Share

บทที่ 639

Author: จุ้ยหลิงซู
"น่าเสียดาย พี่สาวข้ามีฝีมือจนทำให้อ๋องเจวี้ยนช่วยนางนี่สิ เจ้าไม่ยอมรับหรือ?" เฮ่อเหลียนเฟยหัวเราะร่าขึ้นมาต่อ

เขาจะยั่วโมโหจ้าวเฉิน

สังหารเขาทิ้งที่นี่เสียให้จบๆ ไป ไม่เช่นนั้นถ้าพาเขาออกไปไกล ก็กลัวว่าพี่หญิงจะหาไม่เจอ ไม่ใช่แค่หาไม่เจอ ยังอาจจะถูกจ้าวเฉินล่อออกไปยังสถานที่ห่างไกลอีกด้วย อันตรายมาก

"อ๋องเจวี้ยน โอ๊ะ ไม่สิ ควรจะเรียกว่าว่าพี่เขยมากกว่า พี่เขยข้าจะต้องมาช่วยหาตัวข้าแน่ ถึงตอนนั้นพวกเจ้าทั้งครอบครัวก็ไม่ต้องไปทวีปผิงอะไรนั่นแล้ว พี่เขยข้ากับพี่สาวข้าคงจัดการสังหารพวกเจ้าจนเรียบ"

"ฟู่จาวหนิงเองก็มีความสามารถนี้อยู่!"

จ้าวเฉินจ้องเฮ่อเหลียนเฟย "เจ้าอยากตายนักหรือ? ข้าจะทำให้เจ้าสมอยากเอง! ก่อนหน้านี้ขาของเจ้าข้าก็เล่นงานมา ตอนนี้หายดีแล้วหรือไร?"

สายตาเขาจับจ้องมาบนขาของเฮ่อเหลียนเฟย "ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มรสมันอีกครั้ง ให้เขาของเจ้าหักไปอีกรอบ!"

พูดแล้วเขาก็เตรียมจะลงมือ

เฮ่อเหลียนเฟยม่านตาหดลง

ตอนนี้เอง ชายหนุ่มที่หน้าตาอึมครึมก็ยั้งจ้าวเฉินเอาไว้ "เจ้าตอนนี้ถ้าไปหักขาเขา อีกเดี๋ยวต้องแบกขึ้นเขาไปเองนะ?"

จ้าวเฉินการเคลื่อนไหวชะงักงัน เลิกทำไป

เฮ่อเหลียนเฟยฟังเข
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 640

    "ใช่แล้ว ท่านผู้เฒ่า ต้องขอบคุณจาวหนิงเลย" ฟู่รั่วเสวี่ยประโยคนี้พูดอย่างกัดฟันผู้เฒ่าฟู่เองก็ฟังออกแล้วใบหน้าของเขาขรึมลงมาทันทีนี่มาหาเรื่องทะเลาะชัดๆ เลย ก่อนหน้านี้ตอนที่ยังอยู่ในบ้านตระกูลฟู่ ฟู่รั่วเสวี่ยพูดได้ว่าเป็นหญิงสาวรุ่นนี้ที่มีกิริยาการแสดงออกที่สุดคนหนึ่ง อ่อนโยนและรู้ความที่สุดคนหนึ่ง พูดจาน้ำเสียงแผ่วเบาละเอียดอ่อน อากัปกิริยาก็เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่อย่างเหมาะสม อยู่ต่อหน้าเขาก็มีมารยาทนอบน้อม ผู้เฒ่าฟู่เองก็เคยมีความหวังในตัวนางอยู่พอคิดถึงเงื่อนไขแบบฟู่รั่วเสวี่ยเช่นนี้ หลังจากนี้น่าจะมีการแต่งงานที่ดี ถ้านางออกเรือนได้เป็นฝั่งฝา ก็ยังสามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันกับจาวหนิงได้แต่ว่าตอนนี้ดูท่า ฟู่รั่วเสวี่ยแค่เสแสร้งได้ดีกว่าฟู่เป่าเจินฟู่เจียวเจียวเท่านั้น อันที่จริงแล้วก็เป็นแบบเดียวกัน!หลังจากไล่ออกจากบ้านตระกูลฟู่ท่าทีของนางก็เปลี่ยนไปทันทีผู้เฒ่าฟู่ไอสำลักหลายครั้ง ไม่สนใจอะไรนาง ตอนนี้เขากำลังเป็นห่วงเฮ่อเหลียนเฟย มีกะจิตกะใจมาคิดเล็กคิดน้อยกับนางเสียที่ไหน?"เสี่ยวเถา ไม่ต้องร้อง" จงเจี้ยนพูดกับเสี่ยวเถาคำหนึ่ง "ไปล้างหน้าล้างตาไป""แต่ว่า พี่ชายจง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 641

    นี่คือไม่คิดจะช่วย ขนาดแค่ประคับประคองก็ยังไม่ยอมด้วยซ้ำ!"ที่บ้านเกิดเรื่อง""เมื่อครู่ข้าได้ยินเสี่ยวเถาพูดถึงคุณชายเสี่ยวเฟยอะไรนั่น เป็นเด็กที่ฟู่จาวหนิงเก็บมาจากภายนอกหรือ? แล้วคนนอกคนหนึ่งมาสร้างเรื่องให้ในบ้านตระกูลฟู่ พวกท่านก็ยังจะปกป้องเขาอีก? แต่ข้าที่มีสกุลฟู่ พวกท่านทำไมจึงไม่ช่วยข้าบ้าง?""รั่วเสวี่ย เรื่องราวไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด เสี่ยวเฟยไม่ได้หาเรื่องมาให้" ผู้เฒ่าฟู่รู้สึกว่าหน้าเริ่มมืดอีกแล้ว เขาเดิมทีก็ร้อนรนจนทำแทบไม่ไหว ตอนนี้ฟู่รั่วเสวี่ยยังจะมาอาละวาดอีก"ทำไมจะไม่ได้หาเรื่องกัน? แล้วตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น? จาวหนิงถือดีอะไรไปช่วยวิ่งเต้นให้เด็กคนนี้? ถึงไม่สามารถโผล่หน้าไปในงานเลี้ยงชมดอกเหมย?"ฟู่รั่วเสวี่ยดวงตาแดงเถือก "ข้าเป็นคนที่ท่านเลี้ยงดูมาจนโต จะอย่างไรก็ถือเป็นรุ่นหลังของท่าน ท่านคิดว่าหลังจากจาวหนิงก็ไม่มีญาติคนไหนอีกแล้วหรือ? ข้าเองก็มีชีวิตที่ดี ถ้ายืนอย่างมั่นคงในบ้านสามีได้ ก็ไม่ใช่ว่าจะกลายเป็นแรงช่วยเหลือจาวหนิงได้ในภายหลังหรอกหรือ?"ผู้เฒ่าฟู่ถูกนางพูดจี้ตรงใจแต่ก่อนเขาเอาแต่คิดว่า หลังจากเขาตายไป จาวหนิงก็จะอยู่เพียงลำพังคนเดียวในโลกใบ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 642

    ฟู่รั่วเสวี่ยกลับมาถึงบ้านสามี เด็กชายตัวอ้วนกลมอายุราวเจ็ดแปดขวบคนก็พุ่งเข้ามา"คุณชายน้อยหยุดก่อน อย่าวิ่ง!" สาวใช้รีบร้องขึ้นแต่ว่าเด็กคนนั้นไม่ฟังเลย หัวพุ่งมาทางท้องฟู่รั่วเสวี่ยฟู่รั่วเสวี่ยคิดจะเบี่ยงหลบ แต่ปฏิกิริยาไม่ได้รวดเร็วขนาดนั้น จึงถูกเด็กคนนั้นกระแทกเข้าไปที่ท้องความเจ็บปวดแล่นจนทำนางน้ำตารื้น นางกุมท้องตัวงอพูดไม่ออกอยู่นาน"ผู้หญิงเลว!"คุณชายน้อยถลึงตาใส่ฟู่รั่วเสวี่ยอย่างมาดร้าย หมุนตัววิ่งออกไป"ฮูหยิน ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม?" สาวใช้รีบเข้ามาประคองตัวฟู่รั่วเสวี่ยฟู่รั่วเสวี่ยน้ำตาคลอเบ้าความเจ็บปวดนี้กว่าจะบรรเทาลง"เจ้าเด็กชั่วนั่นจงใจแน่ๆ จะต้องมีคนไปพูดอะไรข้างหูเจ้าเด็กนั่นแน่" ฟู่รั่วเสวี่ยชิงชังจนอยากจะฆ่าคนขึ้นมาเรื่องแบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรกด้วย ครั้งเดียวยังดูเป็นอุบัติเหตุได้ สองครั้งนางก็ยังพอกล่อมตนเองได้ว่าเด็กคนนี้ซุกซนแต่นี่มันครั้งที่สามแล้วจะต้องมีคนไปเสี้ยมสอนเขา ยิ่งไปกว่านันยังจงใจกระแทกมาที่ท้องนางอีก ในจวนใครกันที่ไม่อยากให้นางตั้งครรภ์? แล้วถ้านางตั้งครรภ์ขึ้นมาจริง มาถูกเจ้าเด็กชั่วนี่กระแทกแบบนี้เอายังจะรักษาไว้ได้ไหม?เพีย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 643

    "ผู้เฒ่าฟู่ไม่เป็นไรแล้วชั่วคราว แต่พระชายาโปรดรีบกลับไปด้วยเถิด""ไป!"ฟู่จาวหนิงหมุนตัวขึ้นรถม้าไปอีกครั้งทันทีเซียวหลันยวนเองก็รีบตามไป "ขับไวหน่อย""ขอรับ"คนขับรถรีบลงแสให้รถม้าหันหัว แล่นตรงไปทางบ้านตระกูลฟู่ประตูใหญ่เปิดออก มีองครักษ์ยื่นหัวออกมามองรถม้าที่แล่นห่างออกไป คิดๆ แล้วก็รีบตรงเข้าไปรายงาน"นายท่าน คุณหนูจาวหนิงเพิ่งมาถึงประตูบ้าน แต่เหมือนที่บ้านเกิดเรื่อง จึงรีบหันกลับไปแล้ว"เสิ่นเสวียนช่วงนี้ร่างกายดีขึ้นบ้างแล้ว เพียงแต่เขาไม่ค่อยอยากอาหาร ดังนั้นกินเท่าไรก็ไม่อ้วน รูปร่างจึงผอมแห้งอยู่เสมอเขานั่งอยู่บนเก้าอี้ราชครูที่ปูพรมขนจิ้งจอกไว้ กำลังพลิกอ่านหนังสือเล่มหนึ่งอยู่เดิมทีคิดว่าวันนี้ฟู่จาวหนิงจะมา เขาก็รอนางอยู่ตลอดตอนนี้พอได้ยินเสียงขององครักษ์ เสิ่นเสวียนจึงขมวดคิ้ว ลุกขึ้นยืน"เตรียมรถ ไปบ้านตระกูลฟู่"เขายังไม่เคยไปบ้านตระกูลฟู่เลยตอนนี้เขายืนยันกว่าเก้าส่วนแล้วว่าฟู่หลินซื่อคือน้องสาวของเขา แต่กลับยังไม่เคยไปดูที่บ้านนางเลย ควรจะไปเสียหน่อยถ้าบ้านตระกูลฟู่เกิดเรื่องขึ้นจริงๆ เขาเองก็ต้องคอยสนับสนุนนางอยู่ข้างกายฟู่จาวหนิง"นายท่าน ท่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 644

    "ท่านปู่!"พอเข้าประตูมา ฟู่จาวหนิงก็ไปหาผู้เฒ่าฟู่ก่อนทันที"คุณหนู ท่านผู้เฒ่าอยู่ในโถง" เฉินซานเห็นนางวิ่งไปที่เรือนท่านผู้เฒ่า จึงรีบร้องเรียกนางไว้ฟู่จาวหนิงรีบหักเลี้ยวกลับมา"พวกเราเตือนท่านผู้เฒ่าให้กลับเรือนไปพักผ่อนแล้ว ให้นอนเพื่อรอท่าน แต่เขาก็กังวลเหลือเกิน เอาแต่อดทนอยู่ในโถงหน้า"ฟู่จาวหนิงรีบวิ่งเข้าไปพอเห็นจงเจี้ยนนั่งอยู่ข้างๆ ท่านผู้เฒ่า นางจึงผ่อนใจโล่งลงมาผู้เฒ่าฟู่พอเห็นนาง ก็ดีดตัวลุกขึ้นพรวดความรู้สึกเหมือนมีกระดูกสันหลังขึ้นมาฉับพลัน ความตื่นเต้นที่ว่าในที่สุดนางก็มาเสียที ทำเอาเส้นสายที่ตึงเปรี๊ยะของเขาขาดลงมาทันที"จาวหนิง เร็ว เสี่ยวเฟยเขา..."เขายังพูดไม่ทันจบ ก็กระอักเลือดออกมาทีหนึ่ง คนทั้งหมดล้วนหน้าเปลี่ยนสีกันหมด"ท่านผู้เฒ่า!""ท่านปู่!"ฟู่จาวหนิงนิ่งขรึมไป พุ่งตัวเข้าไป เข้าประคองตัวเขาร่วมกับจงเจี้ยนผู้เฒ่าฟู่ถูกประคองตัวนั่งลง เข็มเงินเล่มหนึ่งของฟู่จาวหนิงแทงลงไปที่จุดชีพจรเสริมแกร่งหัวใจจุดหนึ่ง"ท่านปู่ ท่านทำใจให้สบาย ต้องทำใจให้สบาย พวกเราจะพาเสี่ยวเฟยกลับมา เขาจะไม่เป็นไร ท่านไม่ต้องร้อนรนไป"ฟู่จาวหนิงรีบปลอบเขา พลางหยิ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 645

    เซียวหลันยวนจะช่วยเสี่ยวเฟยอย่างสุดกำลังไหม?อันที่จริงระหว่างทางที่กลับ ฟู่จาวหนิงเองก็คำถามนี้ในใจตนเองเช่นกันถ้าหากเผ่าเฮ่อเหลียนกบฏจริง ถ้าหากราชาเฮ่อเหลียนจับตัวขุนพลบัญชาการเมืองหูจริง ยึดครองเมืองหู เฮ่อเหลียนเฟยในฐานะที่เป็นลูกชายราชาเฮ่อเหลียน ยิ่งไปกว่านั้นจากที่ตัวเขาพูดมา เฮ่อเหลียนเฟยมีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกส่งต่อบัลลังก์ให้เขาดังนั้น เขาในเผ่าเฮ่อเหลียนจึงไม่ใช่คนที่ไม่มีชื่อเสียงเรียงนามอย่างแน่นอน ไม่ใช่คนทั่วไปที่ไม่มีตัวตนฐานะถ้าหากต้องประหารเก้าชั่วโคตรจริง เฮ่อเหลียนเฟยหนีไม่พ้นแน่นอน กลายเป็นคนสมควรถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องมากที่สุด กระทั่งเรียกร้องหาความเป็นธรรมก็ยังไม่ได้เซียวหลันยวนจะว่าอย่างไรก็ต้องยืนอยู่ข้างราชวงศ์แคว้นเจากระมัง?เว้นเสียแต่นางจะพิสูจน์ได้ ว่าเสี่ยวเฟยเป็นน้องชายแท้ๆ ของนาง ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับราชาเฮ่อเหลียนแต่ถ้าหากเป็นน้องชายนาง หรือก็คือระหว่างที่พ่อแม่ของนางถูกไล่จับก็ตั้งครรภ์ขึ้นมา ตอนแรกสุด เซียวหลันยวนคิดจะใช้นางมาคุกคามพวกเขา ตอนนี้มีลูกชายมาอีกคน เขาจะคิดเอามาใช้ประโยชน์ด้วยหรือไม่กัน?ถึงอย่างไรในใจคนสมัยนี้ ลูกชายก็ยัง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 646

    "ข้าฟัง ข้าจะฟัง"ฟู่จาวหนิงปลอบผู้เฒ่าฟู่เสร็จ มองเขาดื่มยาจนผล็อยหลับไป จากนั้นจึงถอยออกมา"จงเจี้ยน สืออี พวกเจ้าคอยคุ้มกันอยู่ในบ้านตระกูลฟู่"นางหยิบเข็มเล่มหนึ่งออกมา "สิ่งนี้ข้าฉาบยาพิษไว้ แต่เป็นแค่พวกที่ทำให้เส้นเอ็นอ่อนแรงลงทำนองนั้น ถ้าหากมีเรื่องเช่นวันนี้อีก จะเป็นคนในที่ว่าการ หรือว่าคนในวัง พวกเจ้าก็ใช้สิ่งนี้ไปเลย จัดการล้มคนลงก่อน รอข้ากลับมาแล้วค่อยจัดการ""ล้มคนลงไปก่อนหรือ?""ใช่!"ฟู่จาวหนิงสีหน้าเย็นเยียบ "พวกเจ้าเองก็ควรจะรู้ ท่านปู่ของข้าทนการกระตุ้นมากขนาดนั้นไม่ไหว ข้าต้องเาอชีวิตของเขาเป็นหลัก รักษาชีวิตของเขาไว้ก่อน ส่วนเรื่องขัดราชโองการหรือหลอกลวงองค์จักรพรรดิ สามารถจัดการภายหลังได้!""ขอรับ พวกข้าเข้าใจแล้ว""ตอนนี้ในบ้านก็ส่งให้พวกเจ้าแล้ว ข้าจะไปหาเสี่ยวเฟย"จงเจี้ยนมองฟู่จาวหนิงออกไป ถอนหายใจ"พี่ใหญ่ ท่านถอนหายใจทำไมกัน?""ก็แค่รู้สึกว่า คุณหนูนี่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวจริงๆ แล้วยังกล้าหาญมากด้วย คนในที่ว่าการบอกจะล้มก็ล้มทิ้งไปเลย แล้วยังก็ยังรู้สึกว่านางจะมีวิธีแก้ไขในภายหลังจริงๆ เสียด้วย คนเช่นนี้เหมาะกับท่านอ๋องของพวกเราจริงๆ!"ท่านอ๋องพวก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 647

    ฟู่จาวหนิงนำกระดาษยัดเข้าไปในกระเป๋าแขนเสื้อ สังเกตร่องรอยล้อรถบนพื้นอย่างละเอียดในนี้มีรอยล้อรถรอยหนึ่งมีหยดเลือดสีแดงคล้ำหลายหยดฟู่จาวหนิงเพ่งสายตาเฮ่อเหลียนเฟยเคยบอกกับนาง พวกเขาก่อนหน้านี้ที่อยู่บนภูเขาถ้าไม่มีวิธีทิ้งร่องรอย ก็จะแทงนิ้วตนเองแล้วทิ้งหยดเลือดเป็นสัญลักษณ์เอาไว้ถ้าหากเขาอยู่บนรถม้า แล้วไปหาโอกาสกับตำแหน่งที่เหมาะสมกรีดนิ้วตนเองแล้วหยดเลือดไว้ได้อย่างไรกัน?รอยเลือดเช่นนี้ ถ้าไม่ได้พาสุนัขที่เผ่าเฮ่อเหลียนเลี้ยงไว้ ก็ยากมากที่จะสังเกตเห็น แต่นางเชื่อว่านี่น่าจะเป็นสิ่งที่เฮ่อเหลียนเฟยทิ้งไว้ เขาเชื่อในนาง!เชื่อว่านางจะหารายละเอียดนี้จนพบเสี่ยวเฟยในเมื่อเชื่อมั่นนางเช่นนี้ นางก็จะไม่ทำให้เขาผิดหวังและตอนนี้เอง เซียวหลันยวนก็กำลังอยู่ในวังเบื้องหน้าเขามีองค์จักรพรรดิและฮองเฮานั่งอยู่องค์จักรพรรดิกับฮองเฮาเดิมกำลังเตรียมจะกินของว่าง จากนั้นก็จะแลกเปลี่ยนความรู้สึกกันและกันเสียหน่อย แต่เซียวหลันยวนก็พรวดพราดเข้ามาในใจองค์จักรพรรดิก็แอบเคือง แต่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้ครั้งนั้นก่อนหน้าที่ไท่ซ่างหวงจะเสด็จสวรรคต พูดกับอ๋องเจวี้ยนเอาไว้ว่า วังจักรพรรดินี้ล้วน

Latest chapter

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1688

    "หมอเทวดาฟู่"ทุกคนราวกับเพิ่งตื่นจากฝัน ทำความเคารพฟู่จาวหนิงกันอย่างระมัดระวังพวกเขาอันที่จริงอยากจะคุกเข่าลงโขกศีรษะด้วยซ้ำ แต่พวกสืออีกประคองตัวไว้ เป็นสัญญาณว่าพวกเขายืนไว้ก็พอ"เรียท่านหมอฟู่ก็พอแล้ว"ฟู่จาวหนิงเองก็จนใจหน่อยๆ พวกเขาเหล่านี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากฏพวกนี้ตั้งขึ้นตั้งแต่เมื่อไร ที่ว่าพอเข้าร่วมสมาคมหมอใหญ่ จะถูกเรียกว่าหมอเทวดาอันที่จริง เทวดาก็ไม่ได้เป็นเทวดาอะไร นางเองก็มีโรคที่รักษาไม่ได้เหมือนกัน"ทุกคนรู้จักกันไว้ก่อนก็พอ อีกเดี๋ยวข้าจะจับชีพจรให้พวกเจ้าทั้งสิบคน ถ้ามีตรงไหนไม่สบาย มีโรคระบาดอะไรให้บอกข้าไว้ก่อน"ในเมื่อต้องใช้พวกเขา ฟู่จาวหนิงก็ต้องตรวจอาการพวกเขาก่อน"ข้าไม่มีโรคอะไร ข้าชื่ออาเหอ ใต้เท้าอันให้ขาพาพวกเขามา แล้วต้องฟังการกำชับจากหมอ ท่านหมอฟู่"อาเหอมองฟู่จาวหนิง รู้สึกประหม่าหน่อยๆหมอเทวดาหญิงที่สูงส่งเช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะรังเกียจพวกเขาไหม"ได้ ไม่ต้องเครียดนัก บอกชื่อของตัวเองมาหน่อย"อาเหออันที่จริงก็ไม่ค่อยเชื่อนักว่าพูดเพียงรอบเดียว ฟู่จาวหนิงก็จะจำชื่อพวกเขาได้ แต่ว่า ได้พูดชื่อของตนเองออกมารอบหนึ่งต่อหน้านาง พวกเขากลับรู้สึกว่า

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1687

    อันเหนียนเองก็เป็นคนมีความสามารถ ฟู่จิ้นเชินเองก็ด้วย สองวันต่อมาพวกเขาก็ไม่อยู่บนรถม้าแล้ว แต่ออกไปเดินกับพวกผู้ประสบภัยเวลาสองวัน พวกเขาสองคนก็เลือกผู้ประสบภัยมาสิบคน ถึงเวลาสามารถนำมาใช้งานได้เป็นพวกที่ซื่อๆ คล่องแคล่วไม่พูดมาก เนื่องจากในบ้านประสบภัยจนไปต่อไม่ไหวแล้วจึงตรงมาที่เมืองเจ้อ แต่พวกเขาก็ไม่อยากจะเอาแต่ขอความช่วยเหลือจากจวนทางการ แต่ยังคิดว่าหลังจากถึงเมืองเจ้อแล้วจะทำอะไรได้บ้าง เอามาแลกข้าวไปกินฤดูใบไม้ผลเมืองเจ้อหนาวเย็น พวกเขาอย่างน้อยยังต้องผ่านมันไปอีกสองเดือนภายใต้สิ่งแวดล้อมเช่นนี้ อากาศเย็นๆ เอาชีวิตพวกเขาไปได้ ถึงอย่างไรก็กลัวจะไม่มีที่คุ้มกะลาหัว กลัวไม่มีข้าวต้มร้อนๆ กิน และยิ่งไม่มีเงินที่จะหาหมอซื้อยาด้วยอันเหนียนกับฟู่จิ้นเชินเลือกผู้ประสบภัยมาสิบคน ว่าจ้างพวกเขาชั่วคราว ถึงเวลาถ้าช่วยเหลือได้ ก็รับประกันว่าได้กินอิ่ม เจ็บป่วยมียาให้สิ่งนี้ถือว่าดีมากๆ สำหรับพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้นในใจก็เกิดความปลอดภัยขึ้นมาทันทีพวกเขาอย่างน้อยยังมีประโยชน์บ้าง ยังมีความรู้สึกพึ่งพาได้ ตอนมาถึงเมืองเจ้อก็ไม่ต้องชะเง้อซ้ายขวา ไม่รู้ว่าควรไปที่ไหน จะถูกจัดแจงที่พั

