Share

บทที่ 136

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
หลังจากอวี๋ไหวบอกเล่าความผิดของฉินเย่ว์ฉู่ นายอำเภอพูดทันที

“ฉินเย่ว์ฉู่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าตนทำความผิด!”

“ใต้เท้า!” ฉินเย่ว์ฉู่คุกเข่า “ข้าถูกปรักปรำ ทุกอย่างที่ข้าทำล้วนถูกลวี่ซิงฟาบีบบังคับเจ้าค่ะ!”

“ข้าบังคับเจ้าเนี่ยนะ?” ลวี่ซิงฟายกมุมปากขึ้นด้วยความทระนง “เจ้าไม่ใช่ภรรยาของข้า ยิ่งไม่ใช่ญาติมิตรของข้า ข้าบังคับเจ้าแล้วเจ้าจะเชื่อฟังข้าเช่นนั้นหรือ?”

“ครึ่งปีก่อน นายท่านขายข้าไปเป็นทาสของเจ้า”

“ขายเจ้าให้ข้าเช่นนั้นหรือ? มีหลักฐานใด? อีกเรื่องหนึ่ง กฎหมายต้าชิ่งไม่อนุญาตให้มีการซื้อขายภรรยาของตน นายท่านของเจ้ารู้กฎหมายแล้วยังจะทำผิดกฎหมายหรือ? เขาไม่มีสมองหรืออย่างไร?”

ตอนลวี่ซิงฟาพูดคำว่าไม่มีสมอง เสียงของเขาดังมาก

เขาต้องการจะให้คนในศาล หัวเราะเยาะเฉินฝานที่ไร้สมอง

เฉินฝานต้องหงุดหงิดมากกระมัง แต่จะทำอะไรได้ เขากล้าโต้เถียงตนหรือ?

“เจ้า...” ฉินเย่ว์ฉู่โฒโหจนตาแดงก่ำ “เจ้ามันคนชั่วพูดบิดเบือนข้อเท็จจริงก่อน ! บาดแผลบนตัวข้ามาจากการทุบตีของเจ้าไม่ใช่หรือ?"

“ข้าทุบตีเจ้า? ใครเห็นหรือ?”

“เจ้าไม่เพียงทุบตีข้า พวกเพื่อนๆ คนอื่นก็ถูกเจ้าทำร้ายร่างกายเหมือนกัน”

“อ๋อ พวกเพื่อนๆ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 137

    แม้ข้าไม่ใช่ญาติภรรยาของเฉินฝาน แต่ในฐานะมนุษย์ที่มีจิตสำนึกคนหนึ่ง ข้ารับไม่ได้กับการกระทำของเขาจริงๆ ตั้งแต่พี่น้องตระกูลฉินแต่งงานกับเฉินฝาน เฉินฝานทำร้ายร่างกายพวกนางมาโดยตลอด ซึ่งหนึ่งในนั้น”ลวี่ซิงฟาชี้ไปที่ฉินเย่ว์โหรวแล้วพูด “ขาของนางถูกเฉินฝานทุบตีจนหัก กระทั่งทุกวันนี้ยังไม่หายดี”เช่นเดียวกับการห้ามซื้อขายภรรยา กฎหมายต้าซิ่ง สามีห้ามทุบตีภรรยาโดยไร้เหตุผลและเป็นเพราะตอนนี้บุรุษน้อยสตรีมาก ขอเพียงไม่ถึงแก่ความตาย ก็ไม่มีใครสนใจลวี่ซิงฟาคิดมาดีแล้ว เขาร้องเรียนบนชั้นศาลในเวลานี้ นายอำเภอไม่อาจเอาหูไปนาเอาตาไปไร่อีก“สำหรับพยาน คนทั้งหมู่บ้านซานเหอเป็นพยานได้ ใต้เท้าส่งคนไปถามก็จะได้คำตอบเองขอรับ”“เฉินฝาน!” คิ้วหนาของนายอำเภอขมวดเป็นปม ถามเฉินฝานด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกิดเรื่องนี้ขึ้นจริงๆ หรือไม่?”เขาผิดหวังกับเฉินฝานเล็กน้อย ไม่แปลกที่ก่อนหน้านี้เขาให้รางวัลเฉินฝาน เฉินฝานไม่กล้ารับ ที่แท้เป็นเพราะเฉินฝานไม่ใช่คนขาวสะอาดนี่เองช่วงหลังที่ผ่านมานี้ ได้ยินข่าวสามีทุบตีภรรยารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ บุรุษบางคนกล้าทุบตีแม้กระทั่งคุณหนูตระกูลใหญ่ เรื่องนี้ไปถึงฮ่องเต้แล้วฮ่อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 138

    เฉินฝานและหลี่ซานทำงานร่วมกัน เรื่องนี้นายอำเภอย่อมรู้ เขานึกว่าหลี่ซานมาขอความเมตตาให้เฉินฝานหากเป็นเมื่อก่อน เขาลงโทษสถานเบาได้ ทว่าตอนนี้ไม่ได้“ใต้เท้า! เฉินฝานเคยทุบตีภรรยาของตนเอง เป็นความผิดที่สมควรลงโทษ แม้เทพเซียนจากสวรรค์ลงมา ก็ไม่อาจลบล้างความผิดของเขาได้”หากหลี่ซานไม่มีความสามารถมากพอที่จะรู้ข่าววงใน เช่นนั้นตระกูลหลี่ คงไม่อาจมีอำนาจในอำเภอผิงอันถึงทุกวันนี้ได้เขารู้ว่าตอนนี้นายอำเภออยากจับคนทำร้ายภรรยาสี่ห้าคนมาเป็นตัวอย่าง เวลานี้เขายิ่งช่วยขอความเมตตาให้เฉินฝาน โทษของเฉินฝานก็จะยิ่งหนักได้ยินคำพูดของหลี่ซาน นายอำเภอโล่งอกแม้จะกล่าวว่าลำดับชนชั้นเรียงจากบัณฑิต กสิกร กรรมกรและพ่อค้าวาณิชย์แต่การที่มีเงินมากทำให้ทำงานง่ายขึ้นข้าราชการในพื้นที่ หรือปัญญาชนที่มีชื่อเสียง แม้เบื้องหน้าจะดูแคลนพ่อค้า แต่ยามพ่อค้ามอบประโยชน์ให้พวกเขา พวกเขาแต่ละคนรับไว้ไม่ใช่น้อยๆหลายปีมานี้ตระกูลหลี่ช่วยนายอำเภอแก้ปัญหาการเงินไม่น้อยหากหลี่ซานจะมีปัญหากับเขาในศาล เพราะเรื่องของเฉินฝาน เช่นนั้นก็ยุ่งยากไม่น้อยแน่นอนคนที่มีความสุขที่สุดคือลวี่ซิงฟาเรื่องของเฉินฝานในวันนี

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 139

    “ใต้เท้า พวกนางปรักปรำข้า หลี่ซานกับเฉินฝานร่วมมือกัน ใช่ๆ!” คล้ายความหวังสุดท้ายของลวี่ซิงฟา เขาชี้ไปที่หลี่ซาน “เป็นเช่นนี้ เจ้ากับเฉินฝานร่วมมือกันทำร้ายข้า หญิงสาวพวกนั้นมาจากหอนางโลมอี๋ชุนย่วนของเจ้าใช่ไหม”“หึ!” หลี่ซานหัวเราะในลำคอ “เรือนด้านในสุดของตลาดฮวาหลี่ ตอนนี้ยังมีหญิงสาวอีกหนึ่งคน ถึงขั้นไม่อาจลุกเดิน หมอกำลังรักษานางอยู่ เจ้าอยากไปดูนางหรือไม่?”“หากเจ้าอยากไป...” หลี่ซานคารวะนายอำเภอ “ข้าขอความเมตตาจากท่านใต้เท้าให้เจ้าได้ นำเจ้าหน้าที่สองคนพาเจ้าไปดู”“อ๋อ!” หลี่ซานชะงักครู่หนึ่ง พูดต่อ “เมื่อครู่ เจ้ายอมรับเองว่าเรือนด้านในสุดของตลาดฮวาหลี่เป็นของเจ้า ข้าเชื่อว่าไม่ได้มีแค่ข้าเท่านั้นที่ได้ยิน ท่านใต้เท้าก็ได้ยินแน่นอน”สีหน้าของลวี่ซิงฟาแปรเปลี่ยนเป็นซีดขาวในทันที เหงื่อผุดเต็มหน้าผากตอนหลี่ซานมา เขาไม่ได้นำตัวหญิงสาวทั้งสามคนมาตั้งแต่แรก แต่เจตนาใกล้ชิดเขาที่แท้ก็เพื่อหลอกให้เขาตอบว่าเรือนหลังนั้นเป็นของเขา โทษได้เพียงว่าเมื่อครู่เขาดีใจจนประมาททำให้ยอมรับไปแค่ว่า...เขาส่ายหน้าพร้อมกับพูดพึมพำด้วยความเหลือเชื่อ “เป็นไปได้อย่างไร เป็นไปได้อย่างไร เจ้า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 140

