ชาวบ้านโอดครวญร้องขอบางคนถึงกับโขกหัวให้กับไป๋ซู่ฮวา นางไม่อยากทะเลาะกับชาวบ้าน นางต้องการเรียกชื่อเสียงคืน อีกอย่างที่นางต้องการจัดการคือจางชุนกับบ้านใหญ่ต่างหาก
"ซู่ฮวาๆพวกข้าไม่รู้จริงๆ เจ้าอภัยพวกข้าเถอะนะ ต่อไปพวกข้าจะไม่หูเบาอีกแล้ว"
"ซู่ฮวา ขอร้องใต้เท้าให้พวกเราด้วยเถอะนะ"
ไปซู่ฮวาหันไปมองลู่เปียว เขาลั่นวาจาออกมาแล้วหากนางให้เขาไม่เอาความจะเสียหน้าเพียงใดกันจึงเอ่ยเบาๆ
"ใต้เท้า ไป๋ซิ่วลูกพี่ลูกน้องข้าปาข้าหัวแตก จางขุนใส่ร้ายวางยาข้า บ้านใหญ่ไล่ข้าออกมาสมบัติก็ยึดไปหมดอีกทั้งขู่จะขายน้องชายของข้า รบกวนท่านช่วยจัดการให้ข้าด้วยเจ้าค่ะ คนอื่นๆใกล้เก็บภาษีแล้ว ต้องมีแรงงานเก็บเกี่ยวเรื่องโบยท่านพิจารณาอีกทีเถอะเจ้าค่ะ ข้าไม่อยากให้เรื่องส่วนตัวทำละลาย ผลประโยชน์ของทางการ มิสู้ให้เว้นโทษโบยพวกเขาเป็นเพิ่มภาษีดีกว่าเจ้าค่ะ เงินเข้าคลังยังช่วยปากท้องผู้คนได้บ้าง ที่เหลือแล้วแต่ท่านจะเมตตาพวกเขา ส่วนท่านปู่ไป๋จ้านนั้นเป็นคนเดียวที่ไม่ทำร้ายและให้ร้ายข้าเจ้าค่ะ"
ลู่เปียวทึ่งมากตั้งแต่ที่นางสามารถรู้ฐานะเขา ป้ายห้อยเอวนี้ขนาดผู้ว่าบางคนยังมองไม่ออกแต่นางมองออก อีกทั้งไม่ให้เข้าเสียหน้า แล้วยังมีบุญคุณกับชาวบ้านพวกนี้อีก ถ้านางเป็นบุรุษคงดีไม่น้อยที่จะคบหาเป็นสหาย
"เช่นนั้นก็ให้พวกเขาชดเชยเจ้าคนละหนึ่งตำลึง เก็บภาษีเพิ่มสามเท่า กุนซือหวังให้พวกเขาลงชื่อ จางชุนถอดถอนจากการเป็นซิ่วไฉ ปรับยี่สิบตำลึง บ้านสกุลไป๋พวกเจ้าตามนางไปนำที่ดินกลับคืนมา หากพวกเขาต้องการให้ทำสัญญาเช่า แล้วบุรุษผู้นั้นเจ้า.."ลู่เปียวลังเลที่จะเอ่ย
"ข้ากับเขาไม่ว่าอย่างไรก็กลายเป็นคนๆเดียวกับไปแล้วอีกอย่างตอนนี้เขาบาดเจ็บต้องการคนดูแล ใต้เท้าได้โปรดเขียนสัญญาแยกบ้านให้น้องชายข้าไป๋ซูหยางด้วยเจ้าค่ะ หากวันใดท่านกลับเมืองหลวงข้าเกรงว่าน้องชายอาจถูกขายไปเป็นบ่าวเศรษฐีเสียแล้ว"
ไป๋ซู่ฮวาโขกศรีษะลู่เปียว นางเป็นสตรีฉลาดฟ้องร้องครั้งเดียวทั้งสร้างบุญคุณจัดการทั้งความแค้น จางชุนจำต้องคืนเงินบวกกับดอกเบี้ยเป็นเงินสามสิบตำลึงอีกทั้งค่ายาจากการทุบตีนางทั้งหมดต้องจ่ายถึงสี่สิบตำลึง เขาไม่มีเงินจำต้องยกที่ดินให้นางหกหมู่และจ่ายเงินให้นางห้าตำลึงไป๋ซู่ฮวาเลือกผืนที่ติดกับที่ดินของนาง ที่ผืนนั้นอยู่ติดกับบ้านเจ้าโง่หยางหนิงเฉิงเดินสิบเก้าก็ถึง ชาวบ้านบางคนไม่มีเงินไป๋ซู่วาให้พวกเขาชดใช้เป็นข้าวหรือธัญพืชที่กำลังจะเก็บเกี่ยว มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรไม่สามารถบิดพลิ้วได้ ชาวบ้านน้ำตาเป็นสายเลือดต้องจ่ายให้นางอีกทั้งต้องเสียภาษีเพิ่ม พวกเขาไม่น่าเชื่อแม่ลูกสกุลจางเลย ไปซู่ฮวาเดินออกจากที่ว่าการมาก็เจอสตรีคนนึง นางจึงกระซิบเบาๆ
"คุณหนูซุนหากเจ้ารังเกียจหยางหนิงเฉิงควรพูดกันดีๆ มิใช่ร่วมมือกับจางชุนทำลายเขาเพียงเพราะเขาขาเป๋ เจ้าคิดจริงๆหรือว่ามีเพียงสถานศึกษาของบิดาเจ้าเท่านั้นหรือที่สามารถปั้นขุนนางได้"
ซุนเย่วเล่อบิดผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น หันกลับมาก็เจอกับสายตาฆ่าคนได้ของบิดา
"งามหน้านัก ไร้ยางอาย"ซุนยวี่ไม่มองหน้าบุตรสาวสักนิดนางไม่สมกับเป็นบุตรนักปราชญ์เอาเสียเลย
เดิมทีจางชุนติดหนี้ไป๋ซู่ฮวาเพียงแค่สิบห้าตำลึงแต่ใครใช้ให้เจ้าอวดดีขู่จะฟ้องลู่เปียวกันเล่า เขาคือหนึ่งในคุณชายแห่งสี่บุรุษงามของแคว้นฉินเชียวนะ บิดาเป็นถึงเสนาบดี เขาจึงจงใจปรับจางชุนทั้งดอกเบี้ยเงินกู้ทั้งปรับข้อหาใส่ร้ายผู้อื่นอีกทั้งทำร้ายทุบตีไป๋ซู่ฮวาทั้งหมดรวมเป็นเงินห้าสิบตำลึง
จางชุนแทบกระอักเลือดเขาเพิ่งได้รับรางวัลมายี่สิบตำลึง แต่ต้องจ่ายนางสารเลวนี่ถึงห้าสิบตำลึง มารดาเขามาถึงก็อยากจะฆ่าไป๋ซู่ฮวาแต่ติดที่มีคนของทางการจ้องมองอยู่ สุดท้ายเขาอ้างว่าไม่มีเงินมีเพียงห้าตำลึง
"ใต้เท้า ข้าเป็นเพียงบัณฑิตยากจน เงินที่ได้รับมาก็ใช้หนี้ไปหมดแล้วเหลือเพียงห้าตำลึงขอรับ ไม่มีเงินใช้หนี้นางหรอก"
"เหอะ นางสารเลวนี่คบชู้สู่ชาย ข้าไม่ทวงสินสอดคืนก็ดีเท่าไหร่แล้ว ยังมีหน้าฟ้องร้องบุตรชายข้า ไป๋ซู่ฮวานังแพศยาหน้าด้าน"
เหวินซื่อด่าไป๋ซู่ฮวาแทนบุตรชาย ชาวบ้านที่ตอนนี้รู้แล้วว่าตนเองถูกสองแม่ลูกหลอกใช้ก็ไม่เข้าข้างพวกเขาอีก จากที่ต้องจ่ายภาษีแค่สองตำลึงกลายเป็นต้องเพิ่มข้าวและเสบียงที่เก็บเกี่ยวได้ให้ทางการเพิ่มอีก เพราะเชื้อคำโกหกของสองแม่ลูกนี้แท้ๆ
" เจ้ามีแค่ห้าตำลึง ที่เหลือยอมถูกโบยหรือว่าจะติดคุกดีละ ติดคุกหนึ่งเดือนเท่ากับเดือนละหนึ่งตำลึง เหลืออีกสี่สิบห้าตำลึงก็ติดแค่สามปีกับอีกเก้าเดือนเท่านั้นว่าอย่างไร"
ลู่เปียวถามคนด้านล่าง จางชุนมองไป๋ซู่ฮวาอย่างอาฆาต ก่อนจะปรับสีหน้าเปลี่ยนเป็นขอร้อง
"เสี่ยวฮวา เอ่อข้าผิดไปแล้วเจ้าอย่าเอาความได้หรือไม่ ข้าเองก็ถูกถอดจากซิ่วไฉแล้ว ถือว่าเห็นแก่ความสัมพันธ์เก่าๆ เจ้ามีคนอื่นข้ายังไม่โกรธเลย เห็นแก่ความรักความสัมพันธ์ก่อนหน้าอภัยข้าสักครั้งเถอะ" จางชุนพูดอ้อนวอน
"นังตัวขาดทุน เจ้าต้องการที่ดินคืนนั้นมันที่ดินสกุลไป๋ เจ้ามีสามีแล้วจะมาเอาของที่บ้านได้อย่างไร"
หูซื่อป้าสะใภ้ใหญ่ชี้หน้านาง ไป๋ซู่ฮวาเงยหน้ามองไปที่คนด้านบน ลู่เปียวเองก็อยากรู้ว่านางจะทำเช่นไรจึงรอดู
"ใต้เท้า ที่ดินสิบหมู่โฉนดเป็นชื่อข้า ส่วนจางชุนไม่มีเงินใช้หนี้ก็ไม่เป็นไรเจ้าค่ะข้าไม่เอาเงินเขาก็ได้"
"เสี่ยวฮวาข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าต้องเห็นแก่ความรักของข้าขอบใจเจ้ามากนัก"
หึนังโง่ก็ยังเป็นนังโง่อยู่วันยังค่ำจางชุนเหยียดไป๋ซู่ฮวาในใจ แต่เขาได้ใจไม่นานไป๋ซู่ฮวาก็เอ่ยขึ้น
"ใต้เท้าผู้ตรวจการ ที่ดินของจางชุนติดกับที่ดินของข้าเช่นนั้นให้เขาโอนโฉนดที่ดินแปลงนั้นมาใช้หนี้ให้ข้าเถอะเจ้าค่ะ ที่ดินแปลงนั้นมีหกหมู่ถ้านับราคาตลาดหมู่ละห้าตำลึงเขาให้ข้ามาห้าตำลึงบวกที่ดินสามสิบตำลึงเหลืออีกสิบห้าตำลึงเช่นนั้นผลผลิตในที่ดินเหล่านั้นก็นับรวมไปด้วยเลย ส่วนไป๋ซิ่วทำร้ายข้ายังคงต้องจ่ายห้าตำลึงหากนางไม่มีก็ให้ทำสัญญาเงินกู้แทนเถอะเจ้าค่ะ อีกอย่างที่ดินที่ป้าสะใภ้ใหญ่กล่าวอ้างนั้นเดิมเป็นของมารดาข้าไม่ใช่ของสกุลไป๋ รบกวนใต้เท้าช่วยออกโฉนดเป็นชื่อข้ารวมกันเลยเถอะเจ้าค่ะ ส่วนที่ว่าข้าเคยมีสัมพันธุกับเจ้านั้นหากยังพูดอีกข้าจะฟ้องร้องเจ้าเพิ่มอีกหนึ่งข้อหานะจางชุนนอกจากมาขอยืมเงินข้า เจ้ากับข้าแทบไม่เคยอยู่ด้วยกันสองคนเลยด้วยซ้ำ หากพูดถึงความสัมพันธ์ข้าว่าเจ้ากับพี่ไป๋ซิ่วยังดูเหมือนคู่หมั้นมากกว่าข้าเสียอีก"
ทันทีที่ไป๋ซู่ฮวาพูดจบเสียงฮือฮาก็ดังขึ้น กล่าวหาน้องสาวคบชู้แต่ตัวเองกลับเป็นชู้กับว่าที่น้องเขยเสียเอง ตรงหน้าศาลาว่าการมีร่างหนึ่งยืนฟังอยู่ เมื่อทุกอย่างถูกจัดการเรียบร้อบไป๋ซู่ฮวาได้ที่ดินคืนแถมยังได้เพิ่มมาอีกหกหมู่รวมถึงได้รับเงินจากชาวบ้านที่พากันมาดูเรื่องสนุกอีกสามสิบตำลึงวันนี้นางสามารถหาเงินได้สามสิบห้าตำลึง หัวแตกแค่นี้นับว่าคุ้มซุนเย่วเล่อเกลียดผู้หญิงคนนี้ นางรู้ได้อย่างไรว่าจางชุนกับนางร่วมมือกัน หากว่าหยางหนิงเฉิงไม่ขาเป๋นางจะทำเช่นนี้หรือ บุรุษรูปงามเรียนดีมีความรู้ใครเล่าไม่อยากได้ แต่อย่างไรเล่ากฎหมายมีไว้หากพิการไม่สามารถรับใช้ทางการได้ เรื่องของวันนี้ไป๋ซู่ฮวารู้ดีว่าหมู่บ้านไป๋ฮวาต้องมีปัญหาใหญ่แน่ๆใครใช้ให้หาเรื่องเจ๊กันล่ะสมควรแล้ว"แม่นางไป๋ เจ้ายังต้องการสิ่งใดอีกหรือไม่"ลู่เปียวรู้สึกถูกชะตากับสตรีตรงหน้าจึงอยากช่วยนางให้ถึงที่สุด"ใต้เท้า ข้าอยากรบกวนหมอเทวดาท่านนี้ไปตรวจอาการสามีตกกระไดพลอยโจนของข้าสักหน่อย ข้ามีเงินเลยอยากซื้ออาหารบำรุงพวกเขาแต่เกรงว่ายังไม่ทันถึงบ้านก็ถูกปล้นเสียก่อน ขอคนของท่านไปส่งได้ไหมเจ้าคะ ข้าจะแวะหาท่านปู่ผู้นำเพื่อยื่นหนังสือแ
หยุนซานตรวจอาการให้เขาก่อนจะเอ่ยเสียงเบา"ท่านแม่ทัพเหตุใดท่านถึงพลาดพลั้งได้ ฝีมือเช่นท่านไม่น่าถูกคนวางยานะขอรับ""ตอนไปหาข่าวถูกยิงมาแผลคงอักเสบมีไข้น่ะ"" คุณหนูซุนคนนั้นเป็นคนวางยาท่านหรือขอรับ ตอนนี้คุณชายลู่มาตงหนิง จะให้บอกเขาว่าท่านอยู่ที่นี่ไหมขอรับ"หยางหนิงเฉิงเข้าเรียนที่สำนักศึกษาเพื่อหาข่าวของอีกฝ่ายแต่ตอนนี้เขาต้องการถอนตัวออกมาจึงแสร้งตกเขาแกล้งทำขาเป๋มีเพียงทำเช่นนี้ถึงไม่สามารถเข้าเรียนต่อได้ทำให้สตรีที่ทำท่าทางว่ารักเขานักหนาไม่อยากให้ใครจับคู่นางกับคนพิการจึงร่วมมือกับจางชุน เดิมทีก็สงสารเด็กไป๋ซู่ฮวาคนนี้อยู่หรอกแต่ตอนนี้อยากหักคอมากกว่า"อย่าเลย เด็กสองคนนี้ยังไม่ปลอดภัยตามหาฉินกุ้ยเฟยให้เจอก่อน ซุนเย่วเล่อคนนั้นจิตใจชั่วร้ายจริงๆแอบผสมยานอนหลับในห่อยาข้าเสียดายบิดาเป็นคนดีนักเก็บนางไว้ก่อน""ท่านแม่ทัพท่านซ่อนตัวมานานกว่าสามปีแล้ว ฝ่าบาทอยากให้พาพวกเขาเข้าวังตำแหน่งรัชทายาทรอไม่ได้นะขอรับ""คนของฮองเฮาร้ายกาจ ข้าเกรงว่าส่งพวกเขาถึงวังไม่เท่าไหร่คงเหลือแต่กระดูก พวกเขาเพิ่งจะห้าขวบยังไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมเหล่านั้นหรอก""เอ่อ น้องชายหนิงเฉิงอาการของเจ้าไม่ร้ายแรงเท
ไป๋ซู่ฮวาต้มน้ำร้อนไว้ ตนเองไปจัดการนำข้าวของบรรจุลงไห ท่านปู่หลิวเป็นช่างปั้นในหมู่บ้าน อยู่กันสองคนปู่หลานบุตรชายไปรับจ้างข้างนอกส่งเงินมาให้เดือนละห้าร้อยอีแปะ ปู่หลิวคนนี้ขยันนักปั้นหม้อปั้นปั้นไหได้สวยงาม แต่ขายไม่ค่อยดีแต่ก็ไม่เคยหยุดทำ งานเกรงว่าหากอยู่เฉยๆจะไม่สบายตัวไป๋ซู่ฮวาซื้อไหใบใหญ่มาสิบใบไหขนาดกลางสิบใบขนาดเล็กสอบใบ ไหใหญ่ใบละ30อีแปะไหขนาดกลางยี่สิบห้าอีแปะขนาดเล็กสิยอีแปะ"เจ้าซื้อเยอะเพียงนี้เชียวหรือแม่หนูเสี่ยวฮวา"ปู่หลิวเห็นนางขนขึ้นเกวียนก็เอ่ยถาม เขาไม่ต้องการให้นางซื้อเพราะสงสารเขา"ท่านปู่หลิว ข้าซื้อไปใส่ข้าวสารกับธัญพืชเจ้าค่ะ ท่านปู่ท่านพอจะทราบไหมเจ้าคะว่าซื้อกระสอบได้ที่ใด พอดีอีกสามวันข้าจะเก็บเกี่ยวแปลงนาจำต้องหามาใส่ผลผลิตเจ้าค่ะ"ปู่หลิวให้หลิวกุ้ยอันหลานชายวิ่งไปหาแม่ม่ายไป๋ท้ายหมู่บ้านนางรับจ้างเย็บกระสอบ สักพักก็วิ่งกลับมาบอก ไป๋ซู่ฮวาบอกลาปู่หลิวกลับบ้านตอนนี้นางกำลังเทข้าวสาร แป้งสาลี ถั่วเหลืองลงในไห เสียงด่ามาแต่ไกลๆ"อีสารเลวไป๋ซู่ฮวาออกมานะ ซื้อของมามากมายแต่แอบเอาไว้เองยังเห็นหัวปู่กับย่าเช่นข้าหรือไม่"แม่เฒ่าไป๋ตะโกนหน้าบ้านด่าไป๋ซู่ฮวาด้
