Share

บทที่ 136

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
หลังจากอวี๋ไหวบอกเล่าความผิดของฉินเย่ว์ฉู่ นายอำเภอพูดทันที

“ฉินเย่ว์ฉู่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าตนทำความผิด!”

“ใต้เท้า!” ฉินเย่ว์ฉู่คุกเข่า “ข้าถูกปรักปรำ ทุกอย่างที่ข้าทำล้วนถูกลวี่ซิงฟาบีบบังคับเจ้าค่ะ!”

“ข้าบังคับเจ้าเนี่ยนะ?” ลวี่ซิงฟายกมุมปากขึ้นด้วยความทระนง “เจ้าไม่ใช่ภรรยาของข้า ยิ่งไม่ใช่ญาติมิตรของข้า ข้าบังคับเจ้าแล้วเจ้าจะเชื่อฟังข้าเช่นนั้นหรือ?”

“ครึ่งปีก่อน นายท่านขายข้าไปเป็นทาสของเจ้า”

“ขายเจ้าให้ข้าเช่นนั้นหรือ? มีหลักฐานใด? อีกเรื่องหนึ่ง กฎหมายต้าชิ่งไม่อนุญาตให้มีการซื้อขายภรรยาของตน นายท่านของเจ้ารู้กฎหมายแล้วยังจะทำผิดกฎหมายหรือ? เขาไม่มีสมองหรืออย่างไร?”

ตอนลวี่ซิงฟาพูดคำว่าไม่มีสมอง เสียงของเขาดังมาก

เขาต้องการจะให้คนในศาล หัวเราะเยาะเฉินฝานที่ไร้สมอง

เฉินฝานต้องหงุดหงิดมากกระมัง แต่จะทำอะไรได้ เขากล้าโต้เถียงตนหรือ?

“เจ้า...” ฉินเย่ว์ฉู่โฒโหจนตาแดงก่ำ “เจ้ามันคนชั่วพูดบิดเบือนข้อเท็จจริงก่อน ! บาดแผลบนตัวข้ามาจากการทุบตีของเจ้าไม่ใช่หรือ?"

“ข้าทุบตีเจ้า? ใครเห็นหรือ?”

“เจ้าไม่เพียงทุบตีข้า พวกเพื่อนๆ คนอื่นก็ถูกเจ้าทำร้ายร่างกายเหมือนกัน”

“อ๋อ พวกเพื่อนๆ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 137

    แม้ข้าไม่ใช่ญาติภรรยาของเฉินฝาน แต่ในฐานะมนุษย์ที่มีจิตสำนึกคนหนึ่ง ข้ารับไม่ได้กับการกระทำของเขาจริงๆ ตั้งแต่พี่น้องตระกูลฉินแต่งงานกับเฉินฝาน เฉินฝานทำร้ายร่างกายพวกนางมาโดยตลอด ซึ่งหนึ่งในนั้น”ลวี่ซิงฟาชี้ไปที่ฉินเย่ว์โหรวแล้วพูด “ขาของนางถูกเฉินฝานทุบตีจนหัก กระทั่งทุกวันนี้ยังไม่หายดี”เช่นเดียวกับการห้ามซื้อขายภรรยา กฎหมายต้าซิ่ง สามีห้ามทุบตีภรรยาโดยไร้เหตุผลและเป็นเพราะตอนนี้บุรุษน้อยสตรีมาก ขอเพียงไม่ถึงแก่ความตาย ก็ไม่มีใครสนใจลวี่ซิงฟาคิดมาดีแล้ว เขาร้องเรียนบนชั้นศาลในเวลานี้ นายอำเภอไม่อาจเอาหูไปนาเอาตาไปไร่อีก“สำหรับพยาน คนทั้งหมู่บ้านซานเหอเป็นพยานได้ ใต้เท้าส่งคนไปถามก็จะได้คำตอบเองขอรับ”“เฉินฝาน!” คิ้วหนาของนายอำเภอขมวดเป็นปม ถามเฉินฝานด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกิดเรื่องนี้ขึ้นจริงๆ หรือไม่?”เขาผิดหวังกับเฉินฝานเล็กน้อย ไม่แปลกที่ก่อนหน้านี้เขาให้รางวัลเฉินฝาน เฉินฝานไม่กล้ารับ ที่แท้เป็นเพราะเฉินฝานไม่ใช่คนขาวสะอาดนี่เองช่วงหลังที่ผ่านมานี้ ได้ยินข่าวสามีทุบตีภรรยารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ บุรุษบางคนกล้าทุบตีแม้กระทั่งคุณหนูตระกูลใหญ่ เรื่องนี้ไปถึงฮ่องเต้แล้วฮ่อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 138

    เฉินฝานและหลี่ซานทำงานร่วมกัน เรื่องนี้นายอำเภอย่อมรู้ เขานึกว่าหลี่ซานมาขอความเมตตาให้เฉินฝานหากเป็นเมื่อก่อน เขาลงโทษสถานเบาได้ ทว่าตอนนี้ไม่ได้“ใต้เท้า! เฉินฝานเคยทุบตีภรรยาของตนเอง เป็นความผิดที่สมควรลงโทษ แม้เทพเซียนจากสวรรค์ลงมา ก็ไม่อาจลบล้างความผิดของเขาได้”หากหลี่ซานไม่มีความสามารถมากพอที่จะรู้ข่าววงใน เช่นนั้นตระกูลหลี่ คงไม่อาจมีอำนาจในอำเภอผิงอันถึงทุกวันนี้ได้เขารู้ว่าตอนนี้นายอำเภออยากจับคนทำร้ายภรรยาสี่ห้าคนมาเป็นตัวอย่าง เวลานี้เขายิ่งช่วยขอความเมตตาให้เฉินฝาน โทษของเฉินฝานก็จะยิ่งหนักได้ยินคำพูดของหลี่ซาน นายอำเภอโล่งอกแม้จะกล่าวว่าลำดับชนชั้นเรียงจากบัณฑิต กสิกร กรรมกรและพ่อค้าวาณิชย์แต่การที่มีเงินมากทำให้ทำงานง่ายขึ้นข้าราชการในพื้นที่ หรือปัญญาชนที่มีชื่อเสียง แม้เบื้องหน้าจะดูแคลนพ่อค้า แต่ยามพ่อค้ามอบประโยชน์ให้พวกเขา พวกเขาแต่ละคนรับไว้ไม่ใช่น้อยๆหลายปีมานี้ตระกูลหลี่ช่วยนายอำเภอแก้ปัญหาการเงินไม่น้อยหากหลี่ซานจะมีปัญหากับเขาในศาล เพราะเรื่องของเฉินฝาน เช่นนั้นก็ยุ่งยากไม่น้อยแน่นอนคนที่มีความสุขที่สุดคือลวี่ซิงฟาเรื่องของเฉินฝานในวันนี

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 139

    “ใต้เท้า พวกนางปรักปรำข้า หลี่ซานกับเฉินฝานร่วมมือกัน ใช่ๆ!” คล้ายความหวังสุดท้ายของลวี่ซิงฟา เขาชี้ไปที่หลี่ซาน “เป็นเช่นนี้ เจ้ากับเฉินฝานร่วมมือกันทำร้ายข้า หญิงสาวพวกนั้นมาจากหอนางโลมอี๋ชุนย่วนของเจ้าใช่ไหม”“หึ!” หลี่ซานหัวเราะในลำคอ “เรือนด้านในสุดของตลาดฮวาหลี่ ตอนนี้ยังมีหญิงสาวอีกหนึ่งคน ถึงขั้นไม่อาจลุกเดิน หมอกำลังรักษานางอยู่ เจ้าอยากไปดูนางหรือไม่?”“หากเจ้าอยากไป...” หลี่ซานคารวะนายอำเภอ “ข้าขอความเมตตาจากท่านใต้เท้าให้เจ้าได้ นำเจ้าหน้าที่สองคนพาเจ้าไปดู”“อ๋อ!” หลี่ซานชะงักครู่หนึ่ง พูดต่อ “เมื่อครู่ เจ้ายอมรับเองว่าเรือนด้านในสุดของตลาดฮวาหลี่เป็นของเจ้า ข้าเชื่อว่าไม่ได้มีแค่ข้าเท่านั้นที่ได้ยิน ท่านใต้เท้าก็ได้ยินแน่นอน”สีหน้าของลวี่ซิงฟาแปรเปลี่ยนเป็นซีดขาวในทันที เหงื่อผุดเต็มหน้าผากตอนหลี่ซานมา เขาไม่ได้นำตัวหญิงสาวทั้งสามคนมาตั้งแต่แรก แต่เจตนาใกล้ชิดเขาที่แท้ก็เพื่อหลอกให้เขาตอบว่าเรือนหลังนั้นเป็นของเขา โทษได้เพียงว่าเมื่อครู่เขาดีใจจนประมาททำให้ยอมรับไปแค่ว่า...เขาส่ายหน้าพร้อมกับพูดพึมพำด้วยความเหลือเชื่อ “เป็นไปได้อย่างไร เป็นไปได้อย่างไร เจ้า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 140

