Share

บทที่156

Author: จุ้ยหลิงซู
"เพราะปากของท่านมันเหม็น ไสหัวไป" ฟู่จาวหนิงสายตาเย็นชาลงมาแล้ว

ฮูหยินรองฟู่มองท่าทีนางเช่นนี้ก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก หันตัวออกไปอย่างกระฟัดกระเฟียด ตอนกำลังจะออกไปก็ถลึงตามองใส่หลินอันห่าวอีกที

หลินอันห่าวถูกเซี่ยซื่อปลอบไว้แล้ว มองฟู่จาวหนิงอย่างหวาดๆ

ฟู่จาวหนิงเดินมาข้างหน้านาง กดมือทั้งสองยื่นไปหานาง "มา อันห่าว ข้าจะเลี้ยงลูกกวาดเจ้า แต่ว่า เจ้าต้องลองเดาดูนะว่าลูกกวาดอยู่ในมือข้างไหน?"

หลินอันห่าวมองมือฟู่จาวหนิงอย่างอยากรู้อยากเห็น ชี้อย่างระมัดระวังไปที่มือขวา "ในนี้?"

เสียงของนางแผ่วเบา

"จ่างจางจ๊าง !" ฟู่จาวหนิงยิ้มออกมา แบมือขวาออกเหมือนเปิดจับรางวัล ในมือมีลูกกวาดที่ห่อกระดาษสีสันเอาไว้สองเม็ด "อันห่าวเก่งจังเลย ครั้งเดียวก็ทายถูกแล้ว มา นี่เป็นรางวัลของเจ้า"

ลูกกวาดสองเม็ดวางไว้บนมืออันห่าว นางดีใจจนยิ้มออกมา

เซี่ยซื่ออเห็นนางกล้าพูดคุยกับฟู่จาวหนิง แล้วยังถูกแหย่จนหัวเราะออกมาอีก น้ำตาแห่งความปีติก็ไหลรินออกมา

"พวกเขาล้วนอยากจะเอาอันห่าวไปเป็นกรณีศึกษาอาการป่วยกันหมด จะเอานางไปร่วมพิธีเดิมพันโอสถ" ฟู่จาวหนิงพูดกับเซี่ยซื่อว่า "ท่านปฏิเสธไปคือถูกต้องแล้ว อันห่าวไม่เหม
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่157

    เขาไม่น่าพบขนาดนั้นเลยหรือ ยกมาพูดไม่ได้เลยหรือ?"ท่านอ๋อง ไปไหม?" ชิงอีถามขึ้นพระชายาเดินไปจนไม่เห็นเงาแล้วเซียวหลันยวนร้องเชอะขึ้นมา เดินตามไปพอถึงในเรือนฟู่จาวหนิง ฟู่จาวหนิงก็สั่งให้เสี่ยวเถาไปชงชา ส่วนตนเองก็ไปล้างไม้ล้างมือหลังจากเซียวหลันยวนเข้ามาในห้องนางก็สนใจอยู่แต่กับเรื่องของตนเอง จึงโมโหขึ้นมา"ข้ายังคิดว่าอย่างน้อยเจ้าก็ควรจะอธิบายอะไรบ้าง""ท่านก็น่าจะเข้าใจดีไม่ใช่หรือ ท่านปู่ข้าไม่เชื่อใจท่าน รู้สึกที่ท่านมาแต่งงานกับข้ามีลับลมคมนัย ไม่ได้มาด้วยเจตนาดี ดังนั้นถ้าข้าบอกเขาไปว่าท่านเป็นคนหาป้ายตราสีม่วงนี้มาให้ เขาจะต้องคิดมากเป็นแน่" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นเรื่องนี้ตัวเขาเองก็รู้อยู่เต็มอก"ดังนั้นเจ้าจึงพูดโกหกหรือ?""ท่านมาทำอะไร?" ฟู่จาวหนิงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเซียวหลันยวนเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่ามาทำอะไรเพราะจงเจี้ยนบอกว่านางโมโหอยู่ ดังนั้นเขาเลยมาดูหรือ?นางโมโหแล้วเกี่ยวอะไรกับเขากัน?"เจ้าให้จงเจี้ยนมาบอกข้า บอกว่าจะให้ข้าทำเรื่องที่สอง มันคืออะไร?""ท่านรีบขนาดนี้เชียว?" ฟู่จาวหนิงมองเขาอย่างประหลาดใจ อยากรีบช่วยนางทำเรื่องที่สองขนาดนี้เลยหรือ?

