แชร์

ครอบครัวสุขสันต์ 2

ผู้เขียน: พิมพ์สีทอง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-22 23:45:35

ฟางเหนียงหลับตาลงอย่างเงียบงัน แม้วันนี้นางจะเหนื่อยมาทั้งวันแต่ก็ยังมีเรื่องให้ครุ่นคิดหลายอย่าง และคนที่อยู่ในห้วงคิดของนางตอนนี้คือฟางเหยียนอวี้ อาการบาดเจ็บของอีกฝ่ายต้องรักษาอย่างน้อยก็ครึ่งปีแต่หากใช้ยาเคมีที่นางมีเพียงไม่กี่เค่อก็หายแล้ว แต่นั่นหมายถึงนางต้องเปิดเผยความลับที่นางมี

ขอเวลานางได้พิสูจน์อะไรหลาย ๆ อย่างก่อนก็แล้วกัน และมันคงไม่สายไปหรอก ชีวิตมนุษย์ก็เช่นนี้ นางเองก็เห็นแก่ตัวไม่ต่างจากคนอื่นมากหรอก และอาจโหดเหี้ยมใจดำอำมหิตกว่าพวกเขาจะคิดถึง

นางเลิกคิดฟุ้งซ่านพร้อมเดิมลมปราณภายในร่าง ช้า ๆ เพราะตอนนี้นางมาถึงก้นขวดที่จะก้าวข้ามระดับกลางแล้ว แต่หากนางยิ่งแข็งแกร่งก็ยิ่งรู้สึกปลอดภัย นางเคยผ่านอันตรายมามากจึงเชื่อใจแค่ตนเองเท่านั้น...

ฟางเหนียงตื่นเช้าตามปกติ แต่วันนี้นางไม่ได้พาเจ้าก้อนแป้งน้อยไปนั่งออกกำลังกายด้วยเพราะเวลานี้มีหิมะตกลงมาจนลานบ้านขาวโพลน หิมะแรกของปีนี้ย่างก้าวมาแล้ว

นางให้เด็ก ๆ หัดเดินกำลังภายในอยู่ภายในห้องเพื่อปรับสภาพร่างกายให้ทนกับความเหน็บหนาวได้ แม้จะสอนให้เดินลมปราณ แต่ก็ยังเพิ่มเสื้อให้อีกหนึ่งชั้นเป็นเสื้อกันหนาวขนแกะชั้นดี แก้มอวบอ้ว
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน    ครอบครัวสุขสันต์ 3

    เมื่อกินข้าวเสร็จเด็ก ๆ ก็อาสาล้างจานเช่นทุกวันจนเป็นกิจวัตรประจำวันของเจ้าตัวไปเสียแล้ว แม้อากาศจะเย็นแต่พวกเขาก็ไม่หวาดหวั่นฟางเหนียงปล่อยให้เด็ก ๆ ล้างจาน ส่วนตัวนางกางร่มน้ำมันออกไปดูพืชสวนครัวของนางที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ หมูในเล้าก็หนาวสั่น แม้นางจะเอาอาหารมาให้กินพวกมันก็ยังไม่ค่อยสนใจกินข้าว ผิดกับที่อยู่ในมิติสวรรค์ที่กินและเติบโตได้ดีกว่า ตอนนี้นางลังเลที่จะนำพวกมันออกมาข้างนอก ก่อนจะปล่อยเอาไว้ก่อน มีเพียงไก่ที่ยังกินได้อย่างปกติก่อนจะพากันไปหลบมุมฟูมฟักไข่ต่อไป วันนี้นางยังทำงานข้างนอกไม่ได้จึงกลับเข้าเรือนแล้วไปนั่งเย็บผ้าต่อ แต่เมื่อเข้ามาก็เห็นเด็ก ๆ ชวนบิดาไปเล่นหมากล้อมเช่นเดียวกับเมื่อวาน และเหมือนจะพ่ายแพ้ไปก่อนหน้านี้แล้ว เมื่อเห็นนางเดินเข้ามาดวงตากลมโตก็มองนางเป็นประกาย “ท่านแม่ช่วยพวกข้าด้วย พวกข้าไม่อาจเอาชนะท่านพ่อได้เลยขอรับ” ฟางหรงวิ่งเข้ามาหานางก่อนจะลากนางไปยังกระดานหมากที่กำลังรอเริ่มใหม่ ดวงตาคู่คมของฟางเหยียนอวี้มองมาที่นางด้วยรอยยิ้มบางเบาก่อนจะเอ่ยอย่างหยอกเย้า “ข้าให้พวกเจ้าเล่นด้วยกันสามคน” ฟางเหนียงเดินตามบุตรชายคนเล็กมานั่งอีกฝั่งตรงข้ามฟางเห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-22
  • เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน   สายใยที่บางเบาจนแทบจะไม่มี...1

    หลังจากนั้น ไม่รู้ว่าเพราะฟางเหนียงเก่งกาจเกินไป หรือคนเป็นพ่อยอมให้ภรรยากับลูกได้รับชัยชนะก็ไม่อาจรู้ แต่นางกลับชนะมาสามกระดานอย่างฉิวเฉียดทุกครั้ง ดวงตางดงามหรี่ตามองชายหนุ่มที่มองนางตาเป็นประกายแล้วได้แต่แอบเบ้ปาก ว่าไปคนโบราณนี่ก็เกี้ยวสตรีเป็นเหมือนกันนั่นแหละ เพียงแต่วิธีของเขานี่น่าทึ่งไม่น้อย แม้จะไม่พูดมากแต่กลับแสดงความรู้สึกนึกคิดตัวเองออกมาเสียหมด“ข้าจะไปทำอาหารเที่ยง ท่านเล่นกับลูกไม่ต้องมาช่วยข้าเจ้าค่ะ” ฟางเหนียงเอ่ยบอก ยกนี้นางขอยอมแพ้ นางจีบคนไม่เป็นพอคิดจะเริ่มก็พ่ายแพ้เสียแล้ว ตอนนี้ขอไปตั้งหลักก่อนแล้วกัน นางไม่เชื่อหรอกว่าคนยุคปัจจุบันที่มีเทคโนโลยีมากกว่าจะแพ้คนโบราณเช่นฟางเหยียนอวี้...หลายวันต่อมา ฟางเหนียงยังทำกิจวัตรประจำวันเหมือนเดิม จะมีเพิ่มคือสายตาคู่คมที่มองนางด้วยสายตาลุ่มลึก จนบางครั้งนางอดที่เก้อเขินไม่ได้ มีหนุ่มหล่อมานั่งมองตัวเองตาไม่กะพริบแม้แต่นางที่ว่าไร้ยางอายยังหน้าแดงก่ำอย่างเขินอาย แม้ฟาง- เหยียนอวี้จะมองนางแต่ก็ไม่เคยทำให้นางรู้สึกอึดอัดใจ พวกเขาทั้งคู่เหมือนพยายามปรับนิสัยให้เข้ากันได้อย่างไม่รู้ตัว ฟางเหนียงยังไม่ได้ให้ฟางเหยียนอวี้ออ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-22
  • เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน   สายใยที่บางเบาจนแทบจะไม่มี...2

    “ไม่ต้องไปเสียเงินทองหรอก แค่ก ๆ ข้าอายุมากแล้ว รักษาไปก็เท่านั้น” ฟางไห่เอ่ยบอกเพราะสมัยก่อนได้รับบาดเจ็บสาหัสกลับมาจากสงคราม พออายุมากขึ้นอาการเรื้อรังที่เคยมีก็แสดงผลมากขึ้น ดวงตาคู่คมที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมองบุตรชายตรงหน้าด้วยสีหน้าอ่อนลง เวลานี้ฟางเหยียนอวี้ก็พิการไม่ต่างจากตนเขาจึงรู้สึกเจ็บปวดไปด้วย เพราะเขาผ่านเรื่องราวเลวร้ายพวกนี้มาหลายปีแล้ว แรก ๆ ถึงขั้นยอมรับไม่ได้ว่าตัวเองเป็นพิการขาเป๋ ทว่าเมื่อมองดูร่างสูงตรงหน้าเวลานี้กลับรู้สึกว่าอีกฝ่ายเข้มแข็งกว่าเขานัก ก่อนจะมองไปยังลูกสะใภ้ที่เวลานี้กลิ่นอายสงบนิ่งที่แผ่ออกมาทำให้เขารู้สึกวางใจอย่างน้อยนางก็ไม่ได้รังเกียจฟางเหยียนอวี้“เรื่องเงินเล็กน้อย ท่านพ่อโปรดวางใจ ขอให้ท่านรักษาสุขภาพให้แข็งแรงก็พอแล้วขอรับ” ฟางเหยียนอวี้เอ่ยบอก ทว่าดวงตาคู่คมมองบิดานิ่ง ๆ แสดงให้เห็นถึงว่าพวกเขาไม่ได้ขาดแคลนเงินทอง“อย่าพูดเช่นนั้น หากฟางหรูได้ยินเข้าจะวุ่นวายอีก แค่ก ๆ” ฟางเหยียนอวี้ยิ้มเย้ยหยันเพียงครู่ ก่อนจะเลือนหายไปโดยไม่มีใครสังเกตเห็น ได้แต่คิดภายในใจว่าแม้มารดาจะไม่รู้ว่ามีเงินนางก็ยังอยากได้เงินของพวกเขาจนหมดนั่นแหละ นางเป็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-22
  • เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน   สายใยที่บางเบาจนแทบจะไม่มี...3

    แต่ด้วยความที่กำลังป่วยหนัก ทำให้ร่างสูงใหญ่ของบุตรคนโต ไม่อาจขยับถอยออกไปได้ เขาหอบหายใจอย่างหนักหน่วงด้วยความโกรธ“ไอ้ลูกเลว! แค่ก ๆ ใครสั่งใครสอนให้เล่นการพนัน ข้าเคยบอกพวกเจ้าแล้ว แค่ก ๆ” ครั้งนี้ฟางไห่โมโหจนกระอักเลือดออกมา ทันใดนั้นเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ฟางไห่โกรธมากจนกระอักโลหิตต่อมาร่างกายกลับอ่อนยวบจนฟางเหยียนอวี้ต้องเรียกเสียงดัง“ท่านพ่อ! ท่านพ่อตื่นขอรับ” ฟางเหยียนอวี้นั่งประคองร่างของบิดาเอาไว้โดยที่ฟางเหนียงช่วยรับน้ำหนักอีกแรง ทว่าหัวใจที่หยุดเต้นไปของในอ้อมแขนทำให้ฟางเหนียงนิ่วหน้า“ท่านพ่อหยุดหายใจแล้ว เอาท่านนอนลงก่อนเผื่อจะช่วยเหลือได้ทัน” ฟางเหนียงร้องบอก ก่อนจะวางฟางไห่ลงพื้นพร้อมเริ่มช่วยทำ CPR เบื้องต้น ทว่าทันที่นางเริ่มสัมผัสหน้าอกและเริ่มขยับได้เพียงครั้งเดียวร่างนางก็ถูกผลักกระเด็นอย่างไม่ทันตั้งตัว“เจ้าจะทำอะไร! ข้าเจ้าโวยฟางเหนียงลงมือฆ่าสามีข้า ใครก็ได้ช่วยด้วยเจ้าค่ะ” ฟางหรูตะโกนลั่นจนชาวบ้านออกมาดู เพราะตอนแรกพวกเขาก็ได้ยินเสียงฟางหรูร้องโวยวายอยู่แล้ว และครั้งนี้ดังยิ่งกว่าเดิมทำให้ผู้คนอดใจที่อยากรู้อยากเห็นไม่ได้“ท่านพ่อ” ฟางเหยียนอวี้พ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-22
  • เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน   สายใยที่บางเบาจนแทบจะไม่มี...4

    “ข้าไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น มีแต่พวกเจ้าที่เนรคุณ วันนี้อย่างไรพวกเจ้าต้องเอาเงินมาให้ข้าหมื่นตำลึงเงิน” ฟางหรูตะโกนเสียงดังบอกความตั้งใจของตัวเอง สีหน้าท่าทางของนางเวลานี้กลับไร้ยางอายที่สุด แม้กระทั่งศพสามียังไม่ทันเย็นก็เริ่มออกอาละวาดแล้ว“เหลวไหล ตระกูลฟางกับฟางเหนียงทำสัญญาตัดขาดกันไปแล้ว และตราบใดที่ข้ายังอยู่ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็ไม่มีทางได้เงินจากครอบครัวนี้”“นั่นมันฟางไห่ทำสัญญา เกี่ยวอะไรกับข้า” ฟางหรูพลิกลิ้นอย่างไร้ยางอาย ทำให้ผู้คนต่างมองนางอย่างตกตะลึง หมายมั่นว่าต่อไปนี้จะไม่พูดคุยกับตระกูลนี้อีก เพราะไม่มีใครดีเลยสักคน“ท่านผู้ใหญ่บ้าน ข้าว่าจัดงานศพให้ท่านพ่อก่อนดีกว่าขอรับ” ฟางเหยียนอวี้เลิกสนใจฟางหรูพร้อมหันไปบอกฟู้เหลียนด้วยสีหน้าจริงจัง ไม่ว่าฟางหรูอยากได้อะไรนางจะไม่ได้สมปรารถนา แต่งานศพของบิดาเขาจะเป็นคนจัดการเองโดยที่ไม่ให้เงินนางแม้แต่อีแปะเดียว ที่ผ่านมาเขาตอบแทนบุญคุณนางมามากพอแล้ว“จริงสิ แต่ว่า...” ฟู้เหลียนเอ่ยถามอย่างลำบากใจ งานศพยังไงก็ต้องจัดแต่ดูลักษณะแล้วฟางหรูคงไม่ออกเงินเองแม้แต่อีแปะเดียว“ค่าใช้จ่ายพวกข้าจะดำเนินการเอง ท่านผู้ใหญ่บ้านไม่ต้องห่วงเจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-22
  • เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน    สีสันของชีวิตคู่ 1

    แต่ปัญหาตอนนี้คือคนในบ้านของนางเอง ที่ชอบจับจ้องนางจนแทบทำอะไรยากลำบาก อาหารการกินก็เอามายากลำบาก จนบางครั้งต้องไล่ให้ไปเล่นกับเด็ก ๆ ถึงแม้แขนซ้ายตอนนี้จะยังใช้งานไม่ได้ทว่าความรู้ความสามารถด้านอื่น ๆ ก็ไม่น้อยไปกว่าพละกำลัง บางทีสติปัญญาของฟางเหยียนอวี้ฉลาดล้ำลึกจนนางอดสงสัยไม่ได้ว่าแท้จริงเหยียนอวี้เป็นใครกันแน่ เพราะนางรู้แค่อีกฝ่ายเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกนำมาทิ้งไว้และตระกูลฟางนำมาเลี้ยงดูเท่านั้น แต่ก็ไม่เอ่ยถามเพราะตอนนี้ชีวิตนางก็สุขสงบดีและปัญหาตอนนี้คือการหาบน้ำ ฟางเหยียนอวี้จะชอบไปหาบน้ำเข้าบ้านจนมือโดนความเย็นกัดกินหมด อีกทั้งร่างกายยังไม่หายดีทำให้ร่างกายปวดร้าว หากยังหักโหมร่างกายแบบนี้ต่อไปคงเป็นโรคเรื้อรังแน่ ๆ สุดท้ายนางจึงเริ่มสอนเดินลมปราณ แต่ด้วยแขนซ้ายไม่มีความรู้สึกจึงทำให้ไม่อาจเดินตามเส้นชีพจรได้ นางจึงให้อ่านศึกษาคัมภีร์ฝึกปราณไว้ก่อน ซึ่งฟางเหยียนอวี้ก็ทำตามอย่างว่าง่ายแต่ในใจตนนั้นรู้ดีว่าไม่อาจกลับมาเป็นเหมือนปกติแล้ว “นั่นท่านพี่จะไปไหนอีกเจ้าคะ” ฟางเหนียงเห็นร่างสูงที่ทำเหมือนจะเตรียมตัวออกไปข้างนอก ดวงตาคู่คมมองมาที่นางก่อนจะเม้มปากแน่นเหมือนเจ้าก้อนแป้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-22
  • เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน    สีสันของชีวิตคู่ 2

    ฟางเหนียงหันมาบอกฟางเหยียนอวี้ที่ยังยืนนิ่ง ร่างสูงนิ่วหน้าขมวดคิ้วมุ่น แม้ตอนนี้จะเช้าอยู่ แต่ปกติคนในหมู่บ้านจะไม่ออกจากบ้าน นอกเสียจากมีธุระสำคัญ และที่เขามั่นใจว่าไม่ใช่ตระกูลฟางเพราะทางนั้นตัดขาดเขาอย่างแท้จริงแล้ว และเขาไม่เคยไปที่นั่นอีกเลยไม่ใช่ว่าเขาอกตัญญู แต่ที่ผ่านมาเขาได้ชดใช้หนี้บุญคุณให้จนหมดแล้ว เงินเดือนที่เขาได้มาอย่างยากลำบากก็นำไปจนหมดสิ้น ในเมื่อตระกูลฟางไม่ได้คิดถึงบุตรชายอย่างเขาก็ไม่จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับทางนั้นอีก“ไปรับแขกกันเถอะ”ฟางเหนียงจับมือลากร่างสูงที่ยืนเหม่ออกไปรับแขกข้างหน้าด้วยกัน ส่วนเจ้าก้อนแป้งนั้นตอนนี้กำลังเขียนอักษรอยู่ ซึ่งลายมือของทั้งคู่เริ่มดีขึ้นเนื่องจากได้คนเป็นพ่อช่วยสอนเพิ่มเติม ทั้งคู่เดินฝ่าหิมะจนมาถึงประตูใหญ่ แต่เมื่อเปิดออกนางกลับไม่รู้จักสักคนฟางเหนียงสำรวจพวกเขาอย่างเงียบงัน คนทั้งห้าสวมใส่อาภรณ์ชั้นดี แม้กระทั่งหมวกสานยังงดงามวิจิตรสามคนเป็นชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับฟางเหยียนอวี้ อีกหนึ่งคือชายวัยฉกรรจ์และหนึ่งสตรีที่หมวกปิดใบหน้าจนมองไม่เห็นใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-23
  • เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน    สีสันของชีวิตคู่ 3

    ทว่าคำพูดของพวกเขาทำให้ฟางเหนียงหรี่ตามอง ก่อนจะหยุดนิ่งตรงสตรีที่ฝั่งตรงข้ามนาง ร่างบอบบางดูน่าทะนุถนอม ใบหน้างดงามเผยรอยยิ้มอย่างเขินอายเล็กน้อย“พี่อวี้ท่านจำข้าได้หรือไม่ เมื่อสี่ปีก่อนข้าเคยช่วยชีวิตท่าน พี่อวี้เคยบอกว่าจะตอบแทนข้าเมื่อมีโอกาส แต่วันนี้นับว่าเป็นวาสนา ข้ารู้แล้วว่าจะให้ท่านตอบแทนเช่นไร ง่ายเพียงนิดเดียวเพียงแค่พี่อวี้เขียนใบหย่าให้นาง จากนั้นข้าจะช่วยรักษาแขนของท่านให้กลับมามีความรู้สึกเช่นเดิมเจ้าค่ะ”เมื่อได้ยินเช่นนั้นฟางเหยียนอวี้กลับกำมือแน่นยิ่งกว่าเดิม ครั้งนั้นตอนถูกเกณฑ์ทหารไปเขายังไม่เก่งเรื่องการต่อสู้ เพียงแค่จับดาบก็รู้สึกสั่นแล้ว และตอนนั้นพวกเขาถูกส่งไปกำจัดโจรป่าแต่ด้วยพื้นที่ซับซ้อนอีกทั้งฝนตกหนักทำให้เขาพลาดพลั้งจนบาดเจ็บสาหัส แต่ได้นางช่วยเหลือก่อนที่เขาจะได้กลับไปรวมตัวกับกลุ่มทหารอีกครั้ง ไม่คิดว่าคำพูดของเขาในวันนั้นจะกลับมาทำร้ายเขาในวันนี้“ข้าตามหาท่านมาหลายปี ไม่คิดว่าเรายังมีบุพเพกัน”น้ำเสียงที่เอ่ยนั้นอ่อนหวาน ดวงตามีรอยยิ้มงดงามทว่าแต่ละคำกลับเหมือนเป็นคำสั่งที่ผ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-23

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน   คลื่นใต้น้ำ 2

    "ไปไหน""สถานที่ล่าสัตว์วันนั้น"ถ้าเป็นเรื่องนี้ละก็นางไม่ปฏิเสธแน่อยู่แล้ว"เอาสิ"การล่าสัตว์ขององค์ชายรองกับองค์ชายรัชทายาทนั้นเกิดขึ้นระหว่างเสด็จเยี่ยมราษฎร ระหว่างรับเรื่องร้องทุกข์ของชาวบ้าน วันหนึ่งพวกเขาก็ชวนกันไปล่าสัตว์ฆ่าเวลาป่านนี้อยู่ระหว่างเมืองหลวงกับเมืองเหวินทางตะวันออก ป่าหนาทึบเป็นอันดับสองจากป่ารอบเมืองทั้งหมดหลี่เจิ้นหัวออกมากับนางสองคน ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้ใช้รถม้าหรือพาหนะใดเพราะไม่อยากสะดุดตา แม้จะมีคนเชื่อว่าเป็นฝีมือองค์ชายรองแต่พระองค์ยืนกรานว่าไม่รู้เรื่อง หากอยากให้คนร้ายดิ้นไม่หลุดก็ต้องหาหลักฐานมาให้ได้"เจ้าคิดไว้ในใจแล้วหรือยัง!""เรื่องอะไร!" เขาตะโกนถามกลับ การวิ่งฝ่าสายลมทำให้พวกเขาไม่ค่อยได้ยินเสียงกันและกัน"จะสืบอย่างไร…" พูดได้ไม่ถึงครึ่งประโยคฉินหลิวซีก็ส่ายหน้า ทำมือเป็นสัญญาได้ไปคุยกันหลังถึงที่หมาย คุยกันตอนนี้ให้ตายอย่างไรก็ไม่รู้เรื่องเดินทางกันอยู่นานในที่สุดก็ถึงป่าระหว่างสองเมืองเสียที พวกเขาตามร่องรอยมาถึงจุดเกิดเหตุ ทั้งรอยเท้าและของตกหายไม่เหลืออะไรแล้ว แต่ก

  • เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน   คลื่นใต้น้ำ 1

    โจวเมิ่งอิ๋งคร่ำครวญถึงความน่าสงสารราวโชคชะตากลั่นแกล้งของบุตรสาว ไม่มีแก่ใจมารับรองแขกด้วยตัวเองด้วยซ้ำ ดีที่มีอนุคนสนิทอยู่ข้างกายคอยปลอบใจฟังจากน้ำเสียงคงทุกข์ใจเหลือประมาณ หลี่เจิ้นหัวรู้เรื่องที่ตัวเองสามารถทำได้แล้ว"ทีนี้ข้าจะลงมืออย่างไรดีนะ…"บรรยากาศในห้องค่อนข้างอับชื้น พี่หญิงต้อนรับนางเป็นอย่างดีแม้จะหน้าซีดเซียวกว่าปกติก็ตาม"เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ พี่หญิงดูผอมลงไปหรือไม่ กินข้าวไม่อร่อยอย่างนั้นหรือ""อยากที่เจ้าเห็น ก็ไม่ค่อยดีเท่าไร แต่ข้าเป็นผู้บริสุทธิ์ดังนั้นเลยเชื่อว่าอีกไม่นานคงดีขึ้น"แต่ดูเหมือนความเชื่อของนางจะทรยศนางทีละนิด แต่ละวันที่ผ่านไปขื่นขมนักสีหน้าของหลี่เมิ่งเหยาอิดโรยเหมือนคนไม่ได้นอน ถึงจะบอกว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์อย่างไร แต่สถานการณ์แบบนี้คงยิ้มไม่ออก"เรื่องนี้จัดการไม่ได้ง่าย ๆ แต่หากต้องการให้ข้าช่วยเหลืออะไรพี่หญิงอย่าได้เกรงใจนะเจ้าคะ""ฉินหลิวซี ถ้าซาบซึ้งน้ำใจเจ้าจริง ๆ" หลี่เมิ่งเหยาน้ำตารื้น พอรู้ว่านางอาจต้องโทษเหล่ามิตรสหายก็พากันหนีหน้า ส่วนหนึ่งก็คงเพราะคำสั่งของบิดามารดามิให้มาข้อง

  • เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน   เป็นที่จับตามอง 2

    เหตุการณ์นี้ทั้งสองนัดแนะกันเองโดยไม่ได้บอกผู้ติดตามพวกเขาจึงไม่ได้ถูกลงโทษที่ละเลยหน้าที่ และโชคดีที่แม่ทัพหลี่ซึ่งเดินทางไปด้วยมาช่วยไว้ทันด้วยเหตุนี้จึงบังเกิดความสงสัยขึ้นในหมู่ชาวเมือง ว่าเป็นฉากที่ถูกจัดไว้หรือเปล่า"เพราะอย่างนี้จึงไม่มีใครสนใจเจ้าของร้านเครื่องประทินโฉมแล้วสินะ…"เรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่กว่าเห็น ๆ ก็ดี เพราะข้าก็ไม่ได้อยากเป็นจุดสนใจมากนักในตอนนี้ แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสกุลหลี่ ยังวางใจไม่ได้"ต้องไปหาเจิ้นหัวหน่อยแล้ว"ฉินหลิวซีไปที่หอกระจายข่าวแล้วก็ต้องประหลาดใจเมื่อการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดขึ้นกว่าปกติ นางรู้แล้วว่ามีเรื่องไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น แต่ไม่นึกว่าจะส่งผลกระทบถึงสกุลหลี่มากกว่าที่คิด"เพราะพี่หญิงเป็นพระคู่หมั้นขององค์ชายรัชทายาทอย่างนั้นหรือ…?"หรือจะไม่ใช่กันนะคุยกับตัวเองยังไม่จบก็พบว่ายืนอยู่หน้าห้องทำงานของหลี่เจิ้นหัวเสียแล้ว นางเคาะประตูสองครั้งอีกฝั่งก็เอ่ยอนุญาต"หลิวซี~" พอเห็นหน้านางอีกคนก็โอดครวญเสียงอ่อนอย่างน่าสงสาร ท่ามกลางม้วนกระดาษสู่ท่วมหัว"ดูเหมือนเจ้าจะมี

  • เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน   เป็นที่จับตามอง 1

    ร้านที่ไม่มีใครรู้ที่มาแน่ชัด รู้แต่ว่าสกุลหลี่เป็นผู้จัดจำหน่ายให้เสมือนคนกลางหลี่ซีเหยาเหยียดยิ้มนึกอยากขัน สินค้านี้มีอยู่ในร้านของบ้านอยู่แล้ว นางเป็นผู้เอามาให้เช่นนี้ช่างน่าขายหน้าจริง ๆ ช่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยหากสังเกตและไตร่ตรองดูสักนิดจะรู้ว่าบรรจุภัณฑ์นี้ไม่ได้วางขายในปัจจุบัน มันเป็นตลับแบบใหม่ที่ยังไม่ได้วางหน้าร้านที่ไหน"นี่เป็น…สินค้าจากร้านของข้าเอง เป็นกระปุกชาดและตลับแป้งลายใหม่ที่ยังไม่ได้วางจำหน่ายที่ไหน ข้ามอบมันให้พี่หญิงเป็นคนแรก"ทันทีที่ฉินหลิวซีพูดจบเสียงฮือฮาก็ดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย"เป็นไปไม่ได้ สามัญชนชั้นต่ำอย่างเจ้าจะเป็นเจ้าของสิ่งนี้ได้อย่างไร อย่ามาแอบอ้างนะ เจ้าต้องไปแอบซื้อที่ไหนมาแน่ ๆ แล้วไปแอบเปลี่ยนตลับทีหลังใช่ไหมล่ะ" หลี่ซีเหยาอย่างไม่ยอม นางเริ่มเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ จนมารดาที่เป็นอนุสั่งให้สาวใช้มาพาตัวออกไปเพราะเริ่มจะทำขายหน้า อีกทั้งแม่ทัพยังมองนางด้วยแววตากรุ่นโกรธอีกด้วย หากไม่รีบจัดการนางก็จะโดนลงโทษหลังจบงานนี้แน่สถานการณ์สงบลงแต่เรื่องของฉินหลิวซียังเป็นที่พูดถึงตัวตนของเจ้าขอ

  • เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน   งานวันเกิดพี่หญิงใหญ่ 2

