เห็นโจวหยางอิงที่นิสัยดีโกรธเข้าจริง ๆ เหล่าพลพรรคทั้งหลายจึงรีบหุบปากทันที......บนรถ เฉียวสือเนี่ยนนั่งหันหลังให้ฮั่วเยี่ยนฉือ ด้วยไม่อยากคุยกับเขาฮั่วเยี่ยนฉือเองก็ไม่ได้พูดอะไร ทว่าใบหน้าหล่อเหลาดูไม่ดีเอาเสียเลย ราวกับว่าเขากำลังอดทนอดกลั้นกับอะไรบางอย่างคงจะกำลังรอให้เธอบอกเหตุผลที่ไปกินข้า
“แล้วคุณปล่อยให้ถูกขู่ไหมล่ะ?” เฉียวสือเนี่ยนบีบบังคับให้ตอบ“ตลกตายละ!” ฮั่วเยี่ยนฉือเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “พรุ่งนี้ฉันจะเซ็นข้อตกลงการหย่าให้! ถึงเวลาเธอก็รีบไปรับใบรับรองเสีย ฉันจะให้ความร่วมมือแต่โดยดี!”พูดจบ ฮั่วเยี่ยนฉือก็สะบัดเอกสารทิ้ง แล้วเปิดประตูเดินออกไปด้วยท่าทางป่าเถื่อนเฉียวสือเ
“ทำไมถึงเงียบไปล่ะ นึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่ฮั่วเยี่ยนฉือกระวนกระวายเรื่องผู้หญิงคนอื่นขึ้นมา ก็เลยเศร้างั้นเหรอ?”เห็นเฉียวสือเนี่ยนขมวดคิ้วราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ ฟู่เถียนเถียนเลยพูดกระแนะกระแหนเฉียวสือเนี่ยนค้อนใส่ฟู่เถียนเถียน “เธอว่า โรงแรมห้าดาวจะเกิดอุบัติเหตุด้านความปลอดภัยโดยไม่ม
“ทำไมถึงมีหนุ่มหล่ออยู่ด้วยล่ะ?” ฟู่เถียนเถียนถาม“หนุ่มหล่อ?”เฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นแล้วก็เปิดดูอินสตาแกรมบ้าง พอได้ขยายภาพดูก็ถึงได้รู้ ตอนเคเคถ่ายรูปให้เธอคงจะถ่ายติดโจวหยางอิงเข้าไปด้วยแน่“ตาเธอนี่มีแว่นขยายอยู่ด้วยหรือไง คนเขาโผล่หน้าเข้ามานิดเดียวก็ยังถูกเธอเห็นได้แบบนี้?”ฟู่เถียนเถียนเ
“ห้องทำงานฮั่วกรุ๊ป”พูดจบ ฮั่วเยี่ยนฉือก็วางสายไปพอเฉียวสือเนี่ยนเดินไปถึงโต๊ะรับประทานอาหาร ป้าหวังก็ไม่ได้อยู่ในห้องโถงแล้ว คงไม่ได้ยินคำพูดของเธอเข้าหรอกนะแม้ว่า ครั้งก่อนที่คุณย่ารู้ข่าวเรื่องหย่า แม้จะไม่ได้มาจากป้าหวังเอาความลับไปบอกก็เถอะ แต่เพื่อความปลอดภัย เธอยังไม่บอกให้ใครรู้ก่อนดีกว่า
สัมผัสเย็น ๆ แผ่กระจายทั่วริมฝีปาก พร้อมกับกลิ่นครีมโกนหนวดจาง ๆเฉียวสือเนี่ยนตกอกตกใจ รีบถอยหลังทันทีบนใบหน้าหล่อเหลาของฮั่วเยี่ยนฉือก็มีรอยริมฝีปากเพิ่มขึ้นมาหนึ่งรอย“เนี่ยนเนี่ยน นี่แกจะทำอะไรกันแน่ แสดงความรักในที่สาธารณะหรือไง?” ถานซูหงเอ่ยขึ้นมาอีกครั้งแสดงความรักกับผีน่ะสิใครจะไปรู้ล่ะ ว
ทันทีที่เดินออกมาข้างนอก คุณป้าก็ตำหนิเฉียวสือเนี่ยนทันทีเพราะเฉียวสือเนี่ยนอารมณ์ดี เลยไม่ต่อปากต่อคำกับคุณป้า ทั้งยังปลอบคุณลุงอีก “คุณลุง ไม่ต้องโมโหไปหรอกค่ะ พวกเราไม่ต้องพึ่งฮั่วเยี่ยนฉือก็เจรจาธุรกิจสำเร็จได้ แบบนี้ไม่มั่นคงกว่าเหรอคะ?”“อย่าเอาลูกไม้ที่ใช้กับตาแกมาใช้กับฉัน ไม่มีประโยชน์หรอก
“เยี่ยนฉือ นี่เธอยอมหย่าเหรอ?” เฉียวกั๋วเซิ่งถามฮั่วเยี่ยนฉือนั่งลงบนโซฟา ใบหน้าหล่อเหลาไม่ปรากฏความรู้สึกอะไรมากมายนัก “ผมไม่ใช่คนที่ชอบบังคับฝืนใจใครหรอกนะครับ ในเมื่อเธอรีบร้อนอยากจะหลุดพ้นจากฐานะคุณผู้หญิงฮั่วขนาดนั้น แน่นอนว่าผมก็ไม่ห้ามอยู่แล้ว”“ไม่ได้ จะหย่ากันไม่ได้!”ไม่รู้ว่าคำพูดไหนไปกร
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั