Share

บทที่ 6

Penulis: เฉียวเหมย
ทันทีที่ฮั่วหยุนเซียวและโอวจินเดินเข้ามายังประตูด้านหน้า พวกเขาต่างก็ได้รับความสนใจอย่างนับไม่ถ้วน

แม้ว่าหลายคนอยากได้ยศถาบรรดาศักดิ์ของตระกูลฮั่ว แต่ฮั่วหยุนเซียวนั่นเป็นคนแปลกที่แค่ได้ยินชื่อเสียงก็ไม่มีใครกล้าที่จะออกมาพูดคุยด้วย

ฮั่วหยุนเซียวเดินตรงไปที่เฉินลี้ซาน พร้อมเอ่ยเรียก “คุณเฉิน”

เพียงประโยคนี้ประโยคเดียวเท่านั้น ก็สามารถดึงดูดสายตานับไม่ถ้วนจากผู้คนได้แล้ว

ตัวตนของฮั่วหยุนเซียวเป็นยังไงน่ะเหรอ? เขาไม่เคยปรากฏตัวในงานเลี้ยงทั่วไปเลยสักครั้ง ทว่าเขาในตอนนี้กลับเข้าไปทักทายเฉินลี้ซานเป็นการส่วนตัวด้วย นี่ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีเลยทีเดียว!

“คุณฮั่ว...บอสฮั่วมาแล้วเหรอ!” เฉินลี้ซานประหลาดใจมาก เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นฮั่วหยุนเซียว ออร่าของชายหนุ่มคนนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ

ฮั่วหยุนเซียวพยักหน้าเล็กน้อย “เรื่องครั้งก่อน ผมต้องขอบใจคุณเฉินมากสำหรับการช่วยเหลือพิเศษ”

“ไม่เป็นไร มันง่ายจนแทบไม่ต้องออกแรงเลย!” เฉินลี้ซานพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณทำตัวตามสบายเลยนะ ผมขอตัวไปหาคุณปู่ที่ด้านหลังก่อน”

“เชิญครับ”

หลังจากที่เฉินลี้ซานออกไป ฝูงชนก็ร้องอุทานออกมา ฮั่วหยุนเซียวและโอวจินเบนสายตาตามเสียงร้องของฝูงชนไป จนเห็นสาวสวยในชุดสีฟ้าอ่อนกำลังเดินลงบันไดมา

หญิงสาวมีรูปร่างที่ผอมเพรียว ผมยาวของเธอม้วนงอเล็กน้อยอยู่ทางด้านขวา ใบหน้าซ้ายของเธอเหมือนดอกพีช ใบหน้างดงาม ดวงตาเยือกเย็นราวกับน้ำพุบนภูเขา ทำให้รู้สึกซึบซาบเข้าไปในหัวใจ

โอวจินแทบจะสำลักไวน์ “นี่ไม่ใช่...ไม่ใช่...คนที่นายรุนแรงขนาดนั้น…”

ก่อนที่จะได้ฟังจนจบประโยค ดวงตาของฮั่วหยุนเซียวก็ถูกปิดกั้นลงช้า ๆ

เฉินมู่ชำเลืองมองลงมาด้านล่าง และเห็นฮั่วหยุนเซียวที่ยืนโดดเด่นอย่างเป็นธรรมชาติได้ในแวบแรกที่ปรายตา เมื่อเห็นหนุ่มหล่อไม่มีใครเทียบที่ “ตกทุกข์ได้ยากร่วมกัน” เมื่อคืนนี้อยู่ตรงหน้าเธอ เท้าเล็กก็สะดุดกึกจนเกือบจะเหยียบเท้าตัวเอง

ขายาวของฮั่วหยุนเซียวก้าวฉับเข้าไปคว้าตัวเฉินมู่ไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เธอล้มต่อหน้าแขกบ้านแขกเรือน

เฉินมู่มองไปที่ใบหน้าที่หล่อเหลาของฮั่วหยุนเซียว พร้อมพูดด้วยรอยยิ้ม “สุดหล่อ ช่างเป็นพรหมลิขิตจริง ๆ !”

ฮั่วหยุนเซียวยังไม่ทันจะได้พูดอะไร ลู่ซีเจ๋อที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็ถามด้วยความโกรธว่า “เฉินมู่! นี่คุณกำลังทำอะไร?”

เฉินมู่มองย้อนกลับไปเพ่งใบหน้าของลู่ซีเจ๋อที่กำลังเปลี่ยนเป็นยักษ์สีเขียวด้วยความโกรธ แล้วทำทีพูดหน้าซื่ออยู่ข้างฮั่วหยุนเซียว ร่างบางเอียงตัวเล็กน้อย “ฉันทำอะไรเหรอ?”

“เฉินมู่ ตอนแรกผมไม่เชื่อที่ชิงเสวี่ยบอกว่าคุณออกไปดื่มกับผู้ชายมาเมื่อคืนนี้! แต่ตอนนี้คุณกลับสนิทสนมกับคนอื่นในที่สาธารณะ ผมคิดว่า ความรักที่คุณมีให้ผมมาตลอดมันแค่เรื่องหลอกลวงใช่ไหม! เรายังไม่ได้ถอนหมั้นกันเลย แต่นี่คุณ…”

ใบหน้าของลู่ซีเจ๋อเป็นสีเขียวเพราะความโกรธจัด

แม้ว่าเขาจะไม่ชอบเฉินมู่ แต่เฉินมู่ก็เป็นหนอนตามก้นของเขามาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าตอนนี้จะถอนหมั้นแล้ว เฉินมู่ก็ไม่ควรหาใครอื่นมาแทนที่เขาได้เร็วขนาดนี้!

เฉินชิงเสวี่ยดึงชายเสื้อผ้าของลู่ซีเจ๋อ พลางกระซิบเกลี้ยกล่อม “ซีเจ๋อ คุณไม่ต้องพูดแล้ว เรื่องของเมื่อคืนพี่ก็ได้พูดไปแล้ว จริง ๆ คือ… ”

ฮั่วหยุนเซียวถามทันที “เมื่อคืนนี้ เธอพูดว่าอะไรเหรอ?”

