หลังจากเข้าใจเรื่องที่สวนตระกูลเสิ่นชัดเจนแล้ว ในใจเซียวหลันยวนก็สำนึกเสียใจขึ้นมาดังนั้นเขาที่เขาเพิ่งพูดกับฟู่จาวหนิงไปล่ะ? นั่นมันอะไรกัน?เซียวหลันยวนรู้สึกว่าหน้าของตนเองเจ็บหน่อยๆ ไม่ใช่เพราะแผลเป็นพิษ แต่รู้สึกเหมือนถูกตบจนชา"เรื่องนี้" เขามองไปทางหลานหรงที่อยู่ไม่ห่างออกไปนักหลานหรงใจสั่นวาบ "ท่านอ๋อง ข้าน้อยจะไปตรวจสอบเรื่องนี้ให้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น""นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ คิดว่าตระกูลเสิ่นคงถูกเล่นงานจนตั้งตัวแทบไม่ทัน" ชิ่งอวิ๋นเซียวเอ่ยขึ้น อันที่จริงเขาก็ไม่รู้ความสัมพันธ์ของฟู่จาวหนิงกับตระกูลเสิ่น ยังคิดว่าตระกูลเสิ่นเชิญฟู่จาวหนิงให้เดินทางไกลนับพันลี้มาต้าชื่อเสียอีก เพื่อมารักษาไท่ไท่อาวุโสเรื่องนี้ก็ปกติดี ถึงอย่างไรเสิ่นเสวียนก็ไปแคว้นเจามาแล้ว และวิชาแพทย์ของฟู่จาวหนิงก็ดีเสียขนาดนั้นแต่ว่าตอนนี้จุดสำคัญของเซียวหลันยวนไม่ได้อยู่ที่ตระกูลเสิ่นเป็นอย่างไร ที่เขาคิดตอนนี้ก็คือ จะขอโทษฟู่จาวหนิงอย่างไรต่างหากหนึ่งคือเขาไม่ใช่แค่ไม่สนใจเรื่องตระกูลเสิ่น สองคือเขายังเข้าใจผิดฟู่จาวหนิงด้วยเรื่องนี้อีก"รีบไป" เขาพูดกับหลานหรง จากนั้นก็เสริม
"ไม่มีนะ นางไม่ได้ห้ามข้าเลย แล้วก็ไม่พูดว่าไม่ดีเลยสักคำด้วย หลังจากออกมายังชมข้าอยู่เลย เหอะๆ ท่านอ๋อง ท่านต้องเรียนรู้อย่างข้าบ้าง ข้ารู้สึกว่าข้ายังปลอบพระชายาได้อยู่นะ""ให้เจ้าไปปลอบหรือ? นั่นเป็นพระชายาของเจ้าไหม?" เซียวหลันยวนตอบกลับโดยไม่ต้องคิดชิ่งอวิ๋นเซียวก็หุบปากลงทันทีนี่ปากเร็วไปเสียแล้ว"กินเสร็จก็กลับไปเถอะ อย่ามาเอาแต่พึ่งข้า"ชิ่งอวิ๋นเซียวเบ้ปากอ๋องเจวี้ยนนี่ถือว่าข้ามแม่น้ำแล้วรื้อสะพานหรือเปล่า? ทำไมมาไล่เขาไปเสียแล้วล่ะ?"เอาเถอะ เช่นนั้นข้าขอตัวกลับก่อนแล้วกัน"ชิ่งอวิ๋นเซียวออกประตูไป ก็เห็นฟู่จาวหนิงยืนอยู่ใต้ชายคา แหงนหน้ามองพระจันทร์พระจันทร์คืนนี้ดูสว่างเป็นพิเศษ แสงจันทร์สาดลงมา พร่างพราวอยู่บนใบหน้าฟู่จาวหนิง ส่องจนใบหน้านางราวกับเป็นหยกขาวอย่างไรอย่างนั้น แล้วยังดูมีแสงประกายเย็นอยู่อีกชั้นหนึ่งด้วยพริบตานี้ หัวใจของชิ่งอวิ๋นเซียวก็ถูกกระแทกมาทันทีพระชายาอ๋องเจวี้ยนนี่งดงามจริงๆเขาเข้าใจบ้างแล้วเหมือนกันว่าทำไมซือถูไป๋ที่รู้ว่านางเป็นหญิงที่แต่งงานแล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยวางถึงอย่างไรซือถูไป๋ก็รู้ ว่าการแต่งงานของสามีภรรยาอ๋องเจวี้ยน
กอดความคาดเดาต่างๆ นานาไว้ เสี่ยวชิ่นทั้งตกตะลึงทั้งหวาดกลัวไร้ที่พึ่ง ร้องไห้ไปหนึ่งชั่วยามจนตอนนี้ปวดตาไปหมดแล้วจนกระทั่งฟู่จาวหนิงกุมมือนางมั่น บอกกับนางว่าไม่ต้องกลัว นางจึงรู้สึกว่าใจของตนเองสงบลงมาแล้วฟู่จาวหนิงเหลือบมองชิงอีที่ก้มหน้าม่อย จากนั้นก็หันไปมองเซียวหลันยวน "แล้วข้าจะยังอยู่ที่นี่ต่อได้ไหม?"ไม่สนแล้ว ถึงอย่างไรนางในตอนนี้ก็คือพระชายาอ๋องเจวี้ยน"แน่นอน""เช่นนั้นก็ขอบคุณท่านอ๋องมาก"ฟู่จาวหนิงดึงเสี่ยวชิ่นออกไป "ไปเถอะ กลับไปจะจัดการดวงตาเจ้าให้"เสี่ยวชิ่นถูกนางดึงจึงรีบเดินตามไปตัวตนอ๋องเจวี้ยนอยู่ตรงนั้นอย่างแรงกล้า ยืนอยู่ที่นั่นแม้จะไม่พูดจา แต่นางก็มองข้ามไม่ได้เลยทว่าตอนนี้นางหวาดกลัวอ๋องเจวี้ยนอยู่หน่อยๆ กระทั่งจะเหลือบมองเขาก็ยังไม่กล้า ทำได้แค่ก้มหน้าเดินอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิงพอเห็นว่านางตกใจเสียขนาดนี้ ตาก็ยังร้องไห้จนดูไม่ได้ ฟู่จาวหนิงก็ยิ่งรู้สึกว่าเซียวหลันยวนนี่แย่จริงๆกระทั่งชิงอี นางเองก็ไม่สบอารมณ์ไปด้วย"เสี่ยวชิ่น เจ้ากินอะไรมาหรือยัง?"เสี่ยวชิ่นส่ายหัว นางจะกินลงได้อย่างไรกัน?ไม่ใช่แค่กินไม่ลง ตกใจอยู่นานสองนาน ขนาดน้ำก็ยังไม
"ขอรับ"ชิงอีรีบไปจัดการ เรื่องนี้เขาต้องไปจัดการเอง เช่นนี้จึงจะสามารถแสดงออกถึงความจริงใจของเขาหลานหรงกลับมองแผ่นหลังอ๋องเจวี้ยนที่เดินเข้าห้องไปพลางถอนหายใจพวกเขาก็แค่เป็นห่วงท่านอ๋องเท่านั้น เป็นห่วงว่าเขาจะจมดิ่งเพราะปัญหาเรื่องหน้าตาท่านอ๋องยังไม่รู้จะเผชิญหน้ากับพระชายาอย่างไรเลยเซียวหลันยวนหลังจากเข้าห้องไปก็ยังไม่สงบใจลงมา เขาไม่รู้ว่าเสี่ยวชิ่นจะพูดอะไรกับฟู่จาวหนิงบ้างคิดถึงจุดนี้ ในใจเขาสั่นกึก หมุนตัวออกประตูไปทันทัน ปลดปล่อยวิชาตัวเบาพุ่งแฉลบไปยังฟู่จาวหนิงทางนั้นอย่างเงียบเชียบ"ไม่ต้องตามมา"หลานหรงเดิมทีคิดจะตามไป พอได้ยินประโยคนี้ก็ทำได้แค่หยุดเท้าลงฟู่จาวหนิงพอเสี่ยวชิ่นกลับไปที่ห้อง พวกของสืออีก็ส่งข้าวส่งชาเข้ามาอย่างรวดเร็ว แล้วยังมีน้ำร้อนมาให้อีกด้วย"ประคบตาเอาไว้ก่อน ร้องไห้เสียขนาดนี้คงจะเจ็บน่าดูเลย จะเอาแต่ใช้ผ้ามาเช็ดน้ำตาตลอดไม่ได้นะ"ถ้าเช็ดต่อผิวได้ถลอกแน่เสี่ยวชิ่นฟังคำของนาง ดื่มชาไปแก้วหนึ่ง เอนตัวบนแคร่ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นประคมดวงตา มุมปากเองก็เกร็งเม้ม ดูแล้วยังรู้สึกไม่ปลอดภัยและตึงเครียดอยู่ฟู่จาวหนิงนั่งลงมาข้างนาง"เสี่ยวชิ่น
อ๋องเจวี้ยนเป็นสามีของนางจริงไหม?"ตอนนี้น่ะใช่" ฟู่จาวหนิงตอบ อืม อย่างน้อยก็ยังไม่ได้หย่ากันนี่นะ เขาเองก็ไม่ได้คิดจะเลิกกับนางด้วย"ฮือ..."พอได้ยินคำตอบของฟู่จาวหนิง เสี่ยวชิ่นก็ร้องไห้ออกมาอย่างอดไม่อยู่"ร้องไห้ทำไมกันล่ะ?""นายท่านรุ้ไหม? นายท่านเคยเจออ๋องเจวี้ยนไหม?""เคยสิ เขารู้อยู่แล้ว""ไม่ นายท่านจะต้องไม่เคยเห็นอ๋องเจวี้ยนในสภาพนี้แน่ ข้าน้อยเมื่อครู่เห็นอ๋องเจวี้ยนใส่หน้ากากอยู่!""อืม เขาก่อนหน้านี้ก็ใส่หน้ากากตลอดจริงๆ""คุณหนู แล้วใครกันที่มาทำร้ายท่านเช่นนี้? ทำไมจึงให้ท่านแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยน? ท่านไม่กลัวใบหน้าของเขาหรือ? ยิ่งไปกว่นั้นเขายังไม่ดีกับท่านด้วย!"เสี่ยวชิ่นครั้งนี้พอเจอเซียวหลันยวนก็เกือบชีวิตจะหาไม่ ดังนั้นภาพจำจึงเป็นความหวาดกลัวจากที่นางเห็น อ๋องเจวี้ยนน่ากลัวมาก หน้าตาน่ากลัว อารมณ์เองก็เย็นชา คนเช่นนี้จะดีกับคุณหนูได้อย่างไร?เสี่ยวชิ่นเป็นห่วงฟู่จาวหนิงจริงๆ"คุณหนูท่านเป็นคนดี เป็นคนอ่อนโยน ดีเสียขนาดนี้ ทำไมจึงยอมรับการแต่งงานนี้กัน?" เสี่ยวชิ่นร้องไห้สะอึกสะอื้น ปวดใจเหลือเกิน "ไท่ไท่อาวุโสล้วคิดอยากจะแนะนำชายหนุ่มดีดีของต้าชื่อใ
"จะว่าไป เจ้าเองก็รู้จักข้ามานานแค่ไหน? เจ้ารู้ว่าข้ากับเขาแต่งงานกันอย่างไรไหม?"เสี่ยวชิ่นส่ายหัวอย่างงงงัน"เจ้ารู้ไหมว่าพวกเราเจอกันอย่างไร?""เจ้าทำไมถึงมั่นใจนักว่าเขาไม่คูควรและปกป้องข้าไม่ได้?""เจ้าไม่ใช่ข้าเสียหน่อย เจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าข้าจะตกใจกับหน้าตาของเขาเหมือนเจ้าหรือไม่? เจ้าทำไมถึงมั่นใจนัก ว่าข้ารู้สึกน่าสงสารขนาดนี้?""เจ้าไม่รู้อะไรเลยถูกไหม? เจ้าก็แค่รู้สึกของเจ้าไปเอง คิดไปเอง แต่เขาเป็นสามีของข้า ไม่ใช่ของเจ้า"ฟู่จาวหนิงยืนขึ้นมา "ต่อให้เป็นพ่อแม่ข้า ก็ไม่มีคุณสมบัติจะใช้ความคิดของตนเองมาส่งผลกระทบกับการเลือกของข้า แล้วเจ้าเป็นใครกัน?"คำพูดนี้พูดถึงจุดหลักๆ เสี่ยวชิ่นก็ตกใจจนคุกเข่าลงกับพื้น"คุณหนู ข้าน้อยไม่ได้มีความหมายเช่นนั้น""ดังนั้นข้าหวังว่าคำพูดเช่นนี้จะไม่มีอีกเป็นครั้งที่สอง" ฟู่จาวหนิงมองสภาพตัวสั่นงันงกของนาง ก็พอจะจินตนาการได้ว่าตอนที่นางเห็นเซียวหลันยวนก่อนหน้านี้ตกใจกลัวมากขนาดไหนสำหรับเซียวหลันยวนแล้ว น่าจะกระทบกระเทือนจิตใจมากแต่ในใจนางก็ยังรู้สึกสงสัยตอนแรกที่นางจาดมา ใบหน้าของเซียวหลันยวนยังไม่ถึงกับน่ากลัวขนาดนี้กระมัง? เ
หลานหรงพอเห็นฟู่จาวหนิงเข้ามา ในใจก็ลิงโลดพระชายายังไม่วางใจท่านอ๋องสินะ? เพราะเขาเห็นฟู่จาวหนิงสะพายกล่องยามาด้วยเช่นนี้ในใจท่านอ๋องก็คงจะดีขึ้นบ้างแล้วเมื่อครู่ท่านอ๋องออกไปพักหนึ่ง หลังจากกลับมาก็เข้าห้องปิดประตู กลิ่นอายทั้งตัวทำเอาคนสันหลังวาบจนไม่กล้าเข้าใกล้ต่อให้ไม่เห็นใบหน้าของท่านอ๋อง ก็ยังรู้ว่าอารมณ์ของเขาดิ่งวูบแค่ไหน"พระชายาท่านมาแล้ว"หลานหรงยกเสียงสูง หวังว่าท่านอ๋องในห้องจะได้ยิน"ท่านอ๋องของพวกเจ้าล่ะ?"ฟู่จาวหนิงมองประตูห้องที่ปิดสนิท"ท่านอ๋องอยู่ในห้องขอรับ..."พอสิ้นเสียงหลานหรง พวกเขาก็เห็นแสงเทียนที่ลอดออกมาจากหน้าต่างกระดาษดับลงทันที ในห้องมืดลงทันควันครึ่งประโยคหลังของหลานหรงจุกอยู่ตรงคอไม่ใช่สิ ท่านอ๋อง ท่านทำอะไรเนี่ย?ฟู่จาวหนิงเองก็ถูกท่าทีของเซียวหลันยวนทำให้โมโหเสียแล้ว"เซียวหลันยวน ข้ายังเป็นหมอของท่านนะ ข้าจะเข้าไปจับชีพจร แล้วรักษาต่อ!"นางพอคิดถึงการทำร้ายต่อตัวเขาของเสี่ยวชิ่น ก็รู้สึกว่าตนเองยอมถอยให้ก้าวหนึ่งได้ ดังนั้นต่อให้จะโกรธ ก็ยังอดระงับไฟโกรธในใจแล้วพูดออกมา"ไม่ต้อง ข้าเหนื่อยแล้ว เจ้ากลับไปพักผ่อนเถอะ" ในห้องมีเสี
หลานหรงพอได้ยินการเคลื่อนไหว ก็ส่งองครักษ์ลับสี่คนแอบตามไปไม่ว่าอย่างไร ตอนนี้ปกป้องพระชายาให้ปลอดภัยคือเรื่องสำคัญที่สุด"นางออกไปแล้วหรือ?"ฟู่จาวหนิงพอออกไป เซียวหลันยวนก็ได้ข่าวชิงอีพอมองท่านอ๋อง "ออกไปแล้ว หลานหรงส่งคนตามไปเรียบร้อย แต่เป็นการแอบคุ้มครองลับๆ ไม่ได้ให้พระชายารู้ตัว""อืม""ท่านอ๋อง แต่พระชายาโกรธขนาดนี้ไม่เป็นไรหรือ?""มากไป"เซียวหลันยวนไม่อยากจะพูดเรื่องนี้ต่ออย่างเห็นได้ชัดเมืองหลวงจักรพรรดิต้าชื่อตอนนี้คึกคักเอามากๆ จริงๆ คนบนถนนมากมายเต็มไปหมด ไหล่เบียดชนขวักไขว่ไปมาไม่หยุดถนนตรอกซอกซอยล้วนมีคนมาวางแผงขายของ ร้านรวงสองฝั่งก็ล้วนธงราวโบกสะบัด เถ้าแก่บริการเข้าออกคอยรับแขกเหรื่อสินค้ามากมายหลายประเภท ละลานตาไปหมด ทำเอาดูกันไม่หวาดไหวเลยทีเดียวร้านบางส่วนที่ขายดีหน่อย ด้านหน้าก็มีผู้คนล้อมกันจนเดินไม่ได้เสื้อผ้าที่คนบนถนนสวมก็มีมากมายหลากสีผู้คนที่เดินผ่านข้างกายฟู่จาวหนิง มักจะได้ยินภาษาที่แตกต่างกัน นางยังได้ยินภาษาหนานฉือด้วย ดูท่าคนจากแคว้นหนานฉือกู่ก็ยังมากันที่ต้าชื่อด้วยในอากาศมีกลิ่นต่างๆ ปนเปกันอยู่ส่วนมากล้วนเป็นกลิ่นหอม กลิ่นห