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 158

    อุทยานท่าโม่ เป็นอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งใต้ชื่อของโรงหมอเมตตาอยู่ในสถานที่ที่รวมตัวของครอบครัวร่ำรวยในเมืองหลวงเพราะว่าที่นี่จะจัดพิธีเดิมพันโอสถแล้ว ดังนั้นถนนเส้นหนึ่งด้านนอกอุทยานท่าโม่จึงมีร้านรวงมากมาย และยังมีเด็กน้อยหิ้วตะกร้าออกมาเดินเร่ขายของหวานผลหมากรากไม้อีกด้วย คึกคักอย่างมากด้านนอกอุทยานมีลานเรียบๆ ที่กว้างขวางแห่งหนึ่ง เวลานี้มีรถม้ามาจอดอยู่เต็มไปหมดคนขับรถเหล่านั้นไม่เข้าไปในอุทยาน ตอนที่กำลังเฝ้ารถม้าก็ยังสามารถไปเดินตามแผงร้านซื้อของได้ และยังมีบางส่วนก็ยังจับกลุ่มกันคุยโม้ คึกคักกันใหญ่ด้านนอกอุทยานท่าโม่มีโต๊ะยาวตัวหนึ่งวางไว้ มีชายหนุ่มในชุดคลุมสีเขียวคอยตรวจเก็บป้ายเข้าประตูอยู่ว่ากันว่า ขอแค่ให้เงินพวกเขาสักส่วนหนึ่ง ก็ยังสามารถเอาของกินเล่นเข้าไปขายได้ด้วยฟู่จาวหนิงวันนี้พาเสี่ยวเถามาด้วย นางไม่รู้ว่าที่นี่เป็นอย่างไร เผื่อต้องมีคนมาเป็นม้าเร็วอะไรแบบนี้ เสี่ยวเถาถือว่าได้ใช้งานอยู่แต่ว่า จงเจี้ยนไม่วางใจ จึงติดตามมาด้วยป้ายเข้าประตูหนึ่งชิ้นสามารถพาผู้ติดตามเข้าไปได้สองคน จึงพาพวกเขาทั้งสองเข้าไปได้พอดีฟู่จาวหนิงหยิบป้ายตราส่งให้กับชายหนุ่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 159

    คำพูดนี้เหมือนแทงเข้าไปในใจซุนหลานอินเลยทีเดียวนางแม้จะออกเรือนกับตระกูลซ่ง ตระกูลซ่งมีท่านหญิงอยู่สองคน ท่านหยิงอวิ๋นเหยากับท่านหญิงหยวนหลิน ยิ่งไปกว่านั้นนางยังเป็นหลานสาวขององค์หญิงใหญ่อีกด้วย แต่มีแต่นางที่ไม่มีตัวตนฐานะอะไรเลยไม่ใช่องค์หญิง ไม่ใช่ท่านหญิง ไม่ใช่พระชายา คุณชายใหญ่ซ่งก็ยังพยายามศึกษาอยู่ในสำนักบัณฑิตจะเข้าร่วมการสอบเคอจวี่ในปีหน้าอยู่"นี่คือฮูหยินคุณชายใหญ่ตระกูลซ่ง องค์หญิงใหญ่คือน้าของฮูหยินน้อยของพวกเรา ตัวตนฐานะสูงส่งกว่าพวกเจ้ามากนัก!"ซุนหลานอินหน้าเปลี่ยนสี สาวใช้ข้างกายของนางรีบแจงตัวตนฐานะของนางออกมาทันที"องค์หญิงใหญ่คือน้าของนาง แล้วแม่ของนางก็เป็นองค์หญิงด้วยไหม?"ฟู่จาวหนิงคำนี้หันไปถามจงเจี้ยนนางรู้สึกแปลกจริงๆ ทำไมต้องแนะนำเช่นนี้ด้วย? บอกมาเลยว่านางเป็นลูกสาวขององค์หญิงอะไรมาก็พอแล้วนี่?จงเจี้ยนกระแอมทีหนึ่งถ้าไม่รู้ว่าฟู่จาวหนิงไม่รู้จักซุนหลานอินจริงๆ เขาคงคิดว่านางจงใจไปแล้วจงใจเหยียบจิตใจของซุนหลานอิน"มารดาของนางเพื่อจะออกเรือนกับตระกูลซุน ตอนนั้นจึงยอมสละตำแหน่งองค์หญิง ครั้งนั้นไท่ซ่างหวงโกรธมาก และยอมรับไป""ดังนั้น นางจึงท