    เฉินฝานยิ้ม “เจ้าเป็นคนบอกข้า”ฉินเย่ว์ฉู่บอกว่าลวี่ซิงฟาเอาตัวพวกนางใส่ไว้ในถังไม้ ถังไม้ดิ่งลงไม่หยุด แล้วนางก็ได้ยินเสียงสะท้อน บวกกับผิวของฉินเย่ว์ฉู่ที่ขาวซีดมากปัจจัยต่างๆ บวกกันแล้ว ขั้นแรกเฉินฝานวิเคราะห์ว่าพวกฉินเย่ว์ฉู่ถูกขังในบ่อบาดาลแห้งที่แสงแดดไม่ตกกระทบฉินเย่ว์ฉู่ยังบอกอีกว่า ทุกครั้งหลังจากพวกนางออกไปลักขโมยเสร็จ จะไปรวมตัวกันในวัดนอกอำเภอเมื่อไปถึงที่นั่น ลวี่ซิงฟาจะมัดพวกนางและปิดตา เอาตัวพวกนางขึ้นไปบนเกวียนที่ล้อเว้าแหว่ง ฉินเย่ว์ฉู่ที่นั่งบนเกวียน ด้วยความเบื่อหน่าย ขณะเดียวกันก็เพื่อลืมความเจ็บปวดของร่างกาย นางก็จะเริ่มนับเลข ล้อหมุนทั้งหมดแปดร้อยสามสิบหกครั้ง เกวียนก็จะหยุดจอดจากข้อมูลนี้ เฉินฝานวิเคราะห์ว่า เกวียนมุ่งหน้าเข้าไปในอำเภอเพราะทำให้ฉินเย่ว์ฉู่รับรู้ถึงการเว้าแหว่งของล้อเกวียนได้ หมายความว่าถนนค่อนข้างราบเรียบ แล้วถนนที่ราบเรียบเช่นนี้ ต้องเป็นถนนในอำเภอแน่นอนหลายวันมานี้ เฉียนลิ่วมาส่งปลากับเฉินฝานทุกวัน เฉียนลิ่วคนนี้ชอบคุยโว ระหว่างทางเขาพูดไม่หยุดเขาบอกว่ารู้จักเกวียนเป็นอย่างดี ล้อเกวียนในราชวงศ์ต้าซิ่งมีสามประเภท แต่ละประเภทก็มี

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 141

    “ฮะ?” เฉินฝานเอียงศีรษะเล็กน้อยแล้วจ้องหลี่ซาน “เจ้าหมายถึงอะไรหรือ?”“อ่อ!” หลี่ซานรีบหยุดส่ายหัวแล้วฉีกยิ้ม “ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร”“สถานที่อย่างที่ทำการ เป็นสถานที่ที่ชั่วร้ายยิ่งนัก ปกติแล้วถ้าไม่มีธุระใครก็ไม่เข้าไปที่นี่หรอก คนที่เข้ามาก็มีแต่เรื่องไม่ดีทั้งนั้น”หลี่ซานผลักเฉินฝานเบา ๆ “ไปกันเถอะ ๆ วันนี้ข้าเป็นเจ้ามือเอง ไปที่ร้านของข้ากัน วันนี้เจ้าอยากกินอะไรสั่งได้เต็มที่ ชำระความโชคร้ายกัน!”เฉินฝานเองก็ไม่เกรงใจกับหลี่ซานอีก เขายืนที่ที่ทำการนานขนาดนั้น รู้สึกหิวแล้วเหมือนกัน“ได้สิ อย่าโทษทีหลังว่าคนของข้าเยอะจึงกินเยอะ ข้าจะกินให้เจ้าเงินหมดเลยทีเดียว”ฉินเย่ว์เจียว ฉินเย่ว์โหรวและฉินเย่ว์ฉู่ ต่างก็อยู่ในช่วงการเจริญเติบโตของร่างกาย เรื่องกินไม่มีใครด้อยกว่าใคร“พูดตลกแล้ว!” หลี่ซานฉีกยิ้มและขมวดคิ้ว “คนที่กินจนเงินข้าหมด ยังไม่เกิดเลย”หลังจากกินและดื่มที่เรือนสำราญสุขเสร็จแล้ว เฉินฝานพร้อมกับคนของเขาก็ออกเดินทางกลับเรือนเฉินฝานนั่งอยู่บนรถม้าและเปิดม่านรถม้าพูดกับหลี่ซานว่า “นายน้อยหลี่ ข้าจะไม่พูดคำขอบคุณอะไรมากไปกว่านี้ หากเจ้าต้องการข้าในอนาคตเพียงแค่ตะโกนบอ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 142

    “นายท่าน พวกเราแต่งเข้ามาหนึ่งปีแล้ว ตอนนี้เสียวฉู่ก็กลับมาแล้ว พวกเราอยากกลับไปเยี่ยมปู่กับย่าที่เรือนพ่อกับแม่ เพื่อให้พวกท่านรู้สึกสบายใจเจ้าค่ะ”“ได้หรือไม่เจ้าคะ?”“ได้แน่นอน!”เมื่อสามพี่น้องพูดถึงเรื่องนี้ ในใจของเฉินฝานรู้สึกผิดเล็กน้อยเขาข้ามมิติมาช่วงเวลาหนึ่งแล้วเหมือนกัน ยังไม่เคยถามถึงพี่น้องตระกูลฉินเกี่ยวกับครอบครัวของพวกนางเลย“จริงหรือเจ้าคะ?”ฉินเย่ว์โหรวมองเฉินฝานด้วยความไม่เชื่อหลังจากที่จำนวนผู้ชายมีมากกว่าผู้หญิง ไม่เพียงต้องเตรียมสินเดิมเมื่อผู้หญิงออกเรือนเท่านั้น แต่ยังต้องส่งเงินและอาหารแห้งให้กับลูกเขยเป็นครั้งคราวอีกด้วยสถานการณ์ของครอบครัวพวกฉินเย่ว์โหรวไม่ดี ในเรือนไม่มีพ่อแม่ มีเพียงปู่กับย่าสูงอายุคู่หนึ่งเท่านั้นเพราะพวกท่านป้าคัดค้าน พวกท่านลุงเลยไม่กล้ายื่นมือเข้าไปช่วยหลังจากที่พวกนางแต่งงานกับเฉินฝาน เฉินฝานก็ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากครอบครัวของพวกนางเพื่อนบ้านโดยรอบ โดยเฉพาะครอบครัวของเฉินเจียงครอบครัวแม่ย่าของจางเหลียนฮวา จะนำของมาให้เฉินเจียงทุกหนึ่งหรือสองเดือน ไม่เพียงมีแต่ข้าวสารและเนื้อสัตว์ แต่บางครั้งยังส่งเงินมาให้ด้ว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 143