    เฉินฝานยิ้ม “เจ้าเป็นคนบอกข้า”ฉินเย่ว์ฉู่บอกว่าลวี่ซิงฟาเอาตัวพวกนางใส่ไว้ในถังไม้ ถังไม้ดิ่งลงไม่หยุด แล้วนางก็ได้ยินเสียงสะท้อน บวกกับผิวของฉินเย่ว์ฉู่ที่ขาวซีดมากปัจจัยต่างๆ บวกกันแล้ว ขั้นแรกเฉินฝานวิเคราะห์ว่าพวกฉินเย่ว์ฉู่ถูกขังในบ่อบาดาลแห้งที่แสงแดดไม่ตกกระทบฉินเย่ว์ฉู่ยังบอกอีกว่า ทุกครั้งหลังจากพวกนางออกไปลักขโมยเสร็จ จะไปรวมตัวกันในวัดนอกอำเภอเมื่อไปถึงที่นั่น ลวี่ซิงฟาจะมัดพวกนางและปิดตา เอาตัวพวกนางขึ้นไปบนเกวียนที่ล้อเว้าแหว่ง ฉินเย่ว์ฉู่ที่นั่งบนเกวียน ด้วยความเบื่อหน่าย ขณะเดียวกันก็เพื่อลืมความเจ็บปวดของร่างกาย นางก็จะเริ่มนับเลข ล้อหมุนทั้งหมดแปดร้อยสามสิบหกครั้ง เกวียนก็จะหยุดจอดจากข้อมูลนี้ เฉินฝานวิเคราะห์ว่า เกวียนมุ่งหน้าเข้าไปในอำเภอเพราะทำให้ฉินเย่ว์ฉู่รับรู้ถึงการเว้าแหว่งของล้อเกวียนได้ หมายความว่าถนนค่อนข้างราบเรียบ แล้วถนนที่ราบเรียบเช่นนี้ ต้องเป็นถนนในอำเภอแน่นอนหลายวันมานี้ เฉียนลิ่วมาส่งปลากับเฉินฝานทุกวัน เฉียนลิ่วคนนี้ชอบคุยโว ระหว่างทางเขาพูดไม่หยุดเขาบอกว่ารู้จักเกวียนเป็นอย่างดี ล้อเกวียนในราชวงศ์ต้าซิ่งมีสามประเภท แต่ละประเภทก็มี

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 141

    “ฮะ?” เฉินฝานเอียงศีรษะเล็กน้อยแล้วจ้องหลี่ซาน “เจ้าหมายถึงอะไรหรือ?”“อ่อ!” หลี่ซานรีบหยุดส่ายหัวแล้วฉีกยิ้ม “ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร”“สถานที่อย่างที่ทำการ เป็นสถานที่ที่ชั่วร้ายยิ่งนัก ปกติแล้วถ้าไม่มีธุระใครก็ไม่เข้าไปที่นี่หรอก คนที่เข้ามาก็มีแต่เรื่องไม่ดีทั้งนั้น”หลี่ซานผลักเฉินฝานเบา ๆ “ไปกันเถอะ ๆ วันนี้ข้าเป็นเจ้ามือเอง ไปที่ร้านของข้ากัน วันนี้เจ้าอยากกินอะไรสั่งได้เต็มที่ ชำระความโชคร้ายกัน!”เฉินฝานเองก็ไม่เกรงใจกับหลี่ซานอีก เขายืนที่ที่ทำการนานขนาดนั้น รู้สึกหิวแล้วเหมือนกัน“ได้สิ อย่าโทษทีหลังว่าคนของข้าเยอะจึงกินเยอะ ข้าจะกินให้เจ้าเงินหมดเลยทีเดียว”ฉินเย่ว์เจียว ฉินเย่ว์โหรวและฉินเย่ว์ฉู่ ต่างก็อยู่ในช่วงการเจริญเติบโตของร่างกาย เรื่องกินไม่มีใครด้อยกว่าใคร“พูดตลกแล้ว!” หลี่ซานฉีกยิ้มและขมวดคิ้ว “คนที่กินจนเงินข้าหมด ยังไม่เกิดเลย”หลังจากกินและดื่มที่เรือนสำราญสุขเสร็จแล้ว เฉินฝานพร้อมกับคนของเขาก็ออกเดินทางกลับเรือนเฉินฝานนั่งอยู่บนรถม้าและเปิดม่านรถม้าพูดกับหลี่ซานว่า “นายน้อยหลี่ ข้าจะไม่พูดคำขอบคุณอะไรมากไปกว่านี้ หากเจ้าต้องการข้าในอนาคตเพียงแค่ตะโกนบอ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 142

    “นายท่าน พวกเราแต่งเข้ามาหนึ่งปีแล้ว ตอนนี้เสียวฉู่ก็กลับมาแล้ว พวกเราอยากกลับไปเยี่ยมปู่กับย่าที่เรือนพ่อกับแม่ เพื่อให้พวกท่านรู้สึกสบายใจเจ้าค่ะ”“ได้หรือไม่เจ้าคะ?”“ได้แน่นอน!”เมื่อสามพี่น้องพูดถึงเรื่องนี้ ในใจของเฉินฝานรู้สึกผิดเล็กน้อยเขาข้ามมิติมาช่วงเวลาหนึ่งแล้วเหมือนกัน ยังไม่เคยถามถึงพี่น้องตระกูลฉินเกี่ยวกับครอบครัวของพวกนางเลย“จริงหรือเจ้าคะ?”ฉินเย่ว์โหรวมองเฉินฝานด้วยความไม่เชื่อหลังจากที่จำนวนผู้ชายมีมากกว่าผู้หญิง ไม่เพียงต้องเตรียมสินเดิมเมื่อผู้หญิงออกเรือนเท่านั้น แต่ยังต้องส่งเงินและอาหารแห้งให้กับลูกเขยเป็นครั้งคราวอีกด้วยสถานการณ์ของครอบครัวพวกฉินเย่ว์โหรวไม่ดี ในเรือนไม่มีพ่อแม่ มีเพียงปู่กับย่าสูงอายุคู่หนึ่งเท่านั้นเพราะพวกท่านป้าคัดค้าน พวกท่านลุงเลยไม่กล้ายื่นมือเข้าไปช่วยหลังจากที่พวกนางแต่งงานกับเฉินฝาน เฉินฝานก็ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากครอบครัวของพวกนางเพื่อนบ้านโดยรอบ โดยเฉพาะครอบครัวของเฉินเจียงครอบครัวแม่ย่าของจางเหลียนฮวา จะนำของมาให้เฉินเจียงทุกหนึ่งหรือสองเดือน ไม่เพียงมีแต่ข้าวสารและเนื้อสัตว์ แต่บางครั้งยังส่งเงินมาให้ด้ว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 143

    “ที่ตำบลไม่มีอะไรน่าซื้อ ต้องไปซื้อที่อำเภอ ถ้าไปที่อำเภอแล้วเร่งไปที่เรือนฉิน คงจะดึกเกินไป”เฉินฝานมีความทรงจำคลุมเครืออยู่บ้างเกี่ยวกับเรือนของพี่น้องตระกูลฉินในความทรงจำของเขา หมู่บ้านเรือนตระกูลฉินไม่ได้อยู่ใกล้กับหมู่บ้านซานเหอ แต่อยู่ห่างออกไปอย่างน้อยสามสิบกิโลเมตรในโลกปัจจุบันที่มีคมนาคมที่พัฒนาแล้ว ระยะทางสามสิบกิโลเมตรเป็นเพียงเรื่องของการเหยียบคันเร่งแต่ในสมัยโบราณแห่งนี้หมู่บ้านตระกูลฉินตั้งอยู่ไกลกว่าหมู่บ้านซานเหอและถนนก็เดินลำบากมาก ในความทรงจำของเขา ช่วงระยะทางที่เข้าไปในหมู่บ้าน เกวียนวัวไม่สามารถเข้าไปได้“เราไปกันวันมะรืน พรุ่งนี้ข้าไปบอกกล่าวกับผู้ดูแลเรือนสำราญสุขก่อนและขอให้ท่านลุงและคนอื่น ๆ ช่วยส่งปลาไปที่ร้านวันมะรืน จากนั้นเราก็ออกเดินทางสู่หมู่บ้านตระกูลฉินกันตั้งแต่เช้า”“ออกเดินทางกันเช้าหน่อย ถึงเวลานั้นพวกเจ้าจะได้อยู่ที่นั่นนานขึ้นและใช้เวลาอยู่กับท่านปู่ท่านย่าให้มากขึ้น”“พวกเจ้าคิดว่า การวางแผนเช่นนี้ของข้า ดีกว่าพวกเจ้าเริ่มเดินทางพรุ่งนี้หรือไม่?”เมื่อเฉินฝานพูดจบ เขาก็ยืนอยู่กับที่แล้วมองสามพี่น้องด้วยความได้ใจเล็กน้อยเขาแค่อยากได้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 144

    แม้เฉินฝานพูดแล้วว่า พวกนางอยากซื้ออะไรให้ท่านปู่กับท่านย่า สามารถซื้อได้ตามใจชอบ แต่ถึงเวลาซื้อจริง ๆ พวกนางก็ยังระมัดระวังมากพวกนางสามคนเดินดูอยู่ครึ่งค่อนวัน กลับมาถึงก็ถือของเพียงสองสามอย่างเฉินฝานมองผ่าน ๆข้าวสารไม่เกินห้าจิน บะหมี่ไม่เกินห้าจิน ผักกาดขาวสองหัว เนื้ออย่างมากหนึ่งจิน และยังคงเป็นเนื้อไม่ติดมัน แม้แต่เนื้อติดมันเล็กน้อยก็ไม่กล้าซื้อ“ซื้อมาเท่านี้รึ?”สามพี่น้องไม่กล้าตอบ ดังนั้น เฉินฝานจึงเงยหน้ามองพวกนาง“นายท่าน…...”แววตาที่ฉินเย่ว์โหรวมองเฉินฝานมีความแวววาว นางเม้มริมฝีปากสองสามครั้งก่อนจะพูดอย่างระมัดระวังว่า “พวกเราซื้อมากเกินไปหรือเปล่าเจ้าคะ?”“หา?!”เฉินฝานเพิ่งข้ามมิติมาได้ไม่นาน และเขายังไม่ค่อยเข้าใจผู้คนที่นี่นักพี่น้องตระกูลฉินซื้อสิ่งเหล่านี้ ถือว่าจำนวนไม่น้อยแล้วฉินเย่ว์ฉู่กล่าว “ของเหล่านี้ พวกเรานำไปครึ่งหนึ่งดีหรือไม่!”ฉินเย่ว์เจียว “ไม่ถึงครึ่งหนึ่งก็ได้”“......พวกเจ้ารอข้าอยู่ในรถม้านะ!”หลังจากทิ้งประโยคนี้ไว้เสร็จ เฉินฝานก็กระโดดลงจากรถม้าสามพี่น้องไปซื้อของมานานถึงเพียงนี้ สายมากแล้ว ไม่ควรเสียเวลาสื่อสารกับพวกนางอีก