ไป๋ซิ่วพุ่งตัวจะไปทุบตีไป๋ซู่ฮวา หยางหนิงเฉิงพุ่งออกมาก่อนจะสะบัดมือจนไปซิ่วกระเด็นไปไกลจากนั้นก็แกล้งหกล้มนอนอยู่บนพื้น อาหลี่ที่เห็นแม่ทัพที่ตนเองเสแสร้งทำท่าทางอ่อนแอก็กลอกตามองบน นายท่านนี่นะท่านข่าวเสแสร้งเก่งเสียจริงๆ"เมียจ๋า คนดีของข้าเจ้าเจ็บตรงไหนหรือไม่ เมียจ๋าขาๆของข้าอืมเจ็บๆจัง"ตาทึ่มนี่โง่หรือไงนะ พุ่งออกมาทำไมนางไม่กลัวคนเหล่านี้เสียหน่อย ถ้าไม่ติดว่าผู้นำหมู่บ้านอยู่ตรงนี้เจ๊ตีให้คลานเหมือนหมาไปแล้วไม่มานั่งรังสรรค์คำด่าหรอก ไป๋ซู่ฮวาพยุงเขาก่อนจะใช้แขนเสื้อเช็ดเหงื่อที่ไม่มีอยู่จริงบนใบหน้าให้หยางหนิงเฉิง หอมหน้าผากเขาเบาๆไม่สนใจสายตาผู้ใด"สามี ท่านเจ็บหรือไม่วันหลังอย่าทำเช่นนี้อีกหากท่านเจ็บข้าย่อมปวดใจ ไปเข้าบ้านเถอะ ข้าต้มน้ำไว้เดี๋ยวข้าอาบน้ำให้ท่านนะจะได้สบายตัว เวลานอนด้วยข้าชอบคนสะอาดกลิ่นตัวหอมๆ ไปๆเข้าบ้านกัน ท่านปู่ข้าขอตัวนะเจ้าคะ ส่วนคนอื่นกลับดีๆล่ะไม่ส่งนะเจ้าคะ"ชาวบ้านยืนงงหยางหนิงเฉิงคนนี้หล่อเหลานัก เสียดายที่ขาเป๋ตอนลื่นลงเขา ดูไป๋ซู่ฮวาประคองเขาอย่างกับหยกล้ำค่า ช่างเป็นผัวเมียที่รักกันจริงๆ ขนาดบาดเจ็บยังออกมาช่วยเมียตนเอง"นางสารเลวมานี่ หากเ
เพิ่งจะมาถึงได้สองวันเอง ที่นี่แคว้นฉินก่อนประวัติศาสตร์กี่ปีไม่รู้หรืออาจไม่มีก็ได้มั้ง นางมาอยู่ที่หมู่บ้านไป๋ฮวาทางทิศตะวันตกของแคว้น ห่างจากเมืองหลวงหนึ่งพันแปดร้อยลี้ นับว่าไกลไม่น้อยชาวบ้านมีทั้งดีและไม่ดี หมู่บ้านไป๋ฮวามีกว่าสี่ร้อยชีวิต เมื่อวานใกล้ฤดูเก็บเกี่ยว คนที่ไปดูเรื่องสนุกก็เป็นพวกแม่บ้านว่างงาน เหมือนจะได้ยินเสียงบรรดาสะใภ้ถูกแม่สามีทุบตีออกมาจากหลายๆบ้านที่เสียเงินให้นางและยังต้องเสียเสบียงอีกไป๋ซู่ฮวาเป็นหลานคนที่สามของสกุลไป๋ คนโตคือไป๋ซีฮวนบุตรชายลุงใหญ่อายุสิบแปดปีตอนนี้ทำงานเป็นนักบัญชีที่ตัวอำเภอ แต่งงานกับบุตรสาวร้านอาหารเล็กๆแห่งหนึ่งเมื่อปีกลาย เขามักไม่อยากกลับบ้านเพราะรังเกียจที่บ้านแต่เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยวจะรีบมาขนเสบียงทันที เหอะปีนี้อย่าหวังว่าจะได้ไอ้หน้ายาวอีกคนคือไป๋ซิ่วอายุสิบเจ็ดหน้าตานับว่าดีเสียแต่นิสัยไม่ค่อยดี ไปซู่ฮว่าเป็นหลานคนที่สามอายุสิบหกและไป๋ซูหยางอายุเก้าขวบเป็นหลานคนที่สี่ทั้งคู่เป็นบุตรของไป๋จิงถิงกับโจวซิ่วเหมยบุตรชายคนรองที่ไปทำการค้าแล้วถูกโจรปล้นจากนั้นก็ถูกฆ่าตายเมื่อสองปีก่อนอาสามไป๋เจินอายุยี่สิบเป็นคนใจดีมักมีขนมมาฝาก แ
ไป๋ซู่ฮวาลูยหัวน้องชายก่อนจะผสมน้ำอุ่นเตรียมไปเช็ดตัวให้หยางหนิงเฉิง เมื่อคืนเขามีไข้ไม่รู้ว่าตอนนี้ดีขึ้นหรือยัง ไป๋ซู่ฮวาไม่รู้เลยว่าคนบนเตียงโมโหนางจะเป็นจะตายอยู่แล้ว ไอ้เด็กบ้านั่นเก้าขวบแล้วนะจะร้องไห้ก็ร้องไปสิ ทำไมต้องกอดแน่นเชียวยังซุกหน้ากับอกพี่สาวเจ้าอีกที่ตรงนั้นของข้านะไอ้น้องเมีย อาหลี่ที่เพิ่งมารายงานข่าวเห็นหน้าที่ดำเป็นก้นหม้อของเขาก็ถามไถ่"ท่านแม่ทัพขอรับ ท่านเป็นอะไรหรือเปล่าอาหลี่ทำอะไรผิดไปหรือไม่ขอรับ""ไม่เกี่ยวกับเจ้าหรอกสตรีบ้านนั่นฟุ้งซ่านปีนเตียงข้าเสร็จแล้ววันๆคิดแต่จะถีบหัวส่ง"หยางหนิงเฉิงโมโหจะตายอยู่แล้วคำก็จะไปสองคำก็จะไปหึ"เอ่อ ว่ากันว่าหากสตรีชอบคิดฟุ้งซ่านก็ต้องทำให้นางไม่ว่างขอรับ""ทำให้พวกนางไม่ว่าง ทำอย่างไรใช้งานพวกนางหรือ""เอ่อ ว่ากันว่าหากสตรีตั้งครรภ์มีบุตรพวกนางจะไม่มีเวลาว่างให้ไปคิดเรื่องอื่นขอรับท่านแม่ทัพข้าน้อยได้ยินมาเช่นนี้"เสียงไป๋ซู่ฮวาเดินเจ้ามาอาหลี่จึงรีบไป หนางหนิงเฉิงยังคงแกล้งหลับอยู่ ไป๋ซู่ฮวาถูกเขาบีบข้อมือเมื่อคืนนี้ยังเจ็บอยู่ ตาที่มนี่สัญชาตญาณระแวงภัยดูไม่เหมือนบัณฑิตแก่เรียนสักนิด นางกลัวเขาจะเล่นงานนางอีกจึงเอ่ยปา
