กระทั่งปู่ของเขาก็ยังพยักหน้าอย่างอดไม่อยู่ แสดงออกมาว่าเสี่ยวเอ่อร์พูดถูกต้อง"องค์หญิงใหญ่ได้รับการคุ้มครองจากสวรรค์ มีโชคลาภยืนยาว พวกเราพาท่านย่าไปเชิญให้องค์หญิงใหญ่ประทานพรให้ ท่านย่าจะต้องดีขึ้นมาแน่ แต่ถ้าหากไม่เข้ามาในเมืองหลวงจักรพรรดิก่อน องค์หญิงใหญ่กลับมาวันนั้นพวกเราคงไปไม่ถึงด้านหน้าเพื่อรับโชคแน่ พวกเรายังต้องหาคนมาช่วย"พวกเขาได้ยินว่าคนที่จะไปรับโชคลาภมีมากมายมหาศาลเลยใครก็อยากไปรับโชคภาพจากองค์หญิงใหญ่กันทั้งนั้น แต่องค์หญิงใหญ่จะหยุดอยู่ที่ปลายถนนนั้นแค่ครู่เดียว ถ้าหากไม่มีช่องทางระดับหนึ่ง เบียดตัวเข้าไปไม่ได้แน่นอน"เชิญหมอใหญ่ให้เข้าไปดูอาการก่อนแล้วค่อยไปวังจักรพรรดิก็ยังไม่สาย เช่นนี้เองก็ไม่เสียเวลาล่าช้าด้วย" ซือถูไป๋พอได้ยินคำพูดพวกเขาก็รู้สึกไม่อยากเชื่อหน่อยๆ แต่ก็ยังอยากจะลองเตือนดู"ไม่ ไม่เชิญหมอใหญ่ พวกเรารวมเหรียญทองแดงเอาไว้หมดแล้ว" เสี่ยวเอ่อร์ตอบถ้ายังเชิญหมอใหญ่แล้วยังจัดยาต่อ นั่นมันต้องจ่ายเงินอีกเท่าไรกัน? พวกเขาเดิมทีก็รวมเงินเพื่อเข้าเมืองหลวงไว้แล้ว ถ้ายังต้องจ่ายอีกมันก็ไม่จำเป็นจริงๆเสี่ยวชิ่นพอได้ยินคำพูดของปู่หลานคู่นี้ก็รู้สึ
"ข้าไม่ได้ฝันไปใช่ไหม? จาวหนิง ข้ามาพบเจ้าที่ต้าชื่อนี้หรือ!" ซือถูไป๋ยังมีอาการเหมือนไม่ตื่นจากฝันพอแยกจากฟู่จาวหนิง เขาก็คิดถึงนางอยู่บ้างเดิมทีคิดว่าพอนานวันไป ห่างกันไกลหน่อย เขาจะค่อยๆ ลืมนางไปเอง หรือบางทีตอนที่คิดถึงนางความรู้สึกก็จะจืดจางไปเอง คิดไม่ถึงว่าพอเวลายิ่งนานวัน เขาก็เหมือนจะยิ่งคิดถึงนางเข้าไปอีกกระทั่งว่า เขาเคยสมมติมาโดยตลอด ว่าข้างกายตนเองถ้าหากมีฟู่จาวหนิงอยู่ข้างๆ มันต้องเป็นเรื่องที่มีความสุขมากขนาดไหนกันตอนนี้พอได้เจอฟู่จาวหนิง ในของเขาก็เต้นตึกตัก จนแทบจะควบคุมไม่อยู่ แทบจะบินตรงไปหาจาวหนิงทันทีซือถูไป๋รีบเดินไปหาฟู่จาวหนิง ลืมคนข้างกายเขาไปจนหมดอาเพียนพอเห็นฟู่จาวหนิงก็ตกตะลึงไปแล้ว"ทำไมที่นี่ก็ยังมาเจออีกกัน?" คุณชายของเขาเดิมทีก็ยังไม่หายไข้ใจนี้เลย ตอนนี้มาเจอกันอีก เกรงว่าอาการคงจะหนักกว่าเดิมพระชายาอ๋องเจวี้ยนคนนี้จะอยู่ดีดีที่จวนอ๋องเจวี้ยนไม่ได้หรือไรกัน?อาเพียนมองบนใส่ฟู่จาวหนิงยิ้มให้ซือถูไป๋ "ข้าก็ไม่คิดว่าจะเจอท่านที่นี่""ทางนี้มีเรื่องต้องจัดการนิดหน่อย ข้ามาถึงสามวันแล้ว นี่เจ้ามาเองเลยหรือ?"ซือถูไป๋มองฟู่จาวหนิงอย่างละโม
"ได้"ขอแค่นางไป จะพาใครไปก็ได้ทั้งนั้นมองฟู่จาวหนิงจากไป ซือถูไป๋ยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับอยู่นาน"คุณชาย ไม่เห็นเงาคนแล้ว" อาเพียนเอ่ยขึ้น"อาเพียน ข้าก่อนหน้านี้เคยพูดอะไรกับเจ้าไว้?" ซือถูไป๋ตอนนี้จึงหันไปมองเขา น้ำเสียงขรึมลง"คุณชาย ข้ารู้แล้ว ว่าอย่าเสียมารยาทกับพระชายาอ๋องเจวี้ยน" อาเพียนก้มหน้าต่ำ "แต่ข้าไม่ได้เสียมารยาทนี่นา ข้าแค่อยากจะเตือนคุณชาย..."พระชายาอ๋องเจวี้ยน เป็นคนที่มีสามีแล้ว"ข้ารู้ว่าข้ากำลังทำอะไร" ซือถูไป๋ตัดบทเขา หมุนตัวเข้าไปยังโถงด้านใน "ไปหยิบชุดคลุมจันทร์เสี้ยวขาวที่เย็บมาใหม่ชุดนั้นออกมา"อาเพียนตกตะลึง จากนั้นจึงถอนใจออกมาอย่างจำใจคุณชายนี่ยังบอกจะบอกรู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่อีก ดูเอาเถิด ตอนนี้คิดจะแต่งตัวเสียแล้ว แล้วยังเอาชุดใหม่มาใช้อีกประโยคนั้นพูดว่าอย่างไรนะ? หญิงสาวแต่งตัวเพื่ออยากให้มีคนชม ผุ้ชายเองก็เหมือนกันสินะอาเพียนเดินตามเข้าไป"คุณชาย พวกเราก่อนหน้านี้เพิ่งจะได้รับจดหมายจากนายท่าน นายท่านไม่ใช่บอกว่า ให้ท่านไปพบองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหรือ? ข้าน้อยรู้สึกว่า นายท่านคงหวังให้ท่านได้ดองกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นแน่""เจ้านี่พูดมากจริง"
หมอถังนางไม่รู้จัก แต่ช่วงหลายวันนี้นางก็พอเข้าใจหมอหวางอยู่ วิชาแพทย์เองก็ไม่เลว จรรยาบรรณแพทย์ก็มี คำพูดของเขาเชื่อถือได้"มีนักพรตไปบ้านพวกเขาจริงๆ เคยให้น้ำยันต์ไป" ลุงตงพูด"แล้วท่านย่าคนนั้นมีอาการไม่สบายที่ตรงไหนหรือ?""ก็คือมึนหัวอยู่ทุกวี่วัน ลุกไม่ขึ้น โดนลมนิดเดียวก็รู้สึกวี่าตนเองแทบไม่ไหวแล้ว วันวันเอาแต่นอนอยู่บนเตียง แล้วยังฝันร้ายบ่อย ได้ยินว่าชอบฝันเห็นญาติที่ตายไปแล้วอยู่บ่อยๆ ผมซูบ ผอมเอามากๆ" ลุงตงตอบ"แล้วดื่มน้ำยันต์นั่นลงไปก็ดีขึ้นแล้วหรือ?" ฟู่จาวหนิงไม่อยากเชื่อจริงๆ"พอดื่มน้ำยันต์ก็ไม่ฝันร้ายไปหลายวัน พวกเขาทั้งบ้านถึงได้เชื่อ""เมื่อครู่คุณชายซือถูยังบอกว่าจะเชิญหมอใหญ่ไปให้พวกเขา ความหมายของคุณชายซือถูคือไม่ยอมเก็บเงินรักษาจากพวกของเสี่ยวเอ่อร์แน่ ไม่แน่อาจจะช่วยจัดยาให้ แต่เสี่ยวเอ่อร์กับปูของเขาไม่ยอม" เสี่ยวชิ่นเอ่ยขึ้นข้างๆ"คุณชายซือถู?"เสิ่นเสวียนจับประเด็นได้แล้ว เมื่อครู่ฟู่จาวหนิงตอนพูดถึงเรื่องนี้ยังไม่ได้เอ่ยถึงซือถูไป๋"ซือถูไป๋" ฟู่จาวหนิงจึงเอ่ยขึ้นมา "ข้าเองก็ไม่คิดว่าจะเจอเขาที่นี่""ตระกูลซือถูเองก็มีความทะเยอทะยาน" เสิ่นเสวียนคิ
"อืม อยากจะถามเรื่องของอาจารย์เสียหน่อย""เสิ่นหยาง ไปหาพี่สาวเจ้ากับอาสะใภ้ไปด้วยกัน พวกนางกำลังเรียนเรื่องของว่างชาพอดี ให้ไปเรียนรู้เสียหน่อย""ขอรับ"เสิ่นเสวียนพูดกับฟู่จาวหนิง "อาสะใภ้กับพี่สาวเขานิสัยดี ชอบทำกับข้าวทำของว่าง สองวันนี้ก็คอยติดตามท่านปู่อาของเจ้าเพื่อเรียนรู้อยู่ เจ้าเคยพบหรือยัง?"ผู้อาวุโสตู้ค่อนข้างเจ้าอารมณ์ คนที่ทำให้เขายอมให้เรียนรู้อยู่ข้างๆ ได้ แสดงว่าพวกนางก็ไม่เลวนัก ทำอะไรก็รู้วิธีการฟู่จาวหนิงเคยพบครั้งหนึ่ง พวกนางช่วยยกอาหารเข้ามายังสวนสี่ซิน แต่ว่าไม่ได้คุยกันสองคนนั้นหน้าตาดีทั้งคู่ ใบหน้ากลมเรียบ มองแล้วอ่อนโยน ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าบ้านตระกูลเสิ่นก็มีบางคนที่ใช้ได้อยู่"เคยพบแล้ว เช่นนั้นก็รบกวนพวกนางไปกับข้ารอบหนึ่งแล้วกัน""ข้าจะส่งคนไปรับพวกนางเดี๋ยวนี้" เสิ่นหยางลุกขึ้นหมุนตัวออกไปทันทีรอจนรรับคนมา ฟู่จาวหนิงก็พาพวกนางไปพบซือถูไป๋ด้วยกันสืออีสือซานแน่นอนว่าต้องตามไป"ถ้าตอนหลังท่านอ๋องรู้เข้า พวกเราก็ช่วยพระชายาอธิบายหน่อยแล้วกัน" สืออีกระซิบกับสือซานสือซษนเองไม่ค่อยเข้าใจ "อธิบายอะไรหรือ?"พระชายายังมีอะไรต้องอธิบายอีกหรือ? เขา
ฟู่จาวหนิงตอนที่เข้ามาก็เห็นชิ่งอวิ๋นเซียวนางประหลาดใจ"ทำไมผู้นำน้อยตระกูลชิ่งถึงแจ้นมาที่นี่ด้วยล่ะ?""บ้านตระกูลชิ่งอยู่ในเมืองชายแดนที่ไม่ห่างจากต้าชื่อเท่าไรนัก น่าจะมีการค้ากับต้าชื่อทางนี้ เทศกาลอวยพรสารทฤดูของต้าชื่อ บ้านตระกูลชิ่งน่าจะส่งคนเข้ามาจัดการเรื่องการค้า"สืออีรู้มาบางส่วน "ก่อนหน้านี้ผู้นำน้อยตระกูลชิ่งมีการสนับสนุนจากท่านอ๋อง กลับมาตระกูลชิ่งก็น่าจะชิงเอาการคุ้มครองจากผู้อาวุโสมาได้ไม่น้อย น่าจะพอลงรากได้อย่างมั่นคงแล้วกระมัง""บังเอิญเสียจริง ที่มาเจอเขาที่นี่"ซือถูไป๋เองก็เห็นนางแล้วส"จาวหนิง"เขาเข้าไปรับฟู่จาวหนิงผู้นำน้อยตระกูลชิ่งพอหมุนตัว ตอนที่เห็นฟู่จาวหนิงก็งงงันไปแล้วเขากำลังเตรียมจะร้องเรียกพระชายาอ๋องเจวี้ยน ฟู่จาวหนิงก็เตือนเขาขึ้นมาก่อนก้าวหนึ่ง "ผู้นำน้อยตระกูลชิ่งเรียกข้าว่าแม่นางฟู่ก็พอ""แม่ แม่นางฟู่!"ผู้นำน้อยตระกูลชิ่งถลึงตาโต "ท่านทำไมถึงมาอยู่ที่นี่กัน?""แน่นอนว่ามีธุระน่ะสิ""นี่ก็บังเอิญจริงๆ! ดังนั้น คุณชายซือถูบอกว่ารอคนอยู่ ที่แท้ก็รอท่านนี่เอง""ใช่แล้ว""เช่นนั้น เขาจึงมากับท่านหรือ?" ผู้นำน้อยตระกูลชิ่งมองไปด้า
เซียวหลันยวนนิ่งงันไปแล้วทำให้ตกใจหรือ?พวกเขาก่อนหน้านี้นี้ที่ผ่านเมือง หลังจากเข้ามาก็ได้ยินคนวิพากษ์วิจารณ์ถึงหน้าตาเขาแน่นอนว่ามีคนคอยกระพือคลื่นอยู่เบื้องหลัง ไม่เช่นนั้นคงไม่ลือมาเร็วขนาดนี้ ลือมาไกลถึงขนาดนี้ผู้คนล้วนกำลังวิพากษ์วิจารณ์ ว่าอ๋องเจวี้ยนหน้าพังไปแล้วครึ่งหนึ่ง น่าเกลียดอย่างมาก ราวกับเป็นผีร้ายไม่ใช่แค่น่าเกลียด แต่ยังน่ากลัวอย่างมากด้วย เห็นแล้วจะฝันร้ายเลยทีเดียวแล้วยังบอกอีก ว่าพอเห็นใบหน้าอ๋องเจวี้ยน ไม่ใช่แค่กินข้าวไม่ลง แต่ยังจะอาเจียนน้ำดีออกมาจนหมดด้วยหลังจากได้ยินครั้งนั้น พวกเขาก็ไม่เข้าไปพักในเมืองอีกเลยเซียวหลันยวนเดิมทีคิดว่าปณิธานตนเองแข็งแกร่งมาก น่าจะไม่สนใจสายตาของคนอื่นได้ แต่ว่าตอนนี้เขารู้สึกจะประเมินตนเองสูงเกินไปแล้วได้พอยินคนอื่นพูดเช่นนี้ เขาเองก็คิดขึ้นมาว่าฟู่จาวหนิงจะกลัวหรือรังเกียจใบหน้านี้ของเขาไหมบางทีอาจจะบอกว่าตอนนี้ยังไม่รังเกียจ แต่หลังจากนี้ล่ะ? ถ้ามันรักษาให้หายจริงๆ ไม่ได้ล่ะ?ลูกๆ ของเขาหลังจากนี้ล่ะ?คำพูดที่ผู้คนพูดกันเช่นนี้ จะส่งผลกระทบไปถึงนางไหม? ถ้าหากทุกคนล้วนกำลังพูด ทำไมถึงมาแต่งงานกับผุ้ชายที่น่
อาสะใภ้ตระกูลเสิ่นกับเสิ่นฟางพี่สาวเสิ่นหยางพอเจอกับซือถูไป๋กับชิ่งอวิ๋นเซียวทั้งสองคน ก็ไม่กล้าส่งเสียงอะไรมาตลอดอาสะใภ้บ้านตระกูลเสิ่นยังพอไหว นางเคยเห็นเสิ่นเสวียนตอนยังเด็กกับวัยหนุ่มมาแล้ว ตอนนั้นเสิ่นเสวียนเองก็มีชื่อว่าเป็นหนุ่มหล่อในต้าชื่อเช่นกัน ต่อให้ตอนนี้เป็นวัยกลางคนแล้วแต่ก็ยังคงดูดีราวกับดวงจันทราดังนั้นตอนที่เห็นซือถูไป๋กับชิ่งอวิ๋นเซียว นางที่อายุมากแล้ว จึงไม่ถึงกับมือไม้เป็นพัลวันหูของเสิ่นฟางหูแดงมาตลอดนั่งร่วมโต๊ะอยู่กับชายหนุ่มสองคนที่หน้าตาดีสะกดหญิงสาวส่วนใหญ่แบบนี้ นางยังไม่กล้าเงยหน้าด้วยซ้ำนับถือฟู่จาวหนิงจริง ที่ยังสุขใจร่าเริงได้แต่ว่า นี่อาจจะเพราะความงามของฟู่จาวหนิงเองก็ไม่ได้ด้อยกว่าพวกเขากระมัง?หลังจากของว่างน้ำชายกเข้ามา อาสะใภ้เสิ่นกับเสิ่นฟางก็รีบเอาความสนใจไปอยู่ที่การค้นคว้าของว่างน้ำชา ถึงอย่างไรพวกนางครั้งนี้ก็ตามมาแล้ว และยังกอดความคิดจะเรียนฝีมือของโรงน้ำชาแห่งนี้ด้วย"ตระกูลชิ่งคิดจะชิงโอกาสสุราพิธีกรรมในการอวยพรขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นในอีกไม่กี่วันนี้ด้วยหรือ?"ซือถูไป๋ถามผู้นำน้อยตระกูลชิ่ง"ไม่หรอก ข้าตอนนี้อายุยังน้อย ไม่ต้
ฟู่จิ้นเชินอันที่จริงก็เตรียมใจไว้แล้วตอนนั้นพวกเขาออกจากเมืองไปแบบนั้น หลายๆ เรื่องยังคงอยู่ ทั้งที่เกี่ยวกับราชวงศ์ท่านอ๋อง ทั้งที่เกี่ยวข้องกับองค์จักรพรรดิ และไม่มีทางที่จะลืมเลือนจากเวลาที่ไหลผ่านไปกระทั่งองค์จักรพรรดิก็ไม่แน่ว่าจะลืมพวกเขาถ้าหากไม่ใช่เพราะลูสาวของพวกเขาจับพลัดจับผลู พบบุพเพมหัศจรรย์จนไปแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยน ตอนนี้พวกเขายังไม่ทันเข้าเมืองหลวงก็คงถูกคนของอ๋องเจวี้ยนจับไปแล้วสิ่งที่รอพวกเขาก็คือการจำคุกและการไต่สวนหรือบางที คนที่รู้เรื่องเบื้องหลังในตอนนั้น หรือคนที่สงสัยว่าพวกเขาไปรู้ความลับอะไรเข้า ตอนนี้อาจจะเปิดเผยตัวกันออกมาถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่มีทางเป็นแบบตอนนี้ ที่ยังเข้าเมืองมาได้อย่างปลอดภัย กลับมาที่บ้านกระทั่งว่า บ้านตระกูลฟู่เองก็อาจจะไม่อยู่แล้วด้วย บ้านหลังนี้ ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะยังอยู่ที่นี่เพื่อรอพวกเขากลับบ้านกลับบ้าน ใช่แล้ว พวกเขาในที่สุดก็กลับมาบ้านแล้วและทั้งหมดนี้ เป็นเพราะจาวหนิงเป็นจาวหนิงที่ให้พวกเขากลับมาบ้านได้ฟู่จิ้นเชินเข้าใจจุดนี้ได้ดียิ่งกว่าใครรอจนอารมณ์ของทุกคนนิ่งลงมาแล้ว เขาจึงถามถึงผู้เฒ่าฟู่กับฟู่จาวหนิ
ฟู่จาวหนิง! พระชายาอ๋องเจวี้ยน! พวกเขาล้วนได้ยินเรื่องของนางมาไม่น้อย นั่นไม่ใช่คนที่ไปยั่วยุได้เลยนะ นางกระทั่งองค์จักรพรรดิก็ยังกล้าไปต่อปากต่อคำด้วย พวกเขาในสายตาฟู่จาวหนิงไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น!ถ้าถูกจับจ้องไว้ล่ะก็ พวกเขาหลังจากนี้ได้เดือดร้อนแน่!คนเหล่านี้ล้วนขวัญเสียกันหมดแล้วคนที่ให้พวกเขาเข้ามาเอะอะบอกไว้ว่า ถ้าเอาคนมาเยอะๆ แล้วบวกกับเรื่องเมื่อสิบแปดปีก่อนเข้าไป ฟู่จิ้นเชินจะต้องนึกพวกเจ้าไม่ออก จำพวกเจ้าไม่ได้แน่ขอแค่เอาคนมามากพอ สถานการณ์วุ่นวายพอ แค่พวกเขาสร้างความวุ่นวายแล้วหนีไป ตระกูลฟู่ก็จับมือใครดมไม่ได้หรอกแต่ใครจะคิดว่าฟู่จิ้นเชินจะมาไม้นี้?"ฟู่ สหายฟู่ ไม่ต้องจดหรอก พวกเราก็แค่เจอพวกเจ้าบนถนนเท่านั้น...""ใช่ๆๆ ไม่มีใครมาแจ้งพวกเรา""พวกเรามีที่มาแหล่งข่าวเสียที่ไหน เข้าใจผิดแล้ว..."พวกเขาคิดจะถอย ถ้าหากไปถึงฟู่จาวหนิงคงวุ่นวายไม่จบไม่สิ้นแน่"ในเมื่อมากันแล้ว เช่นนั้นก็มาคุยเรื่องเก่ากันก่อนเถิด อย่าเพิ่งรีบไปกัน" ฟู่จิ้นเชินเอ่ยขึ้นอย่างสงบ "พวกเจ้าไม่ใช่มาหาสหายเก่าอย่างข้าหรอกหรือ?""เจ้ากับฮูหยินเพิ่งกลับมา น่าจะเหนื่อยกันแล้ว พวกเราเอาไว้ค่อ
พวกของเซี่ยซื่อยังไม่ทันได้พูดเรื่องอ๋องเจวี้ยน ด้านนอกก็มีคนออกแรงตบประตูบ้านตระกูลฟู่ขึ้นเสียงดังเฉินซานออกไปเปิดประตู คนกลุ่มหนึ่งก็ทะลักเข้ามาคนเหล่านี้ เฉินซานคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่ ก่อนหน้านี้ตอนที่เขายังเป็นนักเลงหัวไม้อยู่ในเมืองหลวง จริงๆ ก็ให้ความสนใจกับพวกพ่อค้าขุนนางระดับล่างเหล่านี้อยู่คนเหล่านี้ล้วนอายุราวสามสี่สิบปี อายุประมาณฟู่จิ้นเชิน"คุณชายใหญ่ฟู่!""เร็ว ได้ยินว่าอัจฉริยะใหญ่ฟู่กลับมาแล้วหรือ?""คุณชายฟู่กลับมาแล้วจริงหรือ?"คนกลุ่มหนึ่งทะลักเข้ามา ล้วนมองอย่างตื่นเต้นมาที่ฟู่จิ้นเชินขณะที่ยังตกใจกับความหล่อเหลาราววัยหนุ่มของฟู่จิ้นเชิน กับความสวยสะพรั่งของเสิ่นเชี่ยว พวกเขาลืมเป้าหมายที่มายังบ้านตระกูลฟู่นี้แล้วพวกเขาแย่งกันพูดขึ้นมา"สหายฟู่ ให้ตายเถอะ เจ้ายังไม่ตายจริงๆ!""คุณชายฟุ่ ยังจำข้าได้ไหม? ข้าต่งฮั่น ตอนนั้นที่เคยสนุกด้วยกันกับเจ้าที่โรงน้ำชา!""จิ้นเชิน ข้าเหอจาวหลิน พวกเราตอนนั้นเกือบจะได้เป็นศิษย์ของอาจารย์คนเดียวกันแล้ว!""อัจฉริยะใหญ่ฟู่ ตอนนั้นพวกเราเดิมพันงานเขียนกันหลายครั้ง พอเจ้าหายตัวไปสิบแปดปีข้าก็คิดถึงเจ้าตลอดเลย เจ้ากลับมาได
ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายยังดูยังสับสนอยู่ ยังไม่มีใจจะไปคิดเล็กคิดน้อยนัก"นี่คือลูกสาวของข้าอันห่าว นางตอนนี้ใช้สกุลเซี่ยเหมือนข้า" เซี่ยซื่อปาดน้ำตาเอ่ยขึ้นเสิ่นเชี่ยวประคองเซี่ยอันห่าวลุกขึ้นดูแล้วเซี่ยซื่อน่าจะมีเรื่องบางอย่างกับตระกูลหลิน ยิ่งไปกว่านั้นในนี้จะต้องเป็นฝีมือของจาวหนิงแน่"ต้องขอบคุณจาวหนิง นางเก็บแม่ลูกอย่างพวกเรามา ไม่เช่นนั้นพวกเราคงไม่รอดกันแล้ว" เซี่ยซื่อเอ่ยขึ้นทั้งน้ำตา ได้สติขึ้นอีกครั้ง "รีบเข้าห้องเร็ว หิมะตกแล้ว ด้านนอกหนาวมาก"คนที่เหมือนแมลงกาฝากในตระกูลฟู่พวกนั้นก็ถูกฟู่จาวหนิงกวาดออกไปแล้ว เรื่องนี้สามีภรรยาฟู่จิ้นเชินรู้แล้วพวกเขาเข้ามาในโถงใหญ่ ลุงจงป้าจงกับหู่จือล้วนได้ยินการเคลื่อนไหว ทั้งหมดจึงวิ่งเข้ามา"คุณชาย คุณชายใหญ่กับฮูหยินน้อยกลับมาแล้วหรือ?""คุณชาย!"ป้าจงกับลุงจงวิ่งเข้ามาก่อน พอเห็นฟู่จิ้นเชินชัดๆ พวกเขาก็น้ำตาไหลอาบทันที ทิ้งตัวลงคุกเข่า"คุณชาย ฮูหยินน้อย พวกท่านกลับมาได้เสียที พวกท่านยังมีชีวิตอยู่ ข้าน้อยรู้อยู่แล้ว ว่าพวกท่านจะต้องมีโชคที่ดีแน่นอน..."พวกเขาล้วนร้องไห้กันออกมาตอนนั้นที่พวกเขาออกไป หู่จือยังเป็นเด็กน้อยอย
แม้จะผ่านไปเกือบสิบแปดปีแล้ว แต่สามีภรรยาฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยวก็ยังเป็นคนที่กาลเวลารักใคร่อยู่พวกเขาแม้จะอายุมากแล้ว หน้าตาก็ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นบ้าง แต่พอเทียบกับสมัยก่อนแล้ว ก็เปลี่ยนแปลงไปไม่เยอะมากมองหลายๆ ครั้งก็มองออกได้คนที่เซียวเหยียนจิ่งเตรียมไว้ยังมองออก ไม่ต้องพูดถึงเซี่ยซื่อเลยเซี่ยซื่อเคยเป็นครอบครัวของพวกเขาด้วยนะหลังจากนางจำได้แล้วยังสงสัยว่าตาตนเองฝาดไปหรือไม่ ยังสงสัยว่าตนเองคงตาลาย ดังนั้นเลยนวดตาทันที จากนั้นจึงมองพวกเขาอย่างละเอียดอีกครั้งไม่เปลี่ยน ยังคงเป็นสองคนนั้นเสิ่นเชี่ยวเองก็จำเซี่ยซื่อได้ แม้ว่านางจะรู้ตัวตนฐานะของตนเองแล้ว แต่ยังคงโพล่งออกมาว่า "พี่สะใภ้รอง!"เซี่ยซื่อคือภรรยาของผู้เฒ่ารองตระกูลหลินและเป็นคนเดียวในตระกูลหลินที่อ่อนโยนเป็นห่วงเสิ่นเชี่ยว ดังนั้นเสิ่นเชี่ยวพอเห็นนาง ดวงตาจึงแดงรื้นขึ้นมาคำว่าพี่สะใภ้รอง ก็ทำเอาเซี่ยซื่อใจสั่นระริกเช่นกันรีบวางตะกร้าที่หิ้วไว้ลงมา เดินตรงไปหานาง"ให้ตายเถอะ อา อาเล็กหรือ?"ไม่ ไม่ใช่อาเล็กชองนางแล้วสิ เซี่ยซื่อยืนอยู่หน้าเสิ่นเชี่ยว ถลึงตาโตอ้าปากค้าง"พี่สะใภ้รอง ข้าข้าเจอครอบครัวของข้าแ
ฟู่จาวหนิงสีหน้าขรึมลงเล็กน้อย "ดูท่า น่าจะมีคนไม่น้อยที่ยังไม่ลืมพวกเขา คอยจับตาดูจนถึงทุกวันนี้""ข้าเตรียมการเสร็จแล้ว รอบบ้านตระกูลฟู่วางองครักษ์ลับเอาไว้แล้ว วางใจเถอะ" เซียวหลันยวนพานางเข้ามา สองมือโอบข้างเอวนาง จ้องมองนาง "องค์จักรพรรดิน่าจะลงมือกับพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้นพ่อลูกชินอ๋องเซียวยังคอยจับตาดูพวกเขาขนาดนี้ มันดูแปลกไปหน่อย""ตรวจสอบดูก็รู้ พวกเขาถ้าหากมีความคิดอะไร มีแผนอะไร มีเป้าหมายอะไร เดี๋ยวก็ได้รู้เอง"ฟู่จาวหนิงไม่ได้ใส่ใจนักเซียวหลันยวนพยักหน้าสายตาเขามองออกไปไกลๆ ถัดจากนี้ต้องดูว่าสามีภรรยาฟู่จิ้นเชินจะรับมืออย่างไร เมืองหลวงยังมีคนที่มีเป้าหมายต่างๆ อยู่ และยังมีขั้วอำนาจที่ใช้วิธีการต่างๆ อยู่อีกด้วยเขาถึงแม้จะเชื่อว่าครั้งนั้นไม่ใช่เสิ่นเชี่ยวที่วางยาพิษ แต่ว่าพวกเขาตอนนั้นถูกใครบางคนหรือเรื่องบางอย่างหนีบเอาไว้ตรงกลาง ไม่มีทางดึงตัวออกมาอย่างหมดจดได้ พวกเขาเองก็เป็นคนในเหตุการณ์ตอนนี้พอมีความสัมพันธ์เช่นนี้กับเขา เซียวหลันยวนก็ยังพิจารณานาว่าพวกเขาจะแบกรับไหวไหม หลังจากนี้จะไม่ถ่วงแข้งขาฟู่จาวหนิงได้จริงไหม จะไม่ทำร้ายนางจริงไหมเซียวหลันยวนไม่ได้
"หนิงหนิง มีเรื่องอะไรถึงคุยกันนานสองนาน?"ในห้องขังมีเสียงเซียวหลันยวนดังออกมา"มาแล้ว"ฟู่จาวหนิงขานรับคำหนึ่ง เตรียมจะกลับห้องขังเซียวเหยียนจิ่งไม่อยากเชื่อ "เจ้าไม่ไปกับข้าจริงหรือ? เจ้าไม่สนใจพ่อแม่เจ้าหรือไรกัน?"ปฏิกิริยาของฟู่จาวหนิงเกินจากที่เขาคาดไว้เขาเดิมทีคิดว่าพอได้ยินว่าพ่อแม่ไม่เป็นไร แล้วยังกลับมาแล้ว ฟู่จาวหนิงอย่างน้อยต้องตาแดงรื้นบ้าง ไม่ก็ร้องไห้ออกมา รีบร้อนตามเขาออกไปอย่างตื่นเต้น เพื่อรีบไปพบพ่อแม่ของนาง"อ๋องเจวี้ยนถึงอย่างไรก็ยังต้องอยู่ในห้องขัง ไม่มีอะไรหรอก เจ้าจัดที่นี่จนดูอยู่สบายไปแล้ว แล้วเขาทำไมยังต้องให้เจ้ามาอยู่ด้วยกันอีก?""ข้ามาอยู่เอง เขาเป็นสามีข้า ข้าไม่อยู่กับเขาแล้วใครจะอยู่กัน?"ฟู่จาวหนิงหลังจากที่รู้เจตนาการมาของเขาก็ขี้เกียจจะคุยกับเขาแล้ว ผลักเขาออก แล้วเดินไปทางห้องขังเซียวเหยียนจิ่งนี่ก็จุ้นจ้านเสียจริง"เจ้าทำไมถึงต้องทำร้ายตัวเองแบบนี้" เซียวเหยียนจิ่งตะโกนใส่หลังนาง "เจ้าเข้าร่วมกับสมาคมหมอใหญ่แล้ว ถ้าเจ้ายินยอม มีคนตั้งมากมายที่ยินดีจะรักและเอ็นดูเจ้า ทำไมต้องมาอยู่ในคุกกับเขาแบบนี้ด้วย"เดิมทีหญิงสาวคนนี้ควรจะควรจะม