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1686

    "จาวหนิง พวกเราต้องเร่งเดินทางแล้วกระมัง?"ฟู่จิ้นเชินให้พวกสืออีไปตรวจสอบรถม้าแต่ละคันอีกหน่อย ดูว่าสัมภาระมัดแน่นดีหรือไม่เขาเองก็ไม่คิดจะเปลืองน้ำลายอธิบายเรื่องนี้ความจริงมันเกิดขึ้นแล้ว เมื่อครู่จูเฉียนเฉี่ยนก็พูดเรื่องที่พวกเขาเคยเจอกันออกมาชัดเจนแล้ว ไม่มีอะไรให้อธิบายอีกยิ่งไปกว่านั้น ปฏิกิริยากับการจัดการของฟู่จาวหนิงก็เด็ดขาดไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรอีก"รีบเดินทางเถอะ" ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่ติดใจกับเรื่องนี้อันที่จริง เรื่องราวก็แค่นี้เอง ทุกคนเข้าใจแล้ว พูดมากไปก็ไร้ประโยชน์ ต่อให้เป็นเซียวหลันยวนเองถ้าเจอกับเรื่องนี้ หลังจากนางชัดเจนแล้วก็จะปล่อยมันไปเหมือนกัน แล้วนี่ก็เป็นพ่อของนางด้วยนะเพียงไม่นาน ทุกหลังจากที่พวกเขาจัดขบวนเรียบร้อยก็เดินทางต่อ ทิ้งจูเฉียนเฉี่ยนทั้งขบวนไว้ด้านหลังจูเฉียนเฉี่ยนมองเงาของพวกเขาที่จากไป ยืนนิ่งอยู่ที่นั่น"แม่นาง ช่างมันดีกว่าไหม?" ไฉ่เอ๋อร์อดเตือนนางขึ้นมาไม่ได้ "คุณชายฟู่คนนั้น ดูแล้วก็ไม่ได้ต้องการให้แม่นางตอบแทนนี่นา แล้วก็แม่นางข้างๆ เขาคนนั้น ข้ากลัวอยู่หน่อยๆ ด้วย"ฟู่จาวหนิงหน้าตาสะสวย ดูแล้วยังอายุน้อย ไม่ได้ลงไม้ลงมืออะ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1685

    "ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ เช่นนั้นแม่นางจูก็มาตอบแทนบุญคุณด้วยการทำร้ายสินะ"อะไรนะ?จูเฉียนเฉี่ยนมองนางอย่างงงงัน"ข้า ข้าจะมาตอบแทนด้วยการทำร้ายได้อย่างไร?" นางยังไม่ได้เริ่มเลยนะ"เมื่อครู่ถ้าไม่ใช่คนของข้าลงมือ เจ้ารู้ไหมว่าจะมีผลลัพธ์อย่างไร?" ฟู่จาวหนิงเดิมทีก็ใช้ท่าทีคนแปลกหน้ากับนางอยู่แล้ว พอตอนนี้มารู้อดีตเข้า ท่าทีของนางก็ยิ่งเย็นชากว่าเดิมเสียอีก"ข้าเองก็ไม่ได้เจตนานี่นา ข้าไม่รู้จริงๆ ว่ายาที่คนคนนั้นขายให้ข้าจะรุนแรงขนาดนี้""เจ้าจะเจตนาหรือไม่มันเป็นเรื่องของเจ้า แต่พวกเรามองแค่ผลลัพธ์ เพราะไม่ว่าเจ้าจะมีหรือไม่มีเจตนา เรื่องราวสุดท้ายก็เป็นเจ้าที่ทำมันขึ้น ก่อนหน้าที่เจ้าจะทำเรื่องนี้ก็ได้พิจารณาที่จะไล่ตามมาไว้แล้ว ถ้าไม่พิจารณาเลยว่าจะส่งผลกระทบอะไรกับพวกเราบ้าง"ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นอย่างไม่เกรงใจ "พวกเราตอนนี้เท่ากับช่วยชีวิตพวกเจ้าไว้แล้วครั้งหนึ่ง ครั้งที่แล้วเขาช่วยเจ้า สิ่งที่แลกมาคืออันตรายครั้งหนึ่ง ครั้งนี้พวกเราช่วยเจ้า ใครจะรู้ว่าครั้งต่อไปเจ้าจก่อเรื่องอะไรออกมาอีก? การเดินทางพวกเราตอนนี้ถูกเจ้าทำให้ล่าช้า ถ้าหากพวกเรามีเรื่องที่เร่งด่วนเกี่ยวกับชีวิตคน เช