ไป๋ซู่ฮวาเดือนออกมาก็เห็นน้องขายกำลังผสมน้ำอุ่นให้เด็กทั่งสองล้างหน้าอยู่ ตอนกลางคืนอากาศจะเย็น ทำไมเลือกบ้านติดป่าติดเขาแบบนี้นะ ยังดีที่ล้อมรั้วอิฐแข็งแรง ไม่งั้นหากสัตว์ป่าหลุดลงมาเจ้ากับน้องไม่กลายเป็นอาหารจานโปรดหรือ"กินข้าวแล้วพี่จะไปบ้านท่านน้าฮวนสักหน่อย มะรืนจะเก็บเกี่ยวแล้วพี่จะไปหากระสอบมาใส่เสบียง น้องเล็กเจ้าอยู่บ้านดูแลหนิงจินกับหนิงหรงนะ ห้องใหญ่ที่ติดกับห้องที่เจ้านอนช่วยกันเก็บกวาดหน่อย พี่จะใช้เก็บเสบียงน่ะ"เด็กๆรับปากก่อนจะกินโจ๊กกับหมั่นโถว ไป๋ซู่ฮวาตักโจ๊กใส่ชามจากนั่นก็ใส่ตระกร้าคลุมผ้าเดินไปทางบ้านใหญ่"อาเล็กๆ ข้าเองเจ้าสามท่านอยู่หรือไม่""อยู่ๆ เสี่ยวฮวาหรือเจ้ามาหาอาทำไมกันเดี๋ยวติดโรคจากอาหรอก" ไป๋ลู่เอ่ยแก่หลานสาว นางมีตุ่มขึ้นตามใบหน้า บางครั้งก็เจ็บมาก ไป๋ซู่ฮวาเห็นใบหน้าอาสาวก็ไม่ได้ตกใจ นางเป็นสิวอักเสบสินะ ต้องทำให้หน้าตาสะอาดเกลี้ยงเกลา ไม่สะสมฝุ่นละออง"อาเล็ก ท่านไม่ได้ป่วยหรอกมันเป็นอาการของคนที่ผิวแพ้ง่ายนะ ท่านอย่ากินพวกผักดองมากล่ะ ล้างหน้าบ่อยๆเดี๋ยวก็ดีขึ้น น้ำซาวข้าวเก็บเอาไว้รินแต่ที่ใสๆเอาไว้ล้างหน้าอดทนหน่อยไม่นานก็ดีขึ้น แต่มีเรื่องหนึ
ไป๋ซูหยางกับกำลังช่วยกันกับเด็กทั้งสองกวาดพื้นห้อง โต๊ะเก้าอี้หนักเกินไปพี่สาวเขาบอกว่าจะกลับมาทำเอง ไป๋ซู่ฮวาเปิดประตูห้องที่หยางหนิงเฉิงนอนหลับอยู่ ก่อนจะให้คนมาใหม่รอด้านนอกนางปลุกเขาค่อยๆเขย่า"นี่ตาทึ่ม ตื่นเถอะมีคนมาหาท่านแหนะ ตื่นๆ" หยางหนิงเฉิงลืมตาก่อนจะใช้แขนรัดแผ่นหลังนางแล้วจับพลิกไว้ใต้ร่าง" คำก็ตาทึ่มสองคำก็ตาทึ่ม เรียกใหม่ไม่งั้นข้าจะลงโทษเจ้านะ""นี่ข้าหนักนะ เดี๋ยวขาท่านก็อักเสบหรอกหายไข้แล้วหรือ ไม่เรียกตาทึ่มจะให้เรียกอะไรเล่า อื้อๆๆๆ"หยางหนิงเฉิงจูบนางเรียกร้องจนคนใต้ร่างทั้งทุบทั้งผลักไม่นานนางก็อ่อนลงยอมรับจุมพิตแสนหวานนั้น ก่อนหยางหนิงเฉิงจะปล่อยอย่างเสียดาย"ต่อไปให้เรียกว่าท่านพี่ หรือไม่ก็สามีเข้าใจไหมไม่งั้นข้าจะทำโทษเจ้าอีก ขาข้าเจ็บแต่อย่างอื่นข้าแข็งแรงนะเด็กดื้อ""ได้ๆ ไม่เรียกตาทึ่มแล้วปล่อยก่อนข้าหนักอื้อๆ"เขาจูบนางอีกครั้งๆนี้เรียกร้องกว่าเดิมมือหนาเริ่มซุกซนจนไป๋ซู่ฮวาต้องยึดเอาไว้ ก่อนจะออกแรงผลักเขาออก"ข้าก็ไม่เรียกตาทึ่มแล้วไงท่านยังรังแกข้าอีก ไม่รักษาสัญญานี่" หยางหนิงเฉิงพลิกกายลงรั้งนางมากอดก่อนจะเอ่ย"ข้าไม่ได้ลงโทษ ข้าให้รางวัลเด็กดีต่างห
หยางหนิงเฉิงจัดการกองทัพเข้าที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พวกเขามาอยู่ที่นี่ได้ห้าปีแล้ว ไป๋ซู่ฮวาคลอดบุตรชายให้เขาอีกสองคนบุตรสาวอีกหนึ่งคนตอนนี้ผลผลิตจากแดนใต้ราคาดีมาก โดยเฉพาะกุ้งแห้งกับผงปรุงรสที่ทำจากปลาและกุ้งตากแห้งนำมาบดผสมกับเครื่องเทศเป็นสินค้าขายดีจริงๆ ส่งเข้าเมืองหลวงและเหลาอาหารต่างๆ ชาวประมงที่ตอนนี้ลืมตาอ้าปากได้ไป๋ซู่ฮวาตามหาต้นปาล์มจนเจอ ในที่สุดก็ปลุกต้นปาล์มได้กว่าสองพันต้น ตามพื้นที่ต่างๆ ต้นไหนโตแล้วให้ผลผลิตแล้วนางก็ปล่อยไว้ตอนนี้ผลผลิตของจวนอ๋องก็คืออาหารทะเลแบบแห้ง ผงปรุงรส น้ำมันปาล์ม นางเสาะหาพื้อที่น้ำเค็มจนเจอ แคว้นอู่ไม่ขาดแคลนเกลือแล้ว เพราะพระชายาหนิงอ๋องรู้วิธีทำเกลือได้ไป๋ซู่ฮวากำลังคำนวณบัญชีอยู่ นางเพิ่งให้นมเจ้าตัวเล็กไป ตอนนี้หยางหยางได้แปดเดือนแล้ว สวามีไม่มีทีท่าจะหยุดทำลูกเลยจริงๆ เหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นเอาเสียเลย"คนงามของพี่ สมบัติไม่รู้กี่ร้อยล้านตำลึงทองนับไม่ไหว หากลูกน้อยอีกหน่อยใครจะรักษาเล่าทูนหัว""แล้วลูกไม่ออกเรือนแต่งงานหรือเพคะ พระองค์ถึงจะขยันทำอยู่คนเดียว อื้อ"หยางหนิงเฉิงจูบนางเรียกร้อง ปลดสายรัดเอวก่อนจะฝังใบหน้าหล่อเหลาลงเต้าอวบอิ่
จนมื้อค่ำเรียบร้อย ไป๋ซู่ฮวาที่ตอนนี้กำลังอยู่ในอ่างอาบน้ำ กำลังนั่งหลับตาผ่อนคลายนางเหนื่อยมาก จนกระทั่งน้ำกระเพื่อม นางจึงลืมตาขึ้นมองก็เห็นคนตัวโตลงมานั่งในอ่างกับนาง พร้อมเนื้อตัวล่อนจ่อน"ท่านอ๋อง ยิ่งนับวันยิ่งหน้าด้านหรือไม่เพคะ""สองเดือนแล้วเด็กดี ยังไม่ได้รักเจ้าเลยนะคืนนี้ไม่ยอมแล้ว มาพี่ช่วยอาบน้ำดีกว่าจะได้เสร็จไวๆ""อย่ามาเจ้าเล่ห์พระองค์ทรง อื้ออออ" หยางหนิงเฉิงไม่ฟังรั้วนางมาจูบดูดดื่ม กดท้ายทอยนางไว้ไม่ให้หนีเขา มือหนากอบกุมทรวงอกขยำรุนแรงเพราะอารมณ์คิดถึงก่อนจะดันแผ่นหลังนางขึ้นก้มลงมาดูดปลายถันสีหวานจนไป๋ซู่ฮวาที่ตอนแรกดุเขาเสียงเข้ม ตอนนี้กลับกลายเป็นครางเสียงหวานรัญจวน"อ๊าๆๆๆ ท่านอ๋องเมียเสียว อื้อดูดเบาๆสิเพคะ หัวนมจะหลุดติดปากแล้ว""ไม่ไหวแล้วคิดถึงเหลือเกินคนดี ฮวาเอ๋อร์ยืนขึ้นให้พี่หน่อย หันหลังมาโน้มตัวไปข้างหน้าเอามือเกาะขอบอ่างไว้"ไป๋ซู่ฮวาทำตามที่เขาบอก หยางหนิงเฉิงจับแก่นกายร้อนผ่าวถูไถกลีบบอบบางที่มีน้ำหวานใสๆหลั่งออกมาเคลือบจากนั้นก็กดลงไปในร่องสีชมพูสวย"อื้อ แน่นจังเด็กดี เสียวจังฮวาเอ๋อร์พี่รักเจ้าเหลือเกิน""อื้อ ท่านแม่ทัพทวนของท่านช่างใหญ่โตนัก
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ซ่งไทเฮากับสกุลกัวหาเด็กทั้งสามเลิกแล้วมคนไม่เจอ งานเลี้ยงเลิกแล้วเรียบร้อย ทุกคนต่างกลับไปเพื่อพักผ่อน วันพรุ่งนี้ต้องออกเดินทางไกล เมื่ออยู่ในห้อง หยางหนิงเฉิงที่นอนให้เมียรักหนุนแขนอยู่มืออีกข้างลูบไหล่มนเบาๆ ไปซู่ฮวาเอ่ยถามเขาเพราะอยากรู้ถึงดินแดนทางใต้"ท่านอ๋อง ดินแดนทางใต้ติดทะเลหรือเพคะ""อืม อยากไปดูหรือ น้องหญิงของพี่รู้จักทะเลด้วยหรือ ที่นี่อยู่ไกลที่นั่นตั้งสองพันลี้นะ""เอ่อ เคยได้ยินคนคุยกันนะเพคะ ว่าทะเลสวยมากแต่เวลามีพายุก็น่ากลับมากเช่นกัน หม่อมฉันอยากเห็นสักครั้งเพคะ""ได้ พี่จะพาเจ้าไป ตอนนี้นอนก่อนเถอะคนงามของพี่ดึกมากแล้วนะ"ไป๋ซู่ฮวาที่กระเถิบเข้าหาอ้อมกอดสามี หยางหนิงเฉิงกอดนางแนบแน่นสตรีที่เขาไม่เคยคิดว่าจะรัก สตรีที่ได้มาด้วยเล่ห์กลของผู้อื่น สุดท้ายนางคือสตรีที่คู่ควรกับเขาที่สุด ลมหายใจของนางสม่ำเสมอหยางหนิงเฉิงจุมพิตเรือนผมนาง กระซิบเบาๆก่อนจะหลับตามไป"ฮวาเอ๋อร์พี่รักเจ้า"ยามซื่อทุกคนมารวมตัวกันที่ลานกลางหมู่บ้านเพื่อเตรียมออกเดินทาง ไป๋เข่อซินร้องไห้กอดบิดากับมารดาแน่น หยางตงชิงกอดไป๋จิงถิงกับโจวซิ่วเหม่ยร้องไห้"เสี่ยว
ไป๋ซู่ฮวาที่ถูกเขาเคี่ยวกรำทุกคืนตั้งแต่วันที่นางยอมให้เขาคืนนั้น ตอนนี้ไม่มีแรงจะสั่งงานบ่าวไพร่แล้ว หยางหนิงเฉิงเดินผิวปากมาหาแต่เมียนั่งบนเตียงมองมาตาเขียวปั้ด "ทูนหัว เมื่อคืนพี่ไม่ตั้งใจจะกวนจริงๆนะ สงสัยจะมาจากสุราสมุนไพรที่เสด็จพี่ให้ชิม แค่สองจอกเท่านั้นเอง ยังดีที่พี่ไม่ชิมเยอะ""อย่ามาหาข้ออ้างหยางหนิงเฉิง ท่านหื่นกามเช่นนี้ต้องแยกเรือนแล้ว ตั้งแต่ยามไฮ่จนยามเหมามีใครเขาลามกหื่นกามเท่าท่านบ้าง ข้าปวดเอวไปหมดแล้วคนบ้า งานการไม่ต้องทำแล้ว