"ใช่ พ่อแม่ของเจ้ายังมีชีวิตอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังกลับมาถึงเมืองหลวงแล้ว" เซียวเหยียนจิ่งจ้องมองฟู่จาวหนิง "เป็นอย่างไร เจ้าอยากรีบกลับบ้านไหม? ได้ยินว่าปู่ของเจ้ากับเด็กที่ชื่อเสี่ยวเฟยก็อยู่กันที่จวนอ๋องเจวี้ยนนี่? ถ้าเจ้าไม่กลับไป พ่อแม่ของเจ้าคงจะหาคนไม่เจอแน่"ฟู่จาวหนิงทำท่าทางตกตะลึงอย่างมาก"เจ้าไม่ได้โกหกข้าใช่ไหม? พวกเขากลับมาแล้วจริงหรือ?""ข้าจะโกหกเจ้าทำไมกัน? ไม่เชื่อข้าตอนนี้เจ้าก็ไปกับข้าสิ ข้าจะพาเจ้าไปหาพวกเขา"เซียวเหยียนจิ่งพูด มือเองก็คันยุบยิบ เขาอยากจะยื่นมือไปจูงนางเหลือเกิน จูงนางออกจากคุกใหญ่ถ้าเขาสามารถจูงมือนางออกไปได้ เซียวหลันยวนคงได้กระอักเลือดตายกระมัง?แต่เขาเพิ่งจะขยับ ฟู่จาวหนิงก็ถอยออกไปแล้วสองก้าว"พวกเขาถ้ากลับมาแล้วจริง เช่นนั้นก็ต้องกลับไปที่บ้านตระกูลฟู่ ที่บ้านตระกูลฟู่มีคนอยู่ พวกเขาจะหาคนไม่เจอได้อย่างไรกัน?""เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ?""เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าวิ่งแจ้นเข้ามาบอกข้าหรอกกระมัง? พวกเขาถ้ากลับมาแล้วจริง คนใช้บ้านตระกูลฟู่อีกเดี๋ยวก็คงเข้ามาบอกข้าเอง""เจ้าลืมอ๋องเจวี้ยนไปแล้วหรือ?""เขาก็อยู่ที่นี่ ลืมอะไรกัน?""ความ
ฟู่จาวหนิงอยู่ในคุกเองก็เบื่อหน่อยๆ แล้วนางเหลือบมองเซียวเหยียนจิ่งผาดหนึ่ง จากนั้นจึงตรงไปด้าหน้าเซียวหลันยวน "ข้าออกไปฟังหน่อยได้ไหม?""ไปเถอะ" เซียวหลันยวนพยักหน้า"เอ๋ ไม่หึงแล้วหรือ?" ฟู่จาวหนิงร้องชิชะเซียวหลันยวนหัวเราะเสียงทุ้ม "อย่าไปไกลนักล่ะ ข้าได้ยินอยู่"ถึงอย่างไรนางก็เบื่อๆ ถ้าเซียวเหยียนจิ่งพูดเรื่องอะไรที่ทำให้นางฆ่าเวลาได้ เช่นนั้นเขาก็ควรจะใจกว้างหน่อยแต่ว่า พวกเขาเดินไปไกลมากไม่ได้ ต้องอยู่ในระยะที่เขาสามารถได้ยิน"รู้อยู่แล้วว่าท่านจะใจกว้างหลอกๆ"ฟู่จาวหนิงวางพู่กัน ปรบๆ มือ จากนั้นจึงเดินออกจากห้องขัง"คิดจะพูดอะไร?"เซียวเหยียนจิ่งเดิมทีคิดจะให้เซียวหลันยวนหึงหวง ดังนั้นจึงไม่คิดจะเดินไปไกลนัก"มานี่หน่อย" เซียวเหยียนจิ่งเดินออกมาข้างๆ ไม่กี่ก้าว รู้สึกว่าระยะนี้เซียวหลันยวนน่าจะได้ยินเหมือนคนคุยกันแต่ไม่ได้ยินเนื้อหาด้านในเช่นนี้ก็พอดีฟู่จาวหนิงร้องเชอะในใจ น่าจะเข้าใจความคิดของเขาเพียงแต่เซียวเหยียนจิ่งก็ยังโง่อยู่ เขาคิดว่าระยะนี้เซียวหลันยวนไม่ได้ยินหรือไรกัน?นางเดินออกไปเซียวเหยียนจิ่งบอกกับผู้คุมข้างๆ คำหนึ่ง ให้เขาออกไปก่อนผู้คุม