    “ที่ตำบลไม่มีอะไรน่าซื้อ ต้องไปซื้อที่อำเภอ ถ้าไปที่อำเภอแล้วเร่งไปที่เรือนฉิน คงจะดึกเกินไป”เฉินฝานมีความทรงจำคลุมเครืออยู่บ้างเกี่ยวกับเรือนของพี่น้องตระกูลฉินในความทรงจำของเขา หมู่บ้านเรือนตระกูลฉินไม่ได้อยู่ใกล้กับหมู่บ้านซานเหอ แต่อยู่ห่างออกไปอย่างน้อยสามสิบกิโลเมตรในโลกปัจจุบันที่มีคมนาคมที่พัฒนาแล้ว ระยะทางสามสิบกิโลเมตรเป็นเพียงเรื่องของการเหยียบคันเร่งแต่ในสมัยโบราณแห่งนี้หมู่บ้านตระกูลฉินตั้งอยู่ไกลกว่าหมู่บ้านซานเหอและถนนก็เดินลำบากมาก ในความทรงจำของเขา ช่วงระยะทางที่เข้าไปในหมู่บ้าน เกวียนวัวไม่สามารถเข้าไปได้“เราไปกันวันมะรืน พรุ่งนี้ข้าไปบอกกล่าวกับผู้ดูแลเรือนสำราญสุขก่อนและขอให้ท่านลุงและคนอื่น ๆ ช่วยส่งปลาไปที่ร้านวันมะรืน จากนั้นเราก็ออกเดินทางสู่หมู่บ้านตระกูลฉินกันตั้งแต่เช้า”“ออกเดินทางกันเช้าหน่อย ถึงเวลานั้นพวกเจ้าจะได้อยู่ที่นั่นนานขึ้นและใช้เวลาอยู่กับท่านปู่ท่านย่าให้มากขึ้น”“พวกเจ้าคิดว่า การวางแผนเช่นนี้ของข้า ดีกว่าพวกเจ้าเริ่มเดินทางพรุ่งนี้หรือไม่?”เมื่อเฉินฝานพูดจบ เขาก็ยืนอยู่กับที่แล้วมองสามพี่น้องด้วยความได้ใจเล็กน้อยเขาแค่อยากได้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 144

    แม้เฉินฝานพูดแล้วว่า พวกนางอยากซื้ออะไรให้ท่านปู่กับท่านย่า สามารถซื้อได้ตามใจชอบ แต่ถึงเวลาซื้อจริง ๆ พวกนางก็ยังระมัดระวังมากพวกนางสามคนเดินดูอยู่ครึ่งค่อนวัน กลับมาถึงก็ถือของเพียงสองสามอย่างเฉินฝานมองผ่าน ๆข้าวสารไม่เกินห้าจิน บะหมี่ไม่เกินห้าจิน ผักกาดขาวสองหัว เนื้ออย่างมากหนึ่งจิน และยังคงเป็นเนื้อไม่ติดมัน แม้แต่เนื้อติดมันเล็กน้อยก็ไม่กล้าซื้อ“ซื้อมาเท่านี้รึ?”สามพี่น้องไม่กล้าตอบ ดังนั้น เฉินฝานจึงเงยหน้ามองพวกนาง“นายท่าน…...”แววตาที่ฉินเย่ว์โหรวมองเฉินฝานมีความแวววาว นางเม้มริมฝีปากสองสามครั้งก่อนจะพูดอย่างระมัดระวังว่า “พวกเราซื้อมากเกินไปหรือเปล่าเจ้าคะ?”“หา?!”เฉินฝานเพิ่งข้ามมิติมาได้ไม่นาน และเขายังไม่ค่อยเข้าใจผู้คนที่นี่นักพี่น้องตระกูลฉินซื้อสิ่งเหล่านี้ ถือว่าจำนวนไม่น้อยแล้วฉินเย่ว์ฉู่กล่าว “ของเหล่านี้ พวกเรานำไปครึ่งหนึ่งดีหรือไม่!”ฉินเย่ว์เจียว “ไม่ถึงครึ่งหนึ่งก็ได้”“......พวกเจ้ารอข้าอยู่ในรถม้านะ!”หลังจากทิ้งประโยคนี้ไว้เสร็จ เฉินฝานก็กระโดดลงจากรถม้าสามพี่น้องไปซื้อของมานานถึงเพียงนี้ สายมากแล้ว ไม่ควรเสียเวลาสื่อสารกับพวกนางอีก

