"ลากพวกเขาออกไป ตัดหัวทิ้งเสีย" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นเสียงเย็นเยียบ"ขอรับ"องครักษ์เงามังกรเดินไปยังหวางต้าหลางกับฮูหยินเริ่นทันทีพวกเขาตกใจจนพับลงไปบนพื้นทันที"ไม่ ไม่ ฮองเฮาโปรดละเว้นด้วย!""องค์จักรพรรดิ องค์จักรพรรดิ เห็นแก่สิ่งที่พ่อข้าทำให้แคว้นเจาด้วย..."คำพูดของหวางต้าหลางยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกองครักษ์เงามังกรใช้มือฟันจนสลบไปแล้ว ทั้งสองคนถูกลากออกไป ต่อหน้าคนทั้งตำหนัก ลากออกไปทั้งอย่างนั้นเลยแม้ฉากที่พวกเขาถูกตัดหัว คนเหล่านี้คงไม่ได้เห็นด้วยตนเอง แต่พวกเขาก็ยืนยันได้ ว่าอ๋องเจวี้ยนพูดได้ทำได้ สองคนนั้นไม่รอดแล้วแน่นอนพวกเขานิ่งเงียบเป็นเป่าสากอ๋องเจวี้ยนน่ากลัวเหลือเกิน อย่าได้ไปยั่วโมโหเชียวแล้วก็พระชายาอ๋องเจวี้ยนด้วย ตอนนี้เคยกลัวสถานการณ์เคยกลัวใครที่ไหน? สองสามีภรรยานี้ กำเริบเสิบสานมากจริงๆองค์หญิงหนานฉือเองก็รู้สึกสนใจตัวอ๋องเจวี้ยนมากโดยไม่สนใจสีหน้าเขียวปั๊ดขององค์จักรพรรดิและฮองเฮา นางเอ่ยกับอ๋องเจวี้ยนขึ้นว่า "อ๋องเจวี้ยน ข้าชอบนิสัยของท่าน ตรงไปตรงมาดี! ข้าแต่งเข้ากับจวนอ๋องเจวี้ยนดีไหม?"อันเหนียนพอได้ยินคำนี้ ใจก็เต้นผางขึ้นมา มองไปทางฟู่จาว
"เมื่อเป็นเช่นนี้ อ๋องเจวี้ยนก็โชคดีสุดๆ เลย มีพระชายาที่งดงามขนาดนี้สองคนอยู่ด้วยกัน ประกบซ้ายขวา มีชีวิตที่มีความสุขเหลือเกิน""องค์หญิงหนานฉือเองก็ไม่เลว ใจกว้างได้เหมาะสม""หาได้ยากที่คนอย่างนางซึ่งเป็นเจ้าหญิง จะยอมดีกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนก่อน หลังจากนี้ก็ไม่ต้องมีความยุ่งยากอย่างเรื่องหึงหวงแล้ว"คนไม่น้อยล้วนอิจฉาต่อตัวอ๋องเจวี้ยนอย่างมากและมีหญิงสาวรุ้สึกว่าฟู่จาวหนิงก็น่าจะรู้สึกโชคดีด้วยอ๋องเจวี้ยนในฐานะที่เป็นอ๋องคนหนึ่ง เรือนหลังไม่มีทางที่จะมีผู้หญิงเพียงคนเดียว ตอนนี้มีองค์หญิงมาคนหนึ่ง ดีจะตายไปฟู่จาวหนิงมาจากตระกูลเล็กครอบครัวเล็ก ลูกสาวของตระกูลยากจนที่พ่อแม่เป็นตายร้ายดีก็ยังไม่รู้ ได้มารับใช้ปรนนิบัติสามีคนเดียวกับองค์หญิงแคว้นหนึ่ง นี่ถือว่าเป็นเกียรติกับนางมากแล้วฟู่จาวหนิงมองเซียวหลันยวนสถานการณ์นี้ พวกเขาแม้จะไม่คิดมาก่อนก็ตาม แต่ก็น่าจะมีเตรียมใจไว้บ้างแล้ว"อายวน" องค์จักรพรรดิกดดันทันที "องค์หญิงหนานฉือเป็นองค์หญิงจากแคว้นหนึ่ง เป็นหญิงสาว นางเอ่ยขึ้นมาเช่นนี้แล้ว พวกเราในฐานะที่เป็นชาย จะทำให้อีกฝ่ายต้องผิดหวังไม่ได้นะ"ฮองเฮาเองก็เลิกคิ้วยิ้ม เ
เซียวหลันยวนยืนขึ้นเพียงครู่เดียวเท่านั้น แค่ชั่วกระพริบตาก็นั่งลงมาแล้วคนทั้งหมดคิดถึงตอนที่เข้าถูกยกเข้าวังมา ตอนนี้ยังเห็นว่าแค่ยืนก็ยังยืนแทบไม่ไหว ขานั่นพิการไปแล้วจริงหรือ?ฟู่จาวหนิงกุมหน้าผากเซียวหลันยวนยังกุมมือของนางอยู่ ยังพูดกับนางอย่างรู้สึกต้องรับผิดชอบว่า "หนิงหนิง ทำให้เจ้าต้องน้อยใจแล้วแท้ๆ"ฟู่จาวหนิงกัดฟัน กดเสียงต่ำ "เซียวหลันยวนพอได้แล้วนะ พูดอีกเดี๋ยวจะโกรธแล้ว"ทักษะแสดงนี่ก็ไม่รู้จักเก็บเอาไว้หน่อย!องค์หญิงหนานฉือได้สติกลับมานางมองอย่างไม่อยากเชื่อไปทางอันเหนียน ถึงอย่างไรนอกจากสามีภรรยาอ๋องเจวี้ยน ตอนนี้ก็มีแค่อันเหนียนที่พูดภาษาหนานฉือกับนางได้"ผู้ตรวจการชิง ที่อ๋องเจวี้ยนพูดมานี่เรื่องจริงหรือ?"ในสมองอันเหนียนเหมือนมีม้าวิ่งตะบึง แต่บนหน้าเขาก็ยังไม่แสดงสีหน้าใด"องค์หญิง อ๋องเจวี้ยนของพวกเรามีสุขภาพอ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก ท่านเองก็รู้ เขาเองก็คอยรักษาตัวอยู่ที่ยอดเขาโยวชิงมาโดยตลอด ปีที่แล้วเพิ่งจะกลับมาเมืองหลวง"ส่วนที่ว่าร่างกายไหวหรือไม่ไหว ขอโทษด้วย เขาไม่รู้!องค์หญิงหนานฉือปิดปากร้องอุทานออกมาหลังจากนั้นนางก็มองอ๋องเจวี้ยนอย่างเห็นใจ
"เจ้าเป็นอะไรไป? ไม่ใช่บอกว่าวิชาแพทย์ดีมากหรอกหรือ? รักษาอายวนมาตั้งนาน ทำไมเขากลับอาการหนักขึ้นล่ะ?"เขาตำหนิฟู่จาวหนิงหน้าแข็งหลังจากนั้นพอเห็นฟู่จาวหนิงก็รู้สึกประหม่าขึ้นในพริบตานางหลบสายตา ไม่กล้าสบตาตรงๆ กับเขาองค์จักรพรรดิอดสงสัยไม่ได้ ฟู่จาวหนิงคงไม่ได้ไม่ตั้งใจรักษาเซียวหลันยวนหรอกกระมัง? ถึงอย่างไรตอนนั้นแม่ของนางก็เป็นผู้ต้องสงสัยที่วางยาพิษเซียวหลันยวนนี่ พวกเขาสองคนยังถือว่าเป็นศัตรูกันอยู่"องค์จักรพรรดิ อาการป่วยนี้ของเซียวหลันยวนรักษายากมาก ร่างกายของเขาแต่ละด้านล้วนอ่อนแอและเจ็บหนัก ตอนนี้ข้าเองก็กำลังอยู่ในขั้นตอนการคลำทางรักษาอยู่ ดังนั้นบางครั้งจึงต้องทดลองยาหลายชนิดอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถึงอย่างไรก็ยังไม่มีตัวอย่างโรคให้อ้างอิงได้เลย"สายตาของฟู่จาวหนิงหลบไปแวบเดียวเท่านั้น กลับมาขึงขังตั้งใจอธิบายขึ้นทันทีองค์จักรพรรดิรู้สึกว่าคำอธิบายของนางฟังแล้วเหมือนเป็นเรื่องจริง"เจ้าพูดมาก็ถูก แต่อายวนเป็นน้องชายข้า และเป็นอ๋องที่สำคัญยิ่งของแคว้นเจา เจ้าต้องระมัดระวังหน่อย และต้องรอบคอบขึ้นอีกหน่อย รักษาให้ดี ต้องรักษาเขาให้ได้!"องค์จักรพรรดิ ตอนนี้พยายามจะแสดงค
ถ้าเผื่อเป็นแผนร้ายล่ะ?ฟู่จาวหนิงเป็นหมอเทวดานะ ถ้าจะลงไม้ลงมืออะไรสักหน่อยก็น่าจะง่ายไหม?"องค์จักรพรรดิถ้าหากจะดูล่ะก็ ข้าตอนนี้จะเปิดผ้าบนหน้าของเขาออก?" ฟู่จาวหนิงทำท่าเหมือนจะขยับมือองค์จักรพรรดิตกใจถอยออกไปหลายก้าว"ไม่ต้องไม่ต้อง!"เขารู้สึกว่าตนเองเหมือนจะมีปฏิกิริยามากเกินไป จึงรีบเสริมขึ้นมาคำหนึ่ง "ความหมายของข้าคือพวกเจ้าเข้าวังมาก็ไม่ได้พกยาอะไรมาด้วย ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ถ้าเปิดแผลออกมา หน้าของอายวนอาจจะไม่ปลอดภัย เจ้าเองก็ยังต้องมานั่งพันยาให้เขาใหม่อีก มันยุ่งยากเกินไป""โอ้ องค์จักรพรรดิพูดมาก็ถูกต้อง""คืนนี้เจ้ากับอายวนก็พักอยู่ในวังแล้วกัน คนในวังเองก็จัดการตำหนักบรรทมไว้แล้วด้วย หลังจากพวกเจ้าไปพบไทเฮาแล้วก็รีบไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้พวกเราค่อยคุยกันใหม่"องค์จักรพรรดิก่อนหน้านี้ให้คนมาสั่งการด้วยวาจากับพวกเขาแล้ว หลังจากงานเลี้ยงวันนี้ให้พวกเขาพักในวัง จะได้ไม่ต้องลำบากเดินทางเซียวหลันยวนกับฟู่จาวหนิงเองก็เข้าใจ นี่น่าจะเป็นเพราะองค์จักรพรรดิอยากจะดึงเวลาไว้ เพื่อถามถึงสิ่งของที่ไท่ซ่างหวงทิ้งให้เขาพวกเขาเองก็ไม่ปฏิเสธต้องให้โอกาสกับองค์จักรพรรดิบ้าง ไ
เซียวหลันยวนเหลือบมองฟู่จาวหนิงเรื่องนี้ถ้าให้นางที่เป็นหมอมาพูดก็ยังดูมีน้ำหนักหน่อยฟู่จาวหนิงจึงทำได้แค่เล่าเรื่องที่พูดกับจักรพรรดิออกไปอีกรอบหนึ่งไทเฮาน้ำตาร่วงลงมาเสียแล้ว"เรื่องนี้เจ้าลำบากเสียแล้ว อายวน""ไม่เป็นไร" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นเสียงเรียบฟู่จาวหนิงมองมองไทเฮาตอนนี้มองออกแล้วว่าไทเฮาเป็นห่วงเซียวหลันยวนจริงๆ แต่ก่อนหน้านี้ไม่ใช่เช่นนี้นี่นาไทเฮาเห็นเซียวหลันยวนเย็นชากับตนเองขนาดนี้ ในใจก็รู้สึกเสียใจอยู่"จาวหนิง สิ่งนี้รักษาได้ไหม?"ฟู่จาวหนิงคิดคิด คิดจะเอาเรื่องที่ตนเองอีกไม่กี่วันจะออกจากเมืองหลวงบอกกับไท่เฮาพอดี เซียวหลันยวนเองอาจจะต้องให้ไทเฮาคอยปกป้อง แต่ถ้าหากมีใครมาพูดอะไรถึงนาง หรือว่ามีข่าวลืออะไรขึ้นมา ไม่แน่ว่าไทเฮาอาจจะสามารถออกโรงได้ถึงอย่างไรเขาตอนนี้ก็รู้สึกว่าไทเฮาเหมือนจะกังวลเซียวหลันยวนจริงๆนางมองคนแม่นอยู่ ลางสังหรณ์เองก็แม่นด้วย"พูดความจริงนี่ยากอยู่" ฟู่จาวหนิงประโยคนี้พูดออกมาจริงๆตัวนางตอนนี้ไม่ค่อยจะมั่นใจนัก พูดได้แค่ว่ามีความหวังอยู่ห้าหกส่วนเท่านั้น ยังต้องออกไปหาวัตถุดิบยาอีก ลองดูว่าจะหาเอ็นมังกรหยกเจอหรือไม่ หลังจา
"ใช่แล้ว ข้าจะไปหายา ยิ่งไปกว่านั้นอาจารย์ของข้ายังไปหายาอีกที่หนึ่งด้วย ข้าได้ยินว่าทางนั้นเจอกับยาดีดีมากมาย ข้าต้องไปหาเขาเสียหน่อย ถ้าสามารถหายาที่มีประโยชนืกับการฟื้นฟูผิวหนังได้ หลังจากนี้ก็อาจจะรักษาหน้าตาของอายวนจนสมบูรณ์ได้ก็เป็นได้""นั่น เช่นนั้นก็ต้องไป สมควรไปน่ะสิ""เพียงแต่ไปครั้งนี้คงไม่ได้กลับมาเร็วนัก""เจ้าไปเถอะ อายวนทางนี้ ข้าจะคอยดูแลให้ แต่ว่า เขาตอนนี้เป็นเช่นนี้ เจ้าเองก็ไม่อยู่ในเมืองหลวงด้วย มันจะ..."มีอันตรายไหม?ถ้าเผื่อมีเรื่องอะไรขึ้นมา ฟู่จาวหนิงไม่อยู่ ใครจะควบคุมสุขภาพของเขาได้?"จะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นชั่วคราว"ขอแค่เขาคอยอาบน้ำยาให้ดี ไม่กระตุ้นวิชายุทธ์ อย่าเอาร่างกายไปทำเรื่องนั่นเรื่องนี่ คอยพักฟื้นดีดีก็พอแล้วไทเฮาจะน้อยจะมากก็ยังวางใจไม่ลง"บางที ถ้าลองให้คนอื่นออกไปหายา?" นางลองถามหยั่งเชิง"มีใครจะรู้จักยาดีกว่าข้าหรือ?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นอย่างไม่เกรงใจ "ยิ่งไปกว่านั้นข้ายังรู้อาการป่วยของอายวนดีที่สุดด้วย รู้ว่ายาไหนเหมาะกับเขาที่สุด เป็นสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุด เรื่องนี้ต้องเป็นตอนที่เจอยาเท่านั้นจึงจะรู้ ตอนนี้เองยังนึกไม่ออก ถ
หลังจากฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนออกไปแล้ว นางเองก็ยังถามเกี่ยวกับเรื่องนี้"นางอยากจะทำอย่างไรก็เป็นเรื่องของนาง"เซียวหลันยวนพูดมาประโยคหนึ่ง เขาไม่ค่อยสนใจว่าท่าทีของไทเฮาต่อตัวเขาจะเปลี่ยนหรือไม่"ข้ากลับรู้สึกว่านางตอนนี้ดูจริงใจมาก คิดว่าไทเฮาก่อนหน้านี้คงจะจงใจทำเช่นนั้น ให้ดูเหมือนใจเดียวกับองค์จักรพรรดิฮองเฮา เช่นนี้อาจสามารถทำให้นางไม่รู้สึกโดดเดี่ยว ทำให้องค์จักรพรรดิไม่รู้สึกเกรงกลัวท่านมากนัก ทำให้เขารู้สึกอดกลั้นกับท่านในตอนเด็กๆ ได้"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าเรื่องราวน่าจะเป็นเช่นนี้ถึงอย่างไรไทเฮาเองก็เป็นหญิงสาวที่พยายามปีนป่ายในวังหลังมากว่าครึ่งชีวิต หญิงสาวของที่นี่ก็น่าจะไม่ใช่คนธรรมดาเซียวหลันยวนตอนเด็กๆ ในมือก็มีสิ่งของอยู่มากมาย แล้วร่างกายก็ยังอ่อนแออีก ถ้าหากเบื้องหลังไม่มีคนคอยปกป้อง ก็ไม่น่าจะรอดมาจนถึงปัจจุบันรอจนเขารู้ความจนตนเองสามารถวางแผนการอย่างหลักแหลมได้ นั่นเป็นเรื่องในภายหลังแล้วตอนที่เขายังเด็กมากล่ะ?เซียวหลันยวนไม่พูดอะไรฟู่จาวหนิงเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง "ไทเฮามีอาการปวดหัวอยู่ เมื่อครู่ข้ามองนาง เปลือกตาใต้ตาคล้ำเทาไปหน่อย ตอนแรกข้าพิจารณา
จากนั้นนางก็ร้อนรนขึ้นมา รีบพลิกค้นของด้านใน แต่ไม่ว่าจะพลิกอย่างไร กล่องใบนั้นก็หายไปแล้ว!พอเห็นท่าทางของเฉินเซียง องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็หน้าเปลี่ยนสีทันที"มีอะไรหรือ?""ของหายไปแล้วเจ้าค่ะ!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลุกพรวดขึ้นมา เดินโซซัดโซเซเข้าไป และรื้อคนพลิกหาด้วยเช่นกัน"หายไปได้อย่างไรกัน? ข้าเห็นเจ้าเอามาใส่ในกล่องนี้แล้วแท้ๆ!""นั่นสิ ข้าน้อยวางมันไว้ในนี้จริงๆ แล้วยังลงกลอนไว้อีก หลังจากลงกลอนแล้วก็ไม่ได้เปิดออกอีกเลย แล้วมันหายไปได้อย่างไรกัน?"เมื่อครู่นางเองก็หยิบกุญแจปิ่นปักผมออกมาเปิดกลอน ไม่มีร่องรอยถูกแตะต้องเลย!"รีบหาดูให้ทั่ว"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลนลานมาก สิ่งของไม่ใช่แค่นางต้องการนำไปเจรจาเงื่อนไขเท่านั้น แต่สำหรับอ๋องเจวี้ยนแล้วยังสำคัญมากอีกด้วย ถ้าหากมาหายในมือนาง แล้วอ๋องเจวี้ยนรู้เข้าภายหลัง แล้วนางจะทำอย่างไรกัน?นายบ่าวทั้งสองรื้อค้นในห้องกันเลเเทะ ค้นหาทุกซอกทุกมุม แต่ก็หาไม่พบ"จะต้องถูกหมอเทวดาฟู่เอาไปแล้วแน่ นางเคยเข้ามาในห้องพวกเรา" เฉินเซียงร้องขึ้นมา "ที่นี่มีแต่คนของนาง คนเหล่านั้นล้วนช่วยเหลือนาง ตอนที่พวกเรากลับมาจะต้องถูกคนเห็นแล้วแน่..."
