ชั่วขณะหนึ่ง ประชาชนสองฟากฝั่งถนนล้วนเข้าไปเก็บก้อนกลมเล็กันอย่างตื่นเต้น มีคนที่รอไม่ไหว และค่อนข้างอยากรู้อยากเห็น พอหยิบมาได้ชิ้นหนึ่งก็สำรวจดูก่อน และพวว่าเจ้าก้อนกลมเล็กๆ พวกนี้เปิดออกได้มีคนล้วงสิ่งของจากด้านในออกมา และเห็นว่าเป็นไข่มุกที่ดูล้ำค่ามาก จึงตะลึงนิงงันไป"ไข่มุก ด้านในคือไข่มุก!"ในก้อนกลมเล็กมีห่อไข่มุกเอาไว้!แม้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นระดับสุดยอด แต่ระดับแสงมมันวาวก็ดีมาก เมืองหลวงแคว้นเจาห่างจากทะเลไกลแสนไกล ไข่มุกสำหรับพวกเขาทางนี้คือขายกันแพงมากๆ แล้วไข่มุกที่ใหญ่ขนาดนี้เม็ดหนึ่ง คุณภาพเช่นนี้ อย่างน้อยก็มีมูลค่ามหาศาลถ้าหากสลักไว้บนปิ่นเงิน ปิ่นเงินเล่มนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นล้ำค่าขึ้นมาทันที"ให้ตายเถอะ!""รีบเก็บ!"ชั่วขณะหนึ่ง เหล่าประชาชนบนถนนลุกฮือกันขึ้นมาคนทั้งหมดกำลังรีบร้อนแย่งก้อนกลมเล็ก สาละวนเก็บกันอยู่อันเหนียนที่อยู่หน้าขบวนได้ยินเสียงเฮโลด้านหลัง ก็ร้องเรียกองครักษ์ขึ้นทันที "ไปดูหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น"เขาอยากจะรีบรับองค์หญิงหนานฉือทั้งขบวนเข้าไปในวัง เช่นนั้นก็เสร็จสิ้นแล้วแต่ขบวนนี้ก็เดินกันได้ช้ามาก เดินมาครึ่งค่อนวันก็ยังอยู่ที่น
อันเหนียนมององค์หญิงหนานฉือบนรถม้าคันงามคันนั้น นางกอดแมวตัวนั้น ลูบเบาๆ ที่ตัวแมว มองประชาชนที่ตื่นเต้นสับสนรอบๆ ในดวงตามีรอยยิ้มราวกับเป็นเซียนที่กำลังมองมดปลวกอยู่บนชั้นเมฆสวยงาม แต่ก็ดูห่างเหินพอมองไปยังนางรำเหล่านั้น ก็เห็นว่าพวกนางเหมือนจะกำลูกกลมเจ็ดสีดยนลงมาไม่หยุด แต่อันที่จริงมือของพวกนางจะใหญ่ได้แค่ไหน? กำหนึ่งอันที่จริงก็ได้แค่สี่ห้าก้อนก่อนหน้าที่จะโยนสิ่งของเหล่านั้นบนมือออกมา พวกนางยังร่ายรำก่นออีกด้วย มือก็ไม่ได้หยุด แต่อันที่จริงสิ่งของที่โยนออกไปก็ไม่ได้เยอะมากดูแล้วเหมือนเป็นการสร้างภาพลวงๆ ว่าโยนของออกไปมากมายอย่างไรอย่างนั้นหรือก็คือ อันที่จริงพวกนางส่งไข่มุกออกไปไม่มาก ก็ทำให้เหล่าประชาชนเต็มถนนเข้ามาแย่งชิงกันอย่างบ้าคลั่ง เข้ามาโค้งเอวก้มหัวมุดใต้รถม้าเบื้องหน้าองค์หญิงหนานฉือนี่คือนิสัยของประชาชนเมืองหลวงแคว้นเจาสินะเหมือนเข้ามาเล่นละครลิงให้องค์หญิงหนานฉือดูตั้งแต่ที่มาถึงองค์หญิงหนานฉือเว้นระยะไว้ระยะหนึ่ง มองอันเหนียนที่กำลังเดินเข้ามาอันเหนียนเห็นนางยักคิ้วขึ้นเบาๆ อย่างชัดเจนนั่นเป็นสีหน้าท้าทายสินะถ้าหากเขาเข้าไปตะคอกใส่เหล่านางรำ
ขบวนเดินหน้าต่อ ครั้งนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกแล้วข่าวนี้ส่งไปถึงจวนอ๋องเจวี้ยนอย่างรวดเร็วฟู่จาวหนิงที่กำลังใช้น้ำยาทำความสะอดาแผลเป็นพิษบนหน้าเซียวหลันยวน ก็ได้ยินองครักษ์เข้ามารายงานพอดีหลังจากฟังจบฟู่จาวหนิงก็ถามขึ้นอย่างอดไม่อยู่ "ผู้ตรวจการอันก็ใช้ได้นะเนี่ย แล้วสมองยังตื่นตัวอีกด้วย"เซียวหลันยวนมองนาง ใบหน้าเจ็บปวดหน่อยๆเขาอยากจะตอบอะไรกลับบ้าง แต่ความเจ็บปวดบนใบหน้าเตือนเขาว่า เขาตอนนี้มันอัปลักษณ์สุดๆฟู่จาวหนิงมองน้ำหนองกับความเน่าเฟะบนหน้าครึ่งซีกของเขาด้วยระยะใกล้แค่นี้ เนื้อเน่าสีม่วงดำ รอยย่นที่ตัดสลับกัน แล้วยังกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์อีก แล้วจะทำให้นางรู้สึกได้อย่างไร ว่าเขาเก่งกาจกว่าอันเหนียน?จะทำให้นางไม่ชมผู้ชายคนอื่นได้อย่างไรกัน?ในสมองเซียวหลันยวนมีภาพใบหน้าของอันเหนียนลอยขึ้นมาอดพูดไม่ได้จริงๆ ว่าอันเหนียนเองก็หน้าตาดีอยู่ โดยเแพาะใบหน้าเกลี้ยงเกลาไร้ตำหนินั่นเซียวหลันยวนซึมเศร้าหน่อยๆ"เช่นนั้นตอนนี้พวกเขาก็เข้ามาในวังแล้วหรือ?" ฟู่จาวหนิงถามองครักษ์ลับพยักหน้า "ขอรับ""เจ้าเห็นองค์หญิงหนานฉือหรือยัง?" ฟู่จาวหนิงยังรู้สึกอยากรู้อยากเห็น อยากรู้
อันชิงคิดไม่ถึงเลยว่าจะปิดบังพี่ชายไว้ไม่ได้ ทำได้แค่พยักหน้า"พี่หญิงจาวหนิงก็ให้ข้าไม่ต้องรีบร้อน นางจะส่งคนไปช่วยข้าตรวจสอบ"อันเหนียนพบว่า น่าจะเพราะฟู่จาวหนิงพูดอะไรไว้ ดังนั้นอันชิงตอนนี้จึงไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย จิตใจยังดูผ่อนคลายเขาควรจะขอบคุณฟู่จาวหนิงแล้วก็ตามคาด น้องสาวได้มาพบกับฟู่จาวหนิงนี่ถือเป็นพรสูงสุดของนางจริงๆ"ท่านพี่ องค์หญิงหนานฉือไปพบจักรพรรดิแล้วหรือ?" อันชิงเองก็เข้ามาหาข่าวเพราะเรื่องนี้เช่นกัน "องค์หญิงหนานฉือสวยมากไหม? องค์จักรพรรดิคิดจะให้ได้ดองกับอ๋องเจวี้ยนจริงหรือ?"อันเหนียนหัวเราะขึ้นอย่างอดไม่อยู่"เจ้าถามมารวดเดียวตั้งหลายคำถาม แล้วข้าต้องตอบข้อไหน?""บอกมาก่อนว่าองค์หญิงหนานฉือสวยกว่าพี่หญิงจาวหนิงไหม?"อันเหนียนหัวสมองมีภาพของฟู่จาวหนิงขึ้นมา"ท่านพี่?"อันชิงเห็นเขานิ่งไปพักหนึ่ง จึงผลักเขาเบาๆอันเหนียนได้สติกลับมา "องค์หญิงหนานฉือก็สวยอยู่ แต่ว่า เจ้าคิดว่านางจะดูดีกว่าพระชายาอ๋องเจวี้ยนไหม?""ไม่มีทาง ในใจข้า พี่หญิงจาวหนิงคือคนที่งามที่สุดในใต้หล้าแล้ว" อันชิงเอ่ยขึ้นอย่างไม่ลังเลอันเหนียนหัวเราะ ไม่พูดอะไรอีกอันชิงเหมือนเข
ไทเฮาส่ายหัว "หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น รู้สึกแต่ในใจมันกลัดกลุ้มไปหมด"สงบใจลงไม่ได้เลยคืนนี้ ฟู่จาวหนิงกลับหลับอย่างสบายเรื่องที่นางต้องเตรียมตัวก็เตรียมไว้หมดแล้ว เรื่องที่ต้องจัดการก็จัดการหมดแล้ว แค่รอให้เรื่องวางเรียบร้อย สุขภาพของเซียวหลันยวนมั่นคงขึ้นมาหน่อย นางก็จะเดินทางไปต้าชื่อแล้ว ตอนนี้ที่หวังไว้ก็คือขอให้ราบรื่น อย่าให้เกิดอะไรผิดพลาดก็พอแน่นอน ร่างกายของนางตอนนี้ก็ยังต้องปรับตัวให้ดี ถึงอย่างไรถัดจากนี้ก็ยังต้องเร่งเดินทางคงจะเหนื่อยเอามากๆระหว่างทางถ้าป่วยไป ต่อให้นางเป็นหมอเองแต่ก็คงจะรู้สึกแย่มากดังนั้นสิ่งที่นางควรกินก็กินควรดื่มก็ดื่ม ควรนอนก็นอนให้ดี พักผ่อนให้ดี สะสมกำลังวังชาท่านผู้เฒ่าฟู่พอเห็นนางเป็นเช่นนี้กลับไม่กังวลเลย แต่กลับเป็นกังวลฟู่จาวเฟยแทนฟู่จาวเฟยหลังจากปิดประตูนั่งเสียใจอยู่วันหนึ่ง ฟู่จาวหนิงก็ไปเคาะประตูห้องเขา"ท่านพี่"ฟู่จาวเฟยเปิดประตูให้นาง น้ำเสียงแหบพร่า ดวงตาเองก็แดงเถือกเขาเห็นฟู่จาวหนิงยืนอยู่ที่ประตู ก็รู้สึกขึ้นมาได้ว่าตนเองเสียใจไปแล้ววันหนึ่ง เช่นนี้พี่สาวกับท่านปู่คงจะกังวลเขากระมัง?ฟู่จาวเฟยรู้สึกไม่ค่อยสงบ เงยหน
เซียวหลันยวนเองก็เข้ามาแล้ว"สวมชุดที่เป็นแสงไหลนั่นเถอะ" เขาพอเข้ามาก็เห็นสองสาวใช้กำลังเลือกชุดออกมาให้ฟู่จาวหนิงดู จึงเอ่ยปากขึ้นฟู่จาวหนิงกลับรู้สึกประหลาดใจ "ไม่ต้องสวมพวกชุดพิธีของพระชายาอะไรพวกนั้นแล้วหรือ?"ถึงอย่างไรก็เข้าไปร่วมงานเลี้ยงในวัง ครั้งที่แล้วเข้าวังนางสวมเข้าไปก็กำเริบเสิบสานพอควร ไม่ได้ทำตามขนมธรรมเนียมเท่าไร แต่ตอนนี้มีองค์หญิงหนานฉืออยู่ด้วย ก็รู้สึกว่าควรจะสวมให้เป็นทางการหน่อยดีกว่าไหม?นางมองเซียวหลันยวน ชายคนนี้อยู่ในชุดคลุมผ้าฝ้ายสีม่วงปักทอง เข็มขัดทองหม่น บนชุดคลุมผ้าฝ้ายปักมังกรหกกรงเล็บไว้ น่าจะเป็นชุดทางการของท่านอ๋องในแคว้นเจาแล้วนางไม่ต้องสวมหรือ?พอได้ยินนางถามเช่นนี้ หงจั๋วกับเฝิ่นซิงก็ล้วนมองไปทางเซียวหลันยวนฟู่จาวหนิงได้สติกลับมาทันทีดังนั้นนี่หมายความว่าอะไร "ท่านคิดว่าข้าไม่ควรสวมหรือ?"อันที่จริงก็มีชุดราชสำนักของนางอยู่ แต่เซียวหลันยวนไม่ให้สาวใช้นำมาให้นางใส่?"ข้า""ข้าไม่คู่ควรกระมัง?" ฟู่จาวหนิงสองมือกอดอก เอนตัวไปข้างโตีะ เชิดคางเล็กๆ ใส่เขาหงจั๋วกับเฝิ่นซิงรู้สึกว่าท่าทางขอนี้ของนางเหมือนกำลังจะทะเลาะกันยกใหญ่แล้วสาว
"แล้วต่อมาทำไมถึงไม่เผาทิ้งเสียล่ะ?""ลืมไปแล้ว เรื่องมันเยอะมากจนลืมเรื่องนี้ เดิมทีรู้สึกว่าเจ้าเองก็ไม่น่าจะสวมชุดนี้ด้วย"เซียวหลันยวนอันที่จริงก็รู้สึกน้อยใจหน่อยๆเขารู้สึกจริงๆ ว่าฟู่จาวหนิงไม่น่าจะสนใจเรื่องนี้ น่าจะไม่คิดจะสวมชุดราชสำนักพระชายานี้ด้วย ถึงอย่างไรตอนแรกนางก็เอาแต่พูดว่าจะหย่ากับเขา"แล้ววันนี้ถ้าไม่ใส่แล้วจะไม่ถูกกับธรรมเนียมเอาหรือ?"พอหลังจากได้ยินว่าชุดถูกแก้เป็นรูปร่างซ่งอวิ๋นเหยา ฟู่จาวหนิงก็ไม่อยากจะใส่แล้ว"บางทีฮองเฮาอาจจะพูดอะไรใส่บ้าง แต่เจ้าก็ไม่ต้องไปกลัวนาง" เซียวหลันยวนขมวดคิ้ว "มารยาทในราชสำนักจริงๆ ก็สั่งให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดแล้ว แต่คงเร็วมากไม่ได้ น่าจะต้องรอให้เจ้ากลับมาจากต้าชื่อเสียก่อน"พอนางกลับมาจากต้าชื่อ ก็ไม่รู้ว่าจะยอมสวมชุดราชสำนักพระชายาอ๋องเจวี้ยนให้กับเขา มายืนอยู่ข้างกายเขาให้ไหม"เช่นนั้นข้าก็สวมชุดที่เป็นแสงไหลก่อนแล้วกัน"ชุดนั้นจริงๆ คือสวยมาก ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เองก็สูงกว่าตอนที่ใส่ครั้งที่แล้วหน่อยด้วย จะต้องยิ่งเข้ากับกระโปรงตัวนั้นแน่ฟู่จาวหนิงกำลังเตรียมจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เซียวหลันยวนจู่ๆ ก็คิดอะไรออกขึ้นม
"ระวัง!"เซียวหลันยวนพอได้ยินการเคลื่อนไหวด้านหลังก็มีปฏิกิริยาอย่างรวดเร็ว ร่างของฟู่จาวหนิงก็โถมเข้ามาแล้วเขายื่นมือไปกอดนางอย่างรวดเร็ว แต่เพราะฟู่จาวหนิงล้มลงมาเร็วเกินไป เขายังไม่ได้อาบน้ำยาในขั้นตอนนี้เสร็จ ตอนนี้ร่างกายจึงยังอ่อนแอหน่อยๆ พริบตาที่กอดนาง หัวเข่าของฟู่จาวหนิงก็งัดเข้ามาบนขาของเขา ทำเอาเขาอ่อนยวบ"ผัวะ"ทั้งสองคนล้มลงไปบนพื้นด้วยกันเซียวหลันยวนเป็นเบาะรองให้ฟู่จาวหนิง สองมือยังกอดนางไว้แน่นฟู่จาวหนิงอย่บนตัวเขา หัวเข่าตอนนี้ยังรู้สึกเจ็บอยํูความเจ็บปวดนี้ทำให้นางแอบรู้สึกไม่ค่อยดีหัวเข่าเจ็บ นั่นเป็นเพราะกระแทกไปบนจุดชีพจรจุดหนึ่งบนขาเซียวหลันยวน แล้วตอนที่ล้มหัวเข่านางก็แทงไปที่จดนั้นพอดีหลายวันนี้เซียวหลันยวนอาบน้ำยาอยู่ และกระดูกในร่างกายก็ถูกคุณสมบัติทางยาเปิดออก นางก่อนหน้านี้ยังกำชับเขาไว้ว่าช่วงนี้จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ สลักคำว่า "ห้ามใช้วิชายุทธ์" "ห้ามออกกำลังหนัก" ไว้ในเลือดไปเลย คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าตอนนี้นางจะมาล้มทับเขา!"เซียวหลันยวน ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?"ฟู่จาวหนิงหลังจากตั้งตัวกลับมาก็พลิกออกจากตัวเขาอย่างระมัดระวัง มองเขาอย่างตึงเค