เมื่อได้ยินคำถามของฮั่วหยุนเซียวแล้ว เฉินชิงเสวี่ยก็ยกยิ้มพอใจ เธอแสร้งหวาดกลัวและไม่กล้าพูด เสียงเล็กเอ่ยตะกุกตะกัก “พี่สาวของฉันบอกว่า เธอได้กับผู้ชายคนอื่นเมื่อคืนนี้…”

“อะแฮ่ม!” เฉินมู่ไอเสียงดัง หวังให้เฉินชิงเสวี่ยคนบ้าคนนี้หยุดพูดเรื่องไร้สาระเสียที

ลู่ซีเจ๋อโต้กลับด้วยสีหน้าเย็นชา “กระแอมทำไมมิทราบ? แล้วยังจะทำหน้าทำตาแต่ไม่พูด? เมื่อคืนคุณพูดเองไม่ใช่เหรอ?”

“ห๊ะ” โอวจินถึงกับสำลักไวน์

ฮั่วหยุนเซียวหันไปมองเฉินมู่ เสียงเข้มถามอย่างสบาย ๆ “ขนาดนั้นเลย?”

เฉินมู่หน้าแดง เธอมองลู่ซีเจ๋อพลันเอ่ยโต้ตอบ “ลู่ซีเจ๋อนี่หัวดีจังเลยนะ ช่างน่าประทับใจซะจริง!”

พูดจบร่างบางก็ดึงฮั่วหยุนเซียว แล้วลากเขาไปที่สวนเล็ก ๆ นอกห้องจัดเลี้ยง

ฮั่วหยุนเซียวปล่อยให้เฉินมู่ดึงตัวเองออกไป มือเล็กๆ อันอบอุ่นของหญิงสาวจับมือหนาของเขาแน่น นี่เป็นครั้งแรกที่เขาไม่รังเกียจเมื่อถูกผู้หญิงสัมผัส

ฮั่วหยุนเซียวมองดูท่าทางที่รีบร้อนของหญิงสาวที่อยู่ข้างหน้า ก่อนที่หูข้างซ้ายของเขาจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง ราวกับว่ากำลังจะมีเลือดหยด จนในใจรู้สึกขบขันตัวเองเล็กน้อย

เมื่อเดินเข้าไปในสวน เฉินมู่ก็สะดุดล้มอีกรอบ ทว่าฮั่วหยุนเซียวคว้าตัวเธอไว้ได้ก่อน ร่างของเฉินมู่ถูกดึงกลับมากระแทกเข้าที่หน้าอกที่แข็งของชาย จมูกของเธอเจ็บจนน้ำตาซึม

ฮั่วหยุนเซียวผละตัวออกมายืนพิงเสา แก้วไวน์แดงในมือของเขายังอยู่ดีไม่หกเลอะพื้น คิ้วเข้มเลิกขึ้นมองเฉินมู่ “คุณเป็นคนชนผมเองนะ จะร้องไห้ทำไม?”

“มันเป็นปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายต่างหาก!” เฉินมู่ตะโกนร้องด้วยความโมโห

ฮั่วหยุนเซียวพยักหน้า

“เงียบปากไปเลย!” เฉินมู่ใช้มือปิดปากฮั่วหยุนเซียว

คิ้วของฮั่วหยุนเซียวขยับเล็กน้อย เพราะสัมผัสอุ่นจากมือเล็ก ๆ ที่แนบทับริมฝีปากบางของเขา แต่เขากลับไม่มีแม้แต่ร่องรอยของความรังเกียจให้คนตรงหน้า

เขาถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เมื่อคืนคุณหนูเฉินควบคุมตัวเองให้สงบ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าในใจคุณจะคิด…”

เกิดเป็นเฉินมู่นี่ช่างโชคร้ายเสียจริง เธอกัดฟันแน่น “ฉันแค่พูดมั่ว ๆ ให้ลู่ซีเจ๋อโกรธก็แค่นั้น คุณก็เชื่อกับเขาด้วยเหรอ?”

ฮั่วหยุนเซียวพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “อืม เชื่อ”

ก็เธอเล่นคุยโวโอ้อวดเขาอย่างชัดแจ้ง ทำไมจะไม่เชื่อล่ะ?

เฉินมู่ “…”

เธอมองไปที่ฮั่วหยุนเซียวอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนเอ่ย “สุดหล่อคนนี้นี่ ฉันแค่…”

“ฮั่วหยุนเซียว”

“อะไรนะ?” เฉินมู่กระพริบตา

“ชื่อของผมคือ ฮั่วหยุนเซียว เป็นเมฆที่มีปณิธานอันสะเทือนเลือนลั่น เป็นนักสู้ผู้กล้าหาญและองอาจ” ฮั่วหยุนเซียวพูด

เฉินมู่พยักหน้า “อืม คุณฮั่ว คุณช่วยฉันเมื่อคืนนี้ แถมพาฉันไปหาหมออีก ฉันรู้สึกขอบคุณมาก ๆ ฉัน…”

“ถ้าอย่างนั้น เมื่อไหร่คุณจะตอบแทนผมอย่างจริงจังล่ะ?” ฮั่วหยุนเซียวเริ่มสนใจเด็กหญิงตัวน้อยคนนี้ของตระกูลเฉินมากจนอธิบายไม่ถูก

เฉินมู่เกาหัว “เอ่อ...เรื่องนี้ ถ้าอย่างนั้นก็พรุ่งนี้ไหมล่ะ? ฉันจะชวนคุณไปทานอาหารเย็น”

“ตกลง” ฮั่วหยุนเซียวพอใจเล็กน้อยกับข้อเสนอของหญิงสาว

เฉินมู่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ไม่นานก็เอ่ยออกมาอีกครั้ง “ถ้าอย่างนั้น เราจะกลับกันเลยไหม เพื่อนคุณอาจจะยังรอคุณอยู่”

เฉินมู่หันไปรอบ ๆ พลันรู้สึกเจ็บหนังศีรษะขึ้นมาเสียอย่างนั้น เจ็บจนต้องยิ้มเหย

“อย่าเพิ่งขยับ” ฮั่วหยุนเซียวดึงเธอกลับมา “ผมของคุณพันติดเป็นปมแล้ว”

เฉินมู่ได้แต่ยอมรับชะตากรรมของตัวเอง และถอยกลับมาย่อเข่าลงเล็กน้อย เธอก้มศีรษะลงที่ให้ฮั่วหยุนเซียวแก้ปมผมออกให้ ดวงตาเรียวสวยมองแต่เนคไทของฮั่วหยุนเซียว ก่อนพูดชมเชยสักนิด “ผูกเนคไทได้ไม่เลวเลยนะ”

“ขอบคุณ”มือหนาของฮั่วหยุนเซียวยังคงขยับแก้ปมไม่หยุด ในหัวค่อย ๆ เริ่มปลุกปั่นคิดหัวข้อสนทนา “พรุ่งนี้คุณจะทานอะไร”

เฉินมู่ส่ายหัว “ฉันไม่รู้ ฉันยังไม่ได้คิดเลย คุณแก้มันหรือยัง ฉันเจ็บหัวเข่าไปหมดแล้ว”

“ใกล้จะเสร็จแล้วครับ”

“ทำไมไม่หากรรไกรมาตัดผมล่ะ!”

