Share

บทที่ 127

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
ลวี่ซิงฟายังพูดจาสถุนใส่ฉินเย่ว์ฉู่อย่างต่อเนื่อง “รู้ว่าต้องทำอย่างไรก็ลงมาเสียดีๆ ตอนนี้ข้ายังอารมณ์ดีอยู่ ถ้าหากช้ากว่านี้ละก็...”

“ถ้าเจ้ายังไสหัวไปจากข้าช้ามากกว่านี้ เช่นนั้นก็อย่ามาหาว่าข้าไม่เกรงใจ!” เฉินฝานขัดคำพูดของลวี่ซิงฟาอย่างเลือดเย็น

“ข้าไปให้พ้นจากเจ้าก็ได้ ทว่าหลังจากข้าหายไปไม่นาน คนที่มาปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าก็คงจะเป็นตำรวจของที่ทำการ

“เจ้ามาข่มขู่ใครกัน? ให้น้องห้าข้าไป ... ”

“เย่ว์เจียว!”

เฉินฝานพูดเสียงดังขัดฉินเย่ว์เจียว

ต่อให้ฉินเย่ว์ฉู่ถูกบีบบังคับ ทว่าการเป็นโจรก็มักจะเป็นเรื่องไร้ศักดิ์ศรีเสมอ

ที่นี้เป็นทางเข้าบ้าน รอบๆนี้คงจะมีคนแอบฟังเป็นแน่ ให้คนเหล่านั้นได้ยิน หลังจากนี้ฉินเย่ว์ฉู่ที่อยู่ในหมู่บ้านนี้ต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนาๆ

“ลวี่ซิงฟา ที่นี้เป็นหมู่บ้านซานเหอของพวกข้า!”

ร่างใหญ่กำยำของเฉียนลิ่ว ยืนประจันหน้ากับลวี่ซิงฟา “ข้าขอเตือนเจ้าว่าอยู่ที่นี้ทำตัวกร่างให้มันน้อยๆหน่อย มาทางไหนกลับไปทางนั้น”

ลวี่ซิงฟามือสองข้างกอดอก เสียงไม่ดังทว่ากำเริบเสิบสานยิ่งนัก “ข้าก็บอกไปแล้วไม่ใช่รึ ข้าไปแน่นอน ก็แค่คนที่จะมาหาเฉินฝานจะเป็นตำรวจของที่ทำการ”

Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Vipakorn Mipol
ใช่ๆ คิดเหมือนกันเลย
goodnovel comment avatar
กชนนท์ ทัพเจริญ
เติมเงินแล้วตอนฟรีดูโฆสนาหาย8ตอนนร฿งี้ไม่เคิมดีกว่า
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 128

    หาปลาให้เรือนแขกสำราญสุข ถึงแม้จะร่วมกันทำโรงงานปลากับหลี่ซานจะทำเงินได้นิดหน่อย ทว่าเงินที่มีอยู่ในมือ มันห่างจากพันตำลึงมากโข“ไม่ๆ!” ลวี่ซิงกวาดมือชี้พลางพูด “ตอนนี้นายท่านของเจ้ามีความสามารถเช่นนี้ หาปลาให้หลี่ซานเป็นจำนวนมากทุกวัน โรงงานปลาก็จัดส่งสินค้าทุกวัน เขาจะไม่มีเงินได้อย่างไรกัน?”“เจ้าคิดว่าเงินมันหาง่ายขนาดนั้นรึไร!” ฉินเย่ว์เจียวจ้องเขม็งด้วยความโกรธระยะเวลาที่พวกเขาหาปลาให้เรือนแขกสำราญสุขก็นับว่ายังไม่นานนัก และกำไรก็ไม่ได้สูงมากนักสำหรับโรงงานปลา เปรียบเทียบกันแล้วได้กำไรสูงกว่านิดหน่อยก็จริง ทว่าโรงงานเพิ่งจะเปิดได้สองสามวัน ยังไม่พอกับทุนที่ลงไปในช่วงก่อน“พวกข้าไม่มีเงินให้เจ้า ถ้าจะไปทางการแจ้งความพวกข้า ก็ทำไปเถอะ ถึงตอนนั้นอย่างมากก็ติดคุกด้วยกัน ตอนนี้เจ้าก็มีมลทิน”“ปากจัดดีนี่ นายท่านของเจ้าไม่สั่งสอนหรือว่าผู้ชายคุยกันอย่าพูดแทรก?”ฉินเย่ว์เจียวอยู่ในท่าทีสู้กันให้ตายไปข้างหนึ่ง ผนวกกับเฉินฝานไม่เปล่งเสียงแม้แต่น้อย ลวี่ซิงฟารู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย“เฉินฝาน ข้าได้ยินคนพูดมาตลอดเลยว่าเจ้าไม่เหมือนกับเมื่อก่อนแล้ว ข้าดูแล้วก็ไม่ต่างจากเดิมจริงๆ ให้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 129

    ลวี่ซิงฟารู้สึกว่าพระเจ้าลิขิตประทานลาภลอยมาให้เขาเริ่มแรกตอนที่ซื้อฉินเย่ว์ฉู่ เพราะสะเพร่าลืมให้เฉินฝานเอาสูติบัตรของฉินเย่ว์ฉู่ให้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงรู้สึกหงุดหงิดมากไม่คิดเลยว่า...ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่เสมอตั้งแต่วันนั้นที่กลับมาถึงอำเภอผิงอัน ลวี่ซิงฟาก็ให้ฉินเย่ว์ฉู่ไปขโมยข้าวที่เรือนแขกสำราญสุขฉินเย่ว์ฉู่ฝีมือว่องไว และไม่ใช่ครั้งแรกที่นางเข้าไปในฉางข้าวเรือนแขกสำราญสุข ครั้งนี้หนีไม่รอด ก็เพราะลวี่ซิงฟาขวางทางออกที่นางหลบหนีทำไมถึงเลือกสถานที่ของเรือนแขกสำราญสุข เป็นเพราะว่าในกรณีที่ฉินเย่ว์ฉู่ถูกจับ ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีพยานบุคคลคนเห็นเยอะแยะขนาดนั้น พวกเฉินฝานอยากอำพรางความผิดให้ฉินเย่ว์ฉู่ก็ทำไม่ได้“เจ้านี่!”เห็นว่าเฉินฝานไม่พูดอะไร “ลวี่ซิงฟารู้สึกหมดความอดทน อย่าแกล้งทำเงียบเป็นเป่าสาก สองสามวันมานี้เจ้าก็คิดเมนูสองสามอย่างถ่ายทอดให้เรือนแขกสำราญสุข? เจ้าจะไม่มีเงินงั้นรึ?”“ดูเหมือนเจ้าจะสืบเรื่องข้าเป็นอย่างดี สองสามวันมานี้สะกดรอยตามข้าตลอดสินะ” เฉินฝานกล่าว“รู้เขารู้เราต่างหาก! ทำเรื่องยิ่งใหญ่ก็ต้องเข้าใจสถานการณ์ก่อนเสมอ” ลวี่ซิงฟาเร

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 130

    ด้านนอกบ้านของเฉินฝาน จูต้าอันหลบอยู่ในมุมหนึ่งมาโดยตลอด เห็นลวี่ซิงฟาออกมา รีบวิ่งไปหาทันที“ซิงฟาเป็นอย่างไรบ้าง?”ลวี่ซิงฟาตบไหล่จูต้าอัน “ต่อจากนี้ พวกเราสามารถไปหอนางโลมอี๋ชุนยวนได้ทุกวันแล้ว สาวๆที่นั่นอยากสั่งอะไรก็สั่ง อยากเล่นอะไรในบ่อนก็เล่นได้ตามอำเภอใจทุกวัน!”“นี่เจ้าทำสำเร็จแล้วรึ?” จูต้าอันคึกคักอย่างสุดขีด ช่วงก่อนลวี่ซิงฟารับปากเขาว่าถ้าสำเร็จจะแบ่งให้เขาสามส่วนสามส่วนที่ว่าคือสามร้อยตำลึงถ้ามีสามร้อยตำลึง เขาก็ทำกิจการ ไม่เชื่อว่าเขาจะโง่กว่าเฉินฝาน......“พาเสียวฉู่ไปพักเถอะ!” เฉินฝานออกคำสั่ง พลางย้ายกายาเข้าครัวไปทำอาหารทั่วทั้งร่างกายของฉินเย่ว์ฉู่มีแต่บาดแผล ถ้าต้องจัดการให้รวดเร็วเขาก็ไม่สะดวกใจที่จะดูอีกอย่าง พี่น้องไม่ได้เจอกันนาน คงต้องพูดคุยเรื่องส่วนตัวกันบ้างเขาอยู่ พวกนางคงจะอายที่จะพูดเป็นแน่“น้องห้า...”ตอนนี้เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉินเย่ว์ฉู่ มองดูร่างกายที่บอบช้ำของนาง ฉินเย่ว์โหรวทนไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมานัยน์ตาของฉินเย่ว์เจียวลุกเป็นไฟ กัดฟันแน่น โกรธแค้นจนอยากยิงลวี่ซิงฟาให้ตายด้วยธนูดอกเดียว“พี่สามพี่สี่ ข้าไม่เป็นอะไร ชินแล้วล่ะ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 131

