ชิงอีหน้าเปลี่ยนสี ถีบคนออกไปคนหนึ่ง ขณะเดียวกันก็ยื่นมือคว้าจับอีกสองคน สะบัดพวกเขาออกไป แต่ตอนที่พวกเขาเงยหน้าขึ้นมาสายตากลับเหม่อลอยคนพวกนี้ดูแปลกไป!มีคนยื่นมือมาทางขาเซียวหลันยวน เซียวหลันยวนยื่นมือมาขวางการกระทำทั้งหมดนี้ล้วนเกิดขึ้นพร้อมกันพวกเขาขวางไว้ได้ด้านหนึ่ง แต่ขวางการลอบโจมตีทั้งหมดไม่ได้เสียงกิ๊งดังขึ้น หน้ากากของอ๋องเจวี้ยนถูกเกี่ยวไว้แล้วด้ายเงินนั้นถูกออกแรงกระชาก"อ๊า! อ๋องเจวี้ยน!""ท่านอ๋อง!"กลุ่มคนร้องตกใจ ล้วนมองไปทางอ๋องเจวี้ยนตะขอด้ายเงินกระชากเปิดหน้ากากครึ่งหน้าของอ๋องเจวี้ยน ขณะเดียวกันก็ยังดึงกวานม่วงทองที่รวบผมไว้จนหลุดด้วยผมดำของอ๋องเจวี้ยนสยายลงมาขณะเดียวกัน ใบหน้าครึ่งหนึ่งนั้นก็ไม่มีอะไรปิดบังไว้อีกประชาชนหลายคนที่อยู่ข้างรถม้ามองเห็นใบหน้าอ๋องเจวี้ยนอย่างชัดเจน"อ๊า!""ผี!"พวกเขาล้วนตกตะลึงร้องเสียงหลงออกมาเสียงร้องเช่นนี้ ทำเอาคนอื่นหันมองมาทันควันพวกเขามองเห็นใบหน้าของอ๋องเจวี้ยนแล้วพวกผู้เฒ่าฟู่กับฟู่จาวเฟยที่หน้าประตูใหญ่ก็ล้วนมองเห็นแล้วพวกเขาราวกับถูกสายฟ้าฟาดใส่หน้าของอ๋องเจวี้ยน...น่ากลัวเกินไปแล้ว!และ
เซียวหลันยวนรู้ ว่าคนทั้งหมดถูกใบหน้าของเขาทำให้ตกใจไปแล้วพลานุภาพนี้ น่ากลัวยิ่งกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้เสียอีกปฏิกิริยาของผู้คน รุนแรงกว่าที่เขาคาดการณ์เอาไว้เขากลายเป็น "ผี" จากปากของผู้คนแล้วจังหวะที่ม่านปิดลงมา เขากระทั่งเห็นสีหน้าขาวซีดของผู้เฒ่าฟู่ ร่างกายโงนเงนเหมือนจะเป็นลมนี่คงถูกเขาทำให้ตกใจเข้าแล้วจริงๆเขาตอนนี้กลายเป็นสภาพเหมือนผีไปแล้ว อย่าว่าแต่ในบ้านฝ่ายหญิงเลย กระทั่งท่านผู้เฒ่าฟู่ก็ยังรับไม่ได้ แทบจะเป็นลมไปอยู่แล้วฟู่จาวหนิงยืนที่อยู่ข้างเขาถ้าเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน นางจะทนรับไหวไหม?"ท่านอ๋อง?"ชิงอีเสียงสั่นเทาหน้ากากนี้ ท่านอ๋องลงทุนลงแรงหาช่างฝีมือดีมาตีให้ เพิ่งจะได้มาเมื่อไม่กี่วันนี้เองพวกเขาคิดไม่ถึงว่า ตอนที่สวมหน้ากากนี้ออกมาด้านนอกแล้วจะเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ขึ้น เดิมทีคิดว่าท่านอ๋องหลังจากมีหน้ากากนี้แล้วสามารถออกไปด้านนอกได้ แต่ครั้งนี้พอออกมาก็ทำให้คนมากมายเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขาจนได้!"พาคนตระกูลหลินพวกนี้ไปให้หมด"เสียงของเซียวหลันยวนฟังดูสงบนิ่ง แต่ชิงอีพวกเขากลับฟังออกถึงจิตสังหารในน้ำเสียงคนตระกูลหลินพวกนี้เกรงว่าจะจบเห
รุม้าของจวนอ๋องเจวี้ยนไม่ชลอแม้แต่น้อย แล่นผ่านข้างนางออกไปองค์หญิงหนานฉือกระทืบเท้า ยังคิดจะไล่ตาม แต่อันเหนียนก็มาขวางนางไว้"องค์หญิง ท่านควรจะกลับวังได้แล้ว""นายท่านอันทำไมถึงมาเจ้ากี้เจ้าการข้าเช่นนี้? ไม่เช่นนั้น เจ้าก็ไปจวนอ๋องเจวี้ยนกับข้าด้วยกันเลย ข้ายังอยากจะเจรจาซื้อขายกับเขาอีกอย่างหนึ่ง""ท่านทำไมจึงอยากจะแต่งกับอ๋องเจวี้ยนขนาดนี้?"อันเหนียนตอนนี้ในใจก็ซับซ้อนขึ้นมา เพราะเขาเมื่อครู่ก็เห็นหน้าของอ๋องเจวี้ยนแล้วตอนนี้สิ่งที่สมองคิดออกก็คือสภาพของฟู่จาวหนิงแม่นางที่สวยสดขนาดนั้น ถ้ายืนอยู่ข้างอ๋องเจวี้ยนแบบนี้..."เพราะว่าข้าคิดว่ามันน่าสนใจดี น่าสนใจกว่าพวกคุณชายพวกขุนนางทั่วไปเสียอีก" องค์หญิงหนานฉือกดเสียงต่ำ "เจ้าไม่เห็นหรือว่า พวกคนหนุ่มในเมืองหลวงแคว้นเจาของพวกเจ้าเหล่านี้ สิ่งแวดล้อมกับขั้นตอนการเติบโตไม่ค่อยจะแตกต่างกัน เพราะพวกเขาล้วนอยู่ในเมืองหลวง มีเรื่องอะไร งานเลี้ยงอะไร ของอะไรที่แพร่หลายได้รับความนิยม ก็ล้วนร่วมเล่นร่วมวิพากษ์วิจารณ์กันหมด""สิ่งที่พวกเขาต้องการล้วนใกล้เคียงกัน ไม่มีอะไรมากไปกว่าการมีอนาคตที่ดี เข้าวังได้ยศ สาวงามรายล้อม แต่อ๋อ
ครั้งนี้ อ๋องเจวี้ยนไม่ได้ปฏิเสธ รับโองการไปเงียบๆ วันถัดไปก็ออกจากเมืองหลวงพร้อมกับไทเฮาคนทั้งหมดล้วนพูดว่า อ๋องเจวี้ยนไม่กล้าอยู่ในเมืองหลวงแล้วจริงๆ ได้ยินว่าคนทั้งเมืองล้วนหวาดกลัวต่อใบหน้าของเขาไปแล้วผ่านเรื่องนี้ไป ก็ไม่มีใครรู้สึกว่าอ๋องเจวี้ยนจะมีโอกาสได้ช่วงชิงบัลลังก์จักรพรรดิอีกองค์จักรพรรดิกลับดูดีใจ ผ่านไปสักระยะ เขาค่อยมาวางแผนว่าจะชิงตราประทับแคว้นเจากับองครักษ์เงามังกรกลับมาจากมืออ๋องเจวี้ยนได้อย่างไรถึงอย่างไรเขาก็น่าเกลียดขนาดนี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็อยู่แต่ในยอดเขาโยวชิงหรือว่าจวนอ๋องต่อไปเถอะ ไม่ต้องโผล่หน้าออกมาแล้วออกจากเมืองหลวง และพอเดินทางไปอีกร้อยลี้ ไทเฮาก็บอกให้ขบวนหยุด ให้คนเชิญอ๋องเจวี้ยนมาที่รถม้าอ๋องเจวี้ยนเข้ามาแล้ว แต่กลับสวมหมวกสีดำอยู่ ปิดบังใบหน้าาของตนเองเอาไว้จนหมดไทเฮาพอเห็นเขาในสภาพนี้ก็อดเสียใจขึ้นมาไม่ได้"อายวน เจ้าให้ข้าเห็นหน่อยเถิด ข้าไม่กลัวหรอก"นางอยากจะเห็นใบหน้าของเซียวหลันยวน แล้วหาจุดที่จะปลอบประโลมเขาได้ เร่งเดินทางมาหลายวันแล้ว เซียวหลันยวนเอาแต่อยู่บนรถม้าของตนเอง ไม่ได้มาพูดคุยอะไรกับนางเลยบรรยากาศขององครักษ์อย่าง
ในฐานะที่เป็นหญิงสาวคนหนึ่ง การเรียนแพทย์นั้นไม่ง่ายเลย จะต้องลำบากมาไม่น้อยแน่นอนฟู่จาวหนิงได้ยินนางเล่าเรื่องในบ้านตระกูลเสิ่นมาไม่น้อย และได้ยินความยากลำบากของเสิ่นเสวียนช่วงก่อนหน้านี้อีกพอสมควร ไท่ไท่อาวุโสชอบนางมาก ผ่านไปไม่กี่วัน ก็พัฒนาไประดับที่มอบเครื่องประดับล้ำค่าหลายชิ้นที่ตนเองสะสมให้กับนางแล้วยิ่งไปกว่านั้นในนั้นยังมีบางส่วน ที่ได้ยินว่าเป็นสมบัติที่สืบทอดมาจากนายหญิงตระกูลเสิ่นด้วยเหมือนมีไว้ส่งต่อให้กับลูกสะใภ้ฟู่จาวหนิงตอนแรกยังไม่รู้ ตอนที่พูดเรื่องตราหยกหงส์สีชาดคู่หนึ่งกับเสิ่นเสวียน เสิ่นเสวียนถึงได้บอกกับนางเสิ่นเสวียนเองก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก"ร่างกายของนางตอนไหนจึงจะมั่นคงขึ้นมาหน่อยหรือ? ควรจะบอกตัวตนที่แท้จริงของเจ้ากับพวกเขาได้แล้ว ตากับยายของเจ้าจะได้ไม่มาพัวพัน"สิ่งที่พวกเขาพัวพัน ก็เพราะฟู่จาวหนิงนั้นดีแสนดี เป็นผู้หญิงที่พวกเขาชอบมาก อยากจะเสนอการหมั้นให้กับเขา จะไม่ปล่อยให้นางไปไหนประเดี๋ยวก็ใช้สายตาเหมือนมอง "คนทราม" เหลือบมาที่เขา รู้สึกว่าเขาอายุก็ปูนนี้แล้วยังจะมาล่อลวงหญิงสาวอายุน้อยแบบนี้ หน้าไม่อายเสียจริงพวกเขาล้วนคิดว่าลูกชายขอ
พอเห็นฟู่จาวหนิงเข้ามา ไท่ไท่อาวุโสดวงตาก็เป็นประกายขึ้นทันที รอยยิ้มบนหน้าจริงใจขึ้นมาก"ไม่รู้เพราะอะไร ทุกครั้งที่เห็นจาวหนิง อารมณ์ของข้าถึงได้ดีเหลือเกิน ต่อให้เห็ฯว่านางไม่ได้ทำอะไร ก็ยังรู้สึกชอบมาก"ไท่ไท่อาวุโสถอนหายใจท่านผู้เฒ่าแหงนตามองฟู่จาวหนิงผาดหนึ่งหญิงสาวคนนี้น่าจะเหมาะกับต้าชื่อของพวกเขา มาที่นี่หลายวันแล้วก็ยังไม่เห็นว่าอยู่ได้ลำบากเลย แถมผิวก็เหมือนจะขาวขึ้นไปอีกช่วงไม่กี่วันนี้ต้าชื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว นางสวมชุดกระโปรงสีบ๊วย ดูทรงสง่าราศี ไม่ต้องพึ่งพวกดอกไม้ทัดหลิ่ว นางก็ดูเจิดจ้าแยงตามาก"ไท่ไท่อาวุโสวันนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง?""ดีขึ้นแล้ว ดีขึ้นมากเลยจริงๆ ข้าคุยกับเจ้าได้ครึ่งชั่วยามเลยทีเดียวล่ะ" ไท่ไท่อาวุโสมองจนรู้สึกว่าฟู่จาวหนิงนั้นเข้าตานางมากจะมองอย่างไรก็ยังชอบ"จะดีขึ้นทุกๆวัน ข้าเพิ่งไปหาท่านปู่อาเพื่อหารือเรื่องปรับเปลี่ยนอาหารยาจีน ให้เพิ่มผลไม้แห้งที่รสชาติไม่เลวลงไปด้วย ท่านจะต้องชอบแน่"พอพูดถึงท่านปู่อาคนนี้ ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกว่าวาสนี้นี้ช่างแสนอัศจรรย์ท่านปู่อาคนนี้ก็คือผู้อาวุโสตู้พ่อครัวที่มีชื่อแห่งต้าชื่อนี่เองหลังจากผู
"มีเรื่องอะไรถึงได้ดีใจขนาดนี้" ไท่ไท่อาวุโสถาม"ได้ยินว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นจะกลับเมืองหลวงแล้ว ทุกคนล้วนอยากจะไปต้อนรับองค์หญิงใหญ่กัน ถือโอกาสรับโชคลาภด้วย" เสี่ยวชิ่นตอบนี่น่าจะเป็นหัวข้อสนทนาที่คุยกันมากที่สุดด้านนอกในช่วงหลายวันนี้ถ้าไม่ใช่ว่ามีเรื่องอย่างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเข้ามาพอดี การเคลื่อนไหวในตระกูลเสิ่นช่วงนี้ก็ทำให้คนจับตามองมากเช่นกันเพราะหลายวันนี้ วิธีการของเสิ่นเสวียนก็เด็ดขาด "เชิญ" ญาติในตระกูลมากมายที่พักในบ้านตระกูลเสิ่นออกไป ยิ่งไปกว่นั้นยังประกาศไปภายนอกอีด ว่าคนเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลเสิ่นอีกแล้ว หลังจากนี้หากมีเรื่องอะไร ห้ามหยิบชื่อของตระกูลเสิ่นมาแอบอ้างอีกท่านปู่อารองเสิ่นทั้งครอบครัวโดนเชิญออกไปเกือบหมด สาเหตุคือหลานของสะใภ้รองเสิ่นไปทำเรื่องอะไรยั่วโมโหเสิ่นเสวียนเข้าที่เสิ่นเสวียนเล่นงานซุนจิ้นอวี๋จนย่ำแย่ยังไม่พูดถึง ยังย้ายความโกรธมาที่สะใภ้รองเสิ่นอีกด้วยท่านปู่อารองเสิ่นไล่ลูกชายทั้งสองออกไปทันที ดูเป็นการตัดญาติเพื่อความชอบธรรมอยู่หน่อยๆ นี่จึงทำให้ตนเองกับลูกหลานคนอื่นยังอยู่ต่อในบ้านตระกูลเสิ่นได้เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างเอะอะม
ไท่ไท่อาวุโสเสิ่นพอได้ยินเรื่องที่เสิ่นเสวียนพูดถึง ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมา"เอ๋? นั่นก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้นะ จาวหนิงโดดเด่นเสียขนาดนี้ แม้ว่าข้าจะอยากให้นางกลายเป็นคนของตระกูลเสิ่นก็ตาม แต่ถ้ามีคนที่ดีกว่าตระกูลเสิ่นพวกเรา เหมาะกับฟู่จาวหนิงมากกว่า แล้วเป็นคนที่นางชอบมากกว่า พวกเราก็จะเห็นแก่ตัวไม่ได้"ไท่ไท่อาวุโสมองไปทางฟู่จาวหนิง "จาวหนิง ถ้าอย่างนั้นเจ้าลองบอกมาหน่อยว่าเจ้าชอบแบบไหน?"ไม่รอให้ฟู่จาวหนิงตอบ นางก็รีบเอ่ยขึ้น "อย่าบอกว่าเป็นแบบอาเสวียนนะ เขาอายุมากแล้วไหม?"พรวดฟู่จาวหนิงทนไม่ไหว หัวเราะพรวดออกมา"ฮ่าๆๆ!" นางมองไปทางเสิ่นเสวียน หัวเราะไปด้วยพูดไปด้วย "ท่านลุง ทุกครั้งที่ข้าบอกว่าชอบท่านไม่ใช่ชอบแบบนั้น ไม่มีใครเชื่อเลยรึ!"คนตระกูลเสิ่นเหล่านี้ก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไรกัน แต่ละคนคิดว่านางกับเสิ่นเสวียนมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดากันยิ่งไปกว่านั้นยังรู้สึกว่าเสิ่นเสวียนก็รู้สึกพิเศษกับนางด้วยฟู่จาวหนิงเองก็ไม่รู้ ว่าก่อนหน้านี้เสิ่นเสวียนไม่ให้ใครเข้ามาพักในสวนสี่ซินเลย ยิ่งไปกว่านั้นเขามีชื่อเสียงตั้งแต่อายุยังน้อย อันที่จริงก็มีความเย่อหยิ่งอยู่หลายปีมานี้ต่อให้ถูกอง
ฟู่จิ้นเชินอันที่จริงก็เตรียมใจไว้แล้วตอนนั้นพวกเขาออกจากเมืองไปแบบนั้น หลายๆ เรื่องยังคงอยู่ ทั้งที่เกี่ยวกับราชวงศ์ท่านอ๋อง ทั้งที่เกี่ยวข้องกับองค์จักรพรรดิ และไม่มีทางที่จะลืมเลือนจากเวลาที่ไหลผ่านไปกระทั่งองค์จักรพรรดิก็ไม่แน่ว่าจะลืมพวกเขาถ้าหากไม่ใช่เพราะลูสาวของพวกเขาจับพลัดจับผลู พบบุพเพมหัศจรรย์จนไปแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยน ตอนนี้พวกเขายังไม่ทันเข้าเมืองหลวงก็คงถูกคนของอ๋องเจวี้ยนจับไปแล้วสิ่งที่รอพวกเขาก็คือการจำคุกและการไต่สวนหรือบางที คนที่รู้เรื่องเบื้องหลังในตอนนั้น หรือคนที่สงสัยว่าพวกเขาไปรู้ความลับอะไรเข้า ตอนนี้อาจจะเปิดเผยตัวกันออกมาถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่มีทางเป็นแบบตอนนี้ ที่ยังเข้าเมืองมาได้อย่างปลอดภัย กลับมาที่บ้านกระทั่งว่า บ้านตระกูลฟู่เองก็อาจจะไม่อยู่แล้วด้วย บ้านหลังนี้ ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะยังอยู่ที่นี่เพื่อรอพวกเขากลับบ้านกลับบ้าน ใช่แล้ว พวกเขาในที่สุดก็กลับมาบ้านแล้วและทั้งหมดนี้ เป็นเพราะจาวหนิงเป็นจาวหนิงที่ให้พวกเขากลับมาบ้านได้ฟู่จิ้นเชินเข้าใจจุดนี้ได้ดียิ่งกว่าใครรอจนอารมณ์ของทุกคนนิ่งลงมาแล้ว เขาจึงถามถึงผู้เฒ่าฟู่กับฟู่จาวหนิ
ฟู่จาวหนิง! พระชายาอ๋องเจวี้ยน! พวกเขาล้วนได้ยินเรื่องของนางมาไม่น้อย นั่นไม่ใช่คนที่ไปยั่วยุได้เลยนะ นางกระทั่งองค์จักรพรรดิก็ยังกล้าไปต่อปากต่อคำด้วย พวกเขาในสายตาฟู่จาวหนิงไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น!ถ้าถูกจับจ้องไว้ล่ะก็ พวกเขาหลังจากนี้ได้เดือดร้อนแน่!คนเหล่านี้ล้วนขวัญเสียกันหมดแล้วคนที่ให้พวกเขาเข้ามาเอะอะบอกไว้ว่า ถ้าเอาคนมาเยอะๆ แล้วบวกกับเรื่องเมื่อสิบแปดปีก่อนเข้าไป ฟู่จิ้นเชินจะต้องนึกพวกเจ้าไม่ออก จำพวกเจ้าไม่ได้แน่ขอแค่เอาคนมามากพอ สถานการณ์วุ่นวายพอ แค่พวกเขาสร้างความวุ่นวายแล้วหนีไป ตระกูลฟู่ก็จับมือใครดมไม่ได้หรอกแต่ใครจะคิดว่าฟู่จิ้นเชินจะมาไม้นี้?"ฟู่ สหายฟู่ ไม่ต้องจดหรอก พวกเราก็แค่เจอพวกเจ้าบนถนนเท่านั้น...""ใช่ๆๆ ไม่มีใครมาแจ้งพวกเรา""พวกเรามีที่มาแหล่งข่าวเสียที่ไหน เข้าใจผิดแล้ว..."พวกเขาคิดจะถอย ถ้าหากไปถึงฟู่จาวหนิงคงวุ่นวายไม่จบไม่สิ้นแน่"ในเมื่อมากันแล้ว เช่นนั้นก็มาคุยเรื่องเก่ากันก่อนเถิด อย่าเพิ่งรีบไปกัน" ฟู่จิ้นเชินเอ่ยขึ้นอย่างสงบ "พวกเจ้าไม่ใช่มาหาสหายเก่าอย่างข้าหรอกหรือ?""เจ้ากับฮูหยินเพิ่งกลับมา น่าจะเหนื่อยกันแล้ว พวกเราเอาไว้ค่อ
พวกของเซี่ยซื่อยังไม่ทันได้พูดเรื่องอ๋องเจวี้ยน ด้านนอกก็มีคนออกแรงตบประตูบ้านตระกูลฟู่ขึ้นเสียงดังเฉินซานออกไปเปิดประตู คนกลุ่มหนึ่งก็ทะลักเข้ามาคนเหล่านี้ เฉินซานคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่ ก่อนหน้านี้ตอนที่เขายังเป็นนักเลงหัวไม้อยู่ในเมืองหลวง จริงๆ ก็ให้ความสนใจกับพวกพ่อค้าขุนนางระดับล่างเหล่านี้อยู่คนเหล่านี้ล้วนอายุราวสามสี่สิบปี อายุประมาณฟู่จิ้นเชิน"คุณชายใหญ่ฟู่!""เร็ว ได้ยินว่าอัจฉริยะใหญ่ฟู่กลับมาแล้วหรือ?""คุณชายฟู่กลับมาแล้วจริงหรือ?"คนกลุ่มหนึ่งทะลักเข้ามา ล้วนมองอย่างตื่นเต้นมาที่ฟู่จิ้นเชินขณะที่ยังตกใจกับความหล่อเหลาราววัยหนุ่มของฟู่จิ้นเชิน กับความสวยสะพรั่งของเสิ่นเชี่ยว พวกเขาลืมเป้าหมายที่มายังบ้านตระกูลฟู่นี้แล้วพวกเขาแย่งกันพูดขึ้นมา"สหายฟู่ ให้ตายเถอะ เจ้ายังไม่ตายจริงๆ!""คุณชายฟุ่ ยังจำข้าได้ไหม? ข้าต่งฮั่น ตอนนั้นที่เคยสนุกด้วยกันกับเจ้าที่โรงน้ำชา!""จิ้นเชิน ข้าเหอจาวหลิน พวกเราตอนนั้นเกือบจะได้เป็นศิษย์ของอาจารย์คนเดียวกันแล้ว!""อัจฉริยะใหญ่ฟู่ ตอนนั้นพวกเราเดิมพันงานเขียนกันหลายครั้ง พอเจ้าหายตัวไปสิบแปดปีข้าก็คิดถึงเจ้าตลอดเลย เจ้ากลับมาได
ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายยังดูยังสับสนอยู่ ยังไม่มีใจจะไปคิดเล็กคิดน้อยนัก"นี่คือลูกสาวของข้าอันห่าว นางตอนนี้ใช้สกุลเซี่ยเหมือนข้า" เซี่ยซื่อปาดน้ำตาเอ่ยขึ้นเสิ่นเชี่ยวประคองเซี่ยอันห่าวลุกขึ้นดูแล้วเซี่ยซื่อน่าจะมีเรื่องบางอย่างกับตระกูลหลิน ยิ่งไปกว่านั้นในนี้จะต้องเป็นฝีมือของจาวหนิงแน่"ต้องขอบคุณจาวหนิง นางเก็บแม่ลูกอย่างพวกเรามา ไม่เช่นนั้นพวกเราคงไม่รอดกันแล้ว" เซี่ยซื่อเอ่ยขึ้นทั้งน้ำตา ได้สติขึ้นอีกครั้ง "รีบเข้าห้องเร็ว หิมะตกแล้ว ด้านนอกหนาวมาก"คนที่เหมือนแมลงกาฝากในตระกูลฟู่พวกนั้นก็ถูกฟู่จาวหนิงกวาดออกไปแล้ว เรื่องนี้สามีภรรยาฟู่จิ้นเชินรู้แล้วพวกเขาเข้ามาในโถงใหญ่ ลุงจงป้าจงกับหู่จือล้วนได้ยินการเคลื่อนไหว ทั้งหมดจึงวิ่งเข้ามา"คุณชาย คุณชายใหญ่กับฮูหยินน้อยกลับมาแล้วหรือ?""คุณชาย!"ป้าจงกับลุงจงวิ่งเข้ามาก่อน พอเห็นฟู่จิ้นเชินชัดๆ พวกเขาก็น้ำตาไหลอาบทันที ทิ้งตัวลงคุกเข่า"คุณชาย ฮูหยินน้อย พวกท่านกลับมาได้เสียที พวกท่านยังมีชีวิตอยู่ ข้าน้อยรู้อยู่แล้ว ว่าพวกท่านจะต้องมีโชคที่ดีแน่นอน..."พวกเขาล้วนร้องไห้กันออกมาตอนนั้นที่พวกเขาออกไป หู่จือยังเป็นเด็กน้อยอย
แม้จะผ่านไปเกือบสิบแปดปีแล้ว แต่สามีภรรยาฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยวก็ยังเป็นคนที่กาลเวลารักใคร่อยู่พวกเขาแม้จะอายุมากแล้ว หน้าตาก็ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นบ้าง แต่พอเทียบกับสมัยก่อนแล้ว ก็เปลี่ยนแปลงไปไม่เยอะมากมองหลายๆ ครั้งก็มองออกได้คนที่เซียวเหยียนจิ่งเตรียมไว้ยังมองออก ไม่ต้องพูดถึงเซี่ยซื่อเลยเซี่ยซื่อเคยเป็นครอบครัวของพวกเขาด้วยนะหลังจากนางจำได้แล้วยังสงสัยว่าตาตนเองฝาดไปหรือไม่ ยังสงสัยว่าตนเองคงตาลาย ดังนั้นเลยนวดตาทันที จากนั้นจึงมองพวกเขาอย่างละเอียดอีกครั้งไม่เปลี่ยน ยังคงเป็นสองคนนั้นเสิ่นเชี่ยวเองก็จำเซี่ยซื่อได้ แม้ว่านางจะรู้ตัวตนฐานะของตนเองแล้ว แต่ยังคงโพล่งออกมาว่า "พี่สะใภ้รอง!"เซี่ยซื่อคือภรรยาของผู้เฒ่ารองตระกูลหลินและเป็นคนเดียวในตระกูลหลินที่อ่อนโยนเป็นห่วงเสิ่นเชี่ยว ดังนั้นเสิ่นเชี่ยวพอเห็นนาง ดวงตาจึงแดงรื้นขึ้นมาคำว่าพี่สะใภ้รอง ก็ทำเอาเซี่ยซื่อใจสั่นระริกเช่นกันรีบวางตะกร้าที่หิ้วไว้ลงมา เดินตรงไปหานาง"ให้ตายเถอะ อา อาเล็กหรือ?"ไม่ ไม่ใช่อาเล็กชองนางแล้วสิ เซี่ยซื่อยืนอยู่หน้าเสิ่นเชี่ยว ถลึงตาโตอ้าปากค้าง"พี่สะใภ้รอง ข้าข้าเจอครอบครัวของข้าแ
ฟู่จาวหนิงสีหน้าขรึมลงเล็กน้อย "ดูท่า น่าจะมีคนไม่น้อยที่ยังไม่ลืมพวกเขา คอยจับตาดูจนถึงทุกวันนี้""ข้าเตรียมการเสร็จแล้ว รอบบ้านตระกูลฟู่วางองครักษ์ลับเอาไว้แล้ว วางใจเถอะ" เซียวหลันยวนพานางเข้ามา สองมือโอบข้างเอวนาง จ้องมองนาง "องค์จักรพรรดิน่าจะลงมือกับพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้นพ่อลูกชินอ๋องเซียวยังคอยจับตาดูพวกเขาขนาดนี้ มันดูแปลกไปหน่อย""ตรวจสอบดูก็รู้ พวกเขาถ้าหากมีความคิดอะไร มีแผนอะไร มีเป้าหมายอะไร เดี๋ยวก็ได้รู้เอง"ฟู่จาวหนิงไม่ได้ใส่ใจนักเซียวหลันยวนพยักหน้าสายตาเขามองออกไปไกลๆ ถัดจากนี้ต้องดูว่าสามีภรรยาฟู่จิ้นเชินจะรับมืออย่างไร เมืองหลวงยังมีคนที่มีเป้าหมายต่างๆ อยู่ และยังมีขั้วอำนาจที่ใช้วิธีการต่างๆ อยู่อีกด้วยเขาถึงแม้จะเชื่อว่าครั้งนั้นไม่ใช่เสิ่นเชี่ยวที่วางยาพิษ แต่ว่าพวกเขาตอนนั้นถูกใครบางคนหรือเรื่องบางอย่างหนีบเอาไว้ตรงกลาง ไม่มีทางดึงตัวออกมาอย่างหมดจดได้ พวกเขาเองก็เป็นคนในเหตุการณ์ตอนนี้พอมีความสัมพันธ์เช่นนี้กับเขา เซียวหลันยวนก็ยังพิจารณานาว่าพวกเขาจะแบกรับไหวไหม หลังจากนี้จะไม่ถ่วงแข้งขาฟู่จาวหนิงได้จริงไหม จะไม่ทำร้ายนางจริงไหมเซียวหลันยวนไม่ได้
"หนิงหนิง มีเรื่องอะไรถึงคุยกันนานสองนาน?"ในห้องขังมีเสียงเซียวหลันยวนดังออกมา"มาแล้ว"ฟู่จาวหนิงขานรับคำหนึ่ง เตรียมจะกลับห้องขังเซียวเหยียนจิ่งไม่อยากเชื่อ "เจ้าไม่ไปกับข้าจริงหรือ? เจ้าไม่สนใจพ่อแม่เจ้าหรือไรกัน?"ปฏิกิริยาของฟู่จาวหนิงเกินจากที่เขาคาดไว้เขาเดิมทีคิดว่าพอได้ยินว่าพ่อแม่ไม่เป็นไร แล้วยังกลับมาแล้ว ฟู่จาวหนิงอย่างน้อยต้องตาแดงรื้นบ้าง ไม่ก็ร้องไห้ออกมา รีบร้อนตามเขาออกไปอย่างตื่นเต้น เพื่อรีบไปพบพ่อแม่ของนาง"อ๋องเจวี้ยนถึงอย่างไรก็ยังต้องอยู่ในห้องขัง ไม่มีอะไรหรอก เจ้าจัดที่นี่จนดูอยู่สบายไปแล้ว แล้วเขาทำไมยังต้องให้เจ้ามาอยู่ด้วยกันอีก?""ข้ามาอยู่เอง เขาเป็นสามีข้า ข้าไม่อยู่กับเขาแล้วใครจะอยู่กัน?"ฟู่จาวหนิงหลังจากที่รู้เจตนาการมาของเขาก็ขี้เกียจจะคุยกับเขาแล้ว ผลักเขาออก แล้วเดินไปทางห้องขังเซียวเหยียนจิ่งนี่ก็จุ้นจ้านเสียจริง"เจ้าทำไมถึงต้องทำร้ายตัวเองแบบนี้" เซียวเหยียนจิ่งตะโกนใส่หลังนาง "เจ้าเข้าร่วมกับสมาคมหมอใหญ่แล้ว ถ้าเจ้ายินยอม มีคนตั้งมากมายที่ยินดีจะรักและเอ็นดูเจ้า ทำไมต้องมาอยู่ในคุกกับเขาแบบนี้ด้วย"เดิมทีหญิงสาวคนนี้ควรจะควรจะม
