สัมผัสได้ถึงสายตาเย็นเยียบของฮั่วเยี่ยนฉือแล้ว ลู่เฉินหนานถึงได้รู้ว่าตัวเองพูดเกินขอบเขตไปหน่อยเขารีบหดคอตัวเองทันที แล้วจึงเอ่ยพร้อมยิ้มแหะ ๆ “ที่ผมพูดก็คือ พี่ฉือมีความตั้งใจน่ะเป็นเรื่องดีแล้ว แค่วิธีของพี่มันไม่ค่อยถูกเท่านั้นเอง”“พี่ลองเอาใจเขามาใส่ใจเราดูสักหน่อย ถ้าเกิดว่าพี่สะใภ้เขาออกไปเ
“ฉันคอยจับตาดูตอนผลิต คุณภาพ และการจำหน่ายอยู่ตลอด ของที่เหลืออยู่เป็นของที่พ่อฉันทิ้งเอาไว้ให้ เขาไม่มีทางแตะต้องมันจากภายในได้แน่ ก็เลยสร้างข่าวปลอมนี่ขึ้นมา”“ได้ยังคนไปดูคนที่แอลกอฮอล์เป็นพิษนั่นหรือยังไง เป็นยังไงบ้าง?” เฉียวสือเนี่ยนเอ่ยถามถูหย่าลี่จึงบอกว่า เธอส่งคนสนิทไปที่โรงพยาบาลแล้ว แต่
“ได้เห็นเธอเขินอายแบบนี้ ยากเลยนะเนี่ย” โม่ซิวหย่วนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเอ้อระเหยลอยชายเฉียวสือเนี่ยนอดค้อนใส่เขาไม่ได้ “พอใจแล้วใช่ไหมคะ ประธานโม่?”“ก็ใช้ได้!” โม่ซิวหย่วนลุกขึ้นยืน “ในเมื่อเสร็จธุระทางนี้แล้ว เธอก็ไปที่ที่หนึ่งกับฉันหน่อยสิ”“ไปไหน?”“ออกไปคุยข้างนอก”โม่ซิวหย่วนจัดเสื้อคลุมให้เข
คำพูดของเฉียวสือเนี่ยนทำให้โม่ซิวหย่วนที่กำลังมีสีหน้าเคร่งขรึมหลุดขำออกมาทันทีหญิงสาวถลึงตามองเฉียวสือเนี่ยนอย่างไม่พอใจ “ก็แค่คนขับรถ จะอยากมีตัวตนอะไรนักหนา!”“โอ้ ฉันรู้แล้ว เธอคงจะเชิดคออยู่บนความสวยของตัวเอง และคิดว่าคนขับรถก็แค่นั่ง ๆ นอน ๆ ในรถเท่านั้นสินะ!”เฉียวสือเนี่ยนถามโม่ซิวหย่วนที่เ
เฉียวสือเนี่ยนตอบกลับอย่างรวดเร็ว “ในเมื่อเป็นแบบนี้ แล้วทำไมคุณไม่ไปเอง?”โม่ซิวหย่วนมองเธอ “ฉันเรียกเธอมา เธอก็ต้องทำประโยชน์ให้ฉันสิ”“แพะรับบาป”“เธอรู้สถานะตัวเองดีไม่ใช่เหรอ ยังไม่รีบไปอีก? ”“…”ช่างเถอะ ก็เป็นอย่างที่โม่ซิวหย่วนพูดจริง ๆ โปรเจกต์นี้ไม่เกี่ยวกับเธอเฉียวสือเนี่ยนเดินไปหลังครั
เฉียวสือเนี่ยนเอือมระอากับการกระทำของโม่ซิวหย่วนจริง ๆอยากเป็นศัตรูกับฮั่วเยี่ยนฉือ ทำไมไม่หาวิธีที่ดีกว่านี้?วิธีตลกร้ายที่แฝงไปด้วยความคิดเด็ก ๆ แบบนี้ ทำใจยอมรับไม่ได้จริง ๆฮั่วเยี่ยนฉือไม่ได้สนใจโม่ซิวหย่วน เขาหันมาพูดกับเฉียวสือเนี่ยนแทน “เธอไปที่ห้องอาหารเทียนจื้อหมายเลขหนึ่งกับฉัน”เฉียวสื
เฉียวสือเนี่ยนก้มหน้าลงและใช้น้ำลูบหลังมือให้เขาต่อ “ฉันเคยบอกไปแล้วว่าฉันไม่อยากให้คุณยุ่งกับธุรกิจของตระกูลเฉียว นี่ไม่ใช่การประชดด้วย”“ตอนนี้คุณลุงคุณป้ายังคงไม่เข้าใจความเป็นจริง แต่ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาก็จะรู้ว่ามีเพียงการพึ่งพาตัวเองเท่านั้นที่จะมั่นคงที่สุด”ท่าทาเพิกเฉยและเย็นชาของงเฉียวสือเนี
เมื่อได้ยินคำถามของฮั่วเยี่ยนฉือ เฉียวสือเนี่ยนก็สบตากับเขาผ่านกระจกมองหลังทันที“มีกฎข้อไหนบอกว่าห้ามให้ฉันไปกินข้าวกับเขาเหรอ?”เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของฮั่วเยี่ยนฉือก็เคร่งขรึมลง “เฉียวสือเนี่ยน พอเธอรู้ว่าฉันกับเขาไม่ลงรอยกันก็เลยจงใจไปอยู่กับเขาเพื่อประชดชันงั้นเหรอ?”เฉียวสือเนี่ยนหัวเราะ “