"เฉินเซียง ข้าจะทำอย่างไรดี?"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นทำได้เพียงงึมงำถามเฉินเซียง ท่านทีของอ๋องเจวี้ยน กับความเย็นชาของฟู่จาวหนิง เส้นทางที่จะเข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยนก็ผ่านไปไม่ได้แล้วนางทำมาถึงจุดนนี้แล้ว จะให้ต้องตกต่ำลงไปอีกนั้นมันก็มากเกินไปยิ่งไปกว่านั้นต่อให้นางจะตกต่ำเรี่ยดิน อ๋องเจวี้ยนเองก็ไม่แน่ว่าจะหวั่นไหว เขามันไร้อารมณ์เกินไปเฉินเซียงนั่งอยู่บนเกาอี้ งอตัวค้อมลงมา ที่โดนฟู่จาวหนิงเตะไปเมื่อครู่ นางรู้สึกว่าตนเองตอนนี้ไม่ดีขึ้นได้เลย ความเจ็บปวดบนร่างกาย ทำให้ในใจนางยิ่งรู้สึกชิงชัง"องค์หญิงใหญ่ ในเมื่ออ๋องเจวี้ยนไร้ความรู้สึกเช่นนี้ เช่นนั้นพวกเราก็ปล่อยวางเถิด จากที่ข้าน้อยเห็น บางทีอ๋องเจวี้ยนในแคว้นเจาก็เหมือนจะปกป้องตัวเองลำบากอยู่ จักรพรรดิแคว้นเจาคิดจะเล่นงานเขาตลอดเวลา ดังนั้นเขาจึงไม่กล้ารับปาก เพราะเดิมทีเขาก็ไม่มีฝีมืออยู่แล้ว!"เฉินเซียงรู้สึกว่าตอนนี้พูดแย่ๆ กับอ๋องเจวี้ยนแล้ว ยังทำให้ตนเองรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย"ขนาดเขาตอนนี้ยังไม่กล้าปลดหน้ากากลงเลย น่าจะเพราะใบหน้าของเขามันพังยับจนไม่เหลือสภาพแล้วจริงๆ ไม่กล้าจะให้องค์หญิงใหญ่เห็น เขารู้สึกด้อยค่า ใช่แล้ว
หยวนอี้เข้าใจความหมายของนางขึ้นมาทันทีเขาไม่มีตกตะลึงเลยแม้แต่น้อยแม้ฟู่จาวหนิงจะยังสวมหน้ากาก โผล่มาเพียงตาคู่เดียว แต่เขาก็ยังรู้สึกว่านางมีแรงมาก"ข้าเป็นลูกมือให้ท่านได้จริงๆ นะ ที่นี่ไม่ใช่ว่าขาดกำลังคนอย่างหนักอยู่หรือ?"หยวนอี้ยังอยากจะเสนอตัวเองอยู่"ข้าทำนาได้ปลูกต้นไม้ได้ แล้วก็มีพละกำลัง แต่ไม่ใช่แบบพวกคนไร้ความสามารถนะ พวกงานที่ต้องใช้แรงให้ข้าจัดการได้เลย ในเมื่อที่นี่ขาดคน เช่นนั้นมีคนตัวใหญ่อย่างข้าที่นี่ ไม่ใช้ก็น่าเสียดายนะจริงไหม?""ไม่กล้ารบกวนท่านทูตจากแคว้นหมิ่นหรอก" ฟู่จาวหนิงพูดจบก็หมุนตัวเข้าเรือนไปไป๋หู่ขวางหยวนอี้ไว้ เขาเองก็เข้าไปไม่ได้ ทำได้แค่มองแผ่นหลังของฟู่จาวหนิงอย่างเสียดาย ถอนหายใจออกมา"คุณชายหยวนถ้าหากพุ่งเป้ามาหาจาวหนิงจริง เช่นนั้นก็ล้มเลิกความคิดเสียเถอะ" ฟู่จิ้นเชินเอ่ยขึ้น"คุณชายฟู่ เรื่องนี้ก็น่าจะพูดกับท่านได้กระมัง? อันที่จริงสำหรับพระชายาอ๋องเจวี้ยนแล้ว ก็อาจจะเป็นเรื่องดีด้วยก็ได้""เป็นเจตนาของแคว้นหมิ่น หรือว่าของตัวท่านเองกันล่ะ?""ตอนแรกก็เป็นของตัวข้าเอง แต่ข้าก็กล่อมจักรพรรดิแคว้นของพวกเราไปแล้ว เขาเองก็ฟังเสียงของข้าอ
