หมอหม่านั่นไม่ใช่ที่หาคนยิงเข็มพิษใส่หลินอันห่าวเพื่อกระตุ้นอาการโรคหรอกหรือ?พอเห็นผู้เฒ่าน้อยคนนี้ สายตาฟู่จาวหนิงก็เย็นชาลงมาแล้วคนเช่นนี้เป็นความล้มเหลวทางการแพทย์จริงๆ"ดูไปก่อน" ฟู่จาวหนิงยังให้เซียวหลันยวนขังคนใช้คนนั้นไว้อยู่ หมอหม่าคนนี้พอไม่เห็นคนใช้กลับไปรายงาน แต่ก็ยังกล้ามาร่วมพิธีเดิมพันโอสถอีกหรือ"หมอหม่ามาๆๆ บอกไว้ก่อนนะ ดอกไม้นี้ทำได้แค่มองกับดม แต่ว่าที่นี่มีดอกที่ร่วงอยู่สามดอกก่อนหน้า หยิบขึ้นมาดูได้"เจี่ยหยวนไว่หยิบผ้าเช็ดมือขึ้นมาผืนหนึ่ง กางออกวางไว้บนโต๊ะ ด้านนั้นห่อดอกไม้ไว้สามดอกตามที่ว่าไว้"ไม่เคยเห็นคนงกขนาดนี้มาก่อนเลย"คนที่ล้อมดูอยู่ล้วนหัวเราะร่าขึ้นมา"แต่ว่า ดอกไม้นี้ไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วจะไปเดาคุณสมบัติทางยาได้อย่างไรกัน?" ยังมีคนรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่"ดังนั้นนี่ก็ไม่เรียกว่าเดิมพันแล้วสิ?""เจี่ยหยวนไว่" มีคนร้องเรียกขึ้นมา "ถ้ามีคนเดาถูกแต่เจ้าไม่ยอมรับล่ะจะว่าอย่างไร?""นั่นเป็นไปไม่ได้เลย" เจี่ยหยวนไว่หัวเราะร่าขึ้นมา "มีหมอหลายคนจากโรงหมอเมตตาคอยคุมอยู่นะ พวกเขาพอหยิบเอาดอกไม้ไปศึกษา ไม่นานก็ค้นคว้าถึงคุณค่าทา
ฟู่จาวหนิงมองเห็นซ่งหยวนหลินกระซิบกระซาบอะไรกับสาวใช้ข้างๆ สาวใช้คนนั้นพยักหน้า จากนั้นก็มุดออกไปจากกลุ่มคน"จงเจี้ยน เจ้าตามไปดูหน่อย" ฟู่จาวหนิงเองก็กดเสียงต่ำส่งสัญญาณให้จงเจี้ยนตอนที่นางไปขุดยาที่เขาจันทร์ลับฟ้า ซ่งหยวนหลินส่งคนออกไป นางก็จับคนได้แล้วเค้นถามออกมาซ่งหยวนหลินกับเซียวหลันยวนจะมีความคิดอะไรกันนางไม่สนใจ แต่ว่าซ่งหยวนหลินในเมื่อลงมือกับนางแล้ว มีแค้นแต่ไม่ชำระนี่ก็ไม่ใช่นิสัยของนางจงเจี้ยนสั่งการออกไปหมอหม่างุ่นง่านอยู่พักหนึ่งจึงเขียนคำตอบของเขาออกมา ตอนที่เขียนก็ดูระมัดระวังอย่างมากพอหยิบคำตอบไปหาผู้ดูแลเจียง เขาก็กลั้นลมหายใจ เฝ้ารออย่างเคร่งเครียดผู้ดูแลเจียงมองผาดหนึ่ง จึงส่ายหัว"ไม่ถูก"หมอหม่าถอนหายใจออกมาหนักๆ หน้านิ่วคอตกนั่นมันร้อยตำลึงนะ ร้อยตำลึงเลยนะ ขาดทุนหนักเลย!เจี่ยหยวนไว่กลับยิ้มแย้มแจ่มใส"ข้ามาลองหน่อย" เพียงไม่นานก็มีคนออกไปอีก"คุณหนู ท่านจะลองดูหน่อยไหม?" เสี่ยวเถาถามเสียงแถ่วกับฟู่จาวหนิง ถึงอย่างไรนางก็รู้สึกว่าวิชาแพทย์ของคุณหนูจะต้องดีกว่าหมอหลายคนในนี้แน่นอนท่านผู้เฒ่ากับหลินอันห่าวเองก็พิสูจน์จุดนี้ไปแล้ว"ดูอีกหน่อย
"เจ้านี่มันยังไงกัน" เสี่ยวเถาประคองตัวฟู่จาวหนิง เดือดดาลมากฟู่จาวหนิงดึงนางไว้ "ช่างเถอะ เช่นนั้นก็ให้ลุงที่ไม่เกะกะเขาดูหน่อย บางทีเขาอาจจะมองออกเลยก็ได้ว่านี่คือวัตถุดิบยาอะไร"ถูกฟู่จาวหนิงพูดเช่นนี้ ชายคนนั้นก็เงยหน้ายืดอกทันที "รู้ไหมว่าข้าเป็นใคร? ข้าคือเถ้าแก่รองแห่งโรงยาทงฝู! พวกเราเปิดโรงยานะ วัตถุดิบยาที่รู้จักก็มีมากกว่าขนมของว่างที่พวกเจ้ากินไม่รู้ตั้งเท่าไร แล้วจะไม่รู้จักได้หรือ?""เถ้าแก่รองหู" ข้างๆ มีคนรีบชูหางชายคนนี้ขึ้นมาทันที "เถ้าแก่รองหู ได้ยินว่าโรงยาของพวกท่านจะมาเก็บวัตถุดิบยาหายากในพิธีเดิมพันโอสถทุกครั้งสินะ ราคาเองก็ให้ดีด้วยใช่ไหม?""แน่นอน โรงยาทงฝูไม่ได้ด้อยกว่าพันธมิตรโอสถใต้หล้าเลย โรงยาทงฝูอย่างพวกเราไม่ได้ขาดแคลนเงินทอง ขอแค่วัตถุดิบยาดี ราคาไม่ใช่ปัญหา"ฟู่จาวหนิงนึกโรงยาทงฝูนี้ออกแล้วผู้นำตระกูลซือถูที่เคยบอกว่าเปิดโรงยาทงฝูก่อนหน้านั้นก็แยกตัวออกมาจากพันธมิตรโอสถใต้หล้า พอมีโรงยาทงฝู พันธมิตรโอสถใต้หล้าก็ถูกแบ่งไปครึ่งหนึ่ง บารมีเองก็ไม่ได้เด่นดังเช่นอดีตอีกแล้วซือถูไป๋ไม่ใช่ว่าเป็นคุณชายจากโรงยาทงฝูหรอกหรือ?"เหล่าซวี ลองบอกมาหน่อยว่
จงเจี้ยนเห็นนางเดินออกไปก็ตกใจเล็กน้อย หมอเทวดาหลี่ส่งกระดาษชิ้นนั้นให้กับสาวใช้ แต่เขาไม่ได้มันมานะ หรือว่าพระชายารู้บทบาทของดอกไม้กระถางนั้นแล้วกัน?ซ่งหยวนหลินมองไปยังทิศประตูเรือนทางนั้นอย่างร้อนรน รอสาวใช้คนนั้นกลับมาตอนนี้เองนางก็เห็นฟู่จาวหนิงเดินไปที่ด้านหน้ากระถางต้นไม้ หยิบหนึ่งร้อยตำลึงออกมา วางลงไปบนโต๊ะซ่งหยวนหลินถลึงตาดต นางทำไมจึงขึ้นไปกัน?ซุนหลานอินพอเห็นฟู่จาวหนิงขึ้นไปก็ไม่อยากเชื่อ นางกระตุกชายเสื้อซ่งหยวนหลิน "หยวนหลิน นั่งสารเลวคนนั้นขึ้นไปทำอะไรกัน?"ที่นางเกลียดฟู่จาวหนิงก็แทบจะไม่มีเหตุผลอะไร ถึงอย่างไรพอเห็นฟู่จาวหนิงสวยหน่อยนางก็ไม่ชอบแล้ว นางแต่งตัวก็ไม่เท่าไร น่าจะมีตัวตนฐานะสู้นางไม่ได้ แต่กลับสวยกว่านางแบบนี้ นางเกลียด"ใคร ใครจะไปรู้กัน?"ซ่งหยวนหลินปากบอกว่าไม่รู้ แต่อันที่จริงในใจกลับลนลานไม่ไหวเพราะนางรู้ว่าฟู่จาวหนิงไปขุดวัตถุดิบยามาได้สิบชนิดที่เขาจันทร์ลับฟ้า! ยิ่งไปกว่านั้นยังมีโสมม่วงอีกด้วย! หมอเทวดาหลี่ตอนนี้ยังอยากได้เจ้าโสมม่วงนั่นอยู่เลยดังนั้น ฟู่จาวหนิงจะต้องรู้เรื่องยาแน่ถ้านางมองออกจะทำอย่างไรกัน?"ข้าอยากถามหน่อย" ฟู่จาว
"เรื่องทุกเรื่องมีลำดับก่อนหลังเสมอ" กลุ่มผู้ชมมีคนไม่ชอบใจซ่งหยวนหลิน "ช้าไปหน่อยแล้ว เจ้าก็ดูไปก่อนเถอะ""นั่นสิ เดิมทีก็มากันทีละคนๆ นี่ คนอื่นเขาเขียนคำตอบเสร็จแล้ว ทำไมต้องมารอเจ้าด้วย?"ซ่งหยวนหลินหน้าแดงเถือกเจ้าคนสารเลวพวกนี้มายุ่งอะไรด้วยกัน?ซุนหลานเซียง(ซุนหลานอิน?)พอเห็นท่าทีของซ่งหยวนหลิน พอคิดถึงเรื่องที่นางส่งสาวใช้ออกไปเมื่อครู่ ในใจก็เข้าใจขึ้นมา ดูท่าซ่งหยวนหลินจะรู้คำตอบแล้วดอกไม้นี้ถ้าต้องให้ซ่งหยวนหลินหรือฟู่จาวหนิง นางก็คงหวังจะส่งให้ซ่งหยวนหลินนั่นล่ะดังนั้นพอเห็นคนรอบๆ ล้วนพูดแทนฟู่จาวหนิงขึ้นมา นางก็เดือดเสียแล้วซ่งหยวนหลินยังต้องรักษาบุคลิกภาพการวางตัวสุภาพและความใจกว้างของนางไว้ แต่นางไม่จำเป็น ใครก็รู้ว่าอารมณ์ของฮูหยินคุณชายใหญ่ซ่งไม่ดีเอามากๆซุนหลานเซียง(ซุนหลานอิน?)จึงชี้ด่าพวกเขาขึ้นมา"เดิมทีก็เป็นพวกเราที่คิดออกก่อน ตอนที่พวกเราจะออกไปนางก็แย่งขึ้นไปก่อน""ตอนนี้ทั้งสองคนส่งคำตอบออกไปก็จบแล้ว พวกเจ้าจะมาสอดปากกันทำไม?"พรวดมีคนหัวเราะขึ้นมาอย่างทนไม่ไหวว"พวกเจ้าคิดได้ก่อนแต่ไม่ยอมขึ้นไป? เมื่อครู่พวกเจ้าทำไมไม่พูด? เห็นๆ อยู่ว่าตอ
"อา ใช่ๆๆ" ผู้ดูแลเจียงรีบพูดกับเจี่ยหยวนไว่ "หญิงสาวคนนี้เขียนมาถูกต้อง""ไม่ ไม่ ข้าไม่เชื่อ" เจี่ยหยวนไว่ราวกับถูกฟ้าผ่าใส่เขาไม่อยากจะเชื่อผลลัพธ์นี้!"เจ้าพูดว่าอะไรนะ?" ผู้ดูแลเจียงหน้าขรึมลง "เจ้าสงสัยในตัวข้าหรือ?"เพิ่งจะพูดว่าเชื่อมั่นในตัวเขามาตลอด ตอนนี้มาบอกว่าคนไม่น่าเชื่อถือคือเขาหรือ?เจี่ยหยวนไว่ตื่นเต้นมากไป "ไม่ใช่ไม่ใช่ ผู้ดูแลเจียง ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น!"เขาไม่สามารถผิดใจกับผู้ดูแลเจียงได้"ข้าไม่เชื่อ!" ซุนหลานอินร้องขึ้นมา "พวกเจ้าเห็นเสื้อผ้าที่นางใส่ ดูการแต่งตัวของนาง ดูแล้วเหมือนกับผียาก! นางจะมารู้ผลลัพธ์ของดอกไม้กระถางนี้ได้อย่างไรกัน?"ซ่งหยวนหลินหน้าแข็งทื่อ ถูกเล่นงานจนพังทลายไปแล้วนางรู้อยู่แล้ว!ลางสังหรณ์นางเมื่อครู่นั้นถูกต้อง นางรุ้สึกว่าฟู่จาวหนิงน่าจะเดาได้แล้ว ตอนนี้ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ!"ฮูหยินคนนี้หมายความว่าอะไร? หรือพวกเราต้องมองการสวมใส่การแต่งตัวของคนอื่นเพื่อมาตัดสินว่ารู้เรื่องยาหรือไม่หรือ?" ผู้ดูแลเจียงโมโหแล้ว"นางดูแล้วก็ไม่เหมือนคนที่รู้นี่! ถึงอย่างไรข้าก็ไม่เชื่อ จะมีคนแอบบอกคำตอบให้แก่นางหรือเปล่า?" ซุนหลานอินไม่
ฟู่จาวหนิงรู้สึกฮูหยินคุณชายใหญ่ซ่งคนนี้สมองมีปัญหาสุดๆ"ไม่ขาย""ข้าจะซื้อห้าร้อยตำลึง" ซุนหลานอินถลึงตามองนาง "เจ้าไม่ได้ออกเลยสักแดงเดียว ได้เงินห้าร้อยตำลึงมาเปล่าๆ น่าจะพอใจแล้วกระมัง"นางยังยืนยันว่าฟู่จาวหนิงเป็นผียาจกผียาจกหาเงินได้ห้าร้อยตำลึงในคราวเดียวก็น่าจะแอบอมยิ้มแล้ว ยังกล้าไม่ขายอีกหรือ?"ฮูหยิน ช่างเถอะ" ซ่งหยวนหลินดึงซุนหลานอินไว้ห้าร้อยตำลึงนางก็ไม่อยากจะออกนางไปหาข้อมูลมาแล้ว หลังจากพิธีแต่งงานของฟู่จาวหนิงนางก็ยังกลับไปที่บ้านตระกูลฟู่ หรือก็คืออ๋องเจวี้ยนไม่ได้เห็นนางอยู่ในสายตา คนของจวนอ๋องเองก็ไม่มองนางเป็นพระชายาที่แท้จริงด้วย ตอนนี้ฟู่จาวหนิงยังแต่งตัวซอมซ่อเช่นนี้ ก็น่าจะไม่มีพลังคุกคามใดดังนั้น ดอกไม้กระถางนี้ รอพวกเขาเอาออกไปจากอุทยานท่าโม่เสียก่อน นางค่อยส่งคนไปแย่งมาก็จบ!"หยวนหลิน เจ้าไม่ชอบหรือ? ต้องเอามันมา" ซุนหลานอินมองฟู่จาวหนิงอย่างหยามหมิ่น "ถ้าห้าร้อยตำลึงไม่พอ แปดร้อยตำลึงล่ะเป็นอย่างไร? แปดร้อยตำลึง พอเจ้าซื้อเสื้อใหม่เครื่องประดับใหม่หลายชิ้นหลายตัวเลย ข้าขอเตือนว่าเป็นคนก็อย่าได้โลภมากนัก!"พวกเขาเดินออกมาจากกลุ่มคนแล้ว และมีคน
"ก็ยังไม่ได้ เพราะข้าไม่ได้จะขาย""วันนี้เจ้าจะขายก็ขาย ถ้าไม่ขายก็ต้องขาย"ซุนหลานอินถูกนางกระตุ้น จึงร้องโกรธขึ้นมาซ่งหยวนหลินพอเห็นก็รู้สึกว่าไม่ดีเสียแล้ว "โรค" ของสะใภ้ใหญ่นางคงไม่ได้กำเริบอีกแล้วหรอกนะนางเห็นว่าคนไม่น้อยล้วนมองมาที่ซุนหลานอินแล้ว ถ้าอยู่สถานที่อื่นก็ยังไม่เป็นไร แต่ที่นี่คืออุทยานท่าโม่นะ ตอนนี้พวกเขากำลังเดิมพันโอสถกันอยู่ ถ้ามาอาละวาดที่นี่ คนที่ขายหน้าก็คือบ้านตระกูลซ่งซ่งหยวนหลินกระชากซุนหลานอินออกมา"สะใภ้ใหญ่ สะใภ้ใหญ่ พวกเราไม่ทำเรื่องอย่างบังคับซื้อบังขายกันหรอก นางไม่ขายก็ช่างเถอะ พวกเราไปดีกว่า ไปดูอย่างอื่นกัน"ซ่งหยวนหลินดึงซุนหลานอินออกมาอย่างยากลำบาก และเพราะนางใจร้อน จึงไม่ทันเห็นอ๋องเจวี้ยนที่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ด้านนอก"ผู้ดูแลเจียง ถ้าท่านต้องการสองดอกก็นำปเถอะ ข้าขายให้ท่านได้" ฟู่จาวหนิงเด็ดสองดอกให้แก่ผู้ดูแลเจียงด้วยมือนางเอง "ตั๋วเงินข้าก็เก็บไปแล้วนะ ขอบคุณมาก"ฟู่จาวหนิงเก็บหนึ่งร้อยตำลึงของผู้ดูแลเจียงลงมาอย่างไม่มีลังเลมีคนเห็นฉากนี้แล้วรู้สึกว่านางไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลย นั่นผู้ดูแลเจียงนะ มอบดอกไม้ให้เขาเลยยังจะได้มิตรภาพมาตั้
"พระชายา เอาข้าวเช้ากับน้ำร้อนมาให้แล้วขอรับ"เสียงของสืออีดังลอดเข้าาฟู่จาวหนิงเดินออกไป "วางไว้ตรงนั้นเลย เจ้าอย่าเข้ามานะ"พอเหลือบมองไป นางยังเห็นฟู่จิ้นเชินด้วย พวกเขาคนหนึ่งหิ้วน้ำร้อน คนหนึ่งถืออาหารเช้า"จาวหนิง เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?" ฟู่จิ้นเชินยืนนิ่ง ถึงแม้อยากจะเดินเข้ามา แต่ก็รู้ว่าฟู่จาวหนิงจะไม่ให้เขาเข้าไป"ข้าไม่เป็นไร คนป่วยข้างนอกพวกนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?"