ครั้งนี้ อ๋องเจวี้ยนไม่ได้ปฏิเสธ รับโองการไปเงียบๆ วันถัดไปก็ออกจากเมืองหลวงพร้อมกับไทเฮาคนทั้งหมดล้วนพูดว่า อ๋องเจวี้ยนไม่กล้าอยู่ในเมืองหลวงแล้วจริงๆ ได้ยินว่าคนทั้งเมืองล้วนหวาดกลัวต่อใบหน้าของเขาไปแล้วผ่านเรื่องนี้ไป ก็ไม่มีใครรู้สึกว่าอ๋องเจวี้ยนจะมีโอกาสได้ช่วงชิงบัลลังก์จักรพรรดิอีกองค์จักรพรรดิกลับดูดีใจ ผ่านไปสักระยะ เขาค่อยมาวางแผนว่าจะชิงตราประทับแคว้นเจากับองครักษ์เงามังกรกลับมาจากมืออ๋องเจวี้ยนได้อย่างไรถึงอย่างไรเขาก็น่าเกลียดขนาดนี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็อยู่แต่ในยอดเขาโยวชิงหรือว่าจวนอ๋องต่อไปเถอะ ไม่ต้องโผล่หน้าออกมาแล้วออกจากเมืองหลวง และพอเดินทางไปอีกร้อยลี้ ไทเฮาก็บอกให้ขบวนหยุด ให้คนเชิญอ๋องเจวี้ยนมาที่รถม้าอ๋องเจวี้ยนเข้ามาแล้ว แต่กลับสวมหมวกสีดำอยู่ ปิดบังใบหน้าาของตนเองเอาไว้จนหมดไทเฮาพอเห็นเขาในสภาพนี้ก็อดเสียใจขึ้นมาไม่ได้"อายวน เจ้าให้ข้าเห็นหน่อยเถิด ข้าไม่กลัวหรอก"นางอยากจะเห็นใบหน้าของเซียวหลันยวน แล้วหาจุดที่จะปลอบประโลมเขาได้ เร่งเดินทางมาหลายวันแล้ว เซียวหลันยวนเอาแต่อยู่บนรถม้าของตนเอง ไม่ได้มาพูดคุยอะไรกับนางเลยบรรยากาศขององครักษ์อย่าง
ในฐานะที่เป็นหญิงสาวคนหนึ่ง การเรียนแพทย์นั้นไม่ง่ายเลย จะต้องลำบากมาไม่น้อยแน่นอนฟู่จาวหนิงได้ยินนางเล่าเรื่องในบ้านตระกูลเสิ่นมาไม่น้อย และได้ยินความยากลำบากของเสิ่นเสวียนช่วงก่อนหน้านี้อีกพอสมควร ไท่ไท่อาวุโสชอบนางมาก ผ่านไปไม่กี่วัน ก็พัฒนาไประดับที่มอบเครื่องประดับล้ำค่าหลายชิ้นที่ตนเองสะสมให้กับนางแล้วยิ่งไปกว่านั้นในนั้นยังมีบางส่วน ที่ได้ยินว่าเป็นสมบัติที่สืบทอดมาจากนายหญิงตระกูลเสิ่นด้วยเหมือนมีไว้ส่งต่อให้กับลูกสะใภ้ฟู่จาวหนิงตอนแรกยังไม่รู้ ตอนที่พูดเรื่องตราหยกหงส์สีชาดคู่หนึ่งกับเสิ่นเสวียน เสิ่นเสวียนถึงได้บอกกับนางเสิ่นเสวียนเองก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก"ร่างกายของนางตอนไหนจึงจะมั่นคงขึ้นมาหน่อยหรือ? ควรจะบอกตัวตนที่แท้จริงของเจ้ากับพวกเขาได้แล้ว ตากับยายของเจ้าจะได้ไม่มาพัวพัน"สิ่งที่พวกเขาพัวพัน ก็เพราะฟู่จาวหนิงนั้นดีแสนดี เป็นผู้หญิงที่พวกเขาชอบมาก อยากจะเสนอการหมั้นให้กับเขา จะไม่ปล่อยให้นางไปไหนประเดี๋ยวก็ใช้สายตาเหมือนมอง "คนทราม" เหลือบมาที่เขา รู้สึกว่าเขาอายุก็ปูนนี้แล้วยังจะมาล่อลวงหญิงสาวอายุน้อยแบบนี้ หน้าไม่อายเสียจริงพวกเขาล้วนคิดว่าลูกชายขอ
พอเห็นฟู่จาวหนิงเข้ามา ไท่ไท่อาวุโสดวงตาก็เป็นประกายขึ้นทันที รอยยิ้มบนหน้าจริงใจขึ้นมาก"ไม่รู้เพราะอะไร ทุกครั้งที่เห็นจาวหนิง อารมณ์ของข้าถึงได้ดีเหลือเกิน ต่อให้เห็ฯว่านางไม่ได้ทำอะไร ก็ยังรู้สึกชอบมาก"ไท่ไท่อาวุโสถอนหายใจท่านผู้เฒ่าแหงนตามองฟู่จาวหนิงผาดหนึ่งหญิงสาวคนนี้น่าจะเหมาะกับต้าชื่อของพวกเขา มาที่นี่หลายวันแล้วก็ยังไม่เห็นว่าอยู่ได้ลำบากเลย แถมผิวก็เหมือนจะขาวขึ้นไปอีกช่วงไม่กี่วันนี้ต้าชื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว นางสวมชุดกระโปรงสีบ๊วย ดูทรงสง่าราศี ไม่ต้องพึ่งพวกดอกไม้ทัดหลิ่ว นางก็ดูเจิดจ้าแยงตามาก"ไท่ไท่อาวุโสวันนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง?""ดีขึ้นแล้ว ดีขึ้นมากเลยจริงๆ ข้าคุยกับเจ้าได้ครึ่งชั่วยามเลยทีเดียวล่ะ" ไท่ไท่อาวุโสมองจนรู้สึกว่าฟู่จาวหนิงนั้นเข้าตานางมากจะมองอย่างไรก็ยังชอบ"จะดีขึ้นทุกๆวัน ข้าเพิ่งไปหาท่านปู่อาเพื่อหารือเรื่องปรับเปลี่ยนอาหารยาจีน ให้เพิ่มผลไม้แห้งที่รสชาติไม่เลวลงไปด้วย ท่านจะต้องชอบแน่"พอพูดถึงท่านปู่อาคนนี้ ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกว่าวาสนี้นี้ช่างแสนอัศจรรย์ท่านปู่อาคนนี้ก็คือผู้อาวุโสตู้พ่อครัวที่มีชื่อแห่งต้าชื่อนี่เองหลังจากผู
"มีเรื่องอะไรถึงได้ดีใจขนาดนี้" ไท่ไท่อาวุโสถาม"ได้ยินว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นจะกลับเมืองหลวงแล้ว ทุกคนล้วนอยากจะไปต้อนรับองค์หญิงใหญ่กัน ถือโอกาสรับโชคลาภด้วย" เสี่ยวชิ่นตอบนี่น่าจะเป็นหัวข้อสนทนาที่คุยกันมากที่สุดด้านนอกในช่วงหลายวันนี้ถ้าไม่ใช่ว่ามีเรื่องอย่างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเข้ามาพอดี การเคลื่อนไหวในตระกูลเสิ่นช่วงนี้ก็ทำให้คนจับตามองมากเช่นกันเพราะหลายวันนี้ วิธีการของเสิ่นเสวียนก็เด็ดขาด "เชิญ" ญาติในตระกูลมากมายที่พักในบ้านตระกูลเสิ่นออกไป ยิ่งไปกว่นั้นยังประกาศไปภายนอกอีด ว่าคนเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลเสิ่นอีกแล้ว หลังจากนี้หากมีเรื่องอะไร ห้ามหยิบชื่อของตระกูลเสิ่นมาแอบอ้างอีกท่านปู่อารองเสิ่นทั้งครอบครัวโดนเชิญออกไปเกือบหมด สาเหตุคือหลานของสะใภ้รองเสิ่นไปทำเรื่องอะไรยั่วโมโหเสิ่นเสวียนเข้าที่เสิ่นเสวียนเล่นงานซุนจิ้นอวี๋จนย่ำแย่ยังไม่พูดถึง ยังย้ายความโกรธมาที่สะใภ้รองเสิ่นอีกด้วยท่านปู่อารองเสิ่นไล่ลูกชายทั้งสองออกไปทันที ดูเป็นการตัดญาติเพื่อความชอบธรรมอยู่หน่อยๆ นี่จึงทำให้ตนเองกับลูกหลานคนอื่นยังอยู่ต่อในบ้านตระกูลเสิ่นได้เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างเอะอะม
ไท่ไท่อาวุโสเสิ่นพอได้ยินเรื่องที่เสิ่นเสวียนพูดถึง ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมา"เอ๋? นั่นก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้นะ จาวหนิงโดดเด่นเสียขนาดนี้ แม้ว่าข้าจะอยากให้นางกลายเป็นคนของตระกูลเสิ่นก็ตาม แต่ถ้ามีคนที่ดีกว่าตระกูลเสิ่นพวกเรา เหมาะกับฟู่จาวหนิงมากกว่า แล้วเป็นคนที่นางชอบมากกว่า พวกเราก็จะเห็นแก่ตัวไม่ได้"ไท่ไท่อาวุโสมองไปทางฟู่จาวหนิง "จาวหนิง ถ้าอย่างนั้นเจ้าลองบอกมาหน่อยว่าเจ้าชอบแบบไหน?"