"องค์หญิงหนานฉือบอกว่า นางรังเกียจหญิงสาวสับปลับหน้าเนื้อใจเสืออย่างพระชายาอ๋องเจวี้ยนมาก" หวางต้าหลางเอ่ยขึ้นองค์จักรพรรดิมองไปทางผู้ตรวจการอัน "อันอ้ายชิง ความหมายเป็นเช่นนั้นหรือ?"อันเหนียนพยักหน้า สีหน้าเย็นชาลงมาอันชิงแทบจะลุกขึ้นยืนไร้สาระ องค์หญิงหนานฉือทำไมถึงต้องพูดไร้สาระเช่นนี้? พี่สาวจาวหนิงไม่ใช่หญิงสาวที่สับปลับหน้าเนื้อใจเสือเสียหน่อย!คนอื่นๆ กลับมีสีหน้าเหมือนชมมหรสพขึ้นมา"หน้าเนื้อใจเสือ? สับปลับ?" เซียวหลันยวนค่อยๆ เอ่ยขึ้น "องค์หญิงหนานฉือไม่ชินกับกับดินฟ้าอากาศ ไม่ชินจนสมงสมองกับลูกตาไปหมดแล้วหรือ? พระชายาของข้าเป็นคนที่ตรงไปตรงมาเสมอ แล้วเจ้าใช้ตาข้างไหนถึงมาบอกว่านางหน้าเนื้อใจเสือสับปลับกัน?"อันเหนียนแปลประโยคที่อ๋องเจวี้ยนแปลออกมาทันทีองค์หญิงหนานฉือโมโห ตบโตะ ยังชี้ไปที่ฟู่จาวหนิง "คำพูดกับการกระทำไม่เหมือนกัน คิดจะหลอกองค์หญิงอย่างข้า!"ตอนที่นางโมโห พูดจาก็รวดเร็ว อันเหนียนเองก็ตามไม่ทัน ตั้งตัวไม่ติดทีเดียวหวางต้าหลางกับฮูหยินเริ่นตอนนี้ไม่กล้าพูดอะไรแล้ว องค์จักพรรดิไม่เรียกชื่อพวกเขา พวกเขาสองคนก็หดคอไม่พูดอะไรถ้าเดี๋ยวเรื่องลามมาถึงพว
องค์จักรพรรดิปากขยับพะงาบ ตอนกำลังจะพูด เสียงของเซียวหลันยวนก็ดังขึ้นมาอีก"ไทเฮาอยู่ที่นี่ องค์จักรพรรดิฮองเฮาเองก็อยู่ที่นี่ ต่อนห้าคนตั้งมากมายเช่นนี้ พวกเขาสองคนยังจะเปลี่ยนดำเป็นขาว ใส่ร้ายพระชายา กล้าหลอกลวงองค์หญิงหนานฉือเช่นนี้ ใครมอบความกล้าให้พวกเขากัน? ความกล้านี้พลิกแผ่นฟ้าได้เลยทีเดียว"สายตาของเซียวหลันยวนที่มองพวกเขาเหมือนมองคนตายสองคนอันเหนียนไม่พูดอะไรตอนนี้มีอ๋องเจวี้ยนคนเดียวก็พอแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเขาเห็นท่าทางของอ๋องเจวี้ยน สองคนนี้คงจะไม่รอดแน่แล้ววันนี้หวางเก๋อเหล่าไม่มา หลักๆ คืออายุมากแล้ว บวกกับรู้สึกว่าลูกชายตนเองจะวาดลวดลายในงานเลี้ยงวังวันนี้ รู้สึกว่าพรุ่งนี้จะได้ยินคงได้ยินเสียงสรรเสริญของผู้คนแน่นอน ที่หวางเก๋อเหล่าไม่มา ก็เพราะมีอันเหนียนลงมือไปเล็กน้อย เขารู้ว่าไม่กี่วันนี้หวางต้าหลางจะต้องทำพลาดแน่ จัดการกันหวางเก๋อเหล่าออกไป เพื่อไม่ให้ตอนที่เกิดสถานการณ์อะไรขึ้นมาจริงแล้วผู้เฒ่าคนนี้จะเสนอหน้าออกมา แล้วใช้อายุความอาวุโสเข้าขัดขวางตอนนี้ดูท่าผลลัพธ์จะดีมากอันเหนียนประชดประชันในใจ และไม่รู้ว่าหวางเก๋อเหล่าหลังจากรู้สถานการณ์ตอนนี้แล้วจะคิ
"ลากพวกเขาออกไป ตัดหัวทิ้งเสีย" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นเสียงเย็นเยียบ"ขอรับ"องครักษ์เงามังกรเดินไปยังหวางต้าหลางกับฮูหยินเริ่นทันทีพวกเขาตกใจจนพับลงไปบนพื้นทันที"ไม่ ไม่ ฮองเฮาโปรดละเว้นด้วย!""องค์จักรพรรดิ องค์จักรพรรดิ เห็นแก่สิ่งที่พ่อข้าทำให้แคว้นเจาด้วย..."คำพูดของหวางต้าหลางยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกองครักษ์เงามังกรใช้มือฟันจนสลบไปแล้ว ทั้งสองคนถูกลากออกไป ต่อหน้าคนทั้งตำหนัก ลากออกไปทั้งอย่างนั้นเลยแม้ฉากที่พวกเขาถูกตัดหัว คนเหล่านี้คงไม่ได้เห็นด้วยตนเอง แต่พวกเขาก็ยืนยันได้ ว่าอ๋องเจวี้ยนพูดได้ทำได้ สองคนนั้นไม่รอดแล้วแน่นอนพวกเขานิ่งเงียบเป็นเป่าสากอ๋องเจวี้ยนน่ากลัวเหลือเกิน อย่าได้ไปยั่วโมโหเชียวแล้วก็พระชายาอ๋องเจวี้ยนด้วย ตอนนี้เคยกลัวสถานการณ์เคยกลัวใครที่ไหน? สองสามีภรรยานี้ กำเริบเสิบสานมากจริงๆองค์หญิงหนานฉือเองก็รู้สึกสนใจตัวอ๋องเจวี้ยนมากโดยไม่สนใจสีหน้าเขียวปั๊ดขององค์จักรพรรดิและฮองเฮา นางเอ่ยกับอ๋องเจวี้ยนขึ้นว่า "อ๋องเจวี้ยน ข้าชอบนิสัยของท่าน ตรงไปตรงมาดี! ข้าแต่งเข้ากับจวนอ๋องเจวี้ยนดีไหม?"อันเหนียนพอได้ยินคำนี้ ใจก็เต้นผางขึ้นมา มองไปทางฟู่จาว
"เมื่อเป็นเช่นนี้ อ๋องเจวี้ยนก็โชคดีสุดๆ เลย มีพระชายาที่งดงามขนาดนี้สองคนอยู่ด้วยกัน ประกบซ้ายขวา มีชีวิตที่มีความสุขเหลือเกิน""องค์หญิงหนานฉือเองก็ไม่เลว ใจกว้างได้เหมาะสม""หาได้ยากที่คนอย่างนางซึ่งเป็นเจ้าหญิง จะยอมดีกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนก่อน หลังจากนี้ก็ไม่ต้องมีความยุ่งยากอย่างเรื่องหึงหวงแล้ว"คนไม่น้อยล้วนอิจฉาต่อตัวอ๋องเจวี้ยนอย่างมากและมีหญิงสาวรุ้สึกว่าฟู่จาวหนิงก็น่าจะรู้สึกโชคดีด้วยอ๋องเจวี้ยนในฐานะที่เป็นอ๋องคนหนึ่ง เรือนหลังไม่มีทางที่จะมีผู้หญิงเพียงคนเดียว ตอนนี้มีองค์หญิงมาคนหนึ่ง ดีจะตายไปฟู่จาวหนิงมาจากตระกูลเล็กครอบครัวเล็ก ลูกสาวของตระกูลยากจนที่พ่อแม่เป็นตายร้ายดีก็ยังไม่รู้ ได้มารับใช้ปรนนิบัติสามีคนเดียวกับองค์หญิงแคว้นหนึ่ง นี่ถือว่าเป็นเกียรติกับนางมากแล้วฟู่จาวหนิงมองเซียวหลันยวนสถานการณ์นี้ พวกเขาแม้จะไม่คิดมาก่อนก็ตาม แต่ก็น่าจะมีเตรียมใจไว้บ้างแล้ว"อายวน" องค์จักรพรรดิกดดันทันที "องค์หญิงหนานฉือเป็นองค์หญิงจากแคว้นหนึ่ง เป็นหญิงสาว นางเอ่ยขึ้นมาเช่นนี้แล้ว พวกเราในฐานะที่เป็นชาย จะทำให้อีกฝ่ายต้องผิดหวังไม่ได้นะ"ฮองเฮาเองก็เลิกคิ้วยิ้ม เ
เซียวหลันยวนยืนขึ้นเพียงครู่เดียวเท่านั้น แค่ชั่วกระพริบตาก็นั่งลงมาแล้วคนทั้งหมดคิดถึงตอนที่เข้าถูกยกเข้าวังมา ตอนนี้ยังเห็นว่าแค่ยืนก็ยังยืนแทบไม่ไหว ขานั่นพิการไปแล้วจริงหรือ?ฟู่จาวหนิงกุมหน้าผากเซียวหลันยวนยังกุมมือของนางอยู่ ยังพูดกับนางอย่างรู้สึกต้องรับผิดชอบว่า "หนิงหนิง ทำให้เจ้าต้องน้อยใจแล้วแท้ๆ"ฟู่จาวหนิงกัดฟัน กดเสียงต่ำ "เซียวหลันยวนพอได้แล้วนะ พูดอีกเดี๋ยวจะโกรธแล้ว"ทักษะแสดงนี่ก็ไม่รู้จักเก็บเอาไว้หน่อย!องค์หญิงหนานฉือได้สติกลับมานางมองอย่างไม่อยากเชื่อไปทางอันเหนียน ถึงอย่างไรนอกจากสามีภรรยาอ๋องเจวี้ยน ตอนนี้ก็มีแค่อันเหนียนที่พูดภาษาหนานฉือกับนางได้"ผู้ตรวจการชิง ที่อ๋องเจวี้ยนพูดมานี่เรื่องจริงหรือ?"ในสมองอันเหนียนเหมือนมีม้าวิ่งตะบึง แต่บนหน้าเขาก็ยังไม่แสดงสีหน้าใด"องค์หญิง อ๋องเจวี้ยนของพวกเรามีสุขภาพอ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก ท่านเองก็รู้ เขาเองก็คอยรักษาตัวอยู่ที่ยอดเขาโยวชิงมาโดยตลอด ปีที่แล้วเพิ่งจะกลับมาเมืองหลวง"ส่วนที่ว่าร่างกายไหวหรือไม่ไหว ขอโทษด้วย เขาไม่รู้!องค์หญิงหนานฉือปิดปากร้องอุทานออกมาหลังจากนั้นนางก็มองอ๋องเจวี้ยนอย่างเห็นใจ
"เจ้าเป็นอะไรไป? ไม่ใช่บอกว่าวิชาแพทย์ดีมากหรอกหรือ? รักษาอายวนมาตั้งนาน ทำไมเขากลับอาการหนักขึ้นล่ะ?"เขาตำหนิฟู่จาวหนิงหน้าแข็งหลังจากนั้นพอเห็นฟู่จาวหนิงก็รู้สึกประหม่าขึ้นในพริบตานางหลบสายตา ไม่กล้าสบตาตรงๆ กับเขาองค์จักรพรรดิอดสงสัยไม่ได้ ฟู่จาวหนิงคงไม่ได้ไม่ตั้งใจรักษาเซียวหลันยวนหรอกกระมัง? ถึงอย่างไรตอนนั้นแม่ของนางก็เป็นผู้ต้องสงสัยที่วางยาพิษเซียวหลันยวนนี่ พวกเขาสองคนยังถือว่าเป็นศัตรูกันอยู่"องค์จักรพรรดิ อาการป่วยนี้ของเซียวหลันยวนรักษายากมาก ร่างกายของเขาแต่ละด้านล้วนอ่อนแอและเจ็บหนัก ตอนนี้ข้าเองก็กำลังอยู่ในขั้นตอนการคลำทางรักษาอยู่ ดังนั้นบางครั้งจึงต้องทดลองยาหลายชนิดอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถึงอย่างไรก็ยังไม่มีตัวอย่างโรคให้อ้างอิงได้เลย"สายตาของฟู่จาวหนิงหลบไปแวบเดียวเท่านั้น กลับมาขึงขังตั้งใจอธิบายขึ้นทันทีองค์จักรพรรดิรู้สึกว่าคำอธิบายของนางฟังแล้วเหมือนเป็นเรื่องจริง"เจ้าพูดมาก็ถูก แต่อายวนเป็นน้องชายข้า และเป็นอ๋องที่สำคัญยิ่งของแคว้นเจา เจ้าต้องระมัดระวังหน่อย และต้องรอบคอบขึ้นอีกหน่อย รักษาให้ดี ต้องรักษาเขาให้ได้!"องค์จักรพรรดิ ตอนนี้พยายามจะแสดงค
ถ้าเผื่อเป็นแผนร้ายล่ะ?ฟู่จาวหนิงเป็นหมอเทวดานะ ถ้าจะลงไม้ลงมืออะไรสักหน่อยก็น่าจะง่ายไหม?"องค์จักรพรรดิถ้าหากจะดูล่ะก็ ข้าตอนนี้จะเปิดผ้าบนหน้าของเขาออก?" ฟู่จาวหนิงทำท่าเหมือนจะขยับมือองค์จักรพรรดิตกใจถอยออกไปหลายก้าว"ไม่ต้องไม่ต้อง!"เขารู้สึกว่าตนเองเหมือนจะมีปฏิกิริยามากเกินไป จึงรีบเสริมขึ้นมาคำหนึ่ง "ความหมายของข้าคือพวกเจ้าเข้าวังมาก็ไม่ได้พกยาอะไรมาด้วย ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ถ้าเปิดแผลออกมา หน้าของอายวนอาจจะไม่ปลอดภัย เจ้าเองก็ยังต้องมานั่งพันยาให้เขาใหม่อีก มันยุ่งยากเกินไป""โอ้ องค์จักรพรรดิพูดมาก็ถูกต้อง""คืนนี้เจ้ากับอายวนก็พักอยู่ในวังแล้วกัน คนในวังเองก็จัดการตำหนักบรรทมไว้แล้วด้วย หลังจากพวกเจ้าไปพบไทเฮาแล้วก็รีบไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้พวกเราค่อยคุยกันใหม่"องค์จักรพรรดิก่อนหน้านี้ให้คนมาสั่งการด้วยวาจากับพวกเขาแล้ว หลังจากงานเลี้ยงวันนี้ให้พวกเขาพักในวัง จะได้ไม่ต้องลำบากเดินทางเซียวหลันยวนกับฟู่จาวหนิงเองก็เข้าใจ นี่น่าจะเป็นเพราะองค์จักรพรรดิอยากจะดึงเวลาไว้ เพื่อถามถึงสิ่งของที่ไท่ซ่างหวงทิ้งให้เขาพวกเขาเองก็ไม่ปฏิเสธต้องให้โอกาสกับองค์จักรพรรดิบ้าง ไ
เซียวหลันยวนเหลือบมองฟู่จาวหนิงเรื่องนี้ถ้าให้นางที่เป็นหมอมาพูดก็ยังดูมีน้ำหนักหน่อยฟู่จาวหนิงจึงทำได้แค่เล่าเรื่องที่พูดกับจักรพรรดิออกไปอีกรอบหนึ่งไทเฮาน้ำตาร่วงลงมาเสียแล้ว"เรื่องนี้เจ้าลำบากเสียแล้ว อายวน""ไม่เป็นไร" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นเสียงเรียบฟู่จาวหนิงมองมองไทเฮาตอนนี้มองออกแล้วว่าไทเฮาเป็นห่วงเซียวหลันยวนจริงๆ แต่ก่อนหน้านี้ไม่ใช่เช่นนี้นี่นาไทเฮาเห็นเซียวหลันยวนเย็นชากับตนเองขนาดนี้ ในใจก็รู้สึกเสียใจอยู่"จาวหนิง สิ่งนี้รักษาได้ไหม?"ฟู่จาวหนิงคิดคิด คิดจะเอาเรื่องที่ตนเองอีกไม่กี่วันจะออกจากเมืองหลวงบอกกับไท่เฮาพอดี เซียวหลันยวนเองอาจจะต้องให้ไทเฮาคอยปกป้อง แต่ถ้าหากมีใครมาพูดอะไรถึงนาง หรือว่ามีข่าวลืออะไรขึ้นมา ไม่แน่ว่าไทเฮาอาจจะสามารถออกโรงได้ถึงอย่างไรเขาตอนนี้ก็รู้สึกว่าไทเฮาเหมือนจะกังวลเซียวหลันยวนจริงๆนางมองคนแม่นอยู่ ลางสังหรณ์เองก็แม่นด้วย"พูดความจริงนี่ยากอยู่" ฟู่จาวหนิงประโยคนี้พูดออกมาจริงๆตัวนางตอนนี้ไม่ค่อยจะมั่นใจนัก พูดได้แค่ว่ามีความหวังอยู่ห้าหกส่วนเท่านั้น ยังต้องออกไปหาวัตถุดิบยาอีก ลองดูว่าจะหาเอ็นมังกรหยกเจอหรือไม่ หลังจา