องนี้แล้ว ยังคิดเรื่องอื่นได้อีกไหม?” เหอจื่อหลินตบหัวมั่วเซิน“สองเรื่องที่งดงามที่สุดในชีวิตมนุษย์คือตอนที่สอบได้เป็นขุนนางกับคืนส่งตัวเข้าหอ การสอบได้เป็นขุนนางไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับใต้เท้าแล้ว จะเหลือก็แต่คืนส่งตัวเข้าหอไม่ใช่หรือ? ท่านแม่ทัพ หรือว่าท่านไม่คิด?” มั่วเซินหัวเราะคิกคักพลางหลบหลีก“ไอ้หนู เจ้ายังกล้าหลบอีก พวกเจ้าก็ด้วย ยังจะกล้าหัวเราะอีกหรือ ข้าจะทำให้พวกเจ้าหัวเราะ ทำให้พวกเจ้าหัวเราะไปเลย”ขณะที่เหอจื่อหลินฟาดมั่วเซิน เวลาเดียวกันก็ฟาดพวกขุนพลคนอื่น ๆ อีกด้วยต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 983

    “นางต้องการให้เจ้าแต่งงานกับนาง!”“???!!!”ทุกคนตกตะลึงกันหมด เคยคาดเดาข้อเรียกร้องทุกรูปแบบ แต่ไม่มีใครเคยคาดคิดถึงข้อเรียกร้องนี้เลยโอวหยางน่าหลันยืนหยัดมานานหลายวันขนาดนี้ก็เพราะเรื่องนี้หรือ?“หึ ๆ” เสียงหัวเราะของเหอจื่อหลินทำลายความเงียบสงัด “แต่ไหนแต่ไรมีแต่วีรบุรุษโกรธเพื่อหญิงงาม ตอนนี้กลับเป็นหญิงงามที่โกรธเพื่อวีรบุรุษ ใต้เท้า เสน่ห์ของท่านทำให้ข้าน้อยนับถือแล้ว”“ข้าน้อยก็นับถือ ใต้เท้า ท่านยังมัวลังเลอะไรอยู่เล่า? รีบตอบตกลงเถิด”“ตอบตกลงตอนนี้ คืนนี้ก็เข้าห้องหอเลย”“กลางคืนพยายามสักหน่อย ปีหน้าใต้เท้าก็ได้อุ้มบุตรชายแล้ว”“ดูเจ้าพูดสิ ใต้เท้ามีบุตรชายตั้งนานแล้วนะ”“นี่เจ้าไม่เข้าใจใช่หรือไม่ ไฉนเลยจะรังเกียจที่มีบุตรชายมากเกินไป?”ปกติแล้วเฉินฝานไม่ได้ถือตัว ทั้งยังร่วมกินร่วมอยู่ด้วยกัน ดังนั้นขุนพลกองทัพลาดตระเวนเหล่านั้นจึงพากันหยอกล้อ“พวกเจ้าแต่ละคน ไม่มีความสำรวมเลย ฝ่าบาทยังทรงประทับอยู่ตรงนี้นะ!”ขุนพลเหล่านั้นยิ่งพูดยิ่งติดลมขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ควบคุมตัวเองเลย เหอจื่อหลินจึงรีบห้ามปรามแม้เฉินฝานจะไม่ถือสาขุนพลเหล่านี้ที่พูดหยอกล้อต่อหน้า แต่ฝ่าบาทอาจ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 982

    “ได้เลย หมูน้ำแดง ซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน จัดให้เลยพรุ่งนี้” เฉินฝานตอบเสียงดัง“หมูน้ำแดง ซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน!”ทหารทุกคนล้วนเข้าใจจุดประสงค์ที่เฉินฝานให้พวกเขากินดื่มกันยกใหญ่บนภูเขา ดังนั้นจึงพร้อมใจกันทวนชื่ออาหารเสียงดัง“ใต้เท้า!”ขณะที่เฉินฝานกำลังเตรียมตัวจะกลับไปพักผ่อน ทันใดนั้นเหอจื่อหลินก็พาสตรีนางหนึ่งมาหาเขาสตรีผู้นั้นเป็นคนที่มาจากด้านล่างหุบเขา นางคือสาวใช้คนสนิทของโอวหยางหน่าหลัน“ข้าขอพบใต้เท้าเฉิน อัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายของพวกท่าน!” สาวใช้ผู้นั้นเอาแต่กล่าวเช่นนี้ซ้ำ ๆ “ข้านี่แหละ” เฉินฝานกล่าวสาวใช้ผู้นั้นมองเฉินฝานอย่างพิจารณาพลางเอ่ยพึมพำในปากว่า “ใบหน้าขาวสะอาด รูปร่างกำยำ เสียงทุ้มนุ่มลึก”“เช่นนั้นข้าตรงกับเงื่อนไขหรือไม่?” เฉินฝานเอ่ยด้วยรอยยิ้ม“ยิ้มแล้วดูซื่อ ๆ” สาวใช้มองเฉินฝานแล้วเอ่ยพึมพำกับตนเองอีกครั้ง“อ้อ!” เฉินฝานยิ้มพลางพยักหน้า “ที่แท้ในสายตาองค์หญิงของพวกเจ้าข้ามีภาพลักษณ์เช่นนี้เอง!”“องค์หญิงของเราตรัสว่าพวกเรายอมจำนนก็ได้!” สาวใช้ผู้นั้นกล่าว“นี่เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องยิ่งนัก องค์หญิงของพวกเจ้าควรทำเช่นนี้ตั้งนานแล้ว”“แต่ว่าพระ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status