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1302

    หวนนึกถึงภาพเพื่อนสนิทที่ถูกเสือฉีกร่างทั้งเป็น ฉินเย่วฉินดวงตาแดงก่ำ แววตาแน่วแน่“ได้!” เฉินฝานขานรับน้ำเสียงเด็ดขาดอย่างมากในขณะเดียวกันที่เฉินฝานออกเดินทาง โจวอวี่ก็พามือปืนหนึ่งพันคนของเขาปลอมตัวเป็นชาวบ้าน เดินทางจากอีกฝั่งของเมืองเช่นกันวันนี้คนบนท้องถนนมีจำนวนมากเป็นพิเศษ รถม้าของเฉินฝานต้องหยุดหลายครั้งเมื่อรถม้าหยุดอีกครั้ง ฉินเย่ว์ฉินกล่าวด้วยความหงุดหงิด “เจ้าเป็นท่านอัครเสนาบดีที่ตำแหน่งอำนาจสูงส่งมิใช่หรือ? ไฉนคนเดินเท้าบนท้องถนนจึงกล้าขวางทางรถม้าเจ้า”“ขวางทางอันใดกัน? พวกเราใต้เท้ามิใช่ขุนนางกังฉินที่วางอำนาจตามอำเภอใจไปทั่ว ใต้เท้าต้องรักและดูแลราษฎร วันนี้คนที่ออกจากเมืองค่อนข้างเยอะ พวกเราเพียงหยุดเพื่อหลีกทางให้ฝูงชนเท่านั้น อีกอย่างบัดนี้พวกเรามิได้นั่งรถม้าของอัครเสนาบดีเสียหน่อย”หลี่จู้นายพลประจำกายคนใหม่ของเฉินฝานที่ติดตามอยู่ด้านนอกรถม้าเริ่มปริปากตำหนิฉินเย่ว์ฉิน ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องที่โรงมหรสพจวบจนบัดนี้ เขาคิดมาตลอดว่าเป็นความผิดของฉินเย่ว์ฉิน หากมิใช่เพราะนาง เฉินฝานก็คงจะมิตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายบัดนี้เฉินฝานยังเป็นอัครเสนาบดีที่ ‘ตายไปแล้ว’

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1301

    “ถูกต้อง คนของตำหนักเซียวเหยาส่วนใหญ่ล้วนมีวรยุทธ์ติดตัวและวางยาพิษเป็น และมีคนที่สามารถควบคุมงูได้เช่นกัน ทว่าสตรีที่ทำอันใดมิเป็นสักอย่างมีเยอะกว่าเสียอีก ทุกคนล้วนหน้าตาค่อนข้างดี พวกนางจะแยกย้ายกันไปแต่ละแคว้นในแผ่นดินใหญ่ ใช้ประโยชน์จากความงามของตนดึงดูดบุรุษ หลังจากที่ตั้งท้องได้สำเร็จแล้วก็จะตีตัวออกห่างหายไปอย่างเงียบ ๆ”“เดิมทีสตรีก็มีฐานะต่ำต้อยอยู่แล้ว ผนวกกับการที่พื้นที่ส่วนใหญ่ทั้งแคว้นหญิงเยอะชายจำนวนน้อย การจากไปของพวกนางมิเพียงแต่มิได้ทำให้ชายเหล่านั้นเสียใจเท่านั้น ชายส่วนใหญ่กลับรู้สึกยินดี อย่างไรเสียก็คงมิมีชายใดที่อยากให้สตรีที่ตนเองได้ร่วมอภิรมย์แล้วจากไปโดยมิบอกกล่าว”ตอนที่ฉินเย่ว์ฉินพูด ใช้สายตาถมึงทึงมองไปที่เฉินฝานเฉินฝานรู้ว่าฉินเย่ว์ฉินก็มีความสงสัยเช่นนี้กับเขาเช่นกัน เขามิได้แก้ตัว แก้ตัวไปก็ไร้ประโยชน์ เรื่องเช่นนี้มีเพียงเวลาเท่านั้นที่จะสามารถพิสูจน์ได้และที่นางพูดก็เป็นเรื่องจริงชายที่ถูกดึงดูดได้อย่างง่ายดายปานนั้น ย่อมมิยอมรับผิดชอบเป็นแน่“จากนั้นล่ะ หลังจากนั้นพวกนางอุ้มท้องแล้วก็กลับไปที่ตำหนักเซียวเหยาเช่นนี้รึ?”“ถูกต้อง” ฉินเย่ว์ฉิน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1300

