พวกเธอสองคนนั่งดื่มไวน์ขาวอยู่ที่มุมหนึ่งในห้องโถง โถงจัดเลี้ยงที่เมื่อครู่นี้มีผู้คนเดินขวักไขว่และคึกคักเป็นที่สุด มาตอนนี้หลงเหลือไว้เพียงแค่พนักงานที่เข้ามาจัดการเรื่องอุบัติเหตุไม่กี่คนมันยิ่งขับให้ตัวเธอดูเหงาหงอยและว้าเหว่ไม่รู้ว่านั่งดื่มกันอยู่นานเท่าไร เห็นท่าทางน้ำตารื้นใกล้จะร้องไห้อยู
ฮั่วเยี่ยนฉือชะงักฝีเท้า หันไปมองโจวเทียนเฉิงโจวเทียนเฉิงส่งโทรศัพท์ให้ฮั่วเยี่ยนฉือ “คุณผู้หญิงติดอันดับการค้นหายอดนิยมครับ”ฮั่วเยี่ยนฉือรับโทรศัพท์ไปดู บนรายการอันดับการค้นหายอดนิยม นอกจากจะมีเรื่องอุบัติเหตุที่งานเลี้ยงของฮั่ว กรุ๊ปแล้ว หัวข้อที่ได้รับความนิยมสูงสุดก็คือข่าว [คุณผู้หญิงฮั่วดื่ม
ไม่ว่าจะเป็นเส้นเวลา มุมกล้อง รวมทั้งจังหวะที่ชาวเน็ตสังเกตเห็นขวดเหล้า แถมยังมีประโยคขับเคลื่อนพลังหญิงประโยคนั้นของหมิงเหมาอีก มันจะประจวบเหมาะเกินไปแล้วถ้าบอกว่าเรื่องนี้เป็นแค่เรื่องบังเอิญ อย่างนั้นก็ไม่มีอะไรพิศวงไปกว่าความพอเหมาะพอเจาะนี้แล้ว......ยามที่ฮั่วเยี่ยนฉือเดินมาถึงห้องนอน เฉียวส
ฮั่วเยี่ยนฉือหน้าคล้ำทันที “เธอนี่ตะกละไม่เบา จะหาหนุ่มๆ สักแปดคนสิบคนสินะ!”ทว่าเฉียวสือเนี่ยนกลับฟังไม่เข้าหูเลยสักนิดว่าเขากำลังพูดอะไร เธอกอดหมอนไว้พลางส่งเสียงร้องไห้ “ฮือ ๆ” ออกมา“ลืมไป ฉันใช้เงินไม่ได้หรอก คนอย่างฮั่วเยี่ยนฉือน่ะขี้เหนียวจะตาย ขนาดเงินห้าร้อยล้านยังไม่ยอมให้ฉันเลย...”“...”
ฮั่วเยี่ยนฉือเงยหน้าขึ้น หัวคิ้วขมวดแน่นยิ่งขึ้นกว่าเดิม “จะหาเรื่องทะเลาะกันตั้งแต่เช้า ๆ แบบนี้เลยหรือไง?”เฉียวสือเนี่ยนลงจากเตียงโดยไม่สนใจเขา “นับตั้งแต่วันนี้ไป ไม่ต้องมานอนในห้องนี้ ฉันไม่สนใจจะทำตัวเป็นคู่สามีภรรยาปกติอะไรนั่นหรอกนะ”“เธอคิดว่าฉันอยากนอนที่นี่มากนักเหรอ?”ฮั่วเยี่ยนฉือเองก็ผ
เธอเสียเปรียบเรื่องอะไร?วินาทีถัดมา เฉียวสือเนี่ยนก็เดาได้จากคำพูดและท่าทางขอป้าหวัง!น่าจะเป็นเพราะเมื่อคืนนี้ เธอทั้งร้องไห้ทั้งโวยวายแบบนั้น ป้าหวังก็เลยเข้าใจอะไรผิดไปสินะ“ป้าหวัง พวกเราไม่ได้มีอะไรกันนะคะ” เฉียวสือเนี่ยนกล่าวปฏิเสธทั้งที่หน้าแดง ๆ “เมื่อคืนหนูดื่มจนเมา เลยอาจจะทะเลาะกันนิดหน่
เฉียวสือเนี่ยนเดินไปนั่งลงข้าง ๆ ถูหย่าลี่ จากนั้นถูหย่าลี่เลยพูดชี้แจ้ง “ประธานโม่ก็เพิ่งมาถึงไม่นาน ฉันคิดว่าถึงยังไงเธอก็กำลังเดินทางมานี่ เลยไม่ได้บอกเธอ”ไม่มีเรื่องเดือดร้อน ก็คงจะไม่มาหานั่นแหละเฉียวสือเนี่ยนมองโม่ซิวหย่วน “คุณโม่ ไม่ทราบว่าคุณมีอะไรให้ช่วยเหรอคะ?”โม่ซิวหย่วนนั่งไขว่ห้างสบา
ได้ฟังแบบนั้นแล้ว น้ำตาในดวงตาของป๋ายอีอียิ่งเอ่อล้น“เยี่ยนฉือ ฉันรู้ว่าคุณยังไม่พอใจเรื่องที่รูปที่ฉันถ่ายไว้เมื่อคราวก่อน”“ฉันยอมรับ ว่าตอนนั้นที่ฉันถ่ายภาพไว้น่ะ แฝงเจตนาส่วนตัวจริง ๆ เพราะคุณเคยบอกว่าก๋วยเตี๋ยวที่ฉันทำน่ะ อร่อยกว่าก๋วยเตี๋ยวที่ไหน ๆ ฉันก็เลยอยากถ่ายมันเอาไว้แล้วอวดลงอินสตาแกรม
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั