แชร์

บทที่ 135

ผู้เขียน: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
ตึ้ง!”

ไม้ปลุกสติในมือนายอำเภอเคาะโต๊ะอีกครั้ง

“ใครคือลวี่ซิงฟา?”

“ใต้เท้า ข้าคือลวี่ซิงฟาเองขอรับ!” ลวี่ซิงฟาเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว โค้งคำนับตอบคำถามนายอำเภอ

“เฉินฝานชาวบ้านในหมู่บ้านซานเหอเปิดเผยว่า เจ้ากักขังหญิงสาว บังคับให้พวกนางลักขโมย เป็นความจริงหรือไม่?”

“ใต้เท้าขอรับ นี่เป็นการปรักปรำ! เขากล่าวหาข้าเช่นนี้มีหลักฐานหรือไม่?”

“เฉินฝาน!” นายอำเภอหันไปมองเฉินฝาน “เจ้ามีหลักฐานหรือไม่?”

“ใต้เท้าขอรับ ภรรยาของข้าเป็นพยานได้ขอรับ!” เฉินฝานหันไปมองฉินเย่ว์ฉู่ที่อยู่ข้างๆ พยักหน้าให้กำลังใจนาง

ฉินเย่ว์ฉู่เม้มริมฝีปาก แล้วเดินขึ้นหน้า

“ใต้เท้า ข้าฉินเย่ว์ฉู่ เขา!” ฉินเย่ว์ฉู่ชี้ไปที่ลวี่ซิงฟา กัดฟันพูด “เขากักขังข้า สอนวิธีการลักขโมย ให้ข้าไปขโมยของทุกวัน หากไม่ทำตามคำสั่ง เขาจะทุบตีทำร้ายข้าอย่างทารุณเจ้าค่ะ”

ฉินเย่ว์ฉู่ดึงแขนเสื้อขึ้น แขนของนางเต็มไปด้วยรอยแผล

ทุกคนในเหตุการณ์ไม่ว่าจะเป็นนายอำเภอหรือเจ้าหน้าที่ในศาลาว่าการ ต่างสูดลมหายใจเข้า”

“บาดแผลทั้งหมดนี้ล้วนมาจากการทุบตีของลวี่ซิงฟา ไม่เพียงที่แขนเท่านั้น ข้ามีบาดแผลทั่วร่างกาย”

เพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่ตนพูดเป็นควา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 136

    หลังจากอวี๋ไหวบอกเล่าความผิดของฉินเย่ว์ฉู่ นายอำเภอพูดทันที“ฉินเย่ว์ฉู่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าตนทำความผิด!”“ใต้เท้า!” ฉินเย่ว์ฉู่คุกเข่า “ข้าถูกปรักปรำ ทุกอย่างที่ข้าทำล้วนถูกลวี่ซิงฟาบีบบังคับเจ้าค่ะ!”“ข้าบังคับเจ้าเนี่ยนะ?” ลวี่ซิงฟายกมุมปากขึ้นด้วยความทระนง “เจ้าไม่ใช่ภรรยาของข้า ยิ่งไม่ใช่ญาติมิตรของข้า ข้าบังคับเจ้าแล้วเจ้าจะเชื่อฟังข้าเช่นนั้นหรือ?”“ครึ่งปีก่อน นายท่านขายข้าไปเป็นทาสของเจ้า”“ขายเจ้าให้ข้าเช่นนั้นหรือ? มีหลักฐานใด? อีกเรื่องหนึ่ง กฎหมายต้าชิ่งไม่อนุญาตให้มีการซื้อขายภรรยาของตน นายท่านของเจ้ารู้กฎหมายแล้วยังจะทำผิดกฎหมายหรือ? เขาไม่มีสมองหรืออย่างไร?”
ตอนลวี่ซิงฟาพูดคำว่าไม่มีสมอง เสียงของเขาดังมากเขาต้องการจะให้คนในศาล หัวเราะเยาะเฉินฝานที่ไร้สมองเฉินฝานต้องหงุดหงิดมากกระมัง แต่จะทำอะไรได้ เขากล้าโต้เถียงตนหรือ?“เจ้า...” ฉินเย่ว์ฉู่โฒโหจนตาแดงก่ำ “เจ้ามันคนชั่วพูดบิดเบือนข้อเท็จจริงก่อน ! บาดแผลบนตัวข้ามาจากการทุบตีของเจ้าไม่ใช่หรือ?"
“ข้าทุบตีเจ้า? ใครเห็นหรือ?”“เจ้าไม่เพียงทุบตีข้า พวกเพื่อนๆ คนอื่นก็ถูกเจ้าทำร้ายร่างกายเหมือนกัน”“อ๋อ พวกเพื่อนๆ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 137

    แม้ข้าไม่ใช่ญาติภรรยาของเฉินฝาน แต่ในฐานะมนุษย์ที่มีจิตสำนึกคนหนึ่ง ข้ารับไม่ได้กับการกระทำของเขาจริงๆ ตั้งแต่พี่น้องตระกูลฉินแต่งงานกับเฉินฝาน เฉินฝานทำร้ายร่างกายพวกนางมาโดยตลอด ซึ่งหนึ่งในนั้น”ลวี่ซิงฟาชี้ไปที่ฉินเย่ว์โหรวแล้วพูด “ขาของนางถูกเฉินฝานทุบตีจนหัก กระทั่งทุกวันนี้ยังไม่หายดี”เช่นเดียวกับการห้ามซื้อขายภรรยา กฎหมายต้าซิ่ง สามีห้ามทุบตีภรรยาโดยไร้เหตุผลและเป็นเพราะตอนนี้บุรุษน้อยสตรีมาก ขอเพียงไม่ถึงแก่ความตาย ก็ไม่มีใครสนใจลวี่ซิงฟาคิดมาดีแล้ว เขาร้องเรียนบนชั้นศาลในเวลานี้ นายอำเภอไม่อาจเอาหูไปนาเอาตาไปไร่อีก“สำหรับพยาน คนทั้งหมู่บ้านซานเหอเป็นพยานได้ ใต้เท้าส่งคนไปถามก็จะได้คำตอบเองขอรับ”“เฉินฝาน!” คิ้วหนาของนายอำเภอขมวดเป็นปม ถามเฉินฝานด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกิดเรื่องนี้ขึ้นจริงๆ หรือไม่?”เขาผิดหวังกับเฉินฝานเล็กน้อย ไม่แปลกที่ก่อนหน้านี้เขาให้รางวัลเฉินฝาน เฉินฝานไม่กล้ารับ ที่แท้เป็นเพราะเฉินฝานไม่ใช่คนขาวสะอาดนี่เองช่วงหลังที่ผ่านมานี้ ได้ยินข่าวสามีทุบตีภรรยารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ บุรุษบางคนกล้าทุบตีแม้กระทั่งคุณหนูตระกูลใหญ่ เรื่องนี้ไปถึงฮ่องเต้แล้วฮ่อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 138

    เฉินฝานและหลี่ซานทำงานร่วมกัน เรื่องนี้นายอำเภอย่อมรู้ เขานึกว่าหลี่ซานมาขอความเมตตาให้เฉินฝานหากเป็นเมื่อก่อน เขาลงโทษสถานเบาได้ ทว่าตอนนี้ไม่ได้“ใต้เท้า! เฉินฝานเคยทุบตีภรรยาของตนเอง เป็นความผิดที่สมควรลงโทษ แม้เทพเซียนจากสวรรค์ลงมา ก็ไม่อาจลบล้างความผิดของเขาได้”หากหลี่ซานไม่มีความสามารถมากพอที่จะรู้ข่าววงใน เช่นนั้นตระกูลหลี่ คงไม่อาจมีอำนาจในอำเภอผิงอันถึงทุกวันนี้ได้เขารู้ว่าตอนนี้นายอำเภออยากจับคนทำร้ายภรรยาสี่ห้าคนมาเป็นตัวอย่าง เวลานี้เขายิ่งช่วยขอความเมตตาให้เฉินฝาน โทษของเฉินฝานก็จะยิ่งหนักได้ยินคำพูดของหลี่ซาน นายอำเภอโล่งอกแม้จะกล่าวว่าลำดับชนชั้นเรียงจากบัณฑิต กสิกร กรรมกรและพ่อค้าวาณิชย์แต่การที่มีเงินมากทำให้ทำงานง่ายขึ้นข้าราชการในพื้นที่ หรือปัญญาชนที่มีชื่อเสียง แม้เบื้องหน้าจะดูแคลนพ่อค้า แต่ยามพ่อค้ามอบประโยชน์ให้พวกเขา พวกเขาแต่ละคนรับไว้ไม่ใช่น้อยๆหลายปีมานี้ตระกูลหลี่ช่วยนายอำเภอแก้ปัญหาการเงินไม่น้อยหากหลี่ซานจะมีปัญหากับเขาในศาล เพราะเรื่องของเฉินฝาน เช่นนั้นก็ยุ่งยากไม่น้อยแน่นอนคนที่มีความสุขที่สุดคือลวี่ซิงฟาเรื่องของเฉินฝานในวันนี