    “ใช่ น้องห้ารีบกินก่อนเถอะ ประเดี๋ยวอาหารเย็นแล้วไม่อร่อย”ฉินเย่ว์โหรวเร่งฉินเย่ว์ฉู่ให้รีบรับประทาน“กินนี่!” ฉินเย่ว์เจียวตักปลาใส่เข้าไปในถ้วยของฉินเย่ว์ฉู่หนึ่งถ้วย “น้องห้า เจ้าลองชิมดู ปลาผักกาดดองที่นายท่านทำอร่อยมาก”ฉินเย่ว์ฉู่มองพี่สาวทั้งสองคนของตน และเฉินฝานที่กำลังก้มหน้ารับประทานอาหารด้วยความตะลึงงันเขา...มองดูแล้วไม่มีอะไรเปลี่ยนไป หน้าตาเหมือนเดิม สีหน้าก็ดุร้ายยิ่งนักทว่ากลับไม่เหมือนเดิมแม้แต่น้อยเขาในอดีตทำงานหาเงินไม่เป็น ทั้งยังไม่ทำงานบ้านตอนนี้ไม่เพียงทำงานบ้าน ทั้งยังทำด้วยความชำนาญ“อร่อยจริงๆ!”อาหารเอร็ดอร่อย ทำให้ฉินเย่ว์ฉู่เปิดใจขึ้นมาก ในที่สุดใบหน้าของนางก็มีรอยยิ้มที่เด็กน้อยควรมีนางลอบมองเฉินฝาน เสียงแผ่วเบาราวกับลูกแมวน้อย พูดด้วยความรวดเร็ว“ขอบคุณเจ้าค่ะ”เฉินฝานรู้สึกว่าตนไม่เอาไหนจริงๆคิดไม่ถึงว่าเพราะคำขอบคุณของเด็กคนหนึ่ง จะทำให้เขามีความสุขราวกับคนบ้าได้หลังจากทานอาหารเสร็จ ฉินเย่ว์ฉู่นั่งบนเตียงมองไปรอบๆ เรือนเครื่องนอนใหม่ โต๊ะตัวใหม่ หน้าต่างอันใหม่ ตู้เสื้อผ้าหลังใหม่ กะละมังล้างหน้าใบใหม่แม้กระทั่งเสื้อผ้าที่นางส

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 132

    หลังจากหยุดจอด ลวี่ซิงฟาจะย้ายพวกข้าเข้าไปอยู่ในถังไม้ ถังไม้นั้นเล็กมาก พวกข้าห้าคนนั่งแออัดกันอยู่ข้างใน ข้ารู้สึกว่าถังไม้ดิ่งลงตลอดเวลา สุดท้ายถังไม้หยุดลง พวกข้านอนอัดกันในถังไม้ข้ามคืนเจ้าค่ะ”“ถึงว่าเมื่อครู่เจ้าหลับลึกยิ่งนัก พื้นที่เล็กๆ แบบนั้น แล้วยังมีตั้งห้าคนจะนอนได้อย่างไร?”ฉินเย่ว์โหรวหัวใจบีบรัดด้วยความเจ็บปวด“ลวี่ซิงฟาอำมหิตยิ่งนัก”ฉินเย่ว์เจียวเงียบ เดินไปที่มุม คว้าคันธนูที่อยู่บนกำแพงขึ้นมา แล้วพุ่งตรงออกไป“หยุดก่อน! แขวนคันธนูกลับไปที่เดิมเดี๋ยวนี้!”“นายท่าน ท่านทนได้แต่ข้าไม่อาจทน ข้าจะยิงเขาให้ตายในดอกเดียว”ไม่จำเป็นต้องมอง ฉินเย่ว์เจียวในเวลานี้ต้องโมโหจนหน้าดำหน้าแดงแน่นอน“เจ้าไปสิ ไปยิงเขาให้ตาย จากนั้นเจ้าจะถูกลากตัวไปประหารกลางตลาดต่อหน้าทุกคน น้องสาวทั้งสองคนของเจ้า ต้องถูกเนรเทศไปทำงานตรากตรำที่ชายแดน และข้า...”“เวลานี้บุรุษน้อยสตรีมาก อย่างมากสุดข้าก็เพียงถูกโบยยี่สิบทีก็ปล่อยตัวกลับมาแล้ว ปีหน้า ทางการจะคัดสรรสตรีมาให้ข้าคนถึงสองคน ข้ายังคงใช้ชีวิตอย่างมีอิสระ”“เจ้าไปสิ!”ภายในห้องเงียบไปครู่หนึ่ง ค่อยกลับมามีเสียงอีกครั้งเป็นเสียง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 133

    นอกจากหวาดกลัวมากแล้ว ฉินเย่ว์ฉู่เกลียดเฉินฝานมากกว่าเพราะเขาขายนาง จึงทำให้ชีวิตของนางอนาถเช่นนี้ใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนมนุษย์มานานกว่าครึ่งปี ไม่อาจลบล้างด้วยอาหารหนึ่งมื้อหรือคำพูดดีๆ ไม่กี่ถ้อยคำได้เฉินฝานที่พักผ่อนสายตาอยู่ เบิกกว้างขึ้นมา เพราะไม่ทันตั้งตัว ฉินเย่ว์ฉู่จึงไม่อาจเบือนสายตาของตนเองได้ทันท่ามกลางความกระวนกระวาย นางรีบพูดขึ้น “นาย... นายท่าน!”เฉินฝานจับจ้องฉินเย่ว์ฉู่อยู่นานครู่หนึ่ง กว่าจะตอบอื้มสั้นๆเจ้าเด็กคนนี้ผิวขาวมากขาว?!ความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในหัวของเฉินฝานตอนที่เขาหันหน้าไปอีกทางไม่ได้มองฉินเย่ว์ฉู่เฉินฝานหันหลัง ฉินเย่ว์ฉู่ลอบยกกำปั้นขึ้นทำทีจะต่อยเขา เฉินฝานรู้ดี แต่เขาแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นร่างเดิมทำเรื่องชั่วช้าเช่นนี้ ต้องให้เจ้าเด็กน้อยคลายความคับแค้นใจบ้างยามค่ำคืนอีกด้านหนึ่งของเตียง ใครคนหนึ่งกำลังพลิกตัวไปมา ศีรษะน้อยๆ เงยขึ้นเป็นครั้งคราว มองอีกฟากหนึ่งด้วยความระมัดระวัง“เด็กน้อย แม้กระทั่งพวกพี่สาวของเจ้าข้ายังไม่แตะต้อง ข้าจะแตะต้องเจ้าหรือ?”เสียงเรียบเฉยของเฉินฝานดังขึ้นกะทันหันร่างบางแข็งทื่อ หลังจากนั้นก็ล้มตัวลงแ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 134