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 160

    ซ่งหยวนหลินเดิมทีอยากจะพูดตัวตนฐานะของฟู่จาวหนิงออกมาแล้ว แต่พอเห็นว่าวันนี้นางแต่งตัวธรรมดา ยิ่งไปกว่านั้นอ๋องเจวี้ยนเองก็ไม่ได้มาด้วยกัน ลูกตาจึงกลอกกลับ เข้าไปคล้องแขนของซุนหลานอิน "ข้าไม่รู้จักหรอก"นางถ้าบอกว่าไม่รู้จักฟู่จาวหนิงก็ถือว่าพูดได้อยู่อ๋องเจวี้ยนกับฟู่จาวหนิงแต่งงานกันวันนั้น ฟู่จาวหนิงก็คลุมหัวเอาไว้ตลอด นางไม่เห็นหน้าตาของนางเลยขอแค่นางไม่พูด ใครจะรู้ว่าหลังจากนั้นนางแอบไปที่เขาจันทร์ลับฟ้ามา?"นังสารเลวคนนี้ก็ไม่รู้ว่าใครปล่อยเข้ามา พิธีเดิมพันโอสถในอุทยานท่าโม่ครั้งนี้ ธรณีประตูคงจะต่ำเกินไปแล้ว หมาแมวอะไรก็ปล่อยเข้ามาหมด""ฮูหยิน ท่านอย่าไปยุ่งกับคนเช่นนี้เลย" ซ่งหยวนหลินเห็นว่าที่นี่มีคนมากมาย รู้สึกว่าไม่ใช่โอกาสลงมือที่ดีนัก "พวกเรารีบไปที่สวนหลักกันเถอะ ได้ยินว่าทางนั้นมีคนนำดอกไม้ประหลาดช่อหนึ่งออกมาด้วย รีบไปดูกัน""จริงหรือ?"ซุนหลานอินเองก็สนใจขึ้นมา ถลึงตามองฟู่จาวหนิง "เห็นแก่หน้าเจ้าแล้วกัน จะไม่คิดเล็กคิดน้อยกับคนชั้นต่ำแบบนี้""ใช่ ฮูหยิน ไปกันๆ ส่วนพวกนี้คือเหล่าผองเพื่อนจากสำนักบัณฑิตชิงหวาของพวกเรา ข้าพาพวกเขามาดู""สำนักบัณฑิตชิงหวา ต้อ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 161

    สวนหลักแห่งนี้ใหญ่มาก ในพื้นที่ว่างวางโตีะเอาไว้หลายตัว ใช้แถบผ้ากั้นเว้นระยะห่างปลอดภัยกับผู้ชมไว้ ไม่ยอมให้เข้าใกล้โต๊ะมากเกินไปตอนนี้โต๊ะตัวหนึ่งในนี้วางกระถางดอกไม้ไว้ใบหนึ่ง ด้านข้างมีชายชรากำลังก้มตัวลงสังเกตุกระถางดอกไม้ใบนั้นอย่างละเอียด ด้านนอกแถบผ้ากั้นก็มีคนมุงล้อมอยู่ไม่น้อย ล้วนกำลังสืบมองไปทางนั้นซ่งหยวนหลินกับซุนหลานอินพวกนางอยู่ข้างๆจงเจี้ยนพอมาถึงก็เข้าไปแย่งที่เหมาะๆ แล้วให้ฟู่จาวหนิงเข้าไปฟู่จาวหนิงกับเสี่ยวเถาเดินเข้าไป และมองไปทางกระถางต้นไม้นั้นอย่างอยากรู้อยากเห็นพอมองไป นั่นก็เหมือนกับดอกกล้วยไม้กระถางหนึ่ง ใบไม้รูปกระบี่ยืดออก กิ่งดอกระย้าสามกิ่ง หน่อดอกบานเป็นพวกดอกไม้ กลีบดอกไม้สีทอง เกษรสีแดงหม่นรูปร่างดอกไม้ดูสูงสง่ามาก ราวกับเป็นหญิงสาวตระกูลขุนนางที่สูงส่ง งามจับตามากเพราะสีทองเจิดจ้า ดังนั้นดูแล้วจึงดูร้อนแรงและทรงเกียรติด้านหลังโต๊ะมีชายกลางคนหน้าเหลี่ยมพุงอ้วนกลมคนหนึ่งยืนอยู่ เครื่องประดับบนร่างกายดูอู้ฟู่มาก สีหน้าเขากระหยิ่มยิ้มย่องอย่างเห็นได้ชัดฟู่จาวหนิงเดาว่าเขาน่าจะเป็นเจ้าของดอกไม้ช่อนี้และตามคาด ชายคนนี้เอ่ยปากขึ้นมา"ดอก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 162

    หมอหม่านั่นไม่ใช่ที่หาคนยิงเข็มพิษใส่หลินอันห่าวเพื่อกระตุ้นอาการโรคหรอกหรือ?พอเห็นผู้เฒ่าน้อยคนนี้ สายตาฟู่จาวหนิงก็เย็นชาลงมาแล้วคนเช่นนี้เป็นความล้มเหลวทางการแพทย์จริงๆ"ดูไปก่อน" ฟู่จาวหนิงยังให้เซียวหลันยวนขังคนใช้คนนั้นไว้อยู่ หมอหม่าคนนี้พอไม่เห็นคนใช้กลับไปรายงาน แต่ก็ยังกล้ามาร่วมพิธีเดิมพันโอสถอีกหรือ"หมอหม่ามาๆๆ บอกไว้ก่อนนะ ดอกไม้นี้ทำได้แค่มองกับดม แต่ว่าที่นี่มีดอกที่ร่วงอยู่สามดอกก่อนหน้า หยิบขึ้นมาดูได้"เจี่ยหยวนไว่หยิบผ้าเช็ดมือขึ้นมาผืนหนึ่ง กางออกวางไว้บนโต๊ะ ด้านนั้นห่อดอกไม้ไว้สามดอกตามที่ว่าไว้"ไม่เคยเห็นคนงกขนาดนี้มาก่อนเลย"คนที่ล้อมดูอยู่ล้วนหัวเราะร่าขึ้นมา"แต่ว่า ดอกไม้นี้ไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วจะไปเดาคุณสมบัติทางยาได้อย่างไรกัน?" ยังมีคนรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่"ดังนั้นนี่ก็ไม่เรียกว่าเดิมพันแล้วสิ?""เจี่ยหยวนไว่" มีคนร้องเรียกขึ้นมา "ถ้ามีคนเดาถูกแต่เจ้าไม่ยอมรับล่ะจะว่าอย่างไร?""นั่นเป็นไปไม่ได้เลย" เจี่ยหยวนไว่หัวเราะร่าขึ้นมา "มีหมอหลายคนจากโรงหมอเมตตาคอยคุมอยู่นะ พวกเขาพอหยิบเอาดอกไม้ไปศึกษา ไม่นานก็ค้นคว้าถึงคุณค่าทา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่163

    ฟู่จาวหนิงมองเห็นซ่งหยวนหลินกระซิบกระซาบอะไรกับสาวใช้ข้างๆ สาวใช้คนนั้นพยักหน้า จากนั้นก็มุดออกไปจากกลุ่มคน"จงเจี้ยน เจ้าตามไปดูหน่อย" ฟู่จาวหนิงเองก็กดเสียงต่ำส่งสัญญาณให้จงเจี้ยนตอนที่นางไปขุดยาที่เขาจันทร์ลับฟ้า ซ่งหยวนหลินส่งคนออกไป นางก็จับคนได้แล้วเค้นถามออกมาซ่งหยวนหลินกับเซียวหลันยวนจะมีความคิดอะไรกันนางไม่สนใจ แต่ว่าซ่งหยวนหลินในเมื่อลงมือกับนางแล้ว มีแค้นแต่ไม่ชำระนี่ก็ไม่ใช่นิสัยของนางจงเจี้ยนสั่งการออกไปหมอหม่างุ่นง่านอยู่พักหนึ่งจึงเขียนคำตอบของเขาออกมา ตอนที่เขียนก็ดูระมัดระวังอย่างมากพอหยิบคำตอบไปหาผู้ดูแลเจียง เขาก็กลั้นลมหายใจ เฝ้ารออย่างเคร่งเครียดผู้ดูแลเจียงมองผาดหนึ่ง จึงส่ายหัว"ไม่ถูก"หมอหม่าถอนหายใจออกมาหนักๆ หน้านิ่วคอตกนั่นมันร้อยตำลึงนะ ร้อยตำลึงเลยนะ ขาดทุนหนักเลย!เจี่ยหยวนไว่กลับยิ้มแย้มแจ่มใส"ข้ามาลองหน่อย" เพียงไม่นานก็มีคนออกไปอีก"คุณหนู ท่านจะลองดูหน่อยไหม?" เสี่ยวเถาถามเสียงแถ่วกับฟู่จาวหนิง ถึงอย่างไรนางก็รู้สึกว่าวิชาแพทย์ของคุณหนูจะต้องดีกว่าหมอหลายคนในนี้แน่นอนท่านผู้เฒ่ากับหลินอันห่าวเองก็พิสูจน์จุดนี้ไปแล้ว"ดูอีกหน่อย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 164

    "เจ้านี่มันยังไงกัน" เสี่ยวเถาประคองตัวฟู่จาวหนิง เดือดดาลมากฟู่จาวหนิงดึงนางไว้ "ช่างเถอะ เช่นนั้นก็ให้ลุงที่ไม่เกะกะเขาดูหน่อย บางทีเขาอาจจะมองออกเลยก็ได้ว่านี่คือวัตถุดิบยาอะไร"ถูกฟู่จาวหนิงพูดเช่นนี้ ชายคนนั้นก็เงยหน้ายืดอกทันที "รู้ไหมว่าข้าเป็นใคร? ข้าคือเถ้าแก่รองแห่งโรงยาทงฝู! พวกเราเปิดโรงยานะ วัตถุดิบยาที่รู้จักก็มีมากกว่าขนมของว่างที่พวกเจ้ากินไม่รู้ตั้งเท่าไร แล้วจะไม่รู้จักได้หรือ?""เถ้าแก่รองหู" ข้างๆ มีคนรีบชูหางชายคนนี้ขึ้นมาทันที "เถ้าแก่รองหู ได้ยินว่าโรงยาของพวกท่านจะมาเก็บวัตถุดิบยาหายากในพิธีเดิมพันโอสถทุกครั้งสินะ ราคาเองก็ให้ดีด้วยใช่ไหม?""แน่นอน โรงยาทงฝูไม่ได้ด้อยกว่าพันธมิตรโอสถใต้หล้าเลย โรงยาทงฝูอย่างพวกเราไม่ได้ขาดแคลนเงินทอง ขอแค่วัตถุดิบยาดี ราคาไม่ใช่ปัญหา"ฟู่จาวหนิงนึกโรงยาทงฝูนี้ออกแล้วผู้นำตระกูลซือถูที่เคยบอกว่าเปิดโรงยาทงฝูก่อนหน้านั้นก็แยกตัวออกมาจากพันธมิตรโอสถใต้หล้า พอมีโรงยาทงฝู พันธมิตรโอสถใต้หล้าก็ถูกแบ่งไปครึ่งหนึ่ง บารมีเองก็ไม่ได้เด่นดังเช่นอดีตอีกแล้วซือถูไป๋ไม่ใช่ว่าเป็นคุณชายจากโรงยาทงฝูหรอกหรือ?"เหล่าซวี ลองบอกมาหน่อยว่