หากคู่แฝดไม่ถึงขวบแล้วข้าตั้งครรภ์อีกล่ะก็แยกห้องนอนถาวรจนกว่าพวกเขาจะสิบขวบ""ไม่ได้สิเมียจ๋าต่อไปขอคืนละหนึ่งชั่วยามพอไม่มากกว่านั้นแล้วคนดี นะๆ น้องหญิงพี่สัญญาวันหลังจะไม่ดื่มสุรานั่นอีก""หนิงอ๋อง ออกไปเลยนะคนบ้า นี่แน่ะ"ตุ๊บๆ เสียงวัตถุตกกระทบพื้น หยางหนิงเฉิงโดดหลบทันที เมียปาหมอนใส่เขาแทบจะทุกใบที่อยู่เตียง ก่อนจะตัดสินใจรวบนางกักไว้ในอ้อมกอด พลิกนางลงใต้ร่างจูบนางดูดดื่ม ไป๋ซู่ฮวารักเขามากนางรักเขาไม่คิดว่าชีวิตนี้จะรักคนๆหนึ่งได้ อยู่ด้วยกันมาปีกว่าเขาไม่เคยให้นางเจ็บช้ำน้ำใจสักครั้ง นอกจากเรื่องนี้เรื่องเดียวเขากินเก่งก
วันต่อมาไม่นานรถม้าก็เคลื่อนที่จนมาถึงอารามที่ฉินกุ้ยเฟยถือศิลบวชอยู่ ฮ่องเต้ให้คนไปแจ้งว่ามีคาราวาสมาขอพบนาง ไม่นานแม่ชีคนนึงก็เดินออกมา นางเดินหลังตรงแต่ยังคงสำรวมมีความเป็นคนสูงศักดิ์แม้จะอยู่ในชุดนักบวชทันทีที่ทั้งคู่พบกันหยางตงอวี้ยิ้มให้นาง ฉินกุ้ยเฟยไม่คิดว่าจะเจอกับเขาที่นี่จึงทำความเคารพ แต่เขาจับข้อศอกนางไว้ก่อนจะพูดคุย"ซวงเอ๋อร์ไม่พบเจ้าหลายปีสบายดีหรือไม่""ซวงเอ๋อร์สบายดีเพคะ ฝ่าบาททรงมาไกลถึงเพียงนี้ไทเฮาจะทรงทำเรื่องลับหลังตอนไม่ประทับอยู่วังหรือไม่เพคะ""วางใจเถอะ นางชดใช้กรรมแล้วล่ะ วันนี้ข้าพาคนๆนึงมาพบเจ้าด้วย ชิงเอ๋อร์มาพบเสด็จแม่เจ้าได้แล้ว"หยางตงอวี้หันไปเรียกหยางตงชิงไม่นานเขาก็ดินออกมาจากห้องรับรอง ทันทีที่ฉินกุ้ยเฟยเห็นหน้าเขานางก็ร้องไห้ เดินไปกอดเขาแน่น"ชิงเอ๋อร์ๆลูกแม่ เจ้ายังสบายดี แม่กังวลว่าพวกเขาจะพบเจอเจ้าหรือไม่ เพราะเจ้าคล้ายฝ่าบาทมากนัก ฮืฮๆๆลูกแม่""ส เสด็จแม่ อย่าร้องไห้เลยพ่ะย่ะค่ะ ลูกสบายดีท่านพ่อท่านแม่เลี้ยงดูอย่างดีไม่เคยให้ลำบากพ่ะย่ะค่ะ""แม่รู้ๆ พวกเขาผัวเมียเป็นคนดียิ่งนัก แม่เองก็คิดว่าฝากไม่ผิดคน"หยางตงอวี้อยากให้แม่ลูกได้คุยกันมา
ยามเฉินทุกคนต่างเตรียมรถม้าวันนี้ฮ่องเต้กับรัชทายาทจะเสด็จไปเยี่ยมหมู่บ้านกันดารหาทางแก้ปัญหาอีกหลายที่ เมื่อเสร็จธุระแล้วก็ขึ้นรถเตรียมออก รถม้าวิ่งมาไกลมากแล้ว ไป๋ซูหยางนึกถึงคำพูดบิดามารดาและพี่สาว จึงตัดสินใจไปเข้าเฝ้าพระบิดาก่อนจะตกลงไปเยี่ยมมารดาผู้ให้กำเนิด"พี่ใหญ่ ข้าอยากปรึกษาท่านเรื่องมารดาของข้าขอรับ""ทำไมหรือ เสี่ยวหยางเจ้าสับสนว่าตนเองอยากไปเยี่ยมนางหรือไม่ ควรไปดีหรือเปล่าใช่ไหม""ขอรับ ข้าไม่อยากให้ท่านพ่อกับท่านแม่เสียใจ แต่ใจหนึ่งก็อยากไปเห็นนางสักครั้งขอรับ""เสี่ยวหยาง นางเป็นมารดาให้กำเนิดนับว่ามีบุญคุณ อีกอย่างนางใช้ทั้งชีวิตปกป้องเจ้าจนได้มาเจอท่านพ่อกับท่านแม่ ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาบ้านใหญ่จะทำไม่ดีกับเจ้าไว้มาก แต่อย่างน้อยก็คงดีกว่าเจ้าต้องถูกคนพยายามฆ่าทุกวัน ควรไปขอบคุณนางด้วยตนเองสักครั้ง ให้นางได้เห็นว่าเจ้าเติบใหญ่เพียงใดในตอนนี้""ขอรับพี่ใหญ่ ข้าจะไปบอกท่านพ่อกับท่านแม่ก่อน""อืม ท่านแม่พ่อกับท่านแม่จิตใจโอบอ้อมไม่มีทางขัดขวางเจ้าหรอก ไปเถอะ"้ไป๋ซูหยางออกไปแล้ว เขารู้สึกสบายใจที่ได้คุยกับพี่สาว ไม่รู้ว่าไปอยู่วังหลวงจะเป็นเช่นไร แม้จะมีพี่เข่อซินจะไปอยู่