ฟู่จาวหนิงถามถึงสองพี่น้องเสี่ยวเฟิงเสี่ยวยา พอรู้ว่าพวกเขาไม่เป็นไร นางจึงวางใจลงได้ถือว่าโชคดีจริงๆ ที่หญิงสาวคนนี้มาถึงหลังจากที่พวกเขาทำงานไปแล้วหลายวัน ตอนนี้คนอื่นๆ ปรับตัวได้แล้ว ทำงานกันได้สมเหตุสมผลหมดแล้ว รู้ว่าตัวเองควรทำอะไรถ้าเป็นเมื่อสามวันก่อน พอนางออกห่าง คนป่ววยพวกนั้นก็ไม่รู้ต้องทำอย่างไร คงจะวุ่นวายกันไปหมดแน่"ผู้ช่วยหมอสามคนที่ใต้เท้าอันหามาก็เพิ่งมาถึง ข้าให้เสี่ยวเยว่นำพวกเขาไปแล้ว ข้าเห็นว่าพวกเขาเองก็มือไม้คล่องแคล่วทำงานได้ดีอยู่ เจ้าไม่ต้องกังวล""ได้ สืออี ไปดูทหารขุนพลบัญชาการกับผู้ประสบภัยคนอื่นที่สัมผัสกับป้าคนนี้หน่อย ระวังด้วยนะ" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง"่ขอรับ"สืออี
อย่างในเวลานี้ คนเราจะลนลานหวาดกลัวกัน ถึงอย่างไรครอบครัวหญิงสาวคนนั้นก็ป่วยตายกันไปห้าคนแล้วนะ โอกาสตายสูงขนาดนี้ ใครจะไม่กล้วบ้าง?ถ้าเผื่อติดโรคแล้วต้องตายล่ะ..."เช่นนั้นศิษย์น้องหญิงรักษาโรคนี้ได้จริงไหม?" ต่งฮ่วนจือก็ตึงเครียดขึ้นมาแล้ว"เรื่องนี้นางยังไม่ได้บอก เพราะไม่ให้ใครเข้าไปเลย พวกเราตอนี้ก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร นางแค่บอกว่าไม่ต้องกังวล"แล้วจะไม่กังวลกันได้อย่างไร?ถึงแม้ฟู่จาวหนิงท้ายสุดจะรักษาโรคนี้ได้ แต่หลังจากระบาดไปจะต้องเป็นช่วงเวลาที่ลำบากมากช่วงหนึ่งแน่"เมืองเจ้อที่นี่เดิมทีก็น่าจะมีหมออยู่ไหม? พวกเขาไม่เข้ามาช่วยเลยหรือ?" ต่งฮ่วนจือถามรู้สึกว่าฟู่จาวหนิงแค่คนเดียวมันเหนื่อยเกินไปอันเหนียนเล่าสถานการณ์ของหมอที่นี่กับเขาอันที่จริงสองวันนี้เขาก็หาตัวลูกศิษย์ที่อยู่ในโรงหมอแต่เดิมมาได้สามคนแล้ว ให้พวกเขาเก็บข้าวของแล้วมาช่วยกันที่นี่มีฟู่จาวหนิงคอยนำพวกเขา สำหรับพวกเขาถือเป็นโอกาสในการเรียนที่สุดยอดมาก"พรุ่งนี้เช้าจะมีผู้ช่วยหมอสามคนเข้ามา พวกเขาจะมากน้อยก็มีพื้นฐานอยู่บ้าง ถึงตอนนั้นยังสามารถช่วยเหลือได้""เป็นแค่ผู้ช่วยหมอ ศิษย์น้องหญิงค
"พระชายา" สืออีกังวลมาก มองฟู่จาวหนิงที่นั่งอยู่บนเตียงหลัวฮั่นข้างหน้าต่าง "ท่านจะทำอย่างไร?"หรือว่านางจะอยู่เฝ้าที่นี่ตลอดกัน?ในเมื่อโรคนี้อันตรายขนาดนี้ พระชายาต่างหากถึงจำเป็นต้องมีการคุ้มครองมากที่สุด"อีกเดี๋ยวข้าจะไปห้องข้างๆ ไม่ได้อยู่ที่นี่เฝ้าทั้งคืนหรอก" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น "ไม่ต้องกังวล"ตอนกลางคืนที่นางอยู่คนเดียวก็เข้าไปในห้องเภสัช หลายวันช่วงนี้นางล้วนนอนอยู่ในห้องเภสัช ถึงอย่างไรก็เป็นสถานที่ของตนเอง ต้องดีกว่าห้องรับแขกที่จัดขึ้นชั่วคราวมากอยู่แล้วตอนนี้มีโรคที่ระบาดได้ นางมานอนอยู่ในมิติของตนเองประสิทธิภาพในการกักกันก็ยิ่งดีกว่า"แล้วพระชายากินข้าวหรือยัง?" สืออีถาม"อีกเดี๋ยวจะกิน""ข้าจะไปนำอาหารมาให้ จะเอามาเยอะหน่อย พระชายาจะได้กินให้มากอีกนิด""ดีเลย"สืออีออกไปแล้ว พอเห็นสือซานที่อยู่ข้างๆ ประตูวงกลม "ให้คนมาเปลี่ยนกับเจ้าคืนนี้""ไม่ ข้าเฝ้าเองยังวางใจกว่า" สือซานกลับไม่ยอมฟู่จาวหนิงให้เขาเฝ้าที่นี่ไม่ปล่อยให้ใครเข้าไป ใจเขาก็ไม่ค่อยสงบแล้ว ว่ามีโรคร้ายอะไรที่ทำให้พระชายาต้องระมัดระวังขนาดนี้?นางไม่ให้คนอื่นเข้าใกล้ แล้วตัวนางเองล่ะ?สืออีเองก
ไข้หวัดปกติก็สามารถระบาดได้ แต่นางไม่ได้ให้คนทำการกักกันดังนั้นตอนนี้พอได้ยินว่าไปที่ห้องผู้ป่วยนั้น อันเหนียนก็เข้าใจความหมายขึ้นมาทันที"นางอยู่ที่นั่นคนดียวหรือ? น้ำเสียงเขาเครียดขึ้นมา"และการเปลี่ยนท่าทีเช่นนี้ของอันเหนียน ต่งฮ่วนจือก็สัมผัสได้แล้วอย่างชัดเจนเขามองอันเหนียน จากนั้นก็มองฟู่จิ้นเชิน "เกิดอะไรขึ้นหรือ? ห้องผู้ป่วยนั่นมีอะไรผิดปกติไหม?""ก่อนหน้านี้มีไป๋หู่กับเสี่ยวเยว่ส่งคนไปที่นั่น ตอนนี้มีฟู่จาวหนิงอยู่คนเดียว" ฟู่จิ้นเชินไม่ได้ตอบคำถามต่งฮ่วนจือแต่ต่งฮ่วนจือก็มองออก ว่าในสายตาเขามีความกังวลขึ้นมาเต็มที่เพียงแต่ชายหนุ่มสองคนนี้ล้วนเป็นพวกไม่ค่อยเผยอารมณ์ออกมาเท่าไรนัก เป็นคนที่หนักแน่นใจเย็นมาก ดังนั้นเขาเองก็พิจารณาถึงความหนักหนาได้ลำบากอันเหนียนยกเท้าไปทางนั้นทันที"ใต้เท้าอัน"ฟู่จิ้นเชินจับแขนเขาไว้ สายตาเปลี่ยนไปเล็กน้อย น้ำเสียงเองก็กดลงมาอันเหนียนได้สติกลับมาในพริบตา ยืนนิ่งไปแล้ว"นางกำชับอะไรไว้ไหม? ทำตามที่นางว่าเลย" เสียงอันเหนียนเรียบสงบแต่ว่า ฟู่จิ้นเชินมองเขาลึกๆรู้อยู่แท้ๆ ว่าห้องผู้ป่วยนั้นเป็นตัวแทนของอะไร ขนาดตัวเขาฟู่จาวหนิง
อันเหนียนวันนี้พอวุ่นเสร็จ ก็พาคนหนึ่งมาที่โรงหมอฟู่จิ้นเชินเห็นคนที่เข้ามาก็รู้สึกเกินคาด"ผู้จัดการใหญ่ต่ง?"ต่งฮ่วนจือมาแล้ว"คุณชายฟู่"หลังจากต่งฮ่วนจือเข้ามา ด้านหลังก็ยังมีคนอีกหลายคน แบกวัตถุดิบยาเข้ามาหลายหามใหญ่ย่ิงไปกว่านั้นหลังจากพวกเขาวางลง ก็ออกไปแบกรอบที่สอง"นี่คือ?"อันเหนียนเอ่ยต่อให้ "ผู้จัดการใหญ่ต่งขนวัตถุดิบยาเข้ามาให้โดยเฉพาะ พระชายาสองวันก่อนไม่ใช่ว่าเข้าไปหาผู้ดูแลทางนี้มาหรอกหรือ? บอกวัตถุดิบยาที่ขาดกับผู้ดูแลพันธมิตรโอสถไป บอกว่าจะควักเงินจ่ายเอง ให้เขาคิดหาวิธีหน่อย""ไวขนาดนี้ ผู้จัดการใหญ่ต่งก็ได้รับข่าวแล้วหรือ?"เพิ่งจะสองวันเอง เป็นไปได้อย่างไรกัน?จากเมืองหลวงมานี่ยังต้องใข้ตั้งหลายวันพอคำนวณเวลา ต่งฮ่วนจือพอพวกเขาออกเดินทางได้สองวันก็คงจัดการแล้ว"อันที่จริงผู้ดูแลทางนี้ก็เขียนจดหมายถึงข้านานแล้ว บอกสถานการณ์ของทางนี้ ดังนั้นพวกเราจึงจัดการโยกวัตถุดิบยาจากที่อื่นเข้ามาก่อน แค่ยังไม่รู้ว่าต้องส่งไปที่ไหน แค่เตรียมการไว้ก่อน"ต่งฮ่วนจือก็เร่งเดินทางมาหลายวัน สีหน้าอ่อนล้า แต่ก็ยังอธิบายออกมา"ข้าเคยบอกกับศิษย์น้องหญิงแล้ว วัตถุดิบยาสำห