“แล้วคุณคิดว่าผมจะเอากรรไกรมาจากไหนล่ะ”

เฉินมู่ทำได้เพียงยอมรับชะตากรรมของตัวเองอีกครั้ง พร้อมก้มศีรษะลง ทางด้านโอวจินที่บังเอิญเดินเข้ามาเจอทั้งคู่ในสวนก็ตะโกนเรียก “หยุนเซียว นาย…”

ทว่าเมื่อเห็นท่าทางของทั้งสอง โอวจินก็อ้าปากกว้างราวกับค้นพบโลกใหม่...
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 7

    จากนั้นก็ทำท่าทางกระแอมไอออกมาเป็นเชิงเข้าใจสถานการณ์ของเพื่อน “ขอโทษที ผมไม่รบกวนดีกว่า! เชิญพวกคุณทำต่อเถอะ…”“เฮ้ ไม่ใช่นะ เดี๋ยวก่อนสิคุณ!” เฉินมู่ยังไม่ทันได้คลี่คลายการเข้าใจผิดนั่น โอวจินกลับวิ่งหนีไปไปในพริบตาเสียอย่างนั้น เธอพูดอย่างหมดกำลังใจ “ทำไมคุณถึงไม่เรียกให้เขาหยุด!”ฮั่วหยุนเซียวคลายมือออก “แก้ออกแล้วล่ะ”ในที่สุดเฉินมู่ก็ได้รับอิสรภาพ เธอยืนตัวตรงและหวีสางผมให้เรียบ เผยให้เห็นรอยแผลเป็นบนแก้มขวาของเธอ ฮั่วหยุนเซียวมันมองอีกครั้งแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อยพลันเฉินมู่ก็แต่งทรงผมปิดรอยแผลเป็น “คุณฮั่ว คุณแน่ใจเหรอว่าต้องการออกไปทานข้าวข้างนอกกับฉัน ใบหน้าฉันไม่ได้งดงาม หรือเปลี่ยนเป็นให้ของขวัญคุณแทนดีกว่าไหม?”“แล้วแต่คุณเลย” ฮั่วหยุนเซียวพูดเฉินมู่ไม่รู้ว่า “แล้วแต่คุณ” ที่เขาหมายถึงคืออะไร ดังนั้นใบหน้าสวยจึงพยักหน้าตอบ “งั้นฉันขอตัวไปก่อนนะ”ทว่าขณะที่เธอหันกลับไป ชายที่อยู่ข้างหลังก็โพล่งเอ่ยบางอย่างจนเฉินมู่หยุดยืนนิ่งชั่วคราว “คำว่ามู่ ที่มาจากการโค่นล้มสามราชวงศ์ใหญ่อย่างเฉา ฉิน ฉู่ สมัยจ้านกั๋วสินะ”เฉินมู่ได้แต่คิดในใจ ชื่อของเธอในตอนนี้นั้นดีกว่ามาก ฉินมู

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 8

    โอวจินเห็นการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ ของเฉินมู่ ก็รีบปิดริมฝีปากของตัวเองเงียบ ๆ อยู่ด้านหลังฮั่วหยุนเซียว “ฉันขอพนันร้อยหยวน เฉินชิงเสวี่ยลูกสาวผู้มีชื่อเสียงที่ได้รับการฝึกฝนเรื่องมารยาท เดิมทีจะไม่มีวันล้ม”เฉินชิงเสวี่ยไม่ได้ล้ม แต่ชุดของเธอก็หลุดออกไปเธอชะงักไปครู่หนึ่ง และเสียงกรีดร้องก็ดังก้องไปทั่วทั้งห้องจัดเลี้ยง!“กรี๊ด—”เธอกอดชุดขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนก แล้ววิ่งไปที่ประตูหลังผ้าม่านทันที...ผลลัพธ์ก็คือ เธอบังเอิญเหยียบชายกระโปรงตัวเอง และล้มไปที่เค้กบนโต๊ะอาหารโดยไม่ได้ตั้งใจ“ชิงเสวี่ย!” ลู่ซีเจ๋อรีบวิ่งไปหาเธอทันที และมือที่เหยียดออกของเขาหยุดค้างอยู่ในอากาศอย่างเชื่องช้าตอนแรกที่มีคนเห็นเฉินชิงเสวี่ย บางคนก็ผิวปากแซว ทว่าไม่นานต่างก็เงียบเสียงลงไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรกับผู้หญิงคนนี้ที่ตกลงไปในเค้กงานเลี้ยง ซู่หรูหยุนจ้องมองชุดของเฉินชิงเสวี่ยที่หลุดออกมา ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ เหตุการณ์นี้น่าจะเกิดขึ้นกับเฉินมู่ไม่ใช่เหรอ ทำไมมันถึงกลับกันล่ะ?เฉินมู่แค่อยากจะทำให้เธออาย ซึ่งเธอไม่คิดว่าเฉินชิงเสวี่ยจะจบลงด้วยครีมและผลไม้บนไหล่ของเธอ ร่างเล็กอ้าปากกว้