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1018

    ใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าเหอเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความสิ้นหวัง“ความเมตตาของสวรรค์ก็ไม่อาจทนต่อความโหดร้ายในโลกนี้ได้ ตอนที่ลูกชายของข้าออกไปปราบโจรครั้งที่ห้า โจรพวกนั้นฉวยโอกาสบุกเข้ามาในเมือง และเอาหลานชายฝาแฝดที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่นานของข้า...”เมื่อพูดถึงตรงนี้ ฮูหยินผู้เฒ่าเหอก็สะอื้นไม่หยุด ริมฝีปากอ้าอยู่หลายครั้งแต่ก็พูดไม่ออก“หลานชายฝาแฝดของเจ้าถูกโจรพวกนั้นฆ่าไปแล้วหรือ?”อ๋องตวนถามขึ้น ความจริงไม่ต้องให้ฮูหยินผู้เฒ่าตอบ อ๋องตวนก็นึกคำตอบได้แล้ว เขากำหมัดแน่นจนข้อนิ้วส่งเสียงดังกร๊อบ“เจ้าวางใจเถิด ข้าจะต้องสังหารหัวหน้าโจรเหล่านั้นให้หมดอย่างแน่นอน!”“ท่านอ๋อง!”ฮูหยินผู้เฒ่าเหอคุกเข่าลงอีกครั้ง “ทหารแคว้นจ้าวถูกขับไล่ไปแล้ว ขอร้องท่านกลับไปยังเมืองหลวงเสียเถิด”“หญิงชราผู้นี้เป็นอะไรไป?” อ๋องตวนโกรธจัดจนเต้นเร่า ๆ แล้ว“พวกเจ้าบอกว่าโจรส่วนมากล้วนเป็นลูกชายของชาวบ้านเหล่านี้ ข้าจะไม่ฆ่าโจรทั่วไป จะฆ่าแค่หัวหน้าของพวกมันก็ไม่ได้หรือ?”“ท่านอ๋อง!” เฉินฝานดึงอ๋องตวนไว้"ผู้อาวุโส" เฉินฝานก้มตัวประคองนางเหอให้ลุกขึ้นมา“โจรให้หลานชายฝาแฝดของพวกท่านเป็นหัวหน้าแล้วใช่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1017

    “พวกสตรีชั่วช้าอยากจะฆ่าอัครเสนาบดีก็เหมือนก่อกบฏอย่างไม่ต้องสงสัย เจ้ายังจะขอร้องแทนพวกนางอีกหรือ?”อ๋องตวนเตะเหอจื้อเฟยด้วยความเดือดดาลเหอจื้อเฟยคลานขึ้นมาคุกเข่าต่อหน้าเฉินฝานต่อเพื่อขอร้องแทนสตรีเหล่านั้น “พวกนางก็ไม่มีทางเลือกเช่นกัน ลูกชายของพวกนางล้วนอยู่ในกำมือของโจรพวกนั้น หลายคนถูกจับตัวไปตั้งแต่ที่ยังเด็กมาก ๆ พวกเขากลายเป็นโจรก็เพราะถูกบีบบังคับ”“เพราะว่าหากพวกเขาไม่ยอมเข้าร่วมฝึกฝนกลายเป็นโจร หัวหน้าโจรเหล่านั้นก็จะสังหารมารดาของพวกเขาแทน”เหอจื้อเฟยเอ่ยคำพูดสองประโยคนี้ก็มีเสียงร้องไห้ดังขึ้นทั่วบริเวณแม้ว่าเฉินฝานจะคาดเดาคำตอบได้แล้ว แต่เมื่อได้ยินเองกับหูถึงสิ่งที่เหอจื้อเฟยพูดออกมา เขาก็ยังรู้สึกสะเทือนใจมาก แม่กลัวลูกต้องตาย จึงห้ามไม่ให้ทางการส่งทหารออกไปปราบโจรลูกกลัวแม่ต้องตาย จึงฝึกฝนสุดชีวิตเพื่อเป็นโจรที่มีคุณสมบัติเหมาะสมต้องยอมรับว่าหัวหน้าโจรพวกนั้นเฉลียวฉลาดมาก“นั่นเป็นเพราะเจ้าบกพร่องต่อหน้าที่!” อ๋องตวนเตะเหอจื้อเฟยอีกครั้ง “หากเจ้าส่งคนไปกำจัดโจรพวกนี้ตั้งแต่แรก จะมีผลที่ตามมาเยอะถึงเพียงนี้หรือ?”ทันทีที่อ๋องตวนพูดจบก็มีสตรีผู้หนึ่งออก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1016