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 139

    “ใต้เท้า พวกนางปรักปรำข้า หลี่ซานกับเฉินฝานร่วมมือกัน ใช่ๆ!” คล้ายความหวังสุดท้ายของลวี่ซิงฟา เขาชี้ไปที่หลี่ซาน “เป็นเช่นนี้ เจ้ากับเฉินฝานร่วมมือกันทำร้ายข้า หญิงสาวพวกนั้นมาจากหอนางโลมอี๋ชุนย่วนของเจ้าใช่ไหม”“หึ!” หลี่ซานหัวเราะในลำคอ “เรือนด้านในสุดของตลาดฮวาหลี่ ตอนนี้ยังมีหญิงสาวอีกหนึ่งคน ถึงขั้นไม่อาจลุกเดิน หมอกำลังรักษานางอยู่ เจ้าอยากไปดูนางหรือไม่?”“หากเจ้าอยากไป...” หลี่ซานคารวะนายอำเภอ “ข้าขอความเมตตาจากท่านใต้เท้าให้เจ้าได้ นำเจ้าหน้าที่สองคนพาเจ้าไปดู”“อ๋อ!” หลี่ซานชะงักครู่หนึ่ง พูดต่อ “เมื่อครู่ เจ้ายอมรับเองว่าเรือนด้านในสุดของตลาดฮวาหลี่เป็นของเจ้า ข้าเชื่อว่าไม่ได้มีแค่ข้าเท่านั้นที่ได้ยิน ท่านใต้เท้าก็ได้ยินแน่นอน”สีหน้าของลวี่ซิงฟาแปรเปลี่ยนเป็นซีดขาวในทันที เหงื่อผุดเต็มหน้าผากตอนหลี่ซานมา เขาไม่ได้นำตัวหญิงสาวทั้งสามคนมาตั้งแต่แรก แต่เจตนาใกล้ชิดเขาที่แท้ก็เพื่อหลอกให้เขาตอบว่าเรือนหลังนั้นเป็นของเขา โทษได้เพียงว่าเมื่อครู่เขาดีใจจนประมาททำให้ยอมรับไปแค่ว่า...เขาส่ายหน้าพร้อมกับพูดพึมพำด้วยความเหลือเชื่อ “เป็นไปได้อย่างไร เป็นไปได้อย่างไร เจ้า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 140

    เฉินฝานยิ้ม “เจ้าเป็นคนบอกข้า”ฉินเย่ว์ฉู่บอกว่าลวี่ซิงฟาเอาตัวพวกนางใส่ไว้ในถังไม้ ถังไม้ดิ่งลงไม่หยุด แล้วนางก็ได้ยินเสียงสะท้อน บวกกับผิวของฉินเย่ว์ฉู่ที่ขาวซีดมากปัจจัยต่างๆ บวกกันแล้ว ขั้นแรกเฉินฝานวิเคราะห์ว่าพวกฉินเย่ว์ฉู่ถูกขังในบ่อบาดาลแห้งที่แสงแดดไม่ตกกระทบฉินเย่ว์ฉู่ยังบอกอีกว่า ทุกครั้งหลังจากพวกนางออกไปลักขโมยเสร็จ จะไปรวมตัวกันในวัดนอกอำเภอเมื่อไปถึงที่นั่น ลวี่ซิงฟาจะมัดพวกนางและปิดตา เอาตัวพวกนางขึ้นไปบนเกวียนที่ล้อเว้าแหว่ง ฉินเย่ว์ฉู่ที่นั่งบนเกวียน ด้วยความเบื่อหน่าย ขณะเดียวกันก็เพื่อลืมความเจ็บปวดของร่างกาย นางก็จะเริ่มนับเลข ล้อหมุนทั้งหมดแปดร้อยสามสิบหกครั้ง เกวียนก็จะหยุดจอดจากข้อมูลนี้ เฉินฝานวิเคราะห์ว่า เกวียนมุ่งหน้าเข้าไปในอำเภอเพราะทำให้ฉินเย่ว์ฉู่รับรู้ถึงการเว้าแหว่งของล้อเกวียนได้ หมายความว่าถนนค่อนข้างราบเรียบ แล้วถนนที่ราบเรียบเช่นนี้ ต้องเป็นถนนในอำเภอแน่นอนหลายวันมานี้ เฉียนลิ่วมาส่งปลากับเฉินฝานทุกวัน เฉียนลิ่วคนนี้ชอบคุยโว ระหว่างทางเขาพูดไม่หยุดเขาบอกว่ารู้จักเกวียนเป็นอย่างดี ล้อเกวียนในราชวงศ์ต้าซิ่งมีสามประเภท แต่ละประเภทก็มี

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 141

    “ฮะ?” เฉินฝานเอียงศีรษะเล็กน้อยแล้วจ้องหลี่ซาน “เจ้าหมายถึงอะไรหรือ?”“อ่อ!” หลี่ซานรีบหยุดส่ายหัวแล้วฉีกยิ้ม “ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร”“สถานที่อย่างที่ทำการ เป็นสถานที่ที่ชั่วร้ายยิ่งนัก ปกติแล้วถ้าไม่มีธุระใครก็ไม่เข้าไปที่นี่หรอก คนที่เข้ามาก็มีแต่เรื่องไม่ดีทั้งนั้น”หลี่ซานผลักเฉินฝานเบา ๆ “ไปกันเถอะ ๆ วันนี้ข้าเป็นเจ้ามือเอง ไปที่ร้านของข้ากัน วันนี้เจ้าอยากกินอะไรสั่งได้เต็มที่ ชำระความโชคร้ายกัน!”เฉินฝานเองก็ไม่เกรงใจกับหลี่ซานอีก เขายืนที่ที่ทำการนานขนาดนั้น รู้สึกหิวแล้วเหมือนกัน“ได้สิ อย่าโทษทีหลังว่าคนของข้าเยอะจึงกินเยอะ ข้าจะกินให้เจ้าเงินหมดเลยทีเดียว”ฉินเย่ว์เจียว ฉินเย่ว์โหรวและฉินเย่ว์ฉู่ ต่างก็อยู่ในช่วงการเจริญเติบโตของร่างกาย เรื่องกินไม่มีใครด้อยกว่าใคร“พูดตลกแล้ว!” หลี่ซานฉีกยิ้มและขมวดคิ้ว “คนที่กินจนเงินข้าหมด ยังไม่เกิดเลย”หลังจากกินและดื่มที่เรือนสำราญสุขเสร็จแล้ว เฉินฝานพร้อมกับคนของเขาก็ออกเดินทางกลับเรือนเฉินฝานนั่งอยู่บนรถม้าและเปิดม่านรถม้าพูดกับหลี่ซานว่า “นายน้อยหลี่ ข้าจะไม่พูดคำขอบคุณอะไรมากไปกว่านี้ หากเจ้าต้องการข้าในอนาคตเพียงแค่ตะโกนบอ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 142

