"ถูกต้อง ทำไมหรือ?"ฟู่จาวหนิงคิดไม่ถึงว่าคนผู้นี้จะโผล่ออกมาอีก"เจ้าไปเอาเงินมมาจากไหนตั้งสองพันตำลึง?" เถ้าแก่รองหูขมวดคิ้ว"นี่ก็น่าตลกเกินไปแล้ว เงินข้ามาจากไหนก็ต้องบอกท่านด้วยหรือ? ท่านจะสนใจมากเกินไปไหม?"ฟู่จาวหนิงถูกเขาแหย่จนสนุกเสียแล้ว"เมื่อครู่เจ้าเดิมพันกระถางดอกไม้นั่งเจี่ยหยวนไว่มาได้!""ดังนั้น?""ไปกับทางทางนั้นหน่อย พวกเราหาที่เงียบๆ คุยกันดีกว่า ข้ากับเจ้ามาเจรจาซื้อขายกัน ของเหล่านี้เจ้านำไปก็ไม่มีประโยชน์ ขายดอกไม้กับวัตถุดิบยาเหล่านี้ขายให้ข้าเถอะ"เถ้าแก่รองหูพูดแล้วยื่นมือส่งสัญญาณให้นางเดินตามไปจงเจี้ยนขวางไว้ด้านหน้าฟู่จาวหนิง มองเขาด้วยสายตาเย็นชา "อยากตายหรือไรกัน?""รู้ไหมว่าข้าเป็นใคร? ข้าคือเถ้าแก่รองจากร้านสาขาโรงยาทงฝูในเมืองหลวงนะ""ไสหัวไป" ฟู่จาวหนิงร้อยขึ้นเสียงเย็นชา "ใครจะขายของให้ท่านกัน?""เจ้ากล้าผิดใจกับข้าหรือ?""เจ้าเป็นเถ้าแก่รองจากร้านสาขาโรงยาทงฝูในเมืองหลวงสินะ ข้ารู้จักแล้ว ถ้ายังไม่หนีไปอีก ข้าจะเล่นงานเจ้าจนแม่เจ้าจำไม่ได้เลย" ฟู่จาวหนิงหมดความอดทนกับคนนี้แล้วนางหมุนตัวเดินออกมาเถ้าแก่รองหูมองจงเจี้ยน ไม่กล้าเข้ามา
ดูท่าหลี่จื่อเหยาจะถูกคุ้มตัวไว้ได้ไม่นานเท่าไร หมอเทวดาหลี่ก็ดึงนางออกมาเสียแล้วหลี่จื่อเหยาทางนี้ ยังมีเซียวเหยียนจิ่งอีกด้วยคนคุ้นเคยมารวมตัวกันหมดเลยแฮะทางนี้มีศาลาอยู่แห่งหนึ่ง ในศาลามีแคร่กับเก้าอี้วางอยู่ รอบด้ามีคนมุงอยู่ไม่น้อยตอนนี้ในศาลามีหญิงสาวที่ใบหน้าครึ่งหนึ่งกลายเป็นสีม่วงไปแล้ว หมอเทวดาหลี่กับหมออีกหลายคนกำลังล้อมดูอยู่ข้างๆผู้อาวุโสจี้บอกว่า "เห็นท่าทางภาคภูมิใจของเจ้าสกุลหลี่นั่นไหม? เขาเพิ่งจะรักษาคนป่วยโรคประหลาดไปได้สองคน! กินชื่อกินเสียงไปจนเขาแทบจะกระดกหางขึ้นมาแล้ว! แต่ข้าก็ยังสงสัย ว่าคนป่วยสองคนนั้นคือคนที่ตัวเขาหามาเอง"เรื่องเช่นนี้หมอเทวดาหลี่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยทำมีคนป่วยบางส่วน เดิมทีเขารักษาได้นานแล้ว แต่ไม่ยอมรักษามาโดยตลอด คิดจะดึงพวกเขามาจนถึงตอนนี้ แล้วพามารักษาที่นี่ต่อหน้าธารกำนัล ถึงจะทำให้คนได้เห็นความเก่งกาจด้านวิชาแพทย์ของเขามีคนป่วยที่ดึงไว้ดึงไว้ ดึงจนอาการหนักกว่าเดิม"แล้วนั่นคือผู้ป่วยคนที่สามหรือ?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้น"ใช่ หญิงสาวคนนี้นางมาเอง นางบอกว่าครึ่งปีก่อนบนหน้าก็ม่วงขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจ คิดว่า
ฟู่จาวหนิงแค่กวาดตามองพวกเขา มุมปากยกขึ้น ไม่สนใจหมอเทวดาหลี่ตอนนี้กำลังเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานเขารู้สึกว่าคนทั้งหมดนี้ล้วนรักษาหญิงสาวคนนี้ไม่ได้แต่ว่าตัวเขาเองก็ยังไม่มั่นใจ ถึงอย่างไรโรคประหลาดบนใบหน้าหญิงสาวคนนี้เขาก็ไม่เคยเห็นมาก่อน"เป็นปานตำหนิตั้งแต่เกิดหรือเปล่า?" มีคนถามขึ้นหมอเทวดาหลี่จุ๊ปาก "คำพูดแบบนี้เจ้าก็ยังพูดออกมาได้หรือ? ปานตำหนิอะไรกัน? มันต้องออกมาพร้อมกับในครรภ์สิถึงจะเป็นปานตำหนิ ฮูหยินคนนี้ใบหน้าเพิ่งจะมีสีม่วงโผล่ขึ้นมาเมื่อสองปีก่อนเอง ปานตำหนิอะไรถึงจะปรากฎออกมาหลังจากผ่านไปตั้งหลายปี?"นี่มันพูดจาเหลวไหลชัดๆหมอหม่าลูบคาง ทำหน้าลึกซึ้ง "ข้ารู้สึกว่านี่น่าจะเป็นพิษ"ฟู่จาวหนิงไม่รู้เพราะอะไรจู่ๆ จึงหันมองไป ใต้ร่มเงาไม้มองเห็นเซียวหลันยวน เขายืนอยู่ที่เงามืด ข้างๆ มีกำแพงดอกไม้อยู่ผืนหนึ่ง มองไปแล้วก็แทบไม่เห็นเลยว่าตรงนั้นมีคนยืนอยู่คนหนึ่งอ๋องเจวี้ยนกำลังทำตัวลึกลับหรือไรกัน?ฟู่จาวหนิงมองไปทางหญิงสาวคนนี้อีก นางจู่ๆ ก็รู้สึกว่า เซียวหลันยวนเป็นไปได้มากว่าเข้ามาดูหญิงสาวคนนี้ถึงอย่างไรหน้าของเขาก็มีรอยพิษขึ้นมารอยหนึ่งด้วยล่ะนะ และหญิงสาวค
"เช่นนั้นหมอเทวดาหลี่รู้ว่านี่เกิดอะไรขึ้นหรือ?"คนในนี้ก็ไม่สนใจหมอหม่าหมอเฉียนแล้ว ความสนใจทั้งหมดตกไปอยู่บนตัวหมอเทวดาหลี่"ข้ารู้สึกว่า นี่เป็นไปได้ว่าจะเกี่ยวข้องกับการนอนของฮูหยิน" หมอเทวดาหลี่ถามหญิงสาว "ท่าชอบนอนตะแคงข้างไปทางหน้าซีกนี้ใช่ไหม?"หญิงสาวตกตะลึง ย้อนคิดอย่างละเอียด "ก็จริง""หมอที่พวกเจ้าใช้ เป็นของที่เย็บเองแล้วใส่พวกกากยาหรือใบชาอะไรลงไปใช่ไหม" หมอเทวดาหลี่ถามมอีก"ใช่ๆๆ ก่อนหน้านี้นอนไม่ค่อยหลับ ได้ยินคนบอกว่าพวกกากยาที่ทำให้ใจสงบถ้าตากแห้งแล้วไว้ในหมอน ทุกคืนถ้านอนกับวัตถุดิบยาเหล่านี้ก็จะทำให้หลับได้ดีขึ้น" หญิงสาวพยักหน้าหมอเทวดาหลี่พูดตรงประเด็นเแล้ว ระดับความเชื่อมั่นต่อหมอเทวดาหลี่ของนางพุ่งขึ้นมาเลยทีเดียว"แล้วนอนหลับได้ดีขึ้นไหม?" หมอเทวดาหลี่ถาม"ก็ดีกว่าก่อนหน้านี้จริงๆ""แต่ว่าข้าตอนนี้ยังสงสัย ว่าใบหน้านี้ของเจ้าน่าจะเป็นวัตถุดิบยาสร้างขึ้นมา ดังนั้นยังต้องมาดูที่หมอนของเจ้าด้วย"หมอเทวดาหลี่ยืดเอว รู้สึกว่าการพิจารณาของตนเองไม่มีปัญหาเลยแม้แต่น้อย"หมอน ข้าจะให้เพื่อนบ้านข้าไปนำมา นางมาด้วยกันกับข้า"หญิงสาวพูดกับผู้หญิงข้างๆ ไม่กี่คำ
หมอเทวดาหลี่ถูกนางคว้า คนก็ร้อนขึ้นมาเลย อยากจะสะบัดเจ้าคนสารเลวนี้ทิ้งไปเสียเหลือเกิน"ข้ายังจะรักษาเจ้า แค่ต้องการเวลาหน่อยเท่านั้น ที่นี่ไม่มีใครที่มีวิธีรักษาหน้าเจ้าแล้ว!"หมอเทวดาหลี่ร้องขึ้นมาประโยคนี้เป็นการผิดใจกับหมอคนอื่นในที่นี้อย่างมาก แต่ว่าหมอเทวดาหลี่ก็ไม่สนใจเรื่องเหล่านี้เลย ถึงอย่างไรวิชาแพทย์ของพวกเขาก็สู้เขาไม่ได้จริงๆ แล้วจะมาทำอะไรเขาได้ผู้อาวุโสจี้ที่แย้งกับเขามาตลอดมองเขาแล้วอดร้องเชอะขึ้นมาเสียงหนึ่งไม่ได้"ในนี้จะไม่มีหมอคนไหนที่มีความเห็นไม่ตรงกับเจ้าเลยหรือไรกัน? เจ้าก็แค่หลีกทาง แล้วให้คนอื่นเข้าไปลองหน่อย"หมอเทวดาหลี่มองมาตามเสียง เห็นผู้อาวุโสจี้ ก็หัวเราะเย็นชาขึ้นทันที "ผู้อาวุโสจี้เอ๋ย ท่านไม่ไปเดิมพันวัตถุดิบยาข้างหน้าเล่า วางตัวอวดอ้างว่ารู้จักหญ้าสมุนไพรเหล่านั้น แล้ววิ่งมาดูมหรสพทำไมถึงที่นี่กัน?"เขาเองก็มองเห็นฟู่จาวหนิงข้างกายผู้อาวุโสจี้ด้วย"คิดไม่ถึงเลยว่าตาเฒ่าจี้ยังอยู่ด้วยกันกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนที่ช่วงนี้ชื่อเสียงเลื่องลือไปทั้งเมืองหลวงด้วย พวกเจ้าทั้งสองคนมีความสัมพันธ์อะไรกัน?""พระชายาอ๋องเจวี้ยน?""อะไรนะ แม่นางคนนั้นคื
"ผู้อาวุโสจี้ มีควงามสามารถก็ให้ศิษย์รับใหม่ของท่านมาดูฮูหยินคนนี้เสียสิ"นางคิดจะกระตุ้นฟู่จาวหนิง และจะตบฉาดเข้าไปที่หน้าผู้อาวุโสจี้"เจ้าที่เป็นเด็กสาว ตอนผู้ใหญ่เขาคุยกันแล้วสอดปากสอดคำเข้ามาได้ด้วยหรือ? พ่อของเจ้าไม่สั่งสอนมารยาทมาเลยหรือไร?" ผู้อาวุโสจี้ตำหนิใส่หลี่จื่อเหยาอย่างโกรธขึ้งสอดปากก็สอดปากสิ เด็กสาวคนหนึ่งยังมาพูดบีบคั้นผู้อาวุโสคนหนึ่งปาวๆ แบบนี้ ตระกูลหลี่สั่งสอนมาได้ดีจริงๆ!"ท่านไม่ใช่ผู้อาวุโสตระกูลข้าเสียหน่อย พูดแล้วก็ตลกเสียจริง ไม่มีความสามารถก็คือไม่มีความสามารถ จะมาโกรธทำไมกัน?" หลี่จื่อเหยากลอกตาขาวใส่ฟู่จาวหนิง เบียดเขาหาตัวเซียวเหยียนจิ่ง"พี่เซียว ท่านถอยออกไปหน่อย อย่าให้คนบางส่วนมาเกาะแกะท่าน!"หลี่จื่อเหยาตอนที่พูดก็เข้ามาขวางหน้าเซียวเหยียนจิ่งด้วยสัญชาตญาณ"ท่านบอกว่าใครมาเกาะแกะเขา?" เสี่ยวเถาเองก็โมโหขึ้นแล้วเดิมทีก่อนหน้านี้นางก็รู้สึกว่ารัททายาทเซียวไม่ได้อะไรเท่าไร ไม่ได้ดีกับคุณหนูเลยสักนิดเดียว คอยเตือนคุณหนูอยู่ตลอดว่าอย่าเอาแต่ไล่ตามรัฐทายาทเซียวเลย แต่คุณหนูสมัยก่อนก็ไม่ฟังเลยสักนิดคุณหนูบอกว่ากรแต่งงานเข้าจวนชินอ๋องเซียวถือเป
พรวด!คำว่าอาสะใภ้อ๋องเจวี้ยนนี่ ทำเอาเซียวเหยียนจิ่งสำลักจนไอเลยเขาไม่เคยคิดทางด้านนี้มาก่อนเพราะเขาไม่เคยคิดจะมองฟู่จาวหนิงเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนจริงๆ เลย เข้าไปขวางรถม้าแล้วก็แต่งงานด้วย จะอยู่ได้นานสักแค่ไหนกัน?"ข้าไม่มีความคิดจะให้เซียวเหยียนจิ่งมาเรียกข้าว่าเสด็จอาเสียหน่อย" ใต้เงาไม้ทางนั้น อ๋องเจวี้ยนสีหน้ารังเกียจ ขณะเดียวกันก็รู้สึกชื่นชมกับความหน้าหนาของฟู่จาวหนิงด้วยนี่ถึงกับจะให้คู่หมั้นคนที่แล้วเรียกนางว่าอาสะใภ้เลยหรือ?ชิงอีมุมปากกระตุก อยากจะยิ้มแต่ก็ไม่กล้าพระชายายอดจริงๆ แต่งกับรัฐทายาทเซียวไม่ได้ แต่มาเป้นอาสะใภ้เขาแทน? นี่มันความสัมพันธ์ตะลึงฟ้าดินอะไรกันเนี่ย แต่ทำไมเขาถึงอยากจะหัวเราะนักนะ?ทางนั้น เซียวเหยียนจิ่งถูกฟู่จาวหนิงประโยคนี้เล่นงานจนว้าวุ่นไปหมด"ฟู่จาวหนิง เจ้า เจ้านี่มันไร้ยางอายเสียจริง""จงเจี้ยน ถ้าข้าทำให้ไปตบปากรัฐทายาทเซียว เจ้าจะกล้าไหม?" ฟู่จาวหนิงจู่ๆ ก็หันหน้ามองจงเจี้ยนจงเจี้ยนสีหน้าตั้งใจ วิเคราะห์อย่างจริงจัง "พระชายา ถ้าหากพึ่งบารมีของท่านอ๋อง ข้าน้อยก็กล้าทำ ถึงอย่างไรต่อให้ฟ้าถล่มลงมาก็ยังมีท่านอ๋องแบกรับไว้ได้"ชิง
หลี่จื่อเหยาถ้าตอนนี้พุ่งเข้าไป ถึงตอนนั้นไฟโกรธของอ๋องเจวี้ยนจะสาดมาที่นางด้วยแน่นอน"เจ้ากล้านัก"เซียวเหยียนจิ่งไม่ไหวแล้ว เขาคิดไม่ถึงเลยว่าครั้งนี้ที่เขาเตรียมตัวเรียบร้อย แต่ฟู่จาวหนิงก็ยังตบเขาได้อีกครั้ง!เขาคิดจะเรียกชื่อฟู่จาวหนิงออกมาอีกครั้งด้วยสัญชาตญาณ แต่พอเจอกับสายตาฟู่จาวหนิงก็กลืนมันกลับลงไปถ้าเขาตะโกนเรียกขึ้นอีกครั้ง ฟู่จาวหนิงคงได้ตบเขาอีกฉาดแน่!ให้ตายเถอะ เขารู้สึกได้เลยว่านางจะตบเขาอีกครั้ง!ก่อนหน้านี้เขาทำไมจึงไม่รู้เลยว่าฟู่จาวหนิงมีความสามารถเช่นนี้? ก่อนหน้านี้นางดูโง่โง่ บื้อบื้อจะตาย ทำอะไรก็ไม่เป็น ดูท่าทางเป็นคนโง่เขลาอยู่คนที่อยู่ที่นี่แต่ละคนล้วนนิ่งอึ้งเป็นไก่ไม้สลักฟู่จาวหนิงเป็นถึงพระชายาอ๋องเจวี้ยนไปแล้ว คนที่เปลี่ยนคนแต่งงานกลางถนนที่พวกเขาซุบซิบนินมาแล้วตั้งหลายวันคนนั้น!ยิ่งไปกว่านั้น อ๋องเจวี้ยนไม่ใช่พระโอรส แต่เป็นเสด็จอา!เดิมทีฟู่จาวหนิงที่เกือบจะแต่งงานกับรัฐทายาทเซียวไปแล้ว เพียงพริบตาก็เปลี่ยนมาเป็นอาสะใภ้ของเขา!ฟู่จาวหนิงก็ยังกล้าหาญชาญชัย ตบฉาดใส่รัฐทายาทเซียวไปถึงสองครั้งแบบนี้!ให้ตายเถอะ คนที่ล้อมดูรู้สึกว่าหูตาของต