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 9

    เฉินมู่ผลักเธอออกไป ใบหน้าของเฉินชิงเสวี่ยถูกบีบด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรง เฉินชิงเสวี่ยไม่กล้าหาเรื่องเธออีกต่อไป แต่เธอไม่อยากจากไปด้วยความอับอายเช่นนี้ เธอจึงเดินไปหา แล้วพูดเสริม “เฉินมู่ ไม่ว่าเธอจะดีแค่ไหน! ซีเจ๋อก็ไม่ต้องการสัตว์ประหลาดที่น่าเกลียดอย่างเธอหรอก!”“เธอเองก็ไม่ส่องกระจกหรือไงกันนะ! จะมีใครบ้างที่อยากเห็นรอยถลอกบนหน้าของเธอ! รอให้ถึงวันแต่งงานของฉันกับซีเจ๋อก่อน เธอได้ร้องไห้แน่!”เฉินมู่หัวเราะเยาะ “ก็แค่เธอคนเดียวที่ชอบขยะ ไม่ใช่ทุกคนจะชอบเหมือนเธอ การที่เธอเป็นคนยังไง มันมีค่าสำหรับฉันงั้นเหรอ?”หากเป็นเมื่อก่อน แค่ใช้เงินก็สามารถพบเจอฉินมู่ได้ ทว่าเนื้อแท้นั้น ฉินมู่ค่อนข้างจะซ่อนตัวอยู่ในเคโจวและหนานเคอ ขี้เกียจเกินกว่าที่จะออกไปข้างนอก นับประสาอะไรกับลู่ซีเจ๋อแค่คนเดียว?เฉินชิงเสวี่ยหน้าแดง เธอพยายามรั้งไว้เป็นเวลานานเพียงเพื่อสาปแช่งด่าทอ “น่าเกลียด! ในชีวิตนี้เธอคงไม่สามารถแต่งงานได้อีก!”พูดจบก็รีบวิ่งออกมาทันที ราวกับว่ากลัวว่าเฉินมู่จะทำร้ายเธออีกเฉินมู่ปิดประตู นั่งหน้ากระจก เมื่อพูดถึงเคโจว เธออดไม่ได้ที่จะคิดถึงภารกิจที่ตามหลอกหลอนราวฝันร้ายอ

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 10

    เฉินมู่พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “คุณบอกเองไม่ใช่เหรอว่าคุณสามารถกินอะไรก็ได้ อาหารเช้าแบบด่วนที่นี่สดใหม่มาก!”ผลของการมโนธรรมที่ชัดเจนและเที่ยงตรง! พอเจ็ดโมงตรงเรียกคนให้ออกมา มันก็ยังมีร้านที่สะอาดอย่างเคเอฟซีไหมล่ะ?ฮานเฉิงนั่งอยู่ในรถเบนท์ลีย์ด้านนอกประตูร้าน เขารอเจ้านายพลางฟังเสียงหัวเราะของโอวจินทางโทรศัพท์ไปด้วย “นายพูดว่าอะไรนะ? ฮั่วหยุนเซียวทานข้าวกับผู้หญิงเป็นครั้งแรก! แล้วก็กินเคเอฟซีด้วยเหรอ? กินพาอะไรนะ?”“อาหารเช้าพานินี่ ที่มีชีสและซี่โครงหมู...” ฮานเฉิงตอบอย่างเงียบ ๆโอวจินตบโต๊ะ ตะโกนลั่น “ถ้าฮั่วหยุนเซียวกินเสร็จแล้วบอกฉันด้วย! ไอ้อาการแบบนี้ ฉันต้องไปที่บริษัทฮั่วเพื่อหัวเราะเยาะเขาเป็นการส่วนตัวแล้วล่ะ!”ตัดภาพมาที่ร้านอาหาร ฮั่วหยุนเซียวไม่รำคาญ แถมยังถามต่อ “เหตุผลล่ะ”ชายในชุดสูทที่สั่งตัดราคาแพงมากนั่งอยู่ในร้านอาหารเล็ก ๆ แห่งนี้ แสดงให้เห็นว่าเขาถูกบังคับให้มาทันใดนั้นเฉินมู่ก็รู้สึกว่ามันน่าเบื่อ ฮั่วหยุนเซียวเป็นมังกรในหมู่คน เธอหลอกลวงคนอื่นเพียงครั้งเดียว เท่านั้น แต่เธอไม่สามารถหลอกพวกเขาได้ตลอดเฉินมู่เคี้ยวแฮมในปากของตัวเอง ก่อนจะค่อย ๆ พูดอ

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 11

    ลู่ซีเจ๋อรีบมาทันทีที่ได้ยินและพยุงตัวหญิงสาวที่ร้องด้วยความเจ็บปวดขึ้นมา “เสวี่ยเอ๋อ! เสวี่ยเอ๋อ! ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”เฉินชิงเสวี่ยเอนกายเข้าไปในอ้อมแขนของลู่ซีเจ๋อ “ซีเจ๋อ พี่เขา...ฉันคิดไม่ถึงเลย คิดไม่ถึงเลยจริง ๆว่าพี่เขาจะตามมาที่นี่...” ลู่ซีเจ๋อมองเฉินมู่ด้วยความรังเกียจ อารมณ์ที่ไม่ดีมาตลอดเช้าล้วนถูกระบายใส่เธอจนหมด “เฉินมู่! คุณเป็นคนตอบตกลงที่จะถอนหมั้นเองนะ ตอนนี้คนที่ทำให้เรื่องมันวุ่นวายไปหมดก็คือคุณ! นี่คุณไม่ดูสารรูปตัวเองหน่อยเหรอ! ช่วยละอายแก่ใจหน่อยได้ไหม!”เฉินมู่โมโหจนปวดศีรษะ เธอโบกมือไปมาแล้วกล่าวว่า “คุณชายลู่ ฉันแค่นั่งทานข้าวเฉย ๆเองนะคะ จะไปทำเรื่องวุ่นวายอะไรนั่นได้อย่างไรกัน?”ลู่ซีเจ๋อก้าวขายาว ๆ ไปด้านหน้ากำข้อมือของเฉินมู่ไว้อย่างแน่นหนาพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูลำพองใจอยู่บางส่วน “เฉินมู่ อีกนิดผมก็เกือบจะเชื่อเรื่องที่คุณตอบตกลงถอนหมั้นไปแล้วเชียว ดูท่าตอนนี้ คุณมันก็แค่ปรับเปลี่ยนกลอุบายในการก่อเรื่องวุ่น ๆ เท่านั้นเอง!”เขารู้อยู่แล้ว เฉินมู่รักเขามานานตั้งหลายปี จะมาบอกว่าไม่ชอบก็คือไม่ชอบแล้วได้อย่างไร? ที่แท้ก็แค่เล่นละครตบตาให้ตายใจนี่เอง!