ไม่รอให้ฟู่จาวหนิงตอบ นางก็รีบเอ่ยขึ้น "อย่าบอกว่าเป็นแบบอาเสวียนนะ เขาอายุมากแล้วไหม?"พรวดฟู่จาวหนิงทนไม่ไหว หัวเราะพรวดออกมา"ฮ่าๆๆ!" นางมองไปทางเสิ่นเสวียน หัวเราะไปด้วยพูดไปด้วย "ท่านลุง ทุกครั้งที่ข้าบอกว่าชอบท่านไม่ใช่ชอบแบบนั้น ไม่มีใครเชื่อเลยรึ!"คนตระกูลเสิ่นเหล่านี้ก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไรกัน แต่ละคนคิดว่านางกับเสิ่นเสวียนมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดากันยิ่งไปกว่านั้นยังรู้สึกว่าเสิ่นเสวียนก็รู้สึกพิเศษกับนางด้วยฟู่จาวหนิงเองก็ไม่รู้ ว่าก่อนหน้านี้เสิ่นเสวียนไม่ให้ใครเข้ามาพักในสวนสี่ซินเลย ยิ่งไปกว่านั้นเขามีชื่อเสียงตั้งแต่อายุยังน้อย อันที่จริงก็มีความเย่อหยิ่งอยู่หลายปีมานี้ต่อให้ถูกอง
เสิ่นเสวียนไม่ใช่คนที่มีปัญหาเรื่องนิสัย บอกว่ามองเป็นลูกสาว เช่นนั้นก็คือไม่คิดอะไรเกิดเลยกับฟู่จาวหนิงแน่นอนถ้าหากบอกว่าเป็นลูกสาว เช่นนั้นก็ยังพอเข้าใจได้ถึงอย่างไรเสิ่นเสวียนก็อายุมากขนาดนี้แล้ว แล้วยังไม่ได้แต่งงาน การอยากจะยอมรับลูกสาวสักคนก็ไม่ได้ผิดอะไรไท่ไท่อาวุโสตอนนี้ก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขึ้นมาเสียแล้ว"อาเสวียน เจ้าบอกมาหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น นี่มันก็เรื่องดีนี่นา ทำไมไม่รีบพุดออกมากัน?""แล้วยังมีอีกเรื่องหนึ่ง เกี่ยวกับตัวตนฐานะของฟู่จาวหนิง" เสิ่นเสวียนรู้สึกว่าในเมื่อพูดแล้ว เช่นนั้นก็พูดให้เข้าใจขึ้นมาดีกว่า"ฟู่จาวหนิงแต่งงานแล้วจริงๆ สามีของนางคือเซียวหลันยวนอ๋องเจวี้ยนแห่งแคว้นเจา""อะไรนะ?"ท่านผู้เฒ่าเสิ่นร้องเสียงหลงออกมา"อ๋องเจวี้ยน ท่านพ่อ ท่านไม่ได้ฟังผิด นางเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนที่แคว้นเจา" เสิ่นเสวียนเอ่ยต่อ"เซียวหลันยวนข้ารู้จัก!" ท่านผู้เฒ่าเสิ่นหน้าเปลี่ยนสี "แต่เขาไม่ได้ว่าสุขภาพย่ำแย่จนต้องพักฟื้นอยู่แต่ที่ยอดเขาโยวชิงหรอกหรือ?"ฟู่จาวหนิงรู้สึกเกินคาดขึ้นมาเหมือนกัน"ท่านผู้เฒ่ารู้สถานการณ์ของเขาด้วยหรือ?""รู้สิ ตอนเขายังเล็กข้ายังเค
ไท่ไท่อาวุโสนึกออกแล้ว"ข้ารู้แล้ว ตอนนั้นหลังจากเจ้ากลับมาก็บอกกับข้าอยู่ บอกว่าเจ้าอารามบอกเจ้ามาคำหนึ่ง ตอนนั้นพวกเรายังนึกไม่ออกว่าว่าโอกาสรอดนี้จะเพิ่มขึ้นมาได้อย่างไร""ใช่ ข้าตอนนั้นเองก็ไม่เข้าใจ จึงถามเขา ว่าเพราะอะไรโอกาสรอดจึงยังต่ำ? เข้าจะทำให้โอกาสรอดสูงขึ้นได้อย่างไร? เจ้าอารามก็ยิ้มๆ ตอบมาคำหนึ่ง บอกว่าให้รอ รอให้โอกาสรอดมันเติบโตขึ้นมาเสียก่อน"หืม?เสิ่นเสวียนตอนนี้เองก็เหมือนฟังอะไรออกแล้ว เขามองไปทางฟู่จาวหนิง"ดังนั้นตอนนี้ท่านจึงคิดว่า โอกาสรอดที่ว่านี้หมายถึงคนหรือ?""ใช่" ท่านผู้เฒ่าพยักหน้า "ยิ่งไปกว่านั้นฟู่จาวหนิงถ้าคำนวณเรื่องอายุแล้ว ตอนนั้นนางก็น่าจะยังเล็กมากใช่ไหม?"ฟู่จาวหนิงกล้าพูดเสียที่ไหนว่าตนเองจะเป็นโอกาสรอดของบ้านตระกูลเสิ่น?"ข้าก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง""ไม่ธรรมดาเลย พิเศษและยอดเยี่ยมเอามากๆ เจ้าลองดูสิ เจ้าช่วยชีวิตอาเสวียนไว้ นี่เท่ากับช่วยตระกูลเสิ่นไว้แล้วนะ อาเสวียนเองถ้าไม่อยู่แล้ว เขาจะหาโอกาสไหนมาเชิญเจ้ามาตรวจภรรยาของข้า? แล้วถ้าพวกเราตายกันหมด ตระกูลเสิ่นก็แตกกระเจิงกันไปหมดแล้วไม่ใช่หรือ?"ท่านผู้เฒ่าเสิ่นยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกว่าก
"เจ้าพูดเองเลยแล้วกัน เซียวหลันยวนดีกับเจ้าไหม" เสิ่นเสวียนเอ่ยกับฟู่จาวหนิง"เขา..."ฟู่จาวหนิงอึกอักขึ้นมาดีไหมนะ?"เจ้าดูสิ ถ้าเขาดีกับเจ้าจริง ยังต้องมาคิดอีกหรือ? มันต้องตอบออกมาได้อย่างไม่ลังเลไม่ใช่หรือ?"ไท่ไท่อาวุโสดึงมือฟู่จาวหนิง ปวดใจจะแย่"จาวหนิงเอ๋ย ไม่ว่าเจ้าจะมีตัวตนฐานะอะไร ต่อให้เป็นท่านอ๋องจากแคว้นเจา ถ้าหากไม่ดีกับเจ้า พวกเราก็ไม่แปลกใจหรอก เจ้าจะแยกกับเขาตอนไหน พวกเราก็จะสนับสนุนเจ้า ตระกูลเสิ่นแม้ว่าตอนนี้จะดูแล้วไม่เท่าไร แต่การกินการอยู่สำหรับเจ้าไม่ต้องกังวล""ไท่ไท่อาวุโส ข้า...""ใช้ พวกเราสามารถเป็นที่พึ่งของเจ้าได้" ท่านผู้เฒ่าเองก็พูดขึ้นมา "ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ยอมรับอาเสวียนเป็นพ่อเลี้ยงเลยสิ พวกเราจะเปิดผังตระกูลให้เอง เขียนชื่อเจ้าไปบนผังตระกูลเสิ่น พวกเราก็สามารถเป็นปู่กับย่าเจ้าได้แล้ว เจ้าก็จะไม่ใช่คนโดดเดี่ยวอีก"เขาตอนนี้ในใจเชื่อว่า "โอกาสรอด" ที่เจ้าอารามพูดถึงคือฟู่จาวหนิงแต่ต่อให้นางไม่ใช่โอกาสรอด พวกเขาเองก็ชอบนาง อยากจะให้นางอยู่ในตระกูลเสิ่นอย่างจริงใจก่อนหน้านี้ยังบอกว่าจะแนะนำนางให้กับเด็กในบ้านอยู่เลย ตอนนี้พอคิดๆ มีอะไรจะดีไ
หยวนอี้ตอนที่เข้ามาก็เห็นกับภาพที่ 'สับสนอลหม่าน' นี้เขาประกายตาแล่นวาบ กำลังจะเข้าไปในประตูวงกลม ไป๋หู่ก็หมุนตัวมามองเขา "ช้าก่อน"หยวนอี้โบกไม้โบกมือ "สหายไป๋หู่""อย่าเข้าใกล้นัก เหมือนข้าเคยบอกท่านไว้แล้ว ที่นี่ท่านห้ามเข้าไป" ไป๋หู่เอ่ยขึ้นฟู่จิ้นเชินออกมาจัดการความวุ่นวายนี้ ให้ป้าหนิวป้าหลี่มาช่วยประคององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเข้าไปในห้องเฉินเซียงกลับไม่มีใครสนใจ"พวกเจ้ารังแกกันเกินไปแล้ว..."เฉินเซียงดิ้นรนอยู่พักหนึ่งถึงลุกขึ้นมาได้ นางรู้สึกว่าอวัยวะภายในตนเองปวดร้าวไปหมดเท้าของฟู่จาวหนิงแรงหนักขนาดนี้เชียว!นางไม่เป็นวรยุทธ์เลยจริงหรือ?แต่ว่าฟู่จาวหนิงทำไมถึงกล้า กล้าเตะนางขนาดนี้!สายตาของหยวนอี้เก็บกลับมาจากตัวองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ถูกประคองเข้าห้อง หันไปตกอยู่บนตัวเฉินเซ๊ยงแทน ใต้ตาเกิดความสนใจขึ้นมา"แม่นางไปยั่วหมอฟู่อย่างไรกันเนี่ย?"ฟู่จาวหนิงมองเขา ถามไป๋หู่ว่า "นี่ใครหรือ?""บอกว่าชื่อหยวนอี้ ติดตามหมอหลวงคนหนึ่งเข้ามา อยากจะมาช่วยเหลือที่เมืองเจ้อขอรับ" ไป๋หู่บอกกับฟู่จาวหนิงฟู่จิ้นเชินเดินมาอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง กดเสียงลงต่ำ "รู้สึกเหมือนเขาน่าสงสัย
เซียวหลันยวนหมุนตัวจากไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองแผ่นเหลังเขา จะอย่างไรก็ตั้งสติกลับมาไม่ได้เฉินเซียงเห็นว่าการสนทนาขององค์หญิงใหญ่พังทลายลงแล้ว สีหน้าก็ลนลานขึ้นมา รีบลุกขึ้นมาไล่ตามเซียวหลันยวนไป"อ๋องเจวี้ยน! ท่านทำเช่นนี้ไม่ได้!" หมอเทวดาฟู่วางยาอะไรใส่ท่านใช่ไหม ท่านทำไมถึงได้ใจดำขนาดนี้?นางยังไม่ทันพุ่งออกจากประตูวงกลม ก็ถูกไป๋หู่ฟาดกลับมาไป๋หู่ยังใช้แค่กำลังภายในด้วย แต่ห้ามไม่ให้นางออกไป ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายนางแต่เฉินเซียงก็ทรุดตัวลงบนพื้น แค่รู้สึกว่าเจ็บเข่าเจ็บก้น มือก็เจ็บ หัวก็ปวดไปหมดนางร้องไห้ออกมา "พวกเจ้าจะมารังแกองค์หญิงใหญ่ของพวกเราแบบนี้ไม่ได้ นางเป็นองค์หญิงใหญ่ที่มีโชคมากที่สุดในต้าชื่อนะ"เซียวหลันยวนเดินไปไกลแล้ว ไม่หันหลังกลับมาไป๋หู่ยืนอยู่ที่ประตูวงกลม มององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่นั่งเหม่อลอยอยู่บนพื้น เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ "องค์หญิงใหญ่กลับห้องไปเถิด"จะว่าไปเขาเองก็เป็นคนต้าชื่อเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินเรื่ององค์หญิงใหญ่มามากตอนนี้พอเห็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกต่ำจนน้ำตานองหน้า เขาก็รู้สึกซับซ้อนขึ้นมาหน่อยๆแต่ว่า องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ
หญิงสาวที่น่าสงสาร ตอนเด็กๆ เขาเห็นในวังหลังมาแล้วไม่น้อย มีภูมิคุ้มกันไปนานแล้ว"ข้าไม่ได้จะแย่งชิงอะไรกับหมอเทวดาฟู่ ถ้าเราแต่งกันหลอกๆ ได้ไหม? ข้าแค่ต้องการหาที่ไปเท่านั้น แค่อยากให้ท่านคอยปกป้องข้าไม่กี่ปี ถ้าห้าปีไม่ได้ล่ะก็ สามปีก็พอ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเห็นเซียวหลันยวนไม่พูดจา จึงหดเวลาลงมาอีก"สามปีนี้ ข้าแค่แบกชื่อพระชายารองไว้ในนามเท่านั้น พออยู่ภายนอกก็ขอให้ท่านอ๋องเล่นละครกับข้าหน่อย แสร้งเป็นสามีภรรยา สามารถปกป้องข้าได้ ในจวนอ๋อง ข้ารับรองว่าจะทำตามหน้าที่ตนเอง เลี่ยงท่านอ๋องให้ห่าง ไม่คิดอะไรเกินเลย""เป็นถึงองค์หญิงใหญ่ต้าชื่อ แต่คิดจะเอาตัวเองไปไว้ในจุดต่ำตมหรือ?" เซียวหลันยวนถาม"อ๋องเจวี้ยนโปรดเมตตา"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นน้ำตาไหลพราก "ข้าไม่มีทางเลือกแล้ว ข้าเอาของให้ท่านได้ ยิ่งไปกว่านั้น โชคของข้าก็ดีมาโดยตลอด ถ้าเป็นพระชายารองอ๋องเจวี้ยนในนาม จะต้องช่วยเหลือท่านอ๋องได้แน่ ไม่ว่าท่านอ๋องจะทำอะไร ก็จะยิ่งราบรื่น ผลลัพธ์สมปรารถนา""องค์หญิงใหญ่มั่นใจกับโชคของตนเองขนาดนี้เชียว?" เซียวหลันยวนได้ยินคำนี้ก็อดนึกขันขึ้นมาไม่ได้"โชคจุดนี้ข้ามีอยู่ ท่านเองก็เชื่อข้าได
เซียวหลันยวนมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นและไม่รู้ว่านางทำไมถึงพูดว่า 'เขาเอามาเองไม่ได้' ออกมา"แล้วของนั่นมันคืออะไรกัน?" เขาถามขึ้นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลนลานขึ้นมานางรู้ที่ไหนว่าสิ่งนั้นคืออะไร? มันคือกล่องที่เปิดไม่ได้ แล้วก็มองไม่เห็นว่าด้านในมีอะไรนี่นา?"ตอนนี้ข้ายังบอกท่านไม่ได้ แต่สำคัญกับท่านมากแน่นอน""เจ้าไม่บอกว่าคืออะไร แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรว่ามันจริงหรือไม่จริง? จะว่าไป เจ้าบอกว่าเจ้าฝันเห็นอนาคตได้ นี่มันก็ดูเหลวไหลเกินไปนะ ข้าควรจะเชื่อเรื่องนี้ด้วยไหม?""เรื่องจริงนะ เพราะข้าฝันเห็นแบบนั้น ตอนเด็กๆ ได้พบกับเจ้าอารามยอดเขาโยวชิง เขาบอกว่า ข้าเป็นตัวเลือกที่เหมาะจะเป็นพระชายาของท่านมาก! แล้วยังชี้แนะข้า ให้ข้าเติบโตอย่างดีในสุสานจักรพรรดิ ถ้ายังไม่ถึงเวลาสำคัญอย่าเพิ่งกลับเมืองหลวง"เซียวหลันยวนก็เชื่อคำพูดของนางอยู่ เจ้าอารามยอดเขาโยวชิงอาจจะพูดเหล่านี้กับนางก็ได้ยิ่งไปกว่านั้น ท่านหูที่คุยถ่ายทอดคำพูดเจ้าอารามมาตลอดก็พูดอะไรทำนองนี้แต่เขาไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตนี้ต้องไปผูกอยู่บนตัวหญิงสาวคนหนึ่งเลยบางทีอาจจะได้ แต่คนคนนั้นก็อาจจะไม่ใช่คนที่เขากำหนด อย่างจาวหนิง
นางอยากจะให้เซียวหลันยวนไม่พอใจตัวฟู่จาวหนิงเสียเหลือเกินแต่พอสิ้นเสียงนาง เซียวหลันยวนก็หันมามองนาง แม้จะสวมหน้ากากอยู่ แต่เฉินเซียงจู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่านางถูกสายตาที่เย็นเยียบแหลมคนฆ่าตายไปแล้วนางใจสั่นวาบ จู่ๆ ก็รู้สึกเสียใจกับคำพูดเมื่อครู่ที่พูดไป แต่ก็สายไปแล้วนางได้ยินคำพูดเย็นชาของเซียวหลันยวนว่า"องค์หญิงใหญ่ถ้าหากมีเรื่องจะคุยกับข้า ก็ให้ทาสของเจ้าไปคุกเข่าอยู่ตรงนั้นก่อน"เซียวหลันยวนชี้ไปที่กลางสวนคุกเข่าที่นั่น คนป่วยทั้งหมดในห้องข้างฝั่งตะวันตกจะมองเห็นเฉินเซียงถลึงตาโตใส่อย่างไม่อยากเชื่อ"อ๋องเจวี้ยน" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกตะลึงไป "เฉินเซียงก็แค่ปกป้องข้ามากเกินไปเท่านั้น นางไม่ได้มีความคิดไม่ดี...""ให้นางคุกเข่า ข้าถึงจะฟังเจ้าพูด ถ้านางไม่ทำ ข้าก็จะไปแล้ว" เซียวหลันยวนตัดบทนางเฉินเซียงบอกว่าฟู่จาวหนิงแอบมีชู้กับอันเหนียน เขาจดจำมาโดยตลอด"อ๋องเจวี้ยน เฉินเซียงนางเองก็ป่วย ถ้าไปตากลมหนาวบนพื้น นางจะ...""เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว"เซียวหลันยวนพูดจบก็หมุนตัวกลับทันทีเฉินเซียงลนลานขึ้นมา "อ๋องเจวี้ยน ข้าจะไปคุกเข่าเดี๋ยวนี้! ท่านโปรดรอก่อน!""เฉินเ
สิ่งที่ทำให้ตาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นขุ่นเคืองคือ ฟู่จาวหนิงคล้องแขนอ๋องเจวี้ยนเดินเข้ามา"พวกเขาทำไมถึงคล้องแขนกันเดินแบบนั้นล่ะ?"เฉินเซียงถลึงตาโตนางไม่เคยเห็นสามีภรรยาเดินกันแบบนี้เลย ปกติแล้ว ภรรยาจะเดินอยู่ด้านหลังสามีประมาณครึ่งก้าวนี่ หรืออย่างมากก็ไหล่ชนไหล่แต่พออยู่ภายนอกก็ต้องคอยระวังเรื่องมารยาท มีใครเขามาคล้องแขนเดินกันแบบนี้บ้าง?ยิ่งไปกว่านั้นตัวฟู่จาวหนิงเองก็ยังเอนมาเบียดแขนอ๋องเจวี้ยนด้วย"นางเดินแบบนี้มันดูสง่างามตรงไหน บิดๆ เบียดๆ เงอะงะงุ่มง่ามเหมือนอะไรล่ะนั่น?" เฉินเซียงกดเสียงต่ำ พูดแบบไม่พอใจกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น "นี่มันดูเป็นพระชายาตรงไหนกัน?"เหมือนพวกอนุภรรยาที่เอาแต่เบียดเสียดชายหนุ่มมากกว่าพระชายาตัวจริงต้องมีท่าทีสง่างาม มีคุณธรรม บุคลิกภาพโดดเด่นสิทำตัวออดอ้อนแบบนี้ มันเหมือนกับปีศาจสาวที่อยากจะสูบพลังหยางจากชายหนุ่มจนตัวสั่นอย่างไรอย่างนั้น เหมือนพวกอนุภรรยาที่ไร้เกียรติเฉินเซียงถึงอย่างไรก็ไม่ชินตาแต่ไม่รู้เพราะอะไร องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลับรู้สึกอิจฉาจนควบคุมไม่อยู่ชายหนุ่มที่เย็นชาขนาดนั้นแบบอ๋องเจวี้ยน ก็ยังตามใจให้ฟู่จาวหนิง แล้วยังปร
"ข้ารู้แล้ว อีกเดี๋ยวข้าจะออกไป" เซียวหลันยวนพยักหน้าฟู่จิ้นเชินเงียบไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า "นางน่าจะมีเรื่องมาขอร้องท่าน แต่ว่า เรื่องที่นางจะขอร้องข้าเองก็พอจะนึกออก"เขาอยากบอกว่า เรื่องแบบนี้ ถ้าหากรับปากไป ไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์สามีภรรยากับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหรือไม่ แต่การที่พานางเข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยน ถือเป็นการทรยศและทำร้ายจาวหนิงแต่ก็ไม่อยากพูดออกมาตอนนี้เขาอยากจะเห็นว่าเซียวหลันยวนจะเลือกอย่างไร ที่สำคัญที่สุดคือ เขาเองก็ไม่รู้ว่าเงื่อนไขที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นงัดออกมาได้คืออะไร ถ้าเผื่อมันสำคัญอย่างมากกับเซียวหลันยวนจริงๆ ล่ะ?"ท่านพ่อตาอยากพูดอะไรหรือ?" เซียวหลันยวนย้อนถามเขา"อ๋า?"ฟู่จิ้นเชินถูกคำเรียก 'ท่านพ่อตา' ที่มาอย่างกะทันหันนี้ทำเอางงงันไปหมด ตั้งตัวกลับมาไม่ได้ชั่วขณะหนึ่งเซียวหลันยวนก็พูดต่อมาอีก "วางใจเถิด ข้าไม่ทำเรื่องที่ผิดกับหนิงหนิงแน่นอน"พูดจบเขาก็หมุนตัวเตรียมเข้าห้อง ""หากไม่มีเรื่องอะไร คนป่วยทางนั้นรบกวนท่านดูไว้หน่อย ให้หนิงหนิงได้กินข้าวเช้าก่อนพอเซียวหลันยวนเข้าห้องไป ประตูก็ปิดลงมา ฟู่จิ้นเชินมองไปทางชิงอีที่อยู่ข้างๆ ช้าๆชิงอีเองก็
องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถูกคนเหล่านี้พูดจนตาแทบแดงก่ำนางไม่ยอมให้เป็นแบบนี้!นางเองก็มีเกียรตินะ นางเป็นถึงองค์หญิงใหญ่ เดิมทีควรจะล้ำค่าสูงส่ง สามารถเลือกราชบุตรเขยดีดีได้แต่ตอนนี้นางมีทางเลือกอะไรล่ะ?ถ้าไม่ใช่เพราะนางมีพระเชษฐาแบบนั้น นางคงไม่ต้องทำให้มาถึงจุดนี้หรอกนางแค่อยากจะช่วยตนเองเท่านั้น แล้วมันผิดตรงไหน? ถ้าหากทำได้ นางก็ไม่อยากไปทำร้ายใครทั้งนั้น นางเป็นคนที่มดแค่ตัวเดียวก็ยังทำใจเหยียบไม่ลงด้วยซ้ำ"รบกวนท่านลุงฟู่ด้วย ข้ามีเรื่องสำคัญจริงๆ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง ถอยไปที่ประตูวงกลมทางนั้นเฉินเซียงถลึงตาใส่ห้องนั้น คารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง "รบกวนท่านลุงฟู่ช่วยเหลือด้วย องค์หญิงใหญ่พวกรเาจะไปรออ๋องเจวี้ยนที่นั่น"พูดจบนางก็รีบเดินไปหาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นฟู่จิ้นเชินส่ายหัวเขาก็เหมือนรู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกอยู่ในสภาพไหน มาเจอกับฝ่าบาทต้าชื่อแบบนั้น นางเองอันที่จริงก็น่าสงสารแต่ว่า ท้ายสุดแล้วนางก็ยังไม่ฉลาดพอ เส้นทางที่เดินได้ นางกลับเดินอย่างสะเปะสะปะแต่พูดมาก็ถูก นางเติบโตมาที่สุสานจักรพรรดิ ไม่ค่อยได้พบเจอกับผู้คนสักเท่าไร และย
ก่อนหน้านี้ทรมานหมอฟู่ไว้มาก สาวใช้นั่นยังบอกว่าหมอฟู่กับนายท่านเป็นอะไรอะไรกันอีก ป้าหนิวเห็นแล้วไม่สบอารมณ์องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถูกนางเหลือบมองใส่แบบนี้จนอายไปเฉินเซียงกลับถลึงตามองแผ่นหลังป้าหนิวเจ้าคนชั้นต่ำ นังคนชั้นต่ำ กล้ามามององค์หญิงใหญ่พวกนางแบบนี้เรอะฟู่จิ้นเชินตอนนี้จึงหมุนตัวหันไปมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถามขึ้นว่า "องค์หญิงใหญ่จะพบอ๋องเจวี้ยน เพราะอยากให้อ๋องเจวี้ยนพาท่านไปเมืองหลวงหรือ? ถ้าหากมีเป้าหมายนี้ เช่นนั้นข้าบอกท่านไว้ได้เลย ว่าท่านยังออกจากเมืองเจ้อไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกับอันเหนียนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวสามฝ่ายตกลงกันแล้ว ตอนนี้ประตูเมืองปิดอยู่ ใครอยากจะออกจากเมือง ต้องยื่นจดหมายออกจากเมืองมา ถ้าบนต้องมีผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใต้เท้าอันและหมอฟู่สามคนลงนาม ขาดไปสักคนก็ไม่ได้ถ้าหากไม่มีจดหมายออกจากเมืองที่มีนามทั้งสาม ใครก็ออกไปไม่ได้ทั้งนั้นแล้วอาการป่วยอย่างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงไม่มีทางปล่อยนางออกไปแน่ไหนจะเรื่องที่นางจะตามอ๋องเจวี้ยนไปอีกฟู่จิ้นเชินตอนนี้รู้สึกว่าสมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก แค่คิดก็รู้แล้ว ฟู่จาวหนิงจะยอมให้อ๋องเ