    “เมื่อครู่ข้าได้ยินชัดเจนว่าเจ้าแค่สั่งให้เหอจื้อเฟยไปปราบโจรเท่านั้น เหตุใดถึงไปทำร้ายลูกของพวกเขา...”อ๋องตวนพลันหยุดชะงัก“โจร?!” อ๋องตวนร้องอุทานขึ้นมา “หรือว่าโจรพวกนั้นก็คือลูกชายของพวกนาง?”“ข้าคิดว่ามีความเป็นไปได้แปดเก้าส่วน” เฉินฝานพยักหน้าเช่นกัน“พวกเขาไม่ใช่โจรร้าย ขุนนางใหญ่สูงส่งอย่างพวกท่านจะไปเข้าใจอะไร?” บทสนทนาระหว่างอ๋องตวนกับเฉินฝานทำให้สตรีเหล่านั้นอารมณ์ร้อนมาก แต่ละคนเหมือนกับไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วก็ไม่ปาน ผลักดันเบียดเสียดกันห้อมล้อมนักการในศาลาว่าการข้างกายเฉินฝานกับอ๋องตวนไว้ เมื่อเห็นว่าผลักไม่ได้แล้ว ก็ใช้มีดหั่นผักในมือฟันใส่ทันที“เพล้ง!”อ๋องตวนโยนไหเหล้าในมือลงกับพื้น“พวกสตรีชั่วช้า พอพยัคฆ์ไม่แสดงบารมี พวกเจ้าก็เห็นว่าเป็นแมวป่วยใช่หรือไม่?” พวกนางคิดว่าข้าเป็นแมวป่วยหรืออย่างไร? ถ้าเสือไม่คำราม พวกเจ้าไม่เห็นรัศมีหรืออย่างไร?”อ๋องตวนก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เตะสตรีหลายคนจนกระเด็นไปทันทีอย่างไรก็ตามแม้สตรีหลายคนจะถูกถีบกระเด็น แต่ก็ไม่เกิดผลให้หวาดกลัวใด ๆ เลย สตรีเหล่านั้นกลับฮึกเหิมมากยิ่งขึ้น ปากตะโกนว่าจะให้พวกเฉินฝานตายไปพร้อมกั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1015

    หญิงชราวัยประมาณหกสิบปีผู้หนึ่งขวางหน้าเหอจื้อเฟยไว้“ท่านแม่ ลูกต้องไปทำงาน ท่านอย่าขัดขวางลูกเลย” เหอจื้อเฟยเอ่ยด้วยความเจ็บปวดใจคนที่ยืนขวางเหอจื้อเฟยไม่ให้เหอจื้อเฟยไปทำร้ายโจร ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นมารดาของเขาเองนางเหอเหลือบมองดาบในมือของเหอจื้อเฟยแล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “งานของเจ้าอยู่ในที่ว่าการไม่ใช่หรือ? เจ้าเป็นขุนนาง ไม่อยู่ในที่ว่าการ ถือดาบวิ่งออกมา นี่จะไปทำสิ่งใด? เจ้าเป็นเพชฌฆาตหรือไร? เจ้าเป็นคนฆ่าสัตว์หรือไร?”“ท่านแม่ ลูกมีงานราชการเร่งด่วนจริง ๆ ใครก็ได้!”เหอจื้อเฟยพูดพลางหันหน้าไปสั่งนักการในศาลาว่าการที่อยู่ข้างหลังเสียงดัง “พาฮูหยินผู้เฒ่ากลับจวน!” “ใครกล้าแตะต้องข้า!”นางเหอหยิบกรรไกรออกมาทันที แล้วชี้ไปยังนักการในศาลาว่าการที่เดินมาหานางหลังจากที่นักการในศาลาว่าการหยุดเดินไม่กล้าเดินข้างหน้า นางเหอก็ใช้กรรไกรจ่อคอตัวเองทันที“เหอจื้อเฟย เจ้าอย่าคิดว่าแม่แก่แล้วหูตาฟ้าฟาง ไม่รู้ว่าเจ้าจะไปที่ใด หากเจ้าไปสังหารโจรก็สังหารแม่ก่อน หลังจากนั้นค่อยข้ามศพของแม่ไป”“ท่านแม่ นี่ท่านทำอะไร?” ใบหน้าของเหอจื้อเฟยเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและอับจนปัญญาอ๋องตวนถ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1014

    โจรเข้ามาในเมืองกันหมดแล้ว แต่เหอจื้อเฟยกลับทำเป็นไม่มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นเมื่อครู่สตรีวัยกลางคนยังบอกว่าเหอจื้อเฟยเป็นขุนนางที่ดี หรือว่าจะไม่กล้าพูดความจริงเฉินฝานบอกลาครอบครัวของสตรีวัยกลางคน แล้วรีบรุดไปยังที่ว่าการเมืองเฟิ่งหวงด้านนอกศาลาว่าการ เฉินฝานยังจงใจมองรอบหนึ่ง มีชายหลายคนเดินป้วนเปี้ยนอยู่ด้านนอกศาลาว่าการจริง ๆ ดวงตาชำเลืองมองศาลาว่าการของเมืองเฟิ่งหวงเป็นครั้งคราวสายตาของชายเหล่านั้นดูอำมหิตดุดัน มองแวบเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาพวกเขาน่าจะเป็นโจรที่สตรีวัยกลางคนพูดถึงโจรป่าคอยนั่งเฝ้าอยู่หน้าประตูที่ว่าการช่างอุกอาจนัก!เฉินฝานสาวเท้ายาว ๆ เข้าไปในที่ว่าการ“ท่านอัครเสนาบดีฝ่ายซ้าย!”เมื่อเห็นเฉินฝาน เหอจื้อเฟยก็วิ่งเข้ามาหาทันทีเฉินฝานเองก็ก้าวเท้ายาว ๆ เดินเข้าไปหาเช่นกัน เมื่ออยู่ห่างจากเหอจื้อเฟยไม่ถึงห้าเมตร...“เคร้ง!”เฉินฝานชักดาบคู่กายของนักการในศาลาว่าการคนหนึ่งออกมาอย่างฉับไว“ตะ ใต้...”ขณะที่นักการในศาลาว่าการพูดติดอ่าง เฉินฟานก็ถือดาบชี้ไปที่เหอจื้อเฟยแล้วเหอจื้อเฟยมองเฉินฟานอย่างตกตะลึง สุดท้ายก็คุกเข่าลงอย่างเงียบงัน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1013