    วันนี้เฉินฝานอยู่ที่เรือนแขกนานกว่าหนึ่งชั่วยามแล้วค่อยออกมาหลังออกมาจากเรือนแขกสำราญสุข เขาไม่ได้ไปโรงงานปลาแห้ง และไม่ได้พาพวกภรรยาเดินเที่ยวในอำเภอเหมือนทุกคน แต่เดินทางออกนอกอำเภอโดยตรงเห็นเฉินฝานออกจากอำเภอ จูต้าอันรีบไปรายงานลวี่ซิงฟา“เหตุใดจึงวิ่งเช่นนี้?”เห็นจูต้าอันวิ่งจนหายใจหอบ ลวี่ซิงฟาจึงเอ่ยถาม“เจ้านั่นออกจากตลาดแล้วหรือ?”ก่อนหน้านี้ลวี่ซิงฟาสะกดรอยตามเฉินฝานหลายวัน พบว่าเฉินฝานส่งปลาทุกวัน หลังจากนั้นก็ตรวจดูความเรียบร้อยของโรงงาน แล้วไปตลาด แม้ไม่ซื้อข้าวสารอาหารแห้งข้าวบ้าน ก็จะพาภรรยาไปซื้อขนมลวี่ซิงฟาบอกจูต้าอัน ขอเพียงเฉินฝานออกจากเรือนแขกสำราญสุขไปตลาด ให้เขารีบมารายงานตนทันทีเพราะเขาออกไปเวลานี้ เมื่อถึงประตูอำเภอ เฉินฝานก็ใกล้ถึงประตูอำเภอเช่นเดียวกัน“เขาไม่ได้ไปตลาด!”จูต้าอันมือท้าวสะเอวหายใจหอบ วิ่งด้วยความรีบร้อน เหงื่อเต็มหน้า“ไม่ได้เข้าตลาด?”“ขอรับ! พี่ซิงฟา พี่ว่าเจ้านั่นจะหนีหรือเปล่า?”“ไม่มีทาง!” ลวี่ซิงฟาส่ายหน้า พูดด้วยความมั่นใจการกระทำของเฉินฝาน ในสายตาของลวี่ซิงฟาแล้วเป็นเรื่องปกติ“แล้วเหตุใดก่อนหน้านี้ไปตลาดทุกวัน แต่ตอ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 135

    ตึ้ง!”ไม้ปลุกสติในมือนายอำเภอเคาะโต๊ะอีกครั้ง“ใครคือลวี่ซิงฟา?”“ใต้เท้า ข้าคือลวี่ซิงฟาเองขอรับ!” ลวี่ซิงฟาเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว โค้งคำนับตอบคำถามนายอำเภอ“เฉินฝานชาวบ้านในหมู่บ้านซานเหอเปิดเผยว่า เจ้ากักขังหญิงสาว บังคับให้พวกนางลักขโมย เป็นความจริงหรือไม่?”“ใต้เท้าขอรับ นี่เป็นการปรักปรำ! เขากล่าวหาข้าเช่นนี้มีหลักฐานหรือไม่?”“เฉินฝาน!” นายอำเภอหันไปมองเฉินฝาน “เจ้ามีหลักฐานหรือไม่?”“ใต้เท้าขอรับ ภรรยาของข้าเป็นพยานได้ขอรับ!” เฉินฝานหันไปมองฉินเย่ว์ฉู่ที่อยู่ข้างๆ พยักหน้าให้กำลังใจนางฉินเย่ว์ฉู่เม้มริมฝีปาก แล้วเดินขึ้นหน้า“ใต้เท้า ข้าฉินเย่ว์ฉู่ เขา!” ฉินเย่ว์ฉู่ชี้ไปที่ลวี่ซิงฟา กัดฟันพูด “เขากักขังข้า สอนวิธีการลักขโมย ให้ข้าไปขโมยของทุกวัน หากไม่ทำตามคำสั่ง เขาจะทุบตีทำร้ายข้าอย่างทารุณเจ้าค่ะ”ฉินเย่ว์ฉู่ดึงแขนเสื้อขึ้น แขนของนางเต็มไปด้วยรอยแผลทุกคนในเหตุการณ์ไม่ว่าจะเป็นนายอำเภอหรือเจ้าหน้าที่ในศาลาว่าการ ต่างสูดลมหายใจเข้า”“บาดแผลทั้งหมดนี้ล้วนมาจากการทุบตีของลวี่ซิงฟา ไม่เพียงที่แขนเท่านั้น ข้ามีบาดแผลทั่วร่างกาย”เพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่ตนพูดเป็นควา

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1018

    ใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าเหอเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความสิ้นหวัง“ความเมตตาของสวรรค์ก็ไม่อาจทนต่อความโหดร้ายในโลกนี้ได้ ตอนที่ลูกชายของข้าออกไปปราบโจรครั้งที่ห้า โจรพวกนั้นฉวยโอกาสบุกเข้ามาในเมือง และเอาหลานชายฝาแฝดที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่นานของข้า...”เมื่อพูดถึงตรงนี้ ฮูหยินผู้เฒ่าเหอก็สะอื้นไม่หยุด ริมฝีปากอ้าอยู่หลายครั้งแต่ก็พูดไม่ออก“หลานชายฝาแฝดของเจ้าถูกโจรพวกนั้นฆ่าไปแล้วหรือ?”อ๋องตวนถามขึ้น ความจริงไม่ต้องให้ฮูหยินผู้เฒ่าตอบ อ๋องตวนก็นึกคำตอบได้แล้ว เขากำหมัดแน่นจนข้อนิ้วส่งเสียงดังกร๊อบ“เจ้าวางใจเถิด ข้าจะต้องสังหารหัวหน้าโจรเหล่านั้นให้หมดอย่างแน่นอน!”“ท่านอ๋อง!”ฮูหยินผู้เฒ่าเหอคุกเข่าลงอีกครั้ง “ทหารแคว้นจ้าวถูกขับไล่ไปแล้ว ขอร้องท่านกลับไปยังเมืองหลวงเสียเถิด”“หญิงชราผู้นี้เป็นอะไรไป?” อ๋องตวนโกรธจัดจนเต้นเร่า ๆ แล้ว“พวกเจ้าบอกว่าโจรส่วนมากล้วนเป็นลูกชายของชาวบ้านเหล่านี้ ข้าจะไม่ฆ่าโจรทั่วไป จะฆ่าแค่หัวหน้าของพวกมันก็ไม่ได้หรือ?”“ท่านอ๋อง!” เฉินฝานดึงอ๋องตวนไว้"ผู้อาวุโส" เฉินฝานก้มตัวประคองนางเหอให้ลุกขึ้นมา“โจรให้หลานชายฝาแฝดของพวกท่านเป็นหัวหน้าแล้วใช่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1017

    “พวกสตรีชั่วช้าอยากจะฆ่าอัครเสนาบดีก็เหมือนก่อกบฏอย่างไม่ต้องสงสัย เจ้ายังจะขอร้องแทนพวกนางอีกหรือ?”อ๋องตวนเตะเหอจื้อเฟยด้วยความเดือดดาลเหอจื้อเฟยคลานขึ้นมาคุกเข่าต่อหน้าเฉินฝานต่อเพื่อขอร้องแทนสตรีเหล่านั้น “พวกนางก็ไม่มีทางเลือกเช่นกัน ลูกชายของพวกนางล้วนอยู่ในกำมือของโจรพวกนั้น หลายคนถูกจับตัวไปตั้งแต่ที่ยังเด็กมาก ๆ พวกเขากลายเป็นโจรก็เพราะถูกบีบบังคับ”“เพราะว่าหากพวกเขาไม่ยอมเข้าร่วมฝึกฝนกลายเป็นโจร หัวหน้าโจรเหล่านั้นก็จะสังหารมารดาของพวกเขาแทน”เหอจื้อเฟยเอ่ยคำพูดสองประโยคนี้ก็มีเสียงร้องไห้ดังขึ้นทั่วบริเวณแม้ว่าเฉินฝานจะคาดเดาคำตอบได้แล้ว แต่เมื่อได้ยินเองกับหูถึงสิ่งที่เหอจื้อเฟยพูดออกมา เขาก็ยังรู้สึกสะเทือนใจมาก แม่กลัวลูกต้องตาย จึงห้ามไม่ให้ทางการส่งทหารออกไปปราบโจรลูกกลัวแม่ต้องตาย จึงฝึกฝนสุดชีวิตเพื่อเป็นโจรที่มีคุณสมบัติเหมาะสมต้องยอมรับว่าหัวหน้าโจรพวกนั้นเฉลียวฉลาดมาก“นั่นเป็นเพราะเจ้าบกพร่องต่อหน้าที่!” อ๋องตวนเตะเหอจื้อเฟยอีกครั้ง “หากเจ้าส่งคนไปกำจัดโจรพวกนี้ตั้งแต่แรก จะมีผลที่ตามมาเยอะถึงเพียงนี้หรือ?”ทันทีที่อ๋องตวนพูดจบก็มีสตรีผู้หนึ่งออก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1016

    “เมื่อครู่ข้าได้ยินชัดเจนว่าเจ้าแค่สั่งให้เหอจื้อเฟยไปปราบโจรเท่านั้น เหตุใดถึงไปทำร้ายลูกของพวกเขา...”อ๋องตวนพลันหยุดชะงัก“โจร?!” อ๋องตวนร้องอุทานขึ้นมา “หรือว่าโจรพวกนั้นก็คือลูกชายของพวกนาง?”“ข้าคิดว่ามีความเป็นไปได้แปดเก้าส่วน” เฉินฝานพยักหน้าเช่นกัน“พวกเขาไม่ใช่โจรร้าย ขุนนางใหญ่สูงส่งอย่างพวกท่านจะไปเข้าใจอะไร?” บทสนทนาระหว่างอ๋องตวนกับเฉินฝานทำให้สตรีเหล่านั้นอารมณ์ร้อนมาก แต่ละคนเหมือนกับไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วก็ไม่ปาน ผลักดันเบียดเสียดกันห้อมล้อมนักการในศาลาว่าการข้างกายเฉินฝานกับอ๋องตวนไว้ เมื่อเห็นว่าผลักไม่ได้แล้ว ก็ใช้มีดหั่นผักในมือฟันใส่ทันที“เพล้ง!”อ๋องตวนโยนไหเหล้าในมือลงกับพื้น“พวกสตรีชั่วช้า พอพยัคฆ์ไม่แสดงบารมี พวกเจ้าก็เห็นว่าเป็นแมวป่วยใช่หรือไม่?” พวกนางคิดว่าข้าเป็นแมวป่วยหรืออย่างไร? ถ้าเสือไม่คำราม พวกเจ้าไม่เห็นรัศมีหรืออย่างไร?”อ๋องตวนก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เตะสตรีหลายคนจนกระเด็นไปทันทีอย่างไรก็ตามแม้สตรีหลายคนจะถูกถีบกระเด็น แต่ก็ไม่เกิดผลให้หวาดกลัวใด ๆ เลย สตรีเหล่านั้นกลับฮึกเหิมมากยิ่งขึ้น ปากตะโกนว่าจะให้พวกเฉินฝานตายไปพร้อมกั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1015

    หญิงชราวัยประมาณหกสิบปีผู้หนึ่งขวางหน้าเหอจื้อเฟยไว้“ท่านแม่ ลูกต้องไปทำงาน ท่านอย่าขัดขวางลูกเลย” เหอจื้อเฟยเอ่ยด้วยความเจ็บปวดใจคนที่ยืนขวางเหอจื้อเฟยไม่ให้เหอจื้อเฟยไปทำร้ายโจร ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นมารดาของเขาเองนางเหอเหลือบมองดาบในมือของเหอจื้อเฟยแล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “งานของเจ้าอยู่ในที่ว่าการไม่ใช่หรือ? เจ้าเป็นขุนนาง ไม่อยู่ในที่ว่าการ ถือดาบวิ่งออกมา นี่จะไปทำสิ่งใด? เจ้าเป็นเพชฌฆาตหรือไร? เจ้าเป็นคนฆ่าสัตว์หรือไร?”“ท่านแม่ ลูกมีงานราชการเร่งด่วนจริง ๆ ใครก็ได้!”เหอจื้อเฟยพูดพลางหันหน้าไปสั่งนักการในศาลาว่าการที่อยู่ข้างหลังเสียงดัง “พาฮูหยินผู้เฒ่ากลับจวน!” “ใครกล้าแตะต้องข้า!”นางเหอหยิบกรรไกรออกมาทันที แล้วชี้ไปยังนักการในศาลาว่าการที่เดินมาหานางหลังจากที่นักการในศาลาว่าการหยุดเดินไม่กล้าเดินข้างหน้า นางเหอก็ใช้กรรไกรจ่อคอตัวเองทันที“เหอจื้อเฟย เจ้าอย่าคิดว่าแม่แก่แล้วหูตาฟ้าฟาง ไม่รู้ว่าเจ้าจะไปที่ใด หากเจ้าไปสังหารโจรก็สังหารแม่ก่อน หลังจากนั้นค่อยข้ามศพของแม่ไป”“ท่านแม่ นี่ท่านทำอะไร?” ใบหน้าของเหอจื้อเฟยเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและอับจนปัญญาอ๋องตวนถ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1014

    โจรเข้ามาในเมืองกันหมดแล้ว แต่เหอจื้อเฟยกลับทำเป็นไม่มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นเมื่อครู่สตรีวัยกลางคนยังบอกว่าเหอจื้อเฟยเป็นขุนนางที่ดี หรือว่าจะไม่กล้าพูดความจริงเฉินฝานบอกลาครอบครัวของสตรีวัยกลางคน แล้วรีบรุดไปยังที่ว่าการเมืองเฟิ่งหวงด้านนอกศาลาว่าการ เฉินฝานยังจงใจมองรอบหนึ่ง มีชายหลายคนเดินป้วนเปี้ยนอยู่ด้านนอกศาลาว่าการจริง ๆ ดวงตาชำเลืองมองศาลาว่าการของเมืองเฟิ่งหวงเป็นครั้งคราวสายตาของชายเหล่านั้นดูอำมหิตดุดัน มองแวบเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาพวกเขาน่าจะเป็นโจรที่สตรีวัยกลางคนพูดถึงโจรป่าคอยนั่งเฝ้าอยู่หน้าประตูที่ว่าการช่างอุกอาจนัก!เฉินฝานสาวเท้ายาว ๆ เข้าไปในที่ว่าการ“ท่านอัครเสนาบดีฝ่ายซ้าย!”เมื่อเห็นเฉินฝาน เหอจื้อเฟยก็วิ่งเข้ามาหาทันทีเฉินฝานเองก็ก้าวเท้ายาว ๆ เดินเข้าไปหาเช่นกัน เมื่ออยู่ห่างจากเหอจื้อเฟยไม่ถึงห้าเมตร...“เคร้ง!”เฉินฝานชักดาบคู่กายของนักการในศาลาว่าการคนหนึ่งออกมาอย่างฉับไว“ตะ ใต้...”ขณะที่นักการในศาลาว่าการพูดติดอ่าง เฉินฟานก็ถือดาบชี้ไปที่เหอจื้อเฟยแล้วเหอจื้อเฟยมองเฉินฟานอย่างตกตะลึง สุดท้ายก็คุกเข่าลงอย่างเงียบงัน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1013

    “ใต้เท้า ซาลาเปาของข้าไม่ได้แพงเช่นนั้น หาได้มีราคาสูงถึงหนึ่งตำลึงไม่!”สตรีวัยกลางคนตอบไม่ตรงคำถาม นางห่อซาลาเปาบนแผงทั้งหมดให้เฉินฝาน เฉินฝานนึกว่าสตรีวัยกลางคนได้ยินคำพูดของตนไม่ชัด จึงคิดจะพูดอีกครั้งปรากฏว่าเขายังไม่ทันเอ่ยปาก สตรีวัยกลางคนก็เอ่ยขึ้นมาอีกทันที“อันที่จริงแล้วซาลาเปาพวกนี้ก็มิได้มีราคาสูงถึงหนึ่งตำลึงเช่นกัน! พ่อหนุ่ม วันนี้ข้าไม่ได้ทำมาเยอะขนาดนั้น!” สตรีวัยกลางคนพลันเอ่ยเสียงดัง “หากท่านยังต้องการ เช่นนั้นท่านก็รอสักครู่เถิด ข้าจะกลับไปทำเพิ่มให้ท่านอีกหนึ่งเข่ง ท่านรอไม่ไหว? เช่นนั้นรบกวนท่านไปกับข้าแล้ว”เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ เฉินฝานก็เข้าใจในพริบตา สตรีวัยกลางคนทราบถึงเหตุผล แต่ตอนนี้นางไม่กล้าเอ่ยออกมาตรง ๆเฉินฝานติดตามสตรีวัยกลางคน เดินเลี้ยวเจ็ดแปดครั้งไม่นานก็มาถึงย่านทิศเหนือของเมืองย่านทิศเหนือของเมืองแร้นแค้น ผู้คนที่อาศัยอยู่ล้วนเป็นผู้ที่ยากจนที่สุดในเมืองนี้บ้านของสตรีวัยกลางคนสร้างด้วยฟางหญ้า เสาไม้ที่ค้ำกระท่อมฟางหญ้าผุกร่อนจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว แค่ลมพัดทีเดียวก็ดูอันตรายเต็มที ผุพังยิ่งกว่าบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านซานเหอหลังนั้นเมื่อตอนท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1012

    เหอจื้อเฟย ขุนนางของเมืองเฟิ่งหวงคุกเข่าลงกับพื้นดังตุบ “ท่านอ๋อง! ใต้เท้า! ต่อให้ข้าน้อยมีความกล้าอีกสิบเท่า ก็ไม่กล้าทำเช่นนี้หรอกขอรับ!”“เจ้ามิได้กระทำ เช่นนั้นเหตุใดจึงไม่มีผู้ใดมารับเงินเล่า?”“เรื่องนี้...” เหอจื้อเฟยทำสีหน้าลำบากใจ “ข้าน้อยก็ไม่รู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นขอรับ”“เจ้าไม่รู้ แล้วเป็นขุนนางเมืองนี้ได้อย่างไร?” อ๋องตวนที่อารมณ์ร้อนและไม่มีความอดทนอะไรกวัดแกว่งกำปั้นขึ้นมาหมายจะอัดคน“ท่านอ๋อง!” เฉินฝานรีบห้ามเขาทันที “ลุกขึ้นเถิด!” เฉินฝานกล่าวกับเหอจื้อเฟย“ขอบคุณขอรับใต้เท้า”เหอจื้อเฟยลุกขึ้นมาแล้ว แต่ท่าทางยังคงสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัว พยายามยืนห่างจากอ๋องตวนเล็กน้อย“เจ้าออกไปเถิด พานักการในศาลาว่าการไปประกาศอีกครั้ง บางทีชาวบ้านจำนวนมากอาจยังไม่ทราบก็ได้”“ขอรับ ใต้เท้า!”เหอจื้อเฟยวิ่งออกไปราวกับหนีตายอ๋องตวนจ้องมองร่างของเหอจื้อเฟยที่จากไปอย่างรวดเร็วแล้วกล่าวว่า “เฉินฝาน แค่เห็นเหอจื้อเฟยคนนั้นก็รู้ว่าพูดโกหกอยู่ เจ้าปล่อยเขาไปเช่นนี้ได้อย่างไร?”“ปล่อยเขาไป หากให้เขาอยู่ที่นี่ ท่านคิดว่าเขาจะพูดหรือ?”“อัดสักยกสิ!” อ๋องตวนชูกำปั้นขนาดใหญ่ของต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1011

