"ไม่ใช่บอกว่า ฟู่หลินซื่อไม่ใช่ลูกสาวตระกูลหลินหรอกหรือ?"รอบๆ มีคนไม่น้อยถูกดึงดูดเข้ามา บ้านตระกูลฟู่ไม่ได้เอะอะขนาดนี้มาพักหนึ่งแล้ว พวกเขายังดูไม่ค่อยชินตอนนี้ตระกูลฟู่คึกคักขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขาจะไม่รีบเข้ามาล้อมดูได้อย่างไรกัน?บ้านนี้มีพระชายาอ๋องเจวี้ยนออกมาคนหนึ่งแล้วนะแต่ว่า พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็ไม่ปรากฏตัวนานมากแล้ว ไม่รู้ว่ามีคนมาเอะอะถึงหน้าบ้านแบบนี้จะเสียเปรียบหรือเปล่า"ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลหลิน ถ้าอย่างนั้นสิบกว่าปีก็เลี้ยงเสียเปล่าน่ะสิ?"ญาติตระกูลหลินจากเมืองงามตระการ ยายแก่คนนี้ไม่ใช่จะแหยมด้วยได้ง่ายๆ นะพอได้ยินคำพูดของเพื่อนบ้าน นางก็มือเท้าสะเอว ชี้นิ้วขึ้นฟ้า"เลี้ยงดูเด็กน้อยจนโต คอยเช็ดขี้เช็ดเยี่ยว แล้วยังดูเรื่องแต่งงาน ให้ออกเรือน ส่งของหมั้นล้ำค่ามาให้ นี่ไม่ถือเป็นบุญคุณหรอกหรือ?""บ้านตระกูลฟู่แต่งหญิงสาวตระกูลหลินเข้ามา แล้วเช่นนี้คิดจะสะบัดญาติทิ้งอย่างนั้นหรือ? ได้ยินว่าหญิงสาวของตระกูลฟู่นี้ขึ้นเป็นพระชายา เป็นพระชายาแล้วยังมารังแกคนอื่นได้หรือไรกัน?""ถูกต้องถูกต้อง ได้ยินว่าพระชายาไปตัดขาดญาติมิตรแทนแม่ของนาง ท่านผู้เฒ่าฟู่ท
บ้านตระกูลหลินพอเห็นนางกับอันห่าวมีชีวิตดีดีในบ้านตระกูลฟู่ ใจก็คันยุบยิบขึ้นมาพอบวกกับหลังจากที่เซี่ยซื่อออกมาตระกูลหลินก็ไม่รู้เพราะอะไรถึงได้มีแต่เรื่องไม่หยุดหย่อน มีเรื่องเสียเงินเสียทองอยู่ประจำ วันคืนที่ไม่ค่อยจะมั่งมีก็เหมือนถูกทับถมลงไปอีก พอมาเห็นพวกนางแม่ลูกได้ดิบได้ดี จะไม่เคืองได้อย่างไรกัน?นี่คือคิดจะดึงเซี่ยซื่อกับอันห่าวให้กลับไปกระมัง?แล้วยังคิดจะมาขอทานกับบ้านตระกูลฟู่ด้วยบ้านตระกูลฟู่ตอนนี้ถือว่าไม่เลว ถ้าพวกเขาอยากจะมาขอทานกับบ้านตระกูลฟู่ก็เป็นเรื่องปกติ"อันห่าวจะอย่างไรก็ยังเป็นเด็กของบ้านตระกูลหลินนะ พวกเราอย่างน้อยขอเข้าไปดูหน่อย เปิดประตู ให้ท่านผู้เฒ่าฟู่ออกมารับแขก!""ใช่ เปิดประตู พวกเราล้วนเป็นญาติของฟู่หลินซื่อ ตากับยาย ลุงป้าพี่น้องก็อยู่กันหมด อากาศเย็นขนาดนี้ปล่อยให้พวกเราหนาวอยู่ข้างนอกได้อย่างไรกัน?""เห็นว่ามีอ๋องเจวี้ยนหนุนหลังก็เลยไม่เห็นใครในสายตาแล้วหรือ?""เช่นนั้นพวกเราจะไปถามอ๋องเจวี้ยน เขาเป็นอ๋องแล้วยอดเยี่ยมนักหรือไร? เป็นอ๋องแล้วจะไม่สนเรื่องจรรยาบรรณความซื่อสัตย์ได้หรือ?"คนเหล่านี้พูดไปอาละวาดไป คิดจะไปหาอ๋องเจวี้ยนเสียแล้ว
ยืนยันว่ามีคนจงใจกวนน้ำให้ขุ่นยิ่งขึ้นรอจนท่านผู้เฒ่าฟู่รู้ว่าด้านนอกมีคนมากันมากมาย เรื่องก็เริ่มไม่ค่อยถูกต้องเสียแล้วมคนเริ่มขึ้นมาทุบประตู"เปิดประตู!"ในกลุ่มคนมีคนช่วยกันตะโกน "องค์จักรพรรดิบอกแล้วว่าต้องให้ผู้ประสบภัยอย่างพวกเราสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของเมืองหลวง แต่ผู้ประสบภัยอย่างพวกเราก็ไม่อยากจะไปรบกวนคนอื่นนัก และไม่อยากสร้างปัญหากับองค์จักรพรรดิด้วย แค่อยากจะมาร่วมอยู่กับญาติสนิทมิตรสหายไม่กี่เดือนเท่านั้น ตระกูลฟู่เห็นๆ อยู่ว่าบ้านก็ใหญ่โต ทำไมจึงขี้เหนียวนัก?""ถูกต้อง ได้ยินว่าคนที่อยู่ในบ้านตระกูลฟู่ก็มีน้อยมาก ให้ญาติตระกูลหลินพวกนี้เข้าไปพักก็ยังเพียงพอ นี่ทำไมถึงได้แล้งน้ำใจนัก""เป็นเพราะท่านผู้เฒ่าฟู่รู้สึกว่าตนเองกลายเป็นผู้อาวุโสของอ๋องเจวี้ยน ตัวตนฐานะก็ต่างออกไปแล้วใช่ไหม ดังนั้นเลยคิดจะวางก้ามสินะ?""นี่ก็เป็นไปได้มากเลย อ๋องเจวี้ยนคนนั้นเองก็เป็นคนเย็นชาแล้งน้ำใจด้วยใช่ไหม? ได้ยินว่าอำนาจเขาก็ใหญ่โตอยู่นี่ องค์จักรพรรดิเองก็ยังต้องถอยให้ระดับหนึ่ง""เฮอะ นี่ก็เกินไปหน่อยไหม? ไม่ใช่บอกว่าสุขภาพเขาไม่ค่อยดีหรือ? เห็นว่าป่วยจนพิการไปแล้ว ยังมีอำนาจขนาด
ชิงอีหน้าเปลี่ยนสี ถีบคนออกไปคนหนึ่ง ขณะเดียวกันก็ยื่นมือคว้าจับอีกสองคน สะบัดพวกเขาออกไป แต่ตอนที่พวกเขาเงยหน้าขึ้นมาสายตากลับเหม่อลอยคนพวกนี้ดูแปลกไป!มีคนยื่นมือมาทางขาเซียวหลันยวน เซียวหลันยวนยื่นมือมาขวางการกระทำทั้งหมดนี้ล้วนเกิดขึ้นพร้อมกันพวกเขาขวางไว้ได้ด้านหนึ่ง แต่ขวางการลอบโจมตีทั้งหมดไม่ได้เสียงกิ๊งดังขึ้น หน้ากากของอ๋องเจวี้ยนถูกเกี่ยวไว้แล้วด้ายเงินนั้นถูกออกแรงกระชาก"อ๊า! อ๋องเจวี้ยน!""ท่านอ๋อง!"กลุ่มคนร้องตกใจ ล้วนมองไปทางอ๋องเจวี้ยนตะขอด้ายเงินกระชากเปิดหน้ากากครึ่งหน้าของอ๋องเจวี้ยน ขณะเดียวกันก็ยังดึงกวานม่วงทองที่รวบผมไว้จนหลุดด้วยผมดำของอ๋องเจวี้ยนสยายลงมาขณะเดียวกัน ใบหน้าครึ่งหนึ่งนั้นก็ไม่มีอะไรปิดบังไว้อีกประชาชนหลายคนที่อยู่ข้างรถม้ามองเห็นใบหน้าอ๋องเจวี้ยนอย่างชัดเจน"อ๊า!""ผี!"พวกเขาล้วนตกตะลึงร้องเสียงหลงออกมาเสียงร้องเช่นนี้ ทำเอาคนอื่นหันมองมาทันควันพวกเขามองเห็นใบหน้าของอ๋องเจวี้ยนแล้วพวกผู้เฒ่าฟู่กับฟู่จาวเฟยที่หน้าประตูใหญ่ก็ล้วนมองเห็นแล้วพวกเขาราวกับถูกสายฟ้าฟาดใส่หน้าของอ๋องเจวี้ยน...น่ากลัวเกินไปแล้ว!และ
เซียวหลันยวนรู้ ว่าคนทั้งหมดถูกใบหน้าของเขาทำให้ตกใจไปแล้วพลานุภาพนี้ น่ากลัวยิ่งกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้เสียอีกปฏิกิริยาของผู้คน รุนแรงกว่าที่เขาคาดการณ์เอาไว้เขากลายเป็น "ผี" จากปากของผู้คนแล้วจังหวะที่ม่านปิดลงมา เขากระทั่งเห็นสีหน้าขาวซีดของผู้เฒ่าฟู่ ร่างกายโงนเงนเหมือนจะเป็นลมนี่คงถูกเขาทำให้ตกใจเข้าแล้วจริงๆเขาตอนนี้กลายเป็นสภาพเหมือนผีไปแล้ว อย่าว่าแต่ในบ้านฝ่ายหญิงเลย กระทั่งท่านผู้เฒ่าฟู่ก็ยังรับไม่ได้ แทบจะเป็นลมไปอยู่แล้วฟู่จาวหนิงยืนที่อยู่ข้างเขาถ้าเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน นางจะทนรับไหวไหม?"ท่านอ๋อง?"ชิงอีเสียงสั่นเทาหน้ากากนี้ ท่านอ๋องลงทุนลงแรงหาช่างฝีมือดีมาตีให้ เพิ่งจะได้มาเมื่อไม่กี่วันนี้เองพวกเขาคิดไม่ถึงว่า ตอนที่สวมหน้ากากนี้ออกมาด้านนอกแล้วจะเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ขึ้น เดิมทีคิดว่าท่านอ๋องหลังจากมีหน้ากากนี้แล้วสามารถออกไปด้านนอกได้ แต่ครั้งนี้พอออกมาก็ทำให้คนมากมายเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขาจนได้!"พาคนตระกูลหลินพวกนี้ไปให้หมด"เสียงของเซียวหลันยวนฟังดูสงบนิ่ง แต่ชิงอีพวกเขากลับฟังออกถึงจิตสังหารในน้ำเสียงคนตระกูลหลินพวกนี้เกรงว่าจะจบเห
รุม้าของจวนอ๋องเจวี้ยนไม่ชลอแม้แต่น้อย แล่นผ่านข้างนางออกไปองค์หญิงหนานฉือกระทืบเท้า ยังคิดจะไล่ตาม แต่อันเหนียนก็มาขวางนางไว้"องค์หญิง ท่านควรจะกลับวังได้แล้ว""นายท่านอันทำไมถึงมาเจ้ากี้เจ้าการข้าเช่นนี้? ไม่เช่นนั้น เจ้าก็ไปจวนอ๋องเจวี้ยนกับข้าด้วยกันเลย ข้ายังอยากจะเจรจาซื้อขายกับเขาอีกอย่างหนึ่ง""ท่านทำไมจึงอยากจะแต่งกับอ๋องเจวี้ยนขนาดนี้?"อันเหนียนตอนนี้ในใจก็ซับซ้อนขึ้นมา เพราะเขาเมื่อครู่ก็เห็นหน้าของอ๋องเจวี้ยนแล้วตอนนี้สิ่งที่สมองคิดออกก็คือสภาพของฟู่จาวหนิงแม่นางที่สวยสดขนาดนั้น ถ้ายืนอยู่ข้างอ๋องเจวี้ยนแบบนี้..."เพราะว่าข้าคิดว่ามันน่าสนใจดี น่าสนใจกว่าพวกคุณชายพวกขุนนางทั่วไปเสียอีก" องค์หญิงหนานฉือกดเสียงต่ำ "เจ้าไม่เห็นหรือว่า พวกคนหนุ่มในเมืองหลวงแคว้นเจาของพวกเจ้าเหล่านี้ สิ่งแวดล้อมกับขั้นตอนการเติบโตไม่ค่อยจะแตกต่างกัน เพราะพวกเขาล้วนอยู่ในเมืองหลวง มีเรื่องอะไร งานเลี้ยงอะไร ของอะไรที่แพร่หลายได้รับความนิยม ก็ล้วนร่วมเล่นร่วมวิพากษ์วิจารณ์กันหมด""สิ่งที่พวกเขาต้องการล้วนใกล้เคียงกัน ไม่มีอะไรมากไปกว่าการมีอนาคตที่ดี เข้าวังได้ยศ สาวงามรายล้อม แต่อ๋อ
ครั้งนี้ อ๋องเจวี้ยนไม่ได้ปฏิเสธ รับโองการไปเงียบๆ วันถัดไปก็ออกจากเมืองหลวงพร้อมกับไทเฮาคนทั้งหมดล้วนพูดว่า อ๋องเจวี้ยนไม่กล้าอยู่ในเมืองหลวงแล้วจริงๆ ได้ยินว่าคนทั้งเมืองล้วนหวาดกลัวต่อใบหน้าของเขาไปแล้วผ่านเรื่องนี้ไป ก็ไม่มีใครรู้สึกว่าอ๋องเจวี้ยนจะมีโอกาสได้ช่วงชิงบัลลังก์จักรพรรดิอีกองค์จักรพรรดิกลับดูดีใจ ผ่านไปสักระยะ เขาค่อยมาวางแผนว่าจะชิงตราประทับแคว้นเจากับองครักษ์เงามังกรกลับมาจากมืออ๋องเจวี้ยนได้อย่างไรถึงอย่างไรเขาก็น่าเกลียดขนาดนี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็อยู่แต่ในยอดเขาโยวชิงหรือว่าจวนอ๋องต่อไปเถอะ ไม่ต้องโผล่หน้าออกมาแล้วออกจากเมืองหลวง และพอเดินทางไปอีกร้อยลี้ ไทเฮาก็บอกให้ขบวนหยุด ให้คนเชิญอ๋องเจวี้ยนมาที่รถม้าอ๋องเจวี้ยนเข้ามาแล้ว แต่กลับสวมหมวกสีดำอยู่ ปิดบังใบหน้าาของตนเองเอาไว้จนหมดไทเฮาพอเห็นเขาในสภาพนี้ก็อดเสียใจขึ้นมาไม่ได้"อายวน เจ้าให้ข้าเห็นหน่อยเถิด ข้าไม่กลัวหรอก"นางอยากจะเห็นใบหน้าของเซียวหลันยวน แล้วหาจุดที่จะปลอบประโลมเขาได้ เร่งเดินทางมาหลายวันแล้ว เซียวหลันยวนเอาแต่อยู่บนรถม้าของตนเอง ไม่ได้มาพูดคุยอะไรกับนางเลยบรรยากาศขององครักษ์อย่าง
ในฐานะที่เป็นหญิงสาวคนหนึ่ง การเรียนแพทย์นั้นไม่ง่ายเลย จะต้องลำบากมาไม่น้อยแน่นอนฟู่จาวหนิงได้ยินนางเล่าเรื่องในบ้านตระกูลเสิ่นมาไม่น้อย และได้ยินความยากลำบากของเสิ่นเสวียนช่วงก่อนหน้านี้อีกพอสมควร ไท่ไท่อาวุโสชอบนางมาก ผ่านไปไม่กี่วัน ก็พัฒนาไประดับที่มอบเครื่องประดับล้ำค่าหลายชิ้นที่ตนเองสะสมให้กับนางแล้วยิ่งไปกว่านั้นในนั้นยังมีบางส่วน ที่ได้ยินว่าเป็นสมบัติที่สืบทอดมาจากนายหญิงตระกูลเสิ่นด้วยเหมือนมีไว้ส่งต่อให้กับลูกสะใภ้ฟู่จาวหนิงตอนแรกยังไม่รู้ ตอนที่พูดเรื่องตราหยกหงส์สีชาดคู่หนึ่งกับเสิ่นเสวียน เสิ่นเสวียนถึงได้บอกกับนางเสิ่นเสวียนเองก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก"ร่างกายของนางตอนไหนจึงจะมั่นคงขึ้นมาหน่อยหรือ? ควรจะบอกตัวตนที่แท้จริงของเจ้ากับพวกเขาได้แล้ว ตากับยายของเจ้าจะได้ไม่มาพัวพัน"สิ่งที่พวกเขาพัวพัน ก็เพราะฟู่จาวหนิงนั้นดีแสนดี เป็นผู้หญิงที่พวกเขาชอบมาก อยากจะเสนอการหมั้นให้กับเขา จะไม่ปล่อยให้นางไปไหนประเดี๋ยวก็ใช้สายตาเหมือนมอง "คนทราม" เหลือบมาที่เขา รู้สึกว่าเขาอายุก็ปูนนี้แล้วยังจะมาล่อลวงหญิงสาวอายุน้อยแบบนี้ หน้าไม่อายเสียจริงพวกเขาล้วนคิดว่าลูกชายขอ