    “ใต้เท้า ซาลาเปาของข้าไม่ได้แพงเช่นนั้น หาได้มีราคาสูงถึงหนึ่งตำลึงไม่!”สตรีวัยกลางคนตอบไม่ตรงคำถาม นางห่อซาลาเปาบนแผงทั้งหมดให้เฉินฝาน เฉินฝานนึกว่าสตรีวัยกลางคนได้ยินคำพูดของตนไม่ชัด จึงคิดจะพูดอีกครั้งปรากฏว่าเขายังไม่ทันเอ่ยปาก สตรีวัยกลางคนก็เอ่ยขึ้นมาอีกทันที“อันที่จริงแล้วซาลาเปาพวกนี้ก็มิได้มีราคาสูงถึงหนึ่งตำลึงเช่นกัน! พ่อหนุ่ม วันนี้ข้าไม่ได้ทำมาเยอะขนาดนั้น!” สตรีวัยกลางคนพลันเอ่ยเสียงดัง “หากท่านยังต้องการ เช่นนั้นท่านก็รอสักครู่เถิด ข้าจะกลับไปทำเพิ่มให้ท่านอีกหนึ่งเข่ง ท่านรอไม่ไหว? เช่นนั้นรบกวนท่านไปกับข้าแล้ว”เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ เฉินฝานก็เข้าใจในพริบตา สตรีวัยกลางคนทราบถึงเหตุผล แต่ตอนนี้นางไม่กล้าเอ่ยออกมาตรง ๆเฉินฝานติดตามสตรีวัยกลางคน เดินเลี้ยวเจ็ดแปดครั้งไม่นานก็มาถึงย่านทิศเหนือของเมืองย่านทิศเหนือของเมืองแร้นแค้น ผู้คนที่อาศัยอยู่ล้วนเป็นผู้ที่ยากจนที่สุดในเมืองนี้บ้านของสตรีวัยกลางคนสร้างด้วยฟางหญ้า เสาไม้ที่ค้ำกระท่อมฟางหญ้าผุกร่อนจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว แค่ลมพัดทีเดียวก็ดูอันตรายเต็มที ผุพังยิ่งกว่าบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านซานเหอหลังนั้นเมื่อตอนท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1012

    เหอจื้อเฟย ขุนนางของเมืองเฟิ่งหวงคุกเข่าลงกับพื้นดังตุบ “ท่านอ๋อง! ใต้เท้า! ต่อให้ข้าน้อยมีความกล้าอีกสิบเท่า ก็ไม่กล้าทำเช่นนี้หรอกขอรับ!”“เจ้ามิได้กระทำ เช่นนั้นเหตุใดจึงไม่มีผู้ใดมารับเงินเล่า?”“เรื่องนี้...” เหอจื้อเฟยทำสีหน้าลำบากใจ “ข้าน้อยก็ไม่รู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นขอรับ”“เจ้าไม่รู้ แล้วเป็นขุนนางเมืองนี้ได้อย่างไร?” อ๋องตวนที่อารมณ์ร้อนและไม่มีความอดทนอะไรกวัดแกว่งกำปั้นขึ้นมาหมายจะอัดคน“ท่านอ๋อง!” เฉินฝานรีบห้ามเขาทันที “ลุกขึ้นเถิด!” เฉินฝานกล่าวกับเหอจื้อเฟย“ขอบคุณขอรับใต้เท้า”เหอจื้อเฟยลุกขึ้นมาแล้ว แต่ท่าทางยังคงสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัว พยายามยืนห่างจากอ๋องตวนเล็กน้อย“เจ้าออกไปเถิด พานักการในศาลาว่าการไปประกาศอีกครั้ง บางทีชาวบ้านจำนวนมากอาจยังไม่ทราบก็ได้”“ขอรับ ใต้เท้า!”เหอจื้อเฟยวิ่งออกไปราวกับหนีตายอ๋องตวนจ้องมองร่างของเหอจื้อเฟยที่จากไปอย่างรวดเร็วแล้วกล่าวว่า “เฉินฝาน แค่เห็นเหอจื้อเฟยคนนั้นก็รู้ว่าพูดโกหกอยู่ เจ้าปล่อยเขาไปเช่นนี้ได้อย่างไร?”“ปล่อยเขาไป หากให้เขาอยู่ที่นี่ ท่านคิดว่าเขาจะพูดหรือ?”“อัดสักยกสิ!” อ๋องตวนชูกำปั้นขนาดใหญ่ของต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1011

    “ใช่ ๆ เมื่อไม่กี่วันก่อน ทูตของเจ้าพูดจายกตนข่มท่านในพระราชวังต้าชิ่งของข้า บอกว่าหลังจากตะวันลับฟ้าอะไรนั่นยังตกลงกันไม่ได้ ก็จะให้ต้าชิ่งของข้าชดใช้เงินสามสิบล้านตำลึงให้กับพวกเจ้า”“นี่เป็นสิ่งที่เจ้าสั่งสอนมาใช่หรือไม่? คนต่ำช้าเจ้าเล่ห์!”“ปัง!”อ๋องตวนต่อยไปที่ศีรษะของจ้าวรุ่ยอีกครั้ง “ใครใช้ให้เจ้าตั้งเงื่อนไขส่งเดชเล่า ตอนนี้ก็รับกรรมที่ก่อไว้เสียเถิด เอาตามเงื่อนไขของเสี่ยวฝาน ให้กองทัพสองแสนนายกับทหารรักษาพระองค์อีกหมื่นนายถอยกลับไปที่แคว้นจ้าวของพวกเจ้าก่อนตะวันตกดิน เงินสามสิบล้านตำลึงก็ต้องส่งมาถึงก่อนตะวันตกดินด้วยเช่นกัน” “เจ้าไม่ยอมหรือ...”อ๋องตวนยกกำปั้นขึ้นมาอีกครั้ง“เดี๋ยวก่อน!”แม้ว่าหมัดของอ๋องตวนจะไม่น่ากลัวเท่าปืนในมือเฉินฝาน แต่ก็ค่อนข้างน่าสะพรึงกลัวอยู่เหมือนกัน บัดนี้จ้าวรุ่ยถูกอัดจนจมูกเขียวหน้าบวมช้ำแล้วสุภาษิตกล่าวไว้ว่า หากเขาเขียวยังคงดำรงอยู่ ย่อมมิกลัวขาดฟืนต่อไปเขาจะต้องหาโอกาสล้างความอัปยศในวันนี้ได้อย่างแน่นอนจ้าวรุ่ยกัดฟัน “ได้! ข้า...รับปากพวกเจ้า!”“แต่ว่า ดีหรือร้ายอย่างไรข้าก็เป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของแคว้นหนึ่ง พวกเจ้ามิอาจให

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1010

    “แหะๆ!” อ๋องตวนหัวเราะแห้งๆ “ไม่อาจปิดบังเจ้าได้สักเรื่องจริงๆ”“ว่าแต่ เสี่ยวฝาน เมื่อวานเจ้าเป่ายิ้งฉุบได้เยี่ยมยอดจริงๆ ข้าไม่คิดเลยว่าจะเป่ายิ้งฉุบเช่นนี้ก็ได้ เวลานั้นเจ้า...”ขณะพูด อ๋องตวนเริ่มทำไม้ทำมือมือซ้ายคือเฉินฝาน มือขวาคือตัวเขาเองจ้าวรุ่ยไม่เข้าใจ นึกว่าอ๋องตวนกำลังพูดความลับบางอย่าง ดังนั้นจึงเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ ทั้งยังท่องจำเงียบๆเฉินฝาน "“..”“เช่นนั้นท่านก็เดาอยู่ที่นี่เถอะ รอท่านเดาออกแล้ว ข้าค่อยกลับมาเจรจากับจ้าวรุ่ย!”เฉินฝานขยับตัวหาท่านั่งที่สบาย“โอ๊ยๆ ไม่เดาแล้ว ข้าไม่เอาแล้ว!” อ๋องตวนรีบคว้าตัวเฉินฝาน แต่เฉินฝานไม่สนใจเขา หาที่ที่มีลมโกรก แล้วนอนพักผ่อน ไม่ว่าอ๋องตวนจะอ้อนวอนขอร้องเขาอย่างไร เขาก็แสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน“เจ้าดูเจ้าสิ ดูเจ้าสิ ทำเสียงเรื่องหมดแล้ว!” จ้าวรุ่ยตำหนิอ๋องตวน“เฮ้อ ทุกครั้งที่ข้าอยากเล่นเป่ายิ้งฉุบ ก็ไม่อาจหยุดตนเองได้”“ชิๆๆ ไม่แปลกที่จักรพรรดิต้าชิ่งคนก่อนกล่าวว่าเจ้าไม่อาจประสบความสำเร็จ ทั้งยังสร้างปัญหาเก่ง วันนี้เห็นกับตาท่าจะเป็นเรื่องจริง”“ใช่ๆๆ!” อ๋องตวนพยักหน้า “ต่อไปนี้ข้า...”จู่ๆ อ๋องตวนก็หยุดลง หันไปม

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status