    เฉินฝานรู้ว่าฉินเย่ว์ฉินหวาดระแวง “มิต้องสงสัยหรอก ข้าเชื่อเจ้าจริง ๆ”“ทำไมล่ะ?”“เพราะเจ้าเป็นพี่สาวของเย่ว์เจียว”อีกหนึ่งเหตุผลหนึ่งคือ ฉินเย่ว์ฉินออกมาเสี่ยงชีวิตช่วยเขาและฉินเย่ว์เจียวโดยมิห่วงความปลอดภัยตนเองแม้แต่น้อย“เพียงแค่นี้งั้นรึ?” ฉินเย่ว์ฉินสีหน้ามิเชื่อ“และเพราะว่าเจ้าเป็นภรรยาของข้า” เฉินฝานมิได้พูดเล่นหนังสือทางการที่เขาครอบครองอยู่ ตราบใดที่เขามิเขียนใบหย่า ฉินเย่ว์ฉินย่อมเป็นคนของเขาตลอดไป“แต่ข้ามิชอบเจ้า”“แล้วอย่างไรต่อ? ชีวิตของเจ้าเป็นข้า ตายไปแล้ววิญญาณก็เป็นของข้า” มิว่าจะเป็นน้ำเสียงหรือท่าทางของเฉินฝานล้วนแน่วแน่และเอาแต่ใจอย่างมากวินาทีที่ฉินเย่ว์ฉินกลับมา เฉินฝานก็มิได้คิดจะปล่อยให้นางจากไปตามกฎหมายของต้าชิ่ง ในฐานะที่เป็นสามี เขามีหน้าที่ดูแลนาง นางทำความผิด เขาก็มีหน้าที่อบรมสั่งสอนนางเช่นกันฉินเย่ว์ฉินใจเต้นจากคำพูดจี้ใจดำของเฉินฝานมิใช่รู้สึกหวั่นไหวเฉินฝานตอนที่อยู่หมู่บ้านซานเหอช่วงแรกมักพูดเสียงดังน้ำเสียงดุร้ายเสมอ ทว่าตอนนั้นฉินเย่ว์ฉินมิได้รู้สึกหวาดกลัวอย่างแน่นอน ถึงขั้นรู้สึกรำคาญอย่างมาก เฉินฝานในตอนนี้มิได้พูดเสียงดัง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1299

    ฉินเย่ว์ฉินเช็ดน้ำตาด้วยความรีบร้อน “อย่ามาพูดจาเหลวไหล ข้ามิได้ร้องไห้เสียหน่อย เพียงแค่เศษดินทรายเข้าตาเท่านั้น”“อ๋อ ๆ พี่รองมิได้ร้องไห้ เพียงแค่เศษดินทรายเข้าตา”ระหว่างที่พูด ฉินเย่ว์เจียวก็จูงมือเฉินฝานและฉินเย่ว์ฉิน “พวกพี่มิเป็นไรก็ดีแล้ว ในที่สุดพวกเราเหล่าพี่น้องก็พร้อมหน้าพร้อมตากันได้เสียที พวกเราจะกลับบ้านเดี๋ยวนี้ ข้าจะไปกว้านซื้อประทัดมาเยอะ ๆ เสียงประทัดต้องดังทั้งวันทั้งคืน”“ไม่!”เฉินฝานและฉินเย่ว์ฉินพูดออกมาพร้อมกัน“ข้าจะมิกลับไปกับพวกเจ้า” น้ำเสียงฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา นางยังคงมิยอมรับในตัวเฉินฝาน“จะจุดประทัดมิได้ บัดนี้ข้ามิสามารถกลับไปได้ชั่วคราว กลับไปเช่นนี้มิได้” เฉินฝานกล่าว“พี่รอง ข้ารู้ว่าพี่คิดอันใดอยู่ พี่มิอยากกลับไป ข้าก็คิดไว้อยู่แล้ว แต่...” ฉินเย่ว์เจียวถามเฉินฝานด้วยความสงสัย “นายท่าน ไฉนท่านจึงมิกลับ?”“พี่มิเพียงแต่กลับไปมิได้เท่านั้น และยังมิสามารถ ‘มีชีวิตอยู่’ ได้”“ใต้เท้าพูดถูก บัดนี้ใต้เท้ามิสามารถมีชีวิตอยู่ได้” ไป่เผยหรานที่อยู่ด้านข้างเข้าใจความหมายแฝงในประโยคที่เฉินฝานพูดทันทีขอเพียงเฉินฝานและฉินเย่ว์ฉิน‘เสียชีวิต’ ผู้ชักใยอย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1298

    เหอจื่อหลินและไป่เผยหรานพากองกำลังขยายอาณาเขตในการขุดค้น ทว่าหาอยู่นานก็ยังมิพบอยู่ดีมิรู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร“นายท่าน พี่รอง!”ฉินเย่ว์เจียวที่โดยปกติแล้วมีนิสัยดุดันตรงไปตรงมา บัดนี้ร้องไห้จนแทบจะหมดสติเหอจื่อหลินและไป่เผยหรานกำลังจะจัดแจงคนให้พานางกลับไป ปรากฏว่าเพิ่งจะปริปาก ฉินเย่ว์เจียวก็ถูกสิ่งของกระทบใส่อย่างรุนแรง“ตุ้บ!”ฉินเย่ว์เจียวถูกขว้างก้อนหินใส่“เจ้าคนหน้าไหนรนหาที่ตาย บังอาจขว้างหินใส่ข้า”“เจ้าเอะอะโวยวายปานนี้ และยังทุบตีคนที่ช่วยข้าอย่างรุนแรง เจ้ากลัวว่าพี่จะตายช้าไปหรือกระไร?”......!!!!ทุกคนล้วนตกตะลึงไปครู่ใหญ่ จึงได้สติกลับมาคือเฉินฝาน นี่คือเสียงของเฉินฝาน“นายท่าน ๆ”“ใต้เท้า ๆ”ฉินเย่ว์เจียวพุ่งตัวเข้าหาคนแรก ทว่ามินานนางก็รู้สึกงุนงง ได้ยินเสียงเฉินฝานแล้ว แล้วตัวเขาอยู่ที่ใด“นายท่าน ๆ ท่านอยู่ที่ใด?” ฉินเย่ว์เจียวร้อนรนใจจนกระทืบเท้า“เจ้าหยุดกระทืบเท้าได้แล้ว ถ้ายังกระทืบเท้าข้าคงได้ตายจริง ๆ แล้ว!”ได้ยินเช่นนี้ ฝูงชนมองใต้เท้าฉินเย่ว์เจียวตามสัญชาตญาณเฉินฝานอยู่ใต้เท้าฉินเย่ว์เจียวจริง เขาถูกโต๊ะตัวหนึ่งทับร่างไว้ เพราะโต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1297