"ขอบคุณที่ชม"ฟู่จาวหนิงถามกลับอย่างมั่นคง ไม่ได้มีอารมณ์รู้สึกรู้สาอะไรกับคำชมประโยคนี้ของเขาเลย กระทั่งไม่มีอาการตกตะลึงอีกด้วยนี่ทำให้หยวนอี้รู้สึกเกินคาดขึ้นมาเขายังคิดว่าจะทำให้อารมณ์ของฟู่จาวหนิงเปลี่ยนแปลงได้บ้างภายใต้สถานการณ์ที่ตกตะลึงนี้ คิดว่านางจะพูดอะไรออกมาสักประโยคหนึ่งแล้วทำให้เขาเข้าใจความคิดของนางได้อย่างชัดเจนคิดไม่ถึงว่าเขาที่ทำตัวประหลาดออกมา แต่นางกลับนิ่งแบบนี้"ดูท่าหมอฟู่จะได้ยินคำชมมาจนชินแล้วสินะ" หยวนอี้เอ่ยขึ้นฟู่จาวหนิงเองก็ไม่ได้ตอบประโยคนี้ของเขา แต่กลับพิจารณาเขาทั้งตัวหยวนอี้ถูกนางมองจนยืดอกขึ้นด้วยสัญชาตญาณ ยืนตรงแน่วขึ้นมา"ท่านชื่อหยวนอี้ใช่ไหม?" ฟู่จาวหนิงถาม"ขอรับ""ลูกชายหยวนกังทูตแคว้นหมิ่น หยวนอี้ที่ตอนนี้ควรจะคอยสอนขุนนางเกษตรเพาะปลุกอยู่ในเมืองหลวงนั่นน่ะนะ?" ฟู่จาวหนิงพูดออกมาอย่างชัดถ้อยทุกคำหยวนอี้นิ้งค้างไปไม่ใช่สิ นางรู้จักเขาด้วยหรือ?เขาเองก็เลี่ยงพวกหมอหลวงที่รู้จักเขาแล้ว แทบจะพูดได้ว่าซ่อนตัวทั้งคืนเลยทีเดียว ตอนที่เข้ามาก็หลบเลี่ยงคนจากเมืองหลวงที่รู้จักเขาพวกนั้น เตรียมคำพูดเอาไว้เยอะมาก คิดว่าจะพูดอะไรกับฟู่จ
หยวนอี้ตอนที่เข้ามาก็เห็นกับภาพที่ 'สับสนอลหม่าน' นี้เขาประกายตาแล่นวาบ กำลังจะเข้าไปในประตูวงกลม ไป๋หู่ก็หมุนตัวมามองเขา "ช้าก่อน"หยวนอี้โบกไม้โบกมือ "สหายไป๋หู่""อย่าเข้าใกล้นัก เหมือนข้าเคยบอกท่านไว้แล้ว ที่นี่ท่านห้ามเข้าไป" ไป๋หู่เอ่ยขึ้นฟู่จิ้นเชินออกมาจัดการความวุ่นวายนี้ ให้ป้าหนิวป้าหลี่มาช่วยประคององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเข้าไปในห้องเฉินเซียงกลับไม่มีใครสนใจ"พวกเจ้ารังแกกันเกินไปแล้ว..."เฉินเซียงดิ้นรนอยู่พักหนึ่งถึงลุกขึ้นมาได้ นางรู้สึกว่าอวัยวะภายในตนเองปวดร้าวไปหมดเท้าของฟู่จาวหนิงแรงหนักขนาดนี้เชียว!นางไม่เป็นวรยุทธ์เลยจริงหรือ?แต่ว่าฟู่จาวหนิงทำไมถึงกล้า กล้าเตะนางขนาดนี้!สายตาของหยวนอี้เก็บกลับมาจากตัวองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ถูกประคองเข้าห้อง หันไปตกอยู่บนตัวเฉินเซ๊ยงแทน ใต้ตาเกิดความสนใจขึ้นมา"แม่นางไปยั่วหมอฟู่อย่างไรกันเนี่ย?"ฟู่จาวหนิงมองเขา ถามไป๋หู่ว่า "นี่ใครหรือ?""บอกว่าชื่อหยวนอี้ ติดตามหมอหลวงคนหนึ่งเข้ามา อยากจะมาช่วยเหลือที่เมืองเจ้อขอรับ" ไป๋หู่บอกกับฟู่จาวหนิงฟู่จิ้นเชินเดินมาอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง กดเสียงลงต่ำ "รู้สึกเหมือนเขาน่าสงสัย
เซียวหลันยวนหมุนตัวจากไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองแผ่นเหลังเขา จะอย่างไรก็ตั้งสติกลับมาไม่ได้เฉินเซียงเห็นว่าการสนทนาขององค์หญิงใหญ่พังทลายลงแล้ว สีหน้าก็ลนลานขึ้นมา รีบลุกขึ้นมาไล่ตามเซียวหลันยวนไป"อ๋องเจวี้ยน! ท่านทำเช่นนี้ไม่ได้!" หมอเทวดาฟู่วางยาอะไรใส่ท่านใช่ไหม ท่านทำไมถึงได้ใจดำขนาดนี้?นางยังไม่ทันพุ่งออกจากประตูวงกลม ก็ถูกไป๋หู่ฟาดกลับมาไป๋หู่ยังใช้แค่กำลังภายในด้วย แต่ห้ามไม่ให้นางออกไป ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายนางแต่เฉินเซียงก็ทรุดตัวลงบนพื้น แค่รู้สึกว่าเจ็บเข่าเจ็บก้น มือก็เจ็บ หัวก็ปวดไปหมดนางร้องไห้ออกมา "พวกเจ้าจะมารังแกองค์หญิงใหญ่ของพวกเราแบบนี้ไม่ได้ นางเป็นองค์หญิงใหญ่ที่มีโชคมากที่สุดในต้าชื่อนะ"เซียวหลันยวนเดินไปไกลแล้ว ไม่หันหลังกลับมาไป๋หู่ยืนอยู่ที่ประตูวงกลม มององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่นั่งเหม่อลอยอยู่บนพื้น เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ "องค์หญิงใหญ่กลับห้องไปเถิด"จะว่าไปเขาเองก็เป็นคนต้าชื่อเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินเรื่ององค์หญิงใหญ่มามากตอนนี้พอเห็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกต่ำจนน้ำตานองหน้า เขาก็รู้สึกซับซ้อนขึ้นมาหน่อยๆแต่ว่า องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ
หญิงสาวที่น่าสงสาร ตอนเด็กๆ เขาเห็นในวังหลังมาแล้วไม่น้อย มีภูมิคุ้มกันไปนานแล้ว"ข้าไม่ได้จะแย่งชิงอะไรกับหมอเทวดาฟู่ ถ้าเราแต่งกันหลอกๆ ได้ไหม? ข้าแค่ต้องการหาที่ไปเท่านั้น แค่อยากให้ท่านคอยปกป้องข้าไม่กี่ปี ถ้าห้าปีไม่ได้ล่ะก็ สามปีก็พอ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเห็นเซียวหลันยวนไม่พูดจา จึงหดเวลาลงมาอีก"สามปีนี้ ข้าแค่แบกชื่อพระชายารองไว้ในนามเท่านั้น พออยู่ภายนอกก็ขอให้ท่านอ๋องเล่นละครกับข้าหน่อย แสร้งเป็นสามีภรรยา สามารถปกป้องข้าได้ ในจวนอ๋อง ข้ารับรองว่าจะทำตามหน้าที่ตนเอง เลี่ยงท่านอ๋องให้ห่าง ไม่คิดอะไรเกินเลย""เป็นถึงองค์หญิงใหญ่ต้าชื่อ แต่คิดจะเอาตัวเองไปไว้ในจุดต่ำตมหรือ?" เซียวหลันยวนถาม"อ๋องเจวี้ยนโปรดเมตตา"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นน้ำตาไหลพราก "ข้าไม่มีทางเลือกแล้ว ข้าเอาของให้ท่านได้ ยิ่งไปกว่านั้น โชคของข้าก็ดีมาโดยตลอด ถ้าเป็นพระชายารองอ๋องเจวี้ยนในนาม จะต้องช่วยเหลือท่านอ๋องได้แน่ ไม่ว่าท่านอ๋องจะทำอะไร ก็จะยิ่งราบรื่น ผลลัพธ์สมปรารถนา""องค์หญิงใหญ่มั่นใจกับโชคของตนเองขนาดนี้เชียว?" เซียวหลันยวนได้ยินคำนี้ก็อดนึกขันขึ้นมาไม่ได้"โชคจุดนี้ข้ามีอยู่ ท่านเองก็เชื่อข้าได
เซียวหลันยวนมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นและไม่รู้ว่านางทำไมถึงพูดว่า 'เขาเอามาเองไม่ได้' ออกมา"แล้วของนั่นมันคืออะไรกัน?" เขาถามขึ้นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลนลานขึ้นมานางรู้ที่ไหนว่าสิ่งนั้นคืออะไร? มันคือกล่องที่เปิดไม่ได้ แล้วก็มองไม่เห็นว่าด้านในมีอะไรนี่นา?"ตอนนี้ข้ายังบอกท่านไม่ได้ แต่สำคัญกับท่านมากแน่นอน""เจ้าไม่บอกว่าคืออะไร แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรว่ามันจริงหรือไม่จริง? จะว่าไป เจ้าบอกว่าเจ้าฝันเห็นอนาคตได้ นี่มันก็ดูเหลวไหลเกินไปนะ ข้าควรจะเชื่อเรื่องนี้ด้วยไหม?""เรื่องจริงนะ เพราะข้าฝันเห็นแบบนั้น ตอนเด็กๆ ได้พบกับเจ้าอารามยอดเขาโยวชิง เขาบอกว่า ข้าเป็นตัวเลือกที่เหมาะจะเป็นพระชายาของท่านมาก! แล้วยังชี้แนะข้า ให้ข้าเติบโตอย่างดีในสุสานจักรพรรดิ ถ้ายังไม่ถึงเวลาสำคัญอย่าเพิ่งกลับเมืองหลวง"เซียวหลันยวนก็เชื่อคำพูดของนางอยู่ เจ้าอารามยอดเขาโยวชิงอาจจะพูดเหล่านี้กับนางก็ได้ยิ่งไปกว่านั้น ท่านหูที่คุยถ่ายทอดคำพูดเจ้าอารามมาตลอดก็พูดอะไรทำนองนี้แต่เขาไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตนี้ต้องไปผูกอยู่บนตัวหญิงสาวคนหนึ่งเลยบางทีอาจจะได้ แต่คนคนนั้นก็อาจจะไม่ใช่คนที่เขากำหนด อย่างจาวหนิง
นางอยากจะให้เซียวหลันยวนไม่พอใจตัวฟู่จาวหนิงเสียเหลือเกินแต่พอสิ้นเสียงนาง เซียวหลันยวนก็หันมามองนาง แม้จะสวมหน้ากากอยู่ แต่เฉินเซียงจู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่านางถูกสายตาที่เย็นเยียบแหลมคนฆ่าตายไปแล้วนางใจสั่นวาบ จู่ๆ ก็รู้สึกเสียใจกับคำพูดเมื่อครู่ที่พูดไป แต่ก็สายไปแล้วนางได้ยินคำพูดเย็นชาของเซียวหลันยวนว่า"องค์หญิงใหญ่ถ้าหากมีเรื่องจะคุยกับข้า ก็ให้ทาสของเจ้าไปคุกเข่าอยู่ตรงนั้นก่อน"เซียวหลันยวนชี้ไปที่กลางสวนคุกเข่าที่นั่น คนป่วยทั้งหมดในห้องข้างฝั่งตะวันตกจะมองเห็นเฉินเซียงถลึงตาโตใส่อย่างไม่อยากเชื่อ"อ๋องเจวี้ยน" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกตะลึงไป "เฉินเซียงก็แค่ปกป้องข้ามากเกินไปเท่านั้น นางไม่ได้มีความคิดไม่ดี...""ให้นางคุกเข่า ข้าถึงจะฟังเจ้าพูด ถ้านางไม่ทำ ข้าก็จะไปแล้ว" เซียวหลันยวนตัดบทนางเฉินเซียงบอกว่าฟู่จาวหนิงแอบมีชู้กับอันเหนียน เขาจดจำมาโดยตลอด"อ๋องเจวี้ยน เฉินเซียงนางเองก็ป่วย ถ้าไปตากลมหนาวบนพื้น นางจะ...""เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว"เซียวหลันยวนพูดจบก็หมุนตัวกลับทันทีเฉินเซียงลนลานขึ้นมา "อ๋องเจวี้ยน ข้าจะไปคุกเข่าเดี๋ยวนี้! ท่านโปรดรอก่อน!""เฉินเ