Latest chapter

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1884

    และมีเหล่าขุนนางใหญ่แอบคุยกันถึงเรื่องนี้องค์จักรพรรดิโมโหจนล้มป่วยส่วนเหล่าทูตจากแคว้นหมิ่นก็ไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง หลังจากหยวนอี้กลับมา ก็บอกกับภายนอกว่าไม่คุ้นชินกับสภาพแวดล้อม แล้วจึงอยู่แต่ในวังราชนิเวศน์ไม่ออกไปพบใครตอนนี้ยังออกไปลำบากแต่ความเป็นจริงคือเนื่องจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นบาดเจ็บ จำเป็นต้องหลบเพื่อพักฟื้นก่อนองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็แต่งตัวเป็นสาวใช้วังซ่อนอยู่ในวังราชนิเวศน์ระหว่างทางจากเมืองเจ้อกลับเมืองหลวง นางเองก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด เฉินเซียวตายไปแล้ว องครักษ์ของนางก็ตาย เหลือแค่นางคนเดียว ตอนนี้จึงจำใจต้องพึ่งพาหยวนอี้ไปก่อนไม่ใช่แค่หยวนอี้ที่บาดเจ็บ นางเองก็บาดเจ็บด้วยก่อนหน้านี้ป่วยไปรอบหนึ่ง บวกกับการบาดเจ็บครั้งนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นผอมลงไปมากเมืองเจ้อเองก็สงบไปอีกหลายวันครึ่งเดือนต่อมา ฟู่จาวหนิงในที่สุดก็ควบคุมโรคระบาดเอาไว้ได้ทั้งหมด เมืองเจ้อยกเลิกการปิดเมืองคนทั้งเมืองล้วนดีใจกันอย่างบ้าคลั่งวันที่ฟู่จาวหนิงจะออกจากเมืองเจ้อ ประชาชนทั้งเมืองก็มาล้อมส่งที่ถนนอยู่ในเมืองเจ้อนานขนาดนี้ ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกผูกพันกับเมืองเจ้อขึ้นมาแล้ว แต่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1883

    โจวติ้งเจินถูกผลักออกไปจากเมืองเจ้อมาได้ครึ่งทางเขาก็ได้สติขึ้นมา พอรู้ว่าตนเองต้องถอนกำลังแบบนี้ ก็โมโหจนแทบจะเป็นลมไปอีกรอบแต่เขาก็ถ่ายหนักจนตัวโยน ตอนนี้แค่แรงจะด่าก็ยังไม่มีเพราะในป่าในเขา เขากระทั่งไม่มีกระดาษแล้ว ดังนั้นจึงต้องใช้ใบไม้กับกิ่งไม้มาจัดการ ตอนนี้รูทวารเองก็เต็มไปด้วยแผล ขยับทีก็เจ็บเหลือแสน"กลับ กลับไป..."รองขุนพลเห็นสภาพแบบนี้ของเขา ก็เอ่ยขึ้นอย่างลำบากใจว่า "ท่านขุนพล ครั้งนี้พวกเราช่างมันเถอะ อ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนร่วมมือกัน วิธีการก็ชั้นต่ำมาก ไม่รู้ว่ายาพวกนั้นของพวกเขาจัดการมาอย่างไร ถ้าพวกเรายังไปอีก ไม่รู้ว่าต้องติดยากันอีกกี่รอบนะ"ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาทางนั้นก็ไม่มีอะไรกินกันแล้ว เดิมทีคิดว่าวันสองวันก็น่าจะจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว ใครจะคิดว่าอ๋องเจวี้ยนจะไร้เหตุผล ถึงกับใช้วิธีการแบบนี้แล้ววรยุทธ์ของอ๋องเจวี้ยนก็ห่างชั้นกับพวกเขา ตราบใดที่ไม่ต้องปะทะกับท่านขุนพล เขาก็แฝงเข้ามาในกลุ่มพวกเขาได้ ถ้าหากเข้ามาก็ไม่มีใครขวางอยู่หรอกพวกเขาถ้ายังอยู่ที่นี่ต่อ ยังไม่รู้ว่าจะมีจุดจบอย่างไร ต่อให้ไม่ตายชีวิตก็น่าจะหายไปซักครึ่งอยู่"ท่านขุน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1882