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 12

    ตระกูลลู่ลู่ซีเจ๋อวุ่นวายแต่เช้าตรู่ กว่าจะเกลี้ยกล่อมเฉินชิงเสวี่ยให้ออกไปได้นั้นมันไม่ง่ายเลย ทันทีที่เข้ามาในบ้าน พริบตาถ้วยชาก็กระแทกเข้ากับหน้าผากเขาจนเลือดกระเด็นออกมาอย่างจังลู่ซีเจ๋อที่ถูกกระแทกยังคงมึนงงอยู่และถามอย่างโมโหว่า “พ่อ! นี่พ่อทำอะไรเนี่ย!”“ทำอะไร? ฉันจะฆ่าแกไอ้ลูกไม่รักดี!”ลู่เทาตะโกนด้วยใบหน้าเขียวปั๊ด “กว่าฉันจะได้โปรเจกต์นี้มาได้มันไม่ง่ายเลยสักนิด แต่มันกลับถูกแกทำลายไปแล้ว! นอกจากแกจะเอาแต่สร้างปัญหาแล้ว แกยังจะมีปัญญาไปทำอะไรได้อีก!”“พ่อ! นี่พ่อกำลังพูดเรื่องอะไรกันเนี่ย!” ลู่ซีเจ๋อตะโกนตอบ“วันนี้แกไปทำอะไรเอาไว้ที่ร้านเซียวเซียงซวนมาล่ะ? แกรู้ไหม เซียวเซียงซวนเป็นร้านของคุณชายรองตระกูลฮั่ว! แกกล้าดียังไงถึงไปก่อเรื่องวุ่นวายในอาณาเขตของตระกูลฮั่ว! แกกลัวว่าพ่อของแกจะอายุยืนใช่ไหม!” ลู่เทาอดกลั้นเอาไว้จนทั้งใบหน้าแดงก่ำไปหมดลู่ซีเจ๋อตะลึงงันไปครู่หนึ่ง อะไรนะ? เซียงเซียวซวนคือร้านของคุณชายรองตระกูลฮั่ว? ถ้าอย่างนั้นไอ้เวรนั่นก็เป็นคุณชายรองเหรอ?เขากับเฉินชิงเสวี่ยถึงขั้นตะโกนปะทะฝีปากกับคนคนนั้น แบบนี้ก็เท่ากับเป็นการทำลายโปรเจกต์ใหญ่ของลู่กรุ

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 13

    ชายชราสามารถเข้าใจได้ในทันทีว่าเขาสื่อถึงอะไร เมื่อนึกถึงสิ่งที่เฉินชิงเสวี่ยพูดเมื่อสักครู่ ทั้งหมดล้วนเป็นคำโกหกหลอกลวงผู้ใหญ่! แม้แต่ใบหน้าของฮั่วหยุนเซียวเธอก็ยังไม่ได้เห็นเลยด้วยซ้ำ!ชายชรารู้สึกเสียหน้า จึงทำได้เพียงแค่นยิ้มเท่านั้น “เสี่ยวมู่รู้ความมาตั้งแต่เด็ก ไม่ได้รบกวนเวลางานของเธอใช่ไหม?”ฮั่วหยุนเซียวหันหน้าไปมองเฉินมู่ที่กำลังก้มหน้าก้มตาดื่มชาแวบหนึ่งและขำออกมาเบา ๆ “ไม่เป็นไรครับ รู้ความมากจริง ๆ”เฉินมู่สำลักน้ำในปาก คราวก่อนเธอก็ถูกชมว่ารู้ความ หมายถึงแนวคิดคร่าว ๆ ตอนฆ่าคน เธอเลือกที่จะลั่นไกไม่ใช้การต่อสู้แบบประจัญบานน่ะนะ“อย่างนั้นก็ดีแล้ว ๆ...”ชายชราคิดว่าตราบใดที่เขายังไม่ได้ผิดใจกับตระกูลฮั่ว แบบไหนก็ดีทั้งนั้นฮั่วหยุนเซียวเก็บรอยยิ้มและพูดต่อ “ที่มาวันนี้ ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง”“เรื่องอะไร? หยุนเซียว ไหนเธอลองว่ามาสิ” ชายชราถามกลับทันทีฮั่วหยุนเซียวเงยหน้ากวาดตามองเฉินชิงเสวี่ยครู่เดียว เฉินชิงเสวี่ยก็สะดุ้งเฮือก พลันเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นมาในใจฮั่วหยุนเซียวรับใบเรียกเก็บเงินมาจากมือของฮานเฉิงและวางมันลงบนโต๊ะดื่มชาหินอ่อนเขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 14

    เฉินมู่ขมวดคิ้วตอบ “ก็ไม่ได้เป็นอะไรกันนี่คะ”แต่ชายชรากลับกระชับข้อมือเธอและพูดว่า “วันนี้บอสฮั่วยอมเอ่ยปากพูดเพื่อหลานเลยนะ ถ้าเป็นคนทั่วไปล่ะก็ไม่มีทางที่จะได้รับอะไรแบบนี้หรอก! ปู่ให้พ่อบ้านเขียนเช็คให้หลานแล้วห้าแสน หลานไปหาซื้อเสื้อผ้าดี ๆ มาสักสองสามชุด ไปเชิญฮั่วหยุนเซียวทานข้าวเป็นการกล่าวขอบคุณเขาด้วย”เฉินมู่ขมวดคิ้วถาม “ปู่คะ ปู่หมายความว่า?”ชายชราตอบ “ช่วงนี้สถานการณ์ที่บริษัทไม่ค่อยดีนัก หลานดูพ่อของตัวเองสิ ร้อนใจจนกินข้าวไม่ลงแล้ว เดิมทีก็คิดที่จะเกี่ยวดองกับตระกูลฮั่วตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่ทุกคนก็รู้ว่าความสัมพันธ์ของหลานของกับซีเจ๋อไม่ลงลอยกัน ถ้าหากสามารถผูกสัมพันธ์กับฮั่วกรุ๊ปไว้ได้ละก็ พวกเราคงจะสบายมากขึ้นเยอะเลย”เฉินมู่หน้าชาขึ้นมาทันที “หนูไม่ไปค่ะ หนูกับฮั่วหยุนเซียวไม่ได้สนิทกัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่จะทำให้เขามาร่วมธุรกิจกับตระกูลเฉินเลย คุณปู่ให้เฉินชิงเสวี่ยเป็นคนไปเหมือนเดิมเถอะค่ะ”“เฉินมู่!”ชายชราตะโกน “ก็แค่กินข้าวแค่นั้นเอง! ตระกูลเฉินเลี้ยงหลานมาตั้งนาน! เรื่องเล็กแค่นี้หลานกลับไม่เต็มใจที่จะทำ หลานช่วยไตร่ตรองเพื่อผู้ใหญ่หน่อยจะได้ไหม?”เฉ