    “ใช่ ๆ เมื่อไม่กี่วันก่อน ทูตของเจ้าพูดจายกตนข่มท่านในพระราชวังต้าชิ่งของข้า บอกว่าหลังจากตะวันลับฟ้าอะไรนั่นยังตกลงกันไม่ได้ ก็จะให้ต้าชิ่งของข้าชดใช้เงินสามสิบล้านตำลึงให้กับพวกเจ้า”“นี่เป็นสิ่งที่เจ้าสั่งสอนมาใช่หรือไม่? คนต่ำช้าเจ้าเล่ห์!”“ปัง!”อ๋องตวนต่อยไปที่ศีรษะของจ้าวรุ่ยอีกครั้ง “ใครใช้ให้เจ้าตั้งเงื่อนไขส่งเดชเล่า ตอนนี้ก็รับกรรมที่ก่อไว้เสียเถิด เอาตามเงื่อนไขของเสี่ยวฝาน ให้กองทัพสองแสนนายกับทหารรักษาพระองค์อีกหมื่นนายถอยกลับไปที่แคว้นจ้าวของพวกเจ้าก่อนตะวันตกดิน เงินสามสิบล้านตำลึงก็ต้องส่งมาถึงก่อนตะวันตกดินด้วยเช่นกัน” “เจ้าไม่ยอมหรือ...”อ๋องตวนยกกำปั้นขึ้นมาอีกครั้ง“เดี๋ยวก่อน!”แม้ว่าหมัดของอ๋องตวนจะไม่น่ากลัวเท่าปืนในมือเฉินฝาน แต่ก็ค่อนข้างน่าสะพรึงกลัวอยู่เหมือนกัน บัดนี้จ้าวรุ่ยถูกอัดจนจมูกเขียวหน้าบวมช้ำแล้วสุภาษิตกล่าวไว้ว่า หากเขาเขียวยังคงดำรงอยู่ ย่อมมิกลัวขาดฟืนต่อไปเขาจะต้องหาโอกาสล้างความอัปยศในวันนี้ได้อย่างแน่นอนจ้าวรุ่ยกัดฟัน “ได้! ข้า...รับปากพวกเจ้า!”“แต่ว่า ดีหรือร้ายอย่างไรข้าก็เป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของแคว้นหนึ่ง พวกเจ้ามิอาจให

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1010

    “แหะๆ!” อ๋องตวนหัวเราะแห้งๆ “ไม่อาจปิดบังเจ้าได้สักเรื่องจริงๆ”“ว่าแต่ เสี่ยวฝาน เมื่อวานเจ้าเป่ายิ้งฉุบได้เยี่ยมยอดจริงๆ ข้าไม่คิดเลยว่าจะเป่ายิ้งฉุบเช่นนี้ก็ได้ เวลานั้นเจ้า...”ขณะพูด อ๋องตวนเริ่มทำไม้ทำมือมือซ้ายคือเฉินฝาน มือขวาคือตัวเขาเองจ้าวรุ่ยไม่เข้าใจ นึกว่าอ๋องตวนกำลังพูดความลับบางอย่าง ดังนั้นจึงเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ ทั้งยังท่องจำเงียบๆเฉินฝาน "“..”“เช่นนั้นท่านก็เดาอยู่ที่นี่เถอะ รอท่านเดาออกแล้ว ข้าค่อยกลับมาเจรจากับจ้าวรุ่ย!”เฉินฝานขยับตัวหาท่านั่งที่สบาย“โอ๊ยๆ ไม่เดาแล้ว ข้าไม่เอาแล้ว!” อ๋องตวนรีบคว้าตัวเฉินฝาน แต่เฉินฝานไม่สนใจเขา หาที่ที่มีลมโกรก แล้วนอนพักผ่อน ไม่ว่าอ๋องตวนจะอ้อนวอนขอร้องเขาอย่างไร เขาก็แสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน“เจ้าดูเจ้าสิ ดูเจ้าสิ ทำเสียงเรื่องหมดแล้ว!” จ้าวรุ่ยตำหนิอ๋องตวน“เฮ้อ ทุกครั้งที่ข้าอยากเล่นเป่ายิ้งฉุบ ก็ไม่อาจหยุดตนเองได้”“ชิๆๆ ไม่แปลกที่จักรพรรดิต้าชิ่งคนก่อนกล่าวว่าเจ้าไม่อาจประสบความสำเร็จ ทั้งยังสร้างปัญหาเก่ง วันนี้เห็นกับตาท่าจะเป็นเรื่องจริง”“ใช่ๆๆ!” อ๋องตวนพยักหน้า “ต่อไปนี้ข้า...”จู่ๆ อ๋องตวนก็หยุดลง หันไปม

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status