    โจวติ้งเจินไม่อยากจะออกไปไกลหน่อยเสียที่ไหน?แต่เขาทำไม่ไหวน่ะสิ!ท้องเสียครั้งนี้ ลากยาวไปถึงสามวัน!คืนวันที่สอง พวกทหารที่เรี่ยวแรงหายไปก็ฟื้นกลับมาพอควรแล้ว โจวติ้งเจินกลับล้มลงไปแทนเขาถ่ายออกมาจนทั้งเนื้อตัวซีดไปหมด ไม่มีแรงจะพูดจาเลยทีเดียวตอนที่เขาเตรียมจะรองขุนพลเตรียมเข้าไปตีเมือง รองขุนพลก็เริ่มท้องเสียบ้างแล้ววันที่สาม เขาออกคำสั่งอย่างอ่อนแรงให้ทหารเข้าไปโจมตีเมือง ให้รองขุนพลน้อยหลายคนนำทหารออกไป เหล่าทหารก็ไม่มีแรงกันขึ้นมาอีก!ทหารกว่าครึ่งล้มลงไปนอนระเนระนาดอีกครั้ง ลุกกันไม่ขึ้นแผนการโจมตีเมืองถูกบีบให้หยุดชะงักอีกครั้งโจวติ้งเจินโมโหจนเกือบจะเส้นเลือดในสมองแตกเขาตอนนี้ยังมองไม่ออกที่ไหนว่าเป็นฝีมือเซียวหลันยวน?แต่เขาก็คิดไม่ออกว่าอีกฝ่ายวางยามาได้อย่างไร! ยาพวกนั้นทำไมถึงไม่มีสีมีกลิ่นเลย"ต้องเป็นฟู่จาวหนิงแน่ๆ ต้องเป็นยาที่นางทำขึ้นมา..."สุดท้ายโจวติ้งเจินคิดออกถึงจุดนี้ แต่ตอนนี้เขาก็ถ่ายออกมาจนตัวโหวง ลุกไม่ขึ้นที่นี่ไม่มีอะไรที่กินได้แล้ว ต่อให้ล่าสัตว์มา ตอนนี้เขาก็กลืนไม่ลงถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป โจวติ้งเจินรู้สึกว่าตัวเองต้องตายแน่รองขุนพ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1881

    อันเหนียนรู้สึกว่า สามีภรรยาอย่างพวกเขาทั้งสองคนถ้าอยู่ด้วยกันนานอีกหน่อย อาจจะมีอะไรใหม่ๆ ออกมาอีกก็ได้ดังนั้น พวกเขาจึงเป็นคู่สวรรค์สร้าง ใครก็แทรกกลางเข้าไปไม่ได้เซียวหลันยวนเดินเข้ามา เห็นอันเหนียนกำลังคุยอยู่กับฟู่จาวหนิงเขาชะงักไปเล็กน้อย แล้วจึงเดินเข้ามา ยืนอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง แต่มองไปทางอันเหนียน"คุยอะไรกัน?"คุยกันสนุกเชียวนะ? เหมือนจะเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าอันเหนียนด้วยฟู่จาวหนิงเองก็สีหน้ามีชีวิตชีวาเหมือนกันเอาอีกแล้ว อันเหนียนก่นด่าในใจ เจอเข้ากับสายตาของเซียวหลันยวน "กำลังคุยกับพระชายา ว่าพวกท่านตอนนี้นิสัยคล้ายคลึงกันเรื่อยๆ แล้ว""อย่างนั้นหรือ? พวกเราเป็นสามีภรรยา จะคล้ายกันมันก็เรื่องปกตินี่" เซียวหลันยวนบีบแขนฟู่จาวหนิง"มือทำไมเย็นนักล่ะ?" ฟู่จาวหนิงโดนความเย็นของมือเขาดึงความสนใจไปทันที นางพลิกกลับมากุมมือเซียวหลันยวน มืออีกข้างก็ปลดหน้ากากของเขาลงมาพอปลดหน้ากากถึงจะเห็นสีหน้าของเขาดูแล้วยังดีอยู่"ฝนตกลงมาครู่หนึ่ง แล้วนอกเมืองก็อากาศเย็นมาก" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น ดึงนางมาไว้ในอ้อมกอด "หนิงหนิงให้ข้ากอดหน่อย เดี๋ยวก็อุ่นขึ้นแล้ว"แค่กๆอันเหนียน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1880

    ยาครั้งนี้ มีประสิทธิภาพมากจริงๆพอถึงตอนฟ้าสาง มีคนป่วยหนักแต่เดิมหลายคน มีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเดิมทีที่ป่วยจนไม่รู้สึกตัวแล้ว วันนี้ตอนเช้าก็สามารถประคองตัวลุกขึ้นนั่งมากินข้าวต้มได้นี่ทำให้คนทั้งหมดดีใจกันมากมีผลลัพธ์เช่นนี้ ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวรู้สึกว่าตนเองวันนี้เดินเชิดหน้ายืดหลังตรงได้เสียทีนี่อธิบายได้ว่ามีความหวังแล้วจริงๆ! ไม่สิ พูดว่าเป็นความหวังไม่ได้แล้ว มันมีผลลัพธ์ที่ดีแล้วต่างหากตอนที่ฟู่จาวหนิงวุ่นอยู่ทั้งคืน เซียวหลันยวนเองก็ออกไปทั้งคืนไม่ได้กลับมาตอนที่ฟู่จาวหนิงได้พัก ได้กินข้าวเช้า จึงเพิ่งนึกได้ว่าเซียวหลันยวนไม่รู้หายไปไหนนางถามสืออี สืออีก็ดูจะตื่นเต้นขึ้นมารางๆ"ท่านอ๋องออกเมืองไปแล้วขอรับ"ออกเมือง?เซียวหลันยวนออกจากเมือง แล้วทำไมสืออีถึงดูตื่นเต้น?"หรือจะออกไปหาโจวติ้งเจิน?" ฟู่จาวหนิงตกตะลึงถึงแม้ทหารส่วนใหญ่จะโดนพิษที่ทำให้เสียกำลังในการต่อสู้ไป แต่ก็มีส่วนน้อยที่ไม่ได้โดนพิษ หรืออาจจะมีคนที่โดนพิษไปน้อยมาก นั่นก็ยังสู้ได้อยู่นะองครักษ์ของเซียวหลันยวนส่วนใหญ่ยังอยู่ที่นี่ เพราะเมื่อคืนตอนที่นางวิ่งไปดูแลคนป่วยตรงนั้นตรงนี้ ย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1879