Bab terbaru

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 255

    ฮั่วหยุนเซียวไม่รู้ว่าควรจะสงสารสาวน้อยตรงหน้าดี หรือควรจะภูมิใจในความหนักแน่นในสถานการณ์ที่อันตรายของเธอดีเขายกมือพร้อมขมวดคิ้ว “ฮานเฉิง จัดการให้เรียบร้อย”“ครับ บอส”ฮานเฉิงยกโทรศัพย์อยู่หลายสาย และแล้วนักข่าวที่สมควรจะอยู่ที่นี่ต่อ กลับแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็วเฉิงหยวนกระพริบตา “ทำไมพวกเขาไปกันหมดแล้วล่ะ?”เมื่อฝูงชนสลายตัว สายตาเฉินมู่ก็สะดุดเข้ากับรถเบนท์ลีย์หรูที่จอดอยู่ข้างทาง“ปีศาจร้ายปรากฎตัวแล้ว” เธอกล่าวเฉิงหยวนถือถุงขนมของตัวเองตามไปและถามต่อ “อะไรนะ?”เฉินมู่ช่วยถือของในมือเธอ แล้วพูดว่า “ฉันจะไปส่งเธอที่บ้านก่อนแล้วกัน”ใต้แสงแดดอบอุ่นในฤดูหนาว สองสาวพูดคุยถึงเรื่องในอนาคต และรถหรูระดับโลกอย่างเบนท์ลีย์คันนั้นก็ขับตามหลังมาอย่างช้า ๆฮานเฉิงถามอย่างสุขุม “บอสครับ พวกเราจะขับช้าขนาดนี้จริงเหรอครับ?”ฮั่วหยุนเซียวมองแผ่นหลังหญิงสาวตรงหน้าอย่างสนใจ แล้วพยักหน้า “ขับช้ากว่านี้”ฮานเฉิง “...”เมื่อเดินมาถึงใต้อาคาร เฉินมู่ก็พูดว่า “คุณไปเก็บของให้เรียบร้อยแล้วเราไปโรงพยาบาลกัน”เฉิงหยวนปัดมือไปมา “ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน พวกเขาแค่ขว้างปาผักมาขู่ฉัน

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 254

    เธอลงจากรถแล้วเห็นเฉิงหยวนที่ถูกฝูงชนล้อมเอาไว้ เหมือนแมวที่กำลังตื่นตระหนกตกใจ และไม่มีที่ซ่อนตัวเธอวิ่งฝ่าฝูงชนเข้าไป แล้วดึงเฉิงหยวนเข้ามายังอ้อมอก พร้อมถามอย่างกังวลว่า “เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”เมื่อเฉิงหยวนเห็นเฉินมู่ ก็ถึงกลับปล่อยโฮออกมาเธอยื่นมือไปปัดเศษผักบนตัวของเฉินมู่ออกให้ พร้อมส่ายหัว “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”เฉินมู่ประคองเธอให้ลุกขึ้น และแล้วไข่ไก่ฟองหนึ่งก็ลอยมา แต่เฉินมู่ยกมือขึ้นรับไว้ได้อย่างแม่นยํา“แกร๊ก” ไข่ไก่ในมือถูกบดขยี้จนแหลก และไข่ไก่เหลว ๆ ก็ไหลลงมาตามข้อมือของเธอ แววตาอันโหดเหี้ยมของเฉินมู่ทำให้ฝูงชนและนักข่าวต่างค่อย ๆ สงบลงเธอพูดกับหน้ากล้องที่ใกล้ที่สุด ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “จรรยาบรรณของนักข่าวคือการนำเสนอความเป็นจริง หวังว่าสื่อมวลชนทุกคนจะตระหนักข้อนี้ไว้หน่อย”พลันมีเสียงดังมาจากด้านหลัง “ความจริงก็คือเฉิงหยวนเป็นมือที่สาม! คนทั้งโลกต่างก็รู้เรื่องนี้!”“ใช่ ๆ คุณเป็นใคร! ทำไมถึงได้แก้ตัวแทนเฉิงหยวน!”เฉินมู่ตอบอย่างเยือกเย็น “เธอไม่ใช่มือที่สาม หวังว่าหลังจากวันที่ความจริงกระจ่างแล้ว ทุกคนในที่นี้ต้องขอโทษต่อการกระทำที่ทำต่อเฉิงหยวน”จ

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 253

    เฉินมู่ซบอยู่ในอ้อมกอดลู่ซีเจ๋อพร้อมเช็ดน้ำตาด้วยท่าทีน้อยใจ “พี่คะ พี่เชื่อฉันสักครั้งเถอะ…”ลู่ซีเจ๋อหมดความอดทนกับเฉินมู่อย่างสิ้นเชิง เขาตะโกนอย่างเหลืออดว่า “ออกไป! ไสหัวออกไป!”เฉินมู่มองท่าทีที่ปวดใจของลู่ซีเจ๋อ แล้วถอนหายใจ “ลู่ซีเจ๋อ คุณ…”ลู่ซีเจ๋อมองหน้าเธอด้วยความโกรธเคืองเฉินมู่จึงได้เงียบลง พลางคิดว่าทำไมต้องปริปากพูดคำนี้ทั้ง ๆ ที่่ก่อนหน้านี้เธองัดหลักฐานเป็นร้อย ๆ อย่างเพื่อให้เห็นถึงจิตใจอันโหดเหี้ยมของเฉินชิงเสวี่ย แต่ลู่ซีเจ๋อก็มองไม่เห็นเธอจะเกลี้ยกล่อมเขาอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ แถมยังต้องถูกเฉินชิงเสวี่ยตอกกลับว่าเธออิจฉา“คุณคิดจะพูดอะไรอีก?” ลู่ซีเจ๋อมองเธอด้วยโกรธเคืองเฉินมู่ส่ายหัว “ไม่มีอะไรแล้ว แต่มีอะไรอยากจะบอกคู่หมั้นสุดที่รักของคุณหน่อย”เฉินชิงเสวี่ยมองเฉินมู่ด้วยสายตาที่หวาดกลัว “พี่มีอะไรอยากให้ฉันช่วยคะ...”เฉินมู่หัวเราะ แล้วพูดว่า “รบกวนเธอฝากบอกซุยซินยี่กับเฉินชิงโหรวด้วยนะ ว่าเฉิงหยวนจะกลับเข้าสู่วงการบันเทิงเร็ว ๆ นี้”เฉินชิงเสวี่ยจ้องมองเฉินมู่อย่างปวดใจ พลันเอ่ย “พี่คะ เฉิงหยวนเป็นมือที่สาม ทำไมพี่ยังจะคบหากับคนแบบนั้นอยู่อีก?”

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 252

    แผลเป็นที่หน้าเกลียดน่ากลัวเหมือนตัวหนอนเกาะอยู่บนใบหน้า แถมยังมีรอยแดง ๆ อยู่รอบ ๆ เฉินชิงเสวี่ยถอนหายใจอย่างโล่งใจ แผลเป็นยังอยู่!ตอนที่กำลังลองชุดคราวก่อน เธอได้ข่าวว่าเฉินมู่กำลังรักษารอยแผลพวกนี้ มันทำเธอทุรนทุรายไปหลายวันเธอกลัวว่าเฉินมู่จะรักษาร่อยรอยแผลบนใบหน้าจนหายดี เพราะหากใบหน้านี้หายดีแล้ว มันจะกลับมาทำให้ชาวเมืองปินไห่ตกตะลึงอีกครั้ง เฉินชิงเสวี่ยหัวเราะอย่างโล่งใจ แถมยังเย้ยหยันเฉินมู่ต่อว่า “ได้ยินว่าเธอไปรักษาใบหน้า ทำไมยังเป็นแบบนี้อยู่ล่ะ?”เธอชี้ไปยังใบหน้าของเฉินมู่ พร้อมหัวเราะเยาะเย้ย “เธอดูไม่ออกเหรอว่ามันอาการหนักกว่าเมื่อก่อนอีกน่ะ?”“เฉินมู่ อย่าพยายามต่อไปเลย หน้าของเธอยังไงก็รักษาไม่หายหรอก เธอต้องแบกหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลแบบนี้ไปตลอดชีวิต เธอจะถูกผู้คนหัวเราะเยาะตลอดเวลา และถูกทอดทิ้งตลอดไป”เฉินมู่ง้างมือขึ้นแล้วกระแทกไปที่ใบหน้าของคนเจ็บอย่างแรง ใบหน้าของเฉินชิงเสวี่ยหันไปตามเสียงดัง “เพี๊ยะ”เฉินชิงเสวี่ยโดนตบจนโกรธมาก เธอจ้องมองเฉินมู่ด้วยความเคียดแค้น “สมควร ใครให้เธออยู่เป็นหนามยอกอกในตระกูลเฉิน เธอควรตายไปพร้อมกับแม่ของเธอตั้งนานแล้ว!”

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 251

    “นี่คุณ!” ลู่ซีเจ๋อถูกเฉินมู่ปั่นหัวจนออกอาการโกรธอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่เคยเจอผู้หญิงที่ทั้งป่าเถื่อนและชั่วร้ายอย่างเธอมาก่อนเฉินชิงเสวี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอีกครั้ง “ไม่เป็นไรหรอก พี่สาวก็แค่ล้อเล่น คุณไปเถอะ”เฉินชิงเสวี่ยออดอ้อนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าอยากจะทานของหวานหน้าโรงพยาบาล ลู่ซีเจ๋อจึงได้แต่ทำตามคู่หมั้น แต่ก่อนเดินออกจากห้องก็ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่เฉินมู่อีกหนึ่งทีทันทีที่เขาเดินออกไป เฉินมู่ก็ขมวดคิ้วมองไปทางร่างบนเตียงอย่างเร็ว “เหลือเราแค่สองคนแล้ว มีอะไรอยากพูดไม่ใช่เหรอ?”ครั้งแรกเฉินลี่ซานสั่งให้เธอมาที่นี่ ครั้งที่สองลู่ซีเจ๋อก็พาเธอมาด้วยตัวเองอีกหนึ่งครั้ง เฉินชิงเสวี่ยเป็นคนวางแผนทั้งหมดให้เฉินมู่มาที่นี่ ไม่รู้ว่าเธอจะมีแผนการอะไรอีกเฉินชิงเสวี่ยเปลี่ยนสีหน้าในทันที ใบหน้าอ่อนหวานเมื่อสักครู่หายไปอย่างไร้ร่องรอยเธอมองหน้าเฉินมู่อย่างหงุดหงิด พร้อมพูดว่า “เธออย่ายุ่งเรื่องของตระกูลซุย!”เฉินมู่หัวเราะ ก่อนถามว่า “ทำไมเหรอ? ตระกูลซุยทำไมเหรอ?”เฉินชิงเสวี่ยพูดตรง ๆ ว่า “ฉันเตือนเธอด้วยความหวังดี ตระกูลซุยกับตระกูลเราทำธุรกิจร่วมกันมา ถ้าเธอทำงานแต่งซินยี่

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 250

    เฉินมู่ยักไหล่เล็กน้อย “ถึงฉันจะทำร้ายเธอจนตาย ฉันก็จะไม่รู้สึกผิด”ลู่ซีเจ๋อขมวดคิ้ว “เฉินมู่ คุณทำร้ายเสวี่ยเอ๋อถึงขั้นนั้น เธอยังไม่ถือโทษโกรธ แค่บอกให้คุณอย่าเข้าไปยุ่งกับตระกูลซุย แค่คุณไปเยี่ยมเธอบ้าง มันยากนักหรือไง?”เธอหัวเราะเยาะเล็กน้อย “แค่เธอบอกว่าไม่ถือโทษโกรธฉัน คุณก็เชื่อเหรอ? ลู่ซีเจ๋อ ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าในสมองคุณมันมีรอยหยักบ้างไหม”ลู่ซีเจ๋ออึ้งไปสักพัก เขาไม่ใช่คนที่ทะเลาะวิวาทกับใครบ่อย ๆ ร่างสูงลากเฉินมู่ไปเรื่อย ๆ แล้วพูดว่า “ไปโรงพยาบาลกับผม!”ช่วงเวลาเลิกเรียนนักศึกษาทุกคนเดินลงจากอาคาร ผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาตรงนั้น และแล้วทั้งสองก็เริ่มตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนเฉินมู่ไม่อยากตกเป็นประเด็นของคนทั้งมหาวิทยาลัยในวันพรุ่งนี้ จึงสะบัดมือออกอย่างจำใจและตอบว่า “ปล่อย ฉันเดินเองได้”ลู่ซีเจ๋อปล่อยมือเธอ เฉินหยวนจึงรีบวิ่งมาดึงแขนเฉินมู่ไว้ “ฉันไปเป็นเพื่อนนะ”เฉินมู่แตะมือเธอเบา ๆ “ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรหรอก เธอกลับหอพักไปก่อนเถอะ”เฉินหยวนพูดด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง “งั้นเธอต้องระวังตัวนะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นต้องรีบโทรหาฉันนะ หรือไม่ก็… โทรหาตัวรวจเลย!”เฉินหยวนหัวเ