ฟู่จาวหนิงรีบพูดออกมาคำหนึ่ง จากนั้นจึงหยิบเข็มออกมา รีบปักเข็มสกัดไอให้หญิงสาวไปหลายเข็มทางเดินหายใจ ปอด นางเรียนวิชาเข็มที่สามารถหยุดชะงักการไอได้ชั่วคราว ได้ใช้เสียทีหญิงสาวที่เดิมทีไอจนจะเป็นจะตายก็พบว่าตนเองหยุดไอแล้วนางมองฟู่จาวหนิง รู้สึกเหมือนได้เจอกับพระโพธิสัตว์ตัวเป็นๆ"เจ้านอนดีดี ข้าจะจับชีพจรให้ แล้วจะถามคำถามเจ้า เจ้าผ่อนคลายหน่อย""ได้ ได้"หญิงสาวเมื่อครู่ไอจนแทบไม่ไหวแล้วจริงๆ ตอนนี้แม้จะหยุดไอแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกแย่อยู่ฟู่จาวหนิงจับชีพจรให้นางอย่างละเอียด ใจดำดิ่งเป็นไข้หวัดใหญ่รุนแรงจริงๆ ด้วยที่นี่ยังไม่มีแยกชนิดเอหรือบี แต่ว่าชีพจรของหญิงสาวก็ไม่ค่อยจะเหมือนกับไข้หวัดใหญ่ของผู้ป่วยทั่วไปที่รักษาไปช่วงนี้ แตกต่างอยู่หน่อยๆนางหยิบปืนวัดไข้ ปิดตาหญิงสาวไว้ แล้ววัดที่หน้าผากนางอย่างรวดเร็ว มองตัวเลขจากนั้นจึงรีบเก็บเข้าไปนคลังสกัดยามีของบางอย่างที่ใช้ได้รวดเร็ว นางเองก็ไม่ได้ยึดติดว่าห้ามใช้เด็ดขาดสี่สิบองศามีไข้ถึงสี่สิบองศาเชียวดวงตาของหญิงสาวแดงหน่อยๆ ริมฝีปากเองก็แดงผิดปกติ"เจ้าเข้าเมืองมาตอนไหน?" ฟู่จาวหนิงถาม"เข้าเมืองมาวันนี้ตอนกลางว
ยาต้มหกประสาทเอาไว้ป้องกันไข้หวัดรุนแรงฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้เจอักบคนป่วยคนหนึ่ง จากที่เขาบรรยาย ระหว่างทางที่หนีภัยพิบัติเจอเข้ากับครอบครัวหนึ่ง ล้วนเป็นหวัดกันหมด ไออย่างรุนแรง เดิมทีเดินทางด้วยกันแค่ไม่กี่วัน ผลลัพธ์คือครอบครัวนั้นแค่ไม่กี่วันก็ทยอยกันล้มตายไปล้วสามคนเดิมทีพวกเขายังคิดว่าเป็นแค่หวัด ทนเอาเสียหน่อย ต้มน้ำร้อนกินก็น่าจะไหว ครอบครัวนั่นบอกว่าระหว่างทางยังขุดหาสมุนไพรมากิน แต่ก็ทนกันไม่ไหวคนป่วยนี้บอกว่าเขาเห็นสถานการณ์นี้แล้วก็หวั่นขึ้นในใจ ไม่กล้าอยู่ใกล้พวกเขานัก แม้จะไปทางเดียวกัน แต่ก็ยังเว้นระยะห่างไว้ค่อนข้างมากครอบครัวนั้นสุดท้ายก็รั้งท้ายอยู่ไกล ไม่รู้ว่าเข้าเมืองแล้วหรือยังตอนนี้มองเห็นรองเท้าที่เก่าขาดบนเท้าของหญิงสาวคนนี้ แล้วบนหัวยังมีผ้าขาวผืนเล็กผืนหนึ่งผูกไว้ นางก็ไม่รู้เพราะอะไรจึงนึกถึงครอบครัวนั้นขึ้นมา"ให้สืออีไปถาม ว่าหญิงสาวคนนี้มาจากทางไหน แล้วก็ถามด้วยว่านางสัมผัสกับใครบ้าง จัดการเอาคนเหล่านี้แยกตัวออกมาก่อน"ฟู่จาวหนิงเปิดกล่องยาพลางถอยออกมาบอกกับไป๋หู่"อ้อ แล้วก็ให้สืออีป้องกันก่อนแล้วค่อยไป หาอยู่กับคนเหล่านั้นใกล้นัก จำเรื่องที่
ฟู่จาวหนิงเองก็กำลังคิดถึงปัญหานี้"แต่ว่าตงฉิงล่มสลายหายไปนานแล้ว" นางเอ่ยขึ้นทั้งสองคนนิ่งต่อไปครู่หนึ่งและเพราะล่มสลายไปแล้วจริงๆ ตอนนี้พูดเรื่องนี้ก็ไม่มีความหมายเท่าไรแล้วที่ฟู่จาวหนิงไม่ได้พูดก็คือ เซียวหลันยวนส่งหลานหรงไปค้นหาคนกับเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับตงฉิงมาตลอด แล้วยังไปที่ซากปรักหักพังเก่าของตงฉิงมาแล้วด้วยมีฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยวที่เคยไปแล้วคอยชี้ทาง บางทีไม่นานนัก พวกเขาก็น่าจะพบอะไรบ้าง"เรื่องนี้ ข้ากลับไปจะบอกท่าน" ฟู่จาวหนิงเอ่ยตอบ"ทูตแคว้นหมิ่นมาแคว้นเจาครั้งนี้ ไม่รู้ว่ามีเป้าหมายอะไร แต่ข้าก็รู็สึกว่าน่าจะมาอย่างไม่เป็นมิตร"มาอย่างไม่เป็นมิตร?ฟู่จาวหนิงไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร แคว้นหมิ่นส่งของมากมายเข้ามา ฟู่จิ้นเชินกลับบอกว่าพวกเขามาอย่างไม่ค่อยเป็นมิตรหรือ?แต่นางเองก็ไม่ค่อยสันทัดกับเรื่องพวกนี้ ถึงอย่างไรนางก็เก่งในการรับมือปัญหาเฉพาะหน้ามาตลอดทั้งสองคนยังจะพูดอะไรต่อ แต่เสี่ยวยาก็วิ่งเข้ามา ร้องเรียกนางอย่างร้อนรน"พี่ฟู่ มีป้าคนหนึ่งเป็นล้มที่ประตู เสี่ยวยาประคองนางไม่ไหว!"พี่น้องเสี่ยวยาทั้งสองคนหลายวันนี้พักฟื้นอยู่ที่นี่ หลังจากแผลบนห
"ต้นผลอายุวัฒนะ?"ฟู่จาวหนิงพอเห็นสิ่งนี้ก็รู้สึกประหลาดใจ ไม่คิดว่าจะมีของแบบนี้อยู่จริงๆ?"ต้นผลอายุวัฒนะอะไร?" ฟู่จิ้นเชินเดินเข้ามาฟู่จาวหนิงส่งจดหมายให้เขา ครั้งนี้จดหมายของเซียวหลันยวนเขียนถึงสี่หน้า หน้าสุดท้ายคือคำรักที่เขาให้คนอื่นเห็นไม่ได้ แต่สามหน้าด้านหน้า ฟู่จาวหนิงไม่ติดใจที่จะให้ฟู่จิ้นเชินเห็นและเพราะในช่วงหลายวันนี้นางคุยกับคนป่วยมาก วันๆ วุ่นจนไม่ได้ดื่มน้ำ คอเองก็ปวดขึ้นมาหน่อยๆ กล่องเสียงก็แหบพร่า ตอนนี้พูดได้น้อยเท่าไรก็จะยิ่งดีอธิบายขึ้นมาต้องพูดหลายประโยคฟู่จิ้นเชินลิงโลดในใจถึงอย่างไรฟู่จาวหนิงก็ไม่เลี่ยงเขาแล้ว ยังเอาจดหมายของเซียวหลันยวนมาคุยกับเขาได้ น่าจะอธิบายได้ว่านางเองก็เริ่มเชื่อใจเขาขึ้นมาแล้วไม่เสียแรงที่ตามนางมาถึงเมืองเจ้อเพียงแต่ว่า ฟู่จาวหนิงกลับคิดไม่ถึง ว่าเขาอ่านจดหมายถเสร็จก็ให้คำตอบยืนยันกับนางมา"ผลอายุวัฒนะ มีอยู่จริงๆ มีบทบาทการบำรุงและการรักษามาก"ฟู่จาวหนิงตกตะลึง "ท่านรู้จักหรือ?"ยืนยันมาได้ขนาดนี้ เขาคงไม่ได้เคยเห็นมาก่อนหรอกนะ?"เจ้าจำเรื่องที่ข้ากับแม่เจ้าไปที่ตงฉิงมาก่อนได้ไหม?""อืม"พวกเราเดิมทีไม่ได้จะตรงไ