    แต่ว่านางเองก็เห็นว่าฝนเองก็ตกอย่างที่ฟู่จิ้นเชินคำนวณไว้จริงๆตอนนี้พอเห็นสีหน้าของฟู่จิ้นเชินกับอันเหนียน ก็รู้ว่าน่าจะเรียบร้อยดี"ให้ใต้เท้าอันเล่าเถอะ เขาเล่านิทานเก่งกว่าข้า" เซียวหลันยวนไม่ค่อยชินที่ต้องพูดอะไรยาวๆ สถานการณ์แบบนี้ให้อันเหนียนพูดดีที่สุดอันเหนียนเองก็ดูจนใจ นี่มองเขาเป็นพวกนักเล่านิทานหรือไรกัน?ปกติเขากับพูดกับพระชายามากหน่อย อ๋องเจวี้ยนก็จะหึงหวงขึ้นมา แล้วมาใช้เขาแบบนี้ ไม่หึงแล้วเรอะ?ถึงแม้จะไม่ค่อยพอใจ แต่ตอนที่สายตาคาดหวังของฟู่จาวหนิงหันมา อันเหนียนก็เล่าฉากเมื่อครู่ออกมาอย่างมีชีวิตชีวาฟู่จาวหนิงหลังจากฟังก็อดขำขึ้นมาไม่ได้"ดูท่าขุนพลโจวคืนนี้คงจะน่าเวทนาเอาเรื่อง ฤทธิ์ของผงยานั่น ก็ทำให้พวกเขากระทั่งแรงจะตั้งค่ายก็ยังไม่มีจริงๆ นั่นล่ะ"ยิ่งไปกว่นั้นพวกเขายังไม่มีแรงจะเดินไปไหนไกลได้ด้วยถ้าหากฝนตกทั้งคืน เช่นนั้นพวกเขาก็อาจจะต้องตากฝนกันทั้งคืนและคืนนี้ โจวติ้งเจินก็ซมซานจนต้องด่าพ่อล่อแม่ออกมาเลยทีเดียวแต่ว่าคนมากมายแค่แรงจะด่าก็ยังไม่มียังดีที่ฝนห่านี้ไม่ได้มีฟ้าผ่า พวกเขาถอยลงไปตีนเขากันอย่างยากลำบาก ที่นั่นมีต้นกล้วยอยู่ผืนใหญ่ แล

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1878

    เหล่าทหารถ้าให้บอกว่าตัวเองไม่สบายตรงไหน แล้วยังไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน หรือปวดท้องปวดบิดปวดหัวหรืออยากถ่ายอะไรทำนองนั้นเลยพวกเขาแค่รู้สึกไม่มีเรี่ยวแรงอย่างเดียวเท่านั้น!"แม่งเอ๊ยจู่ๆ ก็มาอ่อนแรงเป็นผู้หญิงได้ยังไงกัน!" มีคนอดก่นด่าตัวเองขึ้นมาไม่ได้ คิดจะยกมือขึ้นทุบตัวเองก็ยังไม่มีแรงเลยตอนนี้จู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่าอะไรคืออ่อนแอดั่งหลิวต้องลม ปวกเปียกจนดูแลตัวเองไม่ได้มีคนลงไปนอนบนพื้นขนาดแค่จะปีนขึ้นมาก็ยังไม่มีแรง"ลุกขึ้นมา!""บอกให้พวกเจ้าลุกขึ้นมา ไม่ได้ยินรึ? อย่าบีบให้ข้าต้องซัดพวกเจ้านะ!"โจวติ้งเจินโมโหจนมึนงง ตะโกนขึ้นดังลั่น กระโจนลงมาจากม้า สาวเท้าเดินเข้าไปข้างตัวทหารที่อยู่ใกล้เขาที่สุด ยกเท้าขึ้นเตะคนที่นอนอยู่บนพื้น"ลุกขึ้นมาได้ยินไหม? พวกเจ้าดูซิพวกเหมือนตัวอะไรกันไปแล้ว?"มาตีเมืองกันแท้ๆ แต่ตอนนี้ดันมานอนบนพื้น! มานอนกันจนทำให้คนบนหอเมืองหัวเราะเยาะ! ดูแล้วยังเป็นเขาด้วยที่กลายเป็นเรื่องตลก!"พวกเจ้าสภาพแบบนี้ ขุนพลอย่างข้าก็เหมือนเข้ามาเป็นตัวตลกให้เขาดูแล้ว!"เข้ามาเป็นตัวตลกให้เซียวหลันยวน!และตอนนี้ บนหอเมืองก็มีเสียงของเซียวหลันยวนลอดเข้ามา"ข