    “ข้ารู้ว่าเจ้ามีข้อสงสัยมากมาย แต่อย่าเพิ่งมาถามตอนนี้ รีบตามข้ามา !”ฉินเย่ว์ฉินลากฉินเย่ว์เจียวไปทันที ดูจากท่าทางของนางแล้ว คงจะเป็นสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานจริง ๆฉินเย่ว์ฉินมุ่งหน้ากลับไปเรือนที่นางออกมาเมื่อครู่“ไปทางนั้นมิได้!” เฉินฝานตะโกนดังลั่นจู่ ๆ เขาก็ได้กลิ่นดินปืนจำนวนมาก จากประสบการณ์ในยุคปัจจุบันของเขา ดินปืนนี้จวนจะระเบิด“เย่ว์เจียวเย่ว์ฉิน อ๋องตวน อีกมินานที่แห่งนี้จะระเบิดแล้ว จงล่าถอยไปด้านนอก!”สองสามปีมานี้ฉินเย่ว์เจียวและอ๋องตวนมักจะติดตามอยู่ข้างกายเฉินฝานเสมอ เฉินฝานมักจะทำการทดลองระเบิดอยู่บ่อยครั้ง พวกเขาเข้าใจสิ่งที่เฉินฝานพูด และเข้าใจผลที่ตามมาของการระเบิดดินปืนในยุคนี้เป็นสินค้าหายาก เพราะดินปืนมีอานุภาพทำลายที่รุนแรง ดังนั้นดินปืนจึงเป็นสินค้าที่ทางการควบคุมอย่างเข้มงวด โดยปกติแล้วราษฎรมิสามารถครอบครองได้ แม้ฉินเย่ว์ฉินจะอยู่ในกลุ่มตำหนักเซียวเหยาที่แข็งแกร่งปานนั้นก็มิแน่เสมอไปว่าจะเคยสัมผัสกับดินปืนมากก่อน ผนวกกับการที่นางรู้สึกมิดีกับเฉินฝาน นางจึงมิฟังคำพูดของเขา นางมิได้ล่าถอยตามฉินเย่ว์เจียวไปด้านนอก ยังคงยืนกรานจะไปที่เรือนหลังนั้น“ไปม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1296

    “พี่รอง!” ฉินเย่ว์เจียวพุ่งตัวไปกอดฉินเย่ว์ฉินไว้แน่น ทั้งร่ำไห้และตะโกน “สองสามปีที่ผ่านมานี้พี่ไปอยู่ที่ใดมา ไฉนพี่มิกลับมาเยี่ยมพวกเราบ้าง พี่ใหญ่และนายท่านส่งไปคนมากมายไปตามหาพี่ ก็ยังมิเจอพี่อยู่ดี พี่รู้หรือไม่ว่าข้าเป็นห่วงพี่เพียงใด?”ฉินเย่วเจียวร้องไห้ไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มบ่นฉินเย่ว์ฉิน “ไฉนพี่จึงใจดำเช่นนี้ ยังมีชีวิตอยู่แท้ ๆ ไฉนจึงมิยอมกลับมา ไฉนมิยอมมาเจอหน้าพวกเรา? จำพวกเรามิได้แล้วงั้นรึ? และยังมีเรื่องของนายท่านอีก บัดนี้เขามิใช่นายท่านแบบเมื่อก่อนแล้ว ข้ามิเชื่อหรอกว่าพี่จะมิเคยได้ยินเรื่องที่เขาเปลี่ยนตัวเอง พี่จะต้องเคยได้ยินมาอย่างแน่นอน และพี่ก็รู้ด้วยว่าพวกเราเป็นห่วงเพียงใด แต่ก็ยังมิยอมกลับมาอยู่ดี พี่ช่างเป็นคนที่ใจดำอำมหิตเสียจริง”รู้สึกว่าบ่นไปก็มิได้ผล ฉินเย่ว์เจียวก็เริ่มชกต่อยฉินเย่ว์ฉิน นางนำความถวิลหา ความกังวลใจ ความคับแค้นใจที่มีต่อฉินเย่ว์ฉินทั้งหมดรวมเข้ามาไว้ในกำปั้นตนเองฉินเย่ว์ฉินมิได้ต่อต้าน มิได้เถียงกลับ ทำเพียงยืนอยู่ตรงนั้นให้ฉินเย่ว์เจียวระบายอารมณ์ ตอนที่ฉินเย่ว์เจียวกล่าวถึงเฉินฝาน ฉินเย่ว์ฉินหันไปมองเฉินฝาน ทว่าเป็นชำเลืองมองเพียงครู่เ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1295

