ซุนจิ้นอวี๋ถูกลากออกไปเสินหว่านอ่อนยวนลงไปกองอยู่บนพื้นนางได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก สีหน้าขาวซีดไปแล้ว"เจ้าไปอยู่เป็นเพื่อนอวี๋อวี่เวยที่วัดสดับสนเถอะ" เสิ่นเสวียนมองนาง "ไปคิดดีดีว่าควรจะสงบปากสงบคำอย่างไร"ถ้าปล่อยนางไว้ ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะหลุดปากออกไปอีกรอจนหลังจากจัดการล้างความกำเริบเสิบสานในบ้านตระกูลเสิ่นออกแล้ว ค่อยมาพิจารณาว่าจะให้พวกนางกลับมาหรือไม่"พี่รอง" เสินหว่านตกตะลึง รีบมองเสิ่นเสวียนอย่างลนลาน "เสี่ยวเวยต้องถูกคนล่อลวงแน่ๆ นางไม่มีทางทำหรอก!"เสิ่นเสวียนไม่พูดอะไรเสินหว่านร้องไห้พูดต่อมาอีก "ก่อนหน้านี้มีครั้งหนึ่งที่นางกลับบ้านตระกูลอวี๋ ย่าของนางบอกว่านางไม่ทำตัวอยู่ในกฎเกณฑ์ จึงลงโทษให้นางคุกเข่าอยู่ที่ลานบ้านครึ่งวัน แล้วตอนนั้นท่านไปที่นั่นพอดี พอเห็นแล้วจึงแบกนางขึ้นมา บอกกับย่าของนางว่า นางมีสายเลือดตระกูลเสิ่นอยู่ครึ่งหนึ่ง ครึ่งหนึ่งของตระกูลเสิ่นนี้นั้นดีงาม แต่ก็ถูกสายเลือดตระกูลอวี๋ทำให้เลวร้ายลง แล้วให้นางตอนที่จะลงโทษเมื่อครั้งนั้นก็ต้องเรียกพวกผู้ชายตระกูลอวี๋มาลงโทษด้วย"เรื่องนี้ เสิ่นเสวียนจำไม่ได้แล้วแต่เขาจำได้ ว่าหลายปีก่อน
โดยเฉพาะเรื่องที่นางพูดถึงอวี๋อวี่เวย กลับสามารถใจกว้างได้ขนาดนี้ ไม่ได้มองเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าตกใจเลย และไม่ได้รู้สึกว่าบ้านตระกูลเสิ่นมีแต่คนแย่ๆ ด้วยเรื่องนี้สำหรับเขาแล้วสำคัญมาก"ท่านผู้เฒ่าฟู่สอนเจ้ามาดีมาก"ตอนนี้เอง เสิ่นเสวียนจู่ๆ ก็รู้สึกซาบซึ้งกับท่านผู้เฒ่าฟู่ขึ้นอย่างมากแค่เลี้ยงฟู่จาวหนิงให้เติบโตมาขนาดนี้ก็ไม่ง่ายแล้ว ยังสอนนางมาได้ดีขนาดนี้อีกฟู่จาวหนิงคิดถึงปู่ของตัวเองขึ้นเสียแล้วท่านปู่เองก็หน้าตาคล้ายกับท่านตาด้วย ในบางแนวคิดพวกเขาเองก็เหมือนกัน ความรักที่มีต่อนางก็เช่นกัน ดังนั้นการที่เสิ่นเสวียนพูดถึง"ท่านผู้เฒ่าฟู่"คนนี้ก็ถือว่าเป็นร่างรวมของท่านผู้เฒ่าทั้งสองคนเลยก็แล้วกัน"อืม ท่านปู่ดีมากจริงๆ" ฟู่จาวหนิงยิ้มขึ้นมา "แน่นอน ตัวข้าเดิมทีก็ดีอยู่แล้วด้วย"พอได้ยินนางพูดเช่นนี้ ในใจเสิ่นเสวียนก็ดีขึ้นมาบ้างแล้ว"ท่านลุงคืนนี้ไปพักผ่อนเถิด ไท่ไท่อาวุโสทางนั้นข้าจะไปดูแลเอง คืนนี้ควรให้ข้าไปดูแล เพราะคืนนี้สำคัญมากเรื่องที่ว่านางจะตื่นหรือไม่ตื่นขึ้นมา"ฟู่จาวหนิงเตรียมว่าคืนนี้จะไปให้น้ำตากลูโคสกับไท่ไท่อาวุโสเสียหน่อย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีพวกยาลดอ
"ข้าเองก็ประมาทเกินไป"เสิ่นเสวียนถอนหายใจ อย่าว่าแต่หลิวหั่วเลยที่คิดไม่ถึง กระทั่งตัวเขาเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน ไม่ใช่นั้นจะกินน้ำแกงฟักหยกขาวสองคำนั้นลงไปหรือแต่ถึงอย่างไรก็ยังดีที่ฟู่จาวหนิงอยู่เสิ่นเสวียนคิดถึงสภาพของเสินหว่าน ก็อดเป็นห่วงขึ้นมาไม่ได้และไม่รู้ว่าเสิ่นเชี่ยวตอนนี้มีนิสัยเป็นอย่างไรหาตัวฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยวกลับมา สำหรับฟู่จาวหนิงแล้วเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายกันนะ?ถ้าหากพวกเขาตอนนี้ไม่อยู่ในความถูกต้อง หรือว่าบนมือเปื้อนเรื่องชั่วร้ายอะไรอยู่ล่ะ เช่นนั้นหาตัวพวกเขากลับมาจะไม่ใช่ยิ่งตกพันธนาการลงไปบนตัวฟู่จาวหนิงหรือ?เสิ่นเสวียนคิดๆ เอ่ยขึ้นอย่างหนักแน่น "หลังจากหาตัวฟู่หลินซื่อเจอ ให้คนของพวกเราอย่างเพิ่งเปิดเผยตัวตน ลองสังเกตดูสักสองสามวัน ดูพฤติกรรมของพวกเขา กลับมารายงานก่อนค่อยว่ากัน""ขอรับ"ฟู่จาวหนิงไปที่เรือนจิ้งชิวและคนอื่นๆ ในบ้านตระกูลเสิ่นพอได้รู้ได้ยินการเคลื่อนไหวของคืนนี้ พวกเขาจะเข้ามาสำรวจไหม แล้วจะจัดการอย่างไร นั่นเป็นเรื่องของเสิ่นเสวียนแล้วฟู่จาวหนิงแค่กำชับกับพวกไป๋หู่ ว่านางจะครองห้องไท่ไท่อาวุโสคืนนี้ ใครก็ห้ามเข้าใกล้เ
"องค์จักรพรรดิ ข้าน้อยเป็นคนจริงใจนะ"อันเหนียนคัดค้านอย่างตั้งใจมาคำหนึ่งเขาเป็นแผนการเยอะเสียที่ไหนกัน? แล้วข้ามีลิ้นเทพที่ว่านั่นที่ไหน?"ข้าน้อยเป็นขุนนางบุ๋น ไม่ใช่พวกคนวางแผน จะมากล่อมเรื่องแต่งงานได้อย่างไรกัน" อันเหนียนผายมือออกนี่เป็นสีหน้าที่แทบจะเป็นหมูตายไม่กลัวน้ำร้อนลวกอยู่แล้ว!องค์จักรพรรดิพอเห็นท่าทีนี้ก็ของขึ้น"เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อไหม? มีคนบอกกับข้ามา ว่าเจ้าน่ะ" องค์จักรพรรดิยื่นมมือมาชี้ๆ อันเหนียน เอ่ยต่อว่า "เจ้าน่ะในใจมีลูกคิดของตนเองอยู่ เจ้าอยากจะให้องค์หญิงหนานฉือหันมองเจ้า แล้วมาออกเรือนกับผู้ตรวจการอันอย่างเจ้าใช่ไหม?"อันเหนียนอยู่กับองค์หญิงหนานฉือตั้งนานสองนาน การคาดเดาเช่นนี้แน่นอนว่าต้องมีอยู่ไม่น้อยพวกเขาล้วนพูดกันว่าองค์หญิงหนานฉืออันที่จริงชอบคุณชายอยู่หลายคน แต่ทุกคนที่ชอบก็ถูกอันเหนียนปัดตกตลอด เขาจะต้องแอบพูดข้อแย่ๆ ของคนๆ นั้นกับองค์หญิงหนานฉือแน่ๆ ทำลายความคิดขององค์หญิงหนานฉือทิ้งดังนั้นตั้งนานขนาดนี้ องค์หญิงจึงยังไม่เลือกใครที่ถูกใจเสียทีความคิดของอันเหนียน ก็คือจะยกตนเองให้เจ้าหญิงพอเห็นทรัพย์สินขององค์หญิงหนานฉือ อันเหนียน
สำหรับแคว้นหนานฉือกู่ที่ส่งยาบดมาครั้งนี้ ถ้าเซียวหลันยวนบอกว่าไม่หวั่นไหวนั่นคือเรื่องโกหกขาของเขาดีขึ้นแล้ว เพียงแต่ยังแกล้งทำเพื่อตบตาคนภายนอกอยู่แต่ใบหน้าของเขายังไม่ดีมาตลอดแผลเป็นบนหน้านี้กลายเป็นอาการป่วยในจิตใจเขาแล้วช่วงนี้กลางดึกเขาชอบฝึนถึงแต่เงาของฟู่จาวหนิง เซียวหลันยวนด้านหนึ่งค่อยๆ เข้าใจจิตใจตนเองขึ้นมาแล้ว ส่วนอีกด้านก็สนใจเรื่องที่หน้าตาของพังยับของตนเองเขาไม่ออกจากบ้านมาตลอด วันวันอยู่แต่ในจวนอ๋องเจวี้ยน คนทั้งเมืองหลวงล้วนกำลังคาดเดาว่าใบหน้าของเขาพังย่อยยับไปหมดแล้วจริงไหมใบหน้าของอ๋องเจวี้ยน มาถึงระดับที่ไม่สามารถไปพบผู้คนได้แล้ว คนส่วนใหญ่ล้วนพูดกันเช่นนี้"ตรวจสอบต่อไป" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นชิงอีกังวลเล็กน้อย"ท่านอ๋อง ตรวจสอบคุณสมบัติหลักๆ ของยาบดนั่นหรือ?""ใช่""องค์หญิงหนานฉือยื้อเวลามาตั้งนานโดยไม่ยอมเลือกสามี นางคงไม่ได้อยากจะแต่งเข้าจวนอ๋องเจวี้ยนจริงๆ หรือกระมัง?"อันที่จริงพวกเขาเองก็คาดเดาไว้เช่นนี้เพราะองค์หญิงหนานฉือแอบส่งคนมานัดแล้วถึงสองรอบ แม้ว่าจะเป็นงานเลี้ยงส่วนรวมที่มีคนอื่นมาร่วมด้วย แต่องค์หญิงหนานฉือก็รู้ว่าอ๋องเจวี้ยนไม
มีใครกล้ารับองค์หญิงใหญ่เป็นภรรยาบ้าง?หรือก็คือ ต้าชื่อน่าจะมีคนไม่น้อยที่อยากจะรับ?"เรื่องนี้สำหรับต้าชื่อแล้ว ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก"เซียวหลันยวนกลอกตา "ในเมื่อเป็นเรื่องใหญ่ องค์จักรพรรดิต้าชื่อก็น่าจะแสดงท่าทีบ้างสิ?""ข้อมูลที่ต้าชื่อทางนั้นส่งเข้ามา บอกว่าตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงฤดูสารท องค์จักรพรรดิเตรียมจะเชิญทูตจากแคว้นต่างๆ มาร่วมงานเลี้ยงเทศกาลอวยพรสารทฤดู ขณะเดียวกันทุกคนก็จะได้พบกับองค์หญิงใหญ่ด้วย"เทศกาลอวยพรสารทฤดู เทศกาลสารทฤดูของต้าชื่อปกติแล้วจะจัดประมาณครึ่งเดือนเป็นเทศกาลที่ไว้อวยพรความอุดมสมบูรณ์ตลอดปี สถานที่ต่างๆ ก็มีประเพณีที่ต่างกัน แต่ในเมืองหลวงทางนั้นจะมีรายการเหมือนการชุมนุม ประชาชนกับพ่อค้าจากพื้นที่ต่างๆ สามารถนำสินค้ามาขายในเมืองหลวงได้ช่วงนี้ ดังนั้นช่วงเวลานี้เมืองหลวงจักรพรรดิต้าชื่อจึงคึกคักเป็นพิเศษอาหารเลิศรสนานาชนิด ของใช้ของเล่นของงามตา ของแปลกของสดใหม่ต่างๆ ทำเอาคนละลานตากันเลยทีเดียวช่วงสองปีนี้ เผ่าเล็กบางส่วนรอบๆ กับคนของแคว้นเองก็จะมาสนุกกัน"ปีนี้แคว้นเจาจะส่งใครไป?"เซียวหลันยวนเพิ่งจะถามไปคำหนึ่ง ตนเองก็ส่ายหัวขึ้นมาอีก "ไม่วา
องค์จักรพรรดิพอได้ยินปัญหานี้ ในสมองก็คิดถึงองค์หญิงหนานฉือขึ้นมาทันที"ตอนนี้วิธีที่เหมาะที่สุดไวที่สุด ก็คือให้องค์หญิงหนานฉือรั้งอ๋องเจวี้ยนไว้""องค์หญิงหนานฉือไม่ได้แสดงควาคิดที่อยากจะแต่งเข้าจวนอ๋องเจวี้ยนเลยนี่นา"นี่ทำให้พวกเขาคลั่งขึ้นมา และไม่รู้ว่าองค์หญิงหนานฉือคนนี้จะวุ่นวายไปถึงตอนไหน จะเลือกสามีเป็นคนแบบไหนกันแน่"องค์จักรพรรดิ ไม่เช่นนั้นเอาอย่างนี้" มีคนเสนอความคิดกับองค์จักรพรรดิ "ลองถามองค์หญิงหนานฉือดูว่าอยากไปเที่ยวที่ต้าชื่อไหม? ถ้าหากนางอยากจะไป ก็ให้อ๋องเจวี้ยนพานางไปสิ"องค์จักรพรรดิตกตะลึงใช้ความคิดนี้ได้ด้วยหรือ?"องค์จักรพรรดิท่านลองคิดดู แคว้นเจาจนถึงต้าชื่อระยะทางห่างไกลมาก อ๋องเจวี้ยนกับองค์หญิงหนานฉืออยู่ด้วยกันตลอดทาง ไม่ใช่ว่าจะเกิดความผูกพันขึ้นมาได้ง่ายหรอกหรือ? ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนเองก็ไม่ใช่ว่าไปต้าชื่อหรือ? ถ้าเห็นอ๋องเจวี้ยนกับองค์หญิงหนานฉือไปด้วยกัน เช่นนั่นมันจะไม่..."ขุนนางแอบหัวเราะอย่างชั่วร้าย นิ้วมือก็ทำท่าทางแยกออกจากกันคนข้างๆ เองก็เข้าใจขึ้นมาแล้ว ทยอยกันหัวเราะพวกเขาพูดถึงภาพฉากออกงานของอ๋องเจวี้ยนกับพระชายา
องค์จักรพรรดิโพล่งออกมา แต่ก็สังเกตได้ทันทีว่าตนเองไม่ควรพูดประโยคนี้ คำพูดนี้ตรงเกินไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขากำลังเดาว่าอ๋องเจวี้ยนจะมาแย่งชิงบัลลังก์อยู่ตลอดเวลาอย่างนั้นถ้าลือกันออกไป เขาคงได้ถูกประณามแน่ยังดีว่าตอนนี้ทั้งหมดเป็นคนสนิทของเขา พวกเขาเองก็รู้ว่าคำพูดเหล่านี้ห้ามลือออกไปเด็ดขาด กระทั่งแต่ละคนยังทำเป็นเหมือนองค์จักรพรรดิไม่ได้พูดเสียด้วยซ้ำ"อันที่จริงพวกเราเองก็ทำเพื่อช่วยอ๋องเจวี้ยน ถ้าเขาเอาแต่ซ่อน แล้วจะดึงหมอเทวดาที่เร้นตัวจากโลกได้อย่างไรกัน? ถ้ามีคนเห็นหน้าเขา แล้วลือกันออกไป ก็จะมีโอกาสให้หมอเทวดาที่จะมารักษาเขาได้ยิน ไม่แน่หมอเทวดาอาจจะเข้ามาก็ได้"นี่ต้องหน้าด้านไร้ยางอายแค่ไหน ถึงจะพูดคำพูดแบบนี้ออกมาได้แต่องค์จักรพรรดิพอได้ยินก็พยักหน้า "อ้ายชิงพูดถูก เช่นนั้นเรื่องนี้ก็ส่งให้พวกเจ้าแล้ว ไปคิดหาวิธีมา ลองดูว่าจะทำอย่างไรให้อ๋องเจวี้ยนเปิดเผยใบหน้าแท้จริงของตนเองต่อสาธารณชน!"องค์หญิงหนานฉือเองก็อยากเห็นใบหน้าแท้จริงของอ๋องเจวี้ยนเหมือนกัน"ส่งคนไปหาข่าวเรื่องของหมอผีแล้วหรือยัง?" องค์หญิงหนานฉืออยู่ในวัง มองอันเหนียนที่กำลังเสวนากับเหล่าคุณชายในสวนดอก