    "บุตรสาวคนเล็กของข้าอยู่ในวัยไล่เลี่ยกับคุณชายหลี่ เรียนรู้งานฝีมือตั้งแต่ยังเล็กจนชำนาญ พิณ หมาก อักษร ล้วนเป็นเลิศ…"เซียนโอสถน้อยรู้สึกกระดากใจเกินจะฟังจึงเดินหนีออกมา รู้หรอกว่าหลี่เจิ้นหัวคงไม่เอาด้วยแต่นางก็ไม่ชอบใจอยู่ดีถึงจะไม่พอใจแต่ถ้านางโวยวายหรืออาละวาดขึ้นมาเพราะเรื่องนี้ รังแต่จะสร้างความไม่พอใจให้ฮูหยินท่านที่มีต่อนางเพิ่มมากขึ้นฉินหลิวซีกลับมานั่งที่โต๊ะ น้าหญิงกับน้าเขยทำตัวไม่ถูกกับงานเช่นนี้จึงเลือกโต๊ะที่ไม่ค่อยโดดเด่น นางเข้าใจว่าทั้งสองคงอึดอัดจึงไม่ห้าม แต่ว่านางร่วมโต๊ะด้วยไม่ได้ ในบัตรเชิญบอกไว้ว่าให้นางนั่งร่วมโต๊ะกับเจ้าของงานโคมไฟแดงประดับต้นไม้สว่างวาบขึ้นจากเดิมพร้อม ๆ กัน ทุกคนพร้อมใจกันหันไปมองหน้าเรือนรับรองที่มีทางเดินหินอ่อนทอดยาวออกมาถึงสวน ฉินหลิวซีเห็นหลี่เมิ่งเหยาออกมาแล้วจึงขอตัวท่านหญิงหลี่ออกมาพร้อมกับสหายท่านหญิงคนอื่น ๆ ฉินหลิวซีรู้สึกคุ้นหน้าพวกนางเกือบทุกคนเพราะเคยเจอกันมาก่อนแล้ว นางรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย ถ้าได้ร่วมโต๊ะกับคนที่คุ้นเคยกันมันดีต่อความรู้สึกนางมากกว่าที่ต้องร่วมโต๊ะกับคนแ

  • เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน   งานวันเกิดพี่หญิงใหญ่ 1

    "จริงสิ พี่หญิงเชิญเจ้าไปงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของนาง เจ้าพอจะมีเวลาหรือไม่""งานวันคล้ายวันเกิดของพี่หญิงหรือ ต่อให้ข้าไม่ว่างก็จะไปแน่"ฉินหลิวซีได้รับความช่วยเหลือจากพี่หญิงของหลี่เจิ้นหัวมาไม่น้อย แค่ไปร่วมงานแค่นี้ทำไมนางจะทำไม่ได้แล้ว"ถ้าพี่หญิงได้ยินคงดีใจ""งานเริ่มวันไหน""วันมะรืนปลายยามโหย่ว นี่บัตรเชิญของเจ้า น้าหญิงกับน้าเขยเจ้าสามารถมาเข้าร่วมในฐานะผู้ติดตามได้""นางคงตื่นเต้น"ฉินหลิวซีคิดภาพออกเลยว่าชิวหลานจะพูดอะไรหรือแสดงท่าทีประมาณไหนหลังจากได้ยินเรื่องนี้ น้าหญิงของนางร่าเริงมากตั้งแต่มาเมืองหลวง คุ้มค่าแล้วที่พาทั้งคู่มาเปิดหูเปิดตาฉินหลิวซีตั้งใจสร้างชื่อเสียงและตัวตนของตนเอาไว้ที่นี่ ในอนาคตไม่รู้ว่าลูกหลานสกุลชิวกับท่านพ่อท่านแม่จะย้ายมาที่เมืองหลวงหรือไม่ แต่หากพวกเขามาสิ่งที่นางสร้างไว้จะต้องเป็นประโยชน์แน่"ข้าเองก็ตั้งตารอวันนั้น"หลี่เจิ้นหัวมองนาง สายตาแสดงความรู้สึกอย่างไม่ปิดบัง หญิงสาวไม่รู้ว่าคนตรงหน้าเฝ้ารออะไร แต่แววตาของเขานั้นทำให้นางอยากสร้างความประทับใจที่จะได้พบกันยามค่ำคืนให้พิเศษขึ

  • เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน   เปิดกิจการร้านค้าในเมืองหลวง 2

    "ที่นี่ยอดเยี่ยมไปเลย""ดีใจที่เจ้าชอบ นี่ใบเสนอราคาที่เถ้าแก่คนก่อนเขียนมา"นางกวาดสายตาอ่านดูแล้วก็พยักหน้า "รับได้ แต่ทำไมถึงปล่อยขายล่ะ ทำเลดีมากไม่ใช่หรือ""เขาจะย้ายไปอยู่เมืองอื่นกับหลานชาย กิจการนี้ไม่มีคนสานต่อแล้วเจ้าตัวก็ไม่อยากเดินทางมาเก็บค่าเช่าทุกเดือนด้วย""เข้าใจล่ะ แต่เจ้าเอามันมาได้อย่างไร ร้านทำเลดีแบบนี้ต้องมีคนแย่งกันประมูลมากมายแน่ คงไม่ใช่ว่าเจ้าแอบสนับสนุนเงินเพิ่มให้ข้าหรอกนะ"พอเห็นนางมองตาขวางเขาก็รีบปฏิเสธ"เปล่า ๆ เถ้าแก่เป็นคนรู้จักของข้า เคยมีบุญคุณต่อกันนิดหน่อยเท่านั้น ข้ามาขอร้องให้เขาช่วยหาเพราะเส้นสายก็ไม่น้อย แล้วเขาก็เสนอร้านที่นี่มา ซึ่งก็เป็นร้านของตัวเองนั่นแหละ"ฉินหลิวซีเคยสำรวจราคาตลาดมาบ้างแล้ว ที่นี่ก็ให้ราคาที่ถูกมากกว่าที่อื่นจริง ๆเมื่อได้คำตอบที่พอใจนางก็ไม่ถามอะไรเขาอีกก่อนจะหมดวันพวกเขาไปยังที่ตั้งโกดัง มันเป็นโรงเก็บไม้เก่าที่เลิกกิจการไปแล้ว อายุการใช้งานก็ยังไม่มาก ไม่ถึงกับต้องซ่อมแซมแค่ปัดฝุ่นนิดหน่อยก็ใช้ได้ฉินหลิวซีจะเริ่มทยอยขนของย้ายไปที่คฤหาสน์วันพรุ่งนี้

  • เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน   เปิดกิจการร้านค้าในเมืองหลวง 1

    "ช่างเถอะเจ้าค่ะท่านน้า เราคงจะเจอแบบนี้อีกบ่อยเลยล่ะ ถึงจะน่าหงุดหงิดไปบ้าง แต่คนที่หน้าคบหาและเป็นมิตรยังมีอีกมาก"หลังจากกินอาหารเสร็จแล้ว ฉินหลิวซีก็ให้พวกสาวใช้ไปเดินสำรวจในเมืองโดยให้ไปกันเป็นกลุ่ม ห้ามแยกไปคนเดียวเพราะต่อให้เป็นเมืองหลวงก็ใช่ว่าจะปลอดภัย ที่สำคัญคือห้ามก่อเรื่องเป็นอันขาดหลังจากพวกเขาแยกย้ายกันไปแล้ว นางที่กำลังจะขึ้นไปพักบนห้องก็ถูกเรียกเอาไว้"หลิวซี!""เจิ้นหัว?" นางหันหลังมาเห็นก็รู้แล้วว่าเป็นใคร อีกฝ่ายวิ่งมาหาจากแยกด้านหน้าของถนน ทำหญิงสาวเอ่ยชื่อของเขาด้วยความประหลาดใจวิ่งมาแบบนั้นจะหายใจทันไหมนี่"ดูจากสีหน้าคงไม่ใช่เรื่องฉุกเฉินอะไรหรอก ก็แค่ตื่นเต้น…" หญิงสาวเอ่ยพึมพำกับตัวเองนางอมยิ้มแล้วหัวเราะออกมาเบา ๆเพราะข้าล่ะมั้งหลี่เจิ้นหัววิ่งเข้ามาหาฉินหลิวซีโดยไม่สนสายตาใคร โรงเตี๊ยมนี้อยู่ตรงข้ามเหลาอาหารพวกเขาจึงตกเป็นเป้าสายตา ทำเอานางรู้สึกขัดเขิน"จะ เจ้าไม่ได้บอกว่าจะมาถึงพรุ่งนี้หรอกหรือ ขอโทษนะ ข้าไม่ได้ออกไปรับเลย""ไม่เป็นไร เจ้าหายใจช้า ๆ หน่อย วิ่งมาตั้งแต่ที่จวนหรือไงเนี่ย

  • เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน   พบเจอกันอีกครั้ง 2

    แม้ตอนจะจากก็ยังมีอารมณ์ขัน เชื่อแทบไม่ลงเลยว่าเป็นองค์ชายต่างแคว้นเหตุผลหนึ่งที่ไม่มีกล้ามีใครมาโจมตีนอกจากพวกไม่มีหัวคิดก็เพราะสถานะของเจียงหรูอี้ ถึงเจ้าตัวจะบอกว่าตอนนี้เป็นแค่จอมยุทธ์พเนจรไม่มีสถานะอื่น แต่หากติดตามข่าวสารต่างแดนบ้างต้องเคยได้เห็นหรือได้ยินเรื่องของเขาบ้างองค์ชายยังประหลาดใจที่ฉินหลิวซีรู้ว่าตนเป็นใคร ชาวบ้านทั่วไปไม่มีใครสนใจสถานะของเขา ซึ่งนั่นทำให้หรูอี้สบายใจและใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ พอรู้ว่านางผิดสังเกตก็ประหม่า ฉินหลิวซีต้องอธิบายนานกว่าเขาจะเข้าใจว่านางไม่ได้เจตนาจับผิดหรือเป็นสายลับที่ไหน ก็แค่มีหน่วยข่าวกรองดี ๆ ให้ถามโดยไม่คิดค่าจ้างแค่นั้นเมื่อสิ้นสุดการเดินทางก็ได้เวลาแปลงโฉม ฉินหลิวซีสั่งตั้งกระโจมด้านนอกหนึ่งวันเพื่อเตรียมตัว"น้าหญิง น้าเขย เชิญทางนี้หน่อยเจ้าค่ะ""นะ น้าเขยหรือ!?" เฉาฟางทั้งเขินอายทั้งประหม่าในคราวเดียว"อย่างไรผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็รับรู้แล้ว ไม่เป็นอะไรหรอกเจ้าค่ะ น้าหญิงงามออกปานนี้ ถ้าไม่ทำให้ชัดเจนละก็อาจจะมีคนมาตามตื้อได้""หยา แบบนั้นไม่ได้สิ ไม่ได้เด็ดขาดเลยนะ" โวยวายเสร็จ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status