"ใช่ พ่อแม่ของเจ้ายังมีชีวิตอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังกลับมาถึงเมืองหลวงแล้ว" เซียวเหยียนจิ่งจ้องมองฟู่จาวหนิง "เป็นอย่างไร เจ้าอยากรีบกลับบ้านไหม? ได้ยินว่าปู่ของเจ้ากับเด็กที่ชื่อเสี่ยวเฟยก็อยู่กันที่จวนอ๋องเจวี้ยนนี่? ถ้าเจ้าไม่กลับไป พ่อแม่ของเจ้าคงจะหาคนไม่เจอแน่"ฟู่จาวหนิงทำท่าทางตกตะลึงอย่างมาก"เจ้าไม่ได้โกหกข้าใช่ไหม? พวกเขากลับมาแล้วจริงหรือ?""ข้าจะโกหกเจ้าทำไมกัน? ไม่เชื่อข้าตอนนี้เจ้าก็ไปกับข้าสิ ข้าจะพาเจ้าไปหาพวกเขา"เซียวเหยียนจิ่งพูด มือเองก็คันยุบยิบ เขาอยากจะยื่นมือไปจูงนางเหลือเกิน จูงนางออกจากคุกใหญ่ถ้าเขาสามารถจูงมือนางออกไปได้ เซียวหลันยวนคงได้กระอักเลือดตายกระมัง?แต่เขาเพิ่งจะขยับ ฟู่จาวหนิงก็ถอยออกไปแล้วสองก้าว"พวกเขาถ้ากลับมาแล้วจริง เช่นนั้นก็ต้องกลับไปที่บ้านตระกูลฟู่ ที่บ้านตระกูลฟู่มีคนอยู่ พวกเขาจะหาคนไม่เจอได้อย่างไรกัน?""เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ?""เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าวิ่งแจ้นเข้ามาบอกข้าหรอกกระมัง? พวกเขาถ้ากลับมาแล้วจริง คนใช้บ้านตระกูลฟู่อีกเดี๋ยวก็คงเข้ามาบอกข้าเอง""เจ้าลืมอ๋องเจวี้ยนไปแล้วหรือ?""เขาก็อยู่ที่นี่ ลืมอะไรกัน?""ความ
ฟู่จาวหนิงอยู่ในคุกเองก็เบื่อหน่อยๆ แล้วนางเหลือบมองเซียวเหยียนจิ่งผาดหนึ่ง จากนั้นจึงตรงไปด้าหน้าเซียวหลันยวน "ข้าออกไปฟังหน่อยได้ไหม?""ไปเถอะ" เซียวหลันยวนพยักหน้า"เอ๋ ไม่หึงแล้วหรือ?" ฟู่จาวหนิงร้องชิชะเซียวหลันยวนหัวเราะเสียงทุ้ม "อย่าไปไกลนักล่ะ ข้าได้ยินอยู่"ถึงอย่างไรนางก็เบื่อๆ ถ้าเซียวเหยียนจิ่งพูดเรื่องอะไรที่ทำให้นางฆ่าเวลาได้ เช่นนั้นเขาก็ควรจะใจกว้างหน่อยแต่ว่า พวกเขาเดินไปไกลมากไม่ได้ ต้องอยู่ในระยะที่เขาสามารถได้ยิน"รู้อยู่แล้วว่าท่านจะใจกว้างหลอกๆ"ฟู่จาวหนิงวางพู่กัน ปรบๆ มือ จากนั้นจึงเดินออกจากห้องขัง"คิดจะพูดอะไร?"เซียวเหยียนจิ่งเดิมทีคิดจะให้เซียวหลันยวนหึงหวง ดังนั้นจึงไม่คิดจะเดินไปไกลนัก"มานี่หน่อย" เซียวเหยียนจิ่งเดินออกมาข้างๆ ไม่กี่ก้าว รู้สึกว่าระยะนี้เซียวหลันยวนน่าจะได้ยินเหมือนคนคุยกันแต่ไม่ได้ยินเนื้อหาด้านในเช่นนี้ก็พอดีฟู่จาวหนิงร้องเชอะในใจ น่าจะเข้าใจความคิดของเขาเพียงแต่เซียวเหยียนจิ่งก็ยังโง่อยู่ เขาคิดว่าระยะนี้เซียวหลันยวนไม่ได้ยินหรือไรกัน?นางเดินออกไปเซียวเหยียนจิ่งบอกกับผู้คุมข้างๆ คำหนึ่ง ให้เขาออกไปก่อนผู้คุม