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 249

    เช้าวันถัดมา เฉินมู่ไปมหาวิทยาลัยตามปกติเรื่องของเฉิงหยวนยังเป็นที่กล่าวถึงบนโลกโซเชียล ซุยซินยี่ยอมจ่ายให้กับคอมเมนท์พวกนี้ไม่น้อยเลยจริง ๆแต่เฉินมู่ยังต้องกลับไปเรียน ถึงแม้ว่าชาวเน็ตจะยังพากันด่าทอดาราในสังกัดของเธอก็ตามทันทีที่เดินเข้าห้องเรียน เฉินหยวนก็โบกมือเรียก “เฉินมู่ ฉันจองที่ตรงนี้ไว้ให้เธอ”เฉินมู่สาวเท้าเข้าไปพร้อมกระเป๋านักเรียน พลางเผยยิ้มกว้าง “ขอบคุณนะ”จางหยางที่นั่งโต๊ะด้านหน้าก็ยื่นกาแฟกับพร้อมแซนด์วิชให้ “อาหารเช้าของเธอ”เฉินมู่พูดด้วยความปลาบปลื้มใจ “ทำไมพวกเธอดีกับฉันจังเลย?”จางหยางส่ายหัวอย่างเคอะเขิน แล้วตอบว่า “แต่ก่อนฉันไม่ค่อยเป็นมิตรกับเธอ เพราะฉะนั้นตอนนี้ฉันจะแก้ตัว” ตั้งแต่ที่เธอทำให้ผู้คนเกิดความประทับใจในคืนงานเลี้ยงปีใหม่ ทุกคนในชั้นเรียนก็หันมาดีกับเธอเฉินหยวนรีบวิ่งเข้ามาซุบซิบ “เธอเห็นหรือยังว่าข่าวเฉิงหยวนในเน็ตกลับมาฉาวอีกแล้วนะ?”เฉินมู่รับอาหารเข้ากัดไปหนึ่งคำ ก่อนพยักหน้าตอบ “เห็นแล้ว”เฉินหยวนรีบโต้ตอบทันที “เฉินมู่ ฉันเห็นเธอสนิทกับหล่อน หล่อนไม่ใช่คนดีนะ!”เฉินมู่หัวเราะ ก่อนตอบว่า “หล่อนเป็นคนดีมาก แล้วต่อไปเธอจะรู้เอง

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 248

    แค่คําเดียว ทำให้มุมปากของฮั่วหยุนเซียวกระตุกยกโค้งราวไม่สามารถซ่อนรอยยิ้มไว้ได้เขาแตะมือไปที่ใบหน้าของเฉินมู่ พลางเรียกอย่างอ่อนโยนว่า “มู่มู่”เฉินมู่ลุกขึ้นนั่งอย่างสะลึมสะลือ แล้วถาม “คุณกลับมาแล้วเหรอคะ ตอนนี้กี่โมงแล้ว แล้วคุณทานข้าวหรือยัง?”แม้ว่าเธอไม่ได้งดงามเหมือนเหล่าคนมีชื่อเสียง แต่ก็แฝงด้วยความอ่อนหวานอยู่บ้างฮั่วหยุนเซียวไม่เคยรู้สึกว่า คําว่าเฉินมู่คํานี้จะอบอุ่นและน่าหลงใหลเช่นนี้มาก่อนหญิงสาวที่เขาสนใจนอนอยู่บนโซฟาด้วยท่าทีกำลังงัวเงียผมเผ้ายุ่งเหยิงสามคำถามต่อเนื่องนั้นดึงเขาออกจากภวังค์และเข้าสู่ความเป็นจริง แต่เขาไม่มีทางเลือก และทำตามอย่างเต็มใจเฉินมู่อยู่ในอาการครึ่งหลับครึ่งตื่น ดวงตาค่อย ๆ ปิดลงอีกครั้ง ช่วงนี้เธอพักผ่อนไม่เพียงพอ ถ้าอยู่ในความสงบเมื่อไหร่เธอพร้อมจะหลับทันที“อืม…” จู่ ๆ ความเย็นก็เข้ามากระทบริมฝีปาก สมองเฉินมู่รู้สึกตื่นตัวขึ้นมาทันทีสมองของเธอเริ่มประมวลผล พลันฝืนลืมตาขึ้น และเลียริมฝีปากตามสัญชาตญาณเธอมองเข้าไปในสายตาลึกลับของชายตรงหน้า ก่อนถามอย่างงุนงงว่า “อะไรเหรอ?”ปลายลิ้นของฮั่วหยุนเซียวไล่เลียตรงริมฝีปากล่างของตน รา

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 247

    เมื่อทุกคนออกไป เฉิงหยวนก็ยังคงเกาะแขนของเฉินมู่ด้วยร่างกายอันสั่นอยู่อย่างนั้นเฉินมู่แตะมือเธอ พร้อมปลอบใจว่า “ไม่เป็นไรนะ ฉันจะคอยปกป้องคุณเอง”เฉิงหยวนพยักหน้า “ฉันเชื่อคุณ แต่ฉันไม่เข้าใจ ทำไมคนร้ายแบบพวกนั้น ถึงได้กล้ากล่าวหาเหยื่อแบบนี้”ผู้อำนวยการหยางวิ่งเข้ามาถามอย่างรีบร้อน “ผู้อำนวยการเฉินบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ? ผมพยายามห้ามคุณหนูซุยแล้ว แต่…”เฉินมู่ปัดมือไปมา พลางบอก “ไม่เป็นไรค่ะ ผู้อำนวยการหยางไม่ต้องกังวล นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเรา”เธอมองร่องรอยความเสียหายของข้าวของบนพื้น แล้วพูดต่อ “พวกเธอทำอะไรเสียหายบ้าง ลิสต์ให้ฉันด้วยนะ”ผู้อำนวยการหยางรีบยกปัดไม้ปัดมือปฎิเสธอย่างเร็ว “ไม่ได้ ๆ จะให้ผู้อำนวยการเฉินชดใช้ได้อย่างไร?” เฉินมู่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ใครบอกว่าฉันจะเป็นคนชดใช้ค่าเสียหาย? คุณหยางจัดการลิสต์รายการของที่เสียหายมาก็พอค่ะ”ผู้อำนวยการหยางก็ไม่รู้ว่าเฉินมู่คิดจะมาไม้ไหน จึงทำได้เพียงทำตามคำสั่งเท่านั้นเฉิงหยวนกระแอมเล็กน้อย แล้วถามด้วยความระมัดระวังว่า “คงไม่ใช่ให้ฉันชดใช้ค่าเสียหายหรอกนะ?”“หึหึ” เฉินมู่ยิ้ม “ไม่ใช่ คนที่ลงมือทำลายข้าวของต่าง

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status