หยางหนิงเฉิงที่ตอนนี้กอดไป๋ซู่ฮวาอยู่บนเตียง คู่แฝดเป็นเด็กรู้ความยิ่งนัก กินเสร็จก็นอนไม่เคยงอแงสักนิด เมื่อวานรัชทายาทมาหาพี่สาวพี่น้องพูดคุยกันสักพัก เขาอยากให้ทั้งคู่มีเวลาส่วนตัวมากกว่านี้เพราะหยางหนิงเฉิงจะไม่กลับวังหลวง แต่จะเลยไปดินแดนทางใต้ทันที เขาเป็นห่วงภรรยาหากเดินทางไปๆมาๆนางอาจไม่ไหวอีกอย่างเขาทิ้งทัพใหญ่มาปีกว่าแล้วต้องกลับไปจัดการ จิ้งหยวนไปดูแลให้แล้วทิ้งเซียวอ้ายเย่วไว้ที่นี่ นางตั้งครรภ์อยู่เดินทางไม่ไหวอีกอย่างในกองทัพอาหารการกินสำหรับคนท้องย่อมลำบากก่อนไปไป๋ซู่อวา จัดการเสบียงให้พวกเขาหนึ่งต้าน นับว่าเยอะไม่น้อยในช่วงที่ไม่มีสงครามเช่นนี้ การเจรจาชายแดนเป็นไปได้ด้วยดี รับทายาทเสนอให้คุยกันเรื่องแลกเปลี่ยนอาหาร ราษฎรอยู่ดีมีสุขก็ไม่ต้องแย่งที่ทำมาหากินกันให้เดือดร้อน"วันนี้ไท่จื่อเก่งมากนัก สามารถแก้ปัญหาที่ดินเมืองกว่างสุยสำเร็จ อีกทั้งยังทรงจัดการทรัพยากรน้ำได้ดี จัดสรรพันธ์พืชให้เหมาะกับฤดูกาล ฝ่าบาททรงเอ่ยชมไม่น้อย""เสี่ยวหยางเป็นเด็กหัวดีเรียนรู้ได้ไวนักเจ้าค่ะ เมื่อวานเขามาปรึกษาเรื่องจะไปพบมารดาบังเกิดเกล้าดีหรือไม่ เขาไม่อยากให้ท่านพ่อท่านแม่รู้สึกเสี
หยางตงชิงหลับไปแล้วคอพับไปมา หยางตงอวี้จับบุตรชายนอนหนุนตัก ฉุ่กงกงที่หันมาหาจะเอ่ยเรียกฮ่องเต้เห็นภาพนั้นก็น้ำตาไหล พลันคิดถึงภาพที่องค์ชายนอนหนุนตักเสด็จแม่ สนมจางมักลูบหัวฝ่าบาทเสมอสมัยที่ยังเป็นองค์ชายน้อยภาพนั้นหายไปหลังจากจางกุ้ยเฟยประชวรแล้วจากไป ฝ่าบาทจึงเหลือเพียงความว้าเหว่อ้างว้างในใจตลอดมาหลายปี จนกระทั่งเด็กสาวที่ชื่อไป๋เข่อซินเข้ามาถึงมีร้อยแย้มพระสรวลอีกครั้ง ตอนนี้ภาพนั้นกำลังกลับมา ภาพองค์ชายที่ทรงยิ้มแย้มกับเขาทรงห่วงใยบ่าวไพร่เสมอเขากับเย่กงกงรับใช้ข้างกานมาตั้งแต่ยังเป็นองค์ชายตัวน้อยๆ"ท่านอาฉู่ ข้าได้ขนมมาฝากท่านด้วยขนมงาที่ร้านจินเซียง""ท่านอาเย่ว ข้าไม่อยากอยู่ตำหนักบูรพาเลยท่านพาข้าไปเที่ยวนอกวังหน่อยนะ ๆๆท่านอาเย่นะๆ ""ท่านอาฉู่ วันนี้ข้าหนีเสด็จพ่อออกไปเที่ยวตลาดมาคนเยอะแยะเลย มีสุราดอกท้อให้ท่านหนึ่งกาด้วย"หยางต้งอวี้เงยหน้าจากใบหน้าบุตรชายก่อนจะสบตาคนสนิทที่ติดตามเขาตั้งแต่เขาสี่ขวบตั้งแต่เสด้จแม่ยังเป็นเป็นเฟยด้วยซ้ำ"ท่านอาฉู่ เขาช่างเหมือนข้าในวัยเด็กจริงๆท่านว่าไหม""พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท ไท่จื่อคล้ายพระองค์มากนัก เฉลียวฉลาดรูปงาม""แวะตลาดด้านหน้าสักหน่
หยางเสวียนเยี่ยนกับหยางเสียนรุ่ยกับเมืองหลวงไปได้ครึ่งเดือนกว่าแล้ว ตอนนี้ฮ่องเต้เสด็จประพาสไปยังหมู่บ้านต่างๆที่ไป๋ซู่ฮวาได้ไปบุกเบิกเส้นทางการค้าและการเกษตรเอาไว้หยางตงอวี้เป็นอัจฉริยะไม่เกินจริง เพียงไม่นานก็เข้าใจโครงสร้างและปัญหาทั้งหมดของสภาพดิน ฟ้า อากาศและเริ่มแก้ปัญหาได้แล้ว สมแล้วที่ถูกเลือกให้เป็นฮ่องเต้ ราษฎรแคว้นอู่ไม่ต้องมาทนอดอยากอีกต่อไปวันนี้เขาเรียกบุตรชายมาด้วยเพื่อไปหมู่บ้านที่ทำสุราหมัก ส่วนหมู่บ้านข้างๆกันทำสุราขม(น้ำส้มสายชู) ถั่วเหลืองที่ผลผลิตเคยมีมากจนต้องมาเททิ้งกลับนำมาแปรรูปได้หลายอย่างนักไป๋ซูหยางนั่งอยู่บนรถม้า รอฟังคำสั่งบิดาอย่างเดียวเหมือนปกติ บางครั้งเสด็จพ่อก็ให้เขาเสนอความคิดเห็นบ้าง บรรยากาศในรถม้าเงียบเกินไปจนกระทั่งผู้เป็นบิดาเอ่ยขึ้นก่อน"ชิงเอ๋อร์ที่ผ่านมาพ่อทอดทิ้งเจ้า ไร้ความสามารถในการปกป้องเจ้าลูกโกรธพ่อหรือไม่""ไม่พ่ะย่ะค่ะ""มาสั่งข้างๆพ่อหน่อย วันนี้ไม่มีฮ่องเต้ ไม่มีรัชทายาทมีเพียงบิดากับบุตรชายที่กำลังคุยเรื่องครอบครัว"ไป๋ซูหยางที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นแซ่ราชวงศ์เรียบร้อยแล้ว องค์รัชทายาทหยางตงชิง เขาเขยิบมานั่งใกล้กับบิดา หยางตงอวี้โ