    “นายท่าน พวกเราแต่งเข้ามาหนึ่งปีแล้ว ตอนนี้เสียวฉู่ก็กลับมาแล้ว พวกเราอยากกลับไปเยี่ยมปู่กับย่าที่เรือนพ่อกับแม่ เพื่อให้พวกท่านรู้สึกสบายใจเจ้าค่ะ”“ได้หรือไม่เจ้าคะ?”“ได้แน่นอน!”เมื่อสามพี่น้องพูดถึงเรื่องนี้ ในใจของเฉินฝานรู้สึกผิดเล็กน้อยเขาข้ามมิติมาช่วงเวลาหนึ่งแล้วเหมือนกัน ยังไม่เคยถามถึงพี่น้องตระกูลฉินเกี่ยวกับครอบครัวของพวกนางเลย“จริงหรือเจ้าคะ?”ฉินเย่ว์โหรวมองเฉินฝานด้วยความไม่เชื่อหลังจากที่จำนวนผู้ชายมีมากกว่าผู้หญิง ไม่เพียงต้องเตรียมสินเดิมเมื่อผู้หญิงออกเรือนเท่านั้น แต่ยังต้องส่งเงินและอาหารแห้งให้กับลูกเขยเป็นครั้งคราวอีกด้วยสถานการณ์ของครอบครัวพวกฉินเย่ว์โหรวไม่ดี ในเรือนไม่มีพ่อแม่ มีเพียงปู่กับย่าสูงอายุคู่หนึ่งเท่านั้นเพราะพวกท่านป้าคัดค้าน พวกท่านลุงเลยไม่กล้ายื่นมือเข้าไปช่วยหลังจากที่พวกนางแต่งงานกับเฉินฝาน เฉินฝานก็ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากครอบครัวของพวกนางเพื่อนบ้านโดยรอบ โดยเฉพาะครอบครัวของเฉินเจียงครอบครัวแม่ย่าของจางเหลียนฮวา จะนำของมาให้เฉินเจียงทุกหนึ่งหรือสองเดือน ไม่เพียงมีแต่ข้าวสารและเนื้อสัตว์ แต่บางครั้งยังส่งเงินมาให้ด้ว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 143

    “ที่ตำบลไม่มีอะไรน่าซื้อ ต้องไปซื้อที่อำเภอ ถ้าไปที่อำเภอแล้วเร่งไปที่เรือนฉิน คงจะดึกเกินไป”เฉินฝานมีความทรงจำคลุมเครืออยู่บ้างเกี่ยวกับเรือนของพี่น้องตระกูลฉินในความทรงจำของเขา หมู่บ้านเรือนตระกูลฉินไม่ได้อยู่ใกล้กับหมู่บ้านซานเหอ แต่อยู่ห่างออกไปอย่างน้อยสามสิบกิโลเมตรในโลกปัจจุบันที่มีคมนาคมที่พัฒนาแล้ว ระยะทางสามสิบกิโลเมตรเป็นเพียงเรื่องของการเหยียบคันเร่งแต่ในสมัยโบราณแห่งนี้หมู่บ้านตระกูลฉินตั้งอยู่ไกลกว่าหมู่บ้านซานเหอและถนนก็เดินลำบากมาก ในความทรงจำของเขา ช่วงระยะทางที่เข้าไปในหมู่บ้าน เกวียนวัวไม่สามารถเข้าไปได้“เราไปกันวันมะรืน พรุ่งนี้ข้าไปบอกกล่าวกับผู้ดูแลเรือนสำราญสุขก่อนและขอให้ท่านลุงและคนอื่น ๆ ช่วยส่งปลาไปที่ร้านวันมะรืน จากนั้นเราก็ออกเดินทางสู่หมู่บ้านตระกูลฉินกันตั้งแต่เช้า”“ออกเดินทางกันเช้าหน่อย ถึงเวลานั้นพวกเจ้าจะได้อยู่ที่นั่นนานขึ้นและใช้เวลาอยู่กับท่านปู่ท่านย่าให้มากขึ้น”“พวกเจ้าคิดว่า การวางแผนเช่นนี้ของข้า ดีกว่าพวกเจ้าเริ่มเดินทางพรุ่งนี้หรือไม่?”เมื่อเฉินฝานพูดจบ เขาก็ยืนอยู่กับที่แล้วมองสามพี่น้องด้วยความได้ใจเล็กน้อยเขาแค่อยากได้