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1684

    ข้ารู้ว่าท่านไม่น่าจะลืมข้าคำพูดนี้มันคลุมเครือเสียเหลือเกินฟู่จาวหนิงมองพ่อนาง สีหน้าเองก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกหน่อยๆฟู่จิ้นเชินรักหวานชื่นกับเสิ่นเชี่ยวมาตลอด แล้วยังมีภาพลักษณ์ที่ซ์่อสัตย์มั่นคงด้วย พวกเขาปกติตอนที่อยู่ด้วยกัน ก็มองออกได้ง่ายมากกว่ามีความรู้สึกให้กันดีมากๆอย่าให้จู่ๆ ก็มีเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ขึ้นมาเชียว ความสงบสุขที่ตระกูลฟู่ได้มาอย่างยากลำบากอาจจะพังทลายลงได้ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าเสิ่นเชี่ยวน่าจะไม่ใช่คนที่จะยอมรับหญิงสาวคนอื่นมาแบ่งสามีตัวเองไปได้ด้วยฟู่จิ้นเชินหลังจากได้ยินประโยคนั้นของจู่เฉียนเฉี่ยน ก็มองไปทางฟู่จาวหนิงทันทีพอสบกับสีหน้านาง เขาก็อธิบายออกมา แน่นอนว่าเป็นการอธิบายถึงเหตุการณ์ตอนนั้น"ตอนนั้นแม่ของเจ้าป่วย ไข้ขึ้นจนมึนไปหมด ข้าให้นางพักอยู่ในโรงเตี๊ยม ส่วนข้าเองก็ออกไปซื้อยา แล้วที่ด้านนอกร้านยานั้นก็เจอกับแม่นางคนนี้ โอ้ ตอนนั้นนางแต่งตัวเป็นชาย นางกำลังนำยาห่อหนึ่งให้กับหมอพเนจรคนหนึ่งดู""ตอนนั้นข้าก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นหมอพเนจรอะไร เขาบอกว่าเขาเป็นหมอเทวดาจากสมาคมหมอใหญ่" จูเฉียนเฉี่ยนอธิบายมาคำหนึ่ง"วัตถุดิบยาห่อนั้นของนางมองแล้วดูดีมีค

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1683

    จูเฉียนเฉี่ยนเห็นพวกเขาเข้ามา ก็ทำท่าทางน่าสงสารขึ้นหลักๆ คือมองไปทางฟู่จิ้นเชินอันเหนียนเพิ่งจะถามไปไม่กี่คำ พอเห็นท่าทางนางเช่นนี้จึงถอยออกไปสองก้าว ให้ฟู่จาวหนิงขึ้นหน้ามา"แม่นางจูสินะ?" ฟู่จาวหนิงยืนอยู่ด้านหน้าจูเฉียนเฉี่ยน สายตาเย็นเยียบ"ใช่แล้ว จูเฉียนเฉี่ยน" จูเฉียนเฉี่ยนรีบตอบ"พูดมา เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่?"ฟู่จาวหนิงถามออกมาตรงๆ สายตามีอาการบีบคั้นเล็กน้อย ไม่ยอมให้นางได้มีโอกาสเลี่ยง"ข้า ข้า...""เจ้าคิดให้ดีแล้วค่อยตอบ ข้าไม่ยอมรับคำโกหก เพราะพวกเจ้าเมื่อครู่เกือบทำพวกเราแย่ไปด้วย" ฟู่จาวหนิงเห็นตาของนางหลุกไปหลิกมา จึงตัดบทคำพูดนางทันทีสายตานางเฉียบคมขนาดนี้เลยหรือ?จูเฉียนเฉี่ยนมองฟู่จาวหนิง รู้สึกแค่ว่าตนเองตอนอยู่ต่อหน้านางไม่เหลือความลับอะไรอยู่อีกแล้วอย่างไรอย่างนั้น สายตาฟู่จาวหนิงมองมาอย่างคมกริบ แล้วยังดูน่าเกรงขามอีกด้วยแม่นางคนนี้ดูแล้วเหมือนไม่ได้โตกว่านางเลย ทำไมถึงดูน่าเกรงขามขนาดนี้กัน?"ม้าของเจ้ากินยาแล้วคลั่งขึ้นมา เจ้าอย่าบอกข้า ว่าพวกเจ้าไม่รู้" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นมาให้ชัดเจนหน่อยไฉ่เอ๋อร์ถลึงตาโตอย่างตกใจ มองไปทางแม่นางของนางโดยสัญชา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1682

    จูเฉียนเฉี่ยนใจเย็นลงมา ก็รู้ว่าคงเลี่ยงไม่พ้นแล้ว เลิกม่านรถขึ้น สบตากับอันเหนียนคุณชายคนนี้เมื่อคืนก็ดูสุภาพเรียบร้อยดี แต่ตอนนี้กลับดูมีอำนาจน่าเกรงขาม ทำเอาเธอกลัวตัวสั่นจนไม่กล้าลงจากรถม้าเลย"แม่นางจูไม่เป็นไรใช่ไหม?"ใครจะคิด ว่าพออันเหนียนเอ่ยปากก็ถามไถ่อย่างเป็นห่วงจูเฉียนเฉี่ยนถอนใจโล่งออกมา "ยัง ยังไหว""ลงจากรถม้าก่อนดีไหม?"ถึงอย่างไรรถม้าาคันนี้ ม้าที่ลากรถก็ล้มไปแล้ว ตอนนี้คงเดินไม่ได้ ลงมาก่อนน่าจะดีกว่าคนใช้อีกสามคนของนางยังอยู่บนรถม้า อันเหนียนรู้สึกว่าคุยอะไรมากไม่ได้"พวกเราจะลงไปเดี๋ยวนี้"จูเฉียนเฉี่ยนนิ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็วภายใต้ปฏิกิริยาที่สงบอ่อนโยนของอันเหนียนอดพูดไม่ได้เลย ท่าทีของอันเหนียนสามารถปลอบอารมณ์ให้เย็นได้ดีจริงๆพอนางลงจากรถม้า ยังยื่นมือมาประคองสาวใช้ไฉ่เอ๋อร์อีก แล้วยังประคองหญิงรับใช้กับไฉ่เอ๋อร์ลงมาด้วยกัน"ไปพักทางนั้นก่อนเถอะ"อันเหนียนตอนที่ลงจากรถพวกนางก็มองไปรอบๆ เห็นว่าไม่ไกลนักที่พื้นหญ้าที่ค่อนข้างสะอาดอยู่ ที่นั่งยังมีหินอีกหลายก้อน บางทีก่อนหน้านี้อาจจะมีคนผ่านทางมาพักตรงนั้น หินจึงค่อนข้างเรียบ"เสี่ยวเจียง ไปเอาพรมม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1681

    ฟู่จาวหนิงเองก็ได้ยินการเคลื่อนไหวด้านอกแล้ว ขบวนรถของพวกเขาหยุดลงมา องครักษ์ควบม้าเข้ามา เอ่ยขึ้นเสียงร้อนรน "พระชายา ม้าของพวกเขาเสียการควคุม ดูผิดปกติมาก"ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้ว กระโจนลงจากรถ เดินออกมาไม่กี่ก้าวมองไปด้านหลัง แล้วก็เห็นรถม้าหลายคันทะยานย่ำโคลนพุ่งเข้ามาจริงๆ"พวกเจ้ามั่นใจว่าช่วยได้ไหม?" นางถาม"ลองดูได้""เดี๋ยวก่อน" ฟู่จาวหนิงขึ้นไปบนรถม้าแล้วหยิบเข็มกำหนึ่งลงมาทันที "เข็มยาชา แทงใส่ม้า ระวังด้วย"พวกเขามีกำลังภายใน ใช้สิ่งนี้จะดูเก่งกาจกว่านางหน่อยองครักษ์รับเข็มไปทันที หลายคนหันม้าเข้าไปหาพวกของจูเฉียนเฉี่ยนคนใช้ของอีกฝ่ายลนลานไปแล้ว "หลีก หลีกไป! พวกเราหยุดไม่ได้!"ถ้าทั้งสองฝ่ายควบม้ามาชนกัน ต้องมีคนตายแน่การปะทะเช่นนี้ ถ้าล้มจากม้า จะต้องถูกเหยียบตายแหง"จับให้แน่น!" องครักษ์สองมือยกขึ้น เข็มก็พุ่งสาดออกไปราวห่าฝน แทงไปบนตัวม้าองครักษ์สองคนด้านหลังก็ไม่ลดความเร็ว พุ่งเข้าไปหาต่อ ควบม้าเอียงตัวหลบ จากนั้นยื่นมือไปคว้าอีกฝ่ายดึงขึ้นมาบนหลังม้าของตนเอง ยกเท้าเตะหัวม้า ให้ม้าเบนออกไปข้างทางส่วนม้าที่ลากรถม้าด้านหลังก็ถูกแทงไปหลายเข็ม ชั่วเวลาครู่เดียว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1680

    เพราะเมื่อคืนนี้ฝนตกทั้งคืน ตอนเช้าในช่วงเส้นทางนี้ ความเร็วขบวนรถจึงเน้นไปที่ความเสถียรเป็นหลักฟู่จาวหนิงเดิมทีคิดว่าจากเมืองหลวงไปเมืองเจ้อน่าจะสามสี่วันก็ไปถึง แต่ต่อมาพอถามฟู่จิ้นเชินกับอันเหนียน จึงรู้ว่าที่เซียวหลันยวนบอกว่าสามสี่วันไปถึง นั่นคือความเร็วของการขี่ม้าคนเดียวแต่แบบพวกเขาที่ขนสัมภาระมากมายเช่นนี้ กลางคืนยังต้องเข้าพัก หยุดพักเพื่อกินข้าวสามมือ ก็ต้องใช้เวลาประมาณหกวัน บวกกับเรื่องฝนหรืออย่างอื่น ความเร็วก็จะยิ่งช้าลง อาจจะไปถึงเจ็ดแปดวันดังนั้นนางจึงส่งองครักษ์สองคนขี่ม้านำไปสำรวจทางข้างหน้าก่อนแล้ว ถึงแม้จะไม่ถึงในสามสี่วัน แต่ก็หวังว่าจะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกและเพราะไปได้ช้า จึงถูกคนอื่นตามขึ้นมาแล้วรถม้าของอันเหนียนอยู่หน้าขบวน ฟู่จาวหนิงนั่งอยู่รถม้าคันกลาง เดิมทียังมีรถม้าของฟู่จิ้นเชินตามอยู่ด้านหลังอีก แต่เพราะระหว่างทางพวกเขาต้องรีบเรียนรู้ ดังนั้นฟู่จิ้นเชินจึงอยู่บนรถม้าฟู่จาวหนิงเป็นส่วนใหญ่ด้านหลังมีรถสัมภาระอีกหลายคัน ด้านหลังก็เป็นองครักษ์จวนอ๋องคุมท้ายเพราะล้วนเป็นคนที่ฝึกยุทธ์มา พวกเขาอยู่ท้ายขบวนจึงได้ยินการเคลื่อนไหวด้านหลัง ว่ามีคนไ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status