"ก็ยังไม่ได้ เพราะข้าไม่ได้จะขาย""วันนี้เจ้าจะขายก็ขาย ถ้าไม่ขายก็ต้องขาย"ซุนหลานอินถูกนางกระตุ้น จึงร้องโกรธขึ้นมาซ่งหยวนหลินพอเห็นก็รู้สึกว่าไม่ดีเสียแล้ว "โรค" ของสะใภ้ใหญ่นางคงไม่ได้กำเริบอีกแล้วหรอกนะนางเห็นว่าคนไม่น้อยล้วนมองมาที่ซุนหลานอินแล้ว ถ้าอยู่สถานที่อื่นก็ยังไม่เป็นไร แต่ที่นี่คืออุทยานท่าโม่นะ ตอนนี้พวกเขากำลังเดิมพันโอสถกันอยู่ ถ้ามาอาละวาดที่นี่ คนที่ขายหน้าก็คือบ้านตระกูลซ่งซ่งหยวนหลินกระชากซุนหลานอินออกมา"สะใภ้ใหญ่ สะใภ้ใหญ่ พวกเราไม่ทำเรื่องอย่างบังคับซื้อบังขายกันหรอก นางไม่ขายก็ช่างเถอะ พวกเราไปดีกว่า ไปดูอย่างอื่นกัน"ซ่งหยวนหลินดึงซุนหลานอินออกมาอย่างยากลำบาก และเพราะนางใจร้อน จึงไม่ทันเห็นอ๋องเจวี้ยนที่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ด้านนอก"ผู้ดูแลเจียง ถ้าท่านต้องการสองดอกก็นำปเถอะ ข้าขายให้ท่านได้" ฟู่จาวหนิงเด็ดสองดอกให้แก่ผู้ดูแลเจียงด้วยมือนางเอง "ตั๋วเงินข้าก็เก็บไปแล้วนะ ขอบคุณมาก"ฟู่จาวหนิงเก็บหนึ่งร้อยตำลึงของผู้ดูแลเจียงลงมาอย่างไม่มีลังเลมีคนเห็นฉากนี้แล้วรู้สึกว่านางไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลย นั่นผู้ดูแลเจียงนะ มอบดอกไม้ให้เขาเลยยังจะได้มิตรภาพมาตั้
เซียวหลันยวนรู้สึกว่าตนเองเหมือนถูกฟู่จาวหนิงจับไว้จนอยู่หมัดและไม่เคยมีหญิงสาวคนไหนทำให้เขารู้สึกไร้กำลังเช่นนี้ เขาต้องการนางจริงๆ"เช่นนั้นดอกไม้นั่นมีประโยชน์อะไรกับข้า?" เขากัดฟันถามขึ้น"ดอกไม้นี้ ข้าสามารถสกัดเป็นน้ำยาบำรุงชนิดหนึ่งทำให้ดอกออกมาเยอะ และสามารถยืดระยะการบานของดอกให้บานตลอดเวลาได้ จากนั้นนำดอกไม้นี้มาทำเป็นถุงหอม ใส่ผงยาบางส่วนเพิ่มเข้าไป ก็จะกลายเป็นยาทานตอนที่อาการเจ็บปวดของท่านกำเริบขึ้น ดื่มลงไปแล้วจะบรรเทาความเจ็บปวดลงได้"ฟู่จาวหนิงแกว่งๆ มือ เป็นสัญญาณให้เขาปล่อยมือเซียวหลันยวนจำใจ จนต้องปล่อยมือของนางออก"ถ้าทำเป็นถุงหอมท่านก็พกติดตัวไว้ ตอนที่เจอกับกลิ่นคาวเลือดก็เอาถุงหอมมาวางไว้หน้าจมูกแล้วสูดดม จะสามารถบรรเทากลิ่นคาวเลือดที่ทำให้ท่านกระอักลงได้ ท่านจะไม่อาเจียนและเวียนหัวอีกแล้ว ท่านคิดว่า ดอกไม้นี้ไม่ใช่ว่ามีประโยชน์กับท่านมากเลยหรือ เชื่อข้าเถอะ ไม่มีใครจะเหมาะที่จะซื้อดอกไม้กระถางนี้มากเท่าท่านแล้ว"ตอนที่นางมองกระถางดอกไม้นี้ออกก็คิดจะเดิมพันมาให้ได้แล้ว จากนั้นก็เอามาขายให้เซียวหลันยวนเพราะว่าเขาตอนนี้เป็นคนที่ต้องการดอกไม้กระถางนี้มากที
เซียวหลันยวนรู้สึกว่าท่าทางของฟู่จาวหนิงดูจะภาคภูมิใจไปหน่อย"ได้ พอกลับไปที่จวนอ๋องแล้วค่อยคุยกัน" เซียวหลันยวนโบกไม้โบกมือ "ตอนนี้ข้าไม่อยากเห็นเจ้าชั่วคราว""ได้เลย เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน"ฟู่จาวหนิงหัวเราะร่าสองเสียง หมุนตัวเดินออกไปเสี่ยวเถาเห็นทั้งหมด ถลึงตาโตอ้าปากค้างเดิมทีคุณหนูกับอ๋องเจวี้ยนอยู่ด้วยกันแบบนี้หรือ? คุณหนูไม่กลัวอ๋องเจวี้ยนเลยหรือ?"คุณหนู ท่านชิงเงินจากอ๋องเจวี้ยนมาตั้งเยอะ เขาจะไม่โกรธเอาหรือ?" เสี่ยวเถาเองก็กังวล ถ้าอ๋องเจวี้ยนโมโหขึ้นมาจะทำอย่างไร?"โกรธแล้วจะทำไมล่ะ? ไม่เป็นไร เขายังต้องการข้าอยู่" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"เช่นนั้นถ้าเขาไม่ต้องการแล้วล่ะ?" เสี่ยวเถาถามออกมาฟู่จาวหนิงชะงัก พูดต่อว่า "เช่นนั้นก็รอตอนเขาไม่ต้องการแล้วค่อยว่ากันเถอะ"นางตอนนี้สนใจมากขนาดนั้นได้เสียที่ไหนฟู่จาวหนิงหมุนหัวไปหน้าแผงของเหล่าซวีเถ้าแก่รองหูคนนั้นไม่ได้รู้จักยาชนิดนี้เลย มีหลายคนเข้าไปดูแต่ก็ไม่มีใครมองออกว่าเปลือกไม้นั้นคือยาอะไร และมีคนที่ไม่ได้มองเลยด้วยซ้ำ พอได้ยินว่าต้องซื้อด้วยสองพันตำลึงก็หันหน้าหนีคนไม่น้อยกำลังหัวเราะเหล่าซวีว่าขัดสนจนบ้าไปแล้ว เ
"ถูกต้อง ทำไมหรือ?"ฟู่จาวหนิงคิดไม่ถึงว่าคนผู้นี้จะโผล่ออกมาอีก"เจ้าไปเอาเงินมมาจากไหนตั้งสองพันตำลึง?" เถ้าแก่รองหูขมวดคิ้ว"นี่ก็น่าตลกเกินไปแล้ว เงินข้ามาจากไหนก็ต้องบอกท่านด้วยหรือ? ท่านจะสนใจมากเกินไปไหม?"ฟู่จาวหนิงถูกเขาแหย่จนสนุกเสียแล้ว"เมื่อครู่เจ้าเดิมพันกระถางดอกไม้นั่งเจี่ยหยวนไว่มาได้!""ดังนั้น?""ไปกับทางทางนั้นหน่อย พวกเราหาที่เงียบๆ คุยกันดีกว่า ข้ากับเจ้ามาเจรจาซื้อขายกัน ของเหล่านี้เจ้านำไปก็ไม่มีประโยชน์ ขายดอกไม้กับวัตถุดิบยาเหล่านี้ขายให้ข้าเถอะ"เถ้าแก่รองหูพูดแล้วยื่นมือส่งสัญญาณให้นางเดินตามไปจงเจี้ยนขวางไว้ด้านหน้าฟู่จาวหนิง มองเขาด้วยสายตาเย็นชา "อยากตายหรือไรกัน?""รู้ไหมว่าข้าเป็นใคร? ข้าคือเถ้าแก่รองจากร้านสาขาโรงยาทงฝูในเมืองหลวงนะ""ไสหัวไป" ฟู่จาวหนิงร้อยขึ้นเสียงเย็นชา "ใครจะขายของให้ท่านกัน?""เจ้ากล้าผิดใจกับข้าหรือ?""เจ้าเป็นเถ้าแก่รองจากร้านสาขาโรงยาทงฝูในเมืองหลวงสินะ ข้ารู้จักแล้ว ถ้ายังไม่หนีไปอีก ข้าจะเล่นงานเจ้าจนแม่เจ้าจำไม่ได้เลย" ฟู่จาวหนิงหมดความอดทนกับคนนี้แล้วนางหมุนตัวเดินออกมาเถ้าแก่รองหูมองจงเจี้ยน ไม่กล้าเข้ามา
ดูท่าหลี่จื่อเหยาจะถูกคุ้มตัวไว้ได้ไม่นานเท่าไร หมอเทวดาหลี่ก็ดึงนางออกมาเสียแล้วหลี่จื่อเหยาทางนี้ ยังมีเซียวเหยียนจิ่งอีกด้วยคนคุ้นเคยมารวมตัวกันหมดเลยแฮะทางนี้มีศาลาอยู่แห่งหนึ่ง ในศาลามีแคร่กับเก้าอี้วางอยู่ รอบด้ามีคนมุงอยู่ไม่น้อยตอนนี้ในศาลามีหญิงสาวที่ใบหน้าครึ่งหนึ่งกลายเป็นสีม่วงไปแล้ว หมอเทวดาหลี่กับหมออีกหลายคนกำลังล้อมดูอยู่ข้างๆผู้อาวุโสจี้บอกว่า "เห็นท่าทางภาคภูมิใจของเจ้าสกุลหลี่นั่นไหม? เขาเพิ่งจะรักษาคนป่วยโรคประหลาดไปได้สองคน! กินชื่อกินเสียงไปจนเขาแทบจะกระดกหางขึ้นมาแล้ว! แต่ข้าก็ยังสงสัย ว่าคนป่วยสองคนนั้นคือคนที่ตัวเขาหามาเอง"เรื่องเช่นนี้หมอเทวดาหลี่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยทำมีคนป่วยบางส่วน เดิมทีเขารักษาได้นานแล้ว แต่ไม่ยอมรักษามาโดยตลอด คิดจะดึงพวกเขามาจนถึงตอนนี้ แล้วพามารักษาที่นี่ต่อหน้าธารกำนัล ถึงจะทำให้คนได้เห็นความเก่งกาจด้านวิชาแพทย์ของเขามีคนป่วยที่ดึงไว้ดึงไว้ ดึงจนอาการหนักกว่าเดิม"แล้วนั่นคือผู้ป่วยคนที่สามหรือ?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้น"ใช่ หญิงสาวคนนี้นางมาเอง นางบอกว่าครึ่งปีก่อนบนหน้าก็ม่วงขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจ คิดว่า
ฟู่จาวหนิงแค่กวาดตามองพวกเขา มุมปากยกขึ้น ไม่สนใจหมอเทวดาหลี่ตอนนี้กำลังเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานเขารู้สึกว่าคนทั้งหมดนี้ล้วนรักษาหญิงสาวคนนี้ไม่ได้แต่ว่าตัวเขาเองก็ยังไม่มั่นใจ ถึงอย่างไรโรคประหลาดบนใบหน้าหญิงสาวคนนี้เขาก็ไม่เคยเห็นมาก่อน"เป็นปานตำหนิตั้งแต่เกิดหรือเปล่า?" มีคนถามขึ้นหมอเทวดาหลี่จุ๊ปาก "คำพูดแบบนี้เจ้าก็ยังพูดออกมาได้หรือ? ปานตำหนิอะไรกัน? มันต้องออกมาพร้อมกับในครรภ์สิถึงจะเป็นปานตำหนิ ฮูหยินคนนี้ใบหน้าเพิ่งจะมีสีม่วงโผล่ขึ้นมาเมื่อสองปีก่อนเอง ปานตำหนิอะไรถึงจะปรากฎออกมาหลังจากผ่านไปตั้งหลายปี?"นี่มันพูดจาเหลวไหลชัดๆหมอหม่าลูบคาง ทำหน้าลึกซึ้ง "ข้ารู้สึกว่านี่น่าจะเป็นพิษ"ฟู่จาวหนิงไม่รู้เพราะอะไรจู่ๆ จึงหันมองไป ใต้ร่มเงาไม้มองเห็นเซียวหลันยวน เขายืนอยู่ที่เงามืด ข้างๆ มีกำแพงดอกไม้อยู่ผืนหนึ่ง มองไปแล้วก็แทบไม่เห็นเลยว่าตรงนั้นมีคนยืนอยู่คนหนึ่งอ๋องเจวี้ยนกำลังทำตัวลึกลับหรือไรกัน?ฟู่จาวหนิงมองไปทางหญิงสาวคนนี้อีก นางจู่ๆ ก็รู้สึกว่า เซียวหลันยวนเป็นไปได้มากว่าเข้ามาดูหญิงสาวคนนี้ถึงอย่างไรหน้าของเขาก็มีรอยพิษขึ้นมารอยหนึ่งด้วยล่ะนะ และหญิงสาวค
"เช่นนั้นหมอเทวดาหลี่รู้ว่านี่เกิดอะไรขึ้นหรือ?"คนในนี้ก็ไม่สนใจหมอหม่าหมอเฉียนแล้ว ความสนใจทั้งหมดตกไปอยู่บนตัวหมอเทวดาหลี่"ข้ารู้สึกว่า นี่เป็นไปได้ว่าจะเกี่ยวข้องกับการนอนของฮูหยิน" หมอเทวดาหลี่ถามหญิงสาว "ท่าชอบนอนตะแคงข้างไปทางหน้าซีกนี้ใช่ไหม?"หญิงสาวตกตะลึง ย้อนคิดอย่างละเอียด "ก็จริง""หมอที่พวกเจ้าใช้ เป็นของที่เย็บเองแล้วใส่พวกกากยาหรือใบชาอะไรลงไปใช่ไหม" หมอเทวดาหลี่ถามมอีก"ใช่ๆๆ ก่อนหน้านี้นอนไม่ค่อยหลับ ได้ยินคนบอกว่าพวกกากยาที่ทำให้ใจสงบถ้าตากแห้งแล้วไว้ในหมอน ทุกคืนถ้านอนกับวัตถุดิบยาเหล่านี้ก็จะทำให้หลับได้ดีขึ้น" หญิงสาวพยักหน้าหมอเทวดาหลี่พูดตรงประเด็นเแล้ว ระดับความเชื่อมั่นต่อหมอเทวดาหลี่ของนางพุ่งขึ้นมาเลยทีเดียว"แล้วนอนหลับได้ดีขึ้นไหม?" หมอเทวดาหลี่ถาม"ก็ดีกว่าก่อนหน้านี้จริงๆ""แต่ว่าข้าตอนนี้ยังสงสัย ว่าใบหน้านี้ของเจ้าน่าจะเป็นวัตถุดิบยาสร้างขึ้นมา ดังนั้นยังต้องมาดูที่หมอนของเจ้าด้วย"หมอเทวดาหลี่ยืดเอว รู้สึกว่าการพิจารณาของตนเองไม่มีปัญหาเลยแม้แต่น้อย"หมอน ข้าจะให้เพื่อนบ้านข้าไปนำมา นางมาด้วยกันกับข้า"หญิงสาวพูดกับผู้หญิงข้างๆ ไม่กี่คำ
หมอเทวดาหลี่ถูกนางคว้า คนก็ร้อนขึ้นมาเลย อยากจะสะบัดเจ้าคนสารเลวนี้ทิ้งไปเสียเหลือเกิน"ข้ายังจะรักษาเจ้า แค่ต้องการเวลาหน่อยเท่านั้น ที่นี่ไม่มีใครที่มีวิธีรักษาหน้าเจ้าแล้ว!"หมอเทวดาหลี่ร้องขึ้นมาประโยคนี้เป็นการผิดใจกับหมอคนอื่นในที่นี้อย่างมาก แต่ว่าหมอเทวดาหลี่ก็ไม่สนใจเรื่องเหล่านี้เลย ถึงอย่างไรวิชาแพทย์ของพวกเขาก็สู้เขาไม่ได้จริงๆ แล้วจะมาทำอะไรเขาได้ผู้อาวุโสจี้ที่แย้งกับเขามาตลอดมองเขาแล้วอดร้องเชอะขึ้นมาเสียงหนึ่งไม่ได้"ในนี้จะไม่มีหมอคนไหนที่มีความเห็นไม่ตรงกับเจ้าเลยหรือไรกัน? เจ้าก็แค่หลีกทาง แล้วให้คนอื่นเข้าไปลองหน่อย"หมอเทวดาหลี่มองมาตามเสียง เห็นผู้อาวุโสจี้ ก็หัวเราะเย็นชาขึ้นทันที "ผู้อาวุโสจี้เอ๋ย ท่านไม่ไปเดิมพันวัตถุดิบยาข้างหน้าเล่า วางตัวอวดอ้างว่ารู้จักหญ้าสมุนไพรเหล่านั้น แล้ววิ่งมาดูมหรสพทำไมถึงที่นี่กัน?"เขาเองก็มองเห็นฟู่จาวหนิงข้างกายผู้อาวุโสจี้ด้วย"คิดไม่ถึงเลยว่าตาเฒ่าจี้ยังอยู่ด้วยกันกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนที่ช่วงนี้ชื่อเสียงเลื่องลือไปทั้งเมืองหลวงด้วย พวกเจ้าทั้งสองคนมีความสัมพันธ์อะไรกัน?""พระชายาอ๋องเจวี้ยน?""อะไรนะ แม่นางคนนั้นคื