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 990

    หลิวเกาจัวที่ระมัดระวังตัวสังเกตสีหน้าของแคว้นอื่นมานาน ชินกับโดนกดขี่โดนรังแกมาตั้งนานแล้ว ดังนั้นเมื่อครู่นี้แคว้นจ้าวบอกว่าจะคืนเมืองเฟิ่งหวงให้แลกกับเงินสิบล้านตำลึง หลิวเกาจัวจึงดีใจมากจริง ๆ“ใช่! ค่ายึดครองสิบล้านตำลึง ต้องไม่ขาดแม้แต่แดงเดียว!” เสียงของเฉินฝานเด็ดเดี่ยวมั่นคง“ขอรับ ใต้เท้า ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้”หลิวเกาจัวเดินไปที่โถงด้านข้างด้วยความรู้สึกกระวนกระวายใจสุดขีดเพื่อเจรจากับทูตของแคว้นจ้าวต่อ ไม่นานนัก หลิวเกาจัวกลับมาพร้อมกับสีหน้าที่ดูย่ำแย่มาก“ใต้เท้า ฝ่าบาท แคว้นจ้าวไม่ยอมตกลง ยืนกรานว่าจะเอาสิบล้านตำลึงให้ได้ มิเช่นนั้นทหารของแคว้นจ้าวจะไม่ยอมถอนตัว นอกจากนี้...”หลิวเกาจัวมองเฉินฝานแวบหนึ่ง “แคว้นจ้าวพูดอีกว่าเงินสิบล้านตำลึงนี้จะขาดแม้แต่แดงเดียวไม่ได้” เมื่อฟังคำพูดของหลิวเกาจัวจบ เสิ่นหมิงหยวนที่เงียบมาตลอดก็ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยเป็นอัครเสนาบดีเบื้องซ้ายได้ไม่กี่วัน โชคดีเอาชนะศึกกับแคว้นหลู่มาได้ก็คิดว่าตนเองยิ่งใหญ่เสียแล้ว“นี่แคว้นจ้าวรังแกกันเกินไปแล้วจริง ๆ หลิวเกาจัว ท่าทีรับปากลูกเดียวของเจ้าเช่นนี้จะไปเจรจาได้อย่างไร?”เสิ่นหมิงหยวนตำ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 989

    “เงื่อนไขอะไรกัน? ท่านจงรีบกล่าวมา ฝ่าบาทย่อมทรงตัดสินพระทัยได้” เสิ่นหมิงหยวนกล่าว“ทูตจากแคว้นจ้าวกล่าวว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมาเมืองเฟิ่งหวงตกอยู่ในความวุ่นวาย โจรผู้ร้ายชุกชุม ประชาชนอยู่กันอย่างทุกข์ยากลำบาก มีชาวเมืองเฟิ่งหวงไปขอร้องฮ่องเต้จ้าวที่แคว้นจ้าว ฮ่องเต้จ้าวทรงมีเมตตา เมื่อเห็นว่าต้าชิ่งกับแคว้นหลู่กำลังทำสงครามกัน ไม่มีเวลาว่างมาดูแล จึงดูแลแทนให้ชั่วคราว”“หลังจากแคว้นจ้าวเข้ามาดูแลเมืองเฟิ่งหวงก็ได้ทุ่มกำลังทหารและทรัพย์สิน แก้ไขสถานการณ์ความวุ่นวายและความเป็นอยู่ที่ยากลำเค็ญของประชาชนเมืองเฟิ่งหวง”“ตอนนี้ขอเพียงต้าชิ่งของเรายินดีมอบเงินสิบล้านตำลึงเงินให้แก่แคว้นจ้าว จ้าวป๋อก็จะคืนเมืองเฟิ่งหวงให้แก่ต้าชิ่งของเรา ทูตกล่าวว่าฮ่องเต้จ้าวทรงเน้นย้ำว่าเงินสิบล้านตำลึงนี้ มิใช่เป็นการเรียกร้องจากต้าชิ่งของเรา แต่เป็นเพียงการขอเงินคืนจากการที่แคว้นจ้าวได้ลงทุนให้กับเมืองเฟิ่งหวงในช่วงหลายเดือนมานี้”“ฮ่องเต้จ้าวยังตรัสอีกว่า ปีที่แล้วแคว้นจ้าวประสบภัยน้ำท่วม ปัจจุบันก็ยังลำบากมาก หวังว่าฝ่าบาทจะทรงเข้าใจ”หลิวเกาจัวเพิ่งจะกล่าวจบ ก็มีขุนนางพยักหน้าติดต่อกันเมืองเฟิ่งห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 988