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1877

    มีคนตกใจมีคนร้องโหยหวนมีคนมีคนที่กระโดดโลดเต้นและมีคนที่จะกระโดดก็ยังกระโดดไม่ขึ้น หลังจากล้มลงบนพื้นก็ถูกคนข้างๆ ล้มทับกันเข้ามาอีกชั่วขณะหนึ่ง ท่วงท่าที่องอาจน่าเกรงขามแต่เดิมของทหาร ก็ดูสับสนโกลาหลเหมือนสุนัขเหมือนไก่ขึ้นมาแม้เอาทหารมากมายไปเทียบกับสุนัขกับไก่จะไม่ค่อยเหมาะสม แต่สภาพเช่นนี้ก็ค่อนข้างใกล้เคียงกัน เพราะเดิมทีเหล่าทหารก็เตรียมพร้อมจะโจมตี จัดกระบวนกันเรียบร้อยแล้ว จู่ๆ ก็หมดเรี่ยวแรงกัน จึงควบคุมไว้ไม่อยู่โจวติ้งเจินพอเห็นสถานการณ์ก็ยิ่งโกรธยิ่งร้อนรนชั่วขณะหนึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ยิ่งไปกว่านั้นฤทธิ์ยาของคนเหล่านี้ก็ไม่เหมือนกันด้วย มีพวกที่อยู่ใกล้หน่อยสูดกันเข้าไปก่อน มีบางส่วนสูดเข้าไปช้าหน่อย บางคนก็สูดเข้าไปมาก บางคนก็สูดเข้าไปน้อยแล้วยังต้องดูกำลังภายในคุณสมบัติร่างกายของแต่ละคนด้วยอย่างโจวติ้งเจิน วรยุทธ์ของเขาแข็งแกร่งที่สุด กำลังภายในลึกล้ำ ดังนั้นเขาตอนนี้ยังไม่รู้สึกไม่สบายเท่าไรนักและเพราะเขาที่อยู่ตรงนี้ ตัวเขาไม่สังเกตเห็นความผิดปกติในร่างกาย จึงยิ่งไม่เข้าใจว่าเหล่าทหารเกิดอะไรกันขึ้น"วันนี้กินอะไรกันเข้าไป? โดนพิษอะไรเข้าหร

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1876

    ฟู่จาวหนิงมั่นใจอย่างมากต่อยาที่ตนเองสกัดขอแค่องครักษ์เหล่านั้นสามารถสาดยาออกไปตามทิศทางลมได้ อย่างน้อยก็ต้องทำลายพลังต่อสู้ของทหารได้ครึ่งหนึ่งยิ่งไปกว่านั้นประสิทธิภาพของยานี้ก็อยู่ได้ถึงเกือบหนึ่งวันเต็มจึงจะอ่อนกำลัง เวลาหนึ่งวัน เพียงพอจะให้โจวติ้งเจินลนลานจนทำอะไรไม่ถูกอยู่ทหารจำนวนมากขนาดนี้ล้อมเมืองอยู่ อยู่ดีดีก็ไม่มีเรี่ยวแรง แค่ไปหาสาเหตุก็แทบแย่แล้วโจวติ้งเจินตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เขาเห็นว่าหนึ่งชั่วยามที่กำหนดให้กับโหยวจางเหวิน อีกฝ่ายกลับไม่ยอมเปิดประตูเมืองส่งคนป่วยออกมา ก็รู้ว่าโหยวจางเหวินต้องคิดจะปกป้องคนป่วยเหล่านั้นแน่นอน"โง่เขลาเสียจริง โหยวจางเหวินคิดว่าตัวเองเป็ฯคนใจบุญมากนักหรือไรกัน? เขาคิดว่าตัวเองจะปกป้องคนมากขนาดนี้ในเมืองเจ้อได้เรอะ? ยังคิดว่าอ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนจะมาคอยหนุนเขาได้หรือไรกัน?"โจวติ้งเจินกัดฟัน เรียกรองขุนพลออกมา "เตรียมโจมตีด้วยไฟ แล้วก็เตรียมบุกประตูเมือง"พวกเขาเดิมทียังมีแผนสำรองแบบนี้ไว้ด้วยต่อให้ไม่คิดจะโจมตีเข้าเมืองจริงๆ แต่ก็ยังจะทำท่าทีแบบนั้น ใช้ไม้ซุงทลายประตูโจมตีเข้ามาที่ประตูเมือง ทำให้เกิ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status