    มิถึงเวลาหนึ่งถ้วยชา ผู้ฟังทั่วบริเวณล้มลงไปนอนกับพื้นทั้งหมด คนส่วนใหญ่ล้วนถูกงูฉกตาย ส่วนคนที่ถูกฉกแต่ยังมิสิ้นลม ใบหน้าดำคล้ำสติเลือนรางเพราะพิษงูมีผู้ฟังที่ล้มลงกับพื้นตรงประตูทางออกมากที่สุด เพราะคนส่วนใหญ่คิดที่จะหนีออกไป ทว่าประตูทางออกใหญ่ปิดล็อกไปตั้งแต่ตอนที่พวกเฉินฝานเข้ามาแล้ว“ให้ตายสิ!” อ๋องตวนตะโกนลั่น “แม้ทั้งชีวิตข้าจะทำเรื่องเลวทรามมาเยอะ เคยคิดไว้อยู่แล้วว่าอาจจะต้องตายอย่างน่าสังเวช ทว่าต่อจะให้น่าสังเวชเพียงใด ข้าก็มิอยากถูกงูฉกตายเช่นนี้!”อ๋องตวนที่ปกติมิเกรงกลัวสิ่งใด บัดนี้กลับเกิดความหวาดกลัวอย่างแท้จริง เขาหวาดกลัวงูที่สุด ตัวลื่น ๆ เนื้อสัมผัสเย็น ๆรูปลักษณ์ภายนอกน่าขยะแขยงเพียงแค่คิดก็รู้สึกขนพองสยองเกล้าแล้ว นับประสาอันใดกับการเห็นและถูกฉกด้วยตาตนเอง“ท่านอ๋อง ท่านมายืนด้านหลังข้า” ฉินเย่ว์เจียวกล่าวจบ ก็มองไปทางเฉินฝาน เฉินฝานพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อเฉินฝานอนุญาต ฉินเย่ว์เจียวยื่นมือไปที่เอวทันทีฉินเย่ว์เจียวยังมิทันได้หยิบขลุ่ยไม้ไผ่ตรงเอวขึ้นมา ด้านนอกก็เสียงดนตรีที่เนิบนาบดังขึ้นเมื่อเสียงดนตรีนั้นดังขึ้น งูที่แต่เดิมโจมตีคนอย่างบ้าคลั่ง จู่ ๆก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1294

    วินาทีที่เห็นสตรีนางนั้น หลี่อวี้ไห่ตาเบิกกว้าง องครักษ์หญิงด้านหลังเขาเหล่านั้นก็มีสีหน้าเช่นเดียวกัน ตกตะลึงเหลือเชื่อ และหวาดกลัว!สตรีผู้นั้นหยุดฝีเท้าตรงหน้าหลี่อวี้ไห่ กะพริบตาเล็กน้อย น้ำเสียงเนิบนาบ “พวกเราโรงมหรสพเซียนยินทำการค้า ขอเพียงมิฝ่าฝืนกฎหมายต้าชิ่ง ก็ต้องเติมเต็มความต้องการของแขกเป็นธรรมดาอยู่แล้ว”หลี่อวี้ไห่ยังคงยืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ทั้ง ๆ ที่เป็นคนวัยกลางคนผ่านโลกมามากมายแล้ว บัดนี้กลับทำอันใดมิถูก“หืม?” สตรีนางนั้นเลิกคิ้วขึ้นเลิกเล็กน้อย น้ำเสียงยังคงเนิบนาบ ทว่ากลับแฝงด้วยรังสีเย็นยะเยือกที่ทำให้คนอกสั่นขวัญผวา นางยกมือเรียวยาวของนางขึ้น ปัดไรผมบนหน้าผากตนเองเบา ๆ กำไลข้อมือรูปงูสีทองเปล่งประกายสะท้อนแสง “หูใช้การมิได้แล้วงั้นรึ?”เหงื่อเย็นหลายเม็ดผุดขึ้นหน้าผากหลี่อวี้ไห่ทันที “เร็วเข้าสิ รีบนำสุรามาให้ท่านอ๋อง”ตอนที่หลี่อวี้ไห่เหงื่อเย็นไหลออกมา อ๋องตวนก็เริ่มสงบสติอารมณ์มิได้ นับตั้งแต่วินาทีที่สตรีนางนั้นออกมา เขาก็เริ่มสงบสติอารมณ์มิอยู่แล้ว ทว่าเฉินฝานห้ามเขาไว้ตอนที่สาวใช้ยกสุราผ่านหน้าสตรีไป สตรีนางนั้นก็ยื่นมือเรียวยาวออกมาอีกครั้ง “เอาม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status