    คิดว่าเฉินฝานมิใช่คนเช่นนี้ เมื่อโต้เถียงกับผู้อื่น ปรากฏว่าพูดสู้ผู้อื่นมิได้ เขาจึงสะกดกลั้นความโกรธไว้ ก่อนจะเดินมาถึงด้านนอกบ้านเฉินฝานโดยไม่รู้ตัว“นายท่านของเราปฏิบัติกับพี่น้องกองทัพลาดตระเวนเช่นใด พวกเจ้ายังไม่รู้อีกหรือไร? พวกเจ้าพูดเช่นนี้ลับหลัง ทำให้คนผิดหวังมากเหลือเกิน โดยเฉพาะเจ้าเสี่ยวซื่อ นายท่านของข้าปฏิบัติกับเจ้าอย่างไร? ในใจเจ้าไม่รู้อีกหรือ?” ฉินเย่ว์เจียวที่ไม่หายโกรธยังคงตำหนิต่อ เสี่ยวซื่อเก็บงำความรู้สึกไว้จนหน้าแดงก่ำขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายก็คุกเข่าลงต่อหน้าเฉินฝานดังตุบ“ใต้เท้า เป็นความผิดของข้าน้อยเองขอรับ ข้าน้อยไม่ควรเชื่อคำพูดส่งเดชของผู้อื่นจนเข้าใจใต้เท้าผิดไป ข้าน้อยสมควรตายหมื่นครั้ง!”เสี่ยวซื่อกล่าวพลางตบหน้าตนเองดังเพียะ ๆๆ“เสี่ยวซื่อ อย่าทำเช่นนี้เลย!” เฉินฝานโน้มตัวลง จับมือเสี่ยวซื่อไว้ ประคองเขาให้ลุกขึ้นมาการจัดพิธีศพอย่างยิ่งใหญ่ให้แก่พี่น้องกองทัพลาดตระเวนที่เสียสละชีวิต รวมถึงการส่งเงินชดเชยไปยังที่บ้านของพี่น้องเหล่านั้น เขาไม่ได้ไปเนื่องจากงานยุ่งมากเกินไป แต่ได้สั่งการเหอจื่อหลินแล้ว เหอจื่อหลินก็ไปจัดการด้วยตนเองหมดแล้วตอนนี้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 987

    ตอนแรกเสิ่นหมิงหยวนยังคิดจะใช้ข้ออ้างเรื่องขาดแรงงานมาสร้างความลำบากให้เฉินฝาน ผลปรากฏว่าทางฝั่งของโอวหยางน่าหลันกลับจัดการหาแรงงานคนมาให้ทันทีตอนนี้ต้าชิ่งได้แบ่งปันเสบียงอาหารมากมายให้แก่แคว้นหลู่ ชาวแคว้นหลู่หวาดกลัวความอดอยาก ถึงได้อาสามาที่ต้าชิ่ง ช่วยต้าชิ่งขุดคลองส่งน้ำ แม้ว่าไม่มีเงินให้ก็ไม่เป็นไร ดูแลอาหารสามมื้อเป็นหลักก็พอนอกจากนี้ทุกคนต่างรู้ว่าสตรีชาวต้าชิ่งทำอาหารเก่งมากมาทำงาน หากโชคดีอาจได้แต่งภรรยากลับไปที่บ้าน ต่อให้ไม่ได้แต่งงานก็ยังได้กินอาหารเลิศรสไปอีกหลายเดือนวันนี้ เฉินฝานเพิ่งกลับมาจากกรมโยธาช่วงนี้เขาไปที่กรมโยธาทุกวันเพื่อหารือเรื่องการขุดคลองส่งน้ำตอนที่กลับถึงบ้าน ฟ้าก็มืดแล้ว“ปัง!” มีหินก้อนหนึ่งกระแทกใส่รถม้าของเฉินฝานอย่างแรง ห่างจากเฉินฝานไม่ถึงสองเซนติเมตรแม้ว่าหินก้อนนั้นจะไม่ใหญ่ แต่ถ้ากระแทกโดนหัวของเฉินฝานเข้าละก็ เฉินฝานคงหัวแตกเลือดไหลแล้ว“ใครน่ะ!”เย่ว์หนูพุ่งตัวออกไปไม่นานก็ลากตัวคนผู้หนึ่งออกมาจากความมืด“ท่านแม่ทัพเย่ว์หนู ท่านเบามือหน่อยเถิด ข้าเอง ข้าคือเสี่ยวซื่อ!”“เย่ว์หนู! รีบปล่อยคนเสีย!” เวลานี้เฉินฝานก็ฟังออกเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 986

