องค์จักรพรรดิพอได้ยินปัญหานี้ ในสมองก็คิดถึงองค์หญิงหนานฉือขึ้นมาทันที"ตอนนี้วิธีที่เหมาะที่สุดไวที่สุด ก็คือให้องค์หญิงหนานฉือรั้งอ๋องเจวี้ยนไว้""องค์หญิงหนานฉือไม่ได้แสดงควาคิดที่อยากจะแต่งเข้าจวนอ๋องเจวี้ยนเลยนี่นา"นี่ทำให้พวกเขาคลั่งขึ้นมา และไม่รู้ว่าองค์หญิงหนานฉือคนนี้จะวุ่นวายไปถึงตอนไหน จะเลือกสามีเป็นคนแบบไหนกันแน่"องค์จักรพรรดิ ไม่เช่นนั้นเอาอย่างนี้" มีคนเสนอความคิดกับองค์จักรพรรดิ "ลองถามองค์หญิงหนานฉือดูว่าอยากไปเที่ยวที่ต้าชื่อไหม? ถ้าหากนางอยากจะไป ก็ให้อ๋องเจวี้ยนพานางไปสิ"องค์จักรพรรดิตกตะลึงใช้ความคิดนี้ได้ด้วยหรือ?"องค์จักรพรรดิท่านลองคิดดู แคว้นเจาจนถึงต้าชื่อระยะทางห่างไกลมาก อ๋องเจวี้ยนกับองค์หญิงหนานฉืออยู่ด้วยกันตลอดทาง ไม่ใช่ว่าจะเกิดความผูกพันขึ้นมาได้ง่ายหรอกหรือ? ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนเองก็ไม่ใช่ว่าไปต้าชื่อหรือ? ถ้าเห็นอ๋องเจวี้ยนกับองค์หญิงหนานฉือไปด้วยกัน เช่นนั่นมันจะไม่..."ขุนนางแอบหัวเราะอย่างชั่วร้าย นิ้วมือก็ทำท่าทางแยกออกจากกันคนข้างๆ เองก็เข้าใจขึ้นมาแล้ว ทยอยกันหัวเราะพวกเขาพูดถึงภาพฉากออกงานของอ๋องเจวี้ยนกับพระชายา
องค์จักรพรรดิโพล่งออกมา แต่ก็สังเกตได้ทันทีว่าตนเองไม่ควรพูดประโยคนี้ คำพูดนี้ตรงเกินไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขากำลังเดาว่าอ๋องเจวี้ยนจะมาแย่งชิงบัลลังก์อยู่ตลอดเวลาอย่างนั้นถ้าลือกันออกไป เขาคงได้ถูกประณามแน่ยังดีว่าตอนนี้ทั้งหมดเป็นคนสนิทของเขา พวกเขาเองก็รู้ว่าคำพูดเหล่านี้ห้ามลือออกไปเด็ดขาด กระทั่งแต่ละคนยังทำเป็นเหมือนองค์จักรพรรดิไม่ได้พูดเสียด้วยซ้ำ"อันที่จริงพวกเราเองก็ทำเพื่อช่วยอ๋องเจวี้ยน ถ้าเขาเอาแต่ซ่อน แล้วจะดึงหมอเทวดาที่เร้นตัวจากโลกได้อย่างไรกัน? ถ้ามีคนเห็นหน้าเขา แล้วลือกันออกไป ก็จะมีโอกาสให้หมอเทวดาที่จะมารักษาเขาได้ยิน ไม่แน่หมอเทวดาอาจจะเข้ามาก็ได้"นี่ต้องหน้าด้านไร้ยางอายแค่ไหน ถึงจะพูดคำพูดแบบนี้ออกมาได้แต่องค์จักรพรรดิพอได้ยินก็พยักหน้า "อ้ายชิงพูดถูก เช่นนั้นเรื่องนี้ก็ส่งให้พวกเจ้าแล้ว ไปคิดหาวิธีมา ลองดูว่าจะทำอย่างไรให้อ๋องเจวี้ยนเปิดเผยใบหน้าแท้จริงของตนเองต่อสาธารณชน!"องค์หญิงหนานฉือเองก็อยากเห็นใบหน้าแท้จริงของอ๋องเจวี้ยนเหมือนกัน"ส่งคนไปหาข่าวเรื่องของหมอผีแล้วหรือยัง?" องค์หญิงหนานฉืออยู่ในวัง มองอันเหนียนที่กำลังเสวนากับเหล่าคุณชายในสวนดอก
"ข้าครั้งนี้จะพาอายวนไปด้วยกัน ข้ากลัว ขอให้องครักษ์เงามังกรคุ้มกันไปส่งหน่อย ไม่น่ามีปัญหาไหม?"ไทเฮาตอนที่บอกกับองค์จักรพรรดิ องค์จักรพรรดิแม้จะรู้สึกไม่เหมาะสม แต่ก็ไม่มีคำพูดจะไปค้านนี่เป็นเสด็จแม่ของเขาเลยนะนี่ก็ตกอกตกใจจนหวาดกลัวขึ้นแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังคิดจะไปไหวพระกินมังสวิรัติให้สงบสุขสักระยะหนึ่ง ถ้าเขาไม่เห็นด้วย ความอกตัญญูคงได้ทับเขาจนตายแน่ไทเฮาจะใช้องครักษ์เงามังกร จะบอกห้ามใช้ก็ไม่ได้"เสด็จแม่ ถ้าท่านอยากจะไปก็ไม่มีปัญหา แต่ทำไมต้องไปวัดพันพุทธที่ไกลขนาดนั้นด้วย? วัดคุ้มครองแคว้นที่อยู่ใกล้ๆ เมืองหลวงไม่ดีหรือ?"องค์จักรพรรดิยังคิดจะเตือนไทเฮาว่าอย่าไปไกลนักเลยวัดพันพุทธอยู่ค่อนข้างไกล ไปกลับรอบหนึ่งก็กว่าครึ่งเดือนแล้ว นี่ถ้ามีเรื่องอะไรก็คงจะไม่ทันการเอา"ข้าไม่เหมาะกับวัดคุ้มครองแคว้นมาโดยตลอด เรื่องนี้เจ้าเองก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้"สีหน้าของไทเฮาขรึมลงมาแล้วองค์จักรพรรดิก็เพิ่งคิดออก ตอนนั้นเสื้อผ้าของเสด็จแม่เซียวหลันยวนก็ถูกส่งมาที่วัดคุ้มครองแคว้น ดังนั้นไทเฮาจึงไม่ค่อยชอบไปที่วัดคุ้มครองแคว้น นี่ก็ดูสอดคล้องกับนิสัยไทเฮาอยู่"แล้วก็ บทสวดที่เจ้าอาวา
โอกาสเพียงไม่นานก็มาถึงคืนนี้มีหิมะตกห่าใหญ่ วันถัดมาช่วงเช้า ทั่วทั้งเมืองหลวงถูกหิมะขาวปกคลุม ขาวโพลนไปทั้งผืนด้านนอกประตูทางเหนือมีประชาชนกลุ่มใหญ่ทะลักกันเข้ามาพวกเขาล้วนมาจากเมืองเล็กห่างออกไปสิบกว่าลี้"เมืองเล็กของพวกเราอยู่ในภูเขา ในภูเขาหลายวันก่อนก็เริ่มมีหิมะตกแล้ว ปีนี้หนาวเย็นเป็นพิเศษ ทำเอาไร่นากับผักสดที่พวกเราปลูกไว้หนาวตายหมด หลายวันก่อนหิมะตกหนักมาก จนหิมะทับบ้านเรือนไปหลายหลัง พวกเราเองก็ไม่กล้าอยู่ที่นั่น""ถูกต้อง รีบหนีภัยพิบัติออกมาก่อน รอฤดูใบไม้ผลิแล้วค่อยกลับไป พวกเราไม่ใช่ผู้ประสบภัยนะ ปล่อยพวกเราเข้าไปเถอะ"เมืองเล็กในภูเขานั่น คนในเมืองหลวงก็รู้จักกันเพราะตอนที่ฤดูใบไม้ผลิทิวทัศน์ในภูเขานั้นสวยงามเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงมีคนไม่น้อยที่ไปพักค้างแรมที่นั่นกันวันสองวันเพื่อชมทิวทัศน์ ล่องเรืออะไรแบบนั้นยิ่งไปกว่านั้นเมืองเล็กนั่นก็ชื่อว่าเมืองงามตระการเมืองงามตระการ ยังเป็นบ้านเกิดแต่เดิมของตระกูลหลินด้วยเซี่ยซื่อออกไปซื้อซาลาเปาตอนเช้า และเห็นกับความอึกทึกนี้พอดี เห็นคนจากเมืองงามตระการเข้าเมืองมาแล้วเขาตอนนี้ไม่ใช่ฮูหยินรองตระกูลหลินอีกแล้ว ต่อ
"ไม่ใช่บอกว่า ฟู่หลินซื่อไม่ใช่ลูกสาวตระกูลหลินหรอกหรือ?"รอบๆ มีคนไม่น้อยถูกดึงดูดเข้ามา บ้านตระกูลฟู่ไม่ได้เอะอะขนาดนี้มาพักหนึ่งแล้ว พวกเขายังดูไม่ค่อยชินตอนนี้ตระกูลฟู่คึกคักขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขาจะไม่รีบเข้ามาล้อมดูได้อย่างไรกัน?บ้านนี้มีพระชายาอ๋องเจวี้ยนออกมาคนหนึ่งแล้วนะแต่ว่า พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็ไม่ปรากฏตัวนานมากแล้ว ไม่รู้ว่ามีคนมาเอะอะถึงหน้าบ้านแบบนี้จะเสียเปรียบหรือเปล่า"ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลหลิน ถ้าอย่างนั้นสิบกว่าปีก็เลี้ยงเสียเปล่าน่ะสิ?"ญาติตระกูลหลินจากเมืองงามตระการ ยายแก่คนนี้ไม่ใช่จะแหยมด้วยได้ง่ายๆ นะพอได้ยินคำพูดของเพื่อนบ้าน นางก็มือเท้าสะเอว ชี้นิ้วขึ้นฟ้า"เลี้ยงดูเด็กน้อยจนโต คอยเช็ดขี้เช็ดเยี่ยว แล้วยังดูเรื่องแต่งงาน ให้ออกเรือน ส่งของหมั้นล้ำค่ามาให้ นี่ไม่ถือเป็นบุญคุณหรอกหรือ?""บ้านตระกูลฟู่แต่งหญิงสาวตระกูลหลินเข้ามา แล้วเช่นนี้คิดจะสะบัดญาติทิ้งอย่างนั้นหรือ? ได้ยินว่าหญิงสาวของตระกูลฟู่นี้ขึ้นเป็นพระชายา เป็นพระชายาแล้วยังมารังแกคนอื่นได้หรือไรกัน?""ถูกต้องถูกต้อง ได้ยินว่าพระชายาไปตัดขาดญาติมิตรแทนแม่ของนาง ท่านผู้เฒ่าฟู่ท
บ้านตระกูลหลินพอเห็นนางกับอันห่าวมีชีวิตดีดีในบ้านตระกูลฟู่ ใจก็คันยุบยิบขึ้นมาพอบวกกับหลังจากที่เซี่ยซื่อออกมาตระกูลหลินก็ไม่รู้เพราะอะไรถึงได้มีแต่เรื่องไม่หยุดหย่อน มีเรื่องเสียเงินเสียทองอยู่ประจำ วันคืนที่ไม่ค่อยจะมั่งมีก็เหมือนถูกทับถมลงไปอีก พอมาเห็นพวกนางแม่ลูกได้ดิบได้ดี จะไม่เคืองได้อย่างไรกัน?นี่คือคิดจะดึงเซี่ยซื่อกับอันห่าวให้กลับไปกระมัง?แล้วยังคิดจะมาขอทานกับบ้านตระกูลฟู่ด้วยบ้านตระกูลฟู่ตอนนี้ถือว่าไม่เลว ถ้าพวกเขาอยากจะมาขอทานกับบ้านตระกูลฟู่ก็เป็นเรื่องปกติ"อันห่าวจะอย่างไรก็ยังเป็นเด็กของบ้านตระกูลหลินนะ พวกเราอย่างน้อยขอเข้าไปดูหน่อย เปิดประตู ให้ท่านผู้เฒ่าฟู่ออกมารับแขก!""ใช่ เปิดประตู พวกเราล้วนเป็นญาติของฟู่หลินซื่อ ตากับยาย ลุงป้าพี่น้องก็อยู่กันหมด อากาศเย็นขนาดนี้ปล่อยให้พวกเราหนาวอยู่ข้างนอกได้อย่างไรกัน?""เห็นว่ามีอ๋องเจวี้ยนหนุนหลังก็เลยไม่เห็นใครในสายตาแล้วหรือ?""เช่นนั้นพวกเราจะไปถามอ๋องเจวี้ยน เขาเป็นอ๋องแล้วยอดเยี่ยมนักหรือไร? เป็นอ๋องแล้วจะไม่สนเรื่องจรรยาบรรณความซื่อสัตย์ได้หรือ?"คนเหล่านี้พูดไปอาละวาดไป คิดจะไปหาอ๋องเจวี้ยนเสียแล้ว
ยืนยันว่ามีคนจงใจกวนน้ำให้ขุ่นยิ่งขึ้นรอจนท่านผู้เฒ่าฟู่รู้ว่าด้านนอกมีคนมากันมากมาย เรื่องก็เริ่มไม่ค่อยถูกต้องเสียแล้วมคนเริ่มขึ้นมาทุบประตู"เปิดประตู!"ในกลุ่มคนมีคนช่วยกันตะโกน "องค์จักรพรรดิบอกแล้วว่าต้องให้ผู้ประสบภัยอย่างพวกเราสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของเมืองหลวง แต่ผู้ประสบภัยอย่างพวกเราก็ไม่อยากจะไปรบกวนคนอื่นนัก และไม่อยากสร้างปัญหากับองค์จักรพรรดิด้วย แค่อยากจะมาร่วมอยู่กับญาติสนิทมิตรสหายไม่กี่เดือนเท่านั้น ตระกูลฟู่เห็นๆ อยู่ว่าบ้านก็ใหญ่โต ทำไมจึงขี้เหนียวนัก?""ถูกต้อง ได้ยินว่าคนที่อยู่ในบ้านตระกูลฟู่ก็มีน้อยมาก ให้ญาติตระกูลหลินพวกนี้เข้าไปพักก็ยังเพียงพอ นี่ทำไมถึงได้แล้งน้ำใจนัก""เป็นเพราะท่านผู้เฒ่าฟู่รู้สึกว่าตนเองกลายเป็นผู้อาวุโสของอ๋องเจวี้ยน ตัวตนฐานะก็ต่างออกไปแล้วใช่ไหม ดังนั้นเลยคิดจะวางก้ามสินะ?""นี่ก็เป็นไปได้มากเลย อ๋องเจวี้ยนคนนั้นเองก็เป็นคนเย็นชาแล้งน้ำใจด้วยใช่ไหม? ได้ยินว่าอำนาจเขาก็ใหญ่โตอยู่นี่ องค์จักรพรรดิเองก็ยังต้องถอยให้ระดับหนึ่ง""เฮอะ นี่ก็เกินไปหน่อยไหม? ไม่ใช่บอกว่าสุขภาพเขาไม่ค่อยดีหรือ? เห็นว่าป่วยจนพิการไปแล้ว ยังมีอำนาจขนาด
ชิงอีหน้าเปลี่ยนสี ถีบคนออกไปคนหนึ่ง ขณะเดียวกันก็ยื่นมือคว้าจับอีกสองคน สะบัดพวกเขาออกไป แต่ตอนที่พวกเขาเงยหน้าขึ้นมาสายตากลับเหม่อลอยคนพวกนี้ดูแปลกไป!มีคนยื่นมือมาทางขาเซียวหลันยวน เซียวหลันยวนยื่นมือมาขวางการกระทำทั้งหมดนี้ล้วนเกิดขึ้นพร้อมกันพวกเขาขวางไว้ได้ด้านหนึ่ง แต่ขวางการลอบโจมตีทั้งหมดไม่ได้เสียงกิ๊งดังขึ้น หน้ากากของอ๋องเจวี้ยนถูกเกี่ยวไว้แล้วด้ายเงินนั้นถูกออกแรงกระชาก"อ๊า! อ๋องเจวี้ยน!""ท่านอ๋อง!"กลุ่มคนร้องตกใจ ล้วนมองไปทางอ๋องเจวี้ยนตะขอด้ายเงินกระชากเปิดหน้ากากครึ่งหน้าของอ๋องเจวี้ยน ขณะเดียวกันก็ยังดึงกวานม่วงทองที่รวบผมไว้จนหลุดด้วยผมดำของอ๋องเจวี้ยนสยายลงมาขณะเดียวกัน ใบหน้าครึ่งหนึ่งนั้นก็ไม่มีอะไรปิดบังไว้อีกประชาชนหลายคนที่อยู่ข้างรถม้ามองเห็นใบหน้าอ๋องเจวี้ยนอย่างชัดเจน"อ๊า!""ผี!"พวกเขาล้วนตกตะลึงร้องเสียงหลงออกมาเสียงร้องเช่นนี้ ทำเอาคนอื่นหันมองมาทันควันพวกเขามองเห็นใบหน้าของอ๋องเจวี้ยนแล้วพวกผู้เฒ่าฟู่กับฟู่จาวเฟยที่หน้าประตูใหญ่ก็ล้วนมองเห็นแล้วพวกเขาราวกับถูกสายฟ้าฟาดใส่หน้าของอ๋องเจวี้ยน...น่ากลัวเกินไปแล้ว!และ
หยวนอี้ตอนที่เข้ามาก็เห็นกับภาพที่ 'สับสนอลหม่าน' นี้เขาประกายตาแล่นวาบ กำลังจะเข้าไปในประตูวงกลม ไป๋หู่ก็หมุนตัวมามองเขา "ช้าก่อน"หยวนอี้โบกไม้โบกมือ "สหายไป๋หู่""อย่าเข้าใกล้นัก เหมือนข้าเคยบอกท่านไว้แล้ว ที่นี่ท่านห้ามเข้าไป" ไป๋หู่เอ่ยขึ้นฟู่จิ้นเชินออกมาจัดการความวุ่นวายนี้ ให้ป้าหนิวป้าหลี่มาช่วยประคององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเข้าไปในห้องเฉินเซียงกลับไม่มีใครสนใจ"พวกเจ้ารังแกกันเกินไปแล้ว..."เฉินเซียงดิ้นรนอยู่พักหนึ่งถึงลุกขึ้นมาได้ นางรู้สึกว่าอวัยวะภายในตนเองปวดร้าวไปหมดเท้าของฟู่จาวหนิงแรงหนักขนาดนี้เชียว!นางไม่เป็นวรยุทธ์เลยจริงหรือ?แต่ว่าฟู่จาวหนิงทำไมถึงกล้า กล้าเตะนางขนาดนี้!สายตาของหยวนอี้เก็บกลับมาจากตัวองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ถูกประคองเข้าห้อง หันไปตกอยู่บนตัวเฉินเซ๊ยงแทน ใต้ตาเกิดความสนใจขึ้นมา"แม่นางไปยั่วหมอฟู่อย่างไรกันเนี่ย?"ฟู่จาวหนิงมองเขา ถามไป๋หู่ว่า "นี่ใครหรือ?""บอกว่าชื่อหยวนอี้ ติดตามหมอหลวงคนหนึ่งเข้ามา อยากจะมาช่วยเหลือที่เมืองเจ้อขอรับ" ไป๋หู่บอกกับฟู่จาวหนิงฟู่จิ้นเชินเดินมาอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง กดเสียงลงต่ำ "รู้สึกเหมือนเขาน่าสงสัย
เซียวหลันยวนหมุนตัวจากไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองแผ่นเหลังเขา จะอย่างไรก็ตั้งสติกลับมาไม่ได้เฉินเซียงเห็นว่าการสนทนาขององค์หญิงใหญ่พังทลายลงแล้ว สีหน้าก็ลนลานขึ้นมา รีบลุกขึ้นมาไล่ตามเซียวหลันยวนไป"อ๋องเจวี้ยน! ท่านทำเช่นนี้ไม่ได้!" หมอเทวดาฟู่วางยาอะไรใส่ท่านใช่ไหม ท่านทำไมถึงได้ใจดำขนาดนี้?นางยังไม่ทันพุ่งออกจากประตูวงกลม ก็ถูกไป๋หู่ฟาดกลับมาไป๋หู่ยังใช้แค่กำลังภายในด้วย แต่ห้ามไม่ให้นางออกไป ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายนางแต่เฉินเซียงก็ทรุดตัวลงบนพื้น แค่รู้สึกว่าเจ็บเข่าเจ็บก้น มือก็เจ็บ หัวก็ปวดไปหมดนางร้องไห้ออกมา "พวกเจ้าจะมารังแกองค์หญิงใหญ่ของพวกเราแบบนี้ไม่ได้ นางเป็นองค์หญิงใหญ่ที่มีโชคมากที่สุดในต้าชื่อนะ"เซียวหลันยวนเดินไปไกลแล้ว ไม่หันหลังกลับมาไป๋หู่ยืนอยู่ที่ประตูวงกลม มององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่นั่งเหม่อลอยอยู่บนพื้น เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ "องค์หญิงใหญ่กลับห้องไปเถิด"จะว่าไปเขาเองก็เป็นคนต้าชื่อเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินเรื่ององค์หญิงใหญ่มามากตอนนี้พอเห็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกต่ำจนน้ำตานองหน้า เขาก็รู้สึกซับซ้อนขึ้นมาหน่อยๆแต่ว่า องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ
หญิงสาวที่น่าสงสาร ตอนเด็กๆ เขาเห็นในวังหลังมาแล้วไม่น้อย มีภูมิคุ้มกันไปนานแล้ว"ข้าไม่ได้จะแย่งชิงอะไรกับหมอเทวดาฟู่ ถ้าเราแต่งกันหลอกๆ ได้ไหม? ข้าแค่ต้องการหาที่ไปเท่านั้น แค่อยากให้ท่านคอยปกป้องข้าไม่กี่ปี ถ้าห้าปีไม่ได้ล่ะก็ สามปีก็พอ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเห็นเซียวหลันยวนไม่พูดจา จึงหดเวลาลงมาอีก"สามปีนี้ ข้าแค่แบกชื่อพระชายารองไว้ในนามเท่านั้น พออยู่ภายนอกก็ขอให้ท่านอ๋องเล่นละครกับข้าหน่อย แสร้งเป็นสามีภรรยา สามารถปกป้องข้าได้ ในจวนอ๋อง ข้ารับรองว่าจะทำตามหน้าที่ตนเอง เลี่ยงท่านอ๋องให้ห่าง ไม่คิดอะไรเกินเลย""เป็นถึงองค์หญิงใหญ่ต้าชื่อ แต่คิดจะเอาตัวเองไปไว้ในจุดต่ำตมหรือ?" เซียวหลันยวนถาม"อ๋องเจวี้ยนโปรดเมตตา"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นน้ำตาไหลพราก "ข้าไม่มีทางเลือกแล้ว ข้าเอาของให้ท่านได้ ยิ่งไปกว่านั้น โชคของข้าก็ดีมาโดยตลอด ถ้าเป็นพระชายารองอ๋องเจวี้ยนในนาม จะต้องช่วยเหลือท่านอ๋องได้แน่ ไม่ว่าท่านอ๋องจะทำอะไร ก็จะยิ่งราบรื่น ผลลัพธ์สมปรารถนา""องค์หญิงใหญ่มั่นใจกับโชคของตนเองขนาดนี้เชียว?" เซียวหลันยวนได้ยินคำนี้ก็อดนึกขันขึ้นมาไม่ได้"โชคจุดนี้ข้ามีอยู่ ท่านเองก็เชื่อข้าได
เซียวหลันยวนมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นและไม่รู้ว่านางทำไมถึงพูดว่า 'เขาเอามาเองไม่ได้' ออกมา"แล้วของนั่นมันคืออะไรกัน?" เขาถามขึ้นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลนลานขึ้นมานางรู้ที่ไหนว่าสิ่งนั้นคืออะไร? มันคือกล่องที่เปิดไม่ได้ แล้วก็มองไม่เห็นว่าด้านในมีอะไรนี่นา?"ตอนนี้ข้ายังบอกท่านไม่ได้ แต่สำคัญกับท่านมากแน่นอน""เจ้าไม่บอกว่าคืออะไร แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรว่ามันจริงหรือไม่จริง? จะว่าไป เจ้าบอกว่าเจ้าฝันเห็นอนาคตได้ นี่มันก็ดูเหลวไหลเกินไปนะ ข้าควรจะเชื่อเรื่องนี้ด้วยไหม?""เรื่องจริงนะ เพราะข้าฝันเห็นแบบนั้น ตอนเด็กๆ ได้พบกับเจ้าอารามยอดเขาโยวชิง เขาบอกว่า ข้าเป็นตัวเลือกที่เหมาะจะเป็นพระชายาของท่านมาก! แล้วยังชี้แนะข้า ให้ข้าเติบโตอย่างดีในสุสานจักรพรรดิ ถ้ายังไม่ถึงเวลาสำคัญอย่าเพิ่งกลับเมืองหลวง"เซียวหลันยวนก็เชื่อคำพูดของนางอยู่ เจ้าอารามยอดเขาโยวชิงอาจจะพูดเหล่านี้กับนางก็ได้ยิ่งไปกว่านั้น ท่านหูที่คุยถ่ายทอดคำพูดเจ้าอารามมาตลอดก็พูดอะไรทำนองนี้แต่เขาไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตนี้ต้องไปผูกอยู่บนตัวหญิงสาวคนหนึ่งเลยบางทีอาจจะได้ แต่คนคนนั้นก็อาจจะไม่ใช่คนที่เขากำหนด อย่างจาวหนิง
นางอยากจะให้เซียวหลันยวนไม่พอใจตัวฟู่จาวหนิงเสียเหลือเกินแต่พอสิ้นเสียงนาง เซียวหลันยวนก็หันมามองนาง แม้จะสวมหน้ากากอยู่ แต่เฉินเซียงจู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่านางถูกสายตาที่เย็นเยียบแหลมคนฆ่าตายไปแล้วนางใจสั่นวาบ จู่ๆ ก็รู้สึกเสียใจกับคำพูดเมื่อครู่ที่พูดไป แต่ก็สายไปแล้วนางได้ยินคำพูดเย็นชาของเซียวหลันยวนว่า"องค์หญิงใหญ่ถ้าหากมีเรื่องจะคุยกับข้า ก็ให้ทาสของเจ้าไปคุกเข่าอยู่ตรงนั้นก่อน"เซียวหลันยวนชี้ไปที่กลางสวนคุกเข่าที่นั่น คนป่วยทั้งหมดในห้องข้างฝั่งตะวันตกจะมองเห็นเฉินเซียงถลึงตาโตใส่อย่างไม่อยากเชื่อ"อ๋องเจวี้ยน" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกตะลึงไป "เฉินเซียงก็แค่ปกป้องข้ามากเกินไปเท่านั้น นางไม่ได้มีความคิดไม่ดี...""ให้นางคุกเข่า ข้าถึงจะฟังเจ้าพูด ถ้านางไม่ทำ ข้าก็จะไปแล้ว" เซียวหลันยวนตัดบทนางเฉินเซียงบอกว่าฟู่จาวหนิงแอบมีชู้กับอันเหนียน เขาจดจำมาโดยตลอด"อ๋องเจวี้ยน เฉินเซียงนางเองก็ป่วย ถ้าไปตากลมหนาวบนพื้น นางจะ...""เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว"เซียวหลันยวนพูดจบก็หมุนตัวกลับทันทีเฉินเซียงลนลานขึ้นมา "อ๋องเจวี้ยน ข้าจะไปคุกเข่าเดี๋ยวนี้! ท่านโปรดรอก่อน!""เฉินเ
สิ่งที่ทำให้ตาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นขุ่นเคืองคือ ฟู่จาวหนิงคล้องแขนอ๋องเจวี้ยนเดินเข้ามา"พวกเขาทำไมถึงคล้องแขนกันเดินแบบนั้นล่ะ?"เฉินเซียงถลึงตาโตนางไม่เคยเห็นสามีภรรยาเดินกันแบบนี้เลย ปกติแล้ว ภรรยาจะเดินอยู่ด้านหลังสามีประมาณครึ่งก้าวนี่ หรืออย่างมากก็ไหล่ชนไหล่แต่พออยู่ภายนอกก็ต้องคอยระวังเรื่องมารยาท มีใครเขามาคล้องแขนเดินกันแบบนี้บ้าง?ยิ่งไปกว่านั้นตัวฟู่จาวหนิงเองก็ยังเอนมาเบียดแขนอ๋องเจวี้ยนด้วย"นางเดินแบบนี้มันดูสง่างามตรงไหน บิดๆ เบียดๆ เงอะงะงุ่มง่ามเหมือนอะไรล่ะนั่น?" เฉินเซียงกดเสียงต่ำ พูดแบบไม่พอใจกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น "นี่มันดูเป็นพระชายาตรงไหนกัน?"เหมือนพวกอนุภรรยาที่เอาแต่เบียดเสียดชายหนุ่มมากกว่าพระชายาตัวจริงต้องมีท่าทีสง่างาม มีคุณธรรม บุคลิกภาพโดดเด่นสิทำตัวออดอ้อนแบบนี้ มันเหมือนกับปีศาจสาวที่อยากจะสูบพลังหยางจากชายหนุ่มจนตัวสั่นอย่างไรอย่างนั้น เหมือนพวกอนุภรรยาที่ไร้เกียรติเฉินเซียงถึงอย่างไรก็ไม่ชินตาแต่ไม่รู้เพราะอะไร องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลับรู้สึกอิจฉาจนควบคุมไม่อยู่ชายหนุ่มที่เย็นชาขนาดนั้นแบบอ๋องเจวี้ยน ก็ยังตามใจให้ฟู่จาวหนิง แล้วยังปร
"ข้ารู้แล้ว อีกเดี๋ยวข้าจะออกไป" เซียวหลันยวนพยักหน้าฟู่จิ้นเชินเงียบไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า "นางน่าจะมีเรื่องมาขอร้องท่าน แต่ว่า เรื่องที่นางจะขอร้องข้าเองก็พอจะนึกออก"เขาอยากบอกว่า เรื่องแบบนี้ ถ้าหากรับปากไป ไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์สามีภรรยากับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหรือไม่ แต่การที่พานางเข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยน ถือเป็นการทรยศและทำร้ายจาวหนิงแต่ก็ไม่อยากพูดออกมาตอนนี้เขาอยากจะเห็นว่าเซียวหลันยวนจะเลือกอย่างไร ที่สำคัญที่สุดคือ เขาเองก็ไม่รู้ว่าเงื่อนไขที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นงัดออกมาได้คืออะไร ถ้าเผื่อมันสำคัญอย่างมากกับเซียวหลันยวนจริงๆ ล่ะ?"ท่านพ่อตาอยากพูดอะไรหรือ?" เซียวหลันยวนย้อนถามเขา"อ๋า?"ฟู่จิ้นเชินถูกคำเรียก 'ท่านพ่อตา' ที่มาอย่างกะทันหันนี้ทำเอางงงันไปหมด ตั้งตัวกลับมาไม่ได้ชั่วขณะหนึ่งเซียวหลันยวนก็พูดต่อมาอีก "วางใจเถิด ข้าไม่ทำเรื่องที่ผิดกับหนิงหนิงแน่นอน"พูดจบเขาก็หมุนตัวเตรียมเข้าห้อง ""หากไม่มีเรื่องอะไร คนป่วยทางนั้นรบกวนท่านดูไว้หน่อย ให้หนิงหนิงได้กินข้าวเช้าก่อนพอเซียวหลันยวนเข้าห้องไป ประตูก็ปิดลงมา ฟู่จิ้นเชินมองไปทางชิงอีที่อยู่ข้างๆ ช้าๆชิงอีเองก็
องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถูกคนเหล่านี้พูดจนตาแทบแดงก่ำนางไม่ยอมให้เป็นแบบนี้!นางเองก็มีเกียรตินะ นางเป็นถึงองค์หญิงใหญ่ เดิมทีควรจะล้ำค่าสูงส่ง สามารถเลือกราชบุตรเขยดีดีได้แต่ตอนนี้นางมีทางเลือกอะไรล่ะ?ถ้าไม่ใช่เพราะนางมีพระเชษฐาแบบนั้น นางคงไม่ต้องทำให้มาถึงจุดนี้หรอกนางแค่อยากจะช่วยตนเองเท่านั้น แล้วมันผิดตรงไหน? ถ้าหากทำได้ นางก็ไม่อยากไปทำร้ายใครทั้งนั้น นางเป็นคนที่มดแค่ตัวเดียวก็ยังทำใจเหยียบไม่ลงด้วยซ้ำ"รบกวนท่านลุงฟู่ด้วย ข้ามีเรื่องสำคัญจริงๆ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง ถอยไปที่ประตูวงกลมทางนั้นเฉินเซียงถลึงตาใส่ห้องนั้น คารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง "รบกวนท่านลุงฟู่ช่วยเหลือด้วย องค์หญิงใหญ่พวกรเาจะไปรออ๋องเจวี้ยนที่นั่น"พูดจบนางก็รีบเดินไปหาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นฟู่จิ้นเชินส่ายหัวเขาก็เหมือนรู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกอยู่ในสภาพไหน มาเจอกับฝ่าบาทต้าชื่อแบบนั้น นางเองอันที่จริงก็น่าสงสารแต่ว่า ท้ายสุดแล้วนางก็ยังไม่ฉลาดพอ เส้นทางที่เดินได้ นางกลับเดินอย่างสะเปะสะปะแต่พูดมาก็ถูก นางเติบโตมาที่สุสานจักรพรรดิ ไม่ค่อยได้พบเจอกับผู้คนสักเท่าไร และย
ก่อนหน้านี้ทรมานหมอฟู่ไว้มาก สาวใช้นั่นยังบอกว่าหมอฟู่กับนายท่านเป็นอะไรอะไรกันอีก ป้าหนิวเห็นแล้วไม่สบอารมณ์องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถูกนางเหลือบมองใส่แบบนี้จนอายไปเฉินเซียงกลับถลึงตามองแผ่นหลังป้าหนิวเจ้าคนชั้นต่ำ นังคนชั้นต่ำ กล้ามามององค์หญิงใหญ่พวกนางแบบนี้เรอะฟู่จิ้นเชินตอนนี้จึงหมุนตัวหันไปมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถามขึ้นว่า "องค์หญิงใหญ่จะพบอ๋องเจวี้ยน เพราะอยากให้อ๋องเจวี้ยนพาท่านไปเมืองหลวงหรือ? ถ้าหากมีเป้าหมายนี้ เช่นนั้นข้าบอกท่านไว้ได้เลย ว่าท่านยังออกจากเมืองเจ้อไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกับอันเหนียนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวสามฝ่ายตกลงกันแล้ว ตอนนี้ประตูเมืองปิดอยู่ ใครอยากจะออกจากเมือง ต้องยื่นจดหมายออกจากเมืองมา ถ้าบนต้องมีผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใต้เท้าอันและหมอฟู่สามคนลงนาม ขาดไปสักคนก็ไม่ได้ถ้าหากไม่มีจดหมายออกจากเมืองที่มีนามทั้งสาม ใครก็ออกไปไม่ได้ทั้งนั้นแล้วอาการป่วยอย่างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงไม่มีทางปล่อยนางออกไปแน่ไหนจะเรื่องที่นางจะตามอ๋องเจวี้ยนไปอีกฟู่จิ้นเชินตอนนี้รู้สึกว่าสมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก แค่คิดก็รู้แล้ว ฟู่จาวหนิงจะยอมให้อ๋องเ