    เฉินฝานตบบั้นท้ายกลมกลึงของโอวหยางน่าหลันทีหนึ่ง “พอได้แล้ว ไม่ต้องเสแสร้งแล้ว!”“ข้าไม่ได้เสแสร้งนะ จริง ๆ แล้วข้า...”เสียงของโอวหยางน่าหลันขาดหายไป เพราะว่า...“ข้าจากเมืองหลวงของต้าชิ่งมาเกือบครึ่งเดือนแล้ว เป็นห่วงลูกเมียที่บ้าน ไม่อาจไปแคว้นหลู่จัดพิธีแต่งงานกับท่านได้ จัดขึ้นที่เมืองลู่ตูแห่งนี้ละกัน”“จริงหรือ? ช่างดีเหลือเกิน!”โอวหยางน่าหลันโผเข้าหาตัวเฉินฝานทันที“สามี ช่วงเวลาที่งดงามเช่นนี้ เหตุใดเราไม่สู้...”มือของโอวหยางน่าหลันเริ่มอยู่ไม่สุขอีกครั้งเฉินฝานบีบเอวบางของโอวหยางน่าหลัน“ร่านนัก!”เสียงยั่วยวนดังขึ้นอีกครั้ง.....ตอนที่ฉินเย่ว์เหมยส่งโอวหยางน่าหลันกลับไป ก็ถามนางว่าเหตุใดถึงยืนกรานจะแต่งงานกับเฉินฝานให้ได้คำตอบของโอวหยางน่าหลันธรรมดามากเหตุผลแรกคือนางชอบเฉินฝานเหตุผลข้อที่สองคือแคว้นหลู่มีเฉินฝานก็จะดำรงอยู่ได้ตลอดไป“เหตุผลข้อที่สองของท่านมันเกินจริงไปหรือไม่” ฉินเย่ว์เหมยกล่าว“ข้ากล่าวเกินจริงหรือไม่? ท่านรู้ดีกว่าข้ามิใช่หรือ?” โอวหยางน่าหลันฉุนเฉียวเล็กน้อย“ท่านอย่าได้ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีเพียงเพราะว่าเขาใส่ใจท่าน หากท่านไม่ทะนุถนอ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 985

    “หากเงื่อนไขแบบนี้ยังดึงดูดใจไม่ได้ เช่นนั้นความจริงแล้วท่านก็เป็นคนไร้น้ำยา บุตรชายฝาแฝดสี่คนคงอาศัยน้ำเชื้อของผู้อื่น เรื่องเล่านี้คงจะเป็นความจริงสินะ?”โอวหยางน่าหลันพูดข่ม“โอวหยางน่าหลัน ท่านรู้ตัวหรือไม่ว่าพูดอะไรออกมา?”คนที่โมโหก่อนคือฉินเย่ว์เหมย ใบหน้าเย็นชางดงามของนางดูโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ“หรือว่าเราพูดผิดไป? ต้าชิ่งของพวกท่านบุรุษน้อยสตรีมาก เขาเป็นถึงอัครเสนาบดีผู้ทรงเกียรติ แต่ที่บ้านกลับมีภรรยาไม่ถึงสิบคน หากเขาไม่ใช่คนไร้น้ำยา แล้วภรรยาที่บ้านจะน้อยถึงเพียงนั้นได้อย่างไร?”“ภรรยาของเขาไม่ได้น้อย เขา...”“เขาอะไร?” โอวหยางน่าหลันกำเริบเสิบสานมากขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “เขา...” ฉินเย่ว์เหมยหน้าแดงระเรื่อจากความโกรธเกรี้ยวเท่านั้นวังหลังของต้าชิ่งเป็นของเฉินฝานทั้งหมดแต่ฉินเย่ว์เหมยไม่อาจเอ่ยเรื่องนี้ออกมาได้“ฝ่าบาท อย่าทรงกริ้ว ให้กระหม่อมสั่งสอนสักยก นางก็จะเชื่อฟังแล้ว”เสียงพูดยังไม่ทันจบ เฉินฝานก็แบกโอวหยางน่าหลันขึ้นมาแล้วเดินเข้าไปในห้องไม่นานนัก... เสียงร้องตะโกนของสตรีและเสียงคำรามต่ำของบุรุษก็ดังสลับกันขึ้นมา“รู้ความผิดแล้วหรือยัง?”

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 984

    “หลังจากแต่งงานกับองค์หญิงโอวหยางแล้ว เจ้าจะได้เป็นอัครเสนาบดีของทั้งสองแคว้น ระหว่างแคว้นต้าชิ่งกับแคว้นหลู่ เจ้าชอบอาศัยอยู่ฝั่งไหนก็สุดแล้วแต่เจ้าจะปรารถนา” คำพูดของฉินเย่ว์เหมยทำให้ทุกคนตะลึงงันอีกครั้ง“อัครเสนาบดีของทั้งสองแคว้น? นี่ก็ได้ด้วยหรือ?”“เหตุใดจะไม่ได้เล่า หลังจากที่ใต้เท้าเฉินได้เป็นอัครเสนาบดีของแคว้นหลู่แล้ว แคว้นหลู่ย่อมไม่คิดโจมตีแคว้นต้าชิ่งของเราอีกแน่นอน เรื่องดี เรื่องดีมากเลย!”“ใต้เท้า อย่าได้ลังเล รีบตอบตกลงเถิด คืนนี้ก็เข้าห้องหอได้แล้ว!”“ห้องหอ ๆ ในหัวเจ้านอกเรื่องนี้แล้ว ยังคิดเรื่องอื่นได้อีกไหม?” เหอจื่อหลินตบหัวมั่วเซิน“สองเรื่องที่งดงามที่สุดในชีวิตมนุษย์คือตอนที่สอบได้เป็นขุนนางกับคืนส่งตัวเข้าหอ การสอบได้เป็นขุนนางไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับใต้เท้าแล้ว จะเหลือก็แต่คืนส่งตัวเข้าหอไม่ใช่หรือ? ท่านแม่ทัพ หรือว่าท่านไม่คิด?” มั่วเซินหัวเราะคิกคักพลางหลบหลีก“ไอ้หนู เจ้ายังกล้าหลบอีก พวกเจ้าก็ด้วย ยังจะกล้าหัวเราะอีกหรือ ข้าจะทำให้พวกเจ้าหัวเราะ ทำให้พวกเจ้าหัวเราะไปเลย”ขณะที่เหอจื่อหลินฟาดมั่วเซิน เวลาเดียวกันก็ฟาดพวกขุนพลคนอื่น ๆ อีกด้วยต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 983

    “นางต้องการให้เจ้าแต่งงานกับนาง!”“???!!!”ทุกคนตกตะลึงกันหมด เคยคาดเดาข้อเรียกร้องทุกรูปแบบ แต่ไม่มีใครเคยคาดคิดถึงข้อเรียกร้องนี้เลยโอวหยางน่าหลันยืนหยัดมานานหลายวันขนาดนี้ก็เพราะเรื่องนี้หรือ?“หึ ๆ” เสียงหัวเราะของเหอจื่อหลินทำลายความเงียบสงัด “แต่ไหนแต่ไรมีแต่วีรบุรุษโกรธเพื่อหญิงงาม ตอนนี้กลับเป็นหญิงงามที่โกรธเพื่อวีรบุรุษ ใต้เท้า เสน่ห์ของท่านทำให้ข้าน้อยนับถือแล้ว”“ข้าน้อยก็นับถือ ใต้เท้า ท่านยังมัวลังเลอะไรอยู่เล่า? รีบตอบตกลงเถิด”“ตอบตกลงตอนนี้ คืนนี้ก็เข้าห้องหอเลย”“กลางคืนพยายามสักหน่อย ปีหน้าใต้เท้าก็ได้อุ้มบุตรชายแล้ว”“ดูเจ้าพูดสิ ใต้เท้ามีบุตรชายตั้งนานแล้วนะ”“นี่เจ้าไม่เข้าใจใช่หรือไม่ ไฉนเลยจะรังเกียจที่มีบุตรชายมากเกินไป?”ปกติแล้วเฉินฝานไม่ได้ถือตัว ทั้งยังร่วมกินร่วมอยู่ด้วยกัน ดังนั้นขุนพลกองทัพลาดตระเวนเหล่านั้นจึงพากันหยอกล้อ“พวกเจ้าแต่ละคน ไม่มีความสำรวมเลย ฝ่าบาทยังทรงประทับอยู่ตรงนี้นะ!”ขุนพลเหล่านั้นยิ่งพูดยิ่งติดลมขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ควบคุมตัวเองเลย เหอจื่อหลินจึงรีบห้ามปรามแม้เฉินฝานจะไม่ถือสาขุนพลเหล่านี้ที่พูดหยอกล้อต่อหน้า แต่ฝ่าบาทอาจ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 982

    “ได้เลย หมูน้ำแดง ซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน จัดให้เลยพรุ่งนี้” เฉินฝานตอบเสียงดัง“หมูน้ำแดง ซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน!”ทหารทุกคนล้วนเข้าใจจุดประสงค์ที่เฉินฝานให้พวกเขากินดื่มกันยกใหญ่บนภูเขา ดังนั้นจึงพร้อมใจกันทวนชื่ออาหารเสียงดัง“ใต้เท้า!”ขณะที่เฉินฝานกำลังเตรียมตัวจะกลับไปพักผ่อน ทันใดนั้นเหอจื่อหลินก็พาสตรีนางหนึ่งมาหาเขาสตรีผู้นั้นเป็นคนที่มาจากด้านล่างหุบเขา นางคือสาวใช้คนสนิทของโอวหยางหน่าหลัน“ข้าขอพบใต้เท้าเฉิน อัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายของพวกท่าน!” สาวใช้ผู้นั้นเอาแต่กล่าวเช่นนี้ซ้ำ ๆ “ข้านี่แหละ” เฉินฝานกล่าวสาวใช้ผู้นั้นมองเฉินฝานอย่างพิจารณาพลางเอ่ยพึมพำในปากว่า “ใบหน้าขาวสะอาด รูปร่างกำยำ เสียงทุ้มนุ่มลึก”“เช่นนั้นข้าตรงกับเงื่อนไขหรือไม่?” เฉินฝานเอ่ยด้วยรอยยิ้ม“ยิ้มแล้วดูซื่อ ๆ” สาวใช้มองเฉินฝานแล้วเอ่ยพึมพำกับตนเองอีกครั้ง“อ้อ!” เฉินฝานยิ้มพลางพยักหน้า “ที่แท้ในสายตาองค์หญิงของพวกเจ้าข้ามีภาพลักษณ์เช่นนี้เอง!”“องค์หญิงของเราตรัสว่าพวกเรายอมจำนนก็ได้!” สาวใช้ผู้นั้นกล่าว“นี่เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องยิ่งนัก องค์หญิงของพวกเจ้าควรทำเช่นนี้ตั้